HURT รักหลอกลวง...
9.5
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.36 น.
39 ตอน
215 วิจารณ์
98.01K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 17.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความHURT รักหลอกลวง...
ตอนที่9
“น้องฟางใช่ไหมคะ...”
“คะ ค่ะ”
สาวใหญ่ร้องกรี๊ด ก่อนจะควักโทรศัพท์มือถือออกมาทันที
“พี่ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ”
หญิงสาวพยักหน้าแบบงงๆ ก่อนจะฉีกยิ้มเมื่อลูกค้าโต๊ะข้างๆยกโขยงกันมาถ่ายรูปกับเธอ และดูเหมือนจะ
ไม่ใช่แค่โต๊ะข้างๆ แต่เป็นเกือบทั้งร้านเสียมากกว่า เมื่อเป็นที่พอใจแล้วทุกคนก็ยกโขยงกลับ เหลือเพียงสาวใหญ่
ที่เป็นคนทักเธอ
“ถ่ายรูปน้องฟางกับแฟนหน่อยได้ไหมคะ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกไป สาวใหญ่ก็ยกกล้อง
มือถือขึ้นถ่ายรูปก่อนจะขอบคุณแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม
“เพราะคุณ” เธอลดระดับเสียงลงก่อนจะปรามาสป๊อปปี้ที่ทำเสียเรื่อง ไหนเขาบอกว่าไม่อยากให้คู่หมั้น
ของเขารู้เรื่องนี้ และขืนภาพนี้หลุดออกไป ประชาชีก็คงมีเรื่องเมาท์สนุกปากกันไปอีกนานแสนนาน เพราะรูปภาพ
และบทสนทนาสุดล่อแหลมที่เธอเชื่อว่าเธอข้างๆต้องได้ยินอย่างแน่นอน
“เอ้า ก็คุณไม่ระวังตัวเองเอง ไม่เห็นหรอว่าทุกคนรู้จักคุณตั้งแต่ผมลากคุณเข้ามาในร้านแล้ว แต่ไม่มีใคร
กล้า พอมีคนกล้า ทุกคนก็เลยกล้า...ก็ไม่เห็นแปลก”
“มาแล้วค่า”
แม่ค้าวัยกลางคนเดินมาเสิร์ฟอาหาร ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นดาราในดวงใจและอดไม่ได้ที่จะขอแชะรูปเอาไว้
“ทานสิ อร่อยนะ”
ป๊อปปี้ยื่นตะเกียบให้หญิงสาวที่ทำท่าว่าจะไม่ยอมเลิกสงครามประสาทกับเขา ชายหนุ่มจัดการบะหมี่หมู
แดงตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะเหลือบมองหญิงสาวที่เพิ่งคีบลูกชิ้นเข้าปากไปเคี้ยวตุ่ยๆทีเดียวสองลูก
เขาหลุดหัวเราะ ก่อนจะคีบลูกชิ้นในถ้วยบะหมี่ให้คนตัวเล็ก
“เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก”เขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ หญิงสาวทำท่าว่าจะเถียงแต่ลูกชิ้นในปากคืออุปสรรค
เธอจึงทำได้แค่ส่งค้อนวงใหญ่ให้เขา
ชามบะหมี่ถูกวางซ้อนๆกันอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มมองหญิงสาวสลับกับชามบะหมี่ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็ก
แถมยังผอมบางขนาดนี้ จะกินเยอะอย่างกับช้าง
“อิ่มรึยังฮึ”
เสียงเข้มเอ่ยปากถามหญิงสาวที่ใช้ทิชชู่ซับที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“ค่ะ”
“อร่อยล่ะสิ กินเยอะขนาดนี้ไม่กลัวอ้วนหรือไง”เขาเอ่ยหญิงสาวที่ดูเหมือนจะไม่กังวลเรื่องรูปร่างเหมือน
นักแสดงทั่วไป
“ก็กลัวค่ะ แต่มันอร่อย...มื้อนี้ให้ฉันเลี้ยงนะคะ”ว่าแล้วคนใจป้ำก็ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาทันที
“ไม่เป็นไร ผมเลี้ยงเอง”เขาเอ่ยอย่างใจดี เขารู้ว่าบะหมี่แค่ไม่กี่ชามไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วง
ใช่...มันเป็นเงินแค่เล็กน้อย แต่เขารู้ดีว่าคนที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเงินจำนวนนี้มันก็สำคัญไม่น้อย
รถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของคอนโดหรูที่เป็นที่พักของหญิงสาว ร่างเล็กเดินนำร่างสูง
ก่อนเท้าเรียวจะหยุดกึกเมื่อถึงหน้าห้อง
“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”
“ครับ...ฟาง”
“คะ?”
ร่างเล็กหันมามองชายหนุ่มที่เรียกรั้งเธอไว้ก่อนที่เธอจะได้เดินเข้าห้อง
“ผมขอนอนด้วยได้รึเปล่า...ไม่อยากกลับบ้าน” เธอพยักหนน้า ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในห้อง
เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะนี่มันคือห้องของเขา...
คนจนอย่างเธอไม่มีปัญญาซื้อคอนโดราคาแพงหูฉี่แบบนี้หรอก...
อันที่จริงคืนนี้เธอก็ไม่ได้คิดว่าวันนี้เธอจะรอดจากเงื้อมมือของชายหนุ่ม...เพราะตลอดเวลาเขาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัว
เองขาดทุนอยู่แล้ว...และเธอก็อายน้ำหน้าตัวเองเหลือเกินที่เผลอไผลไปกับบทเพลงรักของเขาทั้งๆที่ปากก็
บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา เธอมันช่างน่าไม่อาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องโทษว่าเป็นความผิดของชายหนุ่ม...
เพราะเขาทำให้ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้
ชายหนุ่มที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเสมองหญิงสาวที่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่ปลายเตียง ตรงหน้าเธอคือสมุดเล่ม
หนึ่งที่ตีตารางอย่างเรียบร้อย ในมือเล็กคือปากกาด้ามสีชมพูหวานแหวว
“ทำอะไรอยู่”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามขณะที่มือหนายังไม่ละไปจากผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมเบาๆ
“บันทึกรายรับ-รายจ่ายค่ะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนจะกดเครื่องคิดเลขอย่างว่องไวเหมือนคนที่ใช้อย่างประจำ
“สามหมื่น”
ริมฝีปากอิ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ หัวคิ้วโก่งขมวดแน่นจนแทบผูกเป็นปม เงินสามหมื่นคือเงินที่เธอต้องหาให้ได้
ก่อนจะสิ้นเดือน เพราะจากร่ายจ่ายเดือนก่อนค่ารักษาของแม่ก็ประมาณสี่หมื่นสามพันบาท หากเธอไม่สามารถหา
ได้ก่อนสิ้นเดือนนั้นก็หมายถึงการรักษาของแม่จะไม่ต่อเนื่อง...
“ไอ้ที่วงกลมไว้นี่คืออะไร” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม มองตัวเลขที่หญิงสาววงกลมด้วยปากกาสีน้ำเงินและ
มีเครื่องหมายอัศเจรีย์เต็มไปหมด
“ค่ารักษาของแม่น่ะค่ะ...คุณจะนอนหรือยังคะ”สมุดบันทึกถูกแย่งไปจากมือเขา คนตัวเล็กเก็บของทั้งหมด
ไปกองไว้ตรงโต๊ะเล็กๆข้างหัวเตียง
“อืม”เขาตอบรับ ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัว มองแผ่นหลังบอบบางที่เดินไปปิดสวิชต์ไฟ แต่ก็ต้องนิ่วหน้า
เมื่อเห็นเธอล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวเล็กที่ตั้งอยู่กลางห้อง
“มานอนนี่สิ”เขาเอ่ยแทรกความมืด แต่แทนที่เธอจะลุกมานอนตามคำสั่งของเขา กลับมีเพียงเสียงหวาน
ที่เอ่ยตอบกลับมา
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคุณจะนอนไม่สบาย”
“ขึ้นมาฟาง!อย่าทำให้ผมไม่พอใจ”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่พอใจ เขาต้องนอนไม่หลับแน่ๆถ้าไม่ได้นอนกอดร่างอุ่นๆของคนตัวเล็ก...เธอกำลัง
ทำให้เขาบ้าคลั่งมากขึ้นไปทุกที ที่ว่างข้างกายยุบฮวบลง ร่างเล็กนอนลงข้างๆชายหนุ่ม ลำแขนแกร่งโอบตวัดรอบ
เอวบางก่อนจะดึงเข้าสู่อ้อมกอดทันที มือหนาเชยคางมนขึ้นรับจูบก่อนนอนโดยชายหนุ่มเลือกที่จะแตะริมฝีปากอิ่ม
เบาๆก่อนจะผละออก เพราะถ้ามากกว่านี้เขาสาบานได้เลยว่าหญิงสาวจะไม่ได้นอนแน่ๆ หลังจากที่เธอหันหลังกลับ
ไปแล้วใบหน้าหล่อคมก็ซุกซบลงบนไหล่บอบบาง...ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงเตรียมตัวเข้าสู่ห้วงนิทรา...
...................................................................................................................................
ตอนที่9
“น้องฟางใช่ไหมคะ...”
“คะ ค่ะ”
สาวใหญ่ร้องกรี๊ด ก่อนจะควักโทรศัพท์มือถือออกมาทันที
“พี่ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ”
หญิงสาวพยักหน้าแบบงงๆ ก่อนจะฉีกยิ้มเมื่อลูกค้าโต๊ะข้างๆยกโขยงกันมาถ่ายรูปกับเธอ และดูเหมือนจะ
ไม่ใช่แค่โต๊ะข้างๆ แต่เป็นเกือบทั้งร้านเสียมากกว่า เมื่อเป็นที่พอใจแล้วทุกคนก็ยกโขยงกลับ เหลือเพียงสาวใหญ่
ที่เป็นคนทักเธอ
“ถ่ายรูปน้องฟางกับแฟนหน่อยได้ไหมคะ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกไป สาวใหญ่ก็ยกกล้อง
มือถือขึ้นถ่ายรูปก่อนจะขอบคุณแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม
“เพราะคุณ” เธอลดระดับเสียงลงก่อนจะปรามาสป๊อปปี้ที่ทำเสียเรื่อง ไหนเขาบอกว่าไม่อยากให้คู่หมั้น
ของเขารู้เรื่องนี้ และขืนภาพนี้หลุดออกไป ประชาชีก็คงมีเรื่องเมาท์สนุกปากกันไปอีกนานแสนนาน เพราะรูปภาพ
และบทสนทนาสุดล่อแหลมที่เธอเชื่อว่าเธอข้างๆต้องได้ยินอย่างแน่นอน
“เอ้า ก็คุณไม่ระวังตัวเองเอง ไม่เห็นหรอว่าทุกคนรู้จักคุณตั้งแต่ผมลากคุณเข้ามาในร้านแล้ว แต่ไม่มีใคร
กล้า พอมีคนกล้า ทุกคนก็เลยกล้า...ก็ไม่เห็นแปลก”
“มาแล้วค่า”
แม่ค้าวัยกลางคนเดินมาเสิร์ฟอาหาร ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นดาราในดวงใจและอดไม่ได้ที่จะขอแชะรูปเอาไว้
“ทานสิ อร่อยนะ”
ป๊อปปี้ยื่นตะเกียบให้หญิงสาวที่ทำท่าว่าจะไม่ยอมเลิกสงครามประสาทกับเขา ชายหนุ่มจัดการบะหมี่หมู
แดงตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะเหลือบมองหญิงสาวที่เพิ่งคีบลูกชิ้นเข้าปากไปเคี้ยวตุ่ยๆทีเดียวสองลูก
เขาหลุดหัวเราะ ก่อนจะคีบลูกชิ้นในถ้วยบะหมี่ให้คนตัวเล็ก
“เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก”เขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ หญิงสาวทำท่าว่าจะเถียงแต่ลูกชิ้นในปากคืออุปสรรค
เธอจึงทำได้แค่ส่งค้อนวงใหญ่ให้เขา
ชามบะหมี่ถูกวางซ้อนๆกันอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มมองหญิงสาวสลับกับชามบะหมี่ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็ก
แถมยังผอมบางขนาดนี้ จะกินเยอะอย่างกับช้าง
“อิ่มรึยังฮึ”
เสียงเข้มเอ่ยปากถามหญิงสาวที่ใช้ทิชชู่ซับที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“ค่ะ”
“อร่อยล่ะสิ กินเยอะขนาดนี้ไม่กลัวอ้วนหรือไง”เขาเอ่ยหญิงสาวที่ดูเหมือนจะไม่กังวลเรื่องรูปร่างเหมือน
นักแสดงทั่วไป
“ก็กลัวค่ะ แต่มันอร่อย...มื้อนี้ให้ฉันเลี้ยงนะคะ”ว่าแล้วคนใจป้ำก็ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาทันที
“ไม่เป็นไร ผมเลี้ยงเอง”เขาเอ่ยอย่างใจดี เขารู้ว่าบะหมี่แค่ไม่กี่ชามไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วง
ใช่...มันเป็นเงินแค่เล็กน้อย แต่เขารู้ดีว่าคนที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเงินจำนวนนี้มันก็สำคัญไม่น้อย
รถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของคอนโดหรูที่เป็นที่พักของหญิงสาว ร่างเล็กเดินนำร่างสูง
ก่อนเท้าเรียวจะหยุดกึกเมื่อถึงหน้าห้อง
“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”
“ครับ...ฟาง”
“คะ?”
ร่างเล็กหันมามองชายหนุ่มที่เรียกรั้งเธอไว้ก่อนที่เธอจะได้เดินเข้าห้อง
“ผมขอนอนด้วยได้รึเปล่า...ไม่อยากกลับบ้าน” เธอพยักหนน้า ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในห้อง
เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะนี่มันคือห้องของเขา...
คนจนอย่างเธอไม่มีปัญญาซื้อคอนโดราคาแพงหูฉี่แบบนี้หรอก...
อันที่จริงคืนนี้เธอก็ไม่ได้คิดว่าวันนี้เธอจะรอดจากเงื้อมมือของชายหนุ่ม...เพราะตลอดเวลาเขาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัว
เองขาดทุนอยู่แล้ว...และเธอก็อายน้ำหน้าตัวเองเหลือเกินที่เผลอไผลไปกับบทเพลงรักของเขาทั้งๆที่ปากก็
บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา เธอมันช่างน่าไม่อาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องโทษว่าเป็นความผิดของชายหนุ่ม...
เพราะเขาทำให้ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้
ชายหนุ่มที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเสมองหญิงสาวที่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่ปลายเตียง ตรงหน้าเธอคือสมุดเล่ม
หนึ่งที่ตีตารางอย่างเรียบร้อย ในมือเล็กคือปากกาด้ามสีชมพูหวานแหวว
“ทำอะไรอยู่”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามขณะที่มือหนายังไม่ละไปจากผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมเบาๆ
“บันทึกรายรับ-รายจ่ายค่ะ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนจะกดเครื่องคิดเลขอย่างว่องไวเหมือนคนที่ใช้อย่างประจำ
“สามหมื่น”
ริมฝีปากอิ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ หัวคิ้วโก่งขมวดแน่นจนแทบผูกเป็นปม เงินสามหมื่นคือเงินที่เธอต้องหาให้ได้
ก่อนจะสิ้นเดือน เพราะจากร่ายจ่ายเดือนก่อนค่ารักษาของแม่ก็ประมาณสี่หมื่นสามพันบาท หากเธอไม่สามารถหา
ได้ก่อนสิ้นเดือนนั้นก็หมายถึงการรักษาของแม่จะไม่ต่อเนื่อง...
“ไอ้ที่วงกลมไว้นี่คืออะไร” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม มองตัวเลขที่หญิงสาววงกลมด้วยปากกาสีน้ำเงินและ
มีเครื่องหมายอัศเจรีย์เต็มไปหมด
“ค่ารักษาของแม่น่ะค่ะ...คุณจะนอนหรือยังคะ”สมุดบันทึกถูกแย่งไปจากมือเขา คนตัวเล็กเก็บของทั้งหมด
ไปกองไว้ตรงโต๊ะเล็กๆข้างหัวเตียง
“อืม”เขาตอบรับ ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัว มองแผ่นหลังบอบบางที่เดินไปปิดสวิชต์ไฟ แต่ก็ต้องนิ่วหน้า
เมื่อเห็นเธอล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวเล็กที่ตั้งอยู่กลางห้อง
“มานอนนี่สิ”เขาเอ่ยแทรกความมืด แต่แทนที่เธอจะลุกมานอนตามคำสั่งของเขา กลับมีเพียงเสียงหวาน
ที่เอ่ยตอบกลับมา
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคุณจะนอนไม่สบาย”
“ขึ้นมาฟาง!อย่าทำให้ผมไม่พอใจ”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่พอใจ เขาต้องนอนไม่หลับแน่ๆถ้าไม่ได้นอนกอดร่างอุ่นๆของคนตัวเล็ก...เธอกำลัง
ทำให้เขาบ้าคลั่งมากขึ้นไปทุกที ที่ว่างข้างกายยุบฮวบลง ร่างเล็กนอนลงข้างๆชายหนุ่ม ลำแขนแกร่งโอบตวัดรอบ
เอวบางก่อนจะดึงเข้าสู่อ้อมกอดทันที มือหนาเชยคางมนขึ้นรับจูบก่อนนอนโดยชายหนุ่มเลือกที่จะแตะริมฝีปากอิ่ม
เบาๆก่อนจะผละออก เพราะถ้ามากกว่านี้เขาสาบานได้เลยว่าหญิงสาวจะไม่ได้นอนแน่ๆ หลังจากที่เธอหันหลังกลับ
ไปแล้วใบหน้าหล่อคมก็ซุกซบลงบนไหล่บอบบาง...ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงเตรียมตัวเข้าสู่ห้วงนิทรา...
...................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ