รักฉันซะ นี่คือคำเตือน!!!

“ไม่หรอกค่ะ ดูสิคะมีคนมาช่วยปลุกตั้งหลายคน เฟย์ว่าเรามาเล่นเกมส์กันก่อนดีกว่า ดีมั้ยทุกคน” เฟย์หันมาขอเสียงสนับสนุนจากเพื่อนอีกสามคนที่กำลังจัดที่นอนกันอยู่

“ฉันว่าก็ดีนะ ฉันก็ยังไม่ง่วงเหมือนกัน จีนกับจินว่าไง” แก้วหันมาถามสองพี่น้อง

“ยังไงก็ได้ แล้วแต่พี่จีน” จินนี่ตอบ

“ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะฟาง จะได้คลายเครียดไปด้วย รู้สึกว่าพรุ่งนี้ยัยแก้วจะมีเรื่องเครียดเยอะ” ขนมจีนพูดยิ้มๆ พร้อมกับหันไปมองแก้วที่ตอนนี้หน้าเริ่มมุ่ยอีกแล้ว

“นั่นสิเนอะ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ก็แล้วกัน เนอะแก้วเนอะ” ฟางหันไปถามแก้ว พร้อมกับยิ้มอย่างขำๆ

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เป็นเพราะใครล่ะที่บังคับให้ฉันเป็นน่ะ”

“ว่าแต่เราจะเล่นเกมส์อะไรกันเหรอ” จินนี่เอ่ยถามขึ้น

“เฟย์คิดไว้แล้วล่ะ” เฟย์พูด “เกมส์ ‘คายความลับ’ เป็นไง”

“คายความลับเหรอ” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน

“เล่นยังไงอ่ะเฟย์” จินนี่ถามเพื่อนอย่างสงสัย

“ก็ไม่เห็นจะยาก เดี๋ยวเราห้าคนนะก็ไปนั่งกันเป็นวงกลม แล้วก็ตั้งขวดน้ำขวดนี้ไว้ตรงกลาง แล้วก็หมุนๆๆ ขวดหันไปชี้ใคร สี่คนที่เหลือจะสามารถถามคำถามได้คนล่ะหนึ่งข้อ แล้วคนๆนั้นจะต้องตอบตามความเป็นจริงด้วย ตกลงมั้ย” เฟย์อธิบายให้เพื่อนและพี่สาวฟัง

“น่าสนุกดีหนิ งั้นเราเล่นกันเลยมั้ยล่ะ” ขนมจีนพูดขึ้น สาวๆทั้งหมดจึงไปนั่งรวมกันที่พื้นเป็นวงกลม

“เริ่มล่ะนะ” เฟย์พูด พร้อมกับเริ่มหมุนขวด

“ว้า! ทำไมต้องมาหยุดที่ฉันเป็นคนแรกด้วยนะเนี่ย” จินนี่พูดอย่างขำๆ เมื่อขวดหยุดหมุนแล้วตรงกับเธอ “มีอะไรจะถามก็ถามเลย จินนี่คนนี้พร้อมตอบเสมอ”

“อืม อะไรดีล่ะ เอางี้ จินนี่ฉันอยากรู้ว่าเธอเคยมีแฟนรึเปล่า” แก้วถามขึ้นเป็นคนแรก

“ไม่มีหรอก ไม่เคยมีแล้วก็ไม่คิดจะมีด้วย ไม่เชื่อถามพี่จีนดูก็ได้” จินนี่ตอบตามตรง เพราะเธอไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องแปลกตรงไหนที่ผู้หญิงอย่างเธอจะไม่มีแฟน เพราะเธอถือคติที่ว่าไม่มีแฟนก็คงไม่ตาย

“แล้วสเปกเธอเป็นแบบไหนล่ะ” เฟย์ถามขึ้นเป็นคนที่สอง

“ฉันน่ะเหรอ ฉันเป็นคนไม่มีสเปกหรอก แต่คิดว่าน่าจะชอบคนเอาใจเก่ง แล้วก็จริงใจกับเรามั้ง”

“แล้วทำไมจินถึงไม่อยากมีแฟนล่ะ” ฟางถามบ้าง

“ไม่รู้สิ ฉันคงกลัวความรักมั้ง กลัวว่ารักแล้วจะผิดหวัง รักแล้วจะเจ็บปวด ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันจะทนได้ยังไงถ้าเกิดความรักมันทำฉันเจ็บปวดขึ้นมา”

“แต่ความรักมันก็ไม่ได้มีแต่ความเจ็บปวดเสมอไปนะจิน ถ้าเธอคิดอย่างนี้แล้วเธอจะมีความรักได้ยังไง” เฟย์พูดอย่างไม่เข้าใจ

“ไม่รู้เหมือนกัน บางทีฉันอาจจะไม่มีความรักตลอดไปเลยก็เป็นได้”

“งั้นพี่ขอถามคำถามสุดท้ายนะ ตอนนี้จินกับเคนตะน่ะเป็นอะไรกัน” คำถามของขนมจีนทำเอาจินนี่ถึงกับอึ้ง

“เอ่อก็ ไม่มีอะไรนี่คะ ก็แค่เพื่อนผู้ชายคนนึงที่จินสนิทด้วยแค่นั้นเอง” จินนี่ตอบแต่ก็ไม่ยอมสบตาใครเลย

“เหรอออออออ” สามสาวทั้งฟาง เฟย์ และแก้วร้องออกมาพร้อมกัน

“อืม ใช่ เคนตะเขาก็เป็นคนดีคนนึงนะ น่ารักดี” จินนี่บอกตามตรง กับผู้ชายคนอื่นเธอไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้ แต่กับเคนตะเธอรู้สึกเหมือนว่าอยู่ใกล้แล้วอบอุ่น มีความสุข และปลอดภัยอย่างประหลาด

“ใช่ พี่ว่าเคนตะเขาก็เป็นคนดี สามารถดูแลจินได้สบายเลยล่ะ ถ้าเกิดจินจะพิจารณาเขาให้เป็นคนที่มาอยู่ข้างๆจินนอกจากพี่ พี่ก็เห็นด้วยนะ” ขนมจีนพูดขึ้น

“แต่ว่าจิน...”

“เชื่อพี่เถอะ ความรักมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอก ถ้าเกิดจินไม่ลองสัมผัสมันดูแล้วจะรู้ได้ไงล่ะจริงมั้ย” ขนมจีนถาม เมื่อเห็นน้องสาวพยักหน้าจึงพูดต่อว่า “ลองเปิดใจให้กว้างๆหน่อยนะจิน แล้วสักวันจินจะต้องเจอคนที่จินรักและเขาก็รักจินแน่นอน”

“ค่ะพี่จีน จินจะพยายาม” จินนี่ตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ทุกคนที่อยู่รอบวง

“เอาล่ะ ฉันว่าเรามาเล่นเกมส์กันต่อดีกว่า” เฟย์พูดขึ้นพร้อมกับหมุนขวด

“อ้าว ทำไมเป็นฉันเองล่ะเนี่ย” เฟย์พูดอย่างเซ็งๆเมื่อพบว่าขวดชี้มาที่เธอ

“อืม ฉันอยากรู้ว่า อะไรที่เฟย์ทำแล้วมีความสุขที่สุด” ขนมจีนถามขึ้นเป็นคนแรก

“อะไรที่ทำแล้วมีความสุขที่สุดเหรอ อืม...” เฟย์ทวนคำถามพร้อมกับทำท่าคิด “ก็... กินขนมกองมหึมาสองคนกับพี่ฟางไง” เฟย์ตอบยิ้มๆ พร้อมกับเอาหัวไปซบที่ไหล่พี่สาวอย่างอ้อนๆ

“ลูกแหง่” เพื่อนสาวที่เหลือทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกัน

“อะไรกันเล่า ฉันไม่ใช่ลูกแหง่สักหน่อย ฉันแค่ติดพี่สาวมากกกกกกกกก เท่านั้นเอง” เฟย์แก้ตัว ทำเอาเพื่อนๆทุกคนรวมทั้งพี่สาวถึงกับอมยิ้ม

“งั้น ฉันอยากรู้ว่าสเปกของเฟย์เป็นแบบไหนเหรอ” จินนี่ถามขึ้นเป็นคนที่สอง

“ก็ คงจะเป็นคนตัวสูงๆ ขาวหน่อยก็ดี ยิ้มเก่ง สนุกสนานเฮฮา ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดเวลา อะไรประมาณนี้แหละมั้ง” เฟย์ตอบ

“แล้ว... จะต้องหน้าเหมือนกบด้วยรึเปล่าอ่ะเฟย์” จินนี่ถามอย่างขำๆ

“บ้าเหรอจิน ไม่ใช่สักหน่อย >///<”

“ฉันถามบ้าง นายเขื่อนจีบเธอรึเปล่าอ่ะเฟย์” แก้วถามขึ้น

“เปล๊า!!!” เฟย์ปฏิเสธทันที

“ฮั่นแน เกมส์นี้น่ะต้องตอบตามความเป็นจริงนะจ๊ะ เธอเป็นคนตั้งกฎเอง อย่าลืมๆ” ขนมจีนพูด

“ว่าไงล่ะเฟย์ ตอบใหม่ซิ” จินนี่พูดขึ้นอีกคน