Friend With Benefit เพื่อนกันฉัน(แอบ)รักเํธอ
9.8
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.16 น.
8 ตอน
226 วิจารณ์
26.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เป็นแค่เพื่อน...‘อย่ามาล้ำเส้น’”
“คนที่ล้ำเส้นไม่ใช่ฉัน...แต่มันคือเธอนั่นแหละแก้ว! เธอบอกว่าฉันจะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอรักอีกต่อไป หมายความว่าไง...หมายความว่าที่ผ่านมาเธอเองก็รักฉันมาตลอดงั้นสิ เหอะ...เลิกฝันอะไรลมๆแล้งซักทีเถอะ เธอก็รู้ว่าเรื่องระหว่างฉันกับเธอไม่มีวันจะกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว...”
“...”
“เธอคิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรกับคนอย่างเธองั้นเหรอ...ผู้หญิงที่นอนกับใครง่ายๆแบบเธอ อย่าหวังว่าฉันจะรู้สึกอะไรด้วย! ลองถ้ายอมฉันง่ายๆ กับคนอื่นก็คงไม่เหลือเหมือนกัน เธอว่าฉันมั่วผู้หญิงเป็นสิบเป็นร้อย แต่รู้ไว้เลยนะ...ว่าเธอมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันเท่าไหร่นักหรอกแก้ว ใครพาไปไหนเธอก็ไป ทำไม...เห็นผู้ชายไม่ได้หรือยังไงถึงได้วิ่งตัวสั่นตามมันริกๆน่ะ...”
“....”
“เมื่อกี้เธอไปกับไอ้เวรนั่น ตอนนี้เธอมากับฉัน เหอะ...มันไม่ต่างอะไรกับผู้หญิง ‘แบบนั้น’ ซักนิด!”
คำพูดของเขาเสมือนกับการ ‘ตบหน้า’ ฉันอย่างเลือดเย็น เจ็บ...จนชาชินไปหมด โทโมะทำร้ายหัวใจของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำร้ายอยู่ได้ซ้ำซาก ทำซะจนฉันไม่กล้าเรียกก้อนเนื้อที่กำลังเต้นแผ่วๆในอกข้างซ้ายว่า...หัวใจ! มันสนุกมากนักใช่มั้ยกับการที่เขาต้องเห็นฉันช้ำใจ ร้องไห้เป็นบ้าอยู่แบบนี้ เหรอ...เขาสะใจเหรอ เพราะอะไรล่ะ ต้องการเห็นฉันเป็นแบบนี้ไปเพราะอะไร!
“อย่าลืมสิ...ผู้หญิง ‘แบบนั้น’ ที่นายว่าน่ะ...วันก่อนนายก็นอนกับเขาน่ะ เหอะ...” ฉันเอาตัวเองไปเปรียบกับผู้หญิงแบบนั้นอย่างที่เขาต้องการ โทโมะสบตากับฉันด้วยความแข็งกร้าวโกรธเกรี้ยวและพร้อมจะคร่าชีวิตฉันได้ทุกเมื่อถ้าเขาต้องการ
“อย่ามายอกย้อนฉัน! อ๋อ คิดว่ามีผู้ชายใหม่มาเป็นสะพานแล้วเลยคิดที่จะลองดีกับฉันใช่มั้ยแก้ว!” ฝ่ามือหยาบใหญ่บีบกำต้นแขนของฉันไว้แน่นจนฉันปวดร้าวไปหมด ทำไมเขาถึงต้องทำรุนแรงกับฉันขนาดนี้ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธแค้นกัน...ไม่เข้าใจเลย!
“นายดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว...นายคิดว่าจะมีผู้หญิงซักกี่คนบนโลกใบนี้ที่ยอมนายทุกอย่าง เหอะ...ยอมถูกเขาบอกเลิก แต่เมื่อไหร่ที่เขาต้องการกลับต้องยอมเป็นเครื่องระบายให้เขา โดนผู้ชายคนนึงเอาความสัมพันธ์บ้าๆมาอ้างอย่างเห็นแก่ตัว ยอมนอนกับเขาเพราะ...รักเขา และไม่ต้องการจะเสียเขาไป แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะยังคงมีผู้หญิงอื่นอยู่เรื่อยๆ จะมีซักกี่คนเหรอโทโมะ...ที่โง่แบบฉัน...แบบแก้วคนนี้!”
“...”
“คิดบ้างมั้ย...ที่ฉันยอมนายเพราะอะไร นายคิดเหรอว่าในวันที่นายเดินเข้ามาหาฉันแล้วพูดว่าเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ฉันจะทำใจได้...ฉันเคยพูดกับนายเหรอว่าฉันเลิกรักนายไปแล้ว ฉันเคยพูดเหรอ ถามจริงๆเถอะ...นายเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า เคยบ้างมั้ยที่นายจะรู้สึกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่นายรัก...”
ฉันสะอื้นตัวโยนพลางมองกลับเข้าไปภายในแววตาว่างเปล่าของผู้ชายตรงหน้า ฉันไม่ควรถามเขาออกไปแบบนั้น ไม่ควรถามหาคำว่ารักจากปากของเขา โทโมะไม่เคยรักฉัน เขาเห็นฉันเป็นแค่ของตายที่จะกลับมาเล่นทิ้งเล่นขว้างเมื่อไหร่ก็ได้ แต่รู้อะไรมั้ย...ผู้หญิงโง่ๆคนนี้ก็ยังคงรักเขา ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รัก ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่แม้แต่จะใยดี แล้วฉันรักเขาทำไม...ทำไมทุกครั้งที่พยายามจะตัดใจ...ฉันกลับคิดถึงช่วงเวลาแสนหวานของฉันกับเขาอยู่ตลอดเวลา...
“...คำตอบนั้นฉันรู้ดี” ฉันตัดสินใจเดินหันหลังให้โทโมะแล้วพาตัวเองกลับเข้ามาสงบสติอารมณ์อยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง ภาพในวันวานฉายซ้ำขึ้นมาให้ฉันได้เห็นทุกครั้งที่ฉันหลับตา...
“โหย ทีหลังไปเดินไกลๆพวกแม่งดิ้ เหอะ...” คนตัวสูงที่เดินข้างๆฉันกำลังบ่นหงุดหงิดอย่างหัวเสียที่เห็นพวกผู้ชายในคณะชอบเข้ามายุ่งกับฉัน ทั้งที่ฉันก็พยายามสุดๆแล้วที่จะไม่ไปยุ่งกับพวกเขา หมอนี่ก็เลยได้แต่ทำท่าปึงปังใส่จะโวยวายกับใครก็ไม่ได้เพราะกลัวคนรู้เรื่องที่เรา...คบกัน
“ไม่เอาน่า ไอ้หมา อย่ามาโวยวาย คิกๆ” ฉันหัวเราะร่าที่เห็นเขาทำหน้ามุ่ยแบบนั้น อืม...จะบอกว่าฉันรู้สึกดีก็ได้นะ เพราะมันเหมือนกับว่า เขา...หึงฉันเลยล่ะ
“นี่ก็สวยขึ้นทุกวัน อะไรนักหนาวะ! ฮึ่ย!!!” คนตัวสูงทำท่าฟึดฟัดเหมือนหมาอดข้าวก่อนจะหันมากอดคอฉันเดินกลับบ้านเหมือนทุกวัน ฉันเขินนะ...ที่เขาชมว่าฉันสวยขึ้นทุกวันน่ะ แปลว่าเขาก็ใส่ใจในรายละเอียดและการเปลี่ยนแปลงของฉันน่ะสิ...เขินจัง
เราแอบคบกันเงียบๆแบบนี้ได้ปีกว่าแล้วโดยที่คนอื่นๆก็ยังไม่รู้ แม้กระทั่งฟางที่เป็นเพื่อร่วมบ้านกันแท้ๆฉันกับโทโมะยังไม่คิดจะปริปากพูด เขาบอกว่า...ยังไม่อยากให้ใครรู้เพราะปรับตัวไม่ทันและอีกอย่าง ถ้าฟางรู้ เจ้าตัวจะต้องโวยวายแน่ที่จู่ๆเพื่อนที่เห็นกันมานานจะมาคบกันซะอีก จะยังไงดีล่ะ...มันคงแปลกไม่ใช่น้อยเลย แล้วโทโมะก็เจ้าชู้ใช่หยอกด้วย...ถึงอย่างนั้นฉันก็ยอมเขามาโดยตลอด อีกอย่างที่ฉันหนักใจที่สุดก็คือ ก่อนจบชั้นมัธยม...พวกเราเคยสาบานตนร่วมกันว่าจะไม่มีใครคิดเป็นอื่นกับเพื่อนเด็ดขาด ฉันจึงเห็นด้วยกับโทโมะที่เรื่องนี้ควรจะเป็นความลับต่อไป
แต่แล้ววันหนึ่ง...ความลับของเราสองคนก็มีอันต้องตายจากไปก่อนที่ฉันพร้อมจะบอกคนอื่นด้วยซ้ำ!
“แก้ว...” โทโมะเรียกฉันด้วยน้ำเสียงที่ผิดแปลกไปจากเดิม มัน...มันเศร้าเกินไป ความจริงแล้วเขาต้องร่าเริงสิ
“เป็นอะไรไอ้หมา...” ถึงฉันจะทำน้ำเสียงเริงร่าแค่ไหน แต่ก็รู้ดีว่าในใจกำลังยิ้มไม่ออก โทโมะมองหน้าฉันนิ่งแล้วดึงฉันเข้าไปกอดแน่น ฉัน...ฉันไม่รู้สึกดีเลยล่ะ เป็นกอดที่ฉันไม่ต้องการมากที่สุด มันเหมือนกับ...เราจะได้กอดกันแบบนี้ในฐานะ...คนรัก
“กลับไปเป็นเพื่อนกันนะแก้ว...”
อ้อมกอดของฉันคล้ายตัวลงเมื่อหนึ่งประโยคที่แสนบาดใจเอ่ยออกมา ฉันมองหน้าเขาด้วยหัวใจที่แหลกเหลวและน้ำตาก็ไหลลงมาโดยที่ฉันไม่ต้องบังคับมัน ฉันคิดอยู่ตลอดเวลาว่าฉันทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสวยสู้ผู้หญิงคนอื่นๆของเขาไม่ได้หรอกเหรอ...ทำไม ทำไมกัน
“อืม...” ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องไปอยากรู้ว่าเพราะอะไรโทโมะถึงกลับมาขอเป็นเพื่อนกับฉัน ถามไป...เราก็ต้องจบแบบนี้อยู่ดี ไม่มีทางเลยที่จะกลับไปเป็นเหมือนเก่า เขาไม่ได้รักฉันแล้ว...
“ฉันอึดอัดที่จะต้องหลบๆซ่อนๆ ขอโทษนะแก้ว แต่...ฉันว่าเรามาตกลงในฐานะ ‘เพื่อนใหม่’ กันดีกว่านะ..” ฉันไม่เข้าใจว่าโทโมะต้องการจะเล่นตลกอะไรกับฉันอีก แค่นี้เขายังสนุกไม่พออีกหรือไง เห็นฉันเจ็บช้ำขนาดนี้แล้วยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ
ฉันฟังเขาพูดเงียบๆซึ่งมันตรงข้ามกับหัวใจที่กำลังเต้นตุบคล้ายจะระเบิดของฉัน เขากล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกัน แต่...ทุกอย่างยังคงปฏิบัติกับฉันเหมือนเดิม เขาใช้ความสัมพันธ์บ้าๆนั่นผูกมัดฉันไว้ Friend with benefit…เหอะ น่าสมเพชสิ้นดี แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผีตนไหนเจาะปากฉันให้ตอบตกลงเขาไป เพียงเหตุผลหนึ่งเดียวที่ว่า...ฉันรักโทโมะมากเหลือเกิน
แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ โทโมะกลับมาปฏิบัติตัวกับฉันเหมือนเพื่อนคนเดิมเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นรวมถึงฟางด้วย แต่พอหลับหลัง...เขากลับเข้ามากอดฉัน จูบฉัน และทำเหมือนกับที่คนรักเขาทำกันแต่ทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า ‘เพื่อน’ เท่านั้น...ไม่มีสิทธิ์หึง ไม่มีสิทธิ์หวง ไม่มีความผูกพันใดๆทั้งสิ้น!
ฉันทรมานแบบนี้มาสองปีแล้ว...และคาดว่าฉันน่าจะทรมานแบบนี้ตลอดชั่วชีวิตของฉันต่อไป...
“ถ้าฉันตาย...ฉันจะเลิกทรมานใช่มั้ย...” ฉันพูดกับตัวเองพร้อมทั้งน้ำตาที่ยังคงไหลพรากไม่ขาดสาย มีดคัดเตอร์เล่มเล็กแหลมคมภายในลิ้นชักถูกฉันคุ้ยหยิบขึ้นมาวางพาดบนข้อมือบางของตัวเอง ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศส่งผลให้ใบมีดเย็นเฉียบราวกับมันต้องการจะประหัตประหารฉันแล้ว...
ถึงแม้ว่าการตัดสินใจของฉันอาจจะดูโง่เง่าในสายตาคนอื่น อาจจะมองว่าฉันเป็นคนไม่รักตัวเองก็ตาม แต่ฉันเชื่อ...ว่าวิธีนี้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ฉันอยู่ไปก็รังแต่จะได้รับความเจ็บปวด สู้ให้ฉันตายๆไปให้พ้นซะเรื่องมันจะได้จบและฉันก็จะได้ไม่ต้อง...เจ็บ! ไม่ต้องเจ็บอีกต่อไปแล้ว...
ความคมของใบมีดค่อยๆกรีดลงบนผิวเนื้อบางๆบริเวณข้อมือและฉันก็ค่อยๆเพิ่มแรงกดจนมันบาดลึกลงถึงเส้นเลือดที่ไหลรวมในตัวฉัน บอกได้เลยว่าฉันไม่เจ็บ...สิ่งที่ฉันได้พบเจอมาตลอดเสมือนกันยาชาชั้นเลิศของฉันไปแล้ว ร่างกายของฉันชาวาบ...สะบัดร้อนสะบัดหนาว และทุรนทุรายกับความเจ็บช้ำมามากเกินกว่าจะมาเจ็บกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้อีก
พลั่วะ!
“ทำบ้าอะไร หยุดนะ!” เสียงห้าวห้วนพร้อมกับบานประตูที่ถูกถีบออกอย่างแรงดังขึ้นพร้อมกับร่างของโทโมะที่พุ่งตรงมากระชากใบมีดออกจากมือฉัน
สายตาที่พร่าเบลอไปด้วยน้ำตาของฉันมองเห็นร่างของเขาได้เลือนรางหากทว่ากลับชัดเจนที่สุดในความคิดของฉัน สีหน้าของโทโมะบ่งบอกถึงความโกรธจนแทบจะฉีกเนื้อฉันได้ถ้าเขามีปัญญาพอที่จะทำแบบนั้น ฝ่ามือใหญ่อบอุ่นที่เคยกุมมือฉันเลื่อนมาบีบต้นแขนของฉันทั้งสองไว้แน่นแล้สกระชากฉันให้ยืนขึ้นจ้องหน้ากับเขา...
“ทำบ้าอะไร!”
“...ฮึก”
“ฉันถามว่าทำบ้าอะไร!”
“จะฆ่าตัวตาย...ทำไม จะไม่ให้ฉันตายเหรอ...”
“อย่าทำอะไรโง่ๆเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉันนะแก้ว! ฉันไม่ตลกกับเธอสักนิด!” เขาตวาดฉันเสียงดัง...จะเป็นไปได้มั้ยนะที่โทโมะจะรู้สึกเป็นห่วงฉัน หรือไม่เขาก็แค่ไม่ต้องการให้มีคนมาตายในบ้านก็แค่นั้น ฉันเกรงว่ามันจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า โทโมะไม่เคยแคร์ความรู้สึกของฉันอยู่แล้วนี่
“ก็ไม่ได้จะตลก ฉันอยากหนีไปให้พ้นๆเรื่องราวบ้าๆนี่ซะที นายเองก็ควรจะดีใจไม่ใช่หรือไงที่ฉันตายนะ...คนอย่างฉันมันไร้ค่าอยู่แล้วนี่ นายเป็นห่วงผู้หญิง ‘แบบนั้น’ อย่างฉันด้วยเหรอ!”
เพียะ!
ฝ่ามือใหญ่ของเขาปะทะเข้ากับใบหน้าของฉันอย่างแรงจนหันไปอีกทาง มุมปากของฉันชาวาบและกลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งอยู่ในอุ้งปากด้วยแรงตบมหาศาลจากโทโมะ เหอะ...นัยน์ตาของเขาดุดันแข็งกร้าวราวกับว่าเขาหัวเสียเหลือเกินที่ฉันคิดจะทำอะไรโง่ๆแบบนั้นลงไป...
“ฉันตบ...เพื่อให้เธอรู้สติ ถ้ายังไม่หายบ้า...ฉันก็จะตบจนกว่าเธอจะหายบ้า!”
“...เหอะ”
“คิดจะลองดีใช่มั้ยแก้ว...”
“ตบอีกสิ...ฉันชินแล้วล่ะกับความเจ็บปวดที่นาย...หยิบยื่นให้”
ฉันเงยหน้าขึ้นสบมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า เฉยชา...ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วล่ะ ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว โทโมะทำร้ายฉันอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งได้อย่างเลือดเย็น ฉันไม่เจ็บซักนิดที่ถูกเขาตบฉาดใหญ่แบบนั้น แต่เจ็บที่ใจมากกว่าที่ยังคงงมงายหลงรักผู้ชายคนนี้จนคิดทำอะไรบ้าๆลงไป เขามองฉันด้วยแววตาอ่านยาก...และแล้วผู้ชายคนนี้กลับทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงอีกครั้ง...
เขาคว้าตัวฉันเข้าไปกอดแน่นแล้ว...จูบฉันด้วยความดุดัน ร้อนแรง...จนฉันแทบหลอมละลายคาอ้อมกอดของเขาไป ทำไมกันนะ...ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันอีกแล้ว ผลักฉันลงนรกแท้ๆแต่สุดท้าย...กลับดึงมือฉันขึ้นมาเผชิญหน้ากับมัจจุราชบนดินอย่างเขาอีกครั้ง ให้ฉันตายเถอะ...ถ้าโทโมะจะทำร้ายฉันด้วยวิธี ‘แบบนี้’
เขารู้อยู่แล้ว...ว่าฉันไม่มีทางจะเอาชนะเขาได้...
เจอแบบนี้มันเจ็บจุงเบยยยยย -.-
ผีดิบเค้าก็มีเหตุผลของเค้านะอย่าเพิ่งเกลียดป๊านุกกิกิ
รีดฯ : นุก.........ไปตาย! ทำร้ายแก้วงี้ได้ไง บลาๆๆๆ OIO$#^%##
นุก : ก็เกลียดจริญอ่ะ น่ารักเกิน -////-*โกยยยย*
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ