Friend With Benefit เพื่อนกันฉัน(แอบ)รักเํธอ

9.8

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.16 น.

  8 ตอน
  226 วิจารณ์
  26.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ตอนที่ 1

 

 

“ฉันไม่กลับบ้านสัก 3-4 วันนะ ต้องไปรับน้องสาวที่เพิ่งกลับจากสวิสฯที่สนามบินแล้วก็คงไปพักที่โรงแรมพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เลย...”

 

 

 

 

 

            ‘ฟาง’ ทิ้งโน้ตสั้นๆแปะไว้บนตู้เย็นเพื่อบอกให้เพื่อนร่วมบ้านรวมถึงเป็นเพื่อนสนิทสองคนได้รับรู้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้นสำหรับให้เช่า ฟาง แก้ว และโทโมะที่เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงเรียนมหา’ลัยก็ยังคงเรียนที่เดียวกันต่างก็แค่คณะของแต่ละคน ทั้งหมดตัดสินใจเช่าบ้านพักด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัย

 

 

 

 

            บ้านเช่าหลังนี้อยู่ไม่ไกลไปจากมหาลัยนักและอีกอย่างก็อยู่ใกล้กับซุปเปอร์ฯ ทั้งสามคนจึงลงความเห็นที่จะขอเช่าบ้านหลังนี้ ถึงแม้จะมีบางคนสงสัยใน ‘ความเป็นเพื่อน’ ของทั้งสามแต่พวกเขาก็หาได้สนใจ ถึงโทโมะจะเป็นผู้ชายแต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษพอและด้วยความที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเรื่องชู้สาวจึงไม่มีทางเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อนรักกลุ่มนี้เป็นแน่!

 

 

 

           

“ยัยฟางนะยัยฟาง ไปไหนมาไหนไม่ยอมบอกแล้วก็มาแปะโพสอิทไว้เนี่ยนะ!”  ‘แก้ว’ บ่นอุบเมื่อบังเอิญมาเห็นโน๊ตสั้นๆของเพื่อนตัวแสบแปะหราอยู่กลางตู้เย็น ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆกับนิสัยอันเป็นที่รู้กันดีของฟาง

 

 

 

“กลับมาจะว่าให้หูชาเลยยัยกระต่ายตัวแสบ...อุ้ย!”  หญิงสาวตกใจไม่น้อยเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงความนุ่มนวลแต่หนักหน่วงที่ข้างแก้มของตัวเอง พร้อมกับสัมผัสหนักๆบริเวณเอวเนื่องจากถูกแขนแกร่งของ ‘ใครบางคน’ พาดผ่านไว้หลวมๆ

 

 

 

“ฟางไม่อยู่น่ะดีแล้ว...”  เสียงทุ้มกระซิบพร่าอยู่ข้างใบหูทำให้เจ้าของดวงหน้าสวยหวานแก้มแดงปลั่งอย่างห้ามไม่ได้ เธอจำได้ดีว่าอ้อมกอดนี่เป็นของใคร กลิ่นน้ำหอมบางเบาจากตัวของเขาเป็นเครื่องยืนยันได้ดี

 

 

 

“อย่าทำแบบนี้นะ..”  เสียงหวานเอ็ดคนที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังตัวเองเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวหันไปเผชิญหน้ากับนัยน์ตาคมเข้มแพรวพราวซุกซนคู่นั้น ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มน้อยๆบนดวงหน้าคมคายนั่นราวกับจะยียวนกวนประสาทเธอแต่เช้าที่เจอหน้ากัน

 

 

 

“ทำไมจะทำไม่ได้? มากกว่านี้ก็เคยทำ” 

 

 

 

“มันไม่สมควร”

 

 

 

“ไม่สมควรอะไร?”

 

 

 

 

 

            ใบหน้าหล่อของคู่สนทนาบูดบึ้งเมื่อเจ้าของร่างบางในอ้อมกอดทำท่าจะไม่ยอมให้เขา ‘รัก’ อย่างไงอย่างงั้น ใบหน้าหวานหยดจับจ้องเขาอย่างเกี่ยงงอนเช่นเดียวกันที่เขาทำรุ่มร่ามกับเธอแบบนี้ มือบางพยายามดันแผ่นอกกว้างให้ออกห่างด้วยความไม่ไว้ใจผู้ชายตรงหน้ามากนัก

 

 

 

“ทุกอย่าง...” ริมฝีปากอิ่มสวยเม้มแน่นเป็นเส้นตรงหลังจากพูดคำที่ตรงกันข้ามกับหัวใจออกไป นัยน์ตากลมใสดูหม่นเศร้าลงและเธอเองก็ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาในเวลานี้เลย

 

 

 

“คิดมากทำไม ตอนนี้ไม่มีใครนอกจากเราสองคน...จะแคร์อะไร คนที่เธอควรจะแคร์น่ะคือฉัน..”  ร่างสูงพูดอย่างคนเอาแต่ใจจนแก้วต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รู้สึกเจ็บกับการกระทำของเขาไม่น้อยและก็อึดอัดกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มากเหลือเกิน

 

 

 

“แต่คนที่ ‘โทโมะ’ ควรจะแคร์คือ..’พิม’ ” 

 

 

 

 

            แก้วพูดชื่อของผู้หญิงอีกคนอย่างยากลำบากในลำคอรู้สึกแห้งผาก ความเจ็บปวดมีรสชาติบาดแหลมเสมอ ‘ผู้หญิงคนนั้น’  ที่เธอพูดถึงก็คือ ‘แฟนคนล่าสุด’ ของเขา ใครก็รู้ว่าโทโมะเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกหน้าแต่เมื่อไม่นานเขาเพิ่งมีโอกาสได้รู้จักกับสาวสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่มหาลัยเดียวกันจนกระทั่งตอนนี้...เขาทั้งสองกำลังคบกันอย่างเปิดเผย แต่ถึงกระนั้นโทโมะก็ยังคงมีผู้หญิงมาเรื่อยๆโดยคนที่รู้ดีที่สุดก็คือ ‘เพื่อนร่วมบ้าน’ อย่างแก้ว

 

 

 

ถึงจะรู้ดีที่สุดแต่ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรออกไป!

 

 

 

 

“พูดถึงคนอื่นทำไม ตอนนี้ฉันควรจะแคร์เธอสิถึงจะถูก...”  เสียงนุ่มทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากของอีกฝ่าย ริมปากบางที่เม้มแน่นนั่นมีความหอมหวานซ่อนอยู่อย่างทะลักทะล้น โทโมะรู้สึกถึงความหอมละมุนจากเนื้อตัวของคนที่เขากำลังกอดรัดแนบชิดอยู่ตอนนี้ แล้วเรื่องอะไรที่จะต้องไปแคร์ ไปคิดถึงคนอื่นกัน...

 

 

 

“แคร์?”  เสียงหวานกึ่งถามกึ่งเยาะให้ตัวเอง ก็รู้อยู่ที่เขาพูดหวานเอาใจเธอมันเป็นเพราะเขาต้องการอะไรบางอย่างจากเธอต่างหาก แก้วไม่ควรปล่อยตัวเองให้หลงระเริงดีใจไปกับคำพูดแบบนั้นจากปากเขาสักนิด

 

 

 

“ขอจูบหน่อยได้มั้ย” 

 

 

 

“ไม่ให้...”   ใบหน้าหวานเบือนหน้าหนีหลบสายตาเจ้าเล่ห์และริมฝีปากรุ่มร้อนที่คลอเคลียแนบชิดติดริมฝีปากของเธออย่างหักห้ามใจ มือเรียวบางพยายามพันธนาการทุกอย่างที่เขาจองจำเธอไว้ออกอย่างยากลำบากเมื่อคนดื้อดึงเอาแต่ใจไม่ยอมปลดปล่อยให้เธอเป็นอิสระ

 

 

 

“ทำไม?” เสียงเข้มเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

“ถ้าอยากจูบ...ไปจูบแฟนตัวเอง อย่าลืมสิว่าเราเป็น ‘เพื่อน’ กัน”  คำว่าเพื่อนทำเอาอีกคนขมวดคิ้วด้วยความเคืองขุ่น ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องลึกไปยังดวงตาสีน้ำตาลหวานเศร้าของร่างแบบบางอย่างค้นหาว่าทำไมเธอถึงเลือกจะพูดคำนี้ออกมา

 

 

 

“เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก..ไม่เอาน่า”  ฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมาแตะข้างแก้มใสอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการทะนุถนอมแก้วเอาไว้อย่างดีที่สุด ริมฝีปากหนาจรดลงจุมพิตบนหน้าปากเนียนเรียบอย่างปลอบขวัญร่างตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

 

 

 

“อย่า...” เสียงร้องห้ามนั่นแผ่วหวิวจนแทบกลายเป็นเสียงกระซิบดูก็รู้ว่าเจ้าของคำพูดใจอ่อนยวบมากแค่ไหนแล้ว

 

 

 

“ตกลง...จะให้จูบได้หรือยัง”  รอยยิ้มขันปรากฏขึ้นบนดวงหน้าคมเป็นประกายเมื่อเห็นแก้มใสแดงระเรื่อเพราะรับสัมผัสจากเขา ไม่ต้องรอให้เจ้าตัวอนุญาตเขาก็ถือโอกาสว่าเธอยินยอมไปโดยปริยาย

 

 

 

 

            แก้วไม่ได้พูดอะไรออกไปได้แต่สบผสานสายตากับนัยน์ตาคมที่ทอดมองเธออย่างอ่อนโยนด้วยใจที่หวิวไหว ริมฝีปากร้อนจัดค่อยๆประพรมจุมพิตบางเบาลงบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างอ้อยอิ่งจนแก้วสั่นสะท้าน เขาสัมผัสนุ่มนวลอย่างรู้ที่ทางราวกับชำนิชำนาญกับมันเสียเหลือเกิน สัมผัสของเขาคล้ายกับมีมนต์สะกดทำให้สมองของเธอพร่าเบลอเลือนรางแม้แต่เสียงร้องห้ามยังเปล่งออกไปไม่ได้...

 

 

 

 

 

            ฝ่ามืออุ่นร้อนลากไล้ผ่านสาบเสื้อกล้ามสีชมพูตัวบางอย่างเชื่องช้าราวกับต้องการจะสัมผัสผิวกายนุ่มเนียนทุกซอกทุกมุม ความรุ่มร้อนที่แผ่นหลังจากฝ่ามือซุกซนของเขาทำให้แก้วรู้สึกว่าร่างกายคล้ายจะอ่อนเหลวราวกับร่างของเธอไร้กระดูกเสียอย่างนั้น

 

 

 

“อือ..”  ร่างบางเริ่มร้องประท้วงก่อนจะทุบอกเขาเบาๆเป็นเชิงบอกให้เขารู้ว่าเธอเริ่มหมดอากาศหายใจแล้ว และโทโมะก็นุ่มนวลกับเธอพอถึงแม้กว่าที่เขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากเธอก็แทบจะเผาผลาญลมหายใจเธอแทบจะหมดปอดก็เถอะ

 

 

 

“เธอหวานที่สุดเท่าที่ฉันจูบกับผู้หญิงมาเลยแก้ว หวาน...จนไม่อยากจะถอนปากออกเลยให้ตายเหอะ...”  โทโมะประคองแก้มใสอย่างนุ่มนวลพลางเชยปลายคางเรียวของแก้วให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆแทนที่จะเบี่ยงหน้าหนี

 

 

 

“เหรอ..” แก้วตอบเขาเสียงแผ่ว

 

 

 

“มากกว่านี้ได้หรือเปล่า...”

 

 

 

“จะไม่หยุดอยู่แค่นี้จริงๆเหรอ..”  นัยน์ตากลมหวานดูสับสนไม่น้อย รู้ดีว่าเธอกับเขาถลำลึกเกินกว่าจะกลับไปยืนที่จุดเริ่มต้นเหมือนเก่า แต่มันก็มีทางยับยั้งไม่ใช่หรือไงอย่างน้อยก็ดีกว่าเดินหน้าต่อไปทั้งๆที่รู้ดีว่าจุดหมายปลายทางไม่ต่างอะไรจากขุมนรกร้อนๆนี่เอง

 

 

 

“หยุดไม่ได้หรอก ถ้าจะโทษก็โทษความหอมหวานจากตัวเธอก็แล้วกัน ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ...ฉันร้อนจนแทบทนไม่ไหวเลยนะแก้ว เธอควรภูมิใจที่ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นแต่มันเกิดขึ้นกับเธอ”

 

 

 

“ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนอื่น เหอะ..”  แก้วแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันตัวเอง เขาพูดก็เพราะว่าเขา ‘ต้องการ’ เธอเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะส่อไปถึงทางอื่นอย่างที่เธอเผลอคิดไป ไม่คิดว่าทุกอย่างที่ได้รับจากเขาจะเกิดจากความ ‘รัก’ ไม่ใช่ความหลง

 

 

 

 

“โอเค..ฉันยอมรับว่าฉันก็ผ่านผู้หญิงมามากและทุกครั้งเธอรู้ว่าฉันกับผู้หญิงพวกนั้นจะจบกันที่ไหนถ้าไม่ใช่...เตียง”

 

 

 

“...!!!”  แก้วเบี่ยงหน้าเขาวูบไม่อยากให้โทโมะเห็นดวงตากลมโตที่คลอเอ่อด้วยหยาดน้ำตาปริ่มๆ ไม่อยากให้เขายิ้มเยาะเอาได้ว่าเธอ ‘รู้สึกอะไร’ กับเขาทั้งที่เขา ‘ไม่ได้รู้สึกอะไร’ กับเธอ!

 

 

 

“มันไม่เหมือนกัน เธอกับผู้หญิงพวกนั้นหรือแม้กระทั่ง...พิม” 

 

 

 

“จะทำอะไรก็รีบๆทำเถอะ อย่าพูดมากให้เสียเวลาเลย” แก้วบอกปัดเขาเพราะไม่อยากฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อไป ด้วยรู้ดีว่าทุกถ้อยคำมันก็แค่ ‘หลอกล่อ’  ให้เธอเคลิ้มตามไปกับเขาและสุดท้ายเขาก็จะบังคับให้เธอยินยอมไปเอง

 

 

 

“ใจร้อน...”  ริมปากหนายกยิ้มสูงพร้อมกับนิ้วเรียวที่เกลี่ยข้างแก้มใสอย่างทะนุถนอม นัยน์ตามคมปลาบสบมองแก้วอย่างลึกซึ้ง อบอุ่น อ่อนโยนและมีความหมาย จนทำให้เธอเผลอคิดว่าตัวเองก็มีความ ‘สำคัญ’ กับเขาอยู่บ้าง

 

 

 

 

แต่มันก็คงได้แค่คิด พอเขาได้ดังใจเธอกับเขาก็กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

น่าสมเพชตัวองดีจัง...

 

 

 

 

            ร่างสูงเลื่อนฝ่ามือร้อนลากไล้เข้าไปภายในสาบเสื้อตัวบางก่อนจะปลดตะขอบราเซียออกให้พ้นทาง ริมฝีปากร้อนแนบฝังลงบนต้นคอนุ่มอย่างนิ่มนวลกอดกระหวัดร่างแบบางเข้าสู่อ้อมกอดอย่างเต็มรัก โทโมะเงยหน้ามองดวงหน้าใสอย่างอ่อนโยนก่อนจะเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปประทับจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่สุกนั้นอย่างเร่าร้อน ฝ่ามือซุกซนยังคงลูบไล้เนื้อนวลทุกซอกทุกมุมภายใต้ร่มผ้าที่ขวางกั้น

 

 

 

 

            ริมฝีปากร้ายกาจเข้าสำรวจทุกซอกมุมของร่างสวยตรงหน้าจนเกิดร่องรอยประปรายและไม่สนว่าแก้วจะรู้สึกยังไง สัมผัสของเขาวาบหวิวชวนให้หวั่นไหวทุกครั้งยามที่มือใหญ่ซุกซนพยายามเกี่ยวกางเกงยีนส์สีซีดขาสั้นของเธอออกให้พ้นทางและเขาก็ทำสำเร็จ

 

 

 

“โทโมะ...ไม่...ตรงนี้...”  ดวงหน้างามซีดสั่นเมื่อเขายกร่างบางขึ้นนั่งเหนือเคาเตอร์ครัว  นี่เขาตั้งใจจะ ‘ทำอะไร’ เธอตรงนี้เลยหรือยังไง ยิ่งเธอต่อต้านโทโมะก็ยิ่งรั้นมากเท่านั้น เขาไม่เปิดโอกาสให้แก้วทัดทานอะไรได้อีกเมื่อริมฝีปากร้อนจกใจบดเบียนยัดเยียนความร้อนแรงให้อย่างทันถ่วงที..

 

 

 

 

 

“โทโมะ...พอ...พอที” 

 

 

 

 

 

            แก้วร้องห้ามเมื่อเขาจงใจบดเบียดความร้อนซ่านจากร่างกายถ่ายทอดผ่านร่างกายอย่างกระชั้นชิดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เรียวแขนเสลาโอบกอดร่างเขาไว้แน่นเมื่อสัมผัสเร่าร้อนใกล้พาเธอถึงจุดแตกดับเข้าไปทุกทีหากแต่อีกฝ่ายกลับแกล้งดึงเธอลงมาจากห้วงอารมณ์ที่สูงสุดให้มาหยุดอยู่ระดับเดียวกันกับเขาอย่างต้องการกลั่นแกล้ง

 

 

 

 

“กอดฉันแน่นๆสิ...กอดฉัน”  เสียงทุ่มร้องสั่งและราวกับคำสั่งของเขาเหมือนเวทมนตร์ที่ควบคุมเธอไว้ให้ปฏิบัติตามคำเขาทุกอย่าง

 

 

 

“พูดสิว่าเธอรักฉันที่สุด”

 

 

 

“ทะ..ทำไม?”  เสียงหวานสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้ทั้งตกใจระคนแปลกใจจนก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นระรัวแรง วูบนึงที่แก้วคิดว่าเขา ‘อาจจะรัก’ เธอบ้าง แต่มันจะใช่เหรอ?...เราตกลงกันไว้เองว่าทุกอย่างจะตั้งอยู่บนคำว่า ‘เพื่อน’ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย...

 

 

 

“พูดว่าเธอรักฉัน...พูด”

 

 

 

“โทโมะ...อย่ามาเอาแต่ใจ..อ๊ะ!”  แก้วร้องขึ้นอย่างขัดใจเมื่อโทโมะหยุดการกระทำทุกอย่าง ดวงหน้าคมสบนัยน์ตาเธอนิ่งอย่างไม่พอใจเมื่อแก้วไม่ยอมพูดว่า ‘รักเขา’

 

 

 

แล้วไง เขาก็ไม่ได้รักเธอแล้วเรื่องอะไรที่เธอต้องยอมพูดว่ารักเขา มันไม่ยุติธรรมเลย!

 

 

 

“บอกฉันสิแก้ว...บอกฉัน!” เสียงเข้มที่ดูเหมือนขอร้องแต่แท้จริงแล้วมันคือการออกคำสั่งเสียมากกว่าในความคิดของแก้ว

 

 

 

“ไม่! ก็เราไม่ได้รักกันจริงๆนี่...จะ...จะให้พูดทำไม”

 

 

 

“ถึงเราจะไม่ได้รักกัน แล้วไง...ฉันต้องการให้เธอพูดก็คือต้องการให้พูดไม่ได้ต้องการความรักจากเธอซะหน่อย!”  เหมือนมีมีดแหลมนับพันเล่มพุ่งเข้ามาปักกลางใจอย่างไงอย่างงั้น เขาก็แค่ต้องการเอาชนะและต้องการให้ผู้หญิงทุกคนยอมทำตามความต้องการของเขา มันไม่ได้เกิดจากความรู้สึกใดๆทั้งนั้น

 

 

 

เลิกโง่เลิกฝันอะไรลมๆแล้งๆซะทียัยแก้ว

 

 

 

 

            ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นเป็นเส้นตรง นัยน์ตากลมหวานพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำตาก่อนที่แก้วจะตัดสินใจทำตามความต้องการของเขา ไหนๆเขาก็ชนะเธอทุกอย่างแล้วนี่จะให้เขาชนะอีกสักครั้งมันจะเป็นอะไรไปเพราะยังไงเธอก็แพ้เขาอยู่ดี เจ็บมาทั้งชีวิตรักแล้วเจ็บอีกนิดจะเป็นอะไรไป!

 

 

 

“ก็ได้...ฉันรักนาย รักนายๆๆๆๆๆๆ!”  แก้วตะโกนใส่หน้าเขาทั้งน้ำตาพร้อมกับมือเรียวที่ระดมทุบอกเขาดังอั้กอย่างน้อยใจ ถ้าเขาไม่หูหนวกตาบอดแก้วก็อยากจะให้เขาได้รับรู้เหลือเกินว่าเธอไม่ได้ประชด หากแต่ประโยคที่พูดออกไปมันคือความจริงที่เธอไม่เคยพูดออกมา

 

 

 

“ดี”  เยายกยิ้มอย่างสะใจก่อนจะส่งริมฝีปากร้อนประทับจูบเธออย่างนุ่มนวลและทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติจนกระทั่งสิ้นสุดลง

 

 

 

 

 

เจ็บปวดเหลือเกินกับความเย็นชาไร้หัวใจ พอแก้วคิดจะตัดใจจากเขาผู้ชายคนนี้ก็ชอบมาทำดีอ่อนโยน เอาใจเธอทุกอย่าง ยิ่งพยายามจะตัดเขาก็ยิ่งพยายามจะสานต่อ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...เธอไม่ต้องเสพติดอยู่กับเขาไปจนตายหรือยังไง!

 

 

 

 

ไม่! เธอจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะแก้ว...ไม่!

 

 

 


 

 

ฟิคเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 4 ปีบอร์ด TKR:)

ฟินสั้นๆกระแทกต่อมจิ้นนิดๆหน่อยๆหวังว่า...มันจะเรียกรอยยิ้ม

ได้ ไม่มากก็น้อย #HBDTKR4th สวัสดีที่รัก ^ ^ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา