รักฉันซะ นี่คือคำเตือน!!!
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.24 น.
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 13.49 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18) Morning & Get up
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ขี้เซาจริงๆเลย ยัยตัวแสบเอ้ย” ป๊อปปี้พูดขึ้นเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นแล้วเห็นร่างเล็กข้างๆยังหลับอยู่
“อืมม” ฟางเริ่มขยับตัว เป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะตื่น ชายหนุ่มรีบหลับตาลงทันที ฟางที่ลืมตาขึ้นแล้วบิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยแต่ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าตัวเองยังอยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนตัวโต นี่นายนี่นอนกอดเธอทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย ฟางหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่แกล้งหลับแล้วอมยิ้ม นายนี่เวลาไม่พูดมากแล้วก็น่ารักเหมือนกันนะ
“ไอ้หมีขี้เซา นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้” ฟางย่นหน้าใส่อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นมือไปจิ้มแก้มของชายหนุ่มเบาๆ แก้มนุ่มเหมือนกันแหะ ยังกะแก้มเด็กแน่ะ
“นี่ๆ หลอกแต๊ะอั่งฉันเหรอไง” ป๊อปปี้ลืมตาขึ้นแล้วยิ้มยั่ว ฟางถึงกับผงะ ชักมือกลับทันที
“บ้าเหรอ นายนั่นแหละแต๊ะอั่งฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฟางโวยพร้อมกับตีมือชายหนุ่มแก้เขิน
“โอ้ย! ฉันเจ็บนะ คนอะไรใจร้าย เขาอุตส่าห์เสียสละแขนให้เป็นหมอนแล้วยังจะมาตีเขาอีก ทำคุณบุชาโทษจริงๆเลย” ชายหนุ่มบ่นอุบแต่ก็ยังไม่คลายอ้อมแขนออก
“ก็ใครใช้ให้นายเสียสละเล่า ยังไม่ปล่อยอีก ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะร้องให้ป่าแตกเลยคอยดูดิ” ฟางขู่ แต่ป๊อปปี้ยิ้มอย่างไม่กลัว หญิงสาวอ้าปากจะร้องทันทีแต่โดนชายหนุ่มปิดปากไว้ซะก่อน
“จะร้องจริงเหรอเนี่ย เกรงใจสัตว์ป่าบ้างดิ เดี๋ยวพวกสัตว์มันได้ยินเสียงเธอร้องก็ตายหมดป่าหรอก” ชายหนุ่มว่า หญิงสาวอ้าปากงับมือของอีกฝ่ายที่ปิดปากเธอไว้ทันที เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง
“โอ้ย! นี่ขนาดปิดปากไว้แล้วยังจะกัดได้อีกนะ แบบนี้คงต้องเอาอย่างอื่นปิดแทนแล้วละมั้ง” ป๊อปปี้มองหน้าหญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแกล้งเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ฟางหลับตาปี๋ก่อนจะรีบเอามือยันหน้าเขาไว้ทันที
“ออกไปเลยนะ จะทำอะไรน่ะ”
“อ้าว ก็เธอจะร้องโวยวายอ่ะ ฉันกลัวสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆนี่จะตายเพราะเสียงของเธอก็เลยกะว่าจะปิดปากเธอด้วย...ปากซะหน่อย” ป๊อปปี้เลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนๆ ฟางย่นหน้าใส่
“ไม่ต้อง ออกไปเลยนะ ฉันไม่ร้องแล้ว” ฟางทำหน้ามุ่ย ป๊อปปี้หัวเราะชอบใจก่อนจะปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ
จุ๊บ
ป๊อปปี้เลื่อนใบหน้าคมลงไปสัมผัสริมฝีปากบางของหญิงสาวเบาๆอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออก
“Morning Kiss ครับ” ชายหนุ่มว่าก่อนจะมุดหนีออกไปนอกเต้นท์ ฟางนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ เอื้อมมือมาจับปากตัวเองที่ถูกขโมยจูบไปเมื่อกี้เบาๆ
“ไอ้บ้านั่น...” หญิงสาวหน้าแดงซ่าน ใจเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“นั่นมันจูบแรกของฉันเลยนะ ไอ้หมีขี้เก๊ก” หญิงสาวพึมพำเบาๆ เอื้อมมือมาลูบปากแล้วยิ้มกับตัวเองอย่างเขินๆ ก่อนจะรีบตามชายหนุ่มออกไป
“มาให้ฉันเตะก่อนเลยนะไอ้หมีบ้า!”
****************************************************************************************************
“อืมมมมมมม” แก้วลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับบิดตัวคลายความเมื่อยล้าจากการนอนท่าเดียวมาทั้งคืน เมื่อคืนเธอและโทโมะคงจะนั่งพิงต้นไม้แล้วหลับไปด้วยกันทั้งคู่แน่ๆ เลยเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้
“นายนั่น... หายไปไหนของเขานะ” หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆเมื่อหันไปมองข้างๆแล้วพบแต่ความว่างเปล่า สงสัยเขาจะตื่นก่อนเธอแล้วลุกออกไปก่อนแน่ๆ หนอย ไม่ยอมปลุกกันบ้างเลยนะ
“โทโมะ นายอยู่ไหนน่ะ โทโมะ” แก้วลองเดินสำรวจรอบๆพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่ม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะโผล่มาเลย จนหญิงสาวเริ่มใจเสีย
“นายนั่นคงจะไม่ได้ทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวหรอกนะ” หญิงสาวหน้าเสีย พยายามตะโกนเรียกชายหนุ่มอีกรอบแต่ก็ยังเหมือนเดิม จนเธอต้องกลับมานั่งที่เดิมเพราะกลัวจะหลง
“โทโมะ... นายอยู่ไหนน่ะ ออกมาเถอะ ฉันไม่เล่นแบบนี้นะ.... โทโมะ” แก้วพึมพำเสียงสั่น ความกลัวเริ่มแล่นเข้ามาจับจิต ถ้าเกิดนายนั่นทิ้งเธอไปจริงๆ เธอจะทำยังไงล่ะ เธอต้องตายอยู่ที่นี่แน่ๆ แค่คิดน้ำตามันก็ไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ จนต้องฟุบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น
“มาแล้วๆ แก้ว!!!” โทโมะเดินเข้ามาอย่างเริงร่า แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแก้วนั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ใต้ต้นไม้
“เป็นอะไรไปน่ะ แก้ว!! ตอบฉันสิ แก้ว!!!” ชายหนุ่มรีบเข้าไปถามอย่างร้อนรน ตลอดเวลาที่เขารู้จักเธอมา เขาไม่เคยเห็นน้ำตาของผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่พอมาหลงป่าด้วยกัน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่เขาเห็นเธอร้องไห้
“โทโมะ... นายหายไปไหนมา” แก้วเงยหน้าขึ้นมาถามทั้งน้ำตา
“ก็ไปหาอาหารมาให้เธอน่ะสิ” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับชูปลาที่เขาไปตกได้มาให้หญิงสาวดู “เธอนั่นแหละเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนรึเปล่า” ชายหนุ่มพูดพลางยกแขนยกขาของหญิงสาวขึ้นดูอย่างเป็นห่วง
“เปล่า... ไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวรีบปาดน้ำตาออกจากหน้า รู้สึกอายขึ้นมาตงิดๆที่ต้องมานั่งร้องไห้ให้เขาดู ทำไมเธอต้องอ่อนแอให้ผู้ชายคนนี้เห็นด้วยนะ
“อย่ามาโกหกหน่อยเลยนา บอกมาซิว่าเธอร้องไห้ทำไม” โทโมะมองหน้าหญิงสาวอย่างคาดคั้น
“ฉันก็แค่....”
“แค่?”
“คิดว่านายจะทิ้งฉันไว้ที่นี่อ่ะ” แก้วพึมพำไม่ยอมมองหน้าชายหนุ่ม โทโมะถึงกับยิ้มขำ
“ยัยเบื้อกเอ้ย! ใครจะไปทิ้งเธอล่ะ ขืนปล่อยเธอไว้ที่นี่นะ มีหวังได้นอนตายกลางป่ากันพอดี” โทโมะพูดเสียงเย้า แก้วเงยหน้าขึ้นขวับทันที ก่อนจะหยิกเข้าที่แขนของชายหนุ่มเต็มแรง
“เออใช่! ฉันมันไม่ได้เก่งรอบด้านเหมือนนายหนิ” หญิงสาวพูดอย่างน้อยใจ อีตานี่ทำไมถึงได้ดูถูกเธอนักนะ
“เฮ้! นี่เธองอนฉันเหรอแก้ว”
“บ้าเหรอ งอนน่ะเขาใช้สำหรับคนที่เป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้น่ะฉันโกรธย่ะ ไม่ได้งอน”
“เหรออออออ”
“นี่! อย่ามากวนฉันนะไอ้ตุ๊ด” แก้วเริ่มขึ้นเสียงใส่ แต่โทโมะก็ยังยิ้มยั่ว
“อืมมม... คำว่าไอ้ตุ๊ดนี่คุ้นๆเนอะเธอว่ามั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเจ้าเล่ห์
“อะไรของนาย” แก้วมองอย่างไม่ไว้ใจ
“ก็ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าเธอเรียกฉันว่าไอ้ตุ๊ดอีก.... ฉันจะจูบเธอ” โทโมะพูดพร้อมกับแกล้งเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ แก้วถึงกับเหวอ ถอยหลังหนีแทบไม่ทัน
“นะ นายจะทำอะไรน่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” หญิงสาวตวาดใส่เสียงสั่น เขยิบถอยหลังไปเรื่อยๆจนแผ่นหลังสัมผัสได้ถึงความแข็งของต้นไม้ใหญ่ด้านหลังจึงรู้ว่าตัวเองถูกชายหนุ่มต้อนจนจนมุมแล้ว
“ไม่ออก” โทโมะยกยิ้มขึ้นอย่างกวนๆ ก่อนจะแกล้งเลื่อนหน้ามาใกล้อีก
“ไอ้บ้าาา อย่าทำอะไรฉันนะ” หญิงสาวหลับตาปี๋ โทโมะถึงกับหลุดหัวเราะออกมาดังลั่นที่แก้วทำท่ากลัวเขาขนาดนั้น
“ไอ้บ้าโทโมะ นี่นายแกล้งฉันเหรอ นี่แน่ะ” แก้วลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะ เห็นชายหนุ่มนั่งตัวงอกุมท้องด้วยความขำอยู่ก็หยิบก้อนหินขว้างใส่ทันที
“โอ้ย! แก้ว ฉันเจ็บนะ นี่มันก้อนหินนะขว้างมาได้ไง เดี๋ยวก็หัวแตกกันพอดี” โทโมะโวยวาย
“แตกก็ดีสิ จะได้เอาเลือดหัวนายออก นี่นายมาแกล้งฉันทำไมเนี่ย”
“อ้าว ก็เธอมันน่าแกล้งนี่นา” โทโมะตอบหน้าตาย เลยโดนแก้วขว้างก้อนหินใส่อีกตอบ
“โอ้ยๆ ขอโทษก็ได้ เลิกขว้างฉันได้แล้ว เดี๋ยวไม่ให้กินข้าวเช้าเลยคอยดู” โทโมะแกล้งขู่ แก้วชะงัก ก่อนจะเบ้หน้าใส่อย่างหมั่นไส้ ที่อะไรๆก็โดนขู่ตลอด
“นี่นายไปหาปลาพวกนี้มาจากไหนน่ะ” แก้วถามขณะนั่งดูชายหนุ่มนำปลาไปย่างที่กองไฟ
“ก็เอามาจากในน้ำน่ะสิ” ชายหนุ่มตอบกวนๆ แก้วจึงคว้าก้อนหินขึ้นมาอีกรอบ “เฮ้ย! ล้อเล่นๆ ก็มันมีน้ำตกอยู่ใกล้ๆเนี่ย ฉันก็เลยไปจับมันมา”
“แถวนี้มีน้ำตกด้วยเหรอ” แก้วถามอย่างแปลกใจ
“อ้าว ก็ฉันพึ่งบอกไปเมื่อตะกี้ว่าไปหาปลามาจากน้ำตก ยังจะมาถามอีก”
“เอ๊ะ! นายนี่ ฉันถาม นายก็แค่บอกว่ามี ไม่เห็นต้องมากวนกันเลย” แก้วว่า
“ฉันว่านะ ต้องมีคนเคยมาเที่ยวในป่านี้แน่เลย” โทโมะพูด
“ในป่าเนี่ยนะ”
“ใช่ ก็ที่น้ำตกน่ะ ฉันเห็นมีรอยกองไฟอยู่ด้วย ถ้าไม่เคยมีคนมาแล้วรอยนั่นจะมาจากไหน หรือเธอคิดว่าจะมีช้างมานั่งก่อกองไฟแก้หนาวล่ะ”
“บ้า! ช้างที่ไหนก่อกองไฟได้กันเล่า” หญิงสาวค้อนใส่ “งั้นเดี๋ยวเราไปที่น้ำตกกันนะ”
“ไปทำไมอ่ะ หรือว่าเธอจะไปอาบน้ำ”
“ก็ดีนะ เฮ้ย! ไม่ใช่ ฉันจะไปดู เผื่อเราจะมีทางออกไปจากที่นี่ได้ไง”
“โอเค แต่รองท้องก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวจะไม่มีแรงเดิน” ชายหนุ่มยื่นปลาที่ย่างสุกแล้วให้
“ขอบใจนะ” หญิงสาวรีบรับมันมาแล้วพูด ก่อนจะมองอีกฝ่ายที่นั่งกินอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ปลาในมืออีกตานั่นทำไมตัวเล็กจัง จะกินอิ่มเหรอนั่นน่ะ หญิงสาวคิดแล้วก้มลงมองปลาในมือตัวเอง ถึงมันจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่ยังไงก็ใหญ่กว่าของนายนั่นอยู่ดีนั่นแหละ
“นี่ โทโมะ”
“หืม...” โทโมะเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก
“มากินด้วยกันสิ” หญิงสาวเอ่ยชวนพร้อมกับยื่นปลาให้ โทโมะมองแล้วยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก เธอกินไปเหอะ”
“เถอะนา ฉันกินนิดเดียวเอง แล้วปลานี่ก็ตัวใหญ่จะตาย ฉันกินไม่หมดหรอก มาช่วยกินหน่อยสิ”
“อ่ะโอเค ก็ได้” โทโมะยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งกินปลาย่างด้วยกัน ความสุขเริ่มงอกงามขึ้นเรื่อยๆในใจของคนทั้งสอง
.
.
.
.
.
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ