valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน

9.5

เขียนโดย Milkcake

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.

  10 ตอน
  106 วิจารณ์
  20.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) รถเมย์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“ทราสน์” ฉันเรียกเค้าด้วยเสียงแผ่วเบา ทั้งที่ใบหน้าของเค้ายังซุกอยู่ข้างๆแก้มฉันอยู่ไม่ไหวติงเลย  (ไม่ใช่มันตายแล้วหรอ - - ? )

“ครอก . (-_-zZ)”

 “ ( -  -!! ) ”  นี่มันนอนหลับหรอ

“……”

“ทราสน์  ฉันหนักหายใจไม่ออก ”   (- _- ;)

 “เฮ้ย! ไอ้บ้าทราสน์”

   โป๊ก!    เสียงกระทะฝาดไปโดนหัวบุคคนที่นอนทับร่างหญิงสาวอยู่

“โอ้ย!! ( - U - ) คร๊าบ บบ ตื่นแล้ว เจ็บนะเนี่ยตีอยู่ได้ ” ทราสน์ยกน่าของเขาขึ้นแต่ก็ไม่วายที่จะยกตัวขึ้นจากฉัน

“ก็แกไม่ไปอาบนํ้าซักทีมันสายแล้วนะ  แล้วก็อีกเรื่องที่ฉันอยากจะบอกแก”

“ อะไร ”  ตอบได้เสียงเรียบมากก

“แกตัว ‘หนัก’ มาก ”  แกคงลืมใช่มั๊ยว่าแกทับฉันอยู่

“ ฮ่า ๆๆ  โทษทีพอดีว่ามันนิ่มดีอ่า ”  ดูมันพูดสิ่งยิ้มของมันช่างเจ้าเล่ห์นักนี่ต้องไม่ใช่ทราสน์แน่เลยปกติมันไม่เจ้าเล่ห์อย่างนี้น๊าถ้าเป็นเลโอเข้าสิ่งหนิว่าไปอย่าง   แต่เดี๋ยวก่อน STOP! Stop! ที่มันว่านิ่มคืออะไร อย่างบอกนะว่า ...

“ไอ้บ้า ไอ้ชีกอ ไอ้ลามก ไอ้ทุกเรศ  ไอ้อัฟเฟ .. ” ยังด่าไม่ทันจบปากอันเรียวบางสวยของฉันต้องถูกปิดด้วยมือหนาของคนตรงหน้า

“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ”

“แอ้วอันอังไออะ”  ตอนนี้ฉันพูดไม่เป็นภาษาแล้วก็เพราะมือของมันยังปิดอยู่อย่างนี้หนะ

“เฮ้อ .. คุยกับแกไม่รู้เรื่องฉันไปอาบนํ้าดีกว่า” มันควรจะไปตั้งนานแล้ว (- - ;!)

    พูดเสร็จมันก็กระเด้งตัวออกจากฉันทันที  ดีเหมือนกันรู้มั๊ยว่าหนักและอึดอัดโคตร   เฮ้ยแต่ดี๋ยว เรายังเคลียร์ไม่จบ  อะไรนิ่ม!!

“แกก็อย่ายิ้มแบบนั้นต่อหน้าผู้ชายที่แกไม่ได้คิดอะไรนะ  ถ้าแกไม่อยากโดน ... เพราะพวกนั้นมันไม่เหมือนฉันนะ” ทราสน์พูดด้วยเสียงลอยๆจนแทบไม่ได้ยิน แต่ฉันก็พอจะได้ยินและสามารถเรียงประโยคได้ แต่ถึงเรียงได้ก็ไม่เข้าใจความหมายอยู่ดี

“แล้วไอ้ที่มันนิ่มอะไม่ต้องคิดว่าเป็นหน้าอกแกหรอก  เพราะมันคงไม่มี ” ทราสน์พูดพรางใช่มือคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องนํ้าทันทีด้วยความรวดเร็ว  เพราะรู้ว่าจะมีอะไรลอยตามหลังเขาไป

    ฟิ้ว  พรึบ   ปัง!       เสียงลอยของวัตถุนุ่มนิ่มไปชนกับประตูที่ถูกปิดพอดี

   คำพูดของเค้าที่ฉันจะถามความหมายที่มันพูดตอนแรกถูกกลืนลงคอทันที เมื่อเจอเสียงและคำตอบสุดกวนประสาท อ๊ากไปเพื่อนบ้า   

 

Trasn  Talk ~

-  0 – ฮ้าว ~  ง่วงนอนเป็นบ้าเลย เมื่อคืนนอนตอนตีหนึ่งเหตุผลนาฬิกาตาย ยังว่าดูที่ไรเหมือนมันยังอยู่ที่เดิม  แล้วก็สันนิษฐานไว้ไม่มีผิดว่ายัยแตมป์มันต้องมาปลุกตั้งแต่ไก่โห่ เลยอุตส่าห์ล็อกกุญแจคอนโดไว้อย่างดีแต่ดันลืมว่ามีกุญแจสำรองกับคีย์การ์ดอยู่กันมัน  ไม่ต้องสงสัยให้ยากว่าทำไมสิ่งสองสิ่งถึงไปอยู่กับมันเพราะผมให้มันเองแหละ  มันมีหน้าที่ต้องมาปลุกผมไปโรงเรียนทำอาหารให้ทานเหมือนคนใช้ใช่มั๊ย  แต่ผมคงให้ฐานะนี้กับมันไม่ได้ แสตมป์เป็นเพื่อนสนิทที่สุดที่ไม่น่าจะสนิทที่สุดของผมทำไมนะหรอก็เพราะตอนแรกเรามักจะไม่ถูกกันเท่าไหร่ตั้งแต่เด็กๆแล้วเราทะเลาะกันตามประสาเด็กๆบ่อยมากถ้าไม่ติดว่าตระกูลเราสนิทกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษได้เจอหน้ากันบ่อยๆเพราะคุณน้าชอบพายัยนี้มาบ้านผมบ่อยๆ และแม่ผมก็มักพาผมไปบ้านแตมป์บ่อยสุดๆเช่นกันจนตอนนี้เราสองคนน่าจะจำทุกซอกทุกมุมของบ้านซึ่งกันและกันว่าตั้งอยู่ที่ใดแม้กระทั้งห้องนอน- -* เมื่อเจอหน้ากันบ่อยๆก็เกิดความเคยชิดและความผูกพันของคำว่า ‘เพื่อน’ ที่ตัดกันไม่ขาด ความสัมพันธ์ยิ่งแนบแน่นขึ้นเมื่อเราได้เรียนที่เดียวกันตั้งแต่เด็กจนกระทั้งปัจจุบันเราอยู่ม.ปลาย ปีสามแล้ว จากคำว่า ‘เพื่อน’ ตอนนี้ก็อาจใช้คำว่า ‘เพื่อนตาย’ ได้

          ตอนนี้คนก็เดินพลุกพล่านเต็มไปหมด มีทั้งหนุ่มวัยกลางคนที่รอรถไปทำงานนักศึกษาและก็นักเรียนมีทั้งโรงเรียนเดียวกับผมและต่างโรงเรียน ทั้งเสียงคุย  บางคนก็เดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย เสียงบีมแตรรถ  เสียงรถมอไซด์รุ่นเก่า(มาก) ซิ่งเสียงแปร๋นๆ แสบรูทวารโคตร   - - ^ โอ้ย!! ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้   ผมหละเกียจที่สุดเลยคนเยอะๆ  ทุกคนลองเดาสิครับว่ายัยตัวแสบพาผมมาที่ไหน ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเฉลยเลยแล้วกัน  สถานการณ์แบบนี้จะมีที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่ป้ายรถเมย์ ยัยแตมป์มันเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ ปกติพอมาหาผมที่คอนโดเราก็จะไปโรงเรียนด้วยกันโดยขี่รถส่วนตัวผมไปแต่วันนี้กลับบอกว่าไม่ต้อง มีรถที่วิเศษกว่านั้นสำหรับตอนรับวันเปิดเทอม   ผมก็เออ ออ ตามมันไม่คิดวันมันจะหมายถึงรถเมย์

“เฮ้ย! ไอ้ป๊อปมัวยืนทำซากอะไรวะเดี๋ยวก็ตกรถหรอกเห็นมั๊ยคนทะยอยขึ้นรถกันหมดแล้วเดี๋ยวก็ไม่มีที่นั่งไม่รู้ด้วยนะ”

“นี่แกจะขึ้นจริงๆหรอ”

“เออสิ  ไปเหอะน่า” แตมป์เดินโค้งไปผลักหลังผมข้างหลังให้ก้าวขึ้นรถเมย์อย่างไม่เต็มใจ

 

Stamp Talk~

“ขึ้นไปๆๆ” ฉันผลักหลังให้เค้าเดินขึ้นไปเหมือนเล่นเดินต่อขบวนรถไฟของเด็กน้อย

  ดีนะที่ขึ้นมาทันยังมีที่นั่งเหลืออยู่  ฮ่าๆๆ นี่คือการนั่งรถเมย์ครั้งที่สามของฉันตลบมือหน่อยเร็ว วว(บ้าป่าว - -*)

“การได้ขึ้นรถเมย์ครั้วแรกของแกจงภูมิใจที่ได้มาได้มานั่งกับแตมป์คนนี้นะ ” ฉันฉีกยิ้มพรางตบไหล่ทราสน์

“หน้าภูมิใจ ..  ตรงไหน ” เค้าพูดทั้งที่ไม่มองหน้าฉัน แถมยังใส่สโมทอกฟังเพลงเฉยเลย ไอ้บ้า!!

“ชิส์” ฉันค้อนใส่เค้าก่อนจะหันไปหาทางหน้าต่างเพราะฉันนั่งริมหน้าต่าง ทราสน์นั่งขอบเพื่อจะได้ลุกให้คนแก่ เด็ก แล้วก็คนท้องนั่ง ฟังดูคนดีจัง หมอนี่ส่วนดีเยอะนะ แต่เข้าใจอยากสุดๆ นึกแล้วขำจริงๆแทนที่ฉันจะได้รับประทานอาหารเช้าอย่างอิ่มหนำสำราญแล้วให้คนขับรถมาส่งที่โรงเรียนอย่างสบายใจกับต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าไปคอนโดไอ้ทราสน์เพื่อสรรหาวัตถุดิมาทำอาหารแล้วยังได้รับหน้าที่ปลุกคนขี้เศราอีกเรื่องพวกนี้ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใหญ่แต่ถ้าหมายถึงผู้ใหญ่ละก็ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอนที่ฉันต้องมีชีวิตที่ไม่สงบสุขอย่างนี้ก็เพราะ แม่ คนเดียว แต่พอได้รู้ว่าทราสน์ทะเลาะกับพ่อจนต้องออกมาอยู่คอนโดฉันก็มีจิตใต้สำนึกของความเป็นเพื่อนที่จะไม่ทิ้งกัน ฉันไม่อยากให้เค้าเหงาเลยอย่างน้อยฉันก็จะทำสิ่งที่ฉันทำได้  คิดทบทวนอีกทีเราสองคนเป็นเพื่อนกันได้ไงน้า เท่าที่จำความได้หมอนั้นเงียบจนฉันหงุดหงิด เวลาเจอกันที่ไรจะมีแต่เสียงฉันที่เล็ดลอดออกมาจากปากแต่พอเจอกันบ่อยๆเข้า  นอนด้วยกัน อาบนํ้า (ตอนเด็กนะ ไม่ใช่ปัจจุบัน)  จากเด็กชายทราสน์หนุ่มขี้เก็กแสนเย็นชา กลับกลายเป็นหนุ่มที่กวนบาทาสุดๆ แต่ที่หน้าเจ็บใจที่สุดมันกวนและเผยธาตุแท้แต่กับฉันเด็กสาวแสตมป์คนนี้เท่านั้น! แต่กับเก็กหล่อต่อหน้าสาววางมาดขรึม  ชิส์!

 “นี่แกนั้นใช่พี่ทราสน์รึป่าว ตรงนั้นหนะ”  เสียงผู้หญิงคนนึงดังเข้ามาในโสตประสาทของฉัน ฉันเลยแอบเหล่ๆมอง เธอกำลังชี้มาทางทราสน์ซึงตอนนี้นั่งฟังเพลงไม่รู้เรื่องอะไร  เพื่อนของเธอจึงกระดกแว่นแล้วพยายามมองผ่านเล่นแว่นตามองสำรวดใบหน้าของทราสน์

“อืม .. ใช่จริงๆด้วย แต่มากับใครหนะ” สาวแว่นตอบ และถามเพื่อนในคราวเดียวกัน

“ก็ยัยแสตมป์ที่คอยตามติดพี่เค้าตลอดไง” ทำไมสรรพนามฉันเป็นอย่างนี้หละ ที่ทราสน์ใช้พี่ แต่กลับฉันกลับใช้ ยัย    แต่ใครคอยตามติดใครยะ

“พี่เค้าก็เป็นเพื่อนสนิทกันหนิ ก็ต้องใกล้ชิดกันเป็นธรรมดา” น้องแว่นน้อยเป็นคนตอบ ฉันรักเด็กแว่นจัง >.<

“ก็ไม่จำเป็นต้องตามกันตลอดนี่  เหอะ!ฉันหละอิจฉาจริงๆ คนคนนั้นน่าจะเป็นฉัน ฉันออกจะสวยกว่า” เธอพูดสะบัดผมอย่างมั่นใจ

“แต่ฉันว่าพี่เค้าสวยและน่ารักกว่านะ” อ้ายน้องแว่นพูดถูกใจ มาจุ๊ฟที่ >3<

“แกว่าไงนะ” เธอพูดแล้วเค้นตาใส่น้องแว่นของฉัน   ยอมรับความจริงไม่ได้ละสิ ฮ่าๆๆ

“เปล่าๆ ๆ แหะๆ”

“แล้วไป .. แต่วันนี้แปลกๆนะทำไมพี่เค้าถึงขึ้นรถเมย์ได้หละ ปกติก็นั่งรถส่วนตัวมานี่”

“ไม่รู้สิเปลี่ยนบรรยายกาศมั้ง”

“แต่ฉันว่า .. กรี๊ดๆๆ” เสียงร้องของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่บนรถมองมา น้องแว่นของฉันเลยรีบเอามืออุดปากเพื่อนเธอทันที  มือไม้ของเธอก็ยังชี้มาทางฉันกลับทราสน์อยู่ ฉันพอจะเดาออกนะว่าเธอกรี๊ดอะไรเพราะไม่ใช่แค่เธอที่ตกใจแต่ฉันก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน  เมื่อรู้สึกถึงความหนักอยู่ที่ไหล่ของฉันอยู่ดีๆไอ้ทราสน์ก็มานอนซบไหล่ฉันเฉยเลย

“แกดูสิพี่ทราสน์นอนซบไหล่มันด้วยอะ” สรรพนามฉันเปลี่ยนเป็นมันแล้วหรอ - -*

“โอ้ย! ฉันก็นึกว่าแกเป็นอะไรที่แท้ก็เรื่องแค่นี้เองแกหันเกรงใจคนอื่นบ้างสิ” แว่นน้องของพี่ ช่างมีศีลธรรม ต่างจากใครบางคนวีนอยู่ได้สองคนนี้เป็นเพื่อนกันได้ไงหนิ 

“ก็ .. ” เธอกำลังจะเถียงต่อ แต่น้องแว่นน้อยชี้นิ้วขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ให้หยุดไม่งั้นเจอดี!  แอบโหดนะเนี่ย

       ไม่ใช่แค่สองคนนี้หรอกนะที่พูดถึงเรา เหล่านักเรียนนักศึกษาก็ต่างพากันมองเราสองคนอย่างสนอกสนใจ บางคนก็ยิ้ม  บางคนอิจฉา บางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ 

“แกทำอะไรหนะ” ฉันถามทั้งที่ทราสน์ยังนอนหลับตาพริ้มซบไหล่ฉันอยู่

“ขี้มั้ง ก็นอนอยู่นะสิ ” เขาพูดทั้งที่ไม่ลืมตาเลย

“ กวนนะ ฉันหมายถึงแกทำอย่างนี้มันเป็นจุดสนใจนะรู้มั๊ย”

“........”

“แกฟังอยู่รึป่าวหนิ”

“แกอยู่เฉยๆแล้วก็หยุดปากสงบคำเถอะ ตั้งแต่เล็กจนโตแกยังปากมากเหมือนเดิม”  ฉันกำลังจะอ้าปากเถียงต่อ ทราสน์รู้สึกจะรู้เลยสวนขึ้นมา

“ฉันง่วงมาก นอนดึก แล้วแกก็ดันมาปลุดแต่เช้า เพราะฉะนั้นแกก็มีสวนต้องรับผิดชอบ  อยู่เฉยๆก่อนได้มั๊ย” ทราสน์พูดด้วยเสียงแผ่วเบาเหมือนจะหลับ  เสียงเงียบหายไปฉันเลยก้มไปมองเพื่อนตัวเองที่นอนซบไหล่ฉันอยู่  เวลานอนหลับเหมือนเด็กเลย  ฉันอมยิ้ม มือได้เอื้อมไปดึงแก้มเค้ายืดเหมือนเล่นหนังยาง

“ฮ่าๆ  แกน่ารักจัง”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา