My warning คำเตือน!!เปลี่ยนใจมารักฉันซะ
9.6
เขียนโดย ruktomokaew
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.08 น.
25 บท
209 วิจารณ์
47.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556 14.04 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรื่อง My warning คำเตือน!!เปลี่ยนใจมารักฉันซะ
"แก้วคิดถึงพี่นะพี่กราฟ...ทำไมพี่ถึงทิ้งแก้วไปล่ะคะ...ไหนเราสัญญากันแล้วไงว่า..." เธอยังไม่ทันพูดจบก็สังเกตุเห็นใครสักคนที่แอบอยู่แถวต้นไม้ข้างหลังเธอ...ใครกันนะ...
"เอ่อ...คุณหนูครับคุณผู้หญิงโทร.ตามแล้วนะครับ"
จังหวะที่เธอกำลังจะย่องไปดูว่าเป็นมครกันนั้นคนรับรถประจำตระกูลของเธอก็มาขัดจังหวะเสียก่อน เธอถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินว่าแม่ของเธอโทร.มาตามเธอแล้ว...ได้เวลาแล้วสินะ
"ค่ะ...ลุงพรไปรอที่รถก่อนแล้วกันนะคะ" เธอหมุนตัวกลับมาสนใจบุคคล?ที่เธอหามาแล้วนั่งลงอีกรอบพร้อมกับวางช่อดอกลิลลี่สีขาวแสนสวยนั่นลงตรงหน้าอัฐิ
"แก้วไปก่อนนะคะ...แล้วว่างๆจะมาหาพี่กราฟใหม่นะคะ"
เธอยิ้มเบาๆให้กับรูปภาพของพี่กราฟตรงหน้าแล้วลุกเดินออกไป...ได้เวลาแล้วสินะที่เธอจะต้องทำตามทางเลือกที่แม่เธอได้เตรียมไว้ให้...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ยัยแก้วกลับมาแล้วหรอลูก...ม๊าเตรียมชุดสวยๆสำหรับคืนนี้ไว้ให้แล้วนะ"
เมื่อขาของเธอก้าวเข้ามาได้เพียงก้าวเดียวแม่ของเธอก็ส่งเสียงเรียกพร้อมกับประโยคที่เธอไม่อยากได้ยินออกมา
"แล้วเราจะไปกันตอนไหนคะ...แก้วจะได้เตรียมตัว" ประโยคหลังเธอเอ่ยเบาพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
"โถ่แก้ว...ม๊าเลือกทางที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอนะ" คนเป็นแม่ล่ะอ่อนใจเมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กของตนกำลังแสดงสีหน้าเสมือนว่ากำลังจะถูกเชือด
"ค่ะแก้วรู้..." เธอตอบเพียงแค่นั้นแล้วขอตัวออกมาจากแม่ของเธอ...ขอเวลาให้เธอได้ทำใจหน่อยแล้วกันนะ
หลังจากที่เธอขอตัวออกมาจากแม่ของเธอ...เธอก็มานั่งเก็บตัวคนเดียวอยู๋ในห้องนอนของเธอ...ในสมองของเธอตอนนี้ขอบอกเลยว่าทุกเรื่องกำลังตีกันไปหมดถ้ามันระเบิดออกมาได้มันคงจะระเบิดออกแล้วล่ะ...เธอนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าตา...ข้างนอกเต็มไปด้วยตึกราบ้านช่องและสิ่งก่อสร้างอีกมากมาย...ไม่มีธรรมชาติหลงเหลืออยู่สักนิดเดียว...เธออยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกลไปในที่ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติผู้คนที่จริงใจไม่ใส่หน้ากากเข้าหากัน...และโลกมายาที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่เธอเกลียดเป็นที่สุด!
ตอนนี้เธอออยู่ในชุดราตรีสั้นสีชมพูอ่อนเหลือเข่าประมาณคืบนี่แหละชุดที่แม่ของเธอเตรียมไว้ให้...ใบหน้าถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงโทนอ่อนๆเพื่อให้รับกับชุดที่เธอสวมใส่อยู่...ทรงผมถูกดัดเป็นรอนๆแล้วรวบไว้ข้างหลังของเธอ...บัดนนี้เธอกลายเป็นตุ๊กตาที่ใครก็สามารถแต่งอะไรให้ไดโดยไม่เถียงสักคำ...
และไม่นานนักเธอกับครอบครัวก็มาถึงร้านอาหารสไตล์โมเดิล...ออกแนวตะวันตกหน่อยๆบรรยากาศเงียบสงบใช่ได้เลย...ร้านนี้เหมาะแก่บุคคลที่ต้องการจะมาคุยธุรกิจหรือเรื่องที่เป็นส่วนตัวมากกว่าเรื่องสัพเพเหระซะมากกว่า...พูดง่ายๆคือเหมาะสำหรับไวคนทำงานหรือผู้ใหญ่หน่อยๆ
"ทางนั้นค่ะ..." นั่นเป็นเสียงแม่ของเธอเองสงสันคงจะเจอกับ...ครอบครัวนั้นแล้วมั้ง...เฮ้อ~
"ยิ้มหน่อยสิยัยแก้ว...ป๊าเห็นเราเอาแต่ทำหน้านิ่งมาทั้งวันแล้วนะ^^"
คนเป็นพ่อหันมาฉีกยิ้มกว้างเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ลูกสาวคนเล็กส่วนคนโตน่ะหรอ...รายนั้นน่ะนะยิ้มทั้งจนจะเป็นบ้าไปแล้ว...แต่จะให้เธอฝืนยิ้มได้อย่างไงกันนะ
"แก้วจะพยายามค่ะ" พูดจบเธอก็ค่อยๆระบายยิ้มออกมาหน่อยพอให้พ่อของเธอเห็นบ้าง...
"สวัสดีค่ะคุณพี่..." แม่ของเธอเอ่ยทักทายกับผู้หญิงวัยไล่เลี้ยกับแม่ของเธอก่อนที่ครอบครัวของเธอจะนั่งลงตรงข้ามกับครอบครัวนั้น
"สวัสดีค่ะคุณน้อง...คนนี้ใช่มั้ยคะ" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถามแม่ของเธอแล้วแบบมือมาตรงทางที่เธอยืนอยู่
"ใช่ค่ะ...แก้วสวัสดีค่ะคุณป้าสิลูก" แม่ของเธอแนะนำให้เธอควรจะทักทายผู้หญิงคนนั้น
เธอหันไปสังเกตุเห็นผู้ชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอหรืออาจจะแก่ไม่เกินปีสองปีนั่งอยู่...คนนี้สินะ...เธอคิดในใจแค่นั้นก่อนจะสังเกตุเห็นว่าเค้ากำลังนั่งก้มเล่นโทรศัพท์เครื่องหรูของตนอย่างไม่สนใจโลกภายนอกหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวของตนเอง...ถ้าให้เดานะเค้าก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเธอมากนักหรอกถูกบังคับนั่นแหละ...เจอคนหัวอกเดียวกันแล้วไงล่ะ
"ตาเขื่อน...ตาเขื่อน!...นี่ตาเขื่อน!!"
เมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่เกิดอาการโวยวายนิดๆเค้าจนเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ของตนขึ้รแล้วพบว่าตอนนี้มีผู้คนที่มาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้นั่งอยู่เต็มโต๊ะไปหมด
"ครับแม่..."
เค้าเอ่ยขานรับเสียงผู้เป็นแม่เบาๆแล้วสัง้กตุเห็นผู้หญิงร่างบางๆแต่สูงขาวนั่งอยู่ตรงข้ามกับเค้าเอง...สงสัยจะเป็นคนนี้มั้ง...น่ารักซะด้วยนิสัยคงเรียบร้อยแต่...
"สวัสดีคุณน้าทั้งก่อนสิลูก"
เค้าไปตามที่มือของผู้เป็นแม่แบไปทางชายหญิงคู่นึงอายุก็น่าจะราวๆพ่อแม่ของเค้าเอง...ก่อนจะเห็นผู้หญิงอีกคนที่นั่งติดกับผู้หญิงที่เค้าบรรยายไปเมื่อกี้...คนนี้ดูแข็งแกร่งแห๊ะสงสัยจะเป็นพี่น้องดูต่างกันชะมัดเลย...
"สวัสดีครับ"
"นี่น้องแก้วจ๊ะ...คนที่แม่บอก" เมื่อถูกเอ่ยถึงตัวนั่นก็ทำให้เธอสะดุ้งขึ้นมานิดๆ...เวลานี้เธออยากจะหายตัวได้เสียจริงๆเลย
"สวัสดีค่ะ" เธอยกมือไหว้ผูชายคนนั้นอย่างรู้หน้าที่...ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าเธอควรจะทำตัวอย่างไง
"สวัสดีครับ" เค้าเอ่ยสวัสดีเธอเหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่เค้าไม่ได้ยกมืิฃอไหว้เธอ...ก็เธอเด็กกว่านิหน่า
"ทั้งคู่จ๊ะ...ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากจะให้พวกหนูหมั้นกันหนูจะว่าอะไรมั้ยจ๊ะ"
เมื่อได้ยินประโยคของครอบครัวตรงข้ามเป็นคนเปิดประเด็นก็ทำให้เธอสะดุ้งอีกรอบจนพี่สาวเธอหันมาดุทางสายตา
"ไม่ค่ะ/ไม่ครับ" เธอและเค้าเอ่ยพร้อมกันแต่สีหน้าทั้งคู่กับแสดงอาการเบื่ออย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่พูดคุยกันได้ไม่นานทั้งสองครอบครัวก็แยกย้ายกันกับบ้าน...ทิ้งไว้แต่เธอกับเค้าให้ทานข้าวด้วยกันเพียงลำพังโดยอ้างเหตุผลว่า...'จะได้สนิทกันมากขึ้น'...เหอะ!เชื่อเลยทานข้าวมื้อเดียวคงจะสนิทกันได้หรอกนะ...เธอก็อยู่ส่วนเธอ...เค้าก็อยู่ส่วนเค้าไปแล้วกัน
"นี่ใจคอน้องแก้วไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอครับ" กลายเป็นเค้าที่จะต้องทำลายความเงียบนั้นลงด้วยตัวเอง...น้องแก้วหรือว่าที่คู่หมั้นของเค้านั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาใดๆทั้งสิ้น
"ไม่อ่ะค่ะแก้วชอบความเงียบ..." เธอตอบเพียงแค่ก่อนจะก้มหน้าเขี่ยอาหารในจานไปเรื่อยๆ
"น้องแก้วนี่ก็แปลกดีนะครับฮะๆพี่ชักจะชอบแล้วสิ"
เมื่อได้ยินประโยคเธอถึงกับทำช้อนส้อมที่อยู่ในมือล่วงลงไปขอบๆจานเลยทีเดียว...พูดอะไรกันน่ะเจอกันครั้งเดียวนะ...เพลย์บอยรึเปล่าเนี๊ย
"ฮะๆอย่ามองหน้าพี่แบบนั้นสิ...พี่มีแฟนไม่ต้องกลัว" เธอทำหน้าสงสัยนิดๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า...ที่เธอไม่อยากยุ่ง
"ค่ะ..."
เธอตอบรับเพียงเบาๆเพราะกำลังงงกับผู้ชายตรงหน้าว่าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่...อยู่ดีๆก็มาบอกว่ามีแฟน...บอกแล้วมันจะช่วยอะไรได้
"น้องแก้วไม่ต้องกลัวพี่หรอก...พี่ไว้ใจได้เอาเป็นว่าพี่รู้แล้วกันว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับพี่แล้วพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรา"
"ค่ะแก้วก็พอดูออก"
บอกแล้วว่าเธอน่ะไม่ได้โง่ซะหน่อยการที่ผู้ชายคนนั้นออกตัวแรงว่ามีแฟนแล้วนั้นก็หมายถึงว่าเค้าจะต้องรักผู้หญิงคนนั้นมากแน่ๆไม่อย่างจะบอกทำไม...ส่วนมากผู้ชายก็มักจะชอบบอกว่าตัวเองโสดไม่ใช่รึแต่พี่เขื่อนกลับบอกว่ามีแฟนแล้วสงสัยคงจะรักกันมากด้วยสินะ...น่าอิจฉาจัง
"แล้วเรา...หน้าตาดีนะดีมากด้วยคงจะมีแฟนแล้วล่ะสิ"
คำถามของเค้าทำเอาเธออึ้งไปหลายวินาทีอยู่เหมือนกัน...แฟนหรอ...เธอไม่มีหรอกแล้วก็ไม่ได้ว่าจะมีด้วย...ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเธอน่ะรออยู่คนเดียวคนนั้นก็...
"ไม่มี...หรอกค่ะ" เธอเอาหลังมือปาดน้ำตาที่เพิ่งไหลออกเล็กน้อยแต่ฝืนยิ้มจางให้เค้า...ซึ่งแค่นี้เค้าก็พอรู้แล้วเธอคงผ่านอะไรบ้าง...ในเรื่องความรัก
"พี่ว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเหอะ...ดูท่าทางเราจะไม่ค่อยไหวกับเรื่องนี้"
เค้าเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงจริงอยู๋ที่เค้าไม่ได้คิดกับเกินไปกว่าพี่น้องแต่เค้าก็สามารถห่วงเธอได้เหมือนกัน...เธออ่อนแอเกินกว่าที่เค้าคิดไว้ในบางเรื่องแต่ในขณะเดียวกันเธอก็เข้มแข็งในเรื่องที่เค้าไม่ได้คิด...
...ruktomokaew...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------บทที่4สำหรับเรื่อง...เอ่อ...เราทำให้ใครหลายผิดหวังหรือทายผิดรึเปล่าน๊าาาาาาาา5555คู่หมั้นแก้วไม่ใช่โทโมะนะคะ5555เรื่องจะเริ่มคลี่คลายและสร้างปม?เอ๊ะอย่างไงในตอนหน้าแล้วนะคะ
"แก้วคิดถึงพี่นะพี่กราฟ...ทำไมพี่ถึงทิ้งแก้วไปล่ะคะ...ไหนเราสัญญากันแล้วไงว่า..." เธอยังไม่ทันพูดจบก็สังเกตุเห็นใครสักคนที่แอบอยู่แถวต้นไม้ข้างหลังเธอ...ใครกันนะ...
"เอ่อ...คุณหนูครับคุณผู้หญิงโทร.ตามแล้วนะครับ"
จังหวะที่เธอกำลังจะย่องไปดูว่าเป็นมครกันนั้นคนรับรถประจำตระกูลของเธอก็มาขัดจังหวะเสียก่อน เธอถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินว่าแม่ของเธอโทร.มาตามเธอแล้ว...ได้เวลาแล้วสินะ
"ค่ะ...ลุงพรไปรอที่รถก่อนแล้วกันนะคะ" เธอหมุนตัวกลับมาสนใจบุคคล?ที่เธอหามาแล้วนั่งลงอีกรอบพร้อมกับวางช่อดอกลิลลี่สีขาวแสนสวยนั่นลงตรงหน้าอัฐิ
"แก้วไปก่อนนะคะ...แล้วว่างๆจะมาหาพี่กราฟใหม่นะคะ"
เธอยิ้มเบาๆให้กับรูปภาพของพี่กราฟตรงหน้าแล้วลุกเดินออกไป...ได้เวลาแล้วสินะที่เธอจะต้องทำตามทางเลือกที่แม่เธอได้เตรียมไว้ให้...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ยัยแก้วกลับมาแล้วหรอลูก...ม๊าเตรียมชุดสวยๆสำหรับคืนนี้ไว้ให้แล้วนะ"
เมื่อขาของเธอก้าวเข้ามาได้เพียงก้าวเดียวแม่ของเธอก็ส่งเสียงเรียกพร้อมกับประโยคที่เธอไม่อยากได้ยินออกมา
"แล้วเราจะไปกันตอนไหนคะ...แก้วจะได้เตรียมตัว" ประโยคหลังเธอเอ่ยเบาพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
"โถ่แก้ว...ม๊าเลือกทางที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอนะ" คนเป็นแม่ล่ะอ่อนใจเมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กของตนกำลังแสดงสีหน้าเสมือนว่ากำลังจะถูกเชือด
"ค่ะแก้วรู้..." เธอตอบเพียงแค่นั้นแล้วขอตัวออกมาจากแม่ของเธอ...ขอเวลาให้เธอได้ทำใจหน่อยแล้วกันนะ
หลังจากที่เธอขอตัวออกมาจากแม่ของเธอ...เธอก็มานั่งเก็บตัวคนเดียวอยู๋ในห้องนอนของเธอ...ในสมองของเธอตอนนี้ขอบอกเลยว่าทุกเรื่องกำลังตีกันไปหมดถ้ามันระเบิดออกมาได้มันคงจะระเบิดออกแล้วล่ะ...เธอนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าตา...ข้างนอกเต็มไปด้วยตึกราบ้านช่องและสิ่งก่อสร้างอีกมากมาย...ไม่มีธรรมชาติหลงเหลืออยู่สักนิดเดียว...เธออยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกลไปในที่ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติผู้คนที่จริงใจไม่ใส่หน้ากากเข้าหากัน...และโลกมายาที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่เธอเกลียดเป็นที่สุด!
ตอนนี้เธอออยู่ในชุดราตรีสั้นสีชมพูอ่อนเหลือเข่าประมาณคืบนี่แหละชุดที่แม่ของเธอเตรียมไว้ให้...ใบหน้าถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงโทนอ่อนๆเพื่อให้รับกับชุดที่เธอสวมใส่อยู่...ทรงผมถูกดัดเป็นรอนๆแล้วรวบไว้ข้างหลังของเธอ...บัดนนี้เธอกลายเป็นตุ๊กตาที่ใครก็สามารถแต่งอะไรให้ไดโดยไม่เถียงสักคำ...
และไม่นานนักเธอกับครอบครัวก็มาถึงร้านอาหารสไตล์โมเดิล...ออกแนวตะวันตกหน่อยๆบรรยากาศเงียบสงบใช่ได้เลย...ร้านนี้เหมาะแก่บุคคลที่ต้องการจะมาคุยธุรกิจหรือเรื่องที่เป็นส่วนตัวมากกว่าเรื่องสัพเพเหระซะมากกว่า...พูดง่ายๆคือเหมาะสำหรับไวคนทำงานหรือผู้ใหญ่หน่อยๆ
"ทางนั้นค่ะ..." นั่นเป็นเสียงแม่ของเธอเองสงสันคงจะเจอกับ...ครอบครัวนั้นแล้วมั้ง...เฮ้อ~
"ยิ้มหน่อยสิยัยแก้ว...ป๊าเห็นเราเอาแต่ทำหน้านิ่งมาทั้งวันแล้วนะ^^"
คนเป็นพ่อหันมาฉีกยิ้มกว้างเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ลูกสาวคนเล็กส่วนคนโตน่ะหรอ...รายนั้นน่ะนะยิ้มทั้งจนจะเป็นบ้าไปแล้ว...แต่จะให้เธอฝืนยิ้มได้อย่างไงกันนะ
"แก้วจะพยายามค่ะ" พูดจบเธอก็ค่อยๆระบายยิ้มออกมาหน่อยพอให้พ่อของเธอเห็นบ้าง...
"สวัสดีค่ะคุณพี่..." แม่ของเธอเอ่ยทักทายกับผู้หญิงวัยไล่เลี้ยกับแม่ของเธอก่อนที่ครอบครัวของเธอจะนั่งลงตรงข้ามกับครอบครัวนั้น
"สวัสดีค่ะคุณน้อง...คนนี้ใช่มั้ยคะ" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถามแม่ของเธอแล้วแบบมือมาตรงทางที่เธอยืนอยู่
"ใช่ค่ะ...แก้วสวัสดีค่ะคุณป้าสิลูก" แม่ของเธอแนะนำให้เธอควรจะทักทายผู้หญิงคนนั้น
เธอหันไปสังเกตุเห็นผู้ชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอหรืออาจจะแก่ไม่เกินปีสองปีนั่งอยู่...คนนี้สินะ...เธอคิดในใจแค่นั้นก่อนจะสังเกตุเห็นว่าเค้ากำลังนั่งก้มเล่นโทรศัพท์เครื่องหรูของตนอย่างไม่สนใจโลกภายนอกหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวของตนเอง...ถ้าให้เดานะเค้าก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเธอมากนักหรอกถูกบังคับนั่นแหละ...เจอคนหัวอกเดียวกันแล้วไงล่ะ
"ตาเขื่อน...ตาเขื่อน!...นี่ตาเขื่อน!!"
เมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่เกิดอาการโวยวายนิดๆเค้าจนเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ของตนขึ้รแล้วพบว่าตอนนี้มีผู้คนที่มาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้นั่งอยู่เต็มโต๊ะไปหมด
"ครับแม่..."
เค้าเอ่ยขานรับเสียงผู้เป็นแม่เบาๆแล้วสัง้กตุเห็นผู้หญิงร่างบางๆแต่สูงขาวนั่งอยู่ตรงข้ามกับเค้าเอง...สงสัยจะเป็นคนนี้มั้ง...น่ารักซะด้วยนิสัยคงเรียบร้อยแต่...
"สวัสดีคุณน้าทั้งก่อนสิลูก"
เค้าไปตามที่มือของผู้เป็นแม่แบไปทางชายหญิงคู่นึงอายุก็น่าจะราวๆพ่อแม่ของเค้าเอง...ก่อนจะเห็นผู้หญิงอีกคนที่นั่งติดกับผู้หญิงที่เค้าบรรยายไปเมื่อกี้...คนนี้ดูแข็งแกร่งแห๊ะสงสัยจะเป็นพี่น้องดูต่างกันชะมัดเลย...
"สวัสดีครับ"
"นี่น้องแก้วจ๊ะ...คนที่แม่บอก" เมื่อถูกเอ่ยถึงตัวนั่นก็ทำให้เธอสะดุ้งขึ้นมานิดๆ...เวลานี้เธออยากจะหายตัวได้เสียจริงๆเลย
"สวัสดีค่ะ" เธอยกมือไหว้ผูชายคนนั้นอย่างรู้หน้าที่...ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าเธอควรจะทำตัวอย่างไง
"สวัสดีครับ" เค้าเอ่ยสวัสดีเธอเหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่เค้าไม่ได้ยกมืิฃอไหว้เธอ...ก็เธอเด็กกว่านิหน่า
"ทั้งคู่จ๊ะ...ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากจะให้พวกหนูหมั้นกันหนูจะว่าอะไรมั้ยจ๊ะ"
เมื่อได้ยินประโยคของครอบครัวตรงข้ามเป็นคนเปิดประเด็นก็ทำให้เธอสะดุ้งอีกรอบจนพี่สาวเธอหันมาดุทางสายตา
"ไม่ค่ะ/ไม่ครับ" เธอและเค้าเอ่ยพร้อมกันแต่สีหน้าทั้งคู่กับแสดงอาการเบื่ออย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่พูดคุยกันได้ไม่นานทั้งสองครอบครัวก็แยกย้ายกันกับบ้าน...ทิ้งไว้แต่เธอกับเค้าให้ทานข้าวด้วยกันเพียงลำพังโดยอ้างเหตุผลว่า...'จะได้สนิทกันมากขึ้น'...เหอะ!เชื่อเลยทานข้าวมื้อเดียวคงจะสนิทกันได้หรอกนะ...เธอก็อยู่ส่วนเธอ...เค้าก็อยู่ส่วนเค้าไปแล้วกัน
"นี่ใจคอน้องแก้วไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอครับ" กลายเป็นเค้าที่จะต้องทำลายความเงียบนั้นลงด้วยตัวเอง...น้องแก้วหรือว่าที่คู่หมั้นของเค้านั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาใดๆทั้งสิ้น
"ไม่อ่ะค่ะแก้วชอบความเงียบ..." เธอตอบเพียงแค่ก่อนจะก้มหน้าเขี่ยอาหารในจานไปเรื่อยๆ
"น้องแก้วนี่ก็แปลกดีนะครับฮะๆพี่ชักจะชอบแล้วสิ"
เมื่อได้ยินประโยคเธอถึงกับทำช้อนส้อมที่อยู่ในมือล่วงลงไปขอบๆจานเลยทีเดียว...พูดอะไรกันน่ะเจอกันครั้งเดียวนะ...เพลย์บอยรึเปล่าเนี๊ย
"ฮะๆอย่ามองหน้าพี่แบบนั้นสิ...พี่มีแฟนไม่ต้องกลัว" เธอทำหน้าสงสัยนิดๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า...ที่เธอไม่อยากยุ่ง
"ค่ะ..."
เธอตอบรับเพียงเบาๆเพราะกำลังงงกับผู้ชายตรงหน้าว่าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่...อยู่ดีๆก็มาบอกว่ามีแฟน...บอกแล้วมันจะช่วยอะไรได้
"น้องแก้วไม่ต้องกลัวพี่หรอก...พี่ไว้ใจได้เอาเป็นว่าพี่รู้แล้วกันว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับพี่แล้วพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรา"
"ค่ะแก้วก็พอดูออก"
บอกแล้วว่าเธอน่ะไม่ได้โง่ซะหน่อยการที่ผู้ชายคนนั้นออกตัวแรงว่ามีแฟนแล้วนั้นก็หมายถึงว่าเค้าจะต้องรักผู้หญิงคนนั้นมากแน่ๆไม่อย่างจะบอกทำไม...ส่วนมากผู้ชายก็มักจะชอบบอกว่าตัวเองโสดไม่ใช่รึแต่พี่เขื่อนกลับบอกว่ามีแฟนแล้วสงสัยคงจะรักกันมากด้วยสินะ...น่าอิจฉาจัง
"แล้วเรา...หน้าตาดีนะดีมากด้วยคงจะมีแฟนแล้วล่ะสิ"
คำถามของเค้าทำเอาเธออึ้งไปหลายวินาทีอยู่เหมือนกัน...แฟนหรอ...เธอไม่มีหรอกแล้วก็ไม่ได้ว่าจะมีด้วย...ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเธอน่ะรออยู่คนเดียวคนนั้นก็...
"ไม่มี...หรอกค่ะ" เธอเอาหลังมือปาดน้ำตาที่เพิ่งไหลออกเล็กน้อยแต่ฝืนยิ้มจางให้เค้า...ซึ่งแค่นี้เค้าก็พอรู้แล้วเธอคงผ่านอะไรบ้าง...ในเรื่องความรัก
"พี่ว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเหอะ...ดูท่าทางเราจะไม่ค่อยไหวกับเรื่องนี้"
เค้าเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงจริงอยู๋ที่เค้าไม่ได้คิดกับเกินไปกว่าพี่น้องแต่เค้าก็สามารถห่วงเธอได้เหมือนกัน...เธออ่อนแอเกินกว่าที่เค้าคิดไว้ในบางเรื่องแต่ในขณะเดียวกันเธอก็เข้มแข็งในเรื่องที่เค้าไม่ได้คิด...
...ruktomokaew...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------บทที่4สำหรับเรื่อง...เอ่อ...เราทำให้ใครหลายผิดหวังหรือทายผิดรึเปล่าน๊าาาาาาาา5555คู่หมั้นแก้วไม่ใช่โทโมะนะคะ5555เรื่องจะเริ่มคลี่คลายและสร้างปม?เอ๊ะอย่างไงในตอนหน้าแล้วนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ