ความทรงจำสีจาง
10.0
เขียนโดย TTTTTT
วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.36 น.
9 session
14 วิจารณ์
16.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22.27 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) ข่าวร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "โธ่เว้ย!! เพล้ง!~" เสียงหนุ่มวัยกลางคนสบถคำออกมาด้วยน้ำเสียงที่กำลังโมโหสุดขีด พร้อมทั้งเอามือหนาของตนปัดแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงหล่นลงพื้น จนทำให้แก้วนั้นแตกกระจายไปทั่วพื้นบริเวณนั้น ขณะเดียวกันลูกน้องของเขาทุกคนก้าวถอยหลังไปตั้งหลักประมาณสองก้าว ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลงจากอารมณ์โมโหครั้งนี้ด้วย
"งานง่ายๆ แค่นี้พวกแกก็ทำให้มันพลาด เลี้ยงเสียข้าวสุก!!" เจียง หนุ่มคนเดิมที่ร้องโวยวายก่อนหน้านี้พูดอย่างหัวเสีย เขาชี้หน้าและใส่อารมณ์กับดำแดง ลูกน้องของเขาทั้งสองที่ทำงานพลาดไปเมื่อคืนนี้
"สะ..เสี่ยครับ......." ดำ ลูกน้องของเจียงกำลังจะเอ่ยคำแก้ตัวแต่เขานั้นพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ทำให้คำที่จะเอ่ยต่อไปนั้นถูกกลืนหายกลับลงคอไปตามเดิม
"หุบปากของแกไปเลยไอดำ!! งานนี้ฉันต้องสูญเสียไปตั้งเท่าไหร่แกรู้ไหมฮะ!! ไหนจะเสี่ยหม่าอีกที่โทรมาด่าฉันทั้งวัน โว้ยยยยยยย!!! แล้วไอสองตัวนั้นมันอยู่ที่ไหนวะ ไอแดง!?" เจียงหัวเสียมากไม่น้อยกับเรื่องการส่งของที่ผิดพลาดของลูกน้อง เพราะสินค้าล็อตเมื่อคืนทำรายได้ให้กับเขามากพอสมควร ไหนจะยังเป็นกังวลเพราะกลัวจะถูกซัดทอดจากสองพี่น้องนั้นอีก อารมณ์ของเขาตอนนี้ยากเกินจะควบคุมให้เป็นปกติได้จึงหันไปตะคอกถามลูกน้องอีกคนหนึ่งที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหลังของดำ
"คะ..ครับเสี่..ยย" แดงตอบรับเจ้านายแบบกล้าๆ กลัวๆ โดยไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองสบตากับเจียงตรงๆ
"ไอ้-สอง-ตัว-นั้น-มัน-อยู่-ไหน" เจียงเน้นคำถามของเขาทีละคำให้แดงฟังอย่างชัดเจนและใช้สายตาดุดันของตนนั้นจ้องมองเขาอย่างต้องการคำตอบ และต้องเป็นคำตอบที่ฟังแล้วเขาพอใจเสียด้วย ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมามากกว่านี้ก็เป็นได้
"อะ..เอ่อ.....คือ.....โอ้ว! ไม่ทราบครับเสี่ยพอพวกมันโดนจับผมสองคนก็รีบกลับมาเลยครับยังไม่ทันสืบข่าวให้แน่ชัดคร้าบเสี่ยคร้าบ โอ๊ย!" แดงอึกอักกับคำตอบของตนจนเจียงทนไม่ไหวควักปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าของเขา ด้วยความกลัวสุดขีดเขาจึงพูดร่ายยาวโดยไม่คิดจะหยุดพักหายใจ เพราะเขาคิดว่าหากหยุดหรือคำตอบของตนสะดุดไม่ไหลลื่นแล้วเขาคงจะต้องโดนจบชีวิตด้วยปืนกระบอกนั้นเป็นแน่ แต่คำตอบของเขาก็ยังไม่ดีพอสำหรับเจ้านายจึงโดนตบด้วยปืนกระบอกนั้นที่มุมปากเข้าเต็มแรง
"ไม่รู้เหรอหา!! ไอ้พวกโง่! แกสองคนรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้ฉันก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแกแทน ไป!!" เจียงะคอกด่าสองลูกน้องสุดโง่เง่าของเขาก่อนจะเอ่ยไล่ให้ทั้งสองไปทำงานตามคำสั่งของตน และยังขู่ทิ้งท้ายไว้อีกด้วยหากพวกเขาทำงานผิดพลาดซ้ำสอง
สิ้นคำของเจียงดำและแดงต่างพากันวิ่งกรูออกจากบ้านของเขาทันที ทั้งสองกระโจนขึ้นรถด้วยความรวดเร็วและขับรถมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ ที่ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เจอหลักฐานหรือล่องลอยอะไรให้พวกเขาสืบรู้เลยว่าสองพี่น้องนั้นถูกจับตัวไปไว้ไหน ครั้นจะไปสอบถามหาความกับใครเห็นทีจะไม่ได้ผลเป็นแน่
"ไม่เห็นมีอะไรเลยว่ะ เอาไงดีวะ" แดงเอ่ยถามกับดำ ซึ่งเป็นลูกพี่ชายแท้ๆ ของเขาเองอย่างหมดหนทาง
"เฮ้ย" ดำไม่ได้ตอบคำถามของน้องชายเพียงแต่ร้องเรียกและใช้มือสะกิดแดงเบาๆ ให้ดูกลุ่มคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางพวกเขา
"เดี๋ยวก่อน........นายสองคนนั่นแหละ มาทำอะไรที่นี่" โทโมะถามด้วยน้ำเสียงเข้มพร้อมกับมองชายแปลกหน้าทั้งสองอย่างพิจารณา
"เอ่อคือ.......อ๋อ ผมมารับน้องชายผมครับ มันเพิ่งข้ามฝั่งมาจากเกาะนู้นครับ พวกผมขอตัวก่อนนะครับ" ดำตอบปัดไปอย่างนั้นเองเพื่อไม่ให้ตนกับน้องชายดูมีพิรุธแล้วเดินจากไปในทันที
"ผมว่าสองคนนั้นดูแปลกๆ นะครับผู้กอง" จ่าอุงดูท่าทางของดำและแดงแล้วเขาไม่คิดอยากเชื่อคำตอบของดำเลย
"ช่างเถอะจ่า รีบไปตรวจดูรอบๆ นี้อีกทีเสร็จแล้วจะได้เข้าสำนักงานใหญ่สักที ไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรท่านถึงได้โทรตามผมด้วยตัวเอง" ประโยคสุดท้ายผู้กองหนุ่มแอบบ่นให้ลูกน้องของตนฟัง เพราะเขาเองยังคิดไม่ตกว่ามีเรื่องคอคาดบาดตายอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ทำไมผู้บังคับบัญชาหรือเจ้านายใหญ่ของเขาถึงเสียสละเวลาโทรเรียกให้เขาไปพบด้วยตนเอง ทั้งที่โดยปกติแล้วเขาจะสั่งงานผ่านเลขาให้เลขาของเขาสั่งงานมายังตนอีกที
"ครับผู้กอง" จ่าอุงรับคำสั่งจากเจ้านายแล้วหันไปสั่งลูกน้องของเขาทันที
ณ สำนักงานใหญ่กองปราบปรามยาเสพติดแห่งประเทศ
วันนี้ภายในสำนักงานเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งพนักงานประจำและชาวบ้านที่มารอรับผู้กองคนใหม่ ที่มีคนให้ความสนใจมากถึงขนาดทำให้สำนักงานวุ่นวายและดูคับแคบไปถนัดตานั้น เป็นเพราะเขามีชื่อเสียงเรียงนามโด่งดังนับได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขา อีกทั้งยังด้วยรูปร่างหน้าตาของเขานั้นดูดีหล่อไม่แพ้ผู้กองเฟรนด์ขวัญใจของทุกคน
"ขออนุญาตครับ" โทโมะส่งเสียงถึงคนภายในห้องก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องตามมารยาท
"เชิญ......ทุกคนเชิญนั่ง" เอนก ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองปราบปรามยาเสพติดกล่าวเชิญผู้กองเฟรนด์และผู้ติดตามเขาอีกสองคน
"วันนี้คนเยอะดีนะครับท่าน เต็มแน่นไปหมดสำนักงานเลย หะๆ" ดาบสินพูดทีเล่นทีจริงแกมหยอกเจ้านายเพื่อสร้างบรรยากาศ
"ครับดาบสิน เป็นเพราะวันนี้เรามีเพื่อนร่วมงานทีมใหม่เข้ามา ทั้งพนักงานของเราและชาวบ้านพาตื่นเต้นเลยมารอต้อนรับพวกเขาน่ะครับ" เอนกอธิบายถึงการของผู้คนมากมายในวันนี้ให้ผู้มาใหม่ฟัง
"สวัสดีครับ" ทันทีที่สิ้นเสียงของเอนกได้มีชายกลุ่มหนึ่งประมาณห้าคนเดินเข้ามาในห้องและส่งเสียงทักทายผู้ที่มาก่อนด้วยกิริยามารยาทที่สุภาพ
"นี่คือผู้กองเก่ง ข้างขวาของเขานั้นคือหมวดตรี ถัดไปเป็นหวดโท ด้านซ้ายของเขาหมวดเอกและคนสุดท้ายหมวดครบ พวกเขาเป็นทีมวิหค..ทีมวิหคจะมาช่วยเราปิดคดีเรื่องพ่อค้ายารายใหญ่ที่กำลังลอยนวลอยู่ คุณ..ไม่ขัดข้องใช่ไหมครับผู้กองเฟรนด์" เอนกแนะนำกลุ่มคนที่เข้ามาใหม่ให้กับทั้งสามคนได้รู้จัก และในประโยคสุดท้ายเขาถามความเห็นจากผู้กองเฟรนด์ถึงแม้เขาจะรู้คำตอบดีว่าเป็นอย่างไรก็ตาม
"ผมมีสิทธิ์นั้นเหรอครับ ผมโทโมะแต่ทุกคนที่นี่เรียกผมว่าเฟรนด์..ยินดีที่ได้รู้จักครับ" โทโมะถามกวนกลับเอนกไปทีโดยไม่คิดว่าคนอื่นจะมองตนลามปามแต่อย่างใด เป็นเพราะเขากับผู้บังคับบัญชานั้นสนิทกันเกินกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จากนั้นเขาได้หันไปแนะนำตนเองกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่และก้มคำนับด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" เป็นเสียงของผู้กองเก่งที่ทักตอบผู้กองเฟรนด์ แต่ด้วยท่าทางที่หยิ่งและแข็งทื่อไม่อ่อนน้อมสุภาพเช่นผู้กองเฟรนด์ ในขณะเดียวกันลูกน้องของเขาก็ทำเช่นเดียวกัน
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีให้คนหาแฟ้มประวัติของผู้ต้องหาให้น่ะครับ ป่านนี้คงจะได้แล้ว" ผู้กองเก่งโชว์พลังของเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ารับตำแหน่ง และเพื่อแสดงศักยภาพของตนเองว่าเขานั้นจริงจังและมีความตั้งใจกับงานมากเพียงใด เขาจึงไม่อยากเสียเวลากับการแนะนำตัวเองมากนัก
"เชิญตามสบายครับผู้กอง" เอนกตอบผู้กองเก่งไปด้วยรอยยิ้มและดูท่าทีเขาจะภูมิใจกับตำรวจหนุ่มไฟแรงคนนี้ไม่น้อย ทำเอาผู้กองเฟรนด์ที่นั่งมองดูเขาอยู่นั้นเกิดหมั่นไส้เขาขึ้นมาเต็มอารมณ์
"แค่นี้ใช่ไหมครับที่ท่านลงทุนโทรตามผมด้วยตัวเอง" ผู้กองเฟรนด์ถามกระแนะกระแหนเอนกไปที เขารู้สึกทนไม่ไหวกับใบหน้าอิ่มเอิบที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นอย่างมาก
"นี่..น้อยๆ หน่อยไอ้ผู้กอง ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาของนายนะจะพูดจาอะไรให้เกียรติฉันหน่อย ยิ่งต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆ ด้วยแล้วยิ่งต้องคิดถึงหน้าฉันให้มากๆ เข้าใจไหมครับไอ้ผู้กองฟรายยย" เอนกต่อว่าโทโมะที่เขาทำให้คำพูดของตนนั้นดูไม่น่าเชื่อถือ
"ผมไปล่ะ" โทโมะลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที่ที่เขาถูกเรียกด้วยคำว่า 'ฟราย' มันเป็นชื่อที่เขาไม่ชอบเอาซะเลย มีเพียงเอนกคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเรียกเขาแบบนั้นได้โดยที่เขาไม่ลงมือทำอะไรนอกจากทำท่าทางฟึดฟัดใส่แล้วเดินหนีไป แต่ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะกระโดดเตะก้านคอไปสักทีสองทีหรือไม่ก็จัดการปิดปากด้วยปืนกระบอกคู่ใจของเขาไปแล้ว
"เพิ่งพูดไปหยกๆ หักหน้าฉันอีกแล้วไอ้เจ้านี่ ฮึ่ย!" เอนกไม่พอใจเขาเล็กน้อยที่ลุกพรวดพราดแล้วเดินออกไปโดยไม่ทำความเคารพตน
"ไม่เป็นไรหรอกครับท่าน พวกผมชินแล้ว ฮะๆ" ดาบเคียงพูดแซวผู้บังคับบัญชาของเขาไปที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเอนกกับผู้กองเฟรนด์เขาจึงไม่มีท่าทางกลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ตามมาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขาเข้าใจทั้งคู่เป็นอย่างดี
"ยังไงผมฝากไอ้ผู้กองเย็นชานั่นด้วยแล้วกันนะครับ ยังไงก็อย่าเพิ่งให้มันเป็นอะไรไปก่อนจะปิดคดีใหญ่" คำพูดของเขาช่างขัดกับท่าทีและสีหน้าที่แสดงออกจนต้องรีบหันหลังหันกับดาบทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะดูออก
"รับทราบครับ" ดาบเคียงและดาบสินรับคำของเอนกด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ถึงแม้เอนกจะไม่บอกเขาทั้งสองนั้นดูแลเจ้านายของเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะพวกเขาต่างรักเจ้านายของเขาดั่งคนในครอบครัวเดียวกัน
***ฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติ ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
รีดเดอร์ทั้งหลายสามารถอ่านและจิ้นตามกันไปกับเนื้อเรื่องได้ แต่อย่าคิดจริงจังนะเจ้าค่ะ
ชอบฟิคชั่นเรื่องนี้ กดโหวต ไลค์ แชร์กันได้ตามใจเลยจร้า
แต่อย่าอ่านแล้วกดออกไปโดยไม่เม้นให้กันนะเจ้าค่ะ
ไรเตอร์จะตามไปหลอนถึงบ้านเลยเจ้าค่าาา***
ปล.แนะนำ ติ ชมกันได้เต็มที่เลยจร้า ติ! น่ะจ่ะ ไม่ใช่ด่า คริคริ
"งานง่ายๆ แค่นี้พวกแกก็ทำให้มันพลาด เลี้ยงเสียข้าวสุก!!" เจียง หนุ่มคนเดิมที่ร้องโวยวายก่อนหน้านี้พูดอย่างหัวเสีย เขาชี้หน้าและใส่อารมณ์กับดำแดง ลูกน้องของเขาทั้งสองที่ทำงานพลาดไปเมื่อคืนนี้
"สะ..เสี่ยครับ......." ดำ ลูกน้องของเจียงกำลังจะเอ่ยคำแก้ตัวแต่เขานั้นพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ทำให้คำที่จะเอ่ยต่อไปนั้นถูกกลืนหายกลับลงคอไปตามเดิม
"หุบปากของแกไปเลยไอดำ!! งานนี้ฉันต้องสูญเสียไปตั้งเท่าไหร่แกรู้ไหมฮะ!! ไหนจะเสี่ยหม่าอีกที่โทรมาด่าฉันทั้งวัน โว้ยยยยยยย!!! แล้วไอสองตัวนั้นมันอยู่ที่ไหนวะ ไอแดง!?" เจียงหัวเสียมากไม่น้อยกับเรื่องการส่งของที่ผิดพลาดของลูกน้อง เพราะสินค้าล็อตเมื่อคืนทำรายได้ให้กับเขามากพอสมควร ไหนจะยังเป็นกังวลเพราะกลัวจะถูกซัดทอดจากสองพี่น้องนั้นอีก อารมณ์ของเขาตอนนี้ยากเกินจะควบคุมให้เป็นปกติได้จึงหันไปตะคอกถามลูกน้องอีกคนหนึ่งที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหลังของดำ
"คะ..ครับเสี่..ยย" แดงตอบรับเจ้านายแบบกล้าๆ กลัวๆ โดยไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองสบตากับเจียงตรงๆ
"ไอ้-สอง-ตัว-นั้น-มัน-อยู่-ไหน" เจียงเน้นคำถามของเขาทีละคำให้แดงฟังอย่างชัดเจนและใช้สายตาดุดันของตนนั้นจ้องมองเขาอย่างต้องการคำตอบ และต้องเป็นคำตอบที่ฟังแล้วเขาพอใจเสียด้วย ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมามากกว่านี้ก็เป็นได้
"อะ..เอ่อ.....คือ.....โอ้ว! ไม่ทราบครับเสี่ยพอพวกมันโดนจับผมสองคนก็รีบกลับมาเลยครับยังไม่ทันสืบข่าวให้แน่ชัดคร้าบเสี่ยคร้าบ โอ๊ย!" แดงอึกอักกับคำตอบของตนจนเจียงทนไม่ไหวควักปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าของเขา ด้วยความกลัวสุดขีดเขาจึงพูดร่ายยาวโดยไม่คิดจะหยุดพักหายใจ เพราะเขาคิดว่าหากหยุดหรือคำตอบของตนสะดุดไม่ไหลลื่นแล้วเขาคงจะต้องโดนจบชีวิตด้วยปืนกระบอกนั้นเป็นแน่ แต่คำตอบของเขาก็ยังไม่ดีพอสำหรับเจ้านายจึงโดนตบด้วยปืนกระบอกนั้นที่มุมปากเข้าเต็มแรง
"ไม่รู้เหรอหา!! ไอ้พวกโง่! แกสองคนรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้ฉันก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแกแทน ไป!!" เจียงะคอกด่าสองลูกน้องสุดโง่เง่าของเขาก่อนจะเอ่ยไล่ให้ทั้งสองไปทำงานตามคำสั่งของตน และยังขู่ทิ้งท้ายไว้อีกด้วยหากพวกเขาทำงานผิดพลาดซ้ำสอง
สิ้นคำของเจียงดำและแดงต่างพากันวิ่งกรูออกจากบ้านของเขาทันที ทั้งสองกระโจนขึ้นรถด้วยความรวดเร็วและขับรถมุ่งหน้าไปยังท่าเรือ ที่ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เจอหลักฐานหรือล่องลอยอะไรให้พวกเขาสืบรู้เลยว่าสองพี่น้องนั้นถูกจับตัวไปไว้ไหน ครั้นจะไปสอบถามหาความกับใครเห็นทีจะไม่ได้ผลเป็นแน่
"ไม่เห็นมีอะไรเลยว่ะ เอาไงดีวะ" แดงเอ่ยถามกับดำ ซึ่งเป็นลูกพี่ชายแท้ๆ ของเขาเองอย่างหมดหนทาง
"เฮ้ย" ดำไม่ได้ตอบคำถามของน้องชายเพียงแต่ร้องเรียกและใช้มือสะกิดแดงเบาๆ ให้ดูกลุ่มคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางพวกเขา
"เดี๋ยวก่อน........นายสองคนนั่นแหละ มาทำอะไรที่นี่" โทโมะถามด้วยน้ำเสียงเข้มพร้อมกับมองชายแปลกหน้าทั้งสองอย่างพิจารณา
"เอ่อคือ.......อ๋อ ผมมารับน้องชายผมครับ มันเพิ่งข้ามฝั่งมาจากเกาะนู้นครับ พวกผมขอตัวก่อนนะครับ" ดำตอบปัดไปอย่างนั้นเองเพื่อไม่ให้ตนกับน้องชายดูมีพิรุธแล้วเดินจากไปในทันที
"ผมว่าสองคนนั้นดูแปลกๆ นะครับผู้กอง" จ่าอุงดูท่าทางของดำและแดงแล้วเขาไม่คิดอยากเชื่อคำตอบของดำเลย
"ช่างเถอะจ่า รีบไปตรวจดูรอบๆ นี้อีกทีเสร็จแล้วจะได้เข้าสำนักงานใหญ่สักที ไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรท่านถึงได้โทรตามผมด้วยตัวเอง" ประโยคสุดท้ายผู้กองหนุ่มแอบบ่นให้ลูกน้องของตนฟัง เพราะเขาเองยังคิดไม่ตกว่ามีเรื่องคอคาดบาดตายอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ทำไมผู้บังคับบัญชาหรือเจ้านายใหญ่ของเขาถึงเสียสละเวลาโทรเรียกให้เขาไปพบด้วยตนเอง ทั้งที่โดยปกติแล้วเขาจะสั่งงานผ่านเลขาให้เลขาของเขาสั่งงานมายังตนอีกที
"ครับผู้กอง" จ่าอุงรับคำสั่งจากเจ้านายแล้วหันไปสั่งลูกน้องของเขาทันที
ณ สำนักงานใหญ่กองปราบปรามยาเสพติดแห่งประเทศ
วันนี้ภายในสำนักงานเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งพนักงานประจำและชาวบ้านที่มารอรับผู้กองคนใหม่ ที่มีคนให้ความสนใจมากถึงขนาดทำให้สำนักงานวุ่นวายและดูคับแคบไปถนัดตานั้น เป็นเพราะเขามีชื่อเสียงเรียงนามโด่งดังนับได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขา อีกทั้งยังด้วยรูปร่างหน้าตาของเขานั้นดูดีหล่อไม่แพ้ผู้กองเฟรนด์ขวัญใจของทุกคน
"ขออนุญาตครับ" โทโมะส่งเสียงถึงคนภายในห้องก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องตามมารยาท
"เชิญ......ทุกคนเชิญนั่ง" เอนก ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองปราบปรามยาเสพติดกล่าวเชิญผู้กองเฟรนด์และผู้ติดตามเขาอีกสองคน
"วันนี้คนเยอะดีนะครับท่าน เต็มแน่นไปหมดสำนักงานเลย หะๆ" ดาบสินพูดทีเล่นทีจริงแกมหยอกเจ้านายเพื่อสร้างบรรยากาศ
"ครับดาบสิน เป็นเพราะวันนี้เรามีเพื่อนร่วมงานทีมใหม่เข้ามา ทั้งพนักงานของเราและชาวบ้านพาตื่นเต้นเลยมารอต้อนรับพวกเขาน่ะครับ" เอนกอธิบายถึงการของผู้คนมากมายในวันนี้ให้ผู้มาใหม่ฟัง
"สวัสดีครับ" ทันทีที่สิ้นเสียงของเอนกได้มีชายกลุ่มหนึ่งประมาณห้าคนเดินเข้ามาในห้องและส่งเสียงทักทายผู้ที่มาก่อนด้วยกิริยามารยาทที่สุภาพ
"นี่คือผู้กองเก่ง ข้างขวาของเขานั้นคือหมวดตรี ถัดไปเป็นหวดโท ด้านซ้ายของเขาหมวดเอกและคนสุดท้ายหมวดครบ พวกเขาเป็นทีมวิหค..ทีมวิหคจะมาช่วยเราปิดคดีเรื่องพ่อค้ายารายใหญ่ที่กำลังลอยนวลอยู่ คุณ..ไม่ขัดข้องใช่ไหมครับผู้กองเฟรนด์" เอนกแนะนำกลุ่มคนที่เข้ามาใหม่ให้กับทั้งสามคนได้รู้จัก และในประโยคสุดท้ายเขาถามความเห็นจากผู้กองเฟรนด์ถึงแม้เขาจะรู้คำตอบดีว่าเป็นอย่างไรก็ตาม
"ผมมีสิทธิ์นั้นเหรอครับ ผมโทโมะแต่ทุกคนที่นี่เรียกผมว่าเฟรนด์..ยินดีที่ได้รู้จักครับ" โทโมะถามกวนกลับเอนกไปทีโดยไม่คิดว่าคนอื่นจะมองตนลามปามแต่อย่างใด เป็นเพราะเขากับผู้บังคับบัญชานั้นสนิทกันเกินกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จากนั้นเขาได้หันไปแนะนำตนเองกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่และก้มคำนับด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" เป็นเสียงของผู้กองเก่งที่ทักตอบผู้กองเฟรนด์ แต่ด้วยท่าทางที่หยิ่งและแข็งทื่อไม่อ่อนน้อมสุภาพเช่นผู้กองเฟรนด์ ในขณะเดียวกันลูกน้องของเขาก็ทำเช่นเดียวกัน
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีให้คนหาแฟ้มประวัติของผู้ต้องหาให้น่ะครับ ป่านนี้คงจะได้แล้ว" ผู้กองเก่งโชว์พลังของเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ารับตำแหน่ง และเพื่อแสดงศักยภาพของตนเองว่าเขานั้นจริงจังและมีความตั้งใจกับงานมากเพียงใด เขาจึงไม่อยากเสียเวลากับการแนะนำตัวเองมากนัก
"เชิญตามสบายครับผู้กอง" เอนกตอบผู้กองเก่งไปด้วยรอยยิ้มและดูท่าทีเขาจะภูมิใจกับตำรวจหนุ่มไฟแรงคนนี้ไม่น้อย ทำเอาผู้กองเฟรนด์ที่นั่งมองดูเขาอยู่นั้นเกิดหมั่นไส้เขาขึ้นมาเต็มอารมณ์
"แค่นี้ใช่ไหมครับที่ท่านลงทุนโทรตามผมด้วยตัวเอง" ผู้กองเฟรนด์ถามกระแนะกระแหนเอนกไปที เขารู้สึกทนไม่ไหวกับใบหน้าอิ่มเอิบที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นอย่างมาก
"นี่..น้อยๆ หน่อยไอ้ผู้กอง ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาของนายนะจะพูดจาอะไรให้เกียรติฉันหน่อย ยิ่งต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆ ด้วยแล้วยิ่งต้องคิดถึงหน้าฉันให้มากๆ เข้าใจไหมครับไอ้ผู้กองฟรายยย" เอนกต่อว่าโทโมะที่เขาทำให้คำพูดของตนนั้นดูไม่น่าเชื่อถือ
"ผมไปล่ะ" โทโมะลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที่ที่เขาถูกเรียกด้วยคำว่า 'ฟราย' มันเป็นชื่อที่เขาไม่ชอบเอาซะเลย มีเพียงเอนกคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเรียกเขาแบบนั้นได้โดยที่เขาไม่ลงมือทำอะไรนอกจากทำท่าทางฟึดฟัดใส่แล้วเดินหนีไป แต่ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะกระโดดเตะก้านคอไปสักทีสองทีหรือไม่ก็จัดการปิดปากด้วยปืนกระบอกคู่ใจของเขาไปแล้ว
"เพิ่งพูดไปหยกๆ หักหน้าฉันอีกแล้วไอ้เจ้านี่ ฮึ่ย!" เอนกไม่พอใจเขาเล็กน้อยที่ลุกพรวดพราดแล้วเดินออกไปโดยไม่ทำความเคารพตน
"ไม่เป็นไรหรอกครับท่าน พวกผมชินแล้ว ฮะๆ" ดาบเคียงพูดแซวผู้บังคับบัญชาของเขาไปที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเอนกกับผู้กองเฟรนด์เขาจึงไม่มีท่าทางกลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ตามมาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขาเข้าใจทั้งคู่เป็นอย่างดี
"ยังไงผมฝากไอ้ผู้กองเย็นชานั่นด้วยแล้วกันนะครับ ยังไงก็อย่าเพิ่งให้มันเป็นอะไรไปก่อนจะปิดคดีใหญ่" คำพูดของเขาช่างขัดกับท่าทีและสีหน้าที่แสดงออกจนต้องรีบหันหลังหันกับดาบทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะดูออก
"รับทราบครับ" ดาบเคียงและดาบสินรับคำของเอนกด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ถึงแม้เอนกจะไม่บอกเขาทั้งสองนั้นดูแลเจ้านายของเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะพวกเขาต่างรักเจ้านายของเขาดั่งคนในครอบครัวเดียวกัน
***ฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติ ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
รีดเดอร์ทั้งหลายสามารถอ่านและจิ้นตามกันไปกับเนื้อเรื่องได้ แต่อย่าคิดจริงจังนะเจ้าค่ะ
ชอบฟิคชั่นเรื่องนี้ กดโหวต ไลค์ แชร์กันได้ตามใจเลยจร้า
แต่อย่าอ่านแล้วกดออกไปโดยไม่เม้นให้กันนะเจ้าค่ะ
ไรเตอร์จะตามไปหลอนถึงบ้านเลยเจ้าค่าาา***
ปล.แนะนำ ติ ชมกันได้เต็มที่เลยจร้า ติ! น่ะจ่ะ ไม่ใช่ด่า คริคริ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ