กองปราบจิตป่วน [City Hunter] ตอน รับน้องสยองขวัญ

9.5

เขียนโดย ออมอนี่cake

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 21.51 น.

  16 ตอน
  202 วิจารณ์
  26.05K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) ตอนที่ 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ
^__^~

 

# เรื่องสั้นเรื่อง กองปราบจิตป่วน City Hunter #

 

ตอน รับน้องสยองขวัญ ตอนที่ 6

 

 

อันตราย ห้ามเข้า 

 

"อันตรายยังไงวะ บ้านก็ยังไม่เก่านี่หว่า ต้นไม้ที่ขึ้นรกๆอยู่นี่ก็ต้นเล็กๆ จำพวกหญ้าเสียมากกว่า หนงหนามก็ไม่มี ตรงไหนวะที่อันตราย" 

"แล้วเมื่อกี๊ที่มีนบอกเราก่อนเข้ามา ว่าห้ามไปยุ่มย่ามที่บ้านร้างนั่นล่ะ มันบอกเหตุผลป่าว?" 

"เอาน่า ไม่เข้าก็ไม่หนุกสิวะ ฮ่าๆๆๆๆ" 

 

             

กึก ปึก โครม!!!!

 

"เฮ้ย เสียงไรวะ // เสียงมาจากตรงนั้น // บ้านร้างนั่นๆ" 

"ไม่เห็นมีอะไรนี่หว่า? เออเราเอาตรงนี้เป็นฐานสุดท้ายก็แล้วกัน โดนผีหลอกเสร็จก็ขึ้นรถกลับบ้านเลย ฮิฮิ" 

 

            เดินเข้ามาถึงที่หมาย ก็สอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้บ้านร้างนั่น กลับพบป้ายบอกว่าเป็นเขตหวงห้าม แบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยน่ะสิ

            เด็กๆก็ดูจะชอบกันเสียเหลือเกิน จึงพากันมองข้ามเขตอันตรายที่บอกไว้แล้วยึดสถานที่น่ากลัวนี่เป็นฐานสุดท้าย ขนาดตอนกลางวันยังอึมครึมขนาดนี้ แล้วถ้าตกคืนจะน่ากลัวขนาดไหนกันนะ

            ได้ยินเสียงปริศนาที่ดังออกมาจากบ้านร้าง แว่บนึงที่เขาแอบสังเกตเห็นเงาคล้ายคนเคลื่อนไหวอยู่ในบ้าน จึงอาสารับหน้าที่ดูแลด่านสุดท้ายเอง จะได้ถือโอกาสเช็คจำนวนเด็กไปในตัวด้วย

 

           

"เดี๋ยวอาจารย์กับเพื่อนจะอยู่ฐานนี้เอง แถวนี้ตอนกลางคืนคงมืดหนะ แค่ยืนเฉยๆเด็กๆก็กลัวกันแล้ว ไม่ต้องให้ใครเล่นผีมาหลอกหรอก จริงไหมครับ?"

"โอเคครับ ป่ะพวกเราไปเตรียมตัวกันเหอะถ้าทำพรุ่งนี้กลัวไม่ทัน ฝากดูแลแถวนี้ด้วยนะครับ อ.โทโมะ"

"พี่หนวดครับ  อ.โทโมะหน้าอ่อนกว่าพี่อีก ตกลงพี่ซิ่วมากี่ปีกันแน่เนี่ย ?"

"กบหน้าเหียบ หุบปาก เดี๋ยวไม่หาแมลงให้กินซะหรอก!"

....

................

 

"บอสครับ ผมถึงที่หมายแล้วครับ"

((ลองหาดูนะ เค้าว่ามันพักยาไว้ที่นั่น ลูกสาวฉันล่ะมาด้วยหรือเปล่า? อย่าแอบล่วงเกินเธอนะ ไม่งั้นแกตาย!!!))

"เพี้ยนแล้วครับท่านครับ"

 

            โทรฯรายงานเจ้านายที่อยู่ไกลถึงต่างแดน ให้รับทราบความคืบหน้าที่เป็นไปได้ของภารกิจล่าสุดที่เบื้องบนสั่งมาเมื่อไม่กี่วันก่อน พร้อมกับความเป็นห่วงเป็นใยแบบออกนอกหน้าที่ออกจะเกิดพอดีที่มีให้กับลูกสาวคนสวย

            ล่วงเกินงั้นเหรอ?..........มันเลยจุดนั้นไปนานมากแล้วมั้งครับคุณพ่อ!

 

 

            @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

"น้องๆปี1ทุกคนครับ เดี๋ยวพอเราทานอาหารเย็นเสร็จ เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัยนะครับ ทะเลตอนกลางคืนน่ากลัวนะครับ พี่อยากให้เราไปไหนไปเป็นกลุ่ม อยู่ด้วยกันเยอะๆจะดีที่สุด อ้อ ถ้าใครจะไปไหนให้มาบอกพี่ก่อนนะครับ ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีกิจกรรมตอนกลางคืนก่อนกลับบ้านด้วยนะครับ"

"เย้ๆ"

 

            กลับจากสวนผึ้งมาก็เกิดอาการเพลียอย่างแรง ในตอนแรกคิดว่าจะน่าเบื่อปรากฏว่าตื่นเต้นมากกว่าน้องๆเสียอีก เลี้ยงผึ้งท่ามกลางทุ่งทานตะวันโรแมนติกเป็นบ้า แอบถ่ายรูปไว้ตั้งหลายสิบใบแน่ะ เสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพคู่กับใครบางคนที่ควรจะอยู่ด้วยกันในเวลาแบบนี้

            ก็อยากมาทำให้โมโหทำไมล่ะ เฮอะ! แกล้งไม่ยอมปลุกเราปล่อยให้เรามาสายเฉยเลย

            ไม่ยอมหายโกรธง่ายๆแน่ๆ คอยดูนะ

 

...........

..............

 

 

            เมื่อเด็กๆพ้นไปแล้วก็เดินเข้ามาสำรวจภายในบ้านร้างต้องสงสัยว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ บ้านกึ่งไม้กึ่งปูนที่เคยหรูเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มี 2 ชั้น ภายในถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาหรูที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ไม่กี่ชิ้น หยากไย่และเถาวัลย์เลื้อยขึ้นทุกที่ที่สามารถชอนไชไปได้ แต่ก็ยังผิดสังเกต....

 

            สภาพบ้านที่เหมือนจะใช้งานไม่ได้ แต่มันยังคงตั้งอยู่ได้ในสวนที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่ ทั้งๆที่มันควรถูกรื้อถอนออกไปแล้วเอาพื้นที่มาทำสวนทำไร่ ยังจะดูเหมาะและดูเข้ากันกับสภาพแวดล้อมมากกว่า

 

            ถ้าไม่มีประโยชน์ คงถูกทำลายไปนานแล้ว.....นั่นสิ ที่นี่มีประโยชน์อะไรกันนะ หึหึ หรือสามารถเป็นที่ซ่อนอะไรบางอย่างได้

            ....คุณลุงเจ้าของไร่คนนี้ ชักมีอะไรแปลกๆแล้วสิ....

 

 

"ข้างในรกเป็นบ้าเลยแฮะ อืม....ตรงไหนที่พอจะเล่นซ่อนหาได้บ้างล่ะ"

 

            เดินขึ้นไปชั้นสองก็พบกับความแตกต่างจากชั้นล่างโดยสิ้นเชิง พื้นที่ชั้นบนถูกใช้งานเหมือนมีคนอาศัยอยู่ มีมุมสำหรับทานอาหารพร้อมกับมื้อกลางวันที่ยังคงมีกลิ่นหอมของกะเพราไข่เจียวและเตียงนอนที่คล้ายจะมีรอยบุ๋ม เหมือนมีสิ่งมีชีวิตเคยนอนอยู่แล้วพึ่งรีบลุกขึ้นมาเมื่อสักครู่

 

            มีคนอยู่จริงๆด้วยสินะ .....

 

 


            มองหาสิ่งที่เขาต้องการพบเจอ เจ้าคนที่มันกำลังทำลายประเทศโดยการมอมเมาเยาวชนด้วยยานรกนั่น

            ถ้าเจอ พี่ไม่เอาน้องไว้แน่.....

 

 

"อ๊ะ! ใครหนะ ออกมาเดี๋ยวนี้....ใครอยู่ตรงนั้น โอ้ย!!!!!!!!!"

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

วี้ด...........อ๊าก......................

 

 

"สะ เสียงอะไรหนะ .... ใครได้ยินบ้าง"

"สะ เสียงมาจากทางบ้านร้างที่ลุงไผ่บอกเราเมื่อตอนกลางวันนี่ บรื๋อ น่ากลัวอ่ะ"

"ยายกี้ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้บอกพวกพี่ๆเค้าก่อนออกมา ดูซิเนี่ยใครจะรู้บ้างไหมว่าเราไม่อยู่ที่พัก ญ่ากลัว"

 

 


            พอพี่ๆให้พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ก็รีบชวนเพื่อนสนิทออกมาเดินเล่นริมชายทะเล เธอน่ะเป็นเด็กเหนือถึงจะมีชื่อเป็นลูกครึ่งก็เหอะ แต่ไม่เคยเห็นทะเลจริงๆสักครั้ง อ้อนวอนเพื่อนๆอยู่นานสองนานจึงได้ออกมาชมทะเลยามเย็น

            สวยดีออก ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่พี่วินพูดเลย มั่ว!!!

 


            เดินออกมาชมทะเลสักพัก ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากทางด้านหลังของสวน ที่ที่ลุงไผ่บอกว่าอันตราย อย่าเข้าไปเป็นอันขาด ที่ๆมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ จนใครๆก็อยากได้ไว้ครอบครอง แต่คุณลุงอยากจะเก็บไว้ให้ลูกหลานจึงไม่ต้องขาย แต่ก็อยู่ไม่ได้....

            เพราะมีเรื่องราวอาถรรพ์เกิดขึ้นบ่อยๆ

 

            อย่างเช่น ตกกลางคืนจะมีเสียงร้องโหยหวน เสียงของความตาย

            พี่วินจ๋า มาร์กี้ขอโทษ >_<

 

 

....

......

 

"อึ๊ก....อึ๊ก"

"แก้วเป็นอะไร สะอึกใหญ่เลย อ่ะน้ำ"

"อึ๊ก...อือขอบใจนะมีน รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ...จะเกิดอะไรหรือเปล่า?"

 

 

 


คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา