NoRitz-Tell me that you love me

10.0

เขียนโดย namfoz

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.06 น.

  1 ตอน
  6 วิจารณ์
  4,467 อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) เกิดเรื่องจนได้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ร้านข้าวหน้าหอของผมตอนเย็น ๆ จะมีของมาขายเยอะมาก  นักศึกษาเดินกันเยอะแยะไปหมด  ไม่รู้ว่าผมขาสั้นหรือพี่โน่ก็เดินเร็วตามแทบไม่ทันแน่ะ
“แฮก ๆ ๆ ๆ   อ่าว หายไปแล้วง่า”  ผมมองหาพี่โน่ไม่เจอแล้วอ่ะ  ทำไมคนเยอะอย่างนี้  อ่าว ฮึ้ยยย  อะไรมันวิ่งผ่านหน้าผมไปนะ  แล้วเอิ่ม  กระเป๋าเงินผมล่ะ  ผมโดนวิ่งราวซะแล้ว  ทำยังไงดีคนเยอะขนาดนี้
“ช่วยด้วย  ผมโดนวิ่งราวครับ  TT^TT” ขาผมเริ่มวิ่งตาม สายตาผมก็มองเห็นหลังคุ้น ๆ ของใครคนหนึ่งวิ่งตามไอ่โจรนั่นไป แต่จะเป็นใครก็ช่าง เอาเงินคืนให้ผมหน่อยนะครับ
“เฮ้ย หยุดนะโว้ย” คนใจดีคนนั้นกระชากเสื้อไอ่โจรได้ ก็ใส่หมัดเตะต่อยไม่ยั้ง   ผมจึงเห็นหน้าเค้าได้ชัด ๆ พี่โตโน่นั่นเอง  ที่กำลังละเลงหมัดใส่มัน  เอิ่ม  จะตายมั้ยเนี่ย  แล้วก่อนที่ไอ่โจรนั่นจะตาย  รปภ.หอพัก ก็มาช่วยจับตัวไอ่โจรนั่นด้วย  พี่โตโน่จึงผละออกจากมัน  โหยย  ไม่มาซะตอนอวสานเรื่องเลยล่ะ  ผมดูละคร  นึกว่าจะมีแต่ตำรวจมาตอนจบ  เดี๋ยวนี่ รปภ. ก็หัดเอาเป็นเยี่ยงอย่างซะแล้ว
“อ่ะ นี่  ของนาย” พี่โตโน่เอากระเป๋าเงินมาใส่ไว้ในมือผม ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ผมยังคงอ้าปากค้างอยู่  ทำไงได้ล่ะ  ถึงอยู่ข้างห้องกันก็จริง  แต่ผมก็ไม่เคยคุยกับเค้าซักแอะ  แค่เดินผ่านกันในระยะหนึ่งเมตรยังไม่เคยเลย  แต่นี่  หน้าเราห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด 
“นาย ๆ  ๆ  รับไปซักทีสิ”  ผมเริ่มได้สติเมื่อเค้าเรียกเสียงดังขึ้น
“อ่ะ  ขอบคุณครับ” ผมรับมาด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ แล้วพี่โตโน่กำลังจะเดินออกไป  ทำไงดี ทำไงดี  เค้ากำลังจะไปจากแกแล้วนะริท  จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างนี้เหรอ 
“เอ่อ  พี่โตโน่ครับ”  ผมเผลอเรียกชื่อเค้าออกไป 
“นายรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ” พี่โตโน่ทำหน้าสงสัย  แหงล่ะ  เค้ารู้รึเปล่าเหอะ ว่าเราอยู่ห้องข้าง ๆ กัน  แม้ในตอนที่ผมออกไปรดน้ำทุกวัน  เค้ายังไม่เคยสนใจมองผมเลย แต่ผมดันรู้จักชื่อเค้าซะได้  เป็นใครก็ต้องแปลกใจ
“เอ่อ  คือผมอยู่ห้องข้าง ๆพี่น่ะครับ  ผมจะชวนพี่ไปเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน”  ผมพูดเสียงสั่น ๆ ในขณะที่หัวใจมันกำลังเต้นแบบคึกโครมเป็นจังหวะเพลงบอลโลก
“ไม่ต้อง  ฉันซื้อกินเองได้”  เค้าพูดด้วยสีหน้าเรียบ  ยากที่จะอ่านใจว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่
“คือว่าผม   อยากเลี้ยงพี่เพื่อขอบคุณจริง ๆ นะครับ”  ผมพูดออกไปอีกครั้งเผื่อเค้าจะเปลี่ยนใจ
“ก็บอกว่าไม่ต้องไง  หูหนวกรึเปล่า !!!!!!!!!!” คราวนี้เค้าตะคอกใส่ผม แล้วเดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่
เอิ่ม  เครียดสิครับ  ผมทำอะไรให้พี่เค้ารำคาญใจรึเปล่าเนี่ย  แล้วถ้าความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยแบบนี้  ผมจะทำยังไงดีล่ะ  ผมคงไม่กล้าเข้าไปคุยกับพี่เค้าอีกตลอดชีวิต
ผมเดินต่อมาเรื่อย ๆ แล้วหยุดยืนหน้าร้านข้าวหมูแดงด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว ตอนนี้ไม่อยากจะกินอะไรเลย  นึกเมนูอาหารไม่ออกซักอย่าง  ได้แต่มองเนื้อหมูแดงผ่านตู้กระจก  ทันใดนั้น  ผมก็มองเห็นหน้าที่คุ้นเคยของผู้ชายที่ผมแอบหลงรัก  นั่งกินข้าวกับผู้หญิงหน้าตาสวยมาก ๆ คนหนึ่ง  สวยอย่างกับหลุดมาจากแมกกาซีน  พี่โตโน่คุยอยู่กับเค้าหัวเราะอย่างสนุกสนาน  นี่เค้ารู้มั้ยเนี่ยยยยย   ว่าริทกำลังเจ็บอยู่  ริทก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ  ตอนนี้ผมกำลังสติแตก  ขาสองข้างก้าวฉับ ๆ เข้าไปในร้าน  หยุดยืนอยู่ที่โต๊ะ  แล้วเอามือทุบโต๊ะลงไปอย่างแรง
ปังงงงงงง    (โอ๊ย  เจ็บ)
ทั้งสองคนหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว  รวมทั้งคนทั้งร้านด้วย
“นี่พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไงอ่ะ  ผมชวนพี่ไปเลี้ยงข้าวเพื่อจะขอบคุณที่อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเอากระเป๋าเงินมาคืนให้  แต่พี่กลับตะโกนใส่หน้าผม  ปฏิเสธผมอย่างไร้เยื่อใย  แต่กลับมานั่งหัวร่อต่อกระซิกกับ....เอิ่ม(ผมมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังอึ้งอยู่)...กับผู้หญิงคนนี้  รู้มั้ย  ว่ากว่าผมจะคิดประโยคชวนพี่ไปกินข้าวได้  ผมตื่นเต้นมากแค่ไหน  ผมน่ะ ชอบพี่โคตร ๆ เลย แอบมองพี่ซ้อมมวยอยู่ทุกวัน เพราะผมคิดว่าพี่คือคนที่เพอร์เฟ็คสำหรับผม  แต่พี่กลับไม่สนใจผมเลย  พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไงน่ะ  คอยดูนะ  ผมจะทำให้พี่บอกว่ารักผมให้ได้  คอยดู”  พอผมพูดจบ  ก็เดินหันหลังกลับมา  ทิ้งไว้เพียงความงงงวยให้กับคนทั้งร้าน
เรืองฤทธิ์  นี่นายเป็นอะไรไปน่ะ  เค้าไม่ได้เป็นอะไรกับนายเลยนะ  ไม่เคยเลยด้วย  นายบ้าไปแล้วแหละ  บ้ามากๆ  บ้าแน่ ๆ โอ๊ย  บ้าๆๆๆ  ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีเนี่ย  ผมคงไม่มีหน้าไปแอบดูพี่เค้าตรงระเบียงอีกแล้ว  ผมอายจังเลย  หรือว่าผมจะย้ายหอหนีความอับอายนี้ไป  แล้วไอ่กันล่ะ  โอ๊ยยยยยยยยย   ริทเครียด
ผมเดินกลับมาถึงหน้าห้องของตัวเอง  จิตใจก็ว้าวุ่น  เขกกะโหลกตัวเองเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้  เขก ๆ ๆ เข้าไปให้หายงี่เง่า  เฮ้ออออออ
“นี่  นายน่ะ”  ผมเงยหน้ามองคนที่ผมเพิ่งเดินผ่ามาเมื่อตะกี้  เฮ้ยยยยย  พี่โตโน่นี่นา  เค้าอยู่นี่ได้ไงน่ะ (เอ้อ  ลืมไป  เค้ายืนอยู่หน้าห้องเค้านี่นา)
ผมหันซ้ายหันขวาอย่างไม่แน่ใจ  แหงล่ะ  เค้าตะโกนใส่หน้าผมอย่างนั้น  แล้วผมยังไปด่าเค้าเข้าให้  เป็นใครจะคุยกันอีกล่ะ  เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร  ผมจึงทำหน้าแอ๊บแบ๊ว  แล้วชี้หน้าตัวเอง
“นายนั่นแหละ”  สีหน้าพี่เค้ายังเรียบเหมือนเคย  นี่ตอนเค้าเกิดมา แม่ลืมให้ความสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามาด้วยรึเปล่านะ  ผมเห็นทำหน้าอย่างนี้อย่างเดียว 
“เมื่อกี้  ที่นายพูดน่ะหมายความว่าไง” พี่โตโน่เดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆ เรืองฤทธิ์  นายโดยต่อยแน่ ๆ งานนี้  ผมหลับตาปี๊  อย่างยอมรับชะตากรรม
“นี่นาย  ฉันถามนายอยู่นะ”  เค้าโกรธผมแน่ ๆ เลย  ที่ทำให้เค้าต้องอับอาย
“ผะ ผม เอ่อ...คือผม”  ผมพูดไม่ออก  รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ  ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนหลังติดกำแพงเพราะโดนไล่ต้อนจนมุม
“ผะ ผม ผม...”
“โอ๊ยยยย  อ้ำอึ้งอยู่ได้  ฉันไม่สนหรอกนะว่าที่นายพูดน่ะ  มันจะหมายความว่าไง  แต่ที่แน่ ๆ นายต้องรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบ  รับผิดชอบไรอ่ะ”
พี่โตโน่ไม่พูดอะไรซักคำ  เค้าเดินเข้าห้องเค้าไปทิ้งให้ผมเป็นฝ่ายงงกับคำพูดของเค้าบ้าง  เอ๊ะ  หรือว่าที่ให้รับผิดชอบเนี่ย  เพราะผมทำให้เค้ากับยัยแมกกาซีนนั่นทะเลาะกัน  พี่โตโน่จึงต้องการให้ผมเอาตัวเอาแลก  เป็นตัวสำรองในระหว่างที่เค้ากับแฟนยังงอนกันอยู่  แล้วจะทำไงดีล่ะเนี่ย  เวอร์จิ้นของผม  ผมต้องการจะให้พี่เค้าในวันที่ผมพร้อมเท่านั้นนะ  (เอิ่มม  ขอคารวะให้กับจินตนาการของนายเรืองฤทธิ์หนึ่งนาที...โอเค เข้าเรื่องได้)
คืนนั้น  ผมได้แต่ครุ่นคิดเรื่องที่พี่โตโน่พูดจนไม่เป็นอันทำอะไร  แม้แต่กับไอ่กัน  ก็ไม่ได้พูดกับมันซักคำ  ผมรีบอาบน้ำแล้วเข้านอนไวเป็นพิเศษ  แต่สมองของผมยังคงคิดเรื่องนั้นอยู่พาลให้นอนไม่หลับ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา