Bad boy แบดบอยติดรัก ฉบับเอนซี
9.1
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ก็ชั้นเห็นว่านายนอนหลับอยู่หน้าโทรทัศน์ก็เลยไม่อยากกวน”
“รู้ไหมชั้นลืมมาไม่เจอเธอชั้นรู้สึกอย่างไง ชั้นคิดว่าเธอหนีชั้นไปแล้วซะอีก แต่พอมาหาที่นี่ก็เจอ โชคดีนะที่ไม่ได้เดินเที่ยวลึกมากไม่งั้นชั้นคงถอดใจเลิกหาเธอแล้ว”นี่เค้าห่วงชั้นด้วยหรอ หน้าชั้นแดงไปหมดแล้วนะ
“เอ่อ....ไปหาซื้ออะไรกินกันดีกว่านะ”เค้ายิ้มแล้วจับมือชั้นเดินทั่วห้าง ซื้อของใช้นู่นนี่รวมทั้งขนมนมเนยและก็ซื้อเสื้อผ้าให้ชั้นอีกด้วย เขินจัง
1 เดือนผ่านไป
ลิปไม่กล้าติดต่อมาหาชั้นนานมากแล้ว ปกติวันนึงโทรเป็นร้อยหนแต่นี่โทรมาแค่อาทิตย์ละครั้งทำนองนั้น บิสกิสดูยุ่งงานมาก ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่และบิสกิสก็สั่งห้ามชั้นให้ไปทำงาน ให้ทำงานอื่นอยู่ที่บ้านเอา ชั้นก็ต้องปั่นจักรยานไปเอาหนังสือพิมพ์เก่ามาพับถุงขายเหมือนเดิม แต่เมื่อชั้นดูทีวีอยู่ดีๆกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ชั้นกำลังจะลงมือพับก็หล่นแล้วปลิวหายไปในทันทีเมื่อชั้นเห็นข่าวในทีวี
“เจ้าของค่ายดาโมไดเจ้าเสน่ห์อย่างบิสกิสเนี้ยนะคะต้องมาสยบปรบมือออกมาบอกนักข่าวว่า จบแล้ว ตำนานรักกับสาวชื่อวิทยาศาสตร์ เคมีนะคะ หนำซ้ำยังบอกอีกว่าไม่มีทางรีเทรินอย่างแน่นอน แต่ของแบบนี้ใครจะไปรู้นะคะ ไปฟังสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าคะ”
“ไม่ทราบว่าทำไมถึงเลิกกับสาวนอกวงการที่ชื่อเคมีหละคะ”
“อ๋อ เป็นเพราะว่าเค้าบอกว่าผมไม่มีเวลาให้ ทำแต่งาน ซึ่งผมก็ยอมรับนะครับว่าผมผิดเองที่ทำแต่งาน แต่ก็จบแล้วหละครับเพราะว่าต่างคนก็ต่างเลือกงานมากกว่า เค้าก็มีงานที่จะต้องทำ ผมก็มีงานที่จะต้องทำ เลยคิดว่าเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่า มีปัญหากันหรือเปล่าความจริงก็ไม่ได้มีปัญหากันหรอกครับ ก็เป็นเพื่อนกันไป”
“แล้วแบบนี้จะมีแววรีเทรินไหมคะ”
“ไม่น่าจะมีครับ เพราะว่าผมก็ไม่ได้รักเค้าแล้วด้วย บอกตามตรงเลยนะครับ ไม่ได้จะเบื่อหรืออะไรแต่ผมเห็นว่าเค้ายังไม่เหมาะที่จะได้รับความรักจากผมไปเพราะว่าบางทีเราไม่ไว้ใจกันเลย ก็เลยเป็นต้นเหตุให้เลิกกัน”
“ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกใช่ไหมคะ ว่าได้แล้วเลิก”
“อ๋อ ไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะผมไม่เคยเกินเลยเค้าเลยครับ”จบคำพูดมือชั้นก็ขยับไปโดยอัติโนมัติให้ปิดทีวี น้ำตามันค่อยๆไหลออกมาจากตาดวงกลมโตของชั้น มันเจ็บยิ่งกว่าโดนกระทืบ โดนตบหน้า โดนเอาเกลือใส่แผล เจ็บยิ่งกว่าโดนยิง เจ็บยิ่งกว่าโดยข่มขืน นี่หรอที่เค้าเรียกว่าเจ็บเพราะรัก จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ชั้นร้องไห้ให้ผู้ชายคนนี้ได้อย่างไง มันอะไรกัน ชั้นค่อยๆคว่ำหนังสือพิมพ์แล้วโยนกระจัดกระจายไปด้วยความโมโห ชั้นนอนราบกับพื้นไม้ของบ้านแล้วร้องไห้ แกร่ก เสียงคนเปิดประตูบ้านเข้ามา ชั้นมองไปที่ต้นเสียงก็เห็น ลิป ยืนเท้าเอว แล้วค่อยๆเข้ามาใกล้ชั้นแล้วประคองให้ยืนขึ้น ชั้นร้องไห้แล้วร้องอีกจนต้องไปซบไหล่ลิป ลิปตบบ่าชั้นเบาๆแล้วเขย่า
“ชั้นเตือนเธอแล้วนะเคมี”ลิปพูดขึ้น ทันทีที่พูดจบน้ำตาจำนวนมากของชั้นไหลนองแต่ชั้นก็ยังพยายามจะกักเก็บน้ำตานั้นไว้แม้มันจะเก็บได้ไม่มากก็ตาม
“ร้องออกมาก ร้องออกมาให้หมด อย่าไปเก็บความรู้สึกนั้นเลย”
1 เดือนผ่านไป
“เคมี วันนี้ไปอาคารออลโวสเป็นเพื่อนหน่อยสิ มีสัมนาใหญ่ เธอมีสิทธิพิเศษคือผู้ติดตามดารานะ เข้าไปกับชั้นนะๆๆ”ชั้นตกลงปรงใจลองคบหากับลิปดูแต่ตลอดเวลาลิปไม่เคยล่วงเกินชั้นเลย แม้แต่จับมือก็ยังไม่เคย ลิปอยากประกาศเป็นทางการให้นักข่าวรับรู้แต่ชั้นก็ห้ามไว้ เพราะยังทำใจกับเรื่องของบิสกิสไม่ได้จริงๆ
“นายเป็นดารานะ ชั้นไม่ควรกับสถาณที่ชั้นสูงขนาดนั้นหรอก”
“แล้วไง เธอก็มนุษย์เหมือนกัน ไม่มีใครกล้าขัดชั้นหรอกหนะถ้าชั้นจะทำสักอย่าง”
“นายนี่นะ”ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นแฟนแสนเอาแต่ใจ เพราะฉันไม่ค่อยยอมอะไรลิปเลย วันนี้ก็ขอตามใจหน่อยละกัน
“เย้ๆๆ เตรียมชุดไว้ให้แล้วนะ ในตู้อ่ะ แอบไปแขวนไว้ให้ เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าสวยๆนะ เดี๋ยวลิปไปรอที่รถ เดี่ยวจะหาว่าโรคจิตแอบดูคนสวยแต่งตัว ฮิฮิ”ลิปยิ้มน่ารักๆให้ชั้นแล้วเดินออกไปจากบ้าน ชั้นเดินไปเปิดตู้หยิบชุดเดรสสีชมพูอ่อน สั้นระดับหัวเข่า เป็นผ้าหยาบทับกันหลายชั้น กระชับเอวเข้าให้เห็นทรวดทรงแล้วมีดอกไม้ด้านเอวซ้ายสีชมพูไม่เข้มมากแต่ติดเพชรแวววาว แขนกุดสั้นเข้าไป ชั้นมองแต่ตาแต่ในหัวคิดไปถึงบิสกิสที่ขาดการติดต่อตั้งแต่วันนั้น จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา ไม่ได้นะยัยเคมี แกต้องเข้มแข็งสิ เมื่อก่อนแกไม่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาแกยังอยู่ได้เลย ตอนนี้เราเจอคนที่ดีแล้ว รักเค้าเถอะ
20.00 ณ อาคารออลโวส
“เคมี วันนี้ชั้นจะเปิดตัวเธอ”
“ว่าไงนะ”
“ชั้นเชื่อว่าเธอทำใจจากบิสกิสได้แล้วหละ ตั้งหนึ่งเดือนแล้ว ชั้นอยากเปิดตัวเต็มทนแล้วนะ”และแล้วชั้นก็ต้องยอมตามใจเค้า บางทีอาจทำให้ชั้นสบายใจได้บ้าง
ในอาคาร นักข่าวพากันรุมล้อมเราสองคน ชั้นได้แต่หันหน้าหนีแต่ก็ดันไปเจอ....บิสกิสที่กำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายช่อง ชั้นเลยหันกลับมาทางนักข่าว บิสกิสอยู่ในชุดสูตรสีดำสนิท
“ไม่ทราบว่าคนที่ติดตามมาด้วยนี่เป็นใครคะ แฟน หรือว่าแค่ผู้จัดการ”
“อ๋อ....นี่เคมี แฟนผมครับ”ชั้นอยากจะปฏิเสธอยู่นะแต่ชั้นก็เลือกที่จะยิ้มสู้กับความจริง ชั้นเหลือบตาไปมองบิสกิสเล็กน้อย บิสกินหันมามองทางชั้นอย่างชัดเจน ชั้นเลยหันหลับไป
“ใช่คุณเคมีสาวนอกวงการที่เคยคบหากับผู้จัดการสุดสวิงอย่างคุณบิสกินใช่หรือเปล่าคะ”
“เอ่อ....ชะ....ใช่คะ”ชั้นก้มหน้าพูดช้าๆ
“แล้วมาคบกับดาราสุดที่รักของค่ายดาโมไดซึ่งเจ้าของบริษัทคือบิสกิสแล้วอย่างงี้จะไม่กินเส้นกันแย่เลยหรอคะเนี้ย”
“ไม่หรอกครับ เค้าปล่อยมือจากผู้หญิงคนนี้นานแล้ว วันนี้มันเป็นคราวของผม ซึ่งผมรอมานานแสนนานแล้ว”ชั้นมองไปทางบิสกิส บิสกิสค่อยๆเดินมาทางชั้น เมื่อชั้นเห็นก็ดึงแขนเสื้อของลิปที่ชั้นเกาะอยู่
“เดี๋ยวครับ”บิสกิสแหวกวงล้อมเข้ามาแล้วดึงชั้นไปในอ้อมกอด ความรู้สึกแรกชั้นอยากอยู่ในอ้อมกอดนั้นไปนานๆและให้นานที่สุดเพราะชั้นรักเค้าคนนี้มาก แต่ผลสุดท้ายชั้นก็ต้องใช้ความรู้สึกที่สองแทน ชั้นดิ้นแล้วผลักบิสกิสออกแต่ก็ไม่ออก ลิปพยายามเข้ามาแต่แค่เพียงบิสกิสหันตาไปตวาดใส่ก็ทำให้ลิปถึงกับหยุด
“เรากลับมาคืนดีกันนานแล้วครับ แต่ยังไม่เปิดเผยก็เท่านั้น”ชั้นยืนอึ้งเป็นหุ่นขี้ผึ้งจีน แอบยิ้มในใจเล็กน้อยแต่อีกใจก็รู้ว่าเค้าโกหก ชั้นเลยผลักเค้าออกเต็มแรงแล้วพูดขึ้น
“ไม่ใช่ความจริงคะ เค้าโกหก ชั้นยังไม่ได้คืนดีกับเค้า จำไม่ได้หรอคะ ที่คุณบอกว่าคงไม่มีวันรีเทริน ใช่ มันจะไม่มีวันนั้น สมความปราถนาคุณแน่!!”ชั้นแหกปากพูดจนคนทั้งงานหันมามอง ชั้นดึงหน้าลิปมาจูบโชว์ทุกคน นี่ชั้นทำไปได้ยังไง ทำไปเพราะอารมณ์โมโห หรือว่ารักลิปจริงๆ แต่ชั้นว่าที่ชั้นทำไปเพราะอารมณ์โมโหและอยากประชดบิสกิสมากกว่า ชั้นถอนจูบแล้วนึกสลดก่อนจะวิ่งออกไปที่หลังงานเพียงคนเดียว ชั้นนั่งร้องไห้อยู่ตรงบรรไดหนีไฟ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แล้วลิปก็วิ่งมาก่อนจะโอบกอดชั้นไว้แน่น ชั้นรู้สึกอยากปลดปล่อยมาก
“ลิป”
“หืม”
“นายเข้าไปในงานเถอะ ชั้นคงอยู่ที่นี่อีกไม่ได้ ชั้นขอกลับบ้านเถอะ”
“ถ้าเคมีกลับ ชั้นก็กลับ”
“ไม่เอา นายต้องทำงาน ชั้นกลับเองได้ แล้วเจอกันที่บ้านนะ”ชั้นพูดจบก็ถือกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากงานไปโดยที่ตอนวิ่งออกจากงานต้องไปทางประตูหน้า บิสกิสมองตามหลังชั้น ชั้นไม่อยากสบตากับใคร ชั้นวิ่งจู๊ดออกไปจากงานทั้งทีแต่แล้ว....
“โอ๊ย”ชั้นก็ดันทำส้นรองเท้าส้นสูงแหลมๆนี่หักจนเสียหลักขาพลิกล้มลงไป ฮือๆๆ เจ็บจัง
“ไม่เป็นไรนะ”บิสกิสเดินมาแล้วประคองชั้นลุกขึ้นยืน ชั้นมองหน้าเค้าแล้วผลักเค้าออกไปไกลตัว ก่อนจะออกเดินแต่ก็ล้มลงไปอีกครั้ง
“โอ้ว ขาเขียวเลยแฮะ”บิสกิสก้มลงไปดูที่เท้าชั้นแล้วตัดสินใจช้อนตัวชั้นขึ้นอุ้มแล้วเดินออกนอกงานไป ชั้นไม่รู้ว่าเค้าคิดจะทำอะไร แต่นักข่าวรุมถ่ายรูปเราสองคนใหญ่จนบิสกิสต้องรีบวิ่งหนีฝูงนักข่าวเข้าไปในลิฟแล้วกดลง ตอนนี้เราอยู่ชั้น33 สูงอะไรขนาดนี้
“ปล่อยชั้นลง”
“ไม่ปล่อย”
“บอกให้ปล่อย”
“ก็ไม่ปล่อย มีไรม่ะ”
“นายจะทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อเรื่องของเรามันจบแล้ว แต่สำหรับนายมันคงไม่เคยเกิดขึ้น”
“งั้นต่อไปนี้ชั้นจะทำให้มันไม่จบและจะทำให้มันเกิดขึ้น”เค้ากำลังพูดอะไรของเค้า
“พูดอะไร ปล่อยนะ”
“บอกว่าไม่ปล่อยไง”
ปิ๊ปๆๆ ลิป
“เอามานะ”บิสกิสแย่งโทรศัพท์ในกระเป๋าชั้นแล้วดึงมาแนบหูตัวเอง
“เฮ้ย แฟนแกคือแฟนชั้น จำไว้แล้วเลิกยุ่งกับเธอซะ แล้วจะหาว่าชั้นไม่เตือน”
“นี่ อย่าพูดบ้าๆนะ ลิป อย่าไปฟังนะ”แต่ดูเหมือนว่าจะพูดไม่ทัน บิสกิสกดวางแล้วปิดเครื่องโทรศัพชั้นแล้วโยนลงพื้นลิฟอย่างแรงจนแตกกระจาย
“นายทำแบบนี้ทำไม”แต่ที่ชั้นงงยิ่งกว่าคือเค้าใช้มือเดียวอุ้มชั้นงั้นหรอ
“กรี๊ดดดด”และแล้วชั้นก็ตกจากมือเดียวของเค้า ปึ๊ง ตี๊ดๆๆๆ หา....!! ลิฟค้าง ตายแล้วๆๆ
“นายทำลิฟค้าง”ชั้นเกาะเค้าไว้แน่นแล้วหลับตา
“ใช่ ชั้นตั้งใจ”ว่าอะไรนะ ตาบ้าๆๆๆ
“ไอ้บ้าๆๆๆ”
“เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเองแหละ”
“นายทำไปทำไม มันน่ากลัวรู้ไหม ตาบ้าเอ้ย”
“ก็ชั้นอยากอยู่ใกล้เธอนานๆหนิ”
“นายทำไปทำไม นายมันไม่มีเหตุผล”
“ช่วยด้วยคะ ๆๆ”ชั้นกดปุ่มแดงแล้วตะโกนเผื่อคนข้างนอกจะเดินไปมาอยู่บ้าง
“ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรกับชั้นแล้วจริงๆก็ได้ ชั้นจะไม่ทำแบบนี้กับเธออีก ชั้นคงคิดไปเอง ขอโทดนะ”เค้าพูดจบก็เดินไปทุบปุ่มเขียวแล้วลิฟก็ดำเนินการต่อไปอีก10ชั้น ชั้นมองหน้าเค้าอย่างงงๆ ขาก็เจ็บ แล้วนายพูดแบบนี้มันคืออะไร
“…”
“…”ต่างคนก็ต่างเงียบ ชั้นมองหน้าเค้าค้างแต่เค้ากลับไม่มองหน้าชั้นเลย เมื่อถึงชั้นล่างสุดเค้าก็เดินออกไปโดยไม่ใยดีชั้นเลย ชั้นค่อยๆกระเพกเท้าออกไป แล้วค่อยๆเดินไปโบกเท็กซี่แต่ก็ล้มลงไปซะก่อน
“โอ๊ยยย ฮือๆ”ชั้นร้องไห้ออกมาทั้งเจ็บใจและกังวลใจ ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นอีก ตั้งแต่บิสกิสจากไปชั้นก็อ่อนแอลงทุกครั้ง เคมีคนเดิมมันหายไปไหนแล้ว ชั้นส่ายหัวไปมาแล้วร้องไห้เป็นคนบ้า ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดของใครบางคนก็มาสัมผัสกับใบหน้าของชั้นที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้นข้างถนน
“บิสกิส ฮือ”ชั้นเงยหน้าไปมองเห็นว่าเป็นบิสกิส แต่ใบหน้าเค้าดูนิ่งเรียบเหมือนจะไม่พูดกับชั้นอีก ชั้นเห็นก็ค่อยๆลุกแล้วกอดเค้าแน่น
“อย่าไปไหนอีกนะ ฮือๆ ชั้นรักนายรู้ไหม ชั้นรักนาย รักที่สุด ตั้งแต่นายจากไปชั้นเหมือนใจจะวายทุกนาทีที่ได้รับรู้เรื่องของนาย ชั้นร้องไห้ทุกครั้งที่ชั้นนึกถึงนาย ชั้นเจ็บใจมาก แต่ชั้นก็รักนายมาก ชั้นโกรธนายมาก แต่ชั้นก็รักนายมากอีก ฮือๆๆ นายทำให้ชั้นต้องเสียใจมากแค่ไหนรู้ไหม แต่ลิปเป็นคนเดียวที่ดูแลชั้น จนชั้นยอมรับเค้าให้เข้ามาดูๆกันไป แต่ชั้นก็ไม่เคยพยายามทำใจให้รักเค้าได้เลย”ชั้นพูดไปร้องไห้ไป บิสกิสลูบหลังชั้นเบาๆแล้วช้อนตัวชั้นไปยัดใส่รถสีขาวของเค้าไป
“นายจะพาชั้นไปไหน”ชั้นมองหน้าบิสกิสแล้วถาม
“ไปที่ที่เราควรจะไป”เค้าตอบแล้วยิ้มมุมปาก เค้าเจ้าเล่ห์ใส่ชั้นอีกแล้ว
“ชั้นไม่ไป ชั้นจะลง”ชั้นบอกเค้า
“ไม่รักชั้นหรือไง”ชั้นชะงักมือที่กำลังพยายามงัดประตู
“รัก แต่ถ้านายทำแบบนี้ชั้นก็ไม่เอาหรอกนะ ชั้นเข็ดแล้ว เดี๋ยวนายก็ทิ้งชั้นไปอีก”
“ไม่มีวันนั้นอีกแน่ ชั้นสัญญา”ชั้นพยายามมองมือเค้าว่าแอบอิ๊บไว้ตรงไหนหรือเปล่า มือไม่มีแต่เข้าอาจจะอิ๊บที่เท้าไว้ก็เป็นได้ (ใครเอานิ้วกลางทับนิ้ชี้เท้าได้บ้างหละแม่คุณ) ชั้นนั่งเอาหลังพิงเบาะแล้วเค้าก็เปิดเพลงให้ชั้นฟัง
“เพลงอะไรหรอ เพราะจัง”
“ไม่มีเธอไม่อยากหายใจ คนร้องเนี้ย หล่อๆทั้งนั้นเลยนะ”
“แล้วเคยฟังไม่ใช่อิจฉาไหมหละ คนร้องเนี้ยสวยมากๆเลยหละ”
“อ๋อของเฟย์ฟางแก้วอ่านะ ที่แก้วเป็นทอมอ่าหรอ”
“บ้าหรือไง ไม่ใช่ทอมซะหน่อย เป็นผู้หญิงย่ะ”
“ก็ดูแต่งตัวสิ”
“เสน่ห์แรงนะจะบอกให้ ทำให้โทโมะK-OTICที่ร้องเพลงเนี้ยถึงกับหลงรักเลยนะ”
“น่าสงสารโทโมะจัง”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เศร้าแล้วรักกันได้ในตอนเดียว 555+ อันนี้เอาสองตอนมารวมกัน
นะเนี้ยยยย อ่านให้สนุกน้าาาา มีชมกันเองด้วยอ่ะตอนนี้ 555+
รักรีดเดอร์และคิดถึงทุกคนนะ muah!!
“รู้ไหมชั้นลืมมาไม่เจอเธอชั้นรู้สึกอย่างไง ชั้นคิดว่าเธอหนีชั้นไปแล้วซะอีก แต่พอมาหาที่นี่ก็เจอ โชคดีนะที่ไม่ได้เดินเที่ยวลึกมากไม่งั้นชั้นคงถอดใจเลิกหาเธอแล้ว”นี่เค้าห่วงชั้นด้วยหรอ หน้าชั้นแดงไปหมดแล้วนะ
“เอ่อ....ไปหาซื้ออะไรกินกันดีกว่านะ”เค้ายิ้มแล้วจับมือชั้นเดินทั่วห้าง ซื้อของใช้นู่นนี่รวมทั้งขนมนมเนยและก็ซื้อเสื้อผ้าให้ชั้นอีกด้วย เขินจัง
1 เดือนผ่านไป
ลิปไม่กล้าติดต่อมาหาชั้นนานมากแล้ว ปกติวันนึงโทรเป็นร้อยหนแต่นี่โทรมาแค่อาทิตย์ละครั้งทำนองนั้น บิสกิสดูยุ่งงานมาก ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่และบิสกิสก็สั่งห้ามชั้นให้ไปทำงาน ให้ทำงานอื่นอยู่ที่บ้านเอา ชั้นก็ต้องปั่นจักรยานไปเอาหนังสือพิมพ์เก่ามาพับถุงขายเหมือนเดิม แต่เมื่อชั้นดูทีวีอยู่ดีๆกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ชั้นกำลังจะลงมือพับก็หล่นแล้วปลิวหายไปในทันทีเมื่อชั้นเห็นข่าวในทีวี
“เจ้าของค่ายดาโมไดเจ้าเสน่ห์อย่างบิสกิสเนี้ยนะคะต้องมาสยบปรบมือออกมาบอกนักข่าวว่า จบแล้ว ตำนานรักกับสาวชื่อวิทยาศาสตร์ เคมีนะคะ หนำซ้ำยังบอกอีกว่าไม่มีทางรีเทรินอย่างแน่นอน แต่ของแบบนี้ใครจะไปรู้นะคะ ไปฟังสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าคะ”
“ไม่ทราบว่าทำไมถึงเลิกกับสาวนอกวงการที่ชื่อเคมีหละคะ”
“อ๋อ เป็นเพราะว่าเค้าบอกว่าผมไม่มีเวลาให้ ทำแต่งาน ซึ่งผมก็ยอมรับนะครับว่าผมผิดเองที่ทำแต่งาน แต่ก็จบแล้วหละครับเพราะว่าต่างคนก็ต่างเลือกงานมากกว่า เค้าก็มีงานที่จะต้องทำ ผมก็มีงานที่จะต้องทำ เลยคิดว่าเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่า มีปัญหากันหรือเปล่าความจริงก็ไม่ได้มีปัญหากันหรอกครับ ก็เป็นเพื่อนกันไป”
“แล้วแบบนี้จะมีแววรีเทรินไหมคะ”
“ไม่น่าจะมีครับ เพราะว่าผมก็ไม่ได้รักเค้าแล้วด้วย บอกตามตรงเลยนะครับ ไม่ได้จะเบื่อหรืออะไรแต่ผมเห็นว่าเค้ายังไม่เหมาะที่จะได้รับความรักจากผมไปเพราะว่าบางทีเราไม่ไว้ใจกันเลย ก็เลยเป็นต้นเหตุให้เลิกกัน”
“ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกใช่ไหมคะ ว่าได้แล้วเลิก”
“อ๋อ ไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะผมไม่เคยเกินเลยเค้าเลยครับ”จบคำพูดมือชั้นก็ขยับไปโดยอัติโนมัติให้ปิดทีวี น้ำตามันค่อยๆไหลออกมาจากตาดวงกลมโตของชั้น มันเจ็บยิ่งกว่าโดนกระทืบ โดนตบหน้า โดนเอาเกลือใส่แผล เจ็บยิ่งกว่าโดนยิง เจ็บยิ่งกว่าโดยข่มขืน นี่หรอที่เค้าเรียกว่าเจ็บเพราะรัก จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ชั้นร้องไห้ให้ผู้ชายคนนี้ได้อย่างไง มันอะไรกัน ชั้นค่อยๆคว่ำหนังสือพิมพ์แล้วโยนกระจัดกระจายไปด้วยความโมโห ชั้นนอนราบกับพื้นไม้ของบ้านแล้วร้องไห้ แกร่ก เสียงคนเปิดประตูบ้านเข้ามา ชั้นมองไปที่ต้นเสียงก็เห็น ลิป ยืนเท้าเอว แล้วค่อยๆเข้ามาใกล้ชั้นแล้วประคองให้ยืนขึ้น ชั้นร้องไห้แล้วร้องอีกจนต้องไปซบไหล่ลิป ลิปตบบ่าชั้นเบาๆแล้วเขย่า
“ชั้นเตือนเธอแล้วนะเคมี”ลิปพูดขึ้น ทันทีที่พูดจบน้ำตาจำนวนมากของชั้นไหลนองแต่ชั้นก็ยังพยายามจะกักเก็บน้ำตานั้นไว้แม้มันจะเก็บได้ไม่มากก็ตาม
“ร้องออกมาก ร้องออกมาให้หมด อย่าไปเก็บความรู้สึกนั้นเลย”
1 เดือนผ่านไป
“เคมี วันนี้ไปอาคารออลโวสเป็นเพื่อนหน่อยสิ มีสัมนาใหญ่ เธอมีสิทธิพิเศษคือผู้ติดตามดารานะ เข้าไปกับชั้นนะๆๆ”ชั้นตกลงปรงใจลองคบหากับลิปดูแต่ตลอดเวลาลิปไม่เคยล่วงเกินชั้นเลย แม้แต่จับมือก็ยังไม่เคย ลิปอยากประกาศเป็นทางการให้นักข่าวรับรู้แต่ชั้นก็ห้ามไว้ เพราะยังทำใจกับเรื่องของบิสกิสไม่ได้จริงๆ
“นายเป็นดารานะ ชั้นไม่ควรกับสถาณที่ชั้นสูงขนาดนั้นหรอก”
“แล้วไง เธอก็มนุษย์เหมือนกัน ไม่มีใครกล้าขัดชั้นหรอกหนะถ้าชั้นจะทำสักอย่าง”
“นายนี่นะ”ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นแฟนแสนเอาแต่ใจ เพราะฉันไม่ค่อยยอมอะไรลิปเลย วันนี้ก็ขอตามใจหน่อยละกัน
“เย้ๆๆ เตรียมชุดไว้ให้แล้วนะ ในตู้อ่ะ แอบไปแขวนไว้ให้ เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าสวยๆนะ เดี๋ยวลิปไปรอที่รถ เดี่ยวจะหาว่าโรคจิตแอบดูคนสวยแต่งตัว ฮิฮิ”ลิปยิ้มน่ารักๆให้ชั้นแล้วเดินออกไปจากบ้าน ชั้นเดินไปเปิดตู้หยิบชุดเดรสสีชมพูอ่อน สั้นระดับหัวเข่า เป็นผ้าหยาบทับกันหลายชั้น กระชับเอวเข้าให้เห็นทรวดทรงแล้วมีดอกไม้ด้านเอวซ้ายสีชมพูไม่เข้มมากแต่ติดเพชรแวววาว แขนกุดสั้นเข้าไป ชั้นมองแต่ตาแต่ในหัวคิดไปถึงบิสกิสที่ขาดการติดต่อตั้งแต่วันนั้น จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา ไม่ได้นะยัยเคมี แกต้องเข้มแข็งสิ เมื่อก่อนแกไม่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาแกยังอยู่ได้เลย ตอนนี้เราเจอคนที่ดีแล้ว รักเค้าเถอะ
20.00 ณ อาคารออลโวส
“เคมี วันนี้ชั้นจะเปิดตัวเธอ”
“ว่าไงนะ”
“ชั้นเชื่อว่าเธอทำใจจากบิสกิสได้แล้วหละ ตั้งหนึ่งเดือนแล้ว ชั้นอยากเปิดตัวเต็มทนแล้วนะ”และแล้วชั้นก็ต้องยอมตามใจเค้า บางทีอาจทำให้ชั้นสบายใจได้บ้าง
ในอาคาร นักข่าวพากันรุมล้อมเราสองคน ชั้นได้แต่หันหน้าหนีแต่ก็ดันไปเจอ....บิสกิสที่กำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายช่อง ชั้นเลยหันกลับมาทางนักข่าว บิสกิสอยู่ในชุดสูตรสีดำสนิท
“ไม่ทราบว่าคนที่ติดตามมาด้วยนี่เป็นใครคะ แฟน หรือว่าแค่ผู้จัดการ”
“อ๋อ....นี่เคมี แฟนผมครับ”ชั้นอยากจะปฏิเสธอยู่นะแต่ชั้นก็เลือกที่จะยิ้มสู้กับความจริง ชั้นเหลือบตาไปมองบิสกิสเล็กน้อย บิสกินหันมามองทางชั้นอย่างชัดเจน ชั้นเลยหันหลับไป
“ใช่คุณเคมีสาวนอกวงการที่เคยคบหากับผู้จัดการสุดสวิงอย่างคุณบิสกินใช่หรือเปล่าคะ”
“เอ่อ....ชะ....ใช่คะ”ชั้นก้มหน้าพูดช้าๆ
“แล้วมาคบกับดาราสุดที่รักของค่ายดาโมไดซึ่งเจ้าของบริษัทคือบิสกิสแล้วอย่างงี้จะไม่กินเส้นกันแย่เลยหรอคะเนี้ย”
“ไม่หรอกครับ เค้าปล่อยมือจากผู้หญิงคนนี้นานแล้ว วันนี้มันเป็นคราวของผม ซึ่งผมรอมานานแสนนานแล้ว”ชั้นมองไปทางบิสกิส บิสกิสค่อยๆเดินมาทางชั้น เมื่อชั้นเห็นก็ดึงแขนเสื้อของลิปที่ชั้นเกาะอยู่
“เดี๋ยวครับ”บิสกิสแหวกวงล้อมเข้ามาแล้วดึงชั้นไปในอ้อมกอด ความรู้สึกแรกชั้นอยากอยู่ในอ้อมกอดนั้นไปนานๆและให้นานที่สุดเพราะชั้นรักเค้าคนนี้มาก แต่ผลสุดท้ายชั้นก็ต้องใช้ความรู้สึกที่สองแทน ชั้นดิ้นแล้วผลักบิสกิสออกแต่ก็ไม่ออก ลิปพยายามเข้ามาแต่แค่เพียงบิสกิสหันตาไปตวาดใส่ก็ทำให้ลิปถึงกับหยุด
“เรากลับมาคืนดีกันนานแล้วครับ แต่ยังไม่เปิดเผยก็เท่านั้น”ชั้นยืนอึ้งเป็นหุ่นขี้ผึ้งจีน แอบยิ้มในใจเล็กน้อยแต่อีกใจก็รู้ว่าเค้าโกหก ชั้นเลยผลักเค้าออกเต็มแรงแล้วพูดขึ้น
“ไม่ใช่ความจริงคะ เค้าโกหก ชั้นยังไม่ได้คืนดีกับเค้า จำไม่ได้หรอคะ ที่คุณบอกว่าคงไม่มีวันรีเทริน ใช่ มันจะไม่มีวันนั้น สมความปราถนาคุณแน่!!”ชั้นแหกปากพูดจนคนทั้งงานหันมามอง ชั้นดึงหน้าลิปมาจูบโชว์ทุกคน นี่ชั้นทำไปได้ยังไง ทำไปเพราะอารมณ์โมโห หรือว่ารักลิปจริงๆ แต่ชั้นว่าที่ชั้นทำไปเพราะอารมณ์โมโหและอยากประชดบิสกิสมากกว่า ชั้นถอนจูบแล้วนึกสลดก่อนจะวิ่งออกไปที่หลังงานเพียงคนเดียว ชั้นนั่งร้องไห้อยู่ตรงบรรไดหนีไฟ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แล้วลิปก็วิ่งมาก่อนจะโอบกอดชั้นไว้แน่น ชั้นรู้สึกอยากปลดปล่อยมาก
“ลิป”
“หืม”
“นายเข้าไปในงานเถอะ ชั้นคงอยู่ที่นี่อีกไม่ได้ ชั้นขอกลับบ้านเถอะ”
“ถ้าเคมีกลับ ชั้นก็กลับ”
“ไม่เอา นายต้องทำงาน ชั้นกลับเองได้ แล้วเจอกันที่บ้านนะ”ชั้นพูดจบก็ถือกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากงานไปโดยที่ตอนวิ่งออกจากงานต้องไปทางประตูหน้า บิสกิสมองตามหลังชั้น ชั้นไม่อยากสบตากับใคร ชั้นวิ่งจู๊ดออกไปจากงานทั้งทีแต่แล้ว....
“โอ๊ย”ชั้นก็ดันทำส้นรองเท้าส้นสูงแหลมๆนี่หักจนเสียหลักขาพลิกล้มลงไป ฮือๆๆ เจ็บจัง
“ไม่เป็นไรนะ”บิสกิสเดินมาแล้วประคองชั้นลุกขึ้นยืน ชั้นมองหน้าเค้าแล้วผลักเค้าออกไปไกลตัว ก่อนจะออกเดินแต่ก็ล้มลงไปอีกครั้ง
“โอ้ว ขาเขียวเลยแฮะ”บิสกิสก้มลงไปดูที่เท้าชั้นแล้วตัดสินใจช้อนตัวชั้นขึ้นอุ้มแล้วเดินออกนอกงานไป ชั้นไม่รู้ว่าเค้าคิดจะทำอะไร แต่นักข่าวรุมถ่ายรูปเราสองคนใหญ่จนบิสกิสต้องรีบวิ่งหนีฝูงนักข่าวเข้าไปในลิฟแล้วกดลง ตอนนี้เราอยู่ชั้น33 สูงอะไรขนาดนี้
“ปล่อยชั้นลง”
“ไม่ปล่อย”
“บอกให้ปล่อย”
“ก็ไม่ปล่อย มีไรม่ะ”
“นายจะทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อเรื่องของเรามันจบแล้ว แต่สำหรับนายมันคงไม่เคยเกิดขึ้น”
“งั้นต่อไปนี้ชั้นจะทำให้มันไม่จบและจะทำให้มันเกิดขึ้น”เค้ากำลังพูดอะไรของเค้า
“พูดอะไร ปล่อยนะ”
“บอกว่าไม่ปล่อยไง”
ปิ๊ปๆๆ ลิป
“เอามานะ”บิสกิสแย่งโทรศัพท์ในกระเป๋าชั้นแล้วดึงมาแนบหูตัวเอง
“เฮ้ย แฟนแกคือแฟนชั้น จำไว้แล้วเลิกยุ่งกับเธอซะ แล้วจะหาว่าชั้นไม่เตือน”
“นี่ อย่าพูดบ้าๆนะ ลิป อย่าไปฟังนะ”แต่ดูเหมือนว่าจะพูดไม่ทัน บิสกิสกดวางแล้วปิดเครื่องโทรศัพชั้นแล้วโยนลงพื้นลิฟอย่างแรงจนแตกกระจาย
“นายทำแบบนี้ทำไม”แต่ที่ชั้นงงยิ่งกว่าคือเค้าใช้มือเดียวอุ้มชั้นงั้นหรอ
“กรี๊ดดดด”และแล้วชั้นก็ตกจากมือเดียวของเค้า ปึ๊ง ตี๊ดๆๆๆ หา....!! ลิฟค้าง ตายแล้วๆๆ
“นายทำลิฟค้าง”ชั้นเกาะเค้าไว้แน่นแล้วหลับตา
“ใช่ ชั้นตั้งใจ”ว่าอะไรนะ ตาบ้าๆๆๆ
“ไอ้บ้าๆๆๆ”
“เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเองแหละ”
“นายทำไปทำไม มันน่ากลัวรู้ไหม ตาบ้าเอ้ย”
“ก็ชั้นอยากอยู่ใกล้เธอนานๆหนิ”
“นายทำไปทำไม นายมันไม่มีเหตุผล”
“ช่วยด้วยคะ ๆๆ”ชั้นกดปุ่มแดงแล้วตะโกนเผื่อคนข้างนอกจะเดินไปมาอยู่บ้าง
“ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรกับชั้นแล้วจริงๆก็ได้ ชั้นจะไม่ทำแบบนี้กับเธออีก ชั้นคงคิดไปเอง ขอโทดนะ”เค้าพูดจบก็เดินไปทุบปุ่มเขียวแล้วลิฟก็ดำเนินการต่อไปอีก10ชั้น ชั้นมองหน้าเค้าอย่างงงๆ ขาก็เจ็บ แล้วนายพูดแบบนี้มันคืออะไร
“…”
“…”ต่างคนก็ต่างเงียบ ชั้นมองหน้าเค้าค้างแต่เค้ากลับไม่มองหน้าชั้นเลย เมื่อถึงชั้นล่างสุดเค้าก็เดินออกไปโดยไม่ใยดีชั้นเลย ชั้นค่อยๆกระเพกเท้าออกไป แล้วค่อยๆเดินไปโบกเท็กซี่แต่ก็ล้มลงไปซะก่อน
“โอ๊ยยย ฮือๆ”ชั้นร้องไห้ออกมาทั้งเจ็บใจและกังวลใจ ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นอีก ตั้งแต่บิสกิสจากไปชั้นก็อ่อนแอลงทุกครั้ง เคมีคนเดิมมันหายไปไหนแล้ว ชั้นส่ายหัวไปมาแล้วร้องไห้เป็นคนบ้า ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดของใครบางคนก็มาสัมผัสกับใบหน้าของชั้นที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้นข้างถนน
“บิสกิส ฮือ”ชั้นเงยหน้าไปมองเห็นว่าเป็นบิสกิส แต่ใบหน้าเค้าดูนิ่งเรียบเหมือนจะไม่พูดกับชั้นอีก ชั้นเห็นก็ค่อยๆลุกแล้วกอดเค้าแน่น
“อย่าไปไหนอีกนะ ฮือๆ ชั้นรักนายรู้ไหม ชั้นรักนาย รักที่สุด ตั้งแต่นายจากไปชั้นเหมือนใจจะวายทุกนาทีที่ได้รับรู้เรื่องของนาย ชั้นร้องไห้ทุกครั้งที่ชั้นนึกถึงนาย ชั้นเจ็บใจมาก แต่ชั้นก็รักนายมาก ชั้นโกรธนายมาก แต่ชั้นก็รักนายมากอีก ฮือๆๆ นายทำให้ชั้นต้องเสียใจมากแค่ไหนรู้ไหม แต่ลิปเป็นคนเดียวที่ดูแลชั้น จนชั้นยอมรับเค้าให้เข้ามาดูๆกันไป แต่ชั้นก็ไม่เคยพยายามทำใจให้รักเค้าได้เลย”ชั้นพูดไปร้องไห้ไป บิสกิสลูบหลังชั้นเบาๆแล้วช้อนตัวชั้นไปยัดใส่รถสีขาวของเค้าไป
“นายจะพาชั้นไปไหน”ชั้นมองหน้าบิสกิสแล้วถาม
“ไปที่ที่เราควรจะไป”เค้าตอบแล้วยิ้มมุมปาก เค้าเจ้าเล่ห์ใส่ชั้นอีกแล้ว
“ชั้นไม่ไป ชั้นจะลง”ชั้นบอกเค้า
“ไม่รักชั้นหรือไง”ชั้นชะงักมือที่กำลังพยายามงัดประตู
“รัก แต่ถ้านายทำแบบนี้ชั้นก็ไม่เอาหรอกนะ ชั้นเข็ดแล้ว เดี๋ยวนายก็ทิ้งชั้นไปอีก”
“ไม่มีวันนั้นอีกแน่ ชั้นสัญญา”ชั้นพยายามมองมือเค้าว่าแอบอิ๊บไว้ตรงไหนหรือเปล่า มือไม่มีแต่เข้าอาจจะอิ๊บที่เท้าไว้ก็เป็นได้ (ใครเอานิ้วกลางทับนิ้ชี้เท้าได้บ้างหละแม่คุณ) ชั้นนั่งเอาหลังพิงเบาะแล้วเค้าก็เปิดเพลงให้ชั้นฟัง
“เพลงอะไรหรอ เพราะจัง”
“ไม่มีเธอไม่อยากหายใจ คนร้องเนี้ย หล่อๆทั้งนั้นเลยนะ”
“แล้วเคยฟังไม่ใช่อิจฉาไหมหละ คนร้องเนี้ยสวยมากๆเลยหละ”
“อ๋อของเฟย์ฟางแก้วอ่านะ ที่แก้วเป็นทอมอ่าหรอ”
“บ้าหรือไง ไม่ใช่ทอมซะหน่อย เป็นผู้หญิงย่ะ”
“ก็ดูแต่งตัวสิ”
“เสน่ห์แรงนะจะบอกให้ ทำให้โทโมะK-OTICที่ร้องเพลงเนี้ยถึงกับหลงรักเลยนะ”
“น่าสงสารโทโมะจัง”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เศร้าแล้วรักกันได้ในตอนเดียว 555+ อันนี้เอาสองตอนมารวมกัน
นะเนี้ยยยย อ่านให้สนุกน้าาาา มีชมกันเองด้วยอ่ะตอนนี้ 555+
รักรีดเดอร์และคิดถึงทุกคนนะ muah!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ