My warning คำเตือน!!เปลี่ยนใจมารักฉันซะ

9.6

เขียนโดย ruktomokaew

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.08 น.

  25 บท
  209 วิจารณ์
  47.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556 14.04 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เรื่อง My warning คำเตือน!!เปลี่ยนใจมารักฉันซะ
 
 
 
 
     "แก้วคิดถึงพี่นะ...พี่จะเป็นอย่างไงบ้าง...พี่ยังรอแก้วอยู๋รึเปล่า...พี่จะจำแก้วได้มั้ย" เธอพล่ามบอกแล้วหยิบกรอบรูปนั้นมาแนบอกพร้อมปล่อยน้ำตาออกมาอย่างไม่ขาดสาย
 
 
+
 
+
 
+
 
 
     "คุณค่ะ...ลูกคงทรมานน่าดูเลยนะคะถ้ารู้เรื่อง..."
 
     ผู้เป็นแม่แทบเข่าอ่อนลงไปเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนอัดอั้นของลูกสาวตน...ความจริงเธอกะว่าจะมาเซอร์ไพร์แต่เธอดันมาเห็นลูกสาวของเธอนั่งร้องไห้พร้อมกอดกรอบรูปไว้เธอก็รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น...
 
 
      "ผมว่ารอให้เค้าได้เจอกันก่อนดีกว่าคุณอย่าพึ่งด่วนสรุปไปก่อนเลย...อีกอย่างฝ่ายนู้นก็เป็นคนมาขอลูกสาวเราเองแสดงเค้าก็ต้องมีใจให้กันมาตลอดนั่นแหละน่า" ผู้เป็นสามีเอ่ยปลอบใจภรรยาที่เริ่มแสดงความกังวลในเรื่องที่พวกเค้าต่างก็รู้กันเอง...
 
 
 
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
  
 
      "มาถึงแล้วหรอลูกสาวของม๊า...ไหนมาให้ม๊ากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ^^" เธอรีบปาดน้ำตาแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อได้ยินเสียงของแม่เธอ
 
      "สวัสดีค่ะป๊า...สวัสดีค่ะม๊า"
 
      เธอลุกขึ้นยืมแล้วพนมมือไหว้ทักทายพ่อแม่ของเธอถึงแม้ว่าเธอจะไปร่ำเรียนต่างประเทศต่างวัฒนธรรมแต่เธอไม่ก็เคยลืมวิธีการทักทายแบบไทยๆที่แสดงถึงเอกลักษณ์อันสวยงาม เธอไม่เห็นความจำเป็นเลยว่าทำไมเธอต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตไปตามยุคของเทคโนโลยี เธอว่าวัฒนธรรมประจำประเทศนี่สิที่สมควรอนุรักษ์
 
      "แหมๆม๊านึกว่าเราจะลืมวิธีการทักทายแบบไทยๆไปแล้วซะอีก" ผู้เป็นแม่ลูบศรีษะเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู...ว่านอนสอนง่ายจริงๆลูกแม่
 
      "แก้วไม่ลืมหรอกค่ะ" เธอส่งยิ้มแห้งๆไปให้ผู้เป็นแม่แล้วเสมองไปทางผู้เป็นพ่อที่ยืนอมยิ้มอยู่หน่อยๆ
 
      "แล้วนี่ยัยกิ่งไปไหนซะแล้วล่ะลูก..." เธอคว้าตัวลูกสาวมานอบอกตัวเอง...คิดถึงลูกจังไม่ได้เจอกันเป็นสิบๆปีน้ำตาแม่จะไหลแล้ว><
 
      "ม๊าคะเรื่องอาทิตย์หน้า..."
 
      เธอไม่อยากให้เรื่องมันค้างๆคาๆแบบนี้จึงจำเป็นที่จะต้องเป็นคนเปิดประเด็นทั้งๆที่เธอแทบจะไม่อยากเอ่ยถึงมันแต่ก็นะ...ให้มันจบได้เร้ซๆซะก็ดีบางที...ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเธออาจจะขอบิดามารดาของเธอไม่ใช้ชีวิตที่ต่างประเทศตลอดไปเลยก็ได้
 
      "อย่าพึ่งพูดเรื่องนั้นเลยนะลูก...มาเหนื่อยๆป๊าว่าเราพักผ่อนก่อนดีกว่า" ผู้เป็นพ่อเอ่ยขัดภรรยาตัวเองก่อนที่จะหลุดปากพูดเรื่องนั้นออกไปเพราะคิดว่าลูกสาวของเธออาจจะรับไม่ได้....
 
       "แต่ม๊าว่าเราคุยกันตอนนี้ก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะ" ผู้เป็นสามีหันควับราวกับว่าเราลงตกกันแล้วแต่ทำไมภรรยาของตนถึงได้เอ่ยออกไปอย่างนั้นกัน! 
 
 
+
 
+
 
+
 
  
      และแล้วตอนนี้ทั้งสามคนแล้วนั่งเรียงรายกันอยู๋บนโซฟาตัวสวยหรู โดยที่ผู้เป็นพ่อนั่งอยู๋ข้างๆภรรยาแล้วลูกสาวนั่งอยู่โซฟาข้างๆอีกตัว ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบเธอได้แต่นั่งมองบิดามารดาของเธอสลับกันไปมา เธอสังเกตุเห็นความผิดปกติไปของมารดาตัวเองทั้งๆที่มารดาของเธอเป็นคนบอกเองว่าจะเป็นคนเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังแต่ไหนกลับมานั่งเงียบกันซะได้ล่ะ
 
      "พูดมาเถอะค่ะแก้วรับได้..." เธอเป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบและยืนยันว่าเธอพร้อมจะทำใจและรับให้ได้
 
      "เรื่องของพี่กราฟน่ะ..." ผู้เป็นแม่ของเธอเอ่ยแค่นั้นแล้วเสมองหน้าของบิดาเธอเสมือนว่าให้พูดต่อจากเธอที
 
      "เอ่อ...แก้วเคยสงสัยใช่มั้ยเรื่องที่พี่เค้าขาดการติดต่อจากเราไป" บิดาของเธอเริ่มการชี้แจงเพื่อให้เธอกระจ่างในแต่ละเรื่องที่เธอสงสัยมานาน
 
       "ค่ะ...." เธอรับคำเบาๆแล้วนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อแต่ในขณะเียวกันเธอก็สังเกตสีหน้าของมารดาตัวเองที่ใบหน้าเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
 
       "หลังจากที่แก้วไปเรียนต่อได้ประมาณครึ่งปี...พี่เค้าประสบอุบัติเหตุ"
 
       ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกเสียงแผ่วเบาถ้าเลือกได้เค้าอยากจะให้ลูกสาวของเค้าความจำเสื่อมแล้วอะไรๆไม่ได้เลยเสียยังดีกว่าจะมานั่งฟังเรื่องราวแบบนี้
 
       "ไม่จริงใช่มั้ยค่ะม๊า...บอกแก้วมาสิค่ะว่ามันไม่จริง" เธอหันไปส่งสายตาอ้อนวอนให้มารดาเพื่อหวังเรื่องที่พึ่งได้ยินมานั้นมันเป็นเรื่องโกหก
 
       "ฟังม๊าก่อนนะลูก..."
 
       "แล้วเรื่องที่ม๊าบอกว่าให้แก้วกลับมาหาเค้า...ม๊าก็..." เธอเว้นวรรคไว้ในฐานที่เข้าใจกันทั้ง2ฝ่าย นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำใสๆที่รอเวลาล่วงลงมาก็เท่านั้น
 
       "ใช่ม๊าโกหก...แต่ม๊าก็มีคนดีๆมาให้เรารู้จักด้วยนะลูก" มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อมเธอแต่ขอบอกเลยว่าตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะเจอใครทั้งนั้น!
 
       "ม๊าหมายความว่าม๊ากำลังคลุมถุงชุนแก้วใช่มั้ยค่ะ" เธอกลั้นใจถามเสียงสั่นกลัวเหลือเกินกลัวว่าคำตอบมันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเลย
 
        "..."
 
       มารดาเธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเบาๆไม่ใช่ว่าหล่อนไม่นักหนักใจที่จะต้องใช้วิธีนี้แต่ถ้ามันเป็นอะไรที่จะทำให้ลุกสาวของเธอลืม...เค้าคนนนั้นได้หล่อนก็จะทำ!
 
 
+
 
+
 
+
 
 
  
       ปัง!!
 
 
 
      "ไม่จริง..."  
 
      หลังจากที่เธอได้ฟังเรื่องราวที่แท้จริงแล้วว่าตลอดเวลา10ปีที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น เธอก็ขอปรีกตัวเองนั่งคิดอะไรๆคนเดียวอยู่ในมุมที่ยังไม่ได้เปิดไฟ ตอนนี้เธอขอเวลาทำใจซะหน่อย เธอยังคงตกตะลึงกับเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่เธอก็แทบจะปล่อยน้ำตาเสียตรงนั้นแต่ในเมื่อเธอสัญญาไว้แล้วว่าเธอจะรับมันให้ได้เธอก็ต้องทำให้ได้!!
 
      แถมเธอจะต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องที่แม่ของเธออ้อนวอนให้เธอได้ทำตามเพื่อความสบายของเธอเองก็เถอะแต่เรื่องของหัวใจใครมันบังคับกันได้ล่ะ เธอต้องเสียบุคคลที่เฝ้ารอมาเป็น10ปีแต่เธอต้องมาใช้ชีวิตคู่ใครอีกคนที่เธอไม่รู้จัก เป็นใคร...ใครจะทำใจได้กันล่ะ
 
 
        ฟึบ!!
 
 
       "แก้ว!!"
 
       เสียงประตูถูกเปิดขึ้นแล้วตามด้วยเสียงกระวนกระวายของพี่สาวเธอแต่มันไม่ได้ทำให้เธอตกใจแต่อย่างใด เวลานี้คงไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ช็อคได้เท่ากับเรื่องนั้นแล้วล่ะ...
 
       "คะ..."
      
       เธอขาดรับเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟ เมื่อทุกอย่างในห้องสว่างพี่สาวของเธอก็ออกอากาiตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าของน้องสาวตน...แทบดูไม่ได้
 
       "เราไหวมั้ย..." เธอลูบศรีษะของน้องสาวแล้วกดลงมาเพื่อให้ไหล่ของตัวเองที่ระบาย
 
       "ต้องไหวสิค่ะ" น้องสาวเธอตอบเพียงแค่นั้นแต่ก็ก้มลงไปฝากน้ำตาไว้บนไหล่ของพี่สาว
 
        "เจ๊รู้ว่าแกไม่ไหวหรอก...ปล่อยออกมาเหอะ"
 
        ทั้งห้องเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นของเธอที่ซบใบหน้าสวยหวานลงบนไหล่ของพี่สาว แรงสะอื้นเป็นเครื่องบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้น้องสาวของกำลังเสียใจแค่ไหน..แน่สิเป็นใครก็คงรับไม่ไหวหรอกขนาดเธอที่ว่าเข้มแข็งแต่ถ้าเจอเรื่องแบบนี้เธอก็อาจจะเป็นหนักกว่าน้องเธอก็เป็นได้....
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
...ruktomokaew...
 
 
 
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ตอนที่2ออกมาแล้วยังมีใครรอฟิคเรามั้ยเอ่ย5555 วันนี้เราอาจจะอัพอีกเรื่องนะแต่ก็ไม่แน่อาจจะไม่อัพรอดูความไหวของมันสมองอันน้อยนิดก่อน555 เม้นกันด้วยนะคะ ขอเยอะๆเลย เราว่าจะเปิดเรื่องนี้นานแล้วแต่ก็ยังไม่มีโอกาส วันนี้ถ้าเม้นเรื่องนี้เยอะเราก็ว่าจะอัพNever too late อีกเรื่องด้วย จะอัพคู่กันไปแต่ถ้าเม้นไม่เยอะก็ยกเลิกโปรแกรมทั้งหมด!5555

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา