เอล คนทะลุมิติ chapter 1
-
เขียนโดย pong43
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.
48 ตอน
0 วิจารณ์
56.27K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
36) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 36 คุณครูคนใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคุณครูคนใหม่
ปีศาจจะสิงสู่พวกเหนือมนุษย์ได้ต้องสิงสู่ขณะที่ยังมีชีวิตเท่านั้น ส่วนการสิงสู่มนุษย์สามารถทำได้ทั้งที่เป็นและตาย แต่การสิงสู่มนุษย์นั้นมีข้อยกเว้นอยู่ข้อหนึ่ง ก็คือ
หากมนุษย์ผู้ซึ่งปีศาจสิงสู่นั้นเป็นมนุษย์ซึ่งถึงฆาตด้วยแรงอาฆาตอันรุนแรง ปีศาจจะสำแดงพลังอำนาจของมันผ่านมนุษย์ผู้นั้นได้อย่างมากมาย
......................................................................................................................................................
ผ่านไปสองอาทิตย์
เรื่องการหายตัวไปของเอ็ทก็กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของโรงเรียนเซนต์เองเจิ้ล
เด็กนักเรียนคุยกันแต่เรื่องของเอ็ท ต่างคนต่างพากันสงสัยว่าเอ็ทหายไปไหน บางคนก็บอกว่าโดนลักพาตัว บางคนก็บอกว่าหนีหนี้พนันบอล บางคนก็บอกว่าโดนคู่ขาเก็บไปแล้ว
เอลใจไม่ดีเลยสักนิด กลัวว่าสักวันเรื่องจะมาถึงเขา เขารู้ว่าทุกคนไม่มีใครรู้จริงสักนิด
แต่เรื่องซุบซิบที่ว่าเอ็ทคบหากับชายหนุ่มล่ำบึ้กคนหนึ่งที่เป็นช่างไฟฟ้าซึ่งมาช่วยงานของโรงเรียนและมีที่พักอยู่แถวโรงเรียน
เอลสนใจเรื่องนี้ที่สุด เขาคิดมาตลอดว่าเอ็ทอาจจะมีคนช่วยเหลืออยู่ ไม่งั้นจะติดตั้งกล้องวงจรปิดและส่งภาพไปเข้าเครือข่ายเล่นงานเขากับแอนนาได้ยังไง เอ็ทไม่ได้ทำคนเดียว แต่เขากลับไม่พบหลักฐานของผู้ร่วมมือคนนั้นในห้องของเอ็ทสักนิด
แต่วาสเด็กผอมสูงกลับยืนพูดว่า
“ฉันว่ามันยังไม่ตายหรอก ฉันเห็นมันบอกว่าอยากกลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด”
“ก็แม่เขานี่แหละที่มาแจ้งกับทางโรงเรียนว่าลูกชายหายตัวไปไม่ใช่เหรอ...” เมงุสาวแว่นคู่สนทนาพูดแย้งขึ้น
“จริงเหรอ มั่วหรือเปล่า คนที่มาตามหาคือพี่สาวเจ้าเอ็ทต่างหากล่ะ” เม้งเด็กหน้าตี๋พูดขึ้นบ้าง
“ฉันว่าเอ็ทโดนหมกไปแล้ว..” วาสพูดต่อ
คำพูดนั้นทำให้เอลหันมาให้ความสนใจ
“เจ้าคู่ขาช่างไฟฟ้ามันก็หายไปด้วย ฉันว่าเจ้านั่นต้องรู้เรื่องเอ็ทแน่”
เอลติดใจกับเรื่องช่างไฟฟ้าคนนั้น
“ใครจะไปฆ่าเจ้านั่นได้ มีแต่มันจะไปฆ่าคนอื่นมากกว่า..” เด็กอีกคนพูดขึ้นจากทางด้านหลังของเอล “เจ้านั่นออกจะโรคจิตหน่อยๆ....”
.
เอลซึ่งอยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นน่าจะเป็นผู้รู้เรื่องดีที่สุด สิ่งที่เขารับรู้มาตลอดเวลาหลายวันนั้นคือ เอ็ทตายไปแล้ว เขาเริ่มตระหนักได้ว่าจะทุกข์ร้อนใจไปใย สิ่งที่เอ็ทพร่ำบ่นให้เขาฟังในวันนั้นก็บอกอยู่แล้วว่าชะตากรรมพวกเหนือมนุษย์อยู่บนเส้นด้ายแห่งความตาย จะตายเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้
เราเองก็อาจจะโดนเข้าสักวัน...
ชีวิตมนุษย์ว่าไม่แน่ไม่นอนแล้วนะ ชีวิตเราต่างหากที่ยิ่งกว่า....
ดูเผินๆ แล้วไม่น่าจะมีใครเชื่อมโยงเรื่องของเรากับเอ็ทได้..จะกลัวไปทำไม..
เอลยืนอ่านประกาศที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ซึ่งพูดถึงเรื่องของเอ็ท
“ผู้ใดพบเห็นเอ็ท หรือมีเบาะแสใดๆเกี่ยวกับตัวของเขากรุณาแจ้งครูใหญ่ให้ทราบโดยด่วน เพื่อจะได้ติดตามเพื่อนของเราให้กลับมาเรียนหนังสือกับเราอีกครั้ง ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองเพื่อนของเราด้วย”
อโหสิให้ฉันด้วยนะเอ็ท....
……………………………………………………………….
“เอ็ท”
“ยังไม่มาครับ”
“ยังไม่มาค่ะ”
ทุกเช้าที่มีการขานชื่อนักเรียนในชั้น เพื่อนๆในห้องก็หวังว่าจะได้ยินเสียงขานตอบของเอ็ท แอนนาก็เช่นกัน เธอพยายามอธิษฐานอยู่เสมอให้เอ็ทไม่ประสบเภทภัยและกลับมาเรียนหนังสือด้วยกันอีก
เอ็ท ขอให้เธอแค่โดดเรียนเท่านั้นนะ อย่าให้เป็นเรื่องอื่น อย่างที่ใครๆพูดถึงเลยนะ.. กลับมาเร็วๆ นะ
แอนนาย่อมมีวันได้รู้ว่า เอ็ทนั้นคือผู้สร้างความอับอายให้กับเธอในวันนั้น
เอลแอบมองดูแอนนาอยู่เสมอ หลายอาทิตย์นี้เขารู้สึกว่าแอนนาดูมีชีวิตชีวาขึ้น เธอคงลืมเรื่องร้ายๆ นั้นได้แล้ว แค่นั้นก็ทำให้เขาเบาใจได้แล้ว และเขาคงไม่ต้องอธิบายเรื่องของเอ็ทให้เธอฟังอีกแล้ว เพราะหลักฐานสำคัญก็ได้ตายไป เขาคงต้องหาวิธีอื่นที่จะปรับความเข้าใจกับแอนนาน่าจะดีกว่า
.......................................................................................................................................................
หนึ่งเดือนผ่านไป
ที่ห้องดี วันนี้มีครูเข้าใหม่หนึ่งคน เป็นหญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบปลายๆ ดูเป็นคนที่เคร่งขรึม ยิ้มยาก ครูใหญ่เป็นคนนำครูคนใหม่นี้มาแนะนำให้เด็กนักเรียนรู้จักกันถึงห้อง
“ฉันชื่อแคทาลีน ใครมีปัญหาอะไรทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัวสามารถปรึกษาครูได้ตลอดเวลานะ..” ครูแคทาลีนแนะนำตนเอง แต่เสียงของครูใหญ่ ก็ดังเข้มขึ้นมา
“...ครูเขาจะมาสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยนแทนครูมิวที่ลาออกไป ฉะนั้นพวกเธอต้องเชื่อฟังครูแคทาลีนให้มากๆ ห้ามไร้มารยาทกับครูโดยเด็ดขาด เอาล่ะทุกคนปรบมือต้อนรับคุณครูเขาสิ”
ครูใหญ่ พูดเสริมให้จนเสร็จ ทุกคนปรบมือต้อนรับครูแคทาลีนเสียงดังลั่นห้อง บางคนลืมตัวก็เป่าปากแซวอย่างสนุกสนาน ทำให้ครูใหญ่เดือดดาลและตะโกนขึ้น
“เงียบบบบบบบ ไม่มีมารยาทเลยนะห้องนี้ บอกกี่ทีแล้วว่าห้ามเป่าปากในห้องเรียน อยากโดนลงโทษหรือไงทัช”
เด็กชื่อทัชซึ่งนั่งอยู่หลังห้องก้มหน้าลงทันที แต่ครูแคทาลีนกลับพูดขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันถือว่าเป็นการต้อนรับก็แล้วกันค่ะ”
เอลมองครูสาวหน้าใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ขณะที่ครูใหญ่เดินออกไปจากห้องแล้ว
หน้าตาบอกยี่ห้อยังไงไม่รู้...
วันนี้เอลเหม่อลอยทั้งวัน เขายังคิดเรื่องของเอ็ทอยู่ ทั้งที่บอกกับตนเองตลอดเวลาว่าจะต้องลืมเรื่องนี้ให้ได้ แต่ก็ลืมไม่ได้เสียที
“เธอคนนั้นใช่มั้ยที่ชื่อเอล”
เสียงครูแคทาลีนเรียกเอล
“มัวแต่ฝันหวานอะไรอยู่..เอล” เสียงใสแต่ดุกังวานทั่วห้องปลุกให้เอลสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“ขอโทษครับ..” เอลลุกขึ้นขอโทษขอโพย
“จำไว้นะทุกคน เมื่อถึงชั่วโมงเรียนของครู ห้ามใจลอยเด็ดขาด..ไม่ว่าเรื่องอะไรควรทิ้งไว้นอกห้องให้หมด..” สายตาคมกริบจ้องมาที่เอล “...ทุกคนจงจำใส่ใจไว้ให้ดี..เอาล่ะเอลนั่งลงได้แล้ว”
เอลนั่งลงตามคำสั่งของครูสาว ลองก์ที่โต๊ะข้างๆ กระซิบเบาๆกับเอล
“ว่าไงพ่อนักฝัน ฝันจนได้ดีเลยนะ”
“เดี๋ยวโดนอัดหรอก..” เอลกำหมัดจะเขกหัวลองก์
“หยุดเล่นและเข้าเรื่องเรียนได้แล้ว” เสียงครูสาวจิกเอล
โดนแบบนี้เอลถึงกับจ๋อยก้มหน้าลงดูหนังสือทันที
......................................................................................................................................
ปีศาจจะสิงสู่พวกเหนือมนุษย์ได้ต้องสิงสู่ขณะที่ยังมีชีวิตเท่านั้น ส่วนการสิงสู่มนุษย์สามารถทำได้ทั้งที่เป็นและตาย แต่การสิงสู่มนุษย์นั้นมีข้อยกเว้นอยู่ข้อหนึ่ง ก็คือ
หากมนุษย์ผู้ซึ่งปีศาจสิงสู่นั้นเป็นมนุษย์ซึ่งถึงฆาตด้วยแรงอาฆาตอันรุนแรง ปีศาจจะสำแดงพลังอำนาจของมันผ่านมนุษย์ผู้นั้นได้อย่างมากมาย
......................................................................................................................................................
ผ่านไปสองอาทิตย์
เรื่องการหายตัวไปของเอ็ทก็กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของโรงเรียนเซนต์เองเจิ้ล
เด็กนักเรียนคุยกันแต่เรื่องของเอ็ท ต่างคนต่างพากันสงสัยว่าเอ็ทหายไปไหน บางคนก็บอกว่าโดนลักพาตัว บางคนก็บอกว่าหนีหนี้พนันบอล บางคนก็บอกว่าโดนคู่ขาเก็บไปแล้ว
เอลใจไม่ดีเลยสักนิด กลัวว่าสักวันเรื่องจะมาถึงเขา เขารู้ว่าทุกคนไม่มีใครรู้จริงสักนิด
แต่เรื่องซุบซิบที่ว่าเอ็ทคบหากับชายหนุ่มล่ำบึ้กคนหนึ่งที่เป็นช่างไฟฟ้าซึ่งมาช่วยงานของโรงเรียนและมีที่พักอยู่แถวโรงเรียน
เอลสนใจเรื่องนี้ที่สุด เขาคิดมาตลอดว่าเอ็ทอาจจะมีคนช่วยเหลืออยู่ ไม่งั้นจะติดตั้งกล้องวงจรปิดและส่งภาพไปเข้าเครือข่ายเล่นงานเขากับแอนนาได้ยังไง เอ็ทไม่ได้ทำคนเดียว แต่เขากลับไม่พบหลักฐานของผู้ร่วมมือคนนั้นในห้องของเอ็ทสักนิด
แต่วาสเด็กผอมสูงกลับยืนพูดว่า
“ฉันว่ามันยังไม่ตายหรอก ฉันเห็นมันบอกว่าอยากกลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด”
“ก็แม่เขานี่แหละที่มาแจ้งกับทางโรงเรียนว่าลูกชายหายตัวไปไม่ใช่เหรอ...” เมงุสาวแว่นคู่สนทนาพูดแย้งขึ้น
“จริงเหรอ มั่วหรือเปล่า คนที่มาตามหาคือพี่สาวเจ้าเอ็ทต่างหากล่ะ” เม้งเด็กหน้าตี๋พูดขึ้นบ้าง
“ฉันว่าเอ็ทโดนหมกไปแล้ว..” วาสพูดต่อ
คำพูดนั้นทำให้เอลหันมาให้ความสนใจ
“เจ้าคู่ขาช่างไฟฟ้ามันก็หายไปด้วย ฉันว่าเจ้านั่นต้องรู้เรื่องเอ็ทแน่”
เอลติดใจกับเรื่องช่างไฟฟ้าคนนั้น
“ใครจะไปฆ่าเจ้านั่นได้ มีแต่มันจะไปฆ่าคนอื่นมากกว่า..” เด็กอีกคนพูดขึ้นจากทางด้านหลังของเอล “เจ้านั่นออกจะโรคจิตหน่อยๆ....”
.
เอลซึ่งอยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นน่าจะเป็นผู้รู้เรื่องดีที่สุด สิ่งที่เขารับรู้มาตลอดเวลาหลายวันนั้นคือ เอ็ทตายไปแล้ว เขาเริ่มตระหนักได้ว่าจะทุกข์ร้อนใจไปใย สิ่งที่เอ็ทพร่ำบ่นให้เขาฟังในวันนั้นก็บอกอยู่แล้วว่าชะตากรรมพวกเหนือมนุษย์อยู่บนเส้นด้ายแห่งความตาย จะตายเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้
เราเองก็อาจจะโดนเข้าสักวัน...
ชีวิตมนุษย์ว่าไม่แน่ไม่นอนแล้วนะ ชีวิตเราต่างหากที่ยิ่งกว่า....
ดูเผินๆ แล้วไม่น่าจะมีใครเชื่อมโยงเรื่องของเรากับเอ็ทได้..จะกลัวไปทำไม..
เอลยืนอ่านประกาศที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ซึ่งพูดถึงเรื่องของเอ็ท
“ผู้ใดพบเห็นเอ็ท หรือมีเบาะแสใดๆเกี่ยวกับตัวของเขากรุณาแจ้งครูใหญ่ให้ทราบโดยด่วน เพื่อจะได้ติดตามเพื่อนของเราให้กลับมาเรียนหนังสือกับเราอีกครั้ง ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองเพื่อนของเราด้วย”
อโหสิให้ฉันด้วยนะเอ็ท....
……………………………………………………………….
“เอ็ท”
“ยังไม่มาครับ”
“ยังไม่มาค่ะ”
ทุกเช้าที่มีการขานชื่อนักเรียนในชั้น เพื่อนๆในห้องก็หวังว่าจะได้ยินเสียงขานตอบของเอ็ท แอนนาก็เช่นกัน เธอพยายามอธิษฐานอยู่เสมอให้เอ็ทไม่ประสบเภทภัยและกลับมาเรียนหนังสือด้วยกันอีก
เอ็ท ขอให้เธอแค่โดดเรียนเท่านั้นนะ อย่าให้เป็นเรื่องอื่น อย่างที่ใครๆพูดถึงเลยนะ.. กลับมาเร็วๆ นะ
แอนนาย่อมมีวันได้รู้ว่า เอ็ทนั้นคือผู้สร้างความอับอายให้กับเธอในวันนั้น
เอลแอบมองดูแอนนาอยู่เสมอ หลายอาทิตย์นี้เขารู้สึกว่าแอนนาดูมีชีวิตชีวาขึ้น เธอคงลืมเรื่องร้ายๆ นั้นได้แล้ว แค่นั้นก็ทำให้เขาเบาใจได้แล้ว และเขาคงไม่ต้องอธิบายเรื่องของเอ็ทให้เธอฟังอีกแล้ว เพราะหลักฐานสำคัญก็ได้ตายไป เขาคงต้องหาวิธีอื่นที่จะปรับความเข้าใจกับแอนนาน่าจะดีกว่า
.......................................................................................................................................................
หนึ่งเดือนผ่านไป
ที่ห้องดี วันนี้มีครูเข้าใหม่หนึ่งคน เป็นหญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบปลายๆ ดูเป็นคนที่เคร่งขรึม ยิ้มยาก ครูใหญ่เป็นคนนำครูคนใหม่นี้มาแนะนำให้เด็กนักเรียนรู้จักกันถึงห้อง
“ฉันชื่อแคทาลีน ใครมีปัญหาอะไรทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัวสามารถปรึกษาครูได้ตลอดเวลานะ..” ครูแคทาลีนแนะนำตนเอง แต่เสียงของครูใหญ่ ก็ดังเข้มขึ้นมา
“...ครูเขาจะมาสอนวิชาภาษาฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยนแทนครูมิวที่ลาออกไป ฉะนั้นพวกเธอต้องเชื่อฟังครูแคทาลีนให้มากๆ ห้ามไร้มารยาทกับครูโดยเด็ดขาด เอาล่ะทุกคนปรบมือต้อนรับคุณครูเขาสิ”
ครูใหญ่ พูดเสริมให้จนเสร็จ ทุกคนปรบมือต้อนรับครูแคทาลีนเสียงดังลั่นห้อง บางคนลืมตัวก็เป่าปากแซวอย่างสนุกสนาน ทำให้ครูใหญ่เดือดดาลและตะโกนขึ้น
“เงียบบบบบบบ ไม่มีมารยาทเลยนะห้องนี้ บอกกี่ทีแล้วว่าห้ามเป่าปากในห้องเรียน อยากโดนลงโทษหรือไงทัช”
เด็กชื่อทัชซึ่งนั่งอยู่หลังห้องก้มหน้าลงทันที แต่ครูแคทาลีนกลับพูดขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันถือว่าเป็นการต้อนรับก็แล้วกันค่ะ”
เอลมองครูสาวหน้าใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ขณะที่ครูใหญ่เดินออกไปจากห้องแล้ว
หน้าตาบอกยี่ห้อยังไงไม่รู้...
วันนี้เอลเหม่อลอยทั้งวัน เขายังคิดเรื่องของเอ็ทอยู่ ทั้งที่บอกกับตนเองตลอดเวลาว่าจะต้องลืมเรื่องนี้ให้ได้ แต่ก็ลืมไม่ได้เสียที
“เธอคนนั้นใช่มั้ยที่ชื่อเอล”
เสียงครูแคทาลีนเรียกเอล
“มัวแต่ฝันหวานอะไรอยู่..เอล” เสียงใสแต่ดุกังวานทั่วห้องปลุกให้เอลสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“ขอโทษครับ..” เอลลุกขึ้นขอโทษขอโพย
“จำไว้นะทุกคน เมื่อถึงชั่วโมงเรียนของครู ห้ามใจลอยเด็ดขาด..ไม่ว่าเรื่องอะไรควรทิ้งไว้นอกห้องให้หมด..” สายตาคมกริบจ้องมาที่เอล “...ทุกคนจงจำใส่ใจไว้ให้ดี..เอาล่ะเอลนั่งลงได้แล้ว”
เอลนั่งลงตามคำสั่งของครูสาว ลองก์ที่โต๊ะข้างๆ กระซิบเบาๆกับเอล
“ว่าไงพ่อนักฝัน ฝันจนได้ดีเลยนะ”
“เดี๋ยวโดนอัดหรอก..” เอลกำหมัดจะเขกหัวลองก์
“หยุดเล่นและเข้าเรื่องเรียนได้แล้ว” เสียงครูสาวจิกเอล
โดนแบบนี้เอลถึงกับจ๋อยก้มหน้าลงดูหนังสือทันที
......................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ