love you
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหิมะในฤดูหนาวเริ่มโรยตัวลงมาระรอกใหญ่ เกล็ดน้ำแข็งเล็กสีขาวและนุ่มราวปุยนุ่นกระทบลงเปรอะเส้นผมที่ผ่านกานย้อมมาหลายสี และปัจจุบันก็เป็นสีน้ำตาลแดง แขนเรียวกอดตัวเองเพื่อให้พื้นที่ผิวสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นจับใจนี้ให้อุ่นขึ้น และแล้วตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อถูกกอดจากด้านหลัง
ราวกับเติมเต็มความอบอุ่นให้ หัวเล็กหันมาพิงไหล่ของคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง มือเรียวแตะแขนที่กอดเอวตัวเองอยู่อย่างแผ่วเบา ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มหวานอย่างมีความสุข หลับตาพริ้มอย่างคนเปี่ยมสุขครู่หนึ่ง แล้วลากสายตามองไปด้านนอก เพราะตอนนี้ตนเองอยู่ที่ระเบียง ทำให้เธอสามารถมองทัศนียภาพเมืองเกียวโต...เมืองหลวงของญี่ปุ่นได้ชัดเจน
“หนาวล่ะสิ...ตัวยิ่งผอมๆ อยู่ อย่าออกมาตากลมคนเดียวสิ”
คนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังว่าพลางพันผ้าพันคอให้คนที่ตนกอดอยู่...ไม่ได้พันธรรมดา พันรอบคอตนเองด้วย แล้วกระชับอ้อมกอดตนเองมากขึ้น
“ตาบ้า...หายใจไม่ออกแล้ว”
ถึงปากจะว่า แต่ก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าขาวสวย รู้สึกอบอุ่น...ถึงสภาพอากศตอนนี้จะหนาวจนอุณหภูมิติดลบก็เถอะ ถ้าได้มาตอนดูใบไม้ผลิ...
“แก้ว...คิดอะไรอยู่เหรอครับ”
“อะ...ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เรื่องไร้สาระน่ะ...ก็แค่อยากเห็นดอกซากุระเท่านั้นเอง”
ว่าแล้วก็หลุบตาลง ไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าตนเองผิดหวังแค่ไหนที่พลาดการมาเห็นดอกซากุระในครั้งนี้ ดอกไม้สวยขนาดนั้นใครจะไม่อยากเห็นล่ะ...จริงไหม
แต่ใช่ว่าตนเองจะดูไม่ออก รู้จักกันมานานขนาดนี้ ท่าทางแบบนี้แปลว่าผิดหวังมาก แต่เขาจะทำยังไง เขาไม่สามรถให้สิ่งนี้กับคนที่เขารักได้
“ขอโทษนะแก้ว”
“ขอโทษอะไรโมะ? นายพูดอะไรเนี่ย”
“ขอโทษ...ที่ไม่สามารถนำรอยยิ้มแบบเต็มที่มาให้แก้วได้...”
“แก้ว...วันนี้จะมีคนมาบ้านโมะนะ”
“เห? อือ”
วันนี้เป็นวันที่ใกล้คริสต์มาสเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะมันใกล้ช่วงเทศกาลนี่เอง ท่าบริษัทค่ายของพวกเขาจึงอนุญาตให้ลาหยุดเป็นกรณีพิเศษ แล้วต้องกลับมาจัดคอนเสิร์ตปีใหม่ให้ทัน ทั้งสองจึงตัดสินใจมาญี่ปุ่น...บ้านเกิดโทโมะ แล้วให้แก้วพักที่บ้านโทโมะซะ ทางบ้านโทโมะก็เทคแคร์อย่างดี ถึงตนเองจะแอบคิดถึงบ้านที่ไทยบ้าง แต่ถ้าให้เธอไปอยู่บ้าน ก็คงเหงาพิลึก...คงจะต้องมานั่งคิดถึงคนที่อยู่ที่นี่นั่นแหละ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียเคาะประตูดังขึ้น โทโมะรีบกุลีกุจอมาเปิดประตูอย่างน่าผิดสังเกต หลังประตูปรากฏร่างบอบบางของผู้หญิงสวยแบบญี่ปุ่นแท้ ผิวขาวราวหิมะ เส้นผมสีดำสนิทหยักศกอย่างดูดี ริมฝีปากแดงอิ่มตัดกับสีผิวขาวซีดทว่าดูดี แก้มสองข้างขึ้นสีชมพูเลือดฝาด แต่งหน้าอ่อนๆ แต่กลับดูดีจนน่าตกใจ แก้วมองผู้หญิงที่ส่งยิ้มมาให้เอย่างสงสัย แล้วหันไปหาโทโมะเพื่อเอาคำตอบ แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็มีแค่...
“นี่พี่ยูเมะ เขาชื่อว่า ทานิซาโกะ ยูเมะ น่ะ”
“อะ อึม” อยากถามมากกว่านี้ แต่ท่าทางว่าโทโมะคงไม่ตอบ
“สวัสดีจ้ะ พี่เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นน้า เราคุยกันรู้เรื่องเนอะ แหมโทโมะ แฟนน่ารักจังเลยนะ” ว่าพลางยิ้มหวาน
“ฮะ...เขาชื่อแก้วฮะ” โทโมะว่าพลางเกาหัวแกรกๆ
แก้มขาวของแก้วเริ่มขึ้นสีระเรื่อ อายก็อาย สงสัยก็สงสัย...โอ๊ย แก้วใจอยากบ้า
“เอ...โมะ แล้วเราจะไปคุยกันที่ไหนดีล่ะ” พี่ยูเมะว่าพลางเหลือบมามามองแก้วที่นั่งอยู่
...ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ
“ห้องผมก็ได้ฮะ...เอ่อ...แก้ว เธอช่วยไปที่อื่นได้หรือเปล่าครับ คือธุระผมมันเป็นความลับมาก เอ่อ...แก้วไปซื้อขนมมาฝากโมะก็ได้ คุยไม่นานหรอก”
ความเจ็บเริ่มเกาะกุมหัวใจแก้วโดยไม่รู้ตัว เหมือนมีใครมากระซวกหัวใจให้ฉีกขาดเป็นริ้วๆ ราวกับว่าตอนนี้หัวใจเธอกำลังมีเลือดออกอยู่ภายใน...เจ็บกว่าเลือดออกมาด้านนอกหลายเท่า โทโมะไล่เธอ? ปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้ ถึงจะเป็นความลับแค่ไหนก็บอกกัน แต่นี้อะไร? มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกับไล่กันเลยหรือไง ขนมในตู้ก็มีเยอะแยะ โทโมะก็แค่หาเรื่องให้แก้วออกไปจากที่นี่เท่านั้นแหละ
“แหม...เดี๋ยวนี้หัดมีความลับกันเหรอ ^^”
ยิ้มหวานราวกับแกล้งถาม แต่ในใจก็หวังจะเอาคำตอบ มือเรียวคว้ากระเป๋าใบเล็กราวกับไม่ติดใจอะไร หยิบผ้าพันคอมาสวม แล้วเดินไปที่ประตู เขาเรียวชะงักก่อนจะออกจากบ่นเล็กน้อยจนโทโมะไม่ทันมอง เมื่อปิดประตูลง...น้ำตาก็ไหลออกมาเงียบๆ...
เธอก็รอคำตอบจากปากเขาอยู่...แต่เขาก็ไม่ได้แม้แต่จะส่งเสียงตอบเธอสักคำ...งั้นที่เธอพูดไปก็เป็นความจริง...หึ...เดี๋ยวนี้หัดมีความลับกันเหรอ
จะว่าไปโทโมะก็เริ่มเป็นแบบนี้มานานแล้วเนอะ บางครั้งก็ออกไปข้างนอกโดยไม่บอก กลับมาก็ขังตัวอยู่คนเดียว นับตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ...เธอไม่เห็นรู้เลย
ใบหน้าสวยเงยขึ้นราวกับจะให้น้ำตาไหลกับไปที่เดิม แต่ก็ทำได้อย่างยากเย็น กลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มและกลิ่นตัวเของเจ้าของผ้าพันคอที่เธอสวมอยู่ทำให้เธอน้ำตาไหลอีกรอบ ผ้าพันคอของโทโมะ...เธอไม่น่าหยิบผ้าพันคอผืนนี้มาเลย เพราะเคยชินแท้ๆ
ขาเรียวหยุดที่ร้านไอศกรีมแห่งหนึ่ง เดินเข้าไปอย่างเหม่อลอย อะไรบางอย่างทำให้เธออยากเดินเข้าไปในนั้น อย่างน้อยก็ไประบายความเศร้าในใจก็ดี ไม่แน่นะ...เธออาจจะคิดไปเองก็ได้นี่นา
“จะรับอะไรดีคะ” บริกรสาวมาถามเธอด้วยรอยยิ้มเป็นภาษาญี่ปุ่น ถึงแก้วจะไม่รู้ภาษาแต่ก็พอจะเดาออกคนตรงหน้าถามอะไร ทุกร้านก็ถามแบบนี้
“Blue Berry, please”
“Wait for few minute”
เมื่อบริการสาวรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วตอบกลับเธอด้วยภาษาอังกฤษพร้อมรอยยิ้ม เธอยิ้มตอบ แล้วรอไอศกรีมที่เธอเพิ่งสั่งเมื่อสักครู่
Blue Berry มันไม่ใช่ไอศกรีมรสโปรดของเธอหรอกนะ แต่คำว่า ‘Blue’ มันสะกิดใจเธอย่างประหลาด...มันไม่ได้แปลได้เพียงว่าสีฟ้า...แต่มันแปลว่าความเศร้าได้ด้วย มันคงจะเหมือนความรู้สึกของเธอตอนนี้ล่ะมั้ง เธอถึงได้เลือกรสนี้
ไม่นานนัก...ไอศกรีมก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เมื่อตักขึ้นมากิน ความหวานอมเปรี้ยวก็แผ่ซ่านไปทั่วลิ้น แก้วละเลียดละไมกินอย่างช้าๆ กินไปพลาง...ก็นั่งคิดเรื่องไร้สาระต่างๆไปพลาง
จนเวลาลวงเลยผ่านไป...
“เอ...โทโมะ น้องแก้วออกไปข้างนอกนานเกินไปแล้วนะจ้ะ จะหนึ่งทุ่มแล้วนะ”
เสียงหวานเรียกสติคนที่นั่งมองนาฬิกาอยู่ในภวังค์ แก้วอยู่ไหน...แค่ไปซื้อขนม ทำไมไปนานขนาดนี้ ทำไมยังไม่กลับมา ใจหนึ่งก็อยากไปตาม แต่อีกใจก็กลัวว่าจะคลาดกัน
“งั้นผมขอโทรหาแก้วหน่อยนะ”
พอกดโทรศัพท์โทรไป เสียงเพลงก็ดังขึ้นในห้องของแก้ว...บ้าตาย แก้วไม่ได้โทรศัพท์ไปนี่นา บัดซบที่สุด! ถ้าแก้วหลงไปจะทำยังไง เขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยตลอดชีวิต
“นี่โทโมะ พี่ขอพูดแบบเปิดใจเลยนะ ที่นายพูดไล่แก้วเมื่อกี้น่ะ เป็นฉันก็อยากร้องได้เลยนะ แต่น้องแก้วไม่ร้องไห้สักแอะ เราไม่คิดจะไปขอโทษน้องเขาหน่อยเหรอ” เสียงหวานเปล่งออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อคุยกับคนตรงหน้า
โทโมะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถาม “เหรอครับ...แล้วผมจะทำยังไงดี ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าแก้วอยู่ไหน ผมควรจะทำยังไงดีครับ ผมลนไปหมดแล้ว”
“เอาเป็นว่าเราลองไปดูแถวนี้เป็นไง น้องแก้วยังไม่รู้ทางในญี่ปุ่น คงอยู่แถวนี้แหละ” คนอายุมากกว่าพูดปลอบโยนคนที่เริ่มอะไรไม่ถูก
ขาเรียวของโทโมะชะงักเมื่อเห็นร่างที่คุ้นตา ไม่ต้องรอคำสั่งสมอง ขาทั้งสองก็วิ่งตรงไปที่แก้วทันที ใจเริ่มหายวูบเมื่อเห็นท่าทางเหม่อลอยนั่น อย่าบอกนะว่าแก้วคิดมากเรื่องนั้นจริงๆ โมะขอโทษนะ... คิดได้เพียงครูก็สวมกอดคนตรงหน้าทันที
“อ๊ะ...โทโมะ” เสียงหวานพูดแผ่วจนน่าใจหาย
“ขอโทษนะแก้ว กลับบ้านกันนะ”
“ขอโทษขอโทษอะไร แต่ก็นะ...กลับบ้านกัน กินไอติมนี่เสร็จพอดี”
“ก็ขอโทษ...ที่ทำให้แก้วร้องไห้ไง แล้วก็ที่ทำให้แก้วเจ็บปวด ที่ทำให้แก้วเศร้า ที่ทำให้แก้วต้องมานั่งเหงาคนเดียว ที่ทำให้แก้วผิดหวังในตัวโมะ ที่โมะ...”
นิ้มเรียวเอื้อมมือมาแตะที่ริมฝีปากคนตรงหน้าเบาๆ พลางยิ้มหวาน “พอได้แล้วน่า ขอโทษอะไรมากมาย ปะ...กลับบ้านกัน” พูดเสร็จก็ยืนขึ้น
ก่อนจะถึงบ้าน โทโมะหยิบผ้าปิดตาสีดำมาผูกตาแก้วก่อน แน่นอนว่าจะต้องมีเซอร์ไพรส์แน่ๆ แก้วอมยิ้ม แล้วค่อยๆเดินตามที่โทโมะจับมือตนนำทางไป
เมื่อเปิดตาออกมา ก็ต้องพบเห็นสิ่งที่ทำให้เธอยิ้มออกมาไม่ยอมหุบ ตรงหน้าเธอคือต้นซากุระขนาดจำลอง และฝาผนังที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกระบายอย่างสวยเป็นรูปต้นซากุระอย่างดี และภายในบ้านยังประดับด้วยไฟสีต่างๆ แลดูงดงาม และเมื่อหันมาอีกที เธอก็เห็นว่าโทโมะกำลัง ยื่นช่อดอกกุหลาบสีส้มบานสะพรั่ง...ซึ่งมีความหมายว่า ฉันรักเธอเหมือนเดิม...เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ชอบสีแดง...จึงเลือกสีส้มงั้นเหรอ
“เอ่อ...ดอกกุหลาบสีส้ม 99 ดอก คือความจริงจะเอา 999 ดอกนะ แต่งบไม่พอ แถมพี่ยูเมะก็บอกว่าเปลืองง่ะ เอ่อ...” โทโมะเกาหัวแกรกๆ อย่างต่อบทไม่ถูก ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีเรื่อเมื่อได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
99...ฉันจะรักเธอจนวันตาย
999...ฉันจะรักเธอจนวินาทีสุดท้าย
เพียงเพราะเธอบ่นว่าอยากดูดอกซากุระ เขาก็ลงทุนทำให้ขนาดนี้ นี้มัน...ฮึก...มันน่าดีใจจนน้ำตาไหลออกมา น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ยอมหุบ
“ง่ะ...ฉันเป็นส่วนเกินสินะ เชอะ ไปก็ได้”
เสียงงอนแบบเล่นๆ ดังขึ้นอย่างไม่ถือสา สองเสียงหัวเราะดังขึ้น มองพี่ยูเมะที่แกล้งงอนแล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างขำๆ
ความประทับใจยังไม่จบนะ...
“3...2...1...0”
“อะไรน่ะโมะ...ว้าว!”
พลุที่บ่งบอกถึงวันขึ้นปีใหม่ดังขึ้นพร้อมกับลูกไฟกระจายแตกออกอย่างสวยงาม ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่ระเบียงอย่างพอดิบพอดี จึงได้สังเกตเหฌนพลุสีสวยได้อย่างชัดเจน
ลืมไปเลย...ว่าวันนี้วันปีใหม่...
“เป็นไงครับ แก้วชอบไหม”
“มาก...จนไม่รู้จะพูดยังไงเลย”
แล้วโทโมะก้อจูบแก้วอย่างเนิ่นนาน
******************************************************
*****************************************************
************************************************
****************************************
*********************************
*************************
****************
*********
***
*
จบแล้วคร้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ