เอล คนทะลุมิติ chapter 1

-

เขียนโดย pong43

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.

  48 ตอน
  0 วิจารณ์
  56.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

20) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 20

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

ตามหา
 
“พวกเหนือมนุษย์จะปกปิดตนเองไว้ไม่แพร่งพรายกับใคร พวกเขาแสวงหาพวกเดียวกันโดยไม่รู้ว่านั่นคือกฏแห่งการดึงดูดของพลังซึ่งดึงดูดเข้าหากันเพื่อจะรวมกัน”
...............................................................................................................................................
 
เวลาเที่ยง
                ที่ห้องอาหารของโรงเรียน
                ขณะที่ลองก์และจังก์กำลังมีความสุขกับการกินสปาเกตตี้และข้าวราดแกงกันอยู่ เอลกลับมองข้ามไปอีกสองโต๊ะถัดไป
                เขาเห็นชิลด์เด็กที่ลองก์กล่าวถึงกำลังนั่งทานข้าวกับแอนนาเด็กสาวสุดฮอตซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่ว
เจ้านั่นหรือ ดูไม่น่าจะใช่เลย หน้าตาอ่อนหัดแบบนั้น
เอลเหล่มองจนแอนนาสังเกตเห็นได้ เด็กสาวหน้าตาสะสวยกำลังคิดว่าเอลแอบมองตนเองอยู่
นึกว่าฉันแอบดูเธอเรอะ.. ช่างหัวประไร...
เอลยังคงจ้องมองทั้งสองอยู่โดยไม่สนใจสายตาเด็กสาวที่แอบจ้องมาทางเขาจนเด็กสาวสู้สายตาไม่ได้ก้มหน้าหลบไป
สนิทกันนักนะ เจ้านั่นขี้หลีจริงๆ เห็นมันทีไรก็ต้องมียัยนั่นเดินด้วยตลอด เป็นตุ้ดหรือไง นั่งเรียนก็โต๊ะคู่กันน่าหมั่นไส้...
                เด็กสาวซึ่งแอบมองพฤติกรรมของเอลมาตลอด สงสัยว่าจะมองหาอะไรกัน  
“เจ้านั่นไงเอล” ชิลด์พูดขึ้น “ไม่รู้ว่าเขามองอะไรนะ มองเธอหรือฉัน”
“ดูหยิ่งๆ เหมือนที่เคยได้ยินมาเลย นายเอลคนนี้” แอนนาพูด
“ดูเขาสนใจเธอนะแอนนา”
“ช่างเถอะรีบกินแล้วรีบไปดีกว่า”
เธอชื่อแอนนา เด็กหนุ่มเพื่อนซี้ชื่อชิลด์ ทั้งสองเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนเดียวกันและเรียนร่วมชั้นกันมาตั้งแต่เด็กจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษ 
                เอลเห็นชิลด์ก็กลับคิดว่า คนอย่างนี้เรอะเป็นพวกเดียวกัน แล้วมันคือผู้บุกรุกทางจิตนั้นไปได้ยังไง ดูท่าไม่ให้เลย  เขาชักจะไม่เชื่อว่าเจ้าหนุ่มอ้อนแอ้นอีเดียท ๆ จะเป็นผู้บุกรุกคนนั้น
จู่ๆ เอลก็ลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะซึ่งสองหนุ่มสาวนั่งกินข้าวอยู่ ลองก์และจังก์รีบหยุดกินและวิ่งตามไปสมทบ
                เอลเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับทั้งสองคน และถามชิลด์ด้วยเสียงไม่เป็นมิตร
“นายชื่อชิลด์ใช่มั้ยได้ข่าวว่านายกำลังคิดวัดรอยเท้าฉันอยู่.. แน่ใจแล้วหรือว่าจะทำได้”
ชิลด์ได้ยินดังนั้นแม้จะตกใจอยู่บ้างแต่ก็เตรียมใจไว้ตั้งแต่เอลเดินมาแล้ว เขากลับยิ้มและทักทายเอลด้วยวาจาสุภาพ จนเอลถึงกับหน้าเสีย
                “สวัสดีครับ ฉันได้ยินชื่อเสียงของนายเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
                ชิลด์ลุกขึ้นยื่นมือออกมาหมายจะจับมือด้วย แต่เอลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งนิ่ง
เจ้าหมอนี่จะมาไม้ไหนกันนะ..
ทำให้ชิลด์ต้องชักมือกลับไป แอนนาจ้องหน้าเอลจนเขาต้องหันไปมองทางอื่น
                “ฉันว่าเราคงมีเรื่องต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะ” เอลลุกขึ้นเอามือเท้าสะเอว
          “มีเรื่องอะไรหรือคะ” แอนนาถามขึ้นอย่างความสุภาพ
                ชิลด์กดไหล่ของแอนนาไว้คล้ายบอกว่าไม่ต้อง ฉันจัดการเอง
                “พวกเราก็เพื่อนๆกันแท้ๆ ค่อยๆพูดกันดีกว่า ถามจริงๆ นายมีอะไรกับฉันเหรอ”
          “เอลไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับนายหรอก” ลองก์จอมซ่าซึ่งยืนอยู่ด้านหลังอธิบายแทน
                แม้นชิลด์จะรู้ว่าเอลไม่เป็นมิตรแน่แต่ก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่แอนนากลับทนไม่ได้ลุกขึ้นบ้าง
          “ยินดีที่รู้จักค่ะคุณเอล” แอนนาทักทายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ยื่นมือออกมา
                “นี่ค่อยน่าจับมือด้วยหน่อย” เอลคว้าหมับไปจับมือนุ่มนิ่มของเด็กสาว “ยินดีที่รู้จักครับ”
                แอนนาจะดึงมือกลับแต่เอลกลับไม่ยอมปล่อย กลับกำนิ่งไว้แน่นจนลองก์ที่ด้านข้างทำหน้าเหรอหรา ส่วนแอนนานั้นสุภาพพอที่จะไม่ดึงมือกลับ แม้เธออึดอัดแต่กลับยิ้มอย่างเขินๆด้วยรอยยิ้มอันงดงาม
แต่เอลยังไม่ยอมปล่อยมือสักที ลองก์จึงใช้ตัวกระแทกมาที่หลังของเอล จนเขาต้องปล่อยมือแอนนา
ลองก์ยื่นมือมาจับมือกับแอนนาด้วย “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแอนนา”
“ไปไกลๆน่า” เอลผลักล้องก์กระเด็นไป บรรยากาศดูเหมือนจะคลี่คลายลงด้วยดี
                “วันหลังเราค่อยคุยกันใหม่นะครับ” เอลพูดจบก็เดินจากไป ล้องก์ไม่เชื่อสายตาที่เอลเบาลงไปได้ นานๆ จะได้เห็นเอลสุภาพสักที
                “ได้ค่ะ” แอนนาพูดตามหลังมา
ล้องก์กับจังก์รีบเดินตามเอลกลับไปที่โต๊ะเดิม ชิลด์มองตามเงาหลังของทั้งสามไปและสั่นศีรษะให้กับความไม่เป็นมิตรของเอลและ
“ขอบใจนะแอนนา”   
                “ผมว่าเขาเป็นคนแปลกนะครับ ดีนะที่เราไม่ได้เรียนห้องเดียวกับเขา ไม่งั้นอึดอัดแย่แน่”
                “เขาก็ไม่เลวนะคะชิลด์ แกล้งแอ๊คไปแบบนั้นเอง ฉันว่าเขาไม่ได้นิสัยเสียแบบที่ใครๆเขาพูดถึงหรอกค่ะ เขาก็แค่พวกชอบอวดเบ่งเท่านั้น”
                “เธอก็มองโลกในแง่ดีเกินไป เมื่อกี้ไม่เห็นว่าเขาจ้องฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเหรอ” ชิลด์เกาศีรษะแกรกๆ บุคลิกของชิลด์ไม่น่าจะเป็นคนทำเรื่องที่เอลคิดได้
                 เมื่อครู่นี้หลังจากที่เอลปะทะคารมด้วยสองสามประโยค เขาก็คิดเหมือนกันว่าชิลด์ไม่น่าจะเป็นเจ้าผู้บุกรุกคนนั้น แต่ยังไงก็ต้องข่มเอาไว้ก่อน
                “ฉันว่าไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากสิชิลด์”
                เด็กสาวเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ และนั่นได้สร้างความประทับให้กับเอลเมื่อครู่อย่างไม่คาดฝัน เขานั่งอมยิ้มใจลอยและเลิกคิดเรื่องผู้บุกรุกนั้นไปชั่วขณะ
                “เป็นอะไรไปเอล ดูท่าจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะเพื่อน” ลองก์พูดก่อน
                “อิจฉานายสองคนจังเลย” จังค์พูดบ้าง “เมื่อกี้ก็ว่าจะขอเช็คแฮนด์บ้างพวกนายก็รีบลุกออกมา เสียดายอ่ะ”
                “มือนุ่มเป็นบ้า ไม่คิดว่าหล่อนจะน่ารักแบบนี้” เอลชมเสียจนสองคนอิจฉาตาร้อน
“แค่ได้สัมผัสมือนุ่มนิ่มใจก็ลอยหายไปเลยรึ” ล้องก์แซว
 ในใจของเอลบางครั้งก็แข็งกระด้างบางครั้งก็อ่อนไหวยากนักที่สองเพื่อนซี้จะตามทัน
……………………………………………………………………
 
          เย็นนั้นที่ห้องพักครู ครูแฟรงค์เรียกเอลมาพบ และซักถามเขาในเรื่องที่คาใจมาหลายวันแล้ว
                “นายบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องข้อสอบทั้งสองชุดที่เหมือนกับก๊อปปี้กันมาจริงๆหรือ”
                “ผมไม่ทราบจริงๆนะครับครู”
พูดจบเอลก็ก้มหน้า ก่อนหน้านี้เขาก็ปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง เขารู้สึกเครียดกับเรื่องไม่เข้าเรื่องนี้
                “มันผิดเหมือนกันอยู่สามข้อ ทั้งที่สามข้อนั้นไม่น่าจะผิดด้วยซ้ำ ถ้าดูจากระดับสติปัญญาเด็กอย่างเธอ เธอคิดว่าไง ทำผิดไปได้ยังไงกัน ผิดแบบเหมือนตั้งใจให้ผิดอย่างนั้น อธิบายมาสิเอล”
                “ผมไม่มีอะไรอธิบายครับ ครูคิดว่าผมสองคนลอกกันหรือครับ”
                “มันชวนให้สงสัยอย่างนั้น ครูนีน่ายังคิดเช่นนั้นเลย”
                “นายกับชิลด์รู้จักกันหรือเปล่า”
                “ผมไม่รู้จักเจ้านั่นครับ”
                “จะให้ฉันเชื่อนายก็ได้ แต่ไม่ใช่เชื่อเรื่องที่นายหลอกฉัน และนายอาจโดนใครหลอกอยู่ก็ได้ ฉันพบเจ้าเครื่องส่งนี่อยู่ที่ในห้องเรียนของเจ้านั่น”  
อาจารย์แฟรงค์สีหน้าเข้มวางเครื่องส่งรหัสเครื่องเล็กๆที่เป็นที่กดรหัสโดยใช้รองเท้าเป็นตัวกด มันเป็นวงจรไฟฟ้าง่ายๆที่มีคนใช้กันจนเกร่อ เอลไม่เคยเห็นน้ำเสียงแข็งของครูแฟรงค์มาก่อน ดูผิดไปเป็นคนละคนกลับที่เอลรู้จัก
“ฉันเจออีกอันที่ใต้โต๊ะของนาย เครื่องส่งขนาดจิ๋ว นายสองคนลอกข้อสอบกัน”
“ผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่รู้เรื่องนะครับ”  
เอลชักสติแตกเมื่อเจอหลักฐานปลอม เจ้าวายร้ายนั่นพยายามใส่ร้ายเขา เจ้าชิลด์ก็คงไม่ใช่เจ้านั่น
“มีคนใส่ร้ายผมครับครู” เอลโวยลั่น
“ใส่ร้าย นี่นายหมายความว่าฉันใส่ร้ายนายหรือ”
ครูแฟรงค์ตบโต๊ะดังปังเพราะบันดาลโทสะอย่างที่เอลไม่เคยเห็นมาก่อน เขาถึงกับสะดุ้งและรีบลุกขึ้น
“อย่ากล่าวหาผมนะครับ ผมไม่รู้เรื่องที่ครูพูดเลยสักนิด”
ครูแฟรงค์ไม่ยอมลดราวาศอก
“แกมันเลวร้ายมากเจ้าหนู ฉันจะหักคะแนนความประพฤติของแก ออกไปได้แล้ว”
“คุณครู.....” เอลโมโหสุดขีดที่โดนเล่นงานแบบนี้ จึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง แต่ประสาทสัมผัสก็ทำให้เขาเหลียวหลังกลับไป เขาพบว่าครูแฟรงค์นอนฟุบไปกับโต๊ะทำงานแล้ว เกิดอะไรขึ้น...
“อะไรอีกล่ะ...”
เอลเข้าไปเขย่าที่ไหล่ของครูแฟรงค์
“ครูๆ”
แล้วเขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อครูแฟรงค์ลุกขึ้นเอามือขวาบีบคอเขาไว้ เขาพยายามเอามือง้างมือของครูแฟรงค์ให้คลายการบีบจนครูแฟรงค์ต้องปล่อยมือออกจากคอของเขา
“จะทำอะไรผม จะบ้าไปแล้วหรือ” เอลร้องลั่นเมื่อหลุดออกมาได้ ครูแฟรงค์เดินหนีออกไปนอกห้อง ก่อนจะเดินจากไปได้หันกลับมาพูดกับว่า
“เรื่องเลวร้ายจะเกิดกับแกทุกวัน ตราบใดที่ฉันยังสนุกอยู่”
แล้วครูแฟรงค์ก็ล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นหน้าห้องพักครู ครูหญิงสองคนเดินมาเห็นเข้าก็ร้องอย่างตกใจ
“ครูแฟรงค์ ครูแฟรงค์เป็นอะไรไป ครูแฟรงค์ ใครก็ได้ช่วยที”
เอลยืนอยู่งุนงงพูดอะไรไม่ออก เขาคิดว่าครูแฟรงค์ถูกใครสะกดจิตอยู่... เขาหันรีหันขวางมองไปรอบๆห้องก็ไม่พบใครสักคนที่อยู่ในห้องพักครูนั้น
ครูหญิงทั้งสองมองหน้าเอลด้วยความประหลาดใจ
.......................................................................................
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา