เอล คนทะลุมิติ chapter 1

-

เขียนโดย pong43

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.

  48 ตอน
  0 วิจารณ์
  56.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

34) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 34 สิ้นเสียงร้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
สิ้นเสียงร้อง
 
ภูตินรกศัตรูของพวกเหนือมนุษย์จะคอยสังหารและแย่งชิงพลังจากพวกเหนือมนุษย์ โดยธรรมชาติแล้วพวกเหนือมนุษย์มีพลังน้อยกว่าภูตินรก ผู้ที่จะชนะมันได้ต้องมีพลังเหนือมนุษย์อันกล้าแข็งเหนือพวกเหนือมนุษย์ทั้งหมด
                ..............................................................................................................................................................
“...ช่วยด้วย...” เอ็ทร้องอย่างเสียขวัญ
ร่างทะมึนนั้นค่อยๆ ชัดเจนในสายตาของเอล เขามองร่างทะมึนสูงใหญ่ซึ่งอยู่ในผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่โผล่ออกมาจากผ้าคลุม
เมื่อเอลเห็นใบหน้ากระโหลกนั้นอย่างชัดเจนก็ถึงกับร้องลั่น
“ปีศาจจจจจ”
กระโหลกผีไร้ซึ่งเนื้อหนังห่อหุ้ม ตาลึกกลวงโบ๋มีลูกตาสีแดงน่ากลัว ผ้าคลุมของมันก็ดำเป็นประกายมัน โบกสะบัดเหมือนถูกแรงลมมหาศาลพัดใส่ตลอดเวลา  
เอลตัวสั่นด้วยความกลัวสุดขีด ครั้งก่อนหน้าเขายังไม่ได้เห็นมันชัดเจนเท่าครั้งนี้ ฟันล่างและบนขบกันสั่นไปถึงกราม ความกลัวจับขั้วหัวใจแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของเขา  
เราต้องตายแน่ๆ....
ต้องไม่กลัว ๆ ...เด็กหนุ่มพึมพำปลุกปลอบขวัญตนเองแต่ก็ยังตัวสั่นไม่หยุด สายตาของเขาจับจ้องไปที่มือปีศาจซึ่งบีบคอเอ็ทไว้ จู่ๆ มือกระดูกผีก็ปรากฏเคียวอันเล็กด้ามสั้นขึ้น เคียวปีศาจอาวุธอันน่ากลัวของภูตินรก คมของมันส่องประกายจนแสบลูกตา  
ปีศาจมันกำลังกดคมเคียวใส่เอ็ท เอลทนไม่ได้รวบรวมความกล้ากระโจนเข้าเตะใส่มันอย่างแรง
ไม่น่าเชื่อที่แรงเตะของเขาทำให้ภูตินรกเอียงวูบและปล่อยมือจากเอ็ท เอ็ทจึงได้โอกาสกระเสือกกระสนคลานหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เขาหลุดจากการตรึงแล้ว
“ช่วยด้วยยยยย”
เอ็ทเสียขวัญมือคลำลำคอซึ่งถูกมือปีศาจบีบจนแทบแย่
“จัดการมันเร็ว จัดการมัน”
“ไอ้บ้า...ฉันจะจัดการมันได้ยังไง...” เอลตวาดไป
“จัดการมันเลย เมื่อกี้แกเตะมันได้อย่างนั้น นายต้องทำได้สิ...”
เอลยังแปลกใจไม่หายที่เตะเจ้านั่นได้ แต่เขาไม่เชื่อที่เอ็ทพูดว่า เขาสู้กับภูตินรกได้
จะสู้กับมันได้ยังไงกันล่ะ....  
มันยืนอยู่ตรงหน้า จ้องมาทางเขาสองคน ลมแรงไม่มีที่มาก็พัดผ้าคลุมปีศาจให้ปลิวสะบัดไปมา เขาเห็นดวงตาอันน่ากลัวนั้นได้ชัดเจนมาก ดวงตาแดงกล่ำเห็นแล้วขนลุกซู่ ฟันอันแหลมคมและเขี้ยวใหญ่เหมือนเขี้ยวหมาป่าอันกระหายเลือด ถ้าขบกัดลงไปที่ลำคอ คอคงขาดออกจากกันทันที  
กระโหลกของมันดูใหญ่โตและพิกลพิการแตกต่างจากกระโหลกมนุษย์ทั่วไป  ก็ใช่สิ มันไม่ใช่มนุษย์นี่ มันเป็นปีศาจ..
ปากมันอ้าผะงาบๆเหมือนกำลังพูดด้วยเสียงแหบแห้ง เอลพยายามฟังว่ามันพูดอะไรแต่ก็ฟังไม่ออก มันย่างสามขุมเข้าหาทั้งสองอย่างช้าๆ เอลและเอ็ทถึงกับตาเหลือกถลน
“เฮ้ยยยยยยย”
ปีศาจหยุดยืนที่หน้าทั้งคู่ เอลรู้สึกว่าเหมือนถูกตรึงเอาไว้อีกครั้ง เขากัดฟันกำหมัด
ถ้ามีโอกาส ฉันจะเตะแกอีกครั้งแน่...
“ฉันถูกตรึงอีกแล้ววววววว” เอ็ทร้องลั่น
ทันใดนั้นปีศาจก็ยื่นมือผีใหญ่โตหมายจับที่ร่างของเขา
อย่านะ อย่านะ....
เขาเกร็งร่างใช้พลังจิตเพื่อที่จะปลดล๊อคตัวเอง
อึ๊บบบบบย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก  
มือปีศาจกำลังจะคว้าเข้าที่ลำคอของเอล
เล่นงานมันสิๆ เล่นงานเจ้าเอลสิ... .
ปีศาจชะงักมือค้างไว้ไม่ยอมบีบคอเอล มันจ้องหน้ามองเขา ทำให้เขารีบก้มหน้าลงเพื่อจะได้ไม่สบตากับดวงตาสีแดงอันน่ากลัวนั้น
มันยืนนิ่งเหมือนกำลังลังเลว่าจะเล่นงานใครกันดี
เอลไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรอีกแล้ว เขารวบรวมสมาธิและกำหมัดแน่นพร้อมสู้ พลังของเขากำลังกลับมาอีกแล้ว พลังคุกรุ่นเมื่อก่อนหน้านี้กำลังกลับ
ปีศาจยกมือขึ้นยื่นมาที่ศีรษะของเอลอีกแล้ว เอ็ทมองด้วยหางตาก็เห็น
จัดการมันเลย...
แน่ชัดแล้วว่ามือนั้นต้องขยุ้มศีรษะของเอลกระจุยแน่ เอ็ทภาวนาให้ปีศาจเล่นงานเอล เพราะจะได้ใช้โอกาสนั้นหนีอีกครั้ง
เอาเลย จัดการเจ้าเอลเลยสิวะ...
“เอ็ทหุบปากซะ” เอลร้องลั่นทั้งกลัวทั้งโมโห
พริบตานั้นปีศาจร้ายก็เปลี่ยนเป้าหมายมือของมันตะครุบเข้าที่ไหล่ซ้ายของเอ็ทอย่างแรง เอ็ทถึงกับสะดุ้งเฮือก ร้องไม่ออกแล้ว
ปีศาจกดมือของมันบีบกระดูกไหล่ของเอ็ทอย่างแรง คราวนี้เอ็ทได้แต่ร้องเรียกให้เอลช่วย
“ช่วย ช่วย ฉันด้วยเอล โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย”
ปีศาจจิกกรงเล็บลงไปในเนื้อของเอ็ททำให้วายร้ายแผดเสียงลั่นด้วยความเจ็บปวดสุดจะทน
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค”
เอลใจอ่อนเมื่อเห็นเอ็ทร้องแบบนั้น เขาคิดจะช่วยเอ็ทแต่จะช่วยยังไงดีล่ะ ช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ ช่างเป็นความคิดโง่ๆจริงๆ
“โอ๊ยยยยอ๊าคคคคคคคคคคคคคยยยยยยย”
เอลเห็นที่ไหล่ของเอ็ทเกิดควันขาวลอยขึ้นมา มีกลิ่นรุนแรงเหมือนเนื้อไหม้ เอ็ทกำลังจะแย่แล้ว ปีศาจกำลังดูดกินเอาพลังและจิตของเอ็ทด้วยวิธีนี้
จู่ๆปีศาจก็ยกเอ็ทขึ้นด้วยแขนอันทรงพลัง     
“ช่วยฉันด้วยยยยยยยยยยยยยยววววววว”
ปีศาจเปลี่ยนมาจับแขนของเอ็ทข้างเดียวและเหวี่ยงไปซ้ายทีขวาทีอย่างแรง เอลกลัวว่าแขนเอ็ทจะขาดได้ และคิดขึ้นมาว่านั่นเป็นการแสดงโชว์เพื่อเขย่าขวัญให้เขากลัวเท่านั้น
ที่สุดมันก็จับเหวี่ยงร่างของเอ็ทลอยละลิ่วขึ้นฟ้าไปอย่างแรง
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค”
          เอ็ทลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ปีศาจยกเคียวปีศาจซึ่งกลายเป็นเคียวอันใหญ่โต มันหันหน้ามาทางเอลเหมือนจะบอกว่านี่คือฉากสุดท้ายของโชว์ชุดนี้แล้ว
“อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
เสียงร้องของเอ็ทดังก้องสองหูของเอล
พริบตาปีศาจก็ตวัดเคียวปีศาจเหวี่ยงฟันฉับไปที่ร่างของเอ็ทซึ่งร่วงลงมาอย่างแรง
“อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
เอลร้องห้ามสุดเสียง เขาแทบไม่เห็นวินาทีที่เคียวปีศาจนั้นฟันฉับลงที่ร่างของเอ็ท เห็นแต่ร่างนั้นขาดแยกเป็นสองท่อนไปคนละทิศละทางแล้ว เคียวนั้นตัดกลางศีรษะลงไปถึงกลางหว่างขาพอดี ร่างแยกออกเป็นสองซีกอย่างพอเหมาะพอเจาะ
“ไอ้บ้า………..”
ดวงตาสองลูกที่แยกจากกันนั้นยังเหลือกโปนทั้งคู่ ปากที่อ้าค้างฉีกเป็นสองซีกเหมือนยังจะร้องได้แต่ก็ไม่มีเสียงลอดออกมา เอลตาค้างเหมือนโดนมนต์สะกดให้ตะลึงลาน ภาพตรงหน้าช่างโหดร้ายเกินกว่าที่เขาจะทนมองได้ เลือดนั้นเพิ่งจะพุ่งกระฉูดออกจากร่างตามจุดต่างๆของร่างกาย
“พระเจ้า...มันไม่ใช่ความจริง “
เอลคิดว่านั่นเป็นภาพลวงตาหรือไม่ก็แค่ความฝัน
ร่างสองซีกของเอ็ทเกิดติดไฟลุกท่วมขึ้นมาพร้อมกัน มันกำลังลามมอดไหม้ไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว เอลยกมือขึ้นป้องตาเพราะความร้อนของเปลวเพลิงนั้น เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบเห็นภาพคนถูกไฟเผาทั้งเป็นแบบนี้มาก่อน ร่างติดไฟนั้นดันตัวลุกขึ้นมาจากพื้น  เอ็ทซึ่งยังไม่สิ้นลมหายใจแต่ใบหน้าเละเทะผุผองเพราะเนื้อไหม้พยายามกระเสือกกระสนเข้าหาเอลอย่างยากลำบากขณะที่เขานั้นตัวสั่นไม่ยอมหยุด
สายตาของเขาจ้องไปปะทะกับดวงตาอันอาฆาตแค้นของเอ็ทซึ่งยังมีแรงคลานเข้าหาเขา ร่างกายซีกนั้นนอนหงายและหลับตาลงขณะที่ไฟลามไปทั่วร่างแล้ว
“จะอาฆาตฉันได้ยังไง.. ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าแกนะ..”
เอลตระหนก ใจหนึ่งก็นึกสงสารเอ็ทอยู่เหมือนกัน เขาเบือนหน้าจากร่างอันมอดไหม้นั้น
“นายควรอาฆาตเจ้านั่น ไม่ใช่ฉัน....”
วินาทีนั้นเอลได้รู้ตัวว่าควรหยุดฟุ้งซ่านได้แล้ว ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว เขาหันซ้ายหันขวามองหาศัตรูพร้อมบอกกับตัวเองว่าต้องคุมสติให้ดี จะอ่อนแอไม่ได้ และต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่มีเวลาให้กับความกลัวอีกแล้ว
... เราต้องรับมือมันได้ เราต้องสู้มันได้สิน่า...  
นึกออกแล้ว  เขาคิดออกแล้วว่าทางเดียวที่จะหนีมันพ้นได้ก็คือการ หยุดพลัง เมื่อหยุดพลังก็จะปิดทางเชื่อมต่อกับโลกต่างมิติ ปีศาจก็ตามออกมาไม่ได้
“หยุดพลังงงงงง”
เขาหยุดใช้พลังเหนือโลกในทันทีนั้น วินาทีนั้นเขาก็หลุดออกมาจากโลกต่างมิติกลับสู่บรรยากาศอันมืดมัวในบ้านของเอ็ทอีกครั้ง
"เฮ้ย..."
เขาร้องอย่างดีใจ
"เราทำได้แล้ว …"
เขามองไปรอบห้อง แต่ภาพของเอ็ทซึ่งถูกไฟเผายังคงติดตาเขาอยู่ ตัวของเขายังคงสั่นไม่หยุด และรู้สึกว่าขาไม่มีแรงจะยืนทรงตัวอีกแล้วต้องหย่อนก้นนั่งลงไปกับพื้น สักครู่อาการสั่นก็ค่อยๆหายไป  เมื่อหยุดสั่นเรี่ยวแรงก็กลับมาเหมือนเดิม เขารู้สึกโล่งอกเพราะคิดว่ารอดพ้นจากความตายแล้ว
“เรารอดแล้ว...”
เอลลุกขึ้นยืนนิ่งกวาดตามองทั่วห้องอีกครั้งก่อนจะร้องเรียก
“เอ็ท ๆ ๆ”
เขาลองเรียกเอ็ทอีกครั้งเผื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจะเป็นเพียงแค่ความฝัน  
เงียบ ไม่มีเสียงใดใดตอบรับ เขามั่นใจแล้วว่าเอ็ทคงไม่รอดเสียแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน และภูตินรกคงไม่สามารถตามเขาออกมามิติโลกได้อีก
ใช่สิ กฎเหนือโลกกำลังย้ำเตือนเขาว่า ปีศาจไม่สามารถอยู่ในมิติโลกได้ 
อย่างนี้ก็ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่คิดแล้วล่ะ..
………………………………………………………………..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา