สี่หัวใจลุ้นรักให้ลงล็อค
10.0
2) วันแรกของการพบกัน 50%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“จะบ้าหรือ” “ใครจะบ้าให้นายมากอดฉัน” “กันงะ” “ผมอุตส่าห์คิดว่า” “คุณอยากให้ผมกอด” “อี๋” และแล้วหญิงสาวก็นึกขึ้นได้ สาวร่างระหงจึงลุกขึ้นจากอ้อมแขนของคนตัวโต “ยัยนัท” มีนารัตน์เรียกเพื่อนสาว “ไอ้กร” ระหว่างที่กฤษณะเรียกเพื่อนหนุ่ม ไม่ทันระวังชายหนุ่มก็ดันไปชนหญิงสาว ที่กำลังเรียกเพื่อน “ขอโทษคะ/คับ”
“คุณเจ็บตรงไหนบ้างคับ” “ไม่คะ” “มาคับผมช่วยพยุงคับ” ไม่ทันระวังร่างบ้างเซลงมาทับชายหนุ่ม ขณะในสายตาทั้งคู่ประสานกัน จนกระทั่งพานัจเรียกเพื่อนสาวซะก่อน “ยัยมีนา” เป็นเวลาที่ชลกรเรียกเพื่อนเหมือนกัน จนทั้งสองคนแยกจากกัน กฤษณะพูดพลางขอโทษร่างบางอีกครั้ง ในที่สุดพวกเขาหันมามองสบตากัน
“น้องมีนา” “คะ”
“พี่นะ” “เองหรือคะ”
“คับ” “น้องมีนา”
“เมื่อตะกี้พี่ไม่ทันระวัง”
“ก็เลยทำให้เกิดอุบัติเหตุ” “มีนาเองก็เหมือนกันคะ” “ลูกพี่” “คับ”
“มีอะไรหรือไอ้โจ๊ก” “ตกลงลูกพี่ไม่ห่วงคุณมีนาเหรอคับ” “จะไปห่วงทำไม” “ไอ้โจ๊ก”
“ในเมื่อไอ้พี่นะนั้นเขาเป็นพี่ชายข้างบ้านของยัยมีนาเขา” “จริงด้วยลูกพี่”
“ผมลืมไป” “ขอโทษนะ”
“ไม่ทราบว่านัทมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”
“ใช่” เสียงชลกรแทรกเข้ามาอีกคน
“นี่นายโรคจิต”
“ใครสั่งให้นายพูดตามฉันงะ” “นี่คุณ” “ผมไม่ได้พูดตามคุณซะหน่อย” “นายอย่ามาเถียงข้างๆคูๆนะ” “นี่” “คุณ” “ผมนะคิดเองได้พูดเองได้” “ไม่จำเป็นต้องพูดตามคุณ” “ไม่จริงงะ” “นายอย่ามาแก้ตัวเลยดีกว่า” “ นี่คุณผมนะไม่อยากเสียเวลากับคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างคุณ” “นี่นายว่าฉันเหรอ” “เปล่านะคุณ” “ผมยังไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย” “คุณนะร้อนตัวเอง” “นาย” “ผม ชลกร คับ” “ไม่ได้ชื่อนาย”
“นี่ ตกลงนายจะกวนโอ้ยฉันใช่มั้ย” “เปล่านะคุณ” ชายหนุ่มพูดจาทำหน้าตากวนใส่หญิงสาว ยิ่งทำให้สาวร่างระหงยิ่งอารมณ์ครุกครุ่นเข้าไปใหญ่
“นี่นายกล้าทำหน้ากวนใส่ฉันเหรอ” “ดีถ้างั้น” “นี่เลย” พานัจกำลังปล่อยหมัดเข้าใส่ชายหนุ่ม ทั้งกฤษณะและมีนารัตน์เห็นท่าไม่ดี จึงเข้าไปห้ามหญิงสาวร่างระหง โดยที่มีนารัตน์เข้าไปเรียกเพื่อนสาว
“ยัยนัท” “ฉันว่าแก่พอเถอะ”
“ใช่ไอ้กร” “แก่อย่ามีเรื่องกับน้องเขาเลย” “นัทพอเถอะนะ” “พี่เขาแค่พูดแหย่แก่นิดหน่อยเอง” “นิดหน่อยเหรอ” “ยังนี้มันไม่นิดหน่อยแล้ว” “แล้วนะยัยมีนา” “พี่ขอโทษแทนไอ้กรด้วยนะน้องนัท” “เอานะนัท” “พี่นะเขาขอโทษแล้วแก่แล้ว” “ว่าไง” “ก็ได้” “เขาว่าอย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา” หญิงสาวร่างระหงพูดจากระทบใส่ชลกร แทนที่ชลกรจะโกรธหญิงสาวเขากลับทำหน้ายิ้มระรื่น ชายหนุ่มจึงตอบกลับหญิงสาวไปว่า “ผมจะถือว่าเป็นคำชม” “แล้วกันนะคับ” “ชมบ้าชมบออะไรกันละ” “นี่ฉันกำลังด่านายอยู่นะ” “เหรอคับ” “ไอ้บ้า” หญิงสาวร่งระหงยิ่งโกรธชายหนุ่ม “พอกันทั้งคู่เลย” กฤษณะเป็นคนพูด “โอ้ย.... หิวซะมัดเลยว่ะ” “ไอ้โจ๊ก” “ของละนี่คับ” “ลูกพี่” “คิดตังค์เถอะ” จนกระทั่งชลกรและกฤษณะก็เอาของมาวางไว้ข้างๆของพวกพานัจ “ทั้งหมดเท่าไหร่คะ” พานัจเป็นคนถาม “ทั้งหมด” ไม่ทันที่พนักงานในเซเว่นจะตอบ คนตัวโตจึงพูดแทรกเสียก่อน “คิดรวมเลยคับ” ชายหนุ่มพูดพลางแถมส่งสายตาให้พนักงานสาวเซเว่นใจละลาย ทำให้หญิงสาวร่างระหงโกรธจนหน้าแดงและหญิงสาวบ่นในใจ “อี่” “คิดว่าตัวเองหล่อตายแหละ” “เมื่อตะกี้คุณบ่นงึมงำอะไรคนเดียว” เปล่านี่” “ไม่ได้บ่นอะไร” “ทั้งหมดคิดรวมเป็นเงิน 750บาท” คนตัวโตจึงลวงกางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบบัตรเป็นVcardไว้สำหรับสะสมแต้ม “นี่คับ” พนักงานรับบัตรมาพร้อมกับคีย์การด์ “นี่คะ” พนักงานส่งบัตรคืน “คุณสะสมได้แต้มเยอะ” “คุณจะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ” “อย่างเช่นพวกขนมอะไรมั้ยคะ” “อ่อ” “คุณจะเอาอะไรเพิ่มมั้ย” “ไม่” “ไม่รับคับ” “ขอบคุณนะ” “โอกาสหน้ามาอุดหนุนมั้ยนะคะ” “ไปกันเถอะ” “ไอ้นะ” “นายโรคจิต” “เดี่ยวก่อน” “เอาเงินของนายคืนไป” “ค่าอะไรคับ” “ค่าของที่นายจ่ายให้ฉัน” “เพราะฉะนั้นเอาคืนไปซะ” หญิงสาวร่างระหงเอาเงินยัดใส่มือของคนตัวโต “ไม่เป็นไรคับ” “แต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้นาย” “ไม่คับ” “เอาไปซิ” “ไม่คับ” “เอาคืนไป” สองหนุ่มสาวเถียงกันไปกันมาจนทำให้คนกลางกฤษณะจึงตัดสินใจแทน “เอาเป็นว่าแก่ก็รับเงินน้องเขาไปเถอะ” “ไม่” “ยังไงฉันก็ไม่ยอม” มีนารัตน์เห็นจนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจว่า “ยัยนัท” “ในเมื่อพี่เขาไม่รับแก่ไม่ต้องฝืน” “ว่าไง” “ลูกพี่คับรีบๆตัดสินใจเถอะคับ” “ป่านนี้พวกคุณตามารอลูกพี่แล้ว” “จริงด้วย” “ฉันลืมไปเลย” “ตกลงจะรับไม่รับ” “ไม่คับ” “ดีเหมือนกัน” “จะได้ไม่เปลือง” “เรารีบกลับไปที่มหาวิทยาลัยเถอะ” “ลาละคะพี่นะ” “คับ” “น้องมีนา” พานัจรีบเดินจ้ำเอาจูงมือพาเพื่อนสาวและไอ้โจ๊กออกไปสร้างความเอ็นดูขบขันในสายตาของชลกร “นี่นัทแก่จะรีบเดินไปไหนกัน” “ก็รีบไปนั้งรอคุณหญิงทั้งสองนะซิ” “ไม่รู้ว่าเสด็จมากันแล้วยัง” “จริงด้วย” “ฉันเกือบลืมไปเลย” พวกสาวๆเดินไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงที่นั่งประจำของกลุ่ม “นั่งรอพวกนี่ก่อน” ระหว่างนั้นพวกเขานั่งรอไปพลางและกินไปพลาง
“ไอ้กร” “มีอะไร” “ทำไมแก่ถึงได้กวนน้องนัทมากนักนะ” “ก็พานัจนะปากจัดแถมยังแสบอีกต่างหาก” “ผู้หญิงอะไรวะ” “ทำตัวเป็นผู้ชาย” “นี่น้องนัทนะเขาห้าวหาญเกินหญิงต่างหากละไอ้กร” “ฉันว่าเราไปรอไอ้พีกับไอ้โตดีกว่า” “อย่ามั่วพูดถึงพานัจอยู่เลย” ในที่สุดพวกชายหนุ่มก็มาถึงมหาวิทยาลัยและเข้ามานั่งโต๊ะไม้หินอ่อนซึ่งอยู่ข้างๆกับโต๊ะไม้หินอ่อนกับพวกสาวๆ
“ยัยนัท” “ว่าไง” “ทำไมแก่ถึงไปว่าพี่เขาแบบนั้นละ” “ใครละ” “ก็เพื่อนพี่นะไงละ” “อ๋อ” “ไอ้นายโรคจิตนั้นนะเหรอ” “ก็หมอนั้นมันฉวยโอกาสฉันจริงๆนี่” “แต่ที่ฉันเห็นมันเป็นอุบัติเหตุ” “ก็ใช่นะ” “แต่นี้มันเป็นจูบแรกของฉันเลยนะ” “ยัยมีนา” “ชาตินี้ทั้งชาติฉันจะไม่ยอมญาติดีกับนายนั้นแน่” สาวร่างระหงได้แต่คิดแค้นในใจ ส่วนชลกรยังนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เมื่อนึกถึงใบหน้าเรียว จมูกโด่ง และกลิ่นกายหญิงสาวหอมเหมือนลูกอมมายมินต์ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตอนที่ปากมาประกบปากกัน และเวลาหญิงสาวโกรธและค้อนดูน่ารัก “ผู้หญิงอะไรวะ” “ยิ่งโกรธยิ่งน่ารัก” “น่ารักจริงๆเลย” “Dream girl” “ของผม” “แก่เป็นอะไรไปว่ะ” “ทำหน้าซะเคลิ้มเชียว”
กฤษณะเองกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเมื่อนึกถึงใบหน้าแสนหวานของรุ่นน้องสาวแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
“เป็นอะไรวะ” “ฉันเห็นแก่ยิ้มตั้งนานสองนานอะไรกันที่ทำให้จอมเย็นชายังนายยิ้มได้ว่ะ” “ไอ้เสือยิ้มยาก” “แก่ก็ลองเดาเอาเองซิ” “ถ้าฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี่ใช่มั้ย” “อืม” “ถ้างั้นแก่คงยิ้มที่ว่าได้อยู่ใกล้น้องอะไรนั้น” “รู้สึกว่าเป็นเพื่อนกับพานัจ” คนตัวโตเรียกชื่อหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“คุณเจ็บตรงไหนบ้างคับ” “ไม่คะ” “มาคับผมช่วยพยุงคับ” ไม่ทันระวังร่างบ้างเซลงมาทับชายหนุ่ม ขณะในสายตาทั้งคู่ประสานกัน จนกระทั่งพานัจเรียกเพื่อนสาวซะก่อน “ยัยมีนา” เป็นเวลาที่ชลกรเรียกเพื่อนเหมือนกัน จนทั้งสองคนแยกจากกัน กฤษณะพูดพลางขอโทษร่างบางอีกครั้ง ในที่สุดพวกเขาหันมามองสบตากัน
“น้องมีนา” “คะ”
“พี่นะ” “เองหรือคะ”
“คับ” “น้องมีนา”
“เมื่อตะกี้พี่ไม่ทันระวัง”
“ก็เลยทำให้เกิดอุบัติเหตุ” “มีนาเองก็เหมือนกันคะ” “ลูกพี่” “คับ”
“มีอะไรหรือไอ้โจ๊ก” “ตกลงลูกพี่ไม่ห่วงคุณมีนาเหรอคับ” “จะไปห่วงทำไม” “ไอ้โจ๊ก”
“ในเมื่อไอ้พี่นะนั้นเขาเป็นพี่ชายข้างบ้านของยัยมีนาเขา” “จริงด้วยลูกพี่”
“ผมลืมไป” “ขอโทษนะ”
“ไม่ทราบว่านัทมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”
“ใช่” เสียงชลกรแทรกเข้ามาอีกคน
“นี่นายโรคจิต”
“ใครสั่งให้นายพูดตามฉันงะ” “นี่คุณ” “ผมไม่ได้พูดตามคุณซะหน่อย” “นายอย่ามาเถียงข้างๆคูๆนะ” “นี่” “คุณ” “ผมนะคิดเองได้พูดเองได้” “ไม่จำเป็นต้องพูดตามคุณ” “ไม่จริงงะ” “นายอย่ามาแก้ตัวเลยดีกว่า” “ นี่คุณผมนะไม่อยากเสียเวลากับคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างคุณ” “นี่นายว่าฉันเหรอ” “เปล่านะคุณ” “ผมยังไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย” “คุณนะร้อนตัวเอง” “นาย” “ผม ชลกร คับ” “ไม่ได้ชื่อนาย”
“นี่ ตกลงนายจะกวนโอ้ยฉันใช่มั้ย” “เปล่านะคุณ” ชายหนุ่มพูดจาทำหน้าตากวนใส่หญิงสาว ยิ่งทำให้สาวร่างระหงยิ่งอารมณ์ครุกครุ่นเข้าไปใหญ่
“นี่นายกล้าทำหน้ากวนใส่ฉันเหรอ” “ดีถ้างั้น” “นี่เลย” พานัจกำลังปล่อยหมัดเข้าใส่ชายหนุ่ม ทั้งกฤษณะและมีนารัตน์เห็นท่าไม่ดี จึงเข้าไปห้ามหญิงสาวร่างระหง โดยที่มีนารัตน์เข้าไปเรียกเพื่อนสาว
“ยัยนัท” “ฉันว่าแก่พอเถอะ”
“ใช่ไอ้กร” “แก่อย่ามีเรื่องกับน้องเขาเลย” “นัทพอเถอะนะ” “พี่เขาแค่พูดแหย่แก่นิดหน่อยเอง” “นิดหน่อยเหรอ” “ยังนี้มันไม่นิดหน่อยแล้ว” “แล้วนะยัยมีนา” “พี่ขอโทษแทนไอ้กรด้วยนะน้องนัท” “เอานะนัท” “พี่นะเขาขอโทษแล้วแก่แล้ว” “ว่าไง” “ก็ได้” “เขาว่าอย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา” หญิงสาวร่างระหงพูดจากระทบใส่ชลกร แทนที่ชลกรจะโกรธหญิงสาวเขากลับทำหน้ายิ้มระรื่น ชายหนุ่มจึงตอบกลับหญิงสาวไปว่า “ผมจะถือว่าเป็นคำชม” “แล้วกันนะคับ” “ชมบ้าชมบออะไรกันละ” “นี่ฉันกำลังด่านายอยู่นะ” “เหรอคับ” “ไอ้บ้า” หญิงสาวร่งระหงยิ่งโกรธชายหนุ่ม “พอกันทั้งคู่เลย” กฤษณะเป็นคนพูด “โอ้ย.... หิวซะมัดเลยว่ะ” “ไอ้โจ๊ก” “ของละนี่คับ” “ลูกพี่” “คิดตังค์เถอะ” จนกระทั่งชลกรและกฤษณะก็เอาของมาวางไว้ข้างๆของพวกพานัจ “ทั้งหมดเท่าไหร่คะ” พานัจเป็นคนถาม “ทั้งหมด” ไม่ทันที่พนักงานในเซเว่นจะตอบ คนตัวโตจึงพูดแทรกเสียก่อน “คิดรวมเลยคับ” ชายหนุ่มพูดพลางแถมส่งสายตาให้พนักงานสาวเซเว่นใจละลาย ทำให้หญิงสาวร่างระหงโกรธจนหน้าแดงและหญิงสาวบ่นในใจ “อี่” “คิดว่าตัวเองหล่อตายแหละ” “เมื่อตะกี้คุณบ่นงึมงำอะไรคนเดียว” เปล่านี่” “ไม่ได้บ่นอะไร” “ทั้งหมดคิดรวมเป็นเงิน 750บาท” คนตัวโตจึงลวงกางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบบัตรเป็นVcardไว้สำหรับสะสมแต้ม “นี่คับ” พนักงานรับบัตรมาพร้อมกับคีย์การด์ “นี่คะ” พนักงานส่งบัตรคืน “คุณสะสมได้แต้มเยอะ” “คุณจะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ” “อย่างเช่นพวกขนมอะไรมั้ยคะ” “อ่อ” “คุณจะเอาอะไรเพิ่มมั้ย” “ไม่” “ไม่รับคับ” “ขอบคุณนะ” “โอกาสหน้ามาอุดหนุนมั้ยนะคะ” “ไปกันเถอะ” “ไอ้นะ” “นายโรคจิต” “เดี่ยวก่อน” “เอาเงินของนายคืนไป” “ค่าอะไรคับ” “ค่าของที่นายจ่ายให้ฉัน” “เพราะฉะนั้นเอาคืนไปซะ” หญิงสาวร่างระหงเอาเงินยัดใส่มือของคนตัวโต “ไม่เป็นไรคับ” “แต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้นาย” “ไม่คับ” “เอาไปซิ” “ไม่คับ” “เอาคืนไป” สองหนุ่มสาวเถียงกันไปกันมาจนทำให้คนกลางกฤษณะจึงตัดสินใจแทน “เอาเป็นว่าแก่ก็รับเงินน้องเขาไปเถอะ” “ไม่” “ยังไงฉันก็ไม่ยอม” มีนารัตน์เห็นจนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจว่า “ยัยนัท” “ในเมื่อพี่เขาไม่รับแก่ไม่ต้องฝืน” “ว่าไง” “ลูกพี่คับรีบๆตัดสินใจเถอะคับ” “ป่านนี้พวกคุณตามารอลูกพี่แล้ว” “จริงด้วย” “ฉันลืมไปเลย” “ตกลงจะรับไม่รับ” “ไม่คับ” “ดีเหมือนกัน” “จะได้ไม่เปลือง” “เรารีบกลับไปที่มหาวิทยาลัยเถอะ” “ลาละคะพี่นะ” “คับ” “น้องมีนา” พานัจรีบเดินจ้ำเอาจูงมือพาเพื่อนสาวและไอ้โจ๊กออกไปสร้างความเอ็นดูขบขันในสายตาของชลกร “นี่นัทแก่จะรีบเดินไปไหนกัน” “ก็รีบไปนั้งรอคุณหญิงทั้งสองนะซิ” “ไม่รู้ว่าเสด็จมากันแล้วยัง” “จริงด้วย” “ฉันเกือบลืมไปเลย” พวกสาวๆเดินไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงที่นั่งประจำของกลุ่ม “นั่งรอพวกนี่ก่อน” ระหว่างนั้นพวกเขานั่งรอไปพลางและกินไปพลาง
“ไอ้กร” “มีอะไร” “ทำไมแก่ถึงได้กวนน้องนัทมากนักนะ” “ก็พานัจนะปากจัดแถมยังแสบอีกต่างหาก” “ผู้หญิงอะไรวะ” “ทำตัวเป็นผู้ชาย” “นี่น้องนัทนะเขาห้าวหาญเกินหญิงต่างหากละไอ้กร” “ฉันว่าเราไปรอไอ้พีกับไอ้โตดีกว่า” “อย่ามั่วพูดถึงพานัจอยู่เลย” ในที่สุดพวกชายหนุ่มก็มาถึงมหาวิทยาลัยและเข้ามานั่งโต๊ะไม้หินอ่อนซึ่งอยู่ข้างๆกับโต๊ะไม้หินอ่อนกับพวกสาวๆ
“ยัยนัท” “ว่าไง” “ทำไมแก่ถึงไปว่าพี่เขาแบบนั้นละ” “ใครละ” “ก็เพื่อนพี่นะไงละ” “อ๋อ” “ไอ้นายโรคจิตนั้นนะเหรอ” “ก็หมอนั้นมันฉวยโอกาสฉันจริงๆนี่” “แต่ที่ฉันเห็นมันเป็นอุบัติเหตุ” “ก็ใช่นะ” “แต่นี้มันเป็นจูบแรกของฉันเลยนะ” “ยัยมีนา” “ชาตินี้ทั้งชาติฉันจะไม่ยอมญาติดีกับนายนั้นแน่” สาวร่างระหงได้แต่คิดแค้นในใจ ส่วนชลกรยังนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เมื่อนึกถึงใบหน้าเรียว จมูกโด่ง และกลิ่นกายหญิงสาวหอมเหมือนลูกอมมายมินต์ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตอนที่ปากมาประกบปากกัน และเวลาหญิงสาวโกรธและค้อนดูน่ารัก “ผู้หญิงอะไรวะ” “ยิ่งโกรธยิ่งน่ารัก” “น่ารักจริงๆเลย” “Dream girl” “ของผม” “แก่เป็นอะไรไปว่ะ” “ทำหน้าซะเคลิ้มเชียว”
กฤษณะเองกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานเมื่อนึกถึงใบหน้าแสนหวานของรุ่นน้องสาวแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
“เป็นอะไรวะ” “ฉันเห็นแก่ยิ้มตั้งนานสองนานอะไรกันที่ทำให้จอมเย็นชายังนายยิ้มได้ว่ะ” “ไอ้เสือยิ้มยาก” “แก่ก็ลองเดาเอาเองซิ” “ถ้าฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี่ใช่มั้ย” “อืม” “ถ้างั้นแก่คงยิ้มที่ว่าได้อยู่ใกล้น้องอะไรนั้น” “รู้สึกว่าเป็นเพื่อนกับพานัจ” คนตัวโตเรียกชื่อหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ