BECAUSE OF YOU.เพราะเธอคือลมหายใจ...
9.8
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.35 น.
18 ตอน
305 วิจารณ์
57.63K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 11.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBECAUES OF YOU เพราะเธอคือลมหายใจ (NC)
ตอนที่4 เลือนราง...
สายตาคมจ้องมองร่างเล็กที่ยังนอนหลับอยู่อย่างสบายบนเบาะรถข้างคนขับ เธอหลับได้ทุกที่และ
ทุกเวลาจริงๆ นี่ก่อนมาก็แวะซื้อของฝากมาเต็มรถบอกว่าจะเอาไปฝากคนในครอบครัวแล้วก็เพื่อนสาวของเธอเอง
แต่เขาคิดว่าคนรับน่าจะไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควรเพราะสองเดือนที่ผ่านมานี้เขาพาเธอไปที่หัวหินเป็นรอบที่เก้าแล้ว หาก
เดือนนี้งานไม่รุมเร้าจนขยับตัวไปไหนไม่ได้ เขาก็จะพาเธอไปฮันนีมูนจริงๆที่อิตาลีสักสี่ห้าวัน อย่างที่เจ้าตัวอยาก
ไปก่อนที่เธอจะ...ความจำเสื่อม
“ฟางครับ ถึงบ้านแล้วนะ”เขาสะกิดเรียกหญิงสาวเบาๆ เธอค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมา ใช้มือเล็กขยี้ตาตัวเอง
เบาๆ
“พี่ป๊อปถือของฝากลงมาให้เค้าด้วยนะ”เธอออกคำสั่งก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของเขาอย่างเอาใจ
ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปปลดล็อกประตูบ้าน เขาโคลงศีรษะน้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบของฝากนับสิบถุงเดินลง
รถก่อนจะล็อกรถคันโปรด เดินตามภรรยาสาวที่เดินไปเปิดประตูหน้าต่างของบ้าน
“พี่ป๊อป ดอกกุหลาบบานแล้ว สวยจังเลย”คนตัวเล็กเกาะกระจกบานใสที่ติดอยู่กับสวนดอกไม้ของเธอที่
เจ้าตัวลงมือตกแต่งเองกับมือ เขาวางของลงบนโต๊ะรับแขก ก่อนจะเดินไปสวมกอดร่างเล็กจากทางด้านหลัง เกย
คางลงบนไหล่บอบบางก่อนจะกดจมูกโด่งลงบนแก้มนวลที่เริ่มแดงปลั่ง
“สวย...”เขากระซิบข้างใบหูบอบบาง
“ฟางก็ว่าสวยค่ะ เราไปหามาปลูกเพิ่มกันดีมั้ย ฟางว่าดอกสีขาวมันยังน้อยไปนิดนึง”เขาทอดสายตามอง
สวนดอกกุหลาบที่เธอบอกว่ายังน้อยไป
“นั่นมันก็จะร้อยต้นแล้วนะครับ เดี๋ยวฟางก็ได้ตัดดอกกุหลาบขายกันพอดี”
“แต่เค้าอยากปลูก พรุ่งนี้หลังพี่ป๊อปเลิกงานเราไปดูกันนะคะ”คนตัวเล็กมัดมือชก ก่อนจะงัดไม้เด็ดที่ทำ
ให้เขาใจอ่อนด้วยการกดจมูกโด่งรั้นนั้นลงบนแก้มของเขา รอยยิ้มสดใสที่หยุดโลกทั้งใบได้ถูกส่งมาให้เขา เขา
ถอนหายใจ ก่อนจะบีบจมูกโด่งรั้นนั้นเล่นอย่างมันเขี้ยว
“โอ้ย เค้าเจ็บนะ”มือเล็กปัดมือของเขาออก ก่อนจะกอดแขนแกร่งของชายหนุ่มที่โอบรัดรอบเอวบาง
หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อมือหนาไล้ไป-มาบริเวณซอกคอขาว
“ทำไมถึงได้แดงขนาดนี้เนี่ย”เขาบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อรอยที่ซอกคอขาวไม่ใช่แค่รอยตีตรา แต่เหมือนเธอ
จะแพ้อะไรสักอย่าง
“สงสัยไรหนวดจะทิ่มเอา เดี๋ยวพี่ต้องโกนแล้วสิเนี่ย”มือหนาลูบไป-มาบริเวณคางบึกบึนที่เริ่มทีไรหนวด
ขึ้นมาเล็กน้อย อยู่กับผู้หญิงคนนี้คงไม่มีวันไหนที่หนวดจะได้ยาวเฟื้อยแน่
“แดงมากเลยหรอคะ”มือเล็กลูบซอกคอของตัวเองที่เธอไม่ได้รู้สึกระคายเคืองอะไรสักนิด แต่สามีหนุ่ม
กลับบอกว่ามันแดงเถือกเสียอย่างนั้น
“ไม่รู้สิ ฟางอยากรู้รึเปล่าล่ะ”หญิงสาวเหลียวหน้ามองสามีหนุ่มที่พูดจาแปลกๆ เขาต้องกำลังวางแผนอะไร
สักอย่างอยู่แน่ๆ
“ฟางไม่อยากรู้...ว้าย!”เธอกำลังเบี่ยงตัวออกจากกรงเล็บของคนเหลี่ยมจัด หากแต่มันสายเกินไปเสีย
แล้ว เมื่อเขาช้อนอุ้มเธอขึ้น ก่อนจะเดินอาดๆขึ้นไปชั้นบนของบ้าน โดยที่ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าจะไปลงเอยที่ห้อง
ไหน ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงตามด้วยร่างสูงที่ทาบทับตามลงมา จมูกโด่งเรียวกดลงสูดดมความหอมหวานของ
แก้มนวลที่แดงก่ำ มือหนาเลื่อนลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอออก เผยให้เห็นรอยแดงๆที่ประดับอยู่ทั่วเนิน
อกอวบอิ่มและเขาคิดว่าคงจะลามไปทั้งตัวของร่างบอบบางแน่ๆ เขาไล้นิ้วเรียวเรียวไปตามเนื้อนวลที่แดงเถือก
“ทายาหน่อยละกันนะ ดูซิแดงไปทั้งตัวแล้ว”เขาเอ่ยเบาๆกับคนตัวเล็กที่หลับตาปี๋ คงคิดว่าเขาจะทำ
เรื่องอย่างว่าละสิ อันที่จริงมันก็น่าอยู่หรอก แต่ไว้รอโกนหนวดก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นร่างบอบบางนี้คงได้แดง
เป็นกุ้งแน่ๆ หญิงสาวมองตามร่างสูงของสามีหนุ่มที่เดินไปค้นของที่ลิ้นชักใต้โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะเดินมานั่งลงบน
เตียงข้างๆกายเธอ นิ้วเรียวลูบไล้เนื้อครีมไปตามเนินอกอวบอิ่มของร่างเล็ก เรื่อยมาจนถึงซอกคอขาว ลงมาที่หน้า
ท้องแบนราบ
“พลิกตัวหน่อยครับ”เธอขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อน้ำเสียงของเขาดูจะแหบพร่าแบบแปลกๆ แต่ก็พลิกตัวนอนคว่ำ
ตามคำสั่งของเขา มือหนาไล้เนื้อครีมเย็นๆไปตามแผ่นหลังของเธอ ก่อนเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเธอที่ถูกเขาถอดไป
ก่อนหน้านี้จะถูกคลุมไว้ที่แผ่นหลังของเธอ
“รอยาแห้งก่อนนะครับ”
“พี่ป๊อป ไปบ้านคุณพ่อคุณแม่เลยได้มั้ย ฟางอยากเอาของฝากไปให้ท่าน”เธอรั้งข้อมือแกร่งที่กำลังจะ
ลุกออกไป
“รอก่อนสิเด็กน้อย บ้านก็อยู่ห่างกันแค่นี้”เธอสะบัดศีรษะหนีมือหนาที่เอื้อมมาขยี้ผมของเธอเบาๆ ทว่าก็ยังหนีไม่
พ้น
“ก็เค้าอยากไปแล้ว งั้นไปตอนเย็นก็ได้”เธอกลับคำอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดได้ว่าจินนี่ต้องตามมารังควาญแน่ๆ
หากรู้ว่าเธอกับพี่ป๊อปกลับมาจากหัวหินแล้ว
“อะไรของเรา...ไปตอนไหนก็ได้ครับ แต่พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ ร้อนจริงๆวันนี้”เขาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะ
ถอดเสื้อยืดออกทั้งๆที่เธอยังอยู่ในห้องด้วยแท้ๆไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน อย่างน้อยอายเธอบ้างก็ยังดี เธอมุดหน้าลง
กับหมอนใบโต เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง
เธอก็ลุกขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบๆห้อง เหมือนห้องนี้จะถูกใช้งานมานานแล้ว เหมือนไม่ใช่แค่สองเดือนที่
เธอย้ายมาอยู่ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ของเธอก็อยู่ที่นี่ครบครัน เหมือนเธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อน ไม่ใช่แค่สองเดือน
ตอนเธอจะย้ายข้าวของมาบ้านนี้ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อบิดาและมารดาบอกว่าได้ย้ายข้าวของเครื่องใช้มาให้ที่นี่
ก่อนแล้ว แต่ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย ทั้งเรื่องที่เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล และก็มีเขานั่งเฝ้าตอนตื่นขึ้นมา ทั้งๆที่คืน
นั้นเธอยังเพ้อกับรูปถ่ายของเขาก่อนที่เขาจะกลับมาด้วยซ้ำ แล้วเธอเป็นอะไรถึงได้เข้าโรงพยาบาล คืนนั้นเธอแค่
หลับไปไม่ใช่หรือ...แล้วแผลผ่าตัดที่กะโหลกจะมีได้อย่างไร หรือว่าอันที่จริงแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น ความเจ็บ
แล่นเข้าสู่สมองเป็นริ้ว มือเล็กกุมศีรษะทุยสวยไว้ก่อนใบหน้าสวยหวานจะเบ้ลงอย่างเจ็บปวด ภาพของเธอและเขา
หลั่งไหลเข้ามาในสมองอย่างช้าๆ หากแต่ทุกอย่างกลับไม่ชัดเจน...
ที่เธอพอจะรู้คือเธอเองต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เหมือนเธอกำลังร้องไห้ เหมือนเขากำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เธอไม่ได้ยินชัดเจนนัก
“ฟาง!”เธอเหลียวหน้ามองชายหนุ่มที่เดินออกมาจากห้องน้ำ เขากรูมาหาเธอ ก่อนจะประคองร่างเล็กที่
ซวนเซเอาไว้
“ฟางปวดหัว”คิ้วเข้มขมวดคิ้ว ก่อนจะพาร่างเล็กของภรรยาไปนอนลงบนเตียง หญิงสาวหลับตาลงอย่าง
ต้องการพักผ่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเธอกำลังเป็นอะไร แต่สิ่งที่เขากลัวคือเธอจะจำเรื่องราวระหว่างเขาและเธอได้
ตอนนี้เขายังไม่พร้อม หากแต่การต้องทนมองภาพคนรักที่เจ็บปวดทรมานเช่นนี้เขาเองก็คงทนไม่ไหว บางทีการที่
เขาทบทวนความทรงจำให้เธอ อาจจะทำให้เธอเจ็บน้อยลงกว่านี้
และหากเธอจำเรื่องระหว่างเขาและเธอได้ขึ้นมา หากเธอจะโกรธเขา...เขาก็คงต้องยอมรับแต่โดยดี
แต่วันนี้เขายังไม่พร้อม นี่ยังไม่ถึงกำหนดด้วยซ้ำไป...ทำไมมันต้องเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้...
“ถ้าฟางจำเรื่องของเราได้ บางที...อาจจะไม่มีวันที่พี่ได้อยู่ข้างฟางอีกแล้ว พี่มันเลวเกินไป...”
....................................................................................................................................
ตอนที่4 เลือนราง...
สายตาคมจ้องมองร่างเล็กที่ยังนอนหลับอยู่อย่างสบายบนเบาะรถข้างคนขับ เธอหลับได้ทุกที่และ
ทุกเวลาจริงๆ นี่ก่อนมาก็แวะซื้อของฝากมาเต็มรถบอกว่าจะเอาไปฝากคนในครอบครัวแล้วก็เพื่อนสาวของเธอเอง
แต่เขาคิดว่าคนรับน่าจะไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควรเพราะสองเดือนที่ผ่านมานี้เขาพาเธอไปที่หัวหินเป็นรอบที่เก้าแล้ว หาก
เดือนนี้งานไม่รุมเร้าจนขยับตัวไปไหนไม่ได้ เขาก็จะพาเธอไปฮันนีมูนจริงๆที่อิตาลีสักสี่ห้าวัน อย่างที่เจ้าตัวอยาก
ไปก่อนที่เธอจะ...ความจำเสื่อม
“ฟางครับ ถึงบ้านแล้วนะ”เขาสะกิดเรียกหญิงสาวเบาๆ เธอค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมา ใช้มือเล็กขยี้ตาตัวเอง
เบาๆ
“พี่ป๊อปถือของฝากลงมาให้เค้าด้วยนะ”เธอออกคำสั่งก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของเขาอย่างเอาใจ
ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปปลดล็อกประตูบ้าน เขาโคลงศีรษะน้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบของฝากนับสิบถุงเดินลง
รถก่อนจะล็อกรถคันโปรด เดินตามภรรยาสาวที่เดินไปเปิดประตูหน้าต่างของบ้าน
“พี่ป๊อป ดอกกุหลาบบานแล้ว สวยจังเลย”คนตัวเล็กเกาะกระจกบานใสที่ติดอยู่กับสวนดอกไม้ของเธอที่
เจ้าตัวลงมือตกแต่งเองกับมือ เขาวางของลงบนโต๊ะรับแขก ก่อนจะเดินไปสวมกอดร่างเล็กจากทางด้านหลัง เกย
คางลงบนไหล่บอบบางก่อนจะกดจมูกโด่งลงบนแก้มนวลที่เริ่มแดงปลั่ง
“สวย...”เขากระซิบข้างใบหูบอบบาง
“ฟางก็ว่าสวยค่ะ เราไปหามาปลูกเพิ่มกันดีมั้ย ฟางว่าดอกสีขาวมันยังน้อยไปนิดนึง”เขาทอดสายตามอง
สวนดอกกุหลาบที่เธอบอกว่ายังน้อยไป
“นั่นมันก็จะร้อยต้นแล้วนะครับ เดี๋ยวฟางก็ได้ตัดดอกกุหลาบขายกันพอดี”
“แต่เค้าอยากปลูก พรุ่งนี้หลังพี่ป๊อปเลิกงานเราไปดูกันนะคะ”คนตัวเล็กมัดมือชก ก่อนจะงัดไม้เด็ดที่ทำ
ให้เขาใจอ่อนด้วยการกดจมูกโด่งรั้นนั้นลงบนแก้มของเขา รอยยิ้มสดใสที่หยุดโลกทั้งใบได้ถูกส่งมาให้เขา เขา
ถอนหายใจ ก่อนจะบีบจมูกโด่งรั้นนั้นเล่นอย่างมันเขี้ยว
“โอ้ย เค้าเจ็บนะ”มือเล็กปัดมือของเขาออก ก่อนจะกอดแขนแกร่งของชายหนุ่มที่โอบรัดรอบเอวบาง
หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อมือหนาไล้ไป-มาบริเวณซอกคอขาว
“ทำไมถึงได้แดงขนาดนี้เนี่ย”เขาบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อรอยที่ซอกคอขาวไม่ใช่แค่รอยตีตรา แต่เหมือนเธอ
จะแพ้อะไรสักอย่าง
“สงสัยไรหนวดจะทิ่มเอา เดี๋ยวพี่ต้องโกนแล้วสิเนี่ย”มือหนาลูบไป-มาบริเวณคางบึกบึนที่เริ่มทีไรหนวด
ขึ้นมาเล็กน้อย อยู่กับผู้หญิงคนนี้คงไม่มีวันไหนที่หนวดจะได้ยาวเฟื้อยแน่
“แดงมากเลยหรอคะ”มือเล็กลูบซอกคอของตัวเองที่เธอไม่ได้รู้สึกระคายเคืองอะไรสักนิด แต่สามีหนุ่ม
กลับบอกว่ามันแดงเถือกเสียอย่างนั้น
“ไม่รู้สิ ฟางอยากรู้รึเปล่าล่ะ”หญิงสาวเหลียวหน้ามองสามีหนุ่มที่พูดจาแปลกๆ เขาต้องกำลังวางแผนอะไร
สักอย่างอยู่แน่ๆ
“ฟางไม่อยากรู้...ว้าย!”เธอกำลังเบี่ยงตัวออกจากกรงเล็บของคนเหลี่ยมจัด หากแต่มันสายเกินไปเสีย
แล้ว เมื่อเขาช้อนอุ้มเธอขึ้น ก่อนจะเดินอาดๆขึ้นไปชั้นบนของบ้าน โดยที่ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าจะไปลงเอยที่ห้อง
ไหน ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงตามด้วยร่างสูงที่ทาบทับตามลงมา จมูกโด่งเรียวกดลงสูดดมความหอมหวานของ
แก้มนวลที่แดงก่ำ มือหนาเลื่อนลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอออก เผยให้เห็นรอยแดงๆที่ประดับอยู่ทั่วเนิน
อกอวบอิ่มและเขาคิดว่าคงจะลามไปทั้งตัวของร่างบอบบางแน่ๆ เขาไล้นิ้วเรียวเรียวไปตามเนื้อนวลที่แดงเถือก
“ทายาหน่อยละกันนะ ดูซิแดงไปทั้งตัวแล้ว”เขาเอ่ยเบาๆกับคนตัวเล็กที่หลับตาปี๋ คงคิดว่าเขาจะทำ
เรื่องอย่างว่าละสิ อันที่จริงมันก็น่าอยู่หรอก แต่ไว้รอโกนหนวดก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นร่างบอบบางนี้คงได้แดง
เป็นกุ้งแน่ๆ หญิงสาวมองตามร่างสูงของสามีหนุ่มที่เดินไปค้นของที่ลิ้นชักใต้โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะเดินมานั่งลงบน
เตียงข้างๆกายเธอ นิ้วเรียวลูบไล้เนื้อครีมไปตามเนินอกอวบอิ่มของร่างเล็ก เรื่อยมาจนถึงซอกคอขาว ลงมาที่หน้า
ท้องแบนราบ
“พลิกตัวหน่อยครับ”เธอขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อน้ำเสียงของเขาดูจะแหบพร่าแบบแปลกๆ แต่ก็พลิกตัวนอนคว่ำ
ตามคำสั่งของเขา มือหนาไล้เนื้อครีมเย็นๆไปตามแผ่นหลังของเธอ ก่อนเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเธอที่ถูกเขาถอดไป
ก่อนหน้านี้จะถูกคลุมไว้ที่แผ่นหลังของเธอ
“รอยาแห้งก่อนนะครับ”
“พี่ป๊อป ไปบ้านคุณพ่อคุณแม่เลยได้มั้ย ฟางอยากเอาของฝากไปให้ท่าน”เธอรั้งข้อมือแกร่งที่กำลังจะ
ลุกออกไป
“รอก่อนสิเด็กน้อย บ้านก็อยู่ห่างกันแค่นี้”เธอสะบัดศีรษะหนีมือหนาที่เอื้อมมาขยี้ผมของเธอเบาๆ ทว่าก็ยังหนีไม่
พ้น
“ก็เค้าอยากไปแล้ว งั้นไปตอนเย็นก็ได้”เธอกลับคำอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดได้ว่าจินนี่ต้องตามมารังควาญแน่ๆ
หากรู้ว่าเธอกับพี่ป๊อปกลับมาจากหัวหินแล้ว
“อะไรของเรา...ไปตอนไหนก็ได้ครับ แต่พี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ ร้อนจริงๆวันนี้”เขาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะ
ถอดเสื้อยืดออกทั้งๆที่เธอยังอยู่ในห้องด้วยแท้ๆไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน อย่างน้อยอายเธอบ้างก็ยังดี เธอมุดหน้าลง
กับหมอนใบโต เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง
เธอก็ลุกขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบๆห้อง เหมือนห้องนี้จะถูกใช้งานมานานแล้ว เหมือนไม่ใช่แค่สองเดือนที่
เธอย้ายมาอยู่ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ของเธอก็อยู่ที่นี่ครบครัน เหมือนเธอเคยอยู่ที่นี่มาก่อน ไม่ใช่แค่สองเดือน
ตอนเธอจะย้ายข้าวของมาบ้านนี้ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อบิดาและมารดาบอกว่าได้ย้ายข้าวของเครื่องใช้มาให้ที่นี่
ก่อนแล้ว แต่ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย ทั้งเรื่องที่เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล และก็มีเขานั่งเฝ้าตอนตื่นขึ้นมา ทั้งๆที่คืน
นั้นเธอยังเพ้อกับรูปถ่ายของเขาก่อนที่เขาจะกลับมาด้วยซ้ำ แล้วเธอเป็นอะไรถึงได้เข้าโรงพยาบาล คืนนั้นเธอแค่
หลับไปไม่ใช่หรือ...แล้วแผลผ่าตัดที่กะโหลกจะมีได้อย่างไร หรือว่าอันที่จริงแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น ความเจ็บ
แล่นเข้าสู่สมองเป็นริ้ว มือเล็กกุมศีรษะทุยสวยไว้ก่อนใบหน้าสวยหวานจะเบ้ลงอย่างเจ็บปวด ภาพของเธอและเขา
หลั่งไหลเข้ามาในสมองอย่างช้าๆ หากแต่ทุกอย่างกลับไม่ชัดเจน...
ที่เธอพอจะรู้คือเธอเองต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เหมือนเธอกำลังร้องไห้ เหมือนเขากำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เธอไม่ได้ยินชัดเจนนัก
“ฟาง!”เธอเหลียวหน้ามองชายหนุ่มที่เดินออกมาจากห้องน้ำ เขากรูมาหาเธอ ก่อนจะประคองร่างเล็กที่
ซวนเซเอาไว้
“ฟางปวดหัว”คิ้วเข้มขมวดคิ้ว ก่อนจะพาร่างเล็กของภรรยาไปนอนลงบนเตียง หญิงสาวหลับตาลงอย่าง
ต้องการพักผ่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเธอกำลังเป็นอะไร แต่สิ่งที่เขากลัวคือเธอจะจำเรื่องราวระหว่างเขาและเธอได้
ตอนนี้เขายังไม่พร้อม หากแต่การต้องทนมองภาพคนรักที่เจ็บปวดทรมานเช่นนี้เขาเองก็คงทนไม่ไหว บางทีการที่
เขาทบทวนความทรงจำให้เธอ อาจจะทำให้เธอเจ็บน้อยลงกว่านี้
และหากเธอจำเรื่องระหว่างเขาและเธอได้ขึ้นมา หากเธอจะโกรธเขา...เขาก็คงต้องยอมรับแต่โดยดี
แต่วันนี้เขายังไม่พร้อม นี่ยังไม่ถึงกำหนดด้วยซ้ำไป...ทำไมมันต้องเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้...
“ถ้าฟางจำเรื่องของเราได้ บางที...อาจจะไม่มีวันที่พี่ได้อยู่ข้างฟางอีกแล้ว พี่มันเลวเกินไป...”
....................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ