สัญญารักลวง...

10.0

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.08 น.

  36 ตอน
  12 วิจารณ์
  76.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

26)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
นิยายเรื่อง สัญญารักลวง
 
ตอนที่26 เจ้าสาว
 
 
 
 
 
 
                          แสงแดดจัดของเช้าวันใหม่ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมกระทบเปลือกตาของหญิงสาวที่ซุกตัว
 
 
นอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ดวงตากลมโตหลับทั้งๆที่ยังขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าสวยหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาด
 
 
น้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งไป มันบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอเพิ่งได้เข้าสู่ห้วงนิทราเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา....
 
 
เปลือกตาขยับน้อยๆ ก่อนร่างบอบบางจะพลิกตัวเข้าหาแผ่นหลังแกร่งของสามี เธอจ้องมองแผ่นหลังเปล่าเปลือยที่
 
 
เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจ หลังจากที่เธอได้นอนไปไม่ถึงสองชั่วโมง เขาก็ปลุก
 
 
เธอให้ตื่นขึ้นมาบำเรอความใคร่ให้เขา กว่าจะได้นอนก็รุ่งสาง แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ทุกๆวัน เป็นเช่นนี้มานับเดือน
 
 
กว่าๆแล้วหลังจากที่เธอแต่งงานกับเขา งานวิวาห์แสนหวานที่เฝ้าฝันหาถูกชายหนุ่มข้างกายหักหน้าอย่างไม่ปราณี
 
 
ปราศรัย เขาบอกว่าทั้งหมดมันเกิดจากความผิดพลาดและการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความรัก
 
 
 
วันต่อมาเธอก็กลายเป็นเจ้าสาวที่น่าสมเพชที่สุดในโลกเมื่อทั้งหนังสือพิมพ์และหนังสือซุบซิบลงข่าวของเธอ
 
 
โครมๆ
 
 
บอกเล่ากันอย่างสนุกปากว่าเธอมันน่าสมเพชแค่ไหน....
 
 
“ฟางรักพี่ป๊อปนะคะ”เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะชันร่างกายอันบอบช้ำลุกขึ้น ความเจ็บแล่นเข้าสู่ทุกอณูของร่างกาย
 
 
ผิวกายที่เคยขาวนวลไปทุกสัดส่วนตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยแดงๆที่เกิดจากโทสะของเขา เมื่อหลายวันผ่านไปก็
 
 
กลายเป็นรอยช้ำม่วงช้ำเขียวน่ากลัวไปทุกส่วน มันไม่ใช่รอยตีตราที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของเท่านั้น หากแต่รอย
 
 
ส่วนใหญ่เกิดจากความขุ่นเคืองใจของเขามากกว่า น้ำเสียงเข้มก็พร่ำบอกทุกวันว่าเธอมันน่าสมเพชเพียงใด
 
 
คำว่าเกลียดจากเขาเป็นสิ่งที่เธอได้รับอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...
 
 
 
 
                จากความเจ็บปวดก็กลับกลายเป็นความชินชา แม้เขาจะเกลียดเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยเลิก
 
 
รักเขาและไม่คิดที่จะเลิก ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรเธอก็พร้อมจะแลกทั้งนั้น ขอแค่พี่ป๊อปคนเดิมของเธอกลับมา...
 
 
เธอก้มลงหยิบชุดนอนชุดที่สี่ที่ถูกเขากระชากจนขาดและใช้งานไม่ได้ขึ้นมา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
 
 
“สงสัยวันนี้คงได้ชุดนอนใหม่อีกแล้ว”เธอปั้นยิ้มให้กับชุดนอนลายเจ้าหญิงอลิซสุดโปรด ก่อนจะสวมใส่พอให้ปิด
 
 
บังความอุจาดของร่างกาย เดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
 
 
                 บ้านใหม่ที่เขากับเธอย้ายมาอยู่ด้วยกันสองคน หรือจะเรียกให้ถูกต้องบอกว่าเรือนหอ เป็นบ้านขนาด
 
 
กลางอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับบ้านจิระคุณ เพราะบ้านหลังนี้ผู้ใหญ่ให้เป็นของขวัญวันแต่งงานของเขาและเธอ บ้าน
 
 
สีขาวสะอาดตาตั้งอยู่ในพื้นที่กว่าหนึ่งไร่ รายล้อมไปด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้นานาพันธุ์ ต้นไม้สูงใหญ่ที่หา
 
 
ยากในเมืองใหญ่แห่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับสภาพอารมณ์ที่เปรียบดั่งพายุร้ายของ
 
 
ชายหนุ่ม
 
 
                       มือเรียวรูดซิปทางด้านหลังของเดรสสีฟ้าสดใสขึ้น ก่อนจะปั้นยิ้มให้ตัวเองในกระจก เบนสายตา
 
 
ทอดมองแหวนเพชรน้ำงามที่แม่ของเขาบอกว่าชายหนุ่มเลือกกับมือ ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพเพราะคุณ
 
 
พิมลเป็นคนมาขอวัดนิ้วนางของเธอเอง แต่แค่คิดว่าเขาเลือกให้เธอจริงๆ เธอก็มีความสุขแล้ว
 
 
 
ปังๆ
 
 
 
“ทำอะไรอยู่ฮะ เร็วๆหน่อยสิ ฉันรีบนะ!”เธอสะดุ้งสุดตัวกับน้ำเสียงดุดันของชายหนุ่ม รีบเปิดประตูออกไปทันที
 
 
“ขอโทษค่ะ”เธอเอ่ยขอโทษเขาเบาๆ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา สายตาเดิมๆที่
 
 
เธอชินกับมันไปแล้ว เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบสูท เสื้อเชิ้ต กางเกง และเนคไทด์ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้เขา
 
 
หลังจากเห็นว่าเขามักจะใส่เสื้อเชิ้ตและเนคไทด์โทนสีมืดไม่สดใสอยู่ตลอดเวลา เธอวางเสื้อผ้าทั้งชุดลงกับเตียง
 
 
ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า....ฟังไม่ผิดหรอกเธอทำอาหารเช้า เธอเพิ่งแอบไปเรียนกับ
 
 
นมแจ่มมาแม้ฝีมือจะไม่ได้ดีเลิศแต่ก็อร่อยไม่ได้แพ้ฝีมือนมแจ่มเลย เธอไม่ได้หลงตัวเองนะ คุณพ่อ คุณแม่ และ
 
 
นมแจ่มยังชมเธอเลย
 
 
                 เธอวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะ ก่อนจะรินน้ำเปล่าและกาแฟลงแก้ว ชะเง้อมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างบน
 
 
“ทำไมยังไม่ลงมาซะทีนะ”เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับของชายหนุ่ม ไม่ใช่ว่า
 
 
เขาจะทานข้าวเช้ากับเธอหรอก ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่มีเลยสักครั้ง...หากแต่เธอก็ยังหวังอยู่ลึกๆ หวังว่าเขาจะ
 
 
เปลี่ยนใจยอมร่วมโต๊ะอาหารกับผู้หญิงอย่างเธอ
 
 
“พี่ป๊อป...”เธอเผยยิ้มเมื่อเขาก้าวลงจากบันได ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเขาไม่ได้ใส่เสื้อเชิ้ตและเนคไทด์
 
 
ของเธอ เขาคงจะไม่ชอบละมั้ง...ไม่เป็นไร
 
 
“ทานข้าวด้วยกันก่อนสิคะ เดี๋ยวจะหิวนะ”เธอเอ่ยกับชายหนุ่มเมื่อเขากำลังจะเดินผ่านเธอไป ไม่ใช่ว่าเธอพูดแบบ
 
 
นี้แล้วเขาจะยอม ตรงกันข้าวกลับไม่เคยมีเลยสักครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยเบื่อที่จะพูดมัน ยิ่งเขาเป็นทั้งกระเพาะทั้งไม
 
 
เกรนอย่างนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง
 
 
“ฉันไม่กล้าหรอก”เขาเหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนจะมองมาที่ชามข้าวต้มฝีมือเธอราวกับว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด เธอ
 
 
คว้ากล่องแซนด์วิชที่ทำไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปหาเขา
 
 
“วันนี้ฟางทำแซนด์วิช เพิ่งไปหัดเรียนกับคุณแม่มา รับรองอร่อยแน่ค่ะ”เธอยัดเยียดกล่องแซนด์วิชไว้ในมือของเขา
 
 
ก่อนจะยิ้มให้คนตัวโต เขารับไปถือไว้ในมือ
 
 
“อย่าลืมทานนะคะ ถ้ากระเพาะกำเริบฟางไม่รู้ด้วย”เขายิ้มตอบ ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขามันจะแปลกๆแต่
 
 
ก็ไม่ได้ติดใจอะไร สงสัยเธอจะไม่ได้สัมผัสกับมันมานานเกินไปแล้วล่ะมั้ง หญิงสาวหมุนตัวเดินกลับหลัง และต้อง
 
 
หันตัวกลับมาอีกครั้งเมื่อเสียงวัตถุกระทบกับพื้นเสียงดัง แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจ หากสิ่งที่เห็นคือแซนด์วิชที่ตั้งใจ
 
 
ทำสุดชีวิตนอนแอ่งแม่งอยู่กับพื้น กล่องและฝากล่องกระเด็นกระดอนไปทั่วพื้น
 
 
“ขอบใจละกัน แต่ฉันไม่ทานแซนด์วิชของผู้หญิงโสมมอย่างเธอ”
 
 
 
ผู้หญิงโสมม...คิดหามาได้อย่างไร การกระทำของเขามันยังไม่ชัดเจนพอหรือไรถึงต้องตอกย้ำด้วยคำพูดอีกหน
 
 
แค่ที่เธอเป็นอยู่มันยังทุเรศไม่พอหรือไร จะต้องให้ทำอย่างไรเขาถึงจะพอใจในตัวเธอ เธอลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ไม่คิด
 
 
ว่าตัวเองจะทำได้ ทั้งการทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองให้ย่อยยับ ทนรับคำตราหน้าคำโตว่าเจ้าสาวที่น่าสมเพชที่สุดใน
 
 
โลก ยังไม่นับรวมกับความพยายามอันนับไม่ถ้วนที่จะทำให้เขาหันมอง น่าทุเรศสิ้นดี...แต่ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่าเขา
 
 
หากเขาจะกรุณาทำให้เธอมีค่ามากกว่านี้ เธอจะยินดีมาก แค่ไม่ต้องทำเหมือนเธอเป็นโสเภณีที่ต้องคอยรองรับ
 
 
ความใคร่อยู่ทุกเวลาก็พอแล้ว แต่เธออาจจะยิ่งกว่าผู้หญิงพวกนั้นเสียอีก
 
 
รอยราคีที่ติดอยู่ตามร่างกาย...ใครเห็นก็คงจะคิดเป็นอื่นไม่ได้
 
 
“ฟางจะเป็นทุกอย่างที่พี่ป๊อปอยากให้ฟางเป็นนั่นแหละ”เธอเอ่ยกับแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวออกไปไม่ห่าง
 
 
มากนัก
 
 
“ฉันอยากให้เธอเป็นมากกว่านี้อีก...ทนให้ไหวก็แล้วกัน”เขาพูดขณะที่ยังหันหลังอยู่
 
 
“ไหวอยู่แล้ว....ฟางรักพี่และจะรักอย่างนี้ตลอดไป ต่อให้พี่ป๊อปฆ่าฟางให้ตายฟางก็ยังจะรัก”
 
 
“นั่นเป็นสิ่งที่เธอกำลังจะได้รับ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
....................................................................................................................................
เราเปลี่ยนใจแล้ว เรื่องนี้อมทุกข์ไปก่อน รับรองว่ามีภาคต่อแน่นอน ตั้งใจแต่งมาก เรื่องนี้แต่งจบแล้ว ตอนนี้คิดหา
 
ฉากหวานๆของภาคต่ออยู่
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา