มันคงเป็นความรัก
10.0
9) มันคงเป็นความรัก 008 Sexy, Naughty, Bitchy
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ผับอะเมซอน เวลา 20.01 น.
ภายในห้องแต่งตัวของผับอะเมซอน ตอนนี้แออัดไปด้วยเหล่าสิ่งมีชีวิตที่กำลัง แต่งตัว แต่งหน้า เตรียมความพร้อมขึ้นโชว์ อาทิเช่น นักร้อง แดนเซอร์ (หางเครื่อง) ช่างแต่งหน้า และนักร้องสาวสวยอย่างดิฉัน แคทรียา วัฒนา
“อุ้ยต๊าย ตาย…ทำไมหน้าบูดเป็นตูดลิง อย่างงั้นล่ะยะ”
เสียงแซวจากมาม่าซังภัสสรหรือพี่กระทิงดังเข้ามากระแทก รูหู ของ แคทรียา นักร้องสาวสุดสวยประจำผับอะเมซอน
“ก็…อารมณ์เสีย นีส..หน่อย น่ะค่ะ” ฉันหน้างอหงุดหงิกมาตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน แต่ดันเจอกับหนุ่มหล่อมาดเท่แต่ปากเสียมายียวนกวนประสาท ฉันเลยอารมณ์ค้างติดมาที่ทำงานด้วย
“แล้ว…อารมณ์เสีย นีส..หน่อย ของหล่อนนี่…มันอะไรล่ะยะ…ไม่รู้รึไงว่ามันทำให้หน้าไม่สวย…ริ้วรอยเหยี่ยวย่นจะถามมาน่ะ แม่คู้ณ…” มาม่าซังภัสสรถามถึงข้อข้องใจที่ทำให้เพื่อนรักของเธอต้องอารมณ์เสียด้วยเสียงสูง ๆ
“เอ๋…มันเรื่องอะไรน้าที่ทำให้น้องเสือ…นักร้องสาวสุดสวยประจำผับแอมาซอนของเราถึงกับอารมณ์ค้าง ได้…เอ๋เรื่องอารายน้า…” พี่กระทิงยังคงทำท่านึก โดยเอามือขวาชี้นิ้วจิ้มปาก มือซ้ายกอดเอวของตัวเองและบิดร่าง แน่งน้อยไปมาเหมือนเด็ก ๆ ถึงแม้วัยแกจะผ่าน คืนข้ามปี มา 34 ปีแล้วก็ตาม
“ให้ทายนะ…เรื่อง ผู้ชายยย..ใช่ไหมล้า…”
คนฟังหันควับมาทางคนทาย และชี้นิ้วไปพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ถูกต้องนะคร้าบ…” พี่กระทิงทำท่ากระโดดโลดเต้นเหมือนลิงดีใจที่ได้กินกล้วย
“แหม…ทำไมตอนซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้นะ…แต่..เรื่องผู้ชายยย นี่! น่าจะอารมณ์ดีนะ…น้องเสือ ออกจะเสน่ห์แรง หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ตอม กันให้หึ่งเชียว แต่ทำไม๊.. อารมณ์เสีย ๆๆ ได้ล่ะจ๊ะ….”
ว่าแล้วพี่กระทิงก็ยื่นหน้า บาน ๆ มาถามฉันอย่างสนอกสนใจ
“แหม…นี่!มาม่าซังขา…น้องไม่ใช่ ขี้ นะคะ…แมงวันจะได้ตอมกันให้เกลียว”ฉันตอบกลับโดยที่หน้าหงิกน้อยลงนิดนึง
“ก็เมื่อตอนกลางวันน่ะ…ตอนที่เรากินข้าวกันเสร็จ ที่ฉันกินข้าวแค่จานเดียวแต่ มาม่าซัง ซวบเอา ซวบเอา ตั้ง 3 จาน และมาม่าซังก็เข้าไปนอนกลางวันแล้ว…”
“เอ๋…นี่หล่อน!…ฉันว่าหล่อนหลอกด่าฉันนะเนี้ย” พี่กระทิงพูดกระแนะกระแหนออกมาอย่างขัดใจ
“ ฮิ ๆๆๆ แหม..นิดหน่อยค่า…จะได้ไม่เครียด เออนอกเรื่องไปนาน เมื่อกี้เล่าถึงไหนนะ”
“ถึงเรื่องผู้ชายคนนั้นยะ”
“อ้อมาเล่าต่อๆ…ฉันก็ขี่จักรยานสีชมพูลายเซเลอร์มูนตัวเก่งไปที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้านกะจะไปนั่งพักผ่อนซะหน่อย…แต่ดั้นนน..เจอผู้ชาย….”
“ว้าย!...ผู้ชายเหรอ…เป็นไง หล่อ รวย และมีรถไหม…แล้วหล่อน จับลากเข้าพุ่มไม้ เลยป่ะ….แหมนี่หล่อนน่าจะ มาตามมาม่าซังไปด้วยอีกคนนะ…”
มาม่าซังภัสสรพูดโพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้น…ทั้งๆ ที่แคทรียายังพูดไม่จบเลย
“ว้าย!อะไรยะ…หนูไม่ใช่สาวไวไฟนะคะ…จะได้จับผู้ชายลากเข้าพุ่มไม้ น่ะ…ฉันน่ะ…กู้ดเกิร์ล-เวอร์จิ้นเกิร์ล…”
ฉันทำท่าภาคภูมิใจที่ตัวเองยังไปสาว(ประเภทสอง)ที่ยังบริสุทธิ์อยู่…ตรงกันข้ามกับพี่กระทิงที่หน้าหงิกค้อนให้เล็กน้อย
“จ้า…แม่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง…เล่าต่อซิยะ…อารมณ์ค้างหมด” มาม่าซังภัสสรพยักเพยิดให้แคทรียาเล่าถึงผู้ชายที่ไปพบต่อ
“ค่ะเจ๊…ก็หล่อนะไม่รู้ว่ารวยไหม ที่แน่ๆมีรถ(มอ-ตา-ซาย) แต่ว่า…มันเป็นผู้ชายที่ปากเสียมากกก…”
“อ้าววว!...ทำไมไปว่าเค้าอย่างนั้นล่ะจ้า ถึงจะปากเสีย…แต่ถ้าหล่อมาม่าซังก็ให้อภัยได้” ฉันเบะปากใส่พี่กระทิงเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าหู
“ก็มันปากเสียจริงๆนี่คะมาม่าซัง…แถมยังซุ่มซ่าม ลามก เจ้าชู้ ปากจัดมากๆ…ถึงมันจะหล่ออย่างมาม่าซังว่านะ แต่ฉันว่าหน้ามันหล่อแบบแปลกๆ นะคนอะไร้หน้ายังหน้ายังกับเห็ดหูหนู แต่ดันทำเท่คงนึกว่าตัวเองอุลตร้าแมนละสิ…ชิ!อารมณ์เสียที่สุด…ขอให้ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเล้ย”
พี่กระทิงดูท่าจะอึ้งไปมากที่ฉันทำท่าไม่ชอบไอ้หนุ่มบ้าอุลตร้าแมนนั่นซะมากมาย…ทั้ง ที่เป็นเพราะอุบัติเหตุแท้ๆ แต่คงเพราะทิฐิตั้งแง่ที่แจจุงไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้และคงเพราะฮอร์โมนเพศหญิงที่เธอกินเป็นประจำแน่ๆ ที่ทำให้เจ้าหล่อนโมโหเพราะเรื่องเล็ก ๆได้ขนาดนี้…
“โถ…หนุ่มหล่อคนนั้นน่าสงสารจังที่มาเจอกับน้องเสือ ตอนประจำเดือนมาไม่ปะ-กะ-ติ ”
แคทรียาหันมาตาเขียวใส่มาม่าวังภัสสรที่ทำท่าจะเข้าข้างผู้ชายหล่อๆ มากกว่าเพื่อนรักอย่างตัวเอง
“แหม…ไม่ต้องมามองเจ๊ด้วย สายตานางเอกในหนังเรื่องกาษานาคาเลยนะ…”พี่กระทิงหันมาตอกกลับฉันอย่างรู้ทัน
“ก็มาม่าซังน่ะ…รักผู้ชายมากกว่าเพื่อน ”
“เอ้า!...แน่น้อน มันเรื่องธรรมดา…หล่อนลองคิดซิ…เพื่อนดีๆน่ะ หาเมื่อไหร่ก็ได้นะ แต่ผู้ชายยย..น่ะหายากนะจ๊ะ…ถ้าหลงเข้ามาต้องรีบจับ!” ฉันส่ายหน้าอย่างละอากับความคิดแปลกๆ ของเพื่อนรัก…แต่เจ๊แกคงไม่รู้สึกถึงความอะเหน็ดอะหน่ายของเพื่อน…หล่อนจึงล้อเล่นต่อ
“แหม เอาเถอะ ระวังอย่าไปหลงเสน่ห์เค้าแล้วกัน…ไม่เคยได้ยินเหรอจ๊ะ…ที่ว่า…เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น”
มาม่าซังภัสสรเย้ามา อย่างอารมณ์ดี แต่แคทรียากลับโวยวายไปอย่างอารมณ์เสียว่า…
“มาม่าซังก็รู้นี่ค่ะ…ว่าหนูเกลียดผู้ชายเจ้าชู้…แล้วยังจะมาแซวอีก”
“อ้าวว! อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอนนี่จ๊ะ…” ฉันขมวดคิ้วสวยอย่างไม่พอใจกับคำล้อเล่นของเพื่อนรัก
“หนอย นี่ถ้าหนูได้แฟนเจ้าชู้นะ คอยดูเถอะ…ฉันจะ เสกควายธนู เข้าท้องพี่”
“ฮา ฮ่า ฮ้า ควายธนูก็ควายธนูเถ่อะ…แต่ขอเป็น ตัวผู้เด็กๆ ด้วยนะจ๊ะ”
“ เซ็ง! ”
“เอาเถอะๆ นี่ก็ใกล้เวลาขึ้นเวทีแล้วนะ…ยังมาทำหน้าเป็น ชะมด-อดข้าว อยู่อีก เดี๋ยวไม่สวยนะขอบอก… เรื่องงานก็เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัวซิจ๊ะ ไปทำงานก่อนปะ เดี๋ยวมาม่าซังต้องลงไป รับแขก อีกนะเนี้ย” มาม่าซังภัสสร กล่าวเตือนสติแคทรียาให้แยกแยะเรื่องงานกับ เรื่องส่วนตัวด้วยคำพูดที่ฟังดูมี สาระ ที่สุดตั้งแต่หล่อนเริ่มพูดมา…นั่นคงเป็นเพราะหล่อนผ่าน คืนข้ามปี มานานหลายต่อหลายปีแล้ว
“ค่ะ …ขอบคุณนะคะที่เตือนสติ“
“ย่ะ…มัวแต่คุยเรื่อง ผู้ชายยย…จนจะลืมเรื่องงาน…เออ!ไปได้แล้ว”
“ค่า…”
ก็มาม่าซังไม่ใช่เหรอ…ที่มีชวนฉันคุยเรื่อง ผู้ชายยย…น่ะ
ฉันรับคำมาม่าซังกระทิงเพื่อนรักพร้อมกับเตรียมตัวออกโชว์
동방신기
แสงไฟสาดส่องมาบนเวที เสียงดนตรีที่บรรเลงเพลงอินโทรขึ้น ฉัน…แคทรียานักร้องสาว(ประเภทสอง)สุดสวย ปรากฎโฉมบนเวทีเรียกเสียงปรบมือดังกระฮึ่มจากแขกทั้งผับ พวงผมยาวสีดำขลับพลิ้วปลิวสะไหว หุ่นสุดเซ็กซี่เต้นรำไปตามจังหวะดนตรีหลากหลายแนว เสียงหวานไพเราะจับใจสะกดดวงตาทุกคู่ให้มองมาที่เธอ…แต่ไม่มีแขกท่านใดเลยที่รู้ว่า…สาวสวยสุดเซ็กซี่นางนี้….เป็น สาวประเภทสอง
เนื่องมาจากฉันกินฮอร์โมนเพศหญิงตั้งแต่เป็นวัยรุ่น…ทำให้ร่างกายที่ควรจะบึกบึนสมชายกลับบอบบางแบบหญิงสาว ด้วยฤทธิ์ของยาฮอร์โมนเพศหญิงบวกกับการศัลยกรรมเล็กน้อยจึงได้ หน้าอกอวบ…เอวคอด สะโพกดินระบิดจึงตามมา และ การบำรุงรักษาผิวอย่างดีทำให้ผิวของหล่อนนั้น ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าใคร ๆ บวกกับพรสวรรค์และพรแสวงที่ฝึกฝนทั้งการร้อง-เล่น-เต้นรำ ทำให้ ฉัน…แคทรียากลายเป็นดาวเด่นประจำผับแอมาซอนไป
ทางด้านครอบครัวของฉันนั้นก็มีพ่อ-แม่รับราชการครู ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรับไม่ได้ถ้าลูกของตัวเองเป็นสาวประเภทสองที่สังคมไม่ยอมรับ…แต่ฉันมีคติที่ว่า
ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
ฉันจึงทำตัวเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เกเร จนสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ และในที่สุดครอบครัวก็ยอมรับฉันได้
“นี่แหละ…คือตัวฉัน..สมแล้วที่เราทำตัวเป็นคนดีตลอดมา…คุ้มค่าแล้วกับชีวิตนี้…ขอแค่มีงานทำ มีเงินใช้ มีเพื่อนดี ๆ คอยร่วมทุกข์ร่วมสุข…แค่นี้ไม่ขออะไรอีกแล้ว…แม้กระทั้ง ผู้ชาย
ในขณะที่แคทรียานักร้องสาวสุดสวยกำลังร้องเพลงเต้นรำอย่างเมามันบนเวที สายตาทุกคู่จับจ้องหล่อน และมีอยู่หลายคู่ที่มองมากกว่าแค่ชมการแสดงของเธอ ถึงกระนั้นก็มีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องเธออย่างมาดหมายด้วยแรงปรารถนาอย่างยิ่งยวด…ถึงแม้ข้างกายจะมีสาวสวยคลอเคลียอยู่ขนาบทั้งสองข้างกาย แต่สายตาคู่นั้นก็จับจ้องร่างงามบนเวทีอย่างไม่วางตา ดวงตาคมที่ด้วยแฝงความขี้เล่นไว้บนใบหน้า หล่อเหลา ผิวขาว คิ้วเข้ม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง บุคลิกแบบนี้ถ้าใครเห็นก็ต้องบอกกันว่า เวรี่แฮ้นซั้ม เค้าคือผู้ชายที่ทำให้นักร้องสาวสุดสวยแห่งผับอะเมซอนหัวเสียอารมณ์ค้างมาจนถึงที่วินาทีนี้…ณเดช คูกิมิยิ
To be Con
ภายในห้องแต่งตัวของผับอะเมซอน ตอนนี้แออัดไปด้วยเหล่าสิ่งมีชีวิตที่กำลัง แต่งตัว แต่งหน้า เตรียมความพร้อมขึ้นโชว์ อาทิเช่น นักร้อง แดนเซอร์ (หางเครื่อง) ช่างแต่งหน้า และนักร้องสาวสวยอย่างดิฉัน แคทรียา วัฒนา
“อุ้ยต๊าย ตาย…ทำไมหน้าบูดเป็นตูดลิง อย่างงั้นล่ะยะ”
เสียงแซวจากมาม่าซังภัสสรหรือพี่กระทิงดังเข้ามากระแทก รูหู ของ แคทรียา นักร้องสาวสุดสวยประจำผับอะเมซอน
“ก็…อารมณ์เสีย นีส..หน่อย น่ะค่ะ” ฉันหน้างอหงุดหงิกมาตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน แต่ดันเจอกับหนุ่มหล่อมาดเท่แต่ปากเสียมายียวนกวนประสาท ฉันเลยอารมณ์ค้างติดมาที่ทำงานด้วย
“แล้ว…อารมณ์เสีย นีส..หน่อย ของหล่อนนี่…มันอะไรล่ะยะ…ไม่รู้รึไงว่ามันทำให้หน้าไม่สวย…ริ้วรอยเหยี่ยวย่นจะถามมาน่ะ แม่คู้ณ…” มาม่าซังภัสสรถามถึงข้อข้องใจที่ทำให้เพื่อนรักของเธอต้องอารมณ์เสียด้วยเสียงสูง ๆ
“เอ๋…มันเรื่องอะไรน้าที่ทำให้น้องเสือ…นักร้องสาวสุดสวยประจำผับแอมาซอนของเราถึงกับอารมณ์ค้าง ได้…เอ๋เรื่องอารายน้า…” พี่กระทิงยังคงทำท่านึก โดยเอามือขวาชี้นิ้วจิ้มปาก มือซ้ายกอดเอวของตัวเองและบิดร่าง แน่งน้อยไปมาเหมือนเด็ก ๆ ถึงแม้วัยแกจะผ่าน คืนข้ามปี มา 34 ปีแล้วก็ตาม
“ให้ทายนะ…เรื่อง ผู้ชายยย..ใช่ไหมล้า…”
คนฟังหันควับมาทางคนทาย และชี้นิ้วไปพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ถูกต้องนะคร้าบ…” พี่กระทิงทำท่ากระโดดโลดเต้นเหมือนลิงดีใจที่ได้กินกล้วย
“แหม…ทำไมตอนซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้นะ…แต่..เรื่องผู้ชายยย นี่! น่าจะอารมณ์ดีนะ…น้องเสือ ออกจะเสน่ห์แรง หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ตอม กันให้หึ่งเชียว แต่ทำไม๊.. อารมณ์เสีย ๆๆ ได้ล่ะจ๊ะ….”
ว่าแล้วพี่กระทิงก็ยื่นหน้า บาน ๆ มาถามฉันอย่างสนอกสนใจ
“แหม…นี่!มาม่าซังขา…น้องไม่ใช่ ขี้ นะคะ…แมงวันจะได้ตอมกันให้เกลียว”ฉันตอบกลับโดยที่หน้าหงิกน้อยลงนิดนึง
“ก็เมื่อตอนกลางวันน่ะ…ตอนที่เรากินข้าวกันเสร็จ ที่ฉันกินข้าวแค่จานเดียวแต่ มาม่าซัง ซวบเอา ซวบเอา ตั้ง 3 จาน และมาม่าซังก็เข้าไปนอนกลางวันแล้ว…”
“เอ๋…นี่หล่อน!…ฉันว่าหล่อนหลอกด่าฉันนะเนี้ย” พี่กระทิงพูดกระแนะกระแหนออกมาอย่างขัดใจ
“ ฮิ ๆๆๆ แหม..นิดหน่อยค่า…จะได้ไม่เครียด เออนอกเรื่องไปนาน เมื่อกี้เล่าถึงไหนนะ”
“ถึงเรื่องผู้ชายคนนั้นยะ”
“อ้อมาเล่าต่อๆ…ฉันก็ขี่จักรยานสีชมพูลายเซเลอร์มูนตัวเก่งไปที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้านกะจะไปนั่งพักผ่อนซะหน่อย…แต่ดั้นนน..เจอผู้ชาย….”
“ว้าย!...ผู้ชายเหรอ…เป็นไง หล่อ รวย และมีรถไหม…แล้วหล่อน จับลากเข้าพุ่มไม้ เลยป่ะ….แหมนี่หล่อนน่าจะ มาตามมาม่าซังไปด้วยอีกคนนะ…”
มาม่าซังภัสสรพูดโพล่งออกมาด้วยความตื่นเต้น…ทั้งๆ ที่แคทรียายังพูดไม่จบเลย
“ว้าย!อะไรยะ…หนูไม่ใช่สาวไวไฟนะคะ…จะได้จับผู้ชายลากเข้าพุ่มไม้ น่ะ…ฉันน่ะ…กู้ดเกิร์ล-เวอร์จิ้นเกิร์ล…”
ฉันทำท่าภาคภูมิใจที่ตัวเองยังไปสาว(ประเภทสอง)ที่ยังบริสุทธิ์อยู่…ตรงกันข้ามกับพี่กระทิงที่หน้าหงิกค้อนให้เล็กน้อย
“จ้า…แม่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง…เล่าต่อซิยะ…อารมณ์ค้างหมด” มาม่าซังภัสสรพยักเพยิดให้แคทรียาเล่าถึงผู้ชายที่ไปพบต่อ
“ค่ะเจ๊…ก็หล่อนะไม่รู้ว่ารวยไหม ที่แน่ๆมีรถ(มอ-ตา-ซาย) แต่ว่า…มันเป็นผู้ชายที่ปากเสียมากกก…”
“อ้าววว!...ทำไมไปว่าเค้าอย่างนั้นล่ะจ้า ถึงจะปากเสีย…แต่ถ้าหล่อมาม่าซังก็ให้อภัยได้” ฉันเบะปากใส่พี่กระทิงเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าหู
“ก็มันปากเสียจริงๆนี่คะมาม่าซัง…แถมยังซุ่มซ่าม ลามก เจ้าชู้ ปากจัดมากๆ…ถึงมันจะหล่ออย่างมาม่าซังว่านะ แต่ฉันว่าหน้ามันหล่อแบบแปลกๆ นะคนอะไร้หน้ายังหน้ายังกับเห็ดหูหนู แต่ดันทำเท่คงนึกว่าตัวเองอุลตร้าแมนละสิ…ชิ!อารมณ์เสียที่สุด…ขอให้ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเล้ย”
พี่กระทิงดูท่าจะอึ้งไปมากที่ฉันทำท่าไม่ชอบไอ้หนุ่มบ้าอุลตร้าแมนนั่นซะมากมาย…ทั้ง ที่เป็นเพราะอุบัติเหตุแท้ๆ แต่คงเพราะทิฐิตั้งแง่ที่แจจุงไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้และคงเพราะฮอร์โมนเพศหญิงที่เธอกินเป็นประจำแน่ๆ ที่ทำให้เจ้าหล่อนโมโหเพราะเรื่องเล็ก ๆได้ขนาดนี้…
“โถ…หนุ่มหล่อคนนั้นน่าสงสารจังที่มาเจอกับน้องเสือ ตอนประจำเดือนมาไม่ปะ-กะ-ติ ”
แคทรียาหันมาตาเขียวใส่มาม่าวังภัสสรที่ทำท่าจะเข้าข้างผู้ชายหล่อๆ มากกว่าเพื่อนรักอย่างตัวเอง
“แหม…ไม่ต้องมามองเจ๊ด้วย สายตานางเอกในหนังเรื่องกาษานาคาเลยนะ…”พี่กระทิงหันมาตอกกลับฉันอย่างรู้ทัน
“ก็มาม่าซังน่ะ…รักผู้ชายมากกว่าเพื่อน ”
“เอ้า!...แน่น้อน มันเรื่องธรรมดา…หล่อนลองคิดซิ…เพื่อนดีๆน่ะ หาเมื่อไหร่ก็ได้นะ แต่ผู้ชายยย..น่ะหายากนะจ๊ะ…ถ้าหลงเข้ามาต้องรีบจับ!” ฉันส่ายหน้าอย่างละอากับความคิดแปลกๆ ของเพื่อนรัก…แต่เจ๊แกคงไม่รู้สึกถึงความอะเหน็ดอะหน่ายของเพื่อน…หล่อนจึงล้อเล่นต่อ
“แหม เอาเถอะ ระวังอย่าไปหลงเสน่ห์เค้าแล้วกัน…ไม่เคยได้ยินเหรอจ๊ะ…ที่ว่า…เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น”
มาม่าซังภัสสรเย้ามา อย่างอารมณ์ดี แต่แคทรียากลับโวยวายไปอย่างอารมณ์เสียว่า…
“มาม่าซังก็รู้นี่ค่ะ…ว่าหนูเกลียดผู้ชายเจ้าชู้…แล้วยังจะมาแซวอีก”
“อ้าวว! อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอนนี่จ๊ะ…” ฉันขมวดคิ้วสวยอย่างไม่พอใจกับคำล้อเล่นของเพื่อนรัก
“หนอย นี่ถ้าหนูได้แฟนเจ้าชู้นะ คอยดูเถอะ…ฉันจะ เสกควายธนู เข้าท้องพี่”
“ฮา ฮ่า ฮ้า ควายธนูก็ควายธนูเถ่อะ…แต่ขอเป็น ตัวผู้เด็กๆ ด้วยนะจ๊ะ”
“ เซ็ง! ”
“เอาเถอะๆ นี่ก็ใกล้เวลาขึ้นเวทีแล้วนะ…ยังมาทำหน้าเป็น ชะมด-อดข้าว อยู่อีก เดี๋ยวไม่สวยนะขอบอก… เรื่องงานก็เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัวซิจ๊ะ ไปทำงานก่อนปะ เดี๋ยวมาม่าซังต้องลงไป รับแขก อีกนะเนี้ย” มาม่าซังภัสสร กล่าวเตือนสติแคทรียาให้แยกแยะเรื่องงานกับ เรื่องส่วนตัวด้วยคำพูดที่ฟังดูมี สาระ ที่สุดตั้งแต่หล่อนเริ่มพูดมา…นั่นคงเป็นเพราะหล่อนผ่าน คืนข้ามปี มานานหลายต่อหลายปีแล้ว
“ค่ะ …ขอบคุณนะคะที่เตือนสติ“
“ย่ะ…มัวแต่คุยเรื่อง ผู้ชายยย…จนจะลืมเรื่องงาน…เออ!ไปได้แล้ว”
“ค่า…”
ก็มาม่าซังไม่ใช่เหรอ…ที่มีชวนฉันคุยเรื่อง ผู้ชายยย…น่ะ
ฉันรับคำมาม่าซังกระทิงเพื่อนรักพร้อมกับเตรียมตัวออกโชว์
동방신기
แสงไฟสาดส่องมาบนเวที เสียงดนตรีที่บรรเลงเพลงอินโทรขึ้น ฉัน…แคทรียานักร้องสาว(ประเภทสอง)สุดสวย ปรากฎโฉมบนเวทีเรียกเสียงปรบมือดังกระฮึ่มจากแขกทั้งผับ พวงผมยาวสีดำขลับพลิ้วปลิวสะไหว หุ่นสุดเซ็กซี่เต้นรำไปตามจังหวะดนตรีหลากหลายแนว เสียงหวานไพเราะจับใจสะกดดวงตาทุกคู่ให้มองมาที่เธอ…แต่ไม่มีแขกท่านใดเลยที่รู้ว่า…สาวสวยสุดเซ็กซี่นางนี้….เป็น สาวประเภทสอง
เนื่องมาจากฉันกินฮอร์โมนเพศหญิงตั้งแต่เป็นวัยรุ่น…ทำให้ร่างกายที่ควรจะบึกบึนสมชายกลับบอบบางแบบหญิงสาว ด้วยฤทธิ์ของยาฮอร์โมนเพศหญิงบวกกับการศัลยกรรมเล็กน้อยจึงได้ หน้าอกอวบ…เอวคอด สะโพกดินระบิดจึงตามมา และ การบำรุงรักษาผิวอย่างดีทำให้ผิวของหล่อนนั้น ขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าใคร ๆ บวกกับพรสวรรค์และพรแสวงที่ฝึกฝนทั้งการร้อง-เล่น-เต้นรำ ทำให้ ฉัน…แคทรียากลายเป็นดาวเด่นประจำผับแอมาซอนไป
ทางด้านครอบครัวของฉันนั้นก็มีพ่อ-แม่รับราชการครู ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรับไม่ได้ถ้าลูกของตัวเองเป็นสาวประเภทสองที่สังคมไม่ยอมรับ…แต่ฉันมีคติที่ว่า
ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
ฉันจึงทำตัวเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เกเร จนสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ และในที่สุดครอบครัวก็ยอมรับฉันได้
“นี่แหละ…คือตัวฉัน..สมแล้วที่เราทำตัวเป็นคนดีตลอดมา…คุ้มค่าแล้วกับชีวิตนี้…ขอแค่มีงานทำ มีเงินใช้ มีเพื่อนดี ๆ คอยร่วมทุกข์ร่วมสุข…แค่นี้ไม่ขออะไรอีกแล้ว…แม้กระทั้ง ผู้ชาย
ในขณะที่แคทรียานักร้องสาวสุดสวยกำลังร้องเพลงเต้นรำอย่างเมามันบนเวที สายตาทุกคู่จับจ้องหล่อน และมีอยู่หลายคู่ที่มองมากกว่าแค่ชมการแสดงของเธอ ถึงกระนั้นก็มีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องเธออย่างมาดหมายด้วยแรงปรารถนาอย่างยิ่งยวด…ถึงแม้ข้างกายจะมีสาวสวยคลอเคลียอยู่ขนาบทั้งสองข้างกาย แต่สายตาคู่นั้นก็จับจ้องร่างงามบนเวทีอย่างไม่วางตา ดวงตาคมที่ด้วยแฝงความขี้เล่นไว้บนใบหน้า หล่อเหลา ผิวขาว คิ้วเข้ม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง บุคลิกแบบนี้ถ้าใครเห็นก็ต้องบอกกันว่า เวรี่แฮ้นซั้ม เค้าคือผู้ชายที่ทำให้นักร้องสาวสุดสวยแห่งผับอะเมซอนหัวเสียอารมณ์ค้างมาจนถึงที่วินาทีนี้…ณเดช คูกิมิยิ
To be Con
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ