The opera concerto เำพลงรักในยามวิกาล

-

เขียนโดย LoverPF

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.38 น.

  9 บท
  1 วิจารณ์
  16.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 19.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) Sunday morning (อรุณสวัสดิ์ความรัก)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
บทที่สอง Sunday Morning (อรุณสวัสดิ์ความรัก)
 

 
 
 
 
 
 
       เสียงกดชัตเตอร์รัวตรงข้างๆริมทะเล ทีมงานบางคนต่างรีบกันจัดฉากถ่ายแบบ นิตยสาร คอลัมน์ใหม่ภายในฤดูร้อนนี้ของบริษัท ‘สคาย’ นางแบบกิติมาศักดิ์จากประเทศนิวยอร์ก ผมสีบลอนด์ตัดกับชุดทูพีชสีฟ้า โพสท่าอย่างมืออาชีพ ตากล้องกดชัตเตอร์แบบหยุดไม่ได้เพราะท่าทีเธอโพสเพอร์เฟ็กทั้งนั้นเมื่อการถ่ายแบบสิ้นสุดลง ทุกคนต่างเลิกกองและขอตัวไปพักผ่อนก่อนที่จะมาปาร์ตี้กันตอนค่ำนี้
 
 
“พี่เมฆครับ พี่คิดว่า นิตยสารตอนซัมเมอร์นี้ พี่เมฆคิดว่าผ่านไหมครับ?”ทีมงานถามบอสใหญ่ของเขา นั่นก็คือเมฆ
 
 
“อืม...”เขายังไม่ให้คำตอบและทีมงานทุกคนต่างรอลุ้นอยู่ข้างหน้าเขาเป็นตั้งสิบกว่าชีวิต
 
 
“ผมคิดว่า...นิตยสารคอลัมน์นี้ของเรามัน...เพอร์เฟ็กมากทุกคน มันยอดมากเลย หล่ะ”เขาลองแกล้งทีมงานเล่นๆดูแต่ผมสุดท้ายเขาคิดว่า คอลัมน์นี้สุดยอดเลยหล่ะ
 
 
“จริงเหรอครับบอส ขอบคุณครับบอส งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับบอส”
 
 
“อื้ม...พวกนายอย่าลืมมาปาร์ตี้ตอนกลางคืนหล่ะ”เขาพูดทิ้งทายไว้
 
 
“ไม่พลาดอยู่แล้วครับ/ค่ะ บอส”ทีมงานหันมาตะโกนบอกบอสของเขาก่อนจะเดินเข้าไปในโรงแรม เมฆเรียนจบที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขามาบริหารบริษัทแทนคุณพ่อของเขาความจริงเขาเก่งทั้งสองด้านคือ ดนตรีกับถ่ายรูป เลยหันมาช่วยพ่อบริหารต่อน่าจะดีกว่า เมฆตอนนี้อายุ 24 ปีแล้วแต่เขาก็ยังหล่ออยู่เหมือนเดิม ทรงผมไม่เคยเปลี่ยนมีแต่รูปร่างเขาสูงขึ้น หน้าใสขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
 
 
“เจ้านายค่ะ ไม่ทราบว่าขอนั่งด้วยเจ้านายได้ไหมค่ะ?”เสียงหวานๆดังขึ้น นั่นก็คือ พลอย นั่นเองเธอสวยขึ้น ผมยาวขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่แต่ก็นะเธอยังเหมือนเด็กเหมือนเดิม เธอเพิ่งอายุ 24 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว เธอทักทายแฟนหนุ่มที่คบกันมาอยู่จน 5 ปี
 
 
“ไม่ให้นั่งตรงนี้ แต่นั่งในใจ เจ้านายคนนี้ได้ไหมครับ ลูกน้องคนสวย”ถึงจะกี่ปีเขาก็ยังปากหวานเหมือนเดิมจนคนในบริษัทอิจฉาหญิงสาวไปตามๆกัน
 
 
“นี่แหนะ!”เธออดไม่ไหว เธอเลยหยิกแขนเขาอย่างแรงจนเจ้าตัวต้องอุทานออกมา
 
 
“โอ๊ย เจ็บนะครับที่รักจ๋า พี่พูดผิดตรงไหน หืม..?”เขาเอ่ยก่อนที่จะอุ้มเธอมานั่งลงตักด้วยกัน
 
 
“พี่เมฆปล่อยพลอยนะ”เธอดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาและทุบอกเขาไม่ยั้ง
 
 
“ไม่! ตอบคำถามพี่มาก่อน พี่พูดผิดตรงไหน?”
 
 
“พี่เมฆเอาแต่ใจชะมัด”เธอพูดพร้อมย่นจมูกใส่เขา ทำอย่างนี้เขาเรียกว่า วอนให้จูบชัดๆ
 
 
“อ้าว! น้องน่าจะรู้แล้วนะว่าถ้าใครมาเป็นดวงใจของสายเมฆคนนี้ละก็...ต้องเป็นแบบนี้แหละ”เขาพูดเสร็จก็ไม่คิดทวนว่าจะก้มลงไปดมแก้มสีชมพูหวานนั้นไหมเพราะเขาหอมเธอลงไปตั้งสามสี่ครั้งอย่างคนติดกลิ่นหอมของอะไรสักอย่างไม่รู้จักพอ
 
 
“อื้อ...พี่เมฆพอแล้วค่ะ”เธอผลักหน้าเขาให้ออกไปจากแก้มเธอตอนนี้เพราะเธอก็อายคนอื่นเป็นเหมือนกันนะ
 
 
“เราต้องตอบคำถามพี่มาก่อน ว่าพี่พูดผิดตรงไหน ไม่งั้นพี่จะหอมอยู่อย่างนี้แหละไม่ต้องไปไหน เอาให้แก้มช้ำไปเลยดีไหมครับ?”เขาพูดเสร็จและก้มลงมาหอมอีกสักสองสามฟอดจนหญิงสาวต้องรีบตอบก่อนที่เธอจะแก้มช้ำเป็นลูกมะเขือเทศ
 
 
“พลอยแค่ล้อเล่นๆเอง พี่เมฆก็ล้อพลอยอย่างนี้ทุกวันไม่ใช่เหรอค่ะ”เธอเป็นฝ่ายโต้ตอบเขาบ้างแน่หล่ะ เขาชอบล้อเธอเล่นอยู่เรื่อย
 
 
“โอเคๆครับ พี่ยอมแพ้พลอยแล้วครับ เราไปเดินเล่นกันนะ”เขาพูดพร้อมอุ้มเธอลงและจูงมือเธอให้ไปเดินที่ริมทะเลด้วยกัน ตอนนี้ก็ประมาณห้าโมงเย็นแล้ว แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าทำให้ทะเลและท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มอมแดงกันไปเลยทีเดียว เขาและเธอเดินชมทะเลพร้อมกับฮัมเพลงไปพลางๆ
 
 
 
 
Sunday morning rain is falling ฝนที่กำลังตกในเช้าวันอาทิตย์ Steal some covers share some skin กับฉันและเธอที่โอบกอดมอบความอบอุ่นให้กันใต้ผ้าห่ม Clouds are shrouding us in moments unforgettable ดั่งเมฆโอบกอดเราไว้ช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากลืมเลยจริงๆ you twist to fit the mold that I am in เธอคือคนที่พอดีกับตัวฉันที่เป็นอยู่
 
 
“But things just get so crazy living life gets hard to do (แต่สิ่งต่างๆช่างดูสับสนวุ่นวายเหลือเกินแทบไม่รู้เลยว่าชีวิตต้องดำเนินอย่างไรต่อไป)”เธอร้องเพลงไปตามเขา เพลงนี้ Sunday morning เกี่ยวกับคนรักที่จะไม่พรากจากกันไปและจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เขาและเธอเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วเลยรีบกลับโรงแรมที่ทางโรงแรมเตรียมปาร์ตี้ไว้
 
 
“ยัยพลอย!ไอ้เมฆ! พวกแกหายไปไหนมา ฉันตามหาพวกแกโรงแรมแทบพลิกฉันมาทีหลังแค่สี่ชั่วโมงพวกแกกลับหายไปเตลิดเปิดเปิง”หอมพูดสะยาวโดยไม่เว้นวรรค หอมเธออายุ 24 ปีเช่นกันแต่เธอก็ยังห้าวๆอยู่ดี เธอทำงานเป็นดีไซน์เนอร์ของบริษัท สคายเช่นกัน แต่วันนี้เธอต้องไปดูเสื้อผ้าที่เชียงใหม่เลยขอตามมาทีหลัง
 
 
“นี่ยัยหอม ฉันแค่ไปเดินเล่นที่ทะเลมาแกบ่นสะยาวเลยนะย่ะ!”พลอยเอ่ย
 
 
“ก็นึกว่าพวกแกไป ชู้ปี้ด้าดั้บ กันฉันก็เลยอยากเห็น”หอมแซวทั้งสองคนเอาเป็นทั้งสองคนที่โดนแซวหน้าแดงก่ำ
 
 
“จะบ้าเหรอ ไอ้หอม ถ้าไม่คิดว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.ปลายนะ เดี๋ยวไล่ออกซะเลยนี้”เมฆพูดพลางๆให้คนข้างๆไม่เขินไปมากกว่านี้
 
 
“หอมก็แค่แซวเล่นเฉยๆ ดูสิเพื่อนฉันหน้าแดง เป็นลูกมะเขือเทศแล้วนั้นอ่ะ”หอมพูดพร้อมยื่นมือไปจับแก้มของพลอยที่หน้าแดงเอาการอยู่ตอนนี้
 
 
“ยัยหอม!”พลอยเป็นฝ่ายพูดบ้างแต่จะว่าไปเธออมยิ้มอยู่นะนั้นนะ
 
 
“โอเคๆ หอมไม่แกล้งแล้วค่ะ หอมหิวม๊ากมาก แปะยัยพลอยไอ้เมฆไปหาข้าวกินกัน”เธอพูดเสร็จพร้อมกอดคอทั้งสองคนให้ไปที่บุฟเฟต์อาหารทันที
 
 
“ไอ้เมฆ...”เสียงใครบางคนเรียกเขาอย่างดังสนั่นจนทุกๆคน ลูกน้อง พลอย หอม ต้องหันไปมองพร้อมกัน เขาผู้นั้นก็คือ...
 
 
“ไอ้ตะวัน!”เมฆเอ่ยขึ้นก่อนที่จะรีบวิ่งไปหาตะวันและกอดเพื่อน ตะวันเพื่อนของเมฆตั้งแต่ เข้าเมฆไปเรียนม.4ที่อังกฤษแต่พอจบ ม.6 ตะวันต้องไปต่อมหาวิทยาลัยด้าน กราฟิกที่ฝรั่งเศสเลยไม่ได้เจอกันหกปี ตะวันหล่อเท่าๆกับเมฆ เมฆอาจจะสูงกว่านิดหน่อย ตะวันเพลล์บอยตัวยงเลยหล่ะ เลยไม่รู้ว่าเขาจะหยุดอยู่ที่ใครกันแน่
 
 
“เฮ้ยแกๆแกคิดว่า คุณเมฆบอสของเราจะเป็นเกย์ไหม?”เสียงลูกน้องคนหนึ่งพูดเธอชื่อ ส้มเช้ง หรือใครๆก็เรียกเธอว่า เจ้ปากกว้าง เพราะเธอขาเมาส์สุดๆ
 
 
“ฉันว่าไม่นะแก คุณเมฆรักกับน้องพลอยจะตาย จะไปเป็นเกย์ เก้ง กวาง ได้ที่ไหน หล่ะ ถ้าเป็นจริงๆฉันหล่ะขอเป็นคู่เก่งของคุณเมฆอีกคนเถอะนะย่ะ”กระเทย ที่ชื่อ จินนี่เอ่ย จินนี่ที่เคยอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเมฆนั่นแหละ เธอมาขอทำงานด้วย และเธอสนิทสนมกับเจ้ส้มเช้งที่สุดแล้วหล่ะ
 
 
“เฮ้ยๆ เจ้ส้มค่ะ จินนี่จ้ะ หอมอยู่กับไอ้เมฆมานานโขแล้วนะค่ะ ไอ้เมฆไม่เป็น เก้ง กวางแน่นอนค่ะ หอมรับประกัน”หอมได้ยินสองคนนั้นพูดเลยขอร่วมวงสนทนาด้วยทันที
 
 
“ค่า คุณน้องหอม แต่พี่แค่ล้อคุณเมฆเล่นเฉยๆนะค่ะ อย่าซีเรียสสิค่ะ”ส้มเช้งเอ่ยอย่างเสียงเหยๆ
 
 
“ทุกคนครับ นี่ตะวันเพื่อนของผมครับ ตะวันจะมาทำงานที่นี้เป็นออกแบบกราฟิกให้บริษัทของเราครับ”เมฆเดินมาและแนะนำให้รู้จักเพื่อนของเขากลางปาร์ตี้ทันที
 
 
“สวัสดีครับ ผมชื่อตะวันเรียกว่า ตะวัน เฉยๆก็ได้นะครับ ผมจะมาทำงานเรื่องออกแบบกราฟิกให้กับ สคาย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”เขาพูดพร้อมยกมือสวัสดีอย่างผู้มีมารยาทและลูกน้องทุกคนก็ยิ้มหน้าบานกันเลยทีเดียวไม่รู้เพราะเขาหล่อหรือมีติวเตอร์มาช่วยกันแน่?
 
 
“เอาหล่ะครับ เชิญทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัยนะครับพรุ่งนี้เราก็จะกลับกรุงเทพกันเล้ว ขอให้คืนนี้ทุกคนสนุกอย่างเต็มที่นะครับ”เมฆเอ่ยจบเลยลากตะวันมาหา พลอยและหอมที่กำลังสนใจกับอาหารข้างหน้าทันที
 
 
“ยัยหอม แกตักเวอร์ไปไหมย่ะ?”พลอยที่กำลังว่าเพื่อนอยู่นั้นเห็นหอมตักอาหารสะไม่รู้จะกินหมดหรือเปล่ามีทั้งบาร์บีคิว พาสต้า ขนมปัง ไม่รู้ถ้าเธอกินเข้าไป เธอจะอ้วนตุ้บป่องหรือเปล่า
 
 
“อะไรกันยัยพลอย ฉันไม่ได้กินอะไรแบบนี้มานานแล้วนะ อยู่กรุงเทพฉันก็กังวลเรื่องความอ้วนจะตายอยู่แล้ว มาคราวนี้ขอฉันกินหน่อยเหอะนะๆ”หอมที่กำลังจะเอาขนมปังยัดใส่ปากตัวเองพูดและเธอก็สังเกตว่าใครกำลังเดินมาหาเธอ
 
 
“สาวๆ กินอะไรกันอยู่ครับ?”เมฆที่กำลังเดินมาเอ่ยถามพร้อมตะวันที่กำลังมองหน้า หอม ไม่รู้เขาอยากทำความรู้จักหรืออะไรกันแน่?
 
 
“ก็กินอย่างที่แกเห็นแหละ ไอ้เมฆ”หอมพูดพร่วดขึ้นมาโดยไม่ทันคิดว่ามี ‘คนที่ไม่รู้จักอยู่ด้วย’ บ้าชะมัดยัยหอมนิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยแกเนี่ย สอนไม่จำ
 
 
“ครับๆ พี่หอมครับผมยอมแล้วครับ พลอยครับนี้เพื่อนพี่ตั้งแต่ ม.4 เรียนที่เมืองนอกด้วยกัน ส่วนไอ้ตะวันนี่พลอยแฟนฉันทำงานแผนกออกแบบเหมือนกัน ส่วนนี่ไอ้หอมแผนกดีไซน์เนอร์”เขาแนะนำให้รู้จักทั้งหมดพลอยและหอมยิ้มตามมารยาท
 
 
“สวัสดีครับตะวันครับยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณพลอย คุณหอม”เขาทำสายตาเจ้าชู้ใส่สองคนนั้นและทันทีทันใดเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ด้านหลัง
 
 
“ไอ้ตะวัน ไม่ต้องมาทำเจ้าชู้ใส่เพื่อนกับแฟนฉันเลย พลอยฉันหวงนะเว้ย!”เขาเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเอามือไปฟาดหลังตะวันอย่างจัง
 
 
“ขอโทษครับคุณเมฆครับ แกนี่รู้นิสัยฉันจริงๆ”เขายอมรับผิดที่เห็นสองคนนั้นสวยเหมือนนางฟ้า แต่เขาไม่แย่งแฟนเพื่อนหรอก แต่เขาจะจีบหอม เพราะเธอสวยไม่เหมือนใคร อาจจะดูห้าวๆหน่อย แต่ก็นะ...เสือตัวพ่ออย่างเขาต้องจีบเธอติดแน่นอน
 
 
“พลอยครับ...เมฆว่าเราไปตักอาหารกันดีไหม ไปครับ”เขาไม่สนเพื่อนเขาแล้วกลับไปจูงมือแฟนตัวเองให้ไปตักอาหารด้วยกัน เลยได้โอกาสที่ตะวันจะทำความรู้จักกับหอม
 
 
“คุณตะวันนั่งด้วยกันสิค่ะ”หอมเป็นคนเอ่ยชวนก่อน เพราะขืนให้เขายืนคงเสียมารยาทแน่ๆ
 
 
“ขอบคุณครับ”เขาเอ่ยและนั่งลงตรงข้ามเธอก่อนจะชวนคุยเรื่อยเปื่อย “คุณหอมทงานแผนกดีไซน์เหรอครับ?”
 
 
“ค่ะ หอมชอบออกแบบเสื้อผ้าค่ะ ไม่ว่าจะหวาน เปรี้ยว หรือ เซ็กซี่ หอมออกแบบได้หมดค่ะ”เธอเอ่ยก่อนจะลงมือกินบาร์บีคิวด้วยความหิว “และคุณตะวันทำไมชอบกราฟิกออกแบบเหรอค่ะ?”
 
 
“คือผมชอบเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ พ่อของผมเคยเป็นนักออกแบบ เลยตามพ่อนะครับ ก็เลยชอบตั้งแต่เด็กหน่ะครับ”
 
 
“อ๋อค่ะ คุณตะวันเป็นเพื่อนกับเมฆมานานแล้วสินะค่ะ ถึงได้ดูสนิทกันแบบนั้น”เธอเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหน้าไปทางเมฆที่กำลังจู๋จี๋กับพลอยอยู่
 
 
“ครับ ผมเจอเมฆที่นิวยอร์กครับ ตอนแรกๆเมฆดูเป็นเด็กเนิร์สมากเลยครับ ใส่แว่นหนาเตอะ ถือหนังสือวิชาเรียนเดินไปเดินมา”
 
 
“จริงเหรอค่ะ? หอมไม่ยักกะรู้ ตอนเจอเมฆครั้งแรกๆเขาดูดีมากๆเลยนะค่ะ”
 
 
“ครับ เพราะผมนี่แหละเปลี่ยนแปลงบุคลิกของเมฆเองครับ พาไปร้านตัดผม และเปลี่ยนชุดเสียใหม่ ใส่คอนแท็คเลนส์แทนจนกลายเป็นเมฆที่สาวๆปลื้มอยู่ตอนนี้ไงครับ”
 
 
“แล้ว...เมฆเคยมีแฟนไหมค่ะตอนอยู่ที่นั้น?”หอมเอ่ยถามถึง กลัวจะมีประวัติเหมือนกับพวกละครที่แฟนเก่ามาขอคืนดีจนต้องมีเรื่องขึ้น
 
 
“ไม่นะครับ ผมอยู่กับเมฆมาสามปีไม่เคยมีแฟนเลยครับ ถึงจะมีใครส่งจดหมายรักมาบ้างก็เถอะครับ”เขาพูดถึงตอนที่เรียนที่เมืองนอก มีผู้หญิงคนหนึ่งประมาณ ม.4 ตอนนั้นพวกเขาอยู่ ม.6 ผู้หญิงคนนั้นส่งจดหมายรักมาให้เมฆแต่เมฆก็ตอบอย่างมีมารยาทว่า การเรียนสำคัญกว่า อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้เลยผู้หญิงคนนั้นเศร้าสลดไปทันทีจากนั้นพวกเขาก็ไม่เห็นหน้าเธออีกเลย
 
 
“จริงเหรอค่ะ หอมดีใจสุดๆเลยค่ะนึกว่าไอ้เมฆมีแฟนเลิกกันไปแล้ว และแฟนเก่ามาขอคืนดีก็นึกว่าจะเป็นรักสามเศร้าเหมือนในละครนะค่ะ”เธอพูดติดตลก ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าขำ
 
 
“คุณหอมไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมรับรองได้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาแย่งไอ้เมฆไปจากคุณพลอยหรอกครับ”
 
 
“คุยอะไรกันอยู่ทั้งสองคน นี่ฉันกับพลอยไปย่างบาร์บีคิวมาให้เผื่อพวกแกทั้งสองคนเลยนะ”เมฆที่เพิ่งกลับมาจากย่างบาร์บีคิวกับพลอยแทรกขึ้นกลางสนทนาของทั้งสอง
 
 
“ความลับ...”หอมเป็นฝ่ายตอบและรีบแย่งจากบาร์บีคิวจากเมฆทันที
 
 
“อ้าวเดี๋ยวนี้หัดมาความลับกับเพื่อนเหรอ ไอ้หอม ไอ้ตะวัน”เมฆพูดพลางกันไปหาทั้งสองคนสลับกันไปมาก่อนจะคว้าตัวพลอยมาอ้อนทันที “พลอยจ๋า สองคนนั้นเขามีความลับกันสองคนงั้นเราไปนั่งที่อื่นสวีทกันเองดีกว่าเนอะ”เขาพูดพลางทำหน้างอนใส่และกอดพลอยอย่างหวงแหนทันที
 
 
“นี่ ! พี่เมฆค่ะ ทำตัวเป็นเด็กไปได้เฮ้อ...”แฟนสาวเอ่ยอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้เพราะเขาอยู่กับเธอมากไปหรือเปล่า ถึงทำตัวเป็นเด็กขี้อ้อนอย่างนี้
 
 
“เฮ้ยๆไอ้เมฆอย่ามาโชว์หวานแถวนี้เลย เอียนว่ะ เอ้ย! ขอโทษนะครับคุณพลอย”ตะวันพูดพลางคนปากไวและรีบไปขอโทษขอโพยแฟนสาวของเมฆทันที
 
 
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เมฆเป็นอย่างนี้บ่อยแล้วค่ะไม่รู้เพราะอยู่กับพลอยบ่อยหรืออะไรกันแน่”เธอเอ่ยเพราะตอนรู้จักกับเมฆแรกๆเขาสุขุมมากแต่พอเอาเข้าจริงๆเขาเหมือนเด็กสิบขวบเลยหล่ะ
 
 
“ความผิดพลอยคนเดียวเลยนะ ที่พี่เป็นแบบนี้เพราะพลอยนั่นแหละ แต่ถึงยังไงพี่ก็รักพลอยนะครับ”เขาพูดพลางยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนแฟนสาวแทบหายใจไม่ออกเลยผลักเขาออกไปไกลๆเพราะอายเพื่อนข้างหน้าตนจะแย่อยู่แล้ว
 
 
“โอ๊ยคุณเมฆขา...เพื่อนฉันจะกลายเป็นปลากระป๋องแล้วค่ะ ห่างกันไม่ได้เลยเหรอค่ะ?”หอมที่รู้สึกทนไม่ได้ ปนๆอิจฉาถามเมฆขึ้นเพราะห่วงเพื่อนตัวเองเหลือเกินที่จะกลายเป็นลูกแกะในมือหมาป่าเจ้าเล่ห์อย่างเพื่อนเขาอยู่หน่ะ
 
 
“ขาดไม่ได้ขาดแล้วอยู่ไม่ได้”เขาบ่นมุบมิบพร้อมย่นจมูกใส่หอมกับตะวันเหมือนจะประกาศว่า ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
 
 
“เฮ้ยน้อยๆหน่อยไอ้เมฆ ฉันกลัวคุณพลอยเขาจะทนแกไม่ไหวซะก่อนแล้วหล่ะ”ตะวันพูดขำๆ
 
 
“เชอะ !”เมฆอุทานพร้อมปนๆงอนไปด้วยแต่แล้วแฟนสาวก็ต้องตีแขนให้เลิกทำตัวเป็นเด็กเสียที เหมือนพลอยจะโตแล้วแต่เมฆนี่แหละทำตัวเด็กลงทุกวันๆ สี่คนนั้นก็คุยกันอย่างสนุกสนานปนอารมณ์เด็กลงของเมฆไปด้วยทำให้ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานไปตามๆกัน
 
 
 
 
          ท่ามกลางแสงสีของริมทะเลชายหาดสวยสุดๆ เสียงคลื่นกระทบกับทราย การแสดงโชว์ของระบำฮาวายที่ทางโรงแรมจัดให้ ลูกน้องทีมงานทุกคนต่างสนุกสนานไปตามๆกัน บางคนเมาเพราะวิสกี้นานๆทีได้มาดื่มฉลองอย่างนี้ทั้งที บางคนกินอย่างไม่รู้จักหยุด ผู้ชายบางคนต่างเคลิ้มเพราะระบำฮาวายที่ทางโรงแรมจัดมาให้สวยๆหุ่นดีทั้งนั้น นาฬิกาเริ่มบอกแล้วว่าถึงเวลาสามทุ่มครึ่ง ดาวล้อมรอบท้องฟ้าไม่มีทีท่าฝนจะตกสวยงามไปตามๆกัน
 
 
“พี่เมฆจะพาพลอยไปไหนค่ะ?”สาวน้อยถามพร้อมกับชายหนุ่มที่กำลังจูงเธอไปไหนสักที่โดยใช้ผ้าปิดตาหญิงสาวเอาไว้
 
 
“แปปนะครับ ใกล้ถึงแล้ว”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมจูงเธอไปที่ไหนสักที่
 
 
“ตื่นเต้น ฮิๆ”เธอพูดฝนเสียงน่ารักๆซ่อนความไร้เดียงสาอย่างน่ารัก
 
 
“ถึงแล้วครับ เดี๋ยวพี่แกะผ้าออกให้นะ”เขาพูดพลางเอื้อมมือไปแกะผ้าปิดตาออก และเธอก็เห็นพระจันทร์สวยท่ามกลางสระว่ายน้ำและมีมานั่งอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สอดส่องลงมาทำให้ดูสวยไปตามๆกัน
 
 
“ว้าว! สวยจังเลยค่ะพี่เมฆ”เธอวิ่งไปตรงกลางนั้นและหมุนตัวเองทันทีเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งเคยเห็นพระจันทร์สวยงามขนาดนี้ครั้งแรก
 
 
  น่ารัก
 
 
       เขาคิดอย่างนั้นพลางไปกอดเธอจากทางด้านหลังและหอมแก้มเธอดัง ฟอด สาวน้อยเริ่มมีอาการหน้าแดงขึ้นทันที และรีบผลักเขาออกไปทันที
 
 
“อื้อ...พี่เมฆแกล้งพลอยอีกแล้วนะค่ะ”เธอเอ่ยก่อนที่จะบีบจมูกเขาแรงๆไปมา
 
 
“โอ๊ยก็เราอยากน่ารักเองทำไมหล่ะ”เขาพูดเจ้าเล่ห์และหันไปหอมแก้มเธอดังฟอดซ้ำไปซ้ำมา
 
 
“พี่เมฆเจ้าเล่ห์จริงๆ เอ๊ะ!พี่เมฆเอากีตาร์มาด้วยเหรอค่ะ?”เธอย่นจมูกใส่ชายหนุ่มพร้อมหันไปเห็นกีตาร์ตัวหนึ่งพอดี
 
 
“ครับ น้องพลอยอยากฟังเพลงอะไรหล่ะ เดี๋ยวพี่เล่นให้ฟัง”เขาหันไปหยิบกีตาร์มาและจูงพลอยให้มานั่งด้วยกัน
 
 
“พลอยอยากฟังเพลง ซันเดย์ มอร์นิ่ง ค่ะ”เธอยิ้มๆเพราะเพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เธอชอบเหมือนกัน
 
 
“อืม...ได้สิครับงั้นพลอยร้องนะ”เขาเริ่มจับสายกีตาร์ทันทีและเริ่มขึ้นท่อนให้หญิงสาวก่อนและหญิงสาวก็เริ่มร้องตามจังหวะเพลง
 
 
Sunday morning rain is falling ฝนที่กำลังตกในเช้าวันอาทิตย์ Steal some covers share some skin กับฉันและเธอที่โอบกอดมอบความอบอุ่นให้กันใต้ผ้าห่ม Clouds are shrouding us in moments unforgettable ดั่งเมฆโอบกอดเราไว้ช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากลืมเลยจริงๆ You twist to fit the mold that I am in เธอคือคนที่พอดีกับตัวฉันที่เป็นอยู่
But things just get so crazy living life gets hard to do แต่สิ่งต่างๆช่างดูสับสนวุ่นวายเหลือเกินแทบไม่รู้เลยว่าชีวิตต้องดำเนินอย่างไรต่อไป And I would gladly hit the road get up and go if I knew ฉันยินดีที่จะวิ่งพุ่งเข้าชนกับถนนแล้วลุกขึ้นมาถ้ามันสารถทำให้ฉันรู้ว่า.. That someday it would lead me back to you ซักวัน มันจะนำพาฉันกลับไปหาเธอ
 
 
That may be all I need นั่นอาจเป็นทุกสิ่งที่ฉันต้องการ In darkness she is all I see ฉันเห็นเพียงแค่เธอคนเดียว ในความมืดมน Come and rest your bones with me มาเถอะ เอาร่างกายของเธอพักไว้กับฉัน Driving slow on Sunday morning ผ่านไปอย่างช้าๆกับเช้าวันอาทิตย์ And I never want to leave ที่ฉันไม่อยากจะให้มันจากไป
 
 
And you may not know เธออาจจะไม่รู้ว่า That may be all I need นั่นอาจเป็นทุกสิ่งที่ฉันต้องการ In darkness she is all I see ฉันเห็นเพียงแค่เธอคนเดียว ในความมืดมน Come and rest your bones with me มาเถอะ เอาร่างกายของเธอพักไว้กับฉัน Driving slow…  ผ่านไปอย่างช้าๆ .... (กับช่วงเวลาที่แสนดีที่ไม่อยากจะลืม)
 
      เสียงดีดกีตาร์กับเสียงร้องจบลงไปท่ามกลางแสงจันทร์ที่เหมือนจะมีแค่เราสองคนอยู่ตรงนี้ ต่างยิ้มให้กันอย่างอารมณ์ดีและอบอุ่นหัวใจไปตามๆกัน ถ้าเรื่องดีๆจะมาลงเอยที่ ณ.จุดนี้ก็คงดี และถ้าความรักของทั้งสองสวยดั่งเทพนิยายและมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆก็คงดีสินะ แค่อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆแค่นั้นเอง 
 

 

 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา