I can say...ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ
8.5
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันจันทร์ที่แสนจะวุ่นวาย ภายใต้อาการดีๆในยามเช้าแต่ดูเหมือนเหตุการณ์ตอนนี้มันไม่น่าจะพิสมัยเลยสักนิด นี่ขนาดเช้า รถยังติดได้ถึงขนาดนี้! ให้ตายเถอะพระเจ้า....เจ้าของร่างโปร่งนั่งหน้าเครียดพลางขมวดคิ้วด้วยความอารมณ์เสีย เขาถอดแว่นสีชาออกพลางโยนไปด้านหน้าของรถอย่างแรง
“โธ่เว้ย! จะติดอะไรนักหนา คนยิ่งรีบๆอยู่ด้วย แม่นะแม่ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย!!”เขาพึมพำถึงคนเป็นแม่อย่างหงุดหงิดก็เมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี่ละสิ...
.
.
.
.
“โทโมะ^^”
“สวัสดีครับคุณแม่...กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”เขาเอ่ยถามมารดาพลางเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง คนเป็นแม่หอมแก้มซ้ายขวาอย่างอารมณ์ดี พลางตอบคำถามลูกชาย ปกติแล้วคนอย่างโทโมะ ไม่ใช่ผู้ชายขี้อ้อนเสียเท่าไหร่ การที่ลูกชายดูจะปกติไม่ได้ออกอาการตื่นเต้น ดีใจ เมื่อเห็นคนเป็นแม่กลับมากลังจากบินไปดูงานที่อังกฤษเกือบๆ 2 ปี เต็ม! คนเป็นแม่จึงเข้าใจดี
“กลับมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้วล่ะลูก นี่แม่ซื้อของมาฝากเราเพียบเลยดูสิ^^”
“ไม่น่าลำบากเลยครับ ผมไม่ค่อยชอบอะไรพวกนี้ซักเท่าไหร่?”ร่างสูงมองหน่ายๆกับเสื้อผ้าหลากสีสันจากต่างประเทศที่แม่ของเขาหวังดีซื้อมาให้มากมาย
“แน้...ไม่เคยเปลี่ยนเลยเรา จริงๆ แล้วนี้อยู่บ้านคนเดียวพาสาวๆมาบ้างหรือเปล่าเนี่ย? พ่อเราก็ไม่อยู่ซะด้วย ฮึ”
“ผมยังไม่คิดอะไรไร้สาระพวกนั้นหรอกครับ”
“เอ๊ะ...เรานี่ยังไง?ไม่คิดจะมีฟงมีแฟนบ้างเหรอ? เราก็โตพอแล้วนะ แม่ไม่ว่าหรอก อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว จบแล้วก็ต้องทำงาน....แล้วจะเอาเวลาไหนไปหาแฟนละลูก?”
คนเป็นแม่ร่ายยาวจนเขาเริ่มจะเซ็งๆขึ้นมาบ้างเสียแล้วล่ะ? เฮ้อ แม่ถามเรื่องนี้ทีไรเขาก็บ่ายเบี่ยงตลอดมา ไม่ใช่อะไรหรอก เขานะรำคาญพวกผู้หญิงต่างหากล่ะ! แฟนคลับที่มหาลัยก็ช่างงี่เง่าเสียจริง ขนาดเขาตวาดกลับใส่บ่อยๆพวกเธอก็ไม่ยอมเลิกรา!
ให้ตายเหอะ=__=
“เดี๋ยวมีก็มีเองล่ะครับ ผมยังไม่อยากมีภาระจริงๆ”
“เอาล่ะๆ ถ้าเรายังไม่มีแฟนก็ดีเหมือนกัน”
“...? ยังไงครับคุณแม่”
“คือ ถ้าแม่จะขอร้องลูก ลูกจะช่วยแม่ไหม?”ร่างสูงเหลือตามองคนเป็นแม่อย่างชั่งใจ มันต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่แม่ของเขาต้องการให้ช่วยเป็นแน่แท้
“เราต้องสัญญาว่าจะช่วยแม่ นะโทโมะ สัญญาก่อน”
“เรื่องอะไรครับ?”
“สัญญาก่อนสิลูก”
“โอเคครับ โอเค ผมสัญญาว่าจะช่วย” เป็นเขาที่ต้องเป็นฝ่ายตอบรับ เมื่อถามแล้วแม่ของเขาก็ไม่ยอมบอกเสียที นี่เขาก็เผลอตอบตกลงไปเสียแล้วด้วย นี่แหละหนา ความอยากรู้เห็นของเขาจะนำภัยมาให้อีกหรือเปล่า?ก็ไม่รู้
“ขอบใจมากลูกรัก^^....เรื่องที่แม่จะขอให้ช่วยก็คือ......”
.
.
.
“หา!!! คุณแม่จะให้ผมเลี้ยงเด็กเหรอ? ไม่เอาหรอก ผมขอโทษจริงๆแต่ผม.....”พอได้ฟังคำขอของมารดาเท่านั้นล่ะ เขาถึงกับปฏิเสธทันควัน อะไรกัน?จู่ๆจะให้เขาดูแลลูกสาวเพื่อนด้วยเหตุผลที่ว่า ‘น้ามลเขาต้องไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่พอดีที่นั่นมีปัญหาแล้วลูกสาวเขาต้องอยู่บ้านคนเดียว’
“ลูกจะผิดคำสัญญาไม่ได้นะโทโมะ น่าช่วยแม่หน่อยนะเดี๋ยวแม่ก็ต้องกลับไปอังกฤษอีกครั้งวันมะรืนนี้แล้ว เราเป็นความหวังของแม่นะ”
“แล้วพ่อเขาล่ะ ไม่มีหรือไง? ทำไมต้องให้ผมดูแลด้วย”
“พ่อกับพี่ชายน้องเขาอยู่ต่างประเทศกันหมดนะลูก นะๆช่วยแม่หน่อยยะโทโมะ แค่เดือนเดียวเอง ดูแลน้องเขาหน่อย แม่รับปากเพื่อนเอาไว้แล้วด้วย” เมื่อเห็นว่าเขาไม่อาจปฏิเสธมารดาตัวเองได้เลย เขาจึงพยักหน้ารับอย่างเซ็งๆ ก่อนจะต้องเซ็งหนักเมื่อแม่บอกว่า
“เดี๋ยวเราไปรับน้องเขาที่สนามบินด้วยนะลูก พอดีเขาไปส่งแม่เขาขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ ถ้ามาถึงบ้านแล้วโทรบอกมาด้วยนะ แกะว่าจะไปสปาซะหน่อย...ขอบใจมากลูกรัก^^”คนเป็นแม่สั่งเสียเรียบร้อยก่อนจะชิงหอมแก้มลูกชาย ที่ตอนนี้นั่งใบกินไปเรียบร้อยแล้ว
สนามบิน! อ๊ากกกกกกก!!!!>[]<
.
.
.
.
.
“โว้ย! เมื่อไหร่รถจะเลิกติดว่ะ แล้วเด็กคนนั้นกี่ขวบกันละเนี่ย โอ้ย! ชีวิตฉันต้องมานั่งเลี้ยงเด็กอนุบาลหรือยังไงกัน??? เซ็ง!!!!” เขาสบถกับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย แค่นึกที่ว่าจะเลี้ยงเด็กก็กลุ้มพอล่ะ ซ้ำร้ายยังถูกบังคับให้ไปรับอีก แว้ก....อยากตาย!
เมื่อบรรดารถค่อยๆเคลื่อนตัวไปได้เขาก็รีบเหยียบสุดแรงเกิดจนไปถึงสนามบินเป้าหมาย ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เปล่าเลย เขาไม่ได้เป็นห่วงเด็กที่ว่านั่นเลย เพียงเพราะว่าอยากจะรีบเอาไปส่งให้คุณแม่เร็วๆเท่านั้นแหละ!
“คุณแม่บอกว่าชื่ออะไรนะ......แก้ว!”
“นี่แนะๆๆๆ ไอ้โจรโรคจิต ตายซะๆ ๆๆๆ”ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทบทวนความจำเกี่ยวกับข้อมูลลูกสาวเพื่อนแม่ได้ เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นสนามบินก็ทำให้เขาต้องหันไปมองก่อนจะต้องหัวเสียอีกครั้งเมื่อมีใครที่ไหนไม่รู้สาดน้ำโค้กแก้วใหญ่ใส่หน้าเขาเต็มๆ!!
ซ่า~
“.....”
O_______O!!
“โว้ย! อะไรกัน?...นี่เธอจะไปไหน?”
“นี่คุณ ยืนเกะกะขวางทางเองช่วยไม่ได้ ฉันไม่ขอโทษนะ ปล่อยฉันเร็วๆฉันจะตามไอ้โรคจิตนั่นไป!” เมื่อถูกเขาฉวยคว้าแขนเอาไว้สาวน้อยคนที่สาดน้ำใส่เขาเมื่อครู่ก็มีทีท่าบึ้งตึง ซ้ำร้ายยังเป็นฝ่ายโทษเขาเสียอีก
ตัวเองผิดแล้วไม่รู้จักสำนึก เด็กบ้า!
“เธอเป็นคนผิดนะ! อยู่ๆก็เอาน้ำมาสาดหน้าฉัน เธอต้องขอโทษ!”
“ฉันไม่ขอโทษก็คุณอ่ะทำให้โจรโรคจิตที่แอบมองหน้าอกฉันหนีไปได้ เพราะฉะนั้นคุณนั้นแหละผิดคุณต้องขอโทษฉันสิ” ร่างบางเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมจ้องหน้าเขาเอาเรื่อง เขาละนึกระอากับเด็กผู้หญิงอย่างเธอเสียจริง! ประหลาด!!!ไม่เคยพบเคยเจอ ปากคอเราะร้ายเป็นที่สุด!
“มองหน้าอก? เฮอะ! ฉันว่าไม่ใช่ล่ะ หน้าอกเธอมีให้มองด้วยเหรอ”ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันทำเอาคนฟังถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตอนนี้เธอคิดว่า...ผู้ชายคนนี้น่าต่อยกว่าโรคจิตคนนั้นอีก!
กร๊อซซซ-___- มาว่าฉันไม่มีหน้าอก โกรธๆๆๆ
“ย้ากกก! ไอ้บ้า หยาบคาย ตาย!!!”
พลั่ว!
มือเล็กกระแทกกับใบหน้าของเขาอย่างแรง ร่างสูงไม่ได้ทันระวังตัวอยู่แล้วด้วยจึงหลบไม่ทัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเท้าสะเอวยิ้มย่องเขาก็ยิ่งโกรธเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี!
“ยัยเด็กผี! เธอกล้าดียังไงมาต่อยฉัน หา?????”
อะไรนะ? เด็กผี! กรี๊ดดด รับไม่ได้คร่าTT ว่าฉันซะเสียเลย เมื่อกี๊ก็ว่าฉันหน้าอกแบนไปทีแล้ว(อันที่จริงก็ถูกของเขาไม่ใช่เหรอ?) ฉันเป็นสาวน้อยผู้น่ารักนะ เรียกแบบนี้ไม่ได้นะ!!
“(- - ) ( - -) ว่าฉันเหรอ?”
“เออ!!” เต็มๆค่ะ หมอนี่ตะโกนเต็มๆหน้าฉันอย่างจัง โว้ย! หนวกหูชะมัด ผู้ชายหยาบคาย แบบนี้ฉันเพิ่งจะเคยเจอนะเนี่ยT^T หวังว่าลูกชายเพื่อนแม่เขาจะเป็นคนใจดีนะ แงๆๆๆ ทำไมแม่ไม่ให้ฉันไปอยู่ด้วยอ่ะ!
“แล้วไง?”
“เอาล่ะๆ ฉันไม่เถียงกับเด็กบ้าๆแบบเธอแล้ว หลีกไป ฉันมีธุระ!”
“เออ! ฉันก็ไม่ว่างมาทะเลาะกับนายหรอก ชิ....แล้วเมื่อไหร่ลูกเพื่อนแม่จะมารับฉันอ่ะ”ร่างบางสะบัดน่าฟึบใส่เขาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วก็ต้องตกใจกับเสียงเขาอีกครั้ง!
“ว่าไงนะ?!!!!”
แว้ก!>_< ตะโกนทำบ้าอะไรเนี่ย??หูจะแตกอยู่แล้วนะเว้ย! ที่บ้านกินนกหวีดเป็นอาหารหรือยังไงกันไม่ทราบเจ้าค่ะ!
“ไม่ใช่เรื่องของนาย ไอ้ผีดิบ!”
“ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย ยัยเด็กผี บอกมาว่าเธอรอใครอยู่!!~”ร่างสูงบีบต้นแขนของเธออย่างแรงจนอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บพลางนึกสงสัยว่าเขาจะอยากรู้ไปทำบ้าอะไรกัน???
“โอ้ย!เจ็บนะ....เออ! ฉันรอลูกชายเพื่อนแม่มารับไปอยู่ด้วย ถามทำไมไม่ทราบ???”
“...ชื่อ....แก้ว...เธอชื่อแก้ว!!!”เขาอุทานออกมาอย่างตกใจจนแก้วสงสัยหนัก หมอนี่รู้ชื่อเราได้ไงว่ะ-___-
“รู้จักฉันได้ไง?”
“พระเจ้า!!!” หมอนั่นอุทานหาพระเจ้าทำไมก็ไม่รู้-[]- ชื่อฉันมันเพราะพริ้งมากเลยหรือไงกัน? ไม่พอนะ ดวงตาเรียวของเขายังเบิกกว้างราวกับตกใจอย่างไงอย่างงั้น นี่จะบอกว่าฉันสวยใช่ป่ะ^O^
“ยิ้มบ้าอะไรยัยเด็กผี!”
“=[]= มากเกินไปแล้วนะ นายเป็นใครมีสิทธิ์มาด่าว่าฉันฉอดๆๆๆๆแบบเน้-o-”
“เวรกรรมของฉันแท้ๆ เนี่ยนะเหรอเด็กที่แม่ให้ฉันดูแล เป็นเธอเองเหรอ? ยัยเด็กผี!!!~”ตอนนี้คงไม่ใช่แค่โทโมะที่ตกใจ เป็นแก้วเองที่ตกใจไม่แพ้กัน ถ้าต้องทนอยู่กับเขาตลอด 1 เดือนเต็มละก็ ขอกลั้นหายใจตายดีกว่า!
“อย่าบอกนะ ว่านายคือลูกชายเพื่อนแม่ที่ฉันต้องไปอยู่ด้วย?”
“เออ! ฉันโทโมะ!!! โว้ย!....เวรกรรมของฉันจริงๆ”เขาเอ่ยด้วยความหงุดหงิดพลางใช้ความคิด ถ้าต้องให้อยู่บ้านเดียวกับเด็กลิงแบบนี้ละก็ มีหวังเขาได้ปวดหัวตายกันพอดี!
“แง…TT ไม่จริงอ่ะ นายโกหก ฮือ...ไม่เอาอ่ะฉันไม่ไปอยู่กับนายTToTT”แก้วร้องไห้คร่ำครวญจนโทโมะชักจะรำคาญขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว เขาละอยากเขกหัวเด็กคนนี้เสียจริง ดูท่าแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 18 ปี แต่ท่าทางแสบเซี้ยวไม่เบา เขาก็นึกว่าน่าจะซัก 7-8 ขวบ ที่ไหนได้????
“เธอจะคร่ำครวญทำบ้าอะไรเนี่ย? คนที่คร่ำครวญมันต้องเป็นฉันไม่ใช่เธอเว้ย!”อ๊ากกก เว้ย โว้ย! หยาบคาย น่าตบปากจริงๆ เธอเป็นผู้หญิงนะ ให้เกียรติกันหน่อยเซ่-o-
“นี่ นายกินอะไรเป็นอาหารไม่ทราบ? ถึงได้มีแรงด่าฉันเป็นชั่วโมงๆแบบนี้อ่ะ?”
“ไม่ต้องยุ่งเลย เฮ้อ~ ถ้าอยากอยู่ตรงนี้ก็ตามใจ! ฉันไปล่ะ”
“อ้าว-o- นายจะทิ้งฉันเหรอ? แว้ก..ไอ้บ้ารอด้วยเซ่”แม้จะมีอคติกับเขาแค่ไหนแต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์เลือกนี่นา....TToTT ใจคอเขาทำด้วยอะไรก็ไม่รู้นอกจากจะไม่ช่วยถือของแล้ว ยังจะให้เธอแบกขึ้นรถเองอีก ไม่อยากจะคิดเลยว่าเธอจะเจอ อะไรต่อแต่นี้ต่อไป???
ระหว่างทางแก้วเองก็ได้แต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จานึกโทษโชคชะตาอยู่ในใจที่ทำให้เธอต้องมาเจอกับเขา ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ได้แฮปปี้เหมือนกัน ทุกครั้งที่เขาเหยียบคันเร่ง เธอเองแทบจะหัวคะมำ
รีบไปตายที่ไหนไม่ทราบ???=[]=
“นี่นายจะรีบไปไหน? ฉันยังไม่อยากตายนะ”
“มีหน้าที่นั่งเฉยๆก็ไม่ต้องพูดมาก แล้วนี่...อายุเท่าไหร่?”
อยากรู้ไปทำไมกันย่ะ ชิ!
“18 แล้วนายล่ะ?”
“ให้ตายเหอะ นี่ฉันห่างกับเธอเกือบ 4 ปีเต็มเลยเหรอ? เธอสมควรเรียกฉันว่าพี่ด้วยซ้ำ ยัยเด็กผี”
“ฉันชื่อแก้ว เรียกให้มันถูกๆหน่อย ส่วนไอ้เรื่องพี่ไม่พี่อ่ะ ฉันไม่เรียกหรอกแบบนี้แหละดีแล้ว ฉันไม่ถือ^____^”ฉันว่าพลางยิ้มกว้างอย่างกวนประสาท แอบเห็นนะ หมอนั่นหันมาทำตาขวาง นี่ถ้าเขาทึ่งหัวฉันได้ป่านนี้ฉันตายไปนานล่ะแก้วใจT^T
“แต่ฉันถือโว้ย!”
“ก็ไม่เรียก...จะทำไม??”
“เธอนี่มัน.....”ร่างบางแอบหัวเราะคิกคักอย่างสะใจที่เห็นเขาโกรธเกรี้ยวเธอนี่ท่าจะบ้าไปแล้วจริงๆ อีกฝ่ายไม่พูดอะไรแต่แต่ยิ่งเพิ่มความเร็วจนเธอต้องเกาะเบาะนั่งเอาไว้ แหมๆๆขึ้นเหรอย่ะ!
รถแล่นมาได้สักพักก็เลี้ยวเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ดูสวยงาม ไม่ต้องเดานี่เป็นบ้านเพื่อนแม่ฉันเอง เห็นแม่บอกว่าถ้าเคลียปัญหาที่เชียงใหม่เสร็จเมื่อไร่จะรีบกลับมารับฉันทันที ทำไงได้ฉันเรียนอยู่กรุงเทพนี่นาToT
เอี๊ยดดดดดดดด!!!
“กรี๊ดดดดด>[]<” ร่างบางกรี๊ดลั่นเมื่อเขาเหยียบเบรกไม่ให้เธอได้ตั้งตัวจนหัวไปกระแทกกับคอลโซลรถเข้าอย่างจัง มือบางกุมหัวตัวเองป้อยๆพลางส่งสายตาอาฆาตแค้นมายังเขา ที่เดินผิวปากออกไปอย่างสบายอารมณ์!
คิดจะถามอาการกันซักนิดก็ไม่มี! คิดจะช่วยขนของก็ไม่มี!
ยัยแก้วนะยัยแก้ว ซวยจริงๆหมอนี่มันปีศาจชัดๆๆ ฮึ่มๆๆ คอยดูนะฉันจะป่วนให้นายหัวปั่นไปเล้ย คอยดู=__=
“นั่งบื้ออยู่ได้ ขนของแล้วตามฉันมาเซ่ คุณแม่รออยู่!”
“นายไม่คิดจะช่วยฉันหน่อยหรือไง ไอ้คนใจแห้งแล้งงงงงงงง”
“ไม่ช่วย ขี้เกียจ อยู่บ้านเขาแล้วก็ต้องชั่วเหลือตัวเองสิ อย่ามาเรียกร้อง!”นายนั่นยืนเต๊ะอยูบนบันไดหน้าบ้านพลางกอดอกมองฉันด้วยแววตาสมเพช โอ้โห....โคตรหยามฉันเลยอ่ะTT^TT
“จะให้ฉันปั้นวัว ปั้นควายให้นายเล่นด้วยเลยไหมเล่า?!!!”
“....ปากดี!!” อีตานั่นหันมาด่าฉันก่อนจะเดินเข้ามาช่วยฉันถือของเข้าไปข้างใน ^O^ ได้ผลอ่ะ รู้งี้ต้องด่านายนั่นบ่อยๆถึงจะยอมทำตาม(มั้ง) แต่เขาก็ดูเป็นคนดีได้แปปเดียว ขอย้ำว่าแปปเดียวจริง พอไปถึงในบ้านเขาก็โยนกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของฉันใส่หน้าฉันเต็มๆ กรี๊ดดดด มันเจ็บนะTToTT
“ถือเอง!”
ขอบคุณ โทโมะT^T
.....................................................................................................................................
เรื่องนี้ลงบทนำผิด แหะๆ=__=
แก้ล่ะ >___< ไม่มีอะไรมาก แค่ฝันดีทุกคน^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ