Chick Loveable คลิ๊กรัก ห้ามใจยังไงไม่ให้ love you

8.3

เขียนโดย sweetza

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 13.58 น.

  10 ตอน
  152 วิจารณ์
  20.46K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) Chapter...4...[ดูตัว]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หนุ่มร่างสูงเลี้ยวรถตามรถคันหน้าไปอย่างตั้งอกตั้งใจไม่ให้คลาดสายตา เมื่อรถคันหน้าหยุดนิ่งที่ร้านรองเท้าร้านหนึ่ง เขาก็จอดรถใกล้ๆแล้วมองดูสองร่างกำลังเลือกรองเท้ากันอยู่ เขามองหน้าเด็กสาวร่างสูงนั่นแล้วดูมีความสุขเสียจริงๆที่ได้อยู่ใกล้ร่างสูงโปร่งคนนั้น เขาเห็นแล้วมันช่างขัดลูกตาจริงๆ

 

“ใส่คู่นี้แล้วเป็นไงบ้างแก้ว” ร่างสูงมองน้องสาวของตัวเองที่กำลังลองรองเท้าคู่หนึ่งอยู่

“ก็โอเคอ่ะเฮีย แต่มันยังสูงอยู่ แก้วขอลองคู่นี้นะ” ว่าแล้วสาวร่างสูงก็หยิบรองเท้าจากชั้นวางใกล้ๆมือมาลองสวมเท้าดู

“ตกลงเอาอันนี้ใช่มั้ย”

“ค่ะเฮีย เอาคู่นี้แหละ สวมไปเลยนะคะ” แก้วหันไปบอกพนักงานที่ร้าน แล้วเฮียก็จัดการจ่ายเงินทันที ก่อนจะขึ้นรถไปจนถึงที่บ้าน

“ว้าว! ลูกสาวแม่สวยจังเลย” แม่เดินเข้ามากอดลูกสาวอย่าชื่นชม

“อายนะแม่ แก้วใส่ชุดแบบนี้แล้วมันดูตลกยังไงไม่รู้อ่ะ” แก้วพูดอย่างไม่เชื่อมั่นในตัวเองสักเท่าไหร่

“ไม่ต้องอายจ้าลูกสาว เอ้า! ตาป๊อปไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว”

“ครับแม่”

 

“สองคนนั้นเป็นอะไรกันแน่นะ ทำไมถึงได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน” ชายหนุ่มที่ติดตามมานั่งในรถครุ่นคิดถึงเรื่องของแก้วกับป๊อปปี้เป็นอย่างมาก แต่เขาก็เลี้ยวรถออกมาจากในซอยบ้านของแก้วซะก่อน เพราะคืนนี้ต้องมีงานเลี้ยงของลูกค้าคนหนึ่งที่ต้องไปแทนพ่อของตัวเอง เขาเกือบลืมมันไปซะแล้ว และคงไม่ลืมที่จะเอาน้องสาวไปด้วย เพราะฟางเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมได้ดี ถ้าให้เขาไปคนเดียวมีหวังไม่พูดกับใครทั้งงานเป็นแน่

 

“เพี้ยนออกรถ” ประธานบริษัทจิระคุณสั่งคนขับรถในทันทีที่เข้ามานั่งครบพร้อมทั้งครอบครัว ดูคุณหญิงของบ้านจะยิ้มอย่างมีความสุขซะจริงๆ เฮ้อ! แต่แก้วกลับเบื่อที่ต้องทนเห็นคนในสังคมไฮโซที่ต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน

“เป้นอะไรยัยแก้วปวดอึหรือไง” ป๊อปปี้ที่นั่งข้างๆแก้วกระซิบถามน้องสาวเบาๆ

“เปล่าอ่ะเฮีย แก้วเซ็งอยากกลับไปนอนตีโป่งที่บ้าน” แก้วว่าพลางเท้าคางไปด้วย

“ไม่ยอมโตซะทีนะเรา ก็เพราะแบบนี้ไงพี่เลยไม่อยากให้แม่พาแก้วไปดูตัวเลย” ป๊อปปี้ว่าพลางลูบหัวแก้วเบาๆ แก้วเลยหันไปกอดพี่ชายตัวเองไปพลาง

“เฮียทำไงดีแก้วไม่อยากดูตัวอ่ะ” แก้วทำสีหน้าอ้อนวอนป๊อปปี้

“ไม่ต้องห่วง เฮียจะพยายามช่วยนะ”

สองพี่น้องถึงแล้วนะลูกลงได้แล้ว” ผู้เป็นแม่ลงไปยืนอยู่นอกรถแล้วเรียกลูกทั้งสองให้ลงรถ

ที่หน้าโรงแรมสุดหรูระดับหน้าดาวแห่งหนึ่ง หน้าโรงแรมถูกประดับด้วยดอกไม้นานาชนิดรวมถึงโคมไฟสีส้มนวลทั่วทั้งโรงแรม ทางเดินปูด้วยพรมแดงทั่วไปหมด มองไปทางไหนก็สวยงามจริงๆ

“อ้าว! สวัสดีครับคุณอนุชา คุณมณีแก้ว” เจ้าของในงานเอ่ยทักทายพ่อกับแม่ของแก้วกับป๊อปปี้

“ครับคุณสุข สบายดีนะครับ” พ่อทักทายด้วยท่าทียิ้มแย้มรวมทั้งแม่ด้วย

“สบายดีครับ ขอบคุณที่มางานนะครับ เชิญด้านในครับ เชิญครับ เต็มที่เลยนะครับ ฮ่าๆๆ” ทั้งสามคนพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ เจ้าของในงานก็เชิญเข้าไปด้านใน ครอบครัวเรานั่งทานที่โต๊ะติดริมกระจกที่เห็นบรรยากาศด้านนอกได้สบาย ทิวทัศน์ของกรุงเทพยามค่ำคืนนี่สวยงามจริงๆเลย

“แก้วไปตักอาหารกัน” พี่ชายเอ่ยบอกน้องสาว จากนั้นทั้งสองก็ลุกไปด้วยกัน แล้วตักอาหารชิ้นนั้นชิ้นนี้ไปจนเกือบล้นมือ เธอไม่ลืมที่จะเอาไปให้พ่อกับแม่ก่อนแล้วกลับมาตักให้ตัวเองอีกครั้ง

“แก้ว!!!”

“อ้าว! พี่ฟาง มางานนี้ด้วยเหรอคะ?” แก้วหันไปมองงรุ่นพี่สาวในชุดราตรีสีขาวนวลยาวเหนือเข่า ดูเซ็กซี่มากๆ ส่วนผมก็ทำลอนยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าหวานก็มีสีสันที่ดูยังไงก็สวยซะเหลือเกิน

“จ้า พี่มาเป็นเพื่อนพี่โทโมะน่ะ” สาวร่างเล็กตอบ แล้วหันไปตักอันนั้นอันนี้ให้แก้ว

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ฟาง เดี๋ยวแก้วตักเอง”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้า” ฟางยิ้มหวานอย่างน่ารักก่อนจะหันไปเจอแขกที่รู้จักกันก็เข้าไปทักทาย

“พี่ฟางคะ รู้จักเหรอคะ”

“อ้อ ลูกค้าของพ่อพี่นะจ้า เอ่อ แก้วจ้าพี่วานหน่อยนะเอาจานนี้ไปให้พี่โทโมะแทนพี่หน่อยนะ” ไม่ว่าเปล่าฟางยัดจานใส่มือแก้ว แล้วเดินไปกับลูกคนคนนั้นอย่างเร็ว เฮ้ย! อะไรเนี่ย! แก้วถือจานที่เต็มไปด้วยผัก ผัก ผัก แล้วก็ผัก เอาไปให้โทโมะ ว่าแต่นั่งไหนอ่ะ -_-?

ลองพยายามหาดูแล้วกัน คนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นี่นา แก้วกวายสายตามองไปรอบๆงาน แน่นอนว่าพี่ชายของฟางต้องโดเด่นไม่แพ้ใครแน่ๆทั้งหน้าตา ผิวพรรณ รวมทั้งท่าทางที่ดูสุขุม เงียบๆและสายตาอันเย็นชา อ๊ะ! นั่นไงเจอแล้ว ไปนั่งซะไกลอาหารเลยนะยะ

ฉันพยายามเดินลัดเลาะผู้คนเข้าไปหา จนในที่สุดก็ถึงตัว สายตาของร่างสูงนั่นจ้องเธออีกแล้ว จ้องไม่กระพริบเลยด้วย เอาไงดีใจเต้น มือสั่นอีกแล้ว >O<

“สลัดค่ะพี่ฟางวานแก้วเอามาให้” ฉันวางสลัดลงตรงหน้าร่างสูงที่กำลังนั่งกอดอกอยู่ รีบไปดีกว่า อยู่ทำบ้าอะไร?

หมับ!!!

“เดี๋ยว” ร่างสูงรั้งข้อมือสาวหน้าหวานไว้

“อะไรคะ”

“ฉันไม่กินสลัด” เรื่องมากจริงๆ

“ไม่กินก็เรื่องของคุณค่ะ น้องสาวคุณสั่งเอามาให้ ฉันมีหน้าที่แค่เอามาให้” ฉันว่าพลางพยายามสลัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขา

“ว้าย!!!” ฉันโดนคนร่างสูงดึงเข้าไปหาตัวเขาจนนั่งอยู่บนตักเขา

“ปากเก่งนักนะ” ไม่ว่าเปล่าเขากอดรัดตัวฉันไว้ยิ่งกว่าปลาหมึกซะอีก

“นี่! ปล่อยนะจะทำอะไรน่ะ”

“ก็เห็นปากเก่งดีนี่ เลยอยากจะลองดูว่าปากเธอน่ะเก่งอย่างเดียวหรือเปล่า”

“นี่คุณอย่านะ ปล่อยฉันสิ ปล่อย!!!” ฉันพยายามเบี่ยงตัวเองไปมาเพื่อให้เขาปล่อย แต่ไร้ประโยชน์เพราะแขนของเขาแกล่งมาก ดิ้นแค่ไหนก็ยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม

“เฮ้ย!!! ทำอะไรยัยแก้วน่ะ!!!” เสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นในโสตประสาทของทั้งสอง

“เฮีย!!!”

“เฮ้ย!”

ผลัวะ!

ป๊อปปี้ต่อยโทโมะจนหน้าหันเลยทำให้ดึงแก้วออกมาจากพันธนาการของเขาได้

“หึ! มีเสี่ยเลี้ยงด้วยแฮะ” โทโมะว่าพลางลูบคลำปากตัวเองที่โดนป๊อปปี้ต่อยไปเมื่อกี้

“แกว่าไงนะ ไอ้เลว”

“พอแล้วเฮีย กลับไปโต๊ะเราดีกว่า เร็ว” ฉันพยายามดึงเฮียให้เดินตามฉันมาจนได้ เพราะรู้ดีว่าถ้าไปต่อปากต่อคำกับโทโมะ มีหวังคืนนี้เธอคงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ และดีอีกอย่างที่งานมีเพลงเปิดค่อนข้างเสียงดังอยู่ ไม่งั้นคนทั้งงานแห่มาดูกันแน่ๆ

“ผู้ชายคนนี้เป็นเสี่ยเลี้ยงยัยนี่สินะ เหอะ! สงสัยรวย ไม่รวยอย่างเดียวหน้าตาก็หล่อซะด้วยสิ” ร่างสูงพูดอย่างโมโห แล้วไม่มีทางที่เขาจะปล่อยแก้วให้เป็นของเสี่ยคนนั้นแน่ๆ ไม่มีใครจะได้ตัวและหัวใจของแก้วไป ยกเว้นเขาคนเดียวเท่านั้น

 

“แก้ว ไปไหนมาตั้งนานสองนาน รู้มั้ยว่าครอบครัวคุณสุขเจ้าของงานเลี้ยงมารอนานแล้วนะ” แม่หันไปดุแก้วที่หย่อนตัวนั่งลงพร้อมๆกับป๊อปปี้ที่ทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวอยู่

“เกิดเรื่องนิดหน่อยครับแม่ ขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ” ป๊อปปี้กล่าวอย่างสุภาพคนเป็นแม่เลยเงียบไป

“เอาล่ะครับ เราก็มากันครบแล้วแนะนำเลยนะครับ นี่ลูกสาวคนเล็กของผมชื่อแก้วครับ” พ่อหันไปยิ้มแย้มให้ชายวัยกลางคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอยู่

“สวยนะครับ ส่วนนี่ลูกชายคนเดียวของผม ชื่อเอี๊ยงครับ” เจ้าของงานเลี้ยงแนะนำลูกชายที่นั่งข้างๆตัวเองขึ้น

“ทักทายสิแก้ว” แม่กระซิบฉันเบาๆ

“อ่ะ ค่ะ สวัสดีค่ะ” แก้วทำหน้าเจื่อนๆเล็กน้อย

“ครับ น้องแก้ว ทั้งสวย ทั้งน่ารักเลยนะครับ” ชายหนุ่งตรงข้ามกับเธอพูดขึ้นและวยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งให้แก้วโดยไม่มีเสแสร้ง

“ขอบคุณนะคะ” แก้วตอบแบบเขินๆ ร้อยวันพันปีไม่มีใครชมเธอนี่นา มันเลยเขินเป็นธรรมดา

“เหอะ! หน้าตาก็หล่อดี ไม่มีคนเอาหรือไง” ป๊อปปี้พูดลอยๆ เลยโดนสายตาของผู้เป็นแม่มองตำหนิ ป๊อปปี้เลยก้มหน้าลง

“ทานข้าวกันเถอะครับ” เจ้าของงานกล่าวชวน แล้วทุกคนก็เริ่มกินกัน คุยกันไป เอี๊ยงทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษมาก ตักชิ้นนั้นชิ้นนี้ให้แก้วตลอด แก้วเองก็ขอบคุณเป็นพัลวันบางครั้งเธอก็ตักให้เอี๊ยงบ้าง ซึ่งสร้างความประทับใจให้บรรดาพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจริงๆ

“ตักเองกลัวเป็นง่อยหรือไงวะ” ป๊อปปี้ยังคงพูดลอยๆ ประชดประชันไปเรื่อยๆด้วยความหมั่นใส้

“เฮีย! อย่าพูดแบบนั้นสิ” แก้วหันไปกระซิบพี่ชายเบาๆ

“ทำไม อย่าบอกนะว่าแกประทับใจมันน่ะ” พี่ชายหันมาขมวดคิ้วใส่น้องสาวอย่างหวง

“ก็ไม่รู้สิ ดูๆไปก่อน” ฉันว่ายิ้มๆ

“เฮ้ย! ไม่ได้นะ” ป๊อปปี้พูดเสียงดัง ทำเอาทุกคนที่กำลังกินอยู่ หยุดชะงักพากันมองหน้าป๊อปปี้

“เป็นอะไรลูก” แม่หันไปถามป๊อปปี้อย่างเป้นห่วง

“เปล่าครับ ขอโทษครับ” แล้วป๊อปปี้ก็ก้มกินข้าวต่อไป

“เอาแล้วไงเฮีย เสียงดังไปได้” ฉันว่าพลางยักคิ้วให้เฮียอย่างกวนประสาท อิอิ ได้แกล้งเฮียเป็นสิ่งที่ฉันถนัดที่สุด ^O^

 

………………………………………………………………………………………………………

ไรเตอร์เริ่มแต่งไร้สาระไปแล้วค่ะ เห่อๆ ไม่รู้จะแต่งไปแนวไหน แต่แบบนี้ก็โอเคนะคะ ไรเตอร์ว่าค่ะ อิอิอิ

 

***เพิ่มเติมตัวนักแสดงนะคะ เอี๊ยง RBB จ้า ^^''

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา