ประธานตัวร้ายกับหวานใจตัวแสบ
เขียนโดย African_violet
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 19.56 น.
แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563 13.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ฮ้าวววววว”ฉันกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง จะว่าไปจมน้ำมันก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ได้นอนยาวแบบนี้มานานแล้ว
“ฟางเดี๋ยวพวกฉันจะไปเรียนแล้วเธออยู่คนเดียวได้นะ”แก้วถามย้ำรอบที่ร้อยตั้งแต่แงะฉันให้ตื่นขึ้นมาฟังได้
“อืม เห็นฉันเป็นเด็กสิบขวบหรือไง”
“เด็กสิบขวบเค้ายังไม่หาเรื่องซวยได้เท่าแกเลย”แก้วพูดแล้วพลักหัวฉันเบาๆ ใจร้าย><ซะมัดรังแกได้แม้กระทั่งคนป่วยอ่ะ
“ฟางดูแลตัวเองด้วยนะ เฟย์เป็นห่วงฟางจังเลย”เฟย์ทำหน้าไม่ค่อยสดใสเท่าไร
“ไม่เป็นไรหรอกเฟย์ ถ้าจะเป็นอะไรก็เพราะแก้วเนี่ยแหละจะเลิกพลักหัวฉันได้หรือยัง”ฉันหันไปแยกเขี้ยวใส่แก้ว
“งั้นพวกเราไปเรียนก่อนนะ”
“อืม บ้ายบาย”ฉันโบกมือให้
หลังจากที่พวกนั้นออกไปฉันก็เตรียมตัวเข้าสู่นิทราอีกครั้ง
แอ้ดดดดดดด ด ด เสียงประตูเปิดขึ้นอีกครั้งหรือว่าพวกแก้วจะลืมของกันนะ
“ลืมอะไรหรอแก้ว”ฉันตะโกนออกไป
“เปล่า”เสียงทุ้มตอบกลับมา ตามด้วยเจ้าของร่างที่กำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไร
“ไอ้เด็กหัวดำ นายมาได้อ่ะ”
“เดินมามั้งเจ้ โรงพยาบาลอยู่ไกลจากบ้านผมจะตายไป”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นย่ะ ฉันหมายความว่าแกมาทำอะไรต่างหากล่ะ”
“มาดูว่าตายยัง”ปริ๊นตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ฉันหน่ะยังไม่ตายหรอก แต่มีคนแถวนี้กำลังจะตาย”ฉันขว้างหมอนใส่ไอ้เด็กปากจัดนั่น
“เห้ย มันเจ็บรู้ไหมเจ้”
“ก็ตั้งใจทำให้เจ็บ”
“คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วงนะ”หมอนอีกใบข้างอยู่ที่มือฉัน ไม่อยากจะบอกว่าหน้าฉันตอนนี้ช็อกสุดๆที่เด็กปากเสียอย่างปริ๊นบอกว่าเป็นห่วงฉัน
“อืม แล้ววันนี้ไม่มีเรียนหรอ”ฉันถาม
“มีแต่ขี้เกียจ”ปริ๊นพูดพร้อมทำหน้าเซ็งๆ
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดโดนเรียน”ฉันแขกหัวเค้าไปทีนึง หมอนั่นมองด้วยสีหน้าเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร
“นี่เห็นว่าป่วยนะ”
“จ้า ไปเรียนได้แล้วไป”ฉันไล่
“เกลียดขี้หน้าฉันมากหรือไงถ้าเป็นพี่ป๊อบเธอคงไม่ไล่แบบนี้ใช่ไหม”หมอนั้นพูดแล้วยิ้มแบบเศร้าๆ
“ฉันเคยพูดแล้วหรอว่าเกลียด”ฉันตอบกลับไป ความจริงหมอนี่ก็เป็นแค่เด็กผู้ชายที่ต้องการความรักมากๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่เห็นมีสาเหตุอะไรให้ต้องเกลียดเลยนิ
“ไม่ต้องพูดหรอก เด็กอันธพาลแบบฉันถ้าเทียบกับสุภาพบุรุษประธานนักเรียนอย่างพี่ป๊อบก็คงไม่มีใครสนใจหรอก”
เวลาหมอนั่นพูดถึงป๊อบปี้ที่ไรสายตาเค้าก็ออกแนวชื่นชมนับถืออยู่ตลอดเวลา แต่ทำไมเวลาเจอกันถึงไม่พูดกันดีๆนะ
“งั้นนายก็อย่าเป็นอันธพาลสิ”
“ไม่ได้หรอกคนๆนั้นต้องได้รับสิ่งตอบแทนที่เค้าทำ”
“งี้เง่า ฉันไม่เห็นเข้าใจอะไรกับการแก้แคนบ้าบอของนายเลยสักนิด”ฉันตวาดออกไป
“คนโลกสวยแบบเธอไม่มีวันเข้าใจหรอกฟาง”หมอนั่นตะโกนเสียงดังกลับ
“แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันจะไม่เข้าใจ เอาแต่ปิดกั้นตัวเองอยู่กับความแค้นที่นายสร้างขึ้นมา นายไม่คิดบ้างหรอว่าพี่นายพ่อนายเค้าเป็นห่วงนายแค่ไหน หรืออย่างน้อยนายก็ควรจะห่วงตัวเองบ้าง”
“คนอย่างฉันจะมีใครมาห่วง”
“ก็ฉันไงล่ะเด็กโง่”ฉันตะโกนออกไปอย่างเหลืออด แม้ว่าเราจะไม่สนิทกันแต่สำหรับฉันแล้วฉันไม่อาจปล่อยให้คนรอบตัวที่ฉันรู้จักมีความทุกข์ได้หรอก หมอนี่จมอยู่กับความทุกข์อย่างนี้ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ
“เธอเป็นห่วงฉันจริงๆหรอ”หมอนั่นถาม
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ ถ้ายังไม่ออกไปก็เงียบฉันจะนอน”ฉันหันไปพูดกับปริ๊นอีกทีนึงก่อนที่จะลุกขึ้นไปเก็บหมอนที่ตัวเองปาออกไปมาหนุนหัวนอน บ้างทีการนอนก็ช่วยให้อารมณ์เย็นลงขึ้นเยอะเลย
12.00น.
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้างุนงงกลิ่นอาหารหอมฉุยลอยมาตรงหน้า ใครเอาอาหารเข้ามาเนี่ย
“ตื่นแล้วหรอยัยขี้เซา”ปริ๊นที่กำลังแกะข้าวต้มปลาหันมาถามอย่างอารมณ์ดี
“ขี้เซาอะไรย่ะ คนป่วยเค้าก็นอนพักกันทั้งนั้นแหละ”
“เธอไม่ป่วยเธอก็นอน”
“นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบนอน”ฉันเอียงคอด้วยความงุนงงนิดๆ
“แล้วใครจะไม่รู้บ้างล่ะว่าเจ้าหญิงนิทราชอบนอน”ปริ๊นวางข้าวต้มตรงหน้าแล้ว จิ้มหน้าผากฉันเบาๆ
“เจ้าหญิงนิทราชอบนอนหรอ”ฉันถามกลับ ในขณะที่ปากก็เคี้ยวข้าวต้มไปด้วย
“เชื่อเขาเลยขนาดฉายาตัวเองก็ยังไม่รู้”ปริ๊นส่ายหน้าแบบเอือม
“ชีวิตฉันรู้อยู่สองอย่างนั้นแหละคือกินกับนอน อ่อแล้วก็ร้องเพลงด้วย”ฉันตอบ
“แปลกคน”
“แล้วไงย่ะ”นี่ถ้าไม่เห็นว่าเอาข้าวต้มกุ้งมาให้ฉันยกข้าวต้มราดเค้าไปแล้วนะเนี่ย
“เธอดูมีความสุขดีจังเนอะ พ่อแม่เธอคงรักเธอมาก”
“ใครจะรักเราหรือเปล่าฉันว่ามันไม่สำคัญ แต่มันอยู่ที่ว่าเรารักตัวเองหรือเปล่า”
“ฉันเออไม่รู้สิ รักตัวเองงั้นหรอ”
“อืม แค่นายลองรักตัวเองแล้วแบ่งความรักของนายให้คนอื่นๆฉันเชื่อว่านายจะมีความสุขนะปริ๊น”
“พูดจาเหมือนคนแก่”
“นี่ๆยังไงฉันก็เป็นพี่สาวนายตั้งหลายปี ความคิดเรามันห่างกันเยอะไอ้หนู”
“นั่นแหละที่เค้าเรียกว่าแก่”
“ไอ้เด็กปากเสีย”
“แล้วไงครับ”ปริ๊นพูดแล้วแลบลิ้นกลับ เมื่อกี้มันคำพุดฉันนี่นา
“ไอ้เด็กขี้ลอกเลียกแบบ”
“ฉันไม่ได้เลียนแบบซะหน่อย ฉันคงไม่ทำให้ตัวเองดูอุบาทว์ด้วยการพูดคำว่าย่ะหรอก”
“นายนี่มัน อ่อแล้วนายไม่กินข้าวกลางวันหรอ”ฉันถามเห็นหมอนั่นซื้อมาแค่ถุงเดียวนี่นา
“ฉันกินกาแฟ”หมอนั่นพุดแล้วชูซองกาแฟที่กำลังเตรียมชง
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดกินกาแฟ”
“ทำไมชอบพูดว่าฉันเด็กอยู่ตลอดเลยนะ”
“ตอกย้ำความแก่ของตัวเองเล่น”ฉันหันไปตอบ
“555+”หมอนั่นหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เวลานายหัวเราะแบบนี้น่ารักดีนะ”
“ไม่เท่าเธอหรอกหน่า”ปริ๊นพูดเบาๆ
“กลับไปเรียนได้แล้วไป”ฉันพูด
“เธอไล่ฉันอีกแล้วนะ”
“เปล่า ฉันแค่ไม่อยากให้นายคาดเรียนพร่ำเพื่อ”
“อืม งั้นฉันไปเรียนก็ได้”หมอนั่นพยักหน้า แล้วหันไปเก็บของ
“ว่าง่ายแบบนี้ก็ดีสิน้องชาย”ฉันพูดยิ้ม ในขณะที่หมอนั่นกำลังเปิดประตูห้องออกไป
“อย่ายิ้มแบบนี้สิ มันทำให้ฉันไม่อยากให้เธอเป็นแค่พี่สาวแล้วนะ”ปริ๊นบ่นกับตัวเองในขณะที่กำลังเดินออกจากโรงพยาบาลเขาไม่เคยมีความสุขขนาดนี้เลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ