รักฉันซะ นี่คือคำเตือน!!!
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.24 น.
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 13.49 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
16) ความอบอุ่นในหัวใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“หนาวเหรอ?” โทโมะเอ่ยถามคนตัวเล็กที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ
“ก็...นิดหน่อยน่ะ ฉันทนไหว” หญิงสาวตอบพลางยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างฝืนๆ ข้างหน้าของเธอตอนนี้มีกองไฟกองเล็กๆที่ถูกจุดขึ้นโดยร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่มันก็ไม่พอบรรเทาความหนาวเย็นของอากาศในป่าได้เท่าไหร่นัก ที่สำคัญสิ่งที่เธอใส่อยู่ก็เป็นแค่เสื้อยืดตัวบางกับกางเกงขาสั้นเท่านั้นเอง
“อ๊ะ” หญิงสาวร้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆคนตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถอดเสื้อตัวนอกที่ใส่อยู่มาคลุมให้เธอ
“ใส่ไว้ซะสิ มันคงจะพอช่วยได้บ้าง” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบไม่ยอมสบตา
“อืม ขอบใจนะ” หญิงสาวพูดพลางขยับเสื้อให้แน่นขึ้น ไออุ่นจากตัวของโทโมะที่ยังติดอยู่ในเสื้อช่วยให้หญิงสาวอุ่นขึ้นได้มาก
“แล้วนายไม่หนาวบ้างเหรอ” แก้วหันมาถามโทโมะที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวบางๆใส่อยู่เท่านั้น
“ไม่เป็นไรหรอกนา ฉันทนได้ ยังไงฉันก็เป็นผู้ชายนะ” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ พร้อมกับเอามือถูกันไปมาเพื่อบรรเทาความหนาวให้ตัวเอง
“พรึบ” โทโมะถึงกับชะงักเมื่อเสื้อที่เขาพึ่งถอดไปคลุมให้หญิงสาว บัดนี้กลับมาอยู่บนตัวเขาอีกครั้งหนึ่ง
“แบ่งกันสิ ถึงนายจะเป็นผู้ชาย แข็งแรงกว่า แต่นายก็เป็นคนเหมือนฉัน อย่าอวดเก่งให้มันมากนักเลยนา” หญิงสาวพูดเสียงอู้อี้ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา ทำเอาชายหนุ่มถึงกับอมยิ้ม ยัยนี่ก็น่ารักเป็นเหมือนกันแหะ
“ขอบใจนะ ที่เธอไม่ปล่อยให้ฉันหนายตายน่ะ” โทโมะพูดพลางขยับเข้าไปใกล้แก้วมากขึ้น เพราะขนาดของเสื้อที่มีจำกัดทำให้ร่างสองร่างต้องเบียดกันอยู่ใต้เสื้อตัวเดียว แม้ร่างกายจะหนาวแค่ไหน แต่หัวใจของทั้งสองกลับอบอุ่นขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
****************************************************************************************
“คืนนี้เราคงค้างคืนกันที่นี่นะครับ การเดินป่าในตอนกลางคืนเป็นสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมาก เราไม่อยากเสี่ยงกับความปลอดภัยของพวกคุณ” เจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าพูดขึ้น
“ขอบคุณครับ” ป๊อปปี้เอ่ยขอบคุณ ก่อนที่กองไฟจะถูกจุดขึ้นมาโดยฝีมือของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง หลังจากทั้งหมดกินอาหารเสร็จก็มานั่งรวมกลุ่มกันที่หน้ากองไฟ
“พวกคุณคิดว่าเมื่อไหร่เราจะได้เจอเพื่อนของเราล่ะครับ” ป๊อปปี้เอ่ยถามขึ้น
“คิดว่าไม่น่าจะเกินสองวันครับ แต่ถ้าเกินกว่านั้นเราคงต้องเรียกกำลังเจ้าหน้าที่มาเพิ่ม”
“ทำไมล่ะครับ หรือว่าที่นี่นอกจากจะมีอันตรายจากสัตว์ป่าแล้วยังมีอันตรายอย่างอื่นอีก” ป๊อปปี้ถามอย่างสงสัย
“แถวนี้สัตว์ป่าที่เป็นอันตรายไม่ค่อยจะมีหรอกครับไม่ต้องเป็นห่วง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คืออันตรายจากคนต่างหาก”
“อันตรายจากคน หมายความว่าไงคะ???” ฟางถามขึ้นบ้าง
“สายของเราเคยรายงานมาว่า ป่าแถบนี้มีพวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอยู่ ที่สำคัญก็ยังมีพวกที่ลักลอบขนยาเสพติดอยู่ด้วยน่ะครับ ถ้าเกิดว่าเพื่อนของคุณเกิดเข้าไปในป่าลึกแล้วไปเจอกับพวกมันเข้า ผมกลัวว่ามันจะเป็นอันตราย”
“ถ้าอย่างนั้นก็แย่สิคะ ฉันว่าเรารีบไปตามหาพวกนั้นกันดีกว่า จะพักให้เสียเวลาทำไม” ฟางพูดพลางผุดลุกขึ้นทันที แต่โดนป๊อปปี้จับไว้ซะก่อน
“ใจเย็นนา เธอก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอว่าการเดินป่าตอนกลางคืนน่ะมันอันตรายแค่ไหน” ป๊อปปี้ปราม
“แต่เราจะมัวนอนพักอย่างสบายใจโดยที่ไม่รู้ว่าสองคนนั่นจะเป็นตายร้ายดียังไงน่ะเหรอ”
“แล้วเธอคิดว่าเธอเดินออกไปตอนนี้แล้วมันจะช่วยอะไรได้เหรอหะ! ถ้าเธอหลงป่าไปอีกคนขึ้นมาจะทำยังไง คิดบ้างสิ!” ชายหนุ่มเผลอขึ้นเสียงใส่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มจะไม่เชื่อฟังในสิ่งที่เขาพูด
“เชอะ! บอกกันดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงใส่เลย อะไรก็เอาแต่สั่งๆๆๆ คนเอาแต่ใจ” ฟางหน้ามุ่ย ก่อนจะนั่งลงข้างๆชายหนุ่มอย่างงอนๆ
“เธอนั่นแหละที่เอาแต่ใจ สัญญาอะไรไว้ลืมแล้วเหรอ” ป๊อปปี้เอ่ยท้วง ฟางนิ่ง ไม่พูด ไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น ได้แต่นั่งหน้าบึ้งหน้างออยู่คนเดียวไม่สนใจชายหนุ่มอีกเลย
“เอาล่ะครับ นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมว่าคุณสองคนแยกย้ายกันไปนอนดีกว่า เดี๋ยวพวกผมจะเป็นคนเฝ้ายามเอง” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเอ่ยบอก
“โอเคครับ ขอบคุณมาก” ป๊อปปี้เอ่ยบอก ก่อนจะเดินนำไปยังเต้นท์โดยไม่ลืมลากฟางมาด้วย
“ป๊อปปี้ เดี๋ยว” ฟางยื้อแขนชายหนุ่มไว้
“อะไร?” ชายหนุ่มหันมาถามเสียงเนือย วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เพราะออกเดินทางมาที่นี่ตั้งแต่ตอนเช้า จากนั้นก็มาเดินป่า แล้วยังต้องวุ่นวายกับยัยตัวเล็กข้างๆตัวนี่อีก ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดก็คือการพักผ่อน เพื่อเตรียมที่จะออกเดินทางตามหาเพื่อนทั้งสองในวันพรุ่งนี้เช้า
“จะให้ฉัน... นอนกับนายเหรอ?” ฟางเอ่ยถามพร้อมกับชี้มือไปยังเต้นท์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า ป๊อปปี้ชะงัก
“แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนไม่ทราบ” ชายหนุ่มแกล้งถามน้ำเสียงยียวน “เต้นท์เธอก็ไม่ได้เอามา หรือว่าจะไปนอนกับพวกเจ้าหน้าที่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกให้”
“ไอ้บ้า! ไอ้หมีบ้า!” ฟางว่า แต่ป๊อปปี้ยักไหล่ไม่แคร์ก่อนจะมุดเข้าไปในเต้นท์ เล่นเอาฟางถึงกับเหวอ นี่ตกลงเธอต้องนอนกับนายนี่จริงๆเหรอเนี่ย
“เธอจะนอนเล่นกับยุงอยู่ข้างนอกนั่นก็ได้นะ ฉันไม่ถือ” ป๊อปปี้ไม่วายส่งเสียงแหย่ออกมาให้หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าเต้นท์เจ็บใจเล่น ฟางรีบมุดเข้าไปในเต้นท์ พร้อมกับดึงแขนชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างในอย่างสบายใจให้ลุกขึ้น
“อะไรของเธออีกเนี่ย คนจะหลับจะนอน” ป๊อปปี้โวยวาย แต่ฟางหน้าบึ้ง
“นี่นาย! มีความเป็นสุภาพบุรุษบ้างรึเปล่าเนี่ย”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ฉันจะนอนด้วยเล่า!” ป๊อปปี้พูดก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ฟางรีบดึงแขนอีกฝ่ายไว้
“แล้วนายจะให้ฉันนอนยังไง ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะให้ฉันนอนกับนายได้ยังไง”
“ก็นอนแบบเนี่ย มันจะยากตรงไหน” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มยังดึงมือหญิงสาวที่จับแขนเขาไว้ดึงเข้ามาประชิดตัวจนหญิงสาวลงไปนอนเอ้งเม้งอยู่ข้างๆเขา แล้วจัดการกอดหญิงสาวไว้จากด้านหลังเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายลุกขึ้นได้
“นายจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” ฟางโวยวายพร้อมกับพยายามจะแกะมือชายหนุ่มที่กอดเธอไว้ออก
“นอนเหอะนา มันดึกแล้วนะ”
“นายจะนอนก็นอนสิ มากอดฉันไว้ทำไม ปล่อย” ฟางยังคงดิ้นพร้อมกับร้องโวยวายไม่หยุดจนชายหนุ่มต้องเอื้อมมือมาปิดปากหญิงสาวไว้ เสียงโวยวายจึงเหลือเพียงแค่เสียงอู้อี้ในลำคอ
“อื้ออ อ่อยอั้นเอี๋ยวอี้อ๊ะ” (ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ) ฟางดิ้นโวยวายทั้งๆที่ปากยังโดนปิดไว้ ป๊อปปี้มองอย่างรำคาญ ก่อนจะกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม ทำเอาฟางถึงกับชะงัก
“นอนเถอะนะ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก วันนี้ทั้งเธอทั้งฉันก็เหนื่อยมามากแล้ว อย่ามานอนเถียงกันให้เปลืองพลังงานหน่อยเลย” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแผ่ว ฟางนิ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงตกลง
“เธอจะไม่โวยวายแล้วแน่นะ” ป๊อปปี้ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้าจึงปล่อยปากเธอให้เป็นอิสระ
“นาย...”
“ถ้าเธอพูดมากอีก ฉันจูบเธอแน่” ป๊อปปี้ส่งเสียงแทรกขึ้นมาทันที ฟางถึงกับหน้ามุ่ย
“ไม่ได้จะโวยวาย ฉันแค่จะบอกให้นายปล่อยฉันได้แล้ว หายใจไม่ออก” ฟางว่า ชายหนุ่มแอบอมยิ้มก่อนจะคลายอ้อมกอดให้หลวมขึ้นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ
“นี่นาย!” ฟางขึ้นเสียงใส่อย่างไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเธอ แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมีเพียงแค่เสียงลมหายใจเข้าออกของร่างสูงที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอแค่นั้น จนฟางต้องพลิกตัวหันไปมอง และเห็นว่าคนตัวโตหลับเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
“คนบ้า! กอดเค้าไว้แบบนี้แล้วจะนอนได้ไงกันเล่า” ฟางบ่นเมื่อพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกแต่ไม่ได้ผล มันติดหนึบยิ่งกว่ากาวตราช้างซะอีก เพียงไม่นานความเหนื่อยและความอ่อนเพลียจากการเดินป่ามาทั้งวันก็ทำให้หญิงสาวม่อยหลับไปในที่สุด
“กว่าจะหลับได้นะยัยตัวแสบ” ป๊อปปี้ที่แกล้งหลับลืมตาขึ้นมองแล้วอมยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวหลับไปแล้วจริงๆ ก่อนจะขยับตัวให้หญิงสาวได้นอนสบายๆ โดยให้หญิงสาวหนุนแขนของเขาแทนหมอน แล้วนอนกอดหญิงสาวจนหลับไปอีกคน
.
.
.
.
.
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ