เพลงสุดท้ายของเรา Friends
9.3
3) เลือกไม่ได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความKoen K-OTIC
เมื่อผมเดินเข้ามาในบ้าน ผมก็เห็นแม่ของผมนั่งรอผมอยู่
"เขื่อนลูกตัดสินใจได้รึยัง?"แม่ถามผม
"ยังครับ"เขื่อนบอก
"ถ้าลูกจะไปเรียนต่อก็รีบบอกแม่นะ"
"ครับ"
"ยังตัดใจไม่ได้ใช่ไหม"แม่ลูบหัวผม
"อย่าเรียกว่าตัดใจเลยครับ เพราะผมไม่มีวันลืมแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนผมเด็ดขาด ขอโทษนะครับ"ผมปัดมือแม่ออก แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง
ผมเดินเข้ามาในห้อง แล้วนอนคิดถึงเรื่องต่างๆ ศิลปินก็เป็นสิ่งที่ผมชอบและเป็นความฝันของผม ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ถ้าผมจากไป พวกเขาจะเป็นยังไง ถ้า K-OTIC ต้องยุบวง แฟนคลับจะเสียใจมากแค่ไหน
ถึงผมไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกก็ไม่ได้แปลว่าผมจะหยุดแค่นี้ แต่ว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่พวกผมต้องเดินไปคนละทาง ถ้าเป็นตอนนี้มันคงเร็วเกินไป ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มันมีค่ามากเลย ผมไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาแม้แต่นาทีเดียวที่ผมได้มาเป็น K-OTIC มันคงจะเป็นความทรงจำที่ดีที่ผมได้สร้างบทเพลงร่วมกับเพื่อนที่ได้ชื่อว่าเป็น"K-OTIC"
ผมนอนคิดไปเรื่อยๆคิดย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอ โทโมะ ป๊อปปี้ จองเบ และเคนตะ ตั้งแต่วันที่พวกเรายังไม่มีชื่อเสียง ตั้งแต่วันที่พวกเรายังซน มันทำให้ผมรู้ว่าการได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยสำหรับผม
มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่เราได้ทำอะไรที่เราชอบร่วมกัน ผมตัดสินใจได้แล้ว....
ด้านป๊อปปี้
หลังจากที่ปลอบป๊อปปี้ได้สักพัก ฟางก็ขอตัวกลับบ้าน แม่ป๊อปปี้และพี่สาวของเขาก็เดินออกไป
Poppy k-otic
ผมนอนอยู่ในห้องนั้นสักพักก่อนที่จะเดินลงมาแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อ
"คุณค่ะ เราจะทำยังไงดีล่ะค่ะ"แม่ของผมถามพ่อ
"เรื่องอนาคตของเจ้าป๊อปน่ะหรอ"พ่อถามกลับ
"ใช่ค่ะ ลูกคงอึดอัดใจมาก"
"นั่นน่ะสิ ผมก็อยากจะให้เขาเป็นสถาปนิกอย่างที่เขาฝันไว้เหมือนกัน"
"แต่นักร้องก็เป็นความฝันของเขาเหมือนกัน"
ทำไม ทำไม ทำไมทุกคนถึงต้องกังวลเรื่องของผม ผมยืนร้องไห้ในมุมๆหนึ่ง
ทุกๆวันผมตื่นมามันก็เหมือนฝันที่ได้มาเป็น k-otic จนทำให้ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าผมไม่ได้เป็น K-otic มันจะเป็นอย่างไร
เมื่อผมเดินเข้ามาในบ้าน ผมก็เห็นแม่ของผมนั่งรอผมอยู่
"เขื่อนลูกตัดสินใจได้รึยัง?"แม่ถามผม
"ยังครับ"เขื่อนบอก
"ถ้าลูกจะไปเรียนต่อก็รีบบอกแม่นะ"
"ครับ"
"ยังตัดใจไม่ได้ใช่ไหม"แม่ลูบหัวผม
"อย่าเรียกว่าตัดใจเลยครับ เพราะผมไม่มีวันลืมแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนผมเด็ดขาด ขอโทษนะครับ"ผมปัดมือแม่ออก แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง
ผมเดินเข้ามาในห้อง แล้วนอนคิดถึงเรื่องต่างๆ ศิลปินก็เป็นสิ่งที่ผมชอบและเป็นความฝันของผม ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ถ้าผมจากไป พวกเขาจะเป็นยังไง ถ้า K-OTIC ต้องยุบวง แฟนคลับจะเสียใจมากแค่ไหน
ถึงผมไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกก็ไม่ได้แปลว่าผมจะหยุดแค่นี้ แต่ว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่พวกผมต้องเดินไปคนละทาง ถ้าเป็นตอนนี้มันคงเร็วเกินไป ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มันมีค่ามากเลย ผมไม่เคยรู้สึกเสียดายเวลาแม้แต่นาทีเดียวที่ผมได้มาเป็น K-OTIC มันคงจะเป็นความทรงจำที่ดีที่ผมได้สร้างบทเพลงร่วมกับเพื่อนที่ได้ชื่อว่าเป็น"K-OTIC"
ผมนอนคิดไปเรื่อยๆคิดย้อนกลับไปตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอ โทโมะ ป๊อปปี้ จองเบ และเคนตะ ตั้งแต่วันที่พวกเรายังไม่มีชื่อเสียง ตั้งแต่วันที่พวกเรายังซน มันทำให้ผมรู้ว่าการได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยสำหรับผม
มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่เราได้ทำอะไรที่เราชอบร่วมกัน ผมตัดสินใจได้แล้ว....
ด้านป๊อปปี้
หลังจากที่ปลอบป๊อปปี้ได้สักพัก ฟางก็ขอตัวกลับบ้าน แม่ป๊อปปี้และพี่สาวของเขาก็เดินออกไป
Poppy k-otic
ผมนอนอยู่ในห้องนั้นสักพักก่อนที่จะเดินลงมาแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อ
"คุณค่ะ เราจะทำยังไงดีล่ะค่ะ"แม่ของผมถามพ่อ
"เรื่องอนาคตของเจ้าป๊อปน่ะหรอ"พ่อถามกลับ
"ใช่ค่ะ ลูกคงอึดอัดใจมาก"
"นั่นน่ะสิ ผมก็อยากจะให้เขาเป็นสถาปนิกอย่างที่เขาฝันไว้เหมือนกัน"
"แต่นักร้องก็เป็นความฝันของเขาเหมือนกัน"
ทำไม ทำไม ทำไมทุกคนถึงต้องกังวลเรื่องของผม ผมยืนร้องไห้ในมุมๆหนึ่ง
ทุกๆวันผมตื่นมามันก็เหมือนฝันที่ได้มาเป็น k-otic จนทำให้ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าผมไม่ได้เป็น K-otic มันจะเป็นอย่างไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ