เรื่องวุ่นวาย ของหนุ่มๆ K-OTIC
2) คิดมากไปป่าวว? , พี่หนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 2
Poppy Talk
สระว่ายน้ำรีสอร์ท
ผมกำลังเดินตามหาเขื่อน และรู้ว่าเจ้าตัวต้องอยู่นี่แน่นอน
“เฮ้ย!! เขื่อน!!” ผมเรียกเขื่อนที่กำลังว่ายท่าหมาน้อยหรรเหิน
จ๋อมๆๆๆ (เหมือนตกน้ำเลย)
“เฮ้ย!!” ผมตะโกนเรียกกลับไป แต่เขื่อนเหมือนไม่สนใจนะ ฮึ่ย!!!
นายเขื่อนหลังจากที่ดำน้ำท่า ปลาน้อยแหวกนาวี ก็ลอยตัวบนน้ำ
“อะไรของพี่อีกล่ะ ผมจะว่ายน้ำ”
“ฉันก็ไม่อยากขัดความสุขของแกหรอกนะ ช่วยไปดูโทโมะหน่อยได้มั้ย?? ไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้างแล้ว??”
“แล้วทำไมพี่ไม่ไปดูเองล่ะ ใช้เขื่อนทำไม??” ได้ยินคำนี้ผมถึงกับจุก ไอบ้านี่มันเหมือนกับว่าผมไม่ไปทำเองอย่างนั้น
“ก็ถ้าฉันใช้แก ฉันจะได้มีอย่างอื่นที่ต้องทำไง” บางทีผมใช้น้องอาจดูผิด แต่ขอโทษนะครับ ผิดหน้าที่นะ นายเขื่อนเนี่ยะ
“แล้วเขื่อนก็มีอย่างอื่นที่ต้องทำ”
“ว่ายน้ำเนี่ยะนะ!!!” พูดไปก็เหมือนนายเขื่อนไม่สนใจ เอาแต่ชูปิดูปิดัม เขื่อนกำลังจะไป ชูปิดูปิดำน้ำลึกลงไป ><
-- ที่มา : เพลง ปลาการ์ตูน สิงโตนำโชค --
Tomo Talk
ถ้ารู้ตัวว่าโดนทำร้ายแบบนี้แล้วใครจะมาอยู่เป็นเพื่อนล่ะเนี่ยะ ไหนเคนตะจะขาเจ็บ ต้องอยู่กับจงเบ ไหนเขื่อนที่ต้องพักกับป๊อปปี้ มีแต่ผมที่ต้องนอนคนเดียว แล้วตอนนี้ก็อยู่คนเดียวไม่ได้ด้วย ฮึ่ย!! ผมสาบานด้วยเกียรติของลูกเสือเนตรนารีเลย ว่าผมไม่ได้ดูผู้หญิงอาบน้ำ (ผู้แต่ง :: โทโมะ เนตรนารีนั่นลูกเสือผู้หญิงนะ) เฮ้ย!!! ผิดๆ ลูกเสือสามัญ
แกร๊ก!!!
“ใครมาน่ะ” ผมหยิบมีดปอกผลไม้ แล้วยืนตั้งท่า อย่างกับตำรวจสากล (เรียกว่าป้องกันตัวก็ได้นะ)
“ไม่ต้องยืนบนเตียงก็ได้ เคนตะเอง” เคนตะที่กำลังพยายามจะเข้ามาในห้อง แต่ต้องใช้ไม้พยุงตัวช่วยดันเข้ามาในห้องด้วย เลยทำให้ดูทุลักทุเล
ผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยเคนตะทันที
“ขอบใจมากนะ แต่โทโมะไม่สบายอยู่นี่”
“อ๋อ…ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ แค่พอดีหลับไปชั่วครู่ เลยโอเคขึ้นแล้ว” ผมที่กำลังพยายามช่วยเคนตะนั่งบนโซฟา
เคนตะเหมือนจะสีหน้าแปลกๆไปนะ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย
“นั่น! ป๊อปปี้กับเขื่อนนี่” เคนตะพูดโพล่ง ผมก็หันไปตามหน้าต่างใส กำลังเห็นป๊อปปี้กับเขื่อนเหมือนคุยอะไรกันนะ
“ทำไมกันน่ะ???” ผมเองก็สงสัย เลยเดินเข้าไปดูอย่างใกล้ชิดเลยล่ะ ชิดเว่อร์!!!
“โอ๊ะ!!! แปลกๆแหะ” ไม่ให้แปลกได้ไง ก็สองคนนั้นเหมือนแลกน้ำมะพร้าวกันดื่ม แล้วก็สลับกันดื่ม ทำอะไรวะ??
เคนตะก็อยู่ไม่นิ่ง พยายามที่จะเดินมาดูบ้าง แต่ผมไม่ได้ช่วยนะ เพราะแค่ 3-4 ก้าวก็มาถึงริมหน้าต่างใสแล้ว
“ดูเหมือนจะไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะ” เคนตะพูดจบผมก็หันไปมองเคนตะ เราต่างยิ้มให้กัน
ตอนเย็น
บริเวณฝั่งทะเล
“ใครให้คิดทำซีฟู้ดแล้วไม่มีบาร์บีคิววะ ไม่อร่อยเลย” เขื่อนบ่นพลางทั้งๆที่พวกเรากำลังนั่งต้อลม
ป๊อปปี้มีหน้าที่นั่งเล่นกีต้าร์ให้ฟัง กับรอรับทานซีฟู้ดอย่างเดียว ส่วนจงเบกับผมช่วยกันปิ๊งอาหารทะเล
เคนตะก็นั่งพักผ่อนข้างๆป๊อปปี้ ส่วนเขื่อนรอกินเพียงอย่างเดียว
“จะบ่นไปให้ได้อะไร?? ทานๆให้พออิ่มก็พอแล้ว” ป๊อปปี้พูดจบ เขื่อนเหมือนจะจึ๊จ๊ะไม่พอใจ
“บรรยากาศดีเนอะวันนี้ ลมเย็นสบายเลย” เคนตะที่นั่งต้อลมอย่างสบายๆก็พูดขึ้น
“นั่งกันแค่ 5 คนก็สบายดี”
“ใครว่าแค่ 5 คนล่ะ???” เสียงนี้คุ้นหูมาก เหมือนเสียงพี่หนึ่ง
“พี่หนึ่ง!!!” พอพวกเราหันไปมองตามเสียง ก็พูดพร้อมกัน
“ไม่ต้องประสานเสียงก็ได้ ขอโทษที่มาช้า พอดีเคลียร์งานให้พวกแกนานไปหน่อย” แน่ล่ะ พวกเราเล่นหนีกันมา
ไม่บอกไม่กล่าว ให้พี่หนึ่งจัดการเพียงคนเดียว มันก็ต้องนานอยู่แหละ
“ขอบคุณพี่หนึ่งมากครับ” เขื่อนกล่าวขอบคุณพลาง กำลังแงะเปลือกหอยพลาง
“แล้วนี่เลิกกัดกันแล้วยังน่ะ” พี่หนึ่งหมายถึง ป๊อปปี้กับเขื่อน นะ ไม่ใช่ผม
“จะให้เลิกกันคงยากนะ” จงเบเสนอ ทำเอาผมกับเคนตะหัวเราะพร้อมกัน ทำเอาป๊อปปี้หันไปมองจงเบด้วยสายตาที่…
ก็ ดุๆ อ่ะนะครับ แหะๆ
“จงเบอย่าว่าเพื่อนสิ เอาเป็นว่าตอนนี้หิว ขอกินก่อน” แล้วพี่หนึ่งก็ไม่รอช้า คว้ากุ้งมาแกะเปลือกแล้วจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดเอาเข้าปากทันที
“พี่หนึ่งจะรีบกินไปไหนอ่ะ??” เขื่อนพูดจบก็รีบแย่งกินคืน
Koen Talk
ห้องพัก 439
แอ๊ดดดด!!!
ผมกำลังเลื่อนเปิดหน้าต่างรับอากาศตอนเช้า อากาศตอนหกโมงนี่มันสดชื่นจริงๆ
“งืมม…เปิดหน้าต่างทำไมวะ??” ผมลืมไปว่าป๊อปปี้หลับอยู่
“อากาศมันดีนะพี่ สมควรตื่นตอนเช้าได้แล้วด้วย” ผมหันกลับไปคุยกับป๊อปปี้ ทั้งๆที่ป๊อปปี้ก็หลับหันตัวเข้ากับเตียง
ก็คือ…เอาหน้ามุดกับหมอนอ่ะนะ ว่างั้นก็ได้
“จะตื่นก็ตื่นไปสิ อาบน้ำเสร็จแล้วปลุกป๊อปด้วย” นั่นไง!!! ยังจะบอกให้ปลุกให้อีก เหอะๆ
Poppy Talk
ห้องพัก 439
ผ่านไปอีก 5 ชั่วโมง
“งืมมม…” ผมงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ก็ผมเพิ่งตื่นนอนจริงๆนี่ นอนที่นี่แล้วสบายชะมัดเลย
ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียง บิดขี้เกียจ ไปซ้ายที ขวาที
“/^^/ \^^\ /^^/ \^^\” ตามจริงอากาศมันก็สบายๆอยู่แหละนะ แต่เหมือนจะรู้สึกว่าร้อนยังไงไม่รู้นะ
เก้าโมงจะร้อนได้ไง เก้าโมงแดดเพิ่งออกเอง น่าจะร้อนนิดๆหน่อยๆ แต่นี่เหมือนร้อนประมาณเที่ยงๆเลย
แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆนะ ผมเลยหันไปหยิบนาฬิกาข้อมือของผมบนโต๊ะข้างๆเตียง วินาทีที่ผมเห็นเวลา
ก็ของขึ้น โมโหใครบางคนทันที
“เฮ้ย!!! 11 โมงแล้วนี่หว่า โธ่เว้ย!!!” !
อัพเพิ่มอีกตอน ใครอ่านแล้วไม่เม้น
เดี๋ยวเอาฮันนี่ไปกัดหน้า ถึงหน้าบ้านคุณเลย 555
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ