HURT รักหลอกลวง...
9.5
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.36 น.
39 ตอน
215 วิจารณ์
97.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 17.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความHURT รักหลอกลวง...
ตอนที่8
“ใช่...”
“ยังไงคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างอยากรู้ว่าผู้ชายแสนเย็นชาอย่างเขามีอะไรที่น่าจดจำเกี่ยวกับที่นี่จนต้องคิดถึง
ทุกครั้งที่ทุกข์ร้อนใจ ดวงตาคมกริบหลุบลง ก่อนชายหนุ่มจะเบนสายตาจากเธอไปมองความสวยงามของสะพาน
พระรามแปดเบื้องหน้า...
“ผมกับพิม...เราเคยมาที่นี่ด้วยกัน”
“ค่ะ”
เธอตอบเพียงสั้นๆ เพราะกลัวว่าหากต้องพูดยาวกว่านั้น น้ำเสียงของเธอจะเปลี่ยนเป็นสั่นเครือ
ก้อนสะอึกจุกอยู่ที่ลำคอ มันน่าอึดอัดแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ น้ำตางี่เงาก็เริ่มปิดม่านดวงตา ขอบตาร้อนผ่าวๆ
เพียงแค่ชื่อคนคู่หมั้นคู่หมายของชายหนุ่มก็ทำให้เธอเจ็บได้...
เขาชักจะมีอิทธิพลกับเธอเกินไปเสียแล้ว
“เราสัญญากันไว้ว่า หากใครได้พบเจอคนที่ใช่ สัญญาหมั้นก็จะถูกยกเลิก”
“ไม่ต้องหาจนวันตายเลยหรือคะ”
หญิงสาวพูดเหน็บแนมชายหนุ่มอย่างเจ็บแสบ เธอเองก็อยากจะรู้เหลือเกินว่ารักแท้ของเขาจะหน้าตา
แบบไหน ในเมื่อควงไม่เลือกหน้า กินไม่เลือกคนอย่างเขา
“ไม่หรอก...ผมคิดว่าผมใกล้จะเจอแล้ว”
“เธอใกล้จะกลับมาแล้วสิคะ”
เธอเอ่ยอย่างเจ็บใจ เรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นต้องเล่าให้คนนอกอย่างเธอฟังก็ได้...
แต่จะว่าไป เธอก็ผิดเองที่ไปถามเขาก่อน...เพราะเธอมันไม่เจียมตัว
“คงอีกสักเดือนกว่าๆ...”
“คุณจะแต่งงานเมื่อไหร่”
เสียงหวานเอ่ยถามอย่างร้อนรน เพราะเธอไม่อยากเป็นเมียน้อยของใคร แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอก็พอจะรู้ว่าป๊อปปี้รักคู่หมั้นของเขามากแค่ไหน ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถแทนที่
ผู้หญิงของเขาได้เลย...ไม่มีใครกล้าพูดกระทบกระเทียบพิมประภา เพราะรู้ดีว่าป๊อปปี้ไม่ชอบ
และเผลอๆอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อวันพรุ่งนี้เลยก็ได้...มันก็เหมือนที่เธอเคยเจอ
“ก็คงแล้วแต่ผู้หญิงของฉัน...”
เธอแทบปล่อยโฮเมื่อน้ำเสียงและสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน...ที่เธอไม่เคยได้รับ
“ถ้าคุณแต่งงานแล้ว...เลิกยุ่งกับฉันได้ไหมคะ”
“ทำไม!”
ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเสมองพื้น เล็บมนจิกเข้าหากันแน่นอย่างประหม่า
“ฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยหรือว่าของเล่นแก้เหงาของคุณอีกแล้ว”
“พูดอะไรของคุณน่ะฟาง คุณต่างหากที่...นี่ทำอะไรเนี่ย!”
ชายหนุ่มโวยเมื่อเห็นหญิงสาวจิกเล็บลงบนหลังมือบอบบางอย่างแรง มือหนาคว้ามือเล็กออกจากกัน
ก่อนจะใช้ฝ่ามือถูหนักๆไปที่รอยเล็บมนที่ลึกจนอีกนิดเดียวก็คงมีเลือดซิบ
“ไม่เจ็บหรือไงฮึ คุณนี่มันจริงๆเลย”
เสียงเข้มดุคนตัวเล็กพร้อมๆกับส่งสายตาดุๆไปให้หญิงสาวที่ทำตัวราวกับเด็กสำนึกผิด
“ฉันอยากกลับแล้วค่ะ คงจะดึกมากแล้ว”
หญิงสาวบอกกับเขาพร้อมกับพยายามขืนมือเล็กนุ่มนิ่มออกจากการเกาะกุมของเขา...
แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมปล่อย
“เพิ่งจะสองทุ่มเอง หรือว่าคุณไม่ชอบที่นี่”
เขาเอ่ยถามเธอ เมื่อเห็นท่าทางของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เขาเล่าเรื่องของพิมประภา
“ชอบค่ะ...แต่มันไม่ใช่ที่ของฉัน”
เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหญิงสาวพูดอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอจนเขาฟังไม่ได้ศัพท์
“คุณว่ายังไงนะ”
“ฉันอยากกลับบ้าน”
เขามองใบหน้าสวยหวานที่เริมฉายแววความไม่พอใจ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ เธอทำหน้าเหมือนตอนที่เธอไม่
พอใจเขาทุกครั้ง...แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงได้ดูน่ารักนัก
“คุณหิวข้าว...ได้สิ”
“ฉันไม่ได้หิวข้าว”
“ผมมีร้านบะหมี่ร้านหนึ่งอยากให้คุณลองชิมดู”
เขาไม่ฟังเสียงทักท้วง ดึงร่างเล็กที่ไม่เต็มใจนัก ไปที่รถคันโปรด
รถคันหรูจอดลงตรงหน้าร้านขายบะหมี่ชื่อดัง หญิงสาวมองไปรอบๆร้านและหันกลับมามองหน้าชายหนุ่ม
อีกครั้ง หน้าตาและฐานะอย่างเขาไม่น่าจะทานร้านแบบนี้เลยสักนิด
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย มานี้เลย”
ข้อมือเล็กของเธอถูกพันธนาการด้วยมือใหญ่ของชายหนุ่มอีกครั้ง เธอก้าวตามชายหนุ่ม
ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
“บะหมี่หมูแดงของที่นี่อร่อยมากเลยนะ”
“ฉันไม่หิว”
“อุตส่าห์มาถึงร้านทั้งที่น่าฟาง ร้านนี้หาที่นั่งยากมากเลยนะ วันนี้ถือว่าเราโชคดีมากเลยนะครับ”
“ฉันไม่หิวค่ะ”
ชายหนุ่มโคลงศีรษะเบาๆ ก่อนจะสั่งอาหารกับแม่ค้า
“ผมรู้ว่าคุณกำลังทำสงครามประสาทกับผมอยู่ แต่ตอนนี้ผมหิวมากและผมก็รู้ว่าคุณก็หิวเหมือนกัน”
“ฉันไม่ได้หิวค่ะ”
“ถ้าคุณไม่กินที่นี่ ผมสาบานว่าจะพาคุณไปกินที่ห้องแน่นอน”
ชายหนุ่มพูดในระดับเสียงปกติราวกับสิ่งที่เขาพูดออกไปไม่ได้น่าเกลียดอะไร เขาไม่มีท่าทีเขินอายหรือ
กระดากอาย แต่คนที่ทั้งเขินอายและกระดากอายคงจะเป็นหญิงสาวเสียมากกว่า ร่างเล็กมองไปรอบตัว เขาพูดใน
ระดับเสียงปกติก็จริง แต่เพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ภายในตึกพาณิชย์ และโต๊ะค่อนข้างติดกัน จึงไม่
แปลกที่คนรอบข้างจะหันมามองสองหนุ่มสาวเป็นตาเดียว ฟางเบี่ยงหน้าหลเป็นพัลวัน เมื่อหนึ่งในห้าของลูกค้าโต๊ะ
ข้างๆทำท่าเหมือนจะจำหน้าเธอได้ ทั้งๆที่วันนี้เธอสวมเพียงชุดเดรสธรรมดาและหน้าก็แต่งอ่อนๆเท่านั้น
“น้องฟางใช่ไหมคะ...”
....................................................................................................................................
ตอนที่8
“ใช่...”
“ยังไงคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างอยากรู้ว่าผู้ชายแสนเย็นชาอย่างเขามีอะไรที่น่าจดจำเกี่ยวกับที่นี่จนต้องคิดถึง
ทุกครั้งที่ทุกข์ร้อนใจ ดวงตาคมกริบหลุบลง ก่อนชายหนุ่มจะเบนสายตาจากเธอไปมองความสวยงามของสะพาน
พระรามแปดเบื้องหน้า...
“ผมกับพิม...เราเคยมาที่นี่ด้วยกัน”
“ค่ะ”
เธอตอบเพียงสั้นๆ เพราะกลัวว่าหากต้องพูดยาวกว่านั้น น้ำเสียงของเธอจะเปลี่ยนเป็นสั่นเครือ
ก้อนสะอึกจุกอยู่ที่ลำคอ มันน่าอึดอัดแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ น้ำตางี่เงาก็เริ่มปิดม่านดวงตา ขอบตาร้อนผ่าวๆ
เพียงแค่ชื่อคนคู่หมั้นคู่หมายของชายหนุ่มก็ทำให้เธอเจ็บได้...
เขาชักจะมีอิทธิพลกับเธอเกินไปเสียแล้ว
“เราสัญญากันไว้ว่า หากใครได้พบเจอคนที่ใช่ สัญญาหมั้นก็จะถูกยกเลิก”
“ไม่ต้องหาจนวันตายเลยหรือคะ”
หญิงสาวพูดเหน็บแนมชายหนุ่มอย่างเจ็บแสบ เธอเองก็อยากจะรู้เหลือเกินว่ารักแท้ของเขาจะหน้าตา
แบบไหน ในเมื่อควงไม่เลือกหน้า กินไม่เลือกคนอย่างเขา
“ไม่หรอก...ผมคิดว่าผมใกล้จะเจอแล้ว”
“เธอใกล้จะกลับมาแล้วสิคะ”
เธอเอ่ยอย่างเจ็บใจ เรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นต้องเล่าให้คนนอกอย่างเธอฟังก็ได้...
แต่จะว่าไป เธอก็ผิดเองที่ไปถามเขาก่อน...เพราะเธอมันไม่เจียมตัว
“คงอีกสักเดือนกว่าๆ...”
“คุณจะแต่งงานเมื่อไหร่”
เสียงหวานเอ่ยถามอย่างร้อนรน เพราะเธอไม่อยากเป็นเมียน้อยของใคร แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอก็พอจะรู้ว่าป๊อปปี้รักคู่หมั้นของเขามากแค่ไหน ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถแทนที่
ผู้หญิงของเขาได้เลย...ไม่มีใครกล้าพูดกระทบกระเทียบพิมประภา เพราะรู้ดีว่าป๊อปปี้ไม่ชอบ
และเผลอๆอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อวันพรุ่งนี้เลยก็ได้...มันก็เหมือนที่เธอเคยเจอ
“ก็คงแล้วแต่ผู้หญิงของฉัน...”
เธอแทบปล่อยโฮเมื่อน้ำเสียงและสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน...ที่เธอไม่เคยได้รับ
“ถ้าคุณแต่งงานแล้ว...เลิกยุ่งกับฉันได้ไหมคะ”
“ทำไม!”
ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเสมองพื้น เล็บมนจิกเข้าหากันแน่นอย่างประหม่า
“ฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยหรือว่าของเล่นแก้เหงาของคุณอีกแล้ว”
“พูดอะไรของคุณน่ะฟาง คุณต่างหากที่...นี่ทำอะไรเนี่ย!”
ชายหนุ่มโวยเมื่อเห็นหญิงสาวจิกเล็บลงบนหลังมือบอบบางอย่างแรง มือหนาคว้ามือเล็กออกจากกัน
ก่อนจะใช้ฝ่ามือถูหนักๆไปที่รอยเล็บมนที่ลึกจนอีกนิดเดียวก็คงมีเลือดซิบ
“ไม่เจ็บหรือไงฮึ คุณนี่มันจริงๆเลย”
เสียงเข้มดุคนตัวเล็กพร้อมๆกับส่งสายตาดุๆไปให้หญิงสาวที่ทำตัวราวกับเด็กสำนึกผิด
“ฉันอยากกลับแล้วค่ะ คงจะดึกมากแล้ว”
หญิงสาวบอกกับเขาพร้อมกับพยายามขืนมือเล็กนุ่มนิ่มออกจากการเกาะกุมของเขา...
แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมปล่อย
“เพิ่งจะสองทุ่มเอง หรือว่าคุณไม่ชอบที่นี่”
เขาเอ่ยถามเธอ เมื่อเห็นท่าทางของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เขาเล่าเรื่องของพิมประภา
“ชอบค่ะ...แต่มันไม่ใช่ที่ของฉัน”
เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหญิงสาวพูดอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอจนเขาฟังไม่ได้ศัพท์
“คุณว่ายังไงนะ”
“ฉันอยากกลับบ้าน”
เขามองใบหน้าสวยหวานที่เริมฉายแววความไม่พอใจ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ เธอทำหน้าเหมือนตอนที่เธอไม่
พอใจเขาทุกครั้ง...แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงได้ดูน่ารักนัก
“คุณหิวข้าว...ได้สิ”
“ฉันไม่ได้หิวข้าว”
“ผมมีร้านบะหมี่ร้านหนึ่งอยากให้คุณลองชิมดู”
เขาไม่ฟังเสียงทักท้วง ดึงร่างเล็กที่ไม่เต็มใจนัก ไปที่รถคันโปรด
รถคันหรูจอดลงตรงหน้าร้านขายบะหมี่ชื่อดัง หญิงสาวมองไปรอบๆร้านและหันกลับมามองหน้าชายหนุ่ม
อีกครั้ง หน้าตาและฐานะอย่างเขาไม่น่าจะทานร้านแบบนี้เลยสักนิด
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย มานี้เลย”
ข้อมือเล็กของเธอถูกพันธนาการด้วยมือใหญ่ของชายหนุ่มอีกครั้ง เธอก้าวตามชายหนุ่ม
ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
“บะหมี่หมูแดงของที่นี่อร่อยมากเลยนะ”
“ฉันไม่หิว”
“อุตส่าห์มาถึงร้านทั้งที่น่าฟาง ร้านนี้หาที่นั่งยากมากเลยนะ วันนี้ถือว่าเราโชคดีมากเลยนะครับ”
“ฉันไม่หิวค่ะ”
ชายหนุ่มโคลงศีรษะเบาๆ ก่อนจะสั่งอาหารกับแม่ค้า
“ผมรู้ว่าคุณกำลังทำสงครามประสาทกับผมอยู่ แต่ตอนนี้ผมหิวมากและผมก็รู้ว่าคุณก็หิวเหมือนกัน”
“ฉันไม่ได้หิวค่ะ”
“ถ้าคุณไม่กินที่นี่ ผมสาบานว่าจะพาคุณไปกินที่ห้องแน่นอน”
ชายหนุ่มพูดในระดับเสียงปกติราวกับสิ่งที่เขาพูดออกไปไม่ได้น่าเกลียดอะไร เขาไม่มีท่าทีเขินอายหรือ
กระดากอาย แต่คนที่ทั้งเขินอายและกระดากอายคงจะเป็นหญิงสาวเสียมากกว่า ร่างเล็กมองไปรอบตัว เขาพูดใน
ระดับเสียงปกติก็จริง แต่เพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ภายในตึกพาณิชย์ และโต๊ะค่อนข้างติดกัน จึงไม่
แปลกที่คนรอบข้างจะหันมามองสองหนุ่มสาวเป็นตาเดียว ฟางเบี่ยงหน้าหลเป็นพัลวัน เมื่อหนึ่งในห้าของลูกค้าโต๊ะ
ข้างๆทำท่าเหมือนจะจำหน้าเธอได้ ทั้งๆที่วันนี้เธอสวมเพียงชุดเดรสธรรมดาและหน้าก็แต่งอ่อนๆเท่านั้น
“น้องฟางใช่ไหมคะ...”
....................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ