>> I ask >> [Kris x Yeol, Tao x Hun] NC

-

เขียนโดย Zelynn

วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.11 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  23.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 00.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) Ask for "Love"

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
“คริส~ เราหนาว~” หลังจากจัดการแอปเปิ้ลครัมเบิ้ล ฟิชแอนด์ชิพ แล้วก็ซุปฟักทองเรียบร้อย เด็กหนุ่มที่ใช้เวลาก่อนนอนจัดการกับตารางเรียนของวันพรุ่งนี้อยู่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงห้าวๆ แต่ช่างอ้อนของรูมเมทที่หอบหมอนมาเคาะห้องกลางดึก
 
 
ดวงตากลมโตพราวหยดน้ำจนขนตายาวเปียกชื้นไปหมด ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนก็ห่อสั่นราวกับลูกนก อี้ฟ่านจูงมือบางเชื้อเชิญคนขวัญเสียเข้ามานั่งบนเตียง
 
 
 
“ฝันร้ายหรือไง” ร่างโปร่งพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงกับตักของเจ้าของห้องที่เต็มใจให้หยิบยืมท่อนขาเสียเต็มประดา
 
 
ไร้ซึ่งคำปลอบโยน ริมฝีปากอุ่นแตะจูบหวานๆ กับกลีบปากบาง ดุนดันเอาความอุ่นเข้าแทนที่จนพวงแก้มของอีกฝ่ายแดงระเรื่อ
 
 
“เราก็หนาว” อ้อมกอดเก้ๆ กังๆ ของแขนเรียวยาวประคองอีกฝ่ายเอาไว้หมายจะทะนุถนอม ปลายจมูกก็ฝังลงกับผิวเนื้อสูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของผิวเนียนไว้ในอก
 
“ชานยอล ทำไงดี~” ชีวิตวัยรุ่นมันไม่ง่าย ไม่เชื่อลองมาเป็นวัยรุ่นที่กำลังเหงาเพราะอยู่ไกลบ้านแบบเค้าซิ นอกจากจะทั้งเหงาและหนาวแล้ว ยังมีแฟนหนุ่มหน้าตาน่ารักมาอยู่ใกล้ๆ ให้รู้สึกปั่นป่วนในอกอีก
 
“ทรมานเหรอ”
 
“ก็... นิดนึง” ในใจอี้ฟ่านค้านเบาๆ ว่าเค้าโกหก มันมากมายจนจะเอ่อล้นอยู่รอมร่อแล้วต่างหาก
แต่พอสบกับดวงตากลมใสของอีกฝ่าย เค้าก็สงบลง
 
“นอนก่อนเถอะ ขอเราไปล้างหน้าหน่อย”
 
 
 
น้ำเย็นจัดรังแต่ทำให้ผิวชั้นนอกชา ไม่เห็นจะช่วยเรื่องอื่นได้เลย อี้ฟ่านทิ้งตัวลงกับขอบอ่างแล้วกอดเข่าเอาไว้แน่น นานอยู่หลายนาที ความร้อนในตัวจึงค่อยๆ หมดไป
 
ออกมาอีกที ร่างเพรียวบางบนเตียงก็นอนหลับตาพริ้มเรียบร้อยแล้ว เจ้าของห้องลูบผิวแก้มเนียนเบามือก่อนจะแต้มจูบเบาลงไปสำทับ พอสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันคนอาศัยก็ซุกหาความอุ่นอย่างรู้หน้าที่ อี้ฟ่านเกลี่ยเส้นไหมสีอ่อนที่ปรกหน้าผากเนียนเบามือแล้วบรรจงแตะจูบแผ่วเบาแทนเพลงกล่อมให้ฝันดี
 
“ไม่หลับล่ะ ยังหนาวอยู่หรือ?” เปลือกตาบางพับเป็นชั้นสวยโชว์ดวงตาใสแจ๋วราวกับแก้ว อี้ฟ่านนึกอยากงับปลายจมูกโด่งรั้นปลายนั่นเล่นจริงๆ
 
 
 
“หนาว~” อีกฝ่ายทำเสียงเล็กเสียงน้อยทั้งออดทั้งอ้อนจนเด็กหนุ่มอ่อนใจ ครั้นจะกอดจะจูบให้อุ่นก็กลัวจะยั้งใจไม่ทัน ตื่นมาจะมองหน้ากันไม่ติด ยิ่งทั้งเมืองตอนนี้ชานยอลเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อี้ฟ่านสนิทเสียด้วย ไม่ซิ ไม่ใช่แค่สนิท ชานยอลคือทุกอย่างต่างหาก  ถ้าชานยอลไม่คุยด้วยเด็กหนุ่มก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะอยู่กับเมืองเหงาๆ นี่ยังไง
 
“เพิ่มฮีทเตอร์ให้เอามั้ย” ผละลุกขึ้นจากที่นอน เรียวแขนขาวก็เกี่ยวเอาไว้แน่น ชานยอลงุดหน้าจนคางจรดกับอกแล้วส่ายหัวดุ๊กดิ๊กเบาๆ
 
“ชั้นกอดตลอดคืนไม่ไหวหรอกนะ มันยากไปชานยอล” อี้ฟ่านบอกเสียงอ่อย ต้องขอบคุณป๊ะป๋าอู๋เจี้ยนหาวที่สอนให้ลูกชายสุดที่รักโตทั้งด้านความคิดและจิตใจ
 
“แล้วถ้าเรากอดเองล่ะ” เด็กหนุ่มอยากจะขำพรืด โถ~ ปาร์คชานยอล จะใจร้ายเกินไปแล้วนะ
 
“ชั้นกอดหรือชานยอลกอด ผลลัพธ์มันก็เท่ากันตรงที่เรากับชานยอลกอดกัน เชื่อเถอะว่าชั้นไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับการกอด ชั้นอยากถนอมชานยอลเอาไว้นะ” อี้ฟ่านกดคางลงกับหัวทุยของอีกฝ่าย แถมจูบกับเส้นไหมนุ่มๆ ด้วย
 
“แล้วถ้าเราบอกว่าเราโอเคล่ะ” น้ำเสียงดื้อดึงเจือไว้ด้วยความขลาดกลัวจนอี้ฟ่านชะงัก ใครจะคิดว่าชานยอลกล้ากว่ารูปลักษณ์ที่เห็นภายนอก เด็กหนุ่มเสยผมหน้าม้าที่ปรกหน้าผากมนขึ้นแล้วต้มจูบลงเบาๆ ก่อนจะรวบเอามือบางมาจูบก้านนิ้วสวยแล้วกุมไว้แนบอก
 
“ยังไม่ใช่เวลานี้หรอก ชั้นรักชานยอลมากนะ รักจนไม่อยากทำให้ขุ่นเคือง ไม่อยากให้เจ็บปวด แค่เศษเสี้ยวของความเสียใจของชานยอลชั้นก็ไม่อยากให้มี สัญญากับชั้นก่อนว่าจะไม่พูดแบบนี้อีก” สรรหาถ้อยคำอ่อนโยนมาปลอบทั้งไม่ให้คนดีของอี้ฟ่านเสียใจและไม่ให้อับอาย หัวทุยกลมผงกอกแผงอกหงึกๆ เป็นสัญญาณให้รับรู้ว่าทั้งยอมรับและเข้าใจในการกระทำของคนรัก
 
 
 
ไอ้ตอนพูดเท่ห์ๆ น่ะพูดได้ แต่พอเอาเข้าจริงอี้ฟ่านได้แต่นอนกัดฟันกรอดๆ นอนซ้อนหลังแบบนี้ไม่ดีเลย แผ่นหลังบางที่แนบกับอกเค้ากระเพื่อมเป็นจังหวะอ่อนโยน ลาดไหล่ขาวน่าทะนุถนอม เอวคอดเว้าเป็นส่วนโค้งน่าชมเชย ไหนจะก้นนิ่มๆ ที่เบียดช่วงล่างของเด็กชายอยู่อีก มันมากมายไปมั้ย ใครใช้ให้นอนซ้อนหลังกันครับคนดี
 
 
 
เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายนอนหลับสนิทแล้ว เด็กหนุ่มเจ้าของร่างสูงโปร่งก็ค่อยละตัวจากผ้าห่มผืนหนาและเตียงหลังอุ่นมานั่งขดตัวบนโซฟากับ Neoplasia and Pathological Fractures เล่มหนาในมือ เขาถอนหายใจยืดยาวขณะมองร่างบางที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงกว้างสลับกับหน้ากระดาษ ความรู้สึกหลากหลายถาโถมจนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเจ้าตัวกำลังสับสน ไอ้เรื่องรักชานยอลนี่ก็รัก อี้ฟ่านบอกไม่ได้ว่าเริ่มรักชานยอลตั้งแต่เมื่อไหร่ รักได้ยังไง  รู้อีกทีก็เหมือนว่าชานยอลมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเค้าไปเสียแล้ว หลายครั้งที่เด็กหนุ่มสับสนระหว่างความรู้สึกระหว่างคนรักกับน้องชาย เส้นบางๆ ที่ขีดกั้นความห่วงใยโยงเอาไว้ได้ก้ำกึ่งจนเด็กชายนึกกลัว หากความเป็นจริงเค้ารักชานยอลแค่น้องล่ะ
 
 
เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยกัน บ่อยครั้งที่นายแม่บังคับให้ลูกชายตัวดีดูแลอีกฝ่ายด้วยความเป็นน้อง อี้ฟ่านก็แค่ทำตามคำสั่งไปแกนๆ รู้ตัวอีกทีเค้าก็คอยดูแลน้องจนเป็นนิสัย ชานยอลเองโตมาก็ติดเค้าอย่างกับอะไร เดินตามกันต้อยๆ เป็นลูกเป็ดแรกเกิดจนเริ่มโตเป็นหนุ่ม หลายครั้งอี้ฟ่านก็คิดว่าตัวเองรักชานยอลเสียเต็มประดา แต่บางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น
 
“พ่อฮะ” น้ำเสียงอ่อนๆ ของเจ้าตัวดีทำให้คนเป็นพ่อวางปากกาหมึกซึมในมือลงเพื่อตั้งใจฟังลูกชายที่โทรมาหาจากต่างเมือง
 
“พี่อี้ฟ่านเล่ามาได้เลยนะ พ่อฟังอยู่” เพราะเป็นลูกชายสุดที่รักคนเดียว เด็กหนุ่มเลยไม่เคยมีความลับกับคนเป็นพ่อ ซึ่งนั่นไม่นับรวมถึงเรื่องที่อู๋อี้ฟ่านละเลยที่จะบอกไป
 
 
เรื่องแบบนั้นไม่ถือเป็นความลับ
 
 
“พ่อเคยต้องใช้ความอดในการรักใครซักคนมั้ยฮะ เอ่อ ผมหมายถึงแม่นั่นล่ะ ตอนที่รักกับแม่ พ่อต้องอดทนมากมั้ย” คนเป็นพ่ออดขำไม่ได้ ไอ้เรื่องอดทนกับแม่ของเจ้าตัวดีนี่แทบจะไม่เคยมีในเอนไซโคบิเดียของอู๋คนพ่อเลยซักนิด น่าอับอายลูกเต้าจริงๆ
 
“อู๋อี้ฟ่าน พ่ออาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนัก แต่โอเคเราจะไม่โกหกกัน พ่อสารภาพว่าไม่เคยมีวินาทีไหนเลยที่อยู่ใกล้กับแม่ของลูกแล้วสามารถอดทนต่อความรักที่มีได้ ซึ่งนั่นไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเป็นที่สุด”
 
“แล้วพ่อรู้สึกแย่หรือเปล่าฮะ”
 
“จะเรียกว่าแย่ก็คงไม่เชิง พ่อยืนยันคำตอบเดิมว่ามันไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดี พ่อรักแม่ของอี้ฟ่านมาก บางครั้งนั่นอาจจะเป็นคำตอบที่ถูกแม้ว่าวิธีการจะผิดก็เถอะ ข้อสำคัญคือการที่เรารักใครสักคน การเอาใส่ใจและแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายมันสำคัญมากกว่า เมื่อลูกมองเห็นถึงจุดนี้ การอดทนมันจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย” คุณพ่อพูดแต่ละถ้อยคำช้าๆ และชัดเจน เค้าไม่ต้องการให้เจ้าตัวแสบพลาดอะไรแม้แต่พยางค์เดียว
 
“สรุปคือ คำตอบไม่ได้อยู่ที่ถูกหรือผิด บางครั้งทฤษฎีเดียวกันก็ไม่สามารถนำมาตัดสินสถานการณ์ของแต่ละบุคคลได้ ให้ความสำคัญและคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายให้มากเข้าไว้คนเก่ง”
 
“โอเคฮะ ผมรักพ่อนะ”
 
“พ่อก็รักพี่อี้ฟ่านครับ” หลังจากถามสารทุกข์สุกดิบกันอีกนิดหน่อย เด็กหนุ่มตัวสูงก็บอกลาและวางโทรศัพท์ ความคิดทั้งหมดพุ่งตรงไปยังแขกที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ริมฝากแดงอิ่มวาดยิ้มเบาๆ
 
 
เมื่อหมอกควันในใจบางเบาลง เค้ามองเห็นภาพของชานยอลชัดเจนขึ้นทีเดียว......

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา