Change in to love…จาก ร้าย กลายเป็น รัก
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ9
ร่างบางกำลังเอนกายลงหลับตาบนที่นอน แต่ภาพที่ร่างสูงกำลังคุยกับน้องสาวต่างพ่อของเธอนั้น ยังติดตาไม่หาย ร่างบางพลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย เหลือบตามองดูนาฬิกาก็เป็นเวลา4ทุ่ม งานเลี้ยงคงกำลังเลิกแล้ว เธอตัดสินใจเดินไปเปิดประตู กะจะออกไปดูร่างสูง แต่เมื่อเปิดประตูออกก็พบร่างสูงกำลังเงื้อมือทำท่าเคาะประตู แต่ร่างบางเปิดเสียออกเสียก่อนทำให้ร่างสูงรีบชักมือกลับทันที
“ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ร่างบางเอ่ยถาม เพราะเห็นว่าร่างสูงสวมเสื้อผ้าเหมือนจะเข้านอน
“พอคุณขึ้นมาผมก็ตามมาเลย” ร่างบางรู้สึกดีเล็กๆ ที่รู้ว่าร่างสูงไม่ได้อยู่คุยกับน้องสาวตนนานสองนาน
“แล้วไม่คุยกับหวายก่อนหรือไง” ร่างบางกล่าวประโยคจบก็เดินหันหลังกลับเข้าห้อง แต่ไม่ได้ปิดประตูเป็นสัญญาณให้ร่างสูงรู้ว่าควรรีบตามมาง้อโดยเร็วที่สุด
“คุยทำไม...คุยกับคุณสนุกกว่าเยอะ”
“เหรอ...คุยกับดาราAVอย่างฉันสนุกกว่าตรงไหน”
“โธ่...มันคืออดีตน่ะ ตอนนั้นผมมันเลว ผมมันไม่ดี” ร่างสูงทำหน้าเว้าวอนเหมือนเด็กทำให้ร่างบางอดขำไม่ได้
“ใช่!! เลว นิสัยไม่ดี เพราะฉะนั้นออกไปได้แล้วค่ะ”
“เราแต่งงานแล้วนะ”
“3เดือน”
“ไม่ได้ เผื่อมีคนเห็น เดี๋ยวคนอื่นจับได้ นอนได้แล้วนะ” ว่าแล้วร่างสูงก็กระโดดขึ้นเตียงทันที
“ไม่ได้ แขกเค้ากลับกันหมดแล้ว ออกไปนะ” ไม่ทันที่ร่างบางจะได้ประทุษร้ายร่างสูง ก็โดนวงแขนกว้างตวัดรัดให้ร่างบางนอนลง โดยเอาขาพาดไว้ที่สะโพกผายอีกด้วย แม้ร่างบางจะรู้สึกขัดใจแต่ลึกๆแล้วกลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ติ๊งงง ติ๊งงง หน่องงง หน่องง ติ๊งงง ติ๊งงง
เสียงรัวกริ่งดังขึ้น ส่งผลให้ร่างบางลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เหลือบตาขึ้นมองดูนาฬิกา พบว่าเป็นเวลา6โมงเช้า เธอจำได้ว่าไม่มีงาน แล้วใครมากดกริ่งหน้าบ้านเช่นนี้ ร่างบางสลึมสลือลุกขึ้น พบร่างสูงนอนหลับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว อยู่ข้างกาย ร่างบางจึงตัดสินใจเดินออกมาเปิดประตูหน้าบ้านเอง
“สวัสดีค่ะพี่ฟาง” เสียงของหวายดังขึ้น ทำให้ร่างบางหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“มาได้ไง”
“ก็พอดีคอนโดหวายต้องปรับปรุงเลยต้องหาที่พักใหม่ แล้วพอดีช่วงนี้หวายต้องถ่ายละครแถวนี้บ่อยๆ เลยขอมาพักด้วยซัก2อาทิตย์นะคะ”
“2อาทิตย์!! คอนโดเธอระเบิดลงหรือไง...แล้วทำไมไม่ค้างบ้านแม่ล่ะ”
“ก็...มันไกลกันมากนี่คะ เปลืองน้ำมันด้วย ขอพักแค่2อาทิตย์ ความคงไม่แตกหรอกมั้งคะ!!” ร่างบางได้ยินดังนั้นก็รู้ทันทีว่าหวายรู้ความสัมพันธ์จอมปลอม(ที่กำลังจะจริง)แล้ว
“จะทำอะไรก็เรื่องของเธอ” ร่างบางพูดจบก็เดินเข้าบ้านทันที
“ไม่คิดจะช่วยกันขนของบ้างเหรอ!!” หวายตะโกนไล่หลังมา แต่ร่างบางหันหลังกลับแล้วยักคิ้วใส่2ที ก็ทำให้หวายปรี๊ดแตกจนกระทืบเท้าอย่างแรง1ที
ร่างสูงที่ถูกร่างบางปลุกก็เดินลงมาด้วยสีหน้าระรื่น ทำให้ร่างบางอดระแวงไม่ได้ ‘แค่ยัยหวายมาก็หน้าระรื่นเชียวนะ’ ร่างบางได้แต่คิดก็หันไปทำอาหารต่อ ปล่อยให้ร่างสูงและน้องสาวต่างพ่อนั่งคุยกัน แม้มือจะจับตะหลิวแต่ในใจก็พะวงหน้าพะวงหลังอยู่ดี ร่างบางทำเสร็จก็จัดแจงใส่จานแล้วเดินออกนอกบ้านไปทันที ร่างสูงรีบเดินตามออกมา เห็นร่างบางกำลังเปิดประตูรถก็รีบวิ่งไปคว้ามือไว้ทันที
“จะไปไหน”
“มีงานด่วน”
“งานอะไร”
“เรื่องของฉัน กลับไปคุยกับยัยหวายไป”
“ไม่มีเหตุผลเลย นั่นหวายก็น้องคุณนะ”
“น้องเหรอ น้องที่พร้อมจะแย่งทุกอย่างไปจากฉันน่ะสิ” ร่างบางรีบสลัดข้อมือออก แล้วจะก้าวขึ้นรถ แต่ร่างสูงก็รีบดึงกุญแจรถออกจากมือร่างบางก่อน
“อะไรของนาย เอามานะ!!” ร่างบางวิ่งเข้าไปแย่ง แต่ด้วยสัดส่วนที่ต่างกัน ร่างสูงก็สูงเกินกว่าที่ร่างบางจะเอื้อมไปหยิบกุญแจที่อยู่ในมือร่างสูงได้
“จะไปไหน เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่เอา!! ไปเองได้ ไม่ต้องยุ่งเลยนะ!”
“เดี๋ยวไปส่ง ไปไหน?”ร่างสูงหยุดร่างบางด้วยการกอดรัดร่างบางไว้ให้หยุดดิ้น แล้วกระซิบข้างหูร่างบาง ส่งผลให้ร่างบางไปไม่เป็นเล็กน้อย
“ไป...ไประยอง ไปส่งมั๊ยล่ะ?” ร่างบางตอบไป แม้จะไม่รู้ก็ตามว่าไปเพื่ออะไรก็ตาม
“ไปสิ...เดี๋ยวไปส่ง” ร่างสูงพูดจบก็คลายกอดร่างบางแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้นั่ง ทันที
ตลอดทางร่างสูงไม่พูดอะไร จนเวลาผ่านไป3ชั่วโมง
“ถามจริง...ไประยองทำไมเนี่ย” ร่างสูงถาม
“ไม่รู้สิ”
“ไหนบอกมีงาน”
“งานที่จะได้หนียัยหวายนั่นน่ะสิ”
“ทำไมคุณถึงไม่ชอบหวาย” ร่างสูงถาม ทำให้ร่างบางหันไปมองจับผิดเล็กๆ แต่ก็ยอมเล่าให้ร่างสูงฟัง
“ก็อย่างที่นายรู้ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉันเด็กๆ ตอนแรกฉันต้องอยู่กับแม่ ส่วนพี่พิชญ์ต้องอยู่กับพ่อ แต่พี่พิชญ์น่ะหลังจากอยู่กับพ่อได้1ปีก็ขอมาอยู่กับลุง เพราะพ่อฉันเดินทางบ่อย ข้ามไปทวีปนู้น ทวีปนี้ประจำ แล้วก็ไปทีละนานๆ พี่พิชญ์เลยต้องย้ายโรงเรียนบ่อย ลุงเห็นก็กลัวพี่พิชญ์ไม่ได้เรียน เลยรับมาอยู่ที่ไทยสบายใจกว่า ส่วนฉัน พออยู่กับแม่ได้แค่6เดือน แม่ก็แต่งงานใหม่กับพ่อหวาย หลังจากนั้น1ปีก็ท้องหวายทันที พวกท่านน่ะสนใจยัยหวายมาก ประคบประหงมอย่างดีตั้งแต่ในท้องจนคลอด ฉันก็เพิ่ง3ขวบ นายไม่คิดว่าฉันก็ต้องการความรักบ้างหรือไง พอพี่พิชญ์รู้ก็ขอให้ฉันมาอยู่ที่บ้านคุณลุงด้วย หลังจากนั้น คุณลุงก็เลี้ยงฉันกับพี่ชายมาตลอด จนพี่พิชญ์เรียนหมอ จึงย้ายไปอยู่คอนโดเพราเรียนไม่เป็นเวลา กลับดึกทุกคืน ยิ่งช่วงสอบบางวันก็ไม่กลับ คุณลุงก็มีเคสผ่าตัดมาเรื่อยๆ ฉันก็เหงาไม่รู้ทำ พอมีกิจกรรมที่โรงเรียนฉันมักอาสาทำเสมอแหละ จนเป็นที่รู้จักในโรงเรียน เลยเอารูปฉันไปลงเว็บโรงเรียน พอมีคนเห็นก็เอาไปโพสไว้เว็บนู้น เว็บนี้ จนได้เข้าวงการ พอยัยหวายเห็นฉันเข้าวงการ ก็อยากเข้าบ้างเลยให้แม่มาฝากให้ฉันช่วยดันยัยหวาย ฉันเลยเอารูปไปให้ผู้จัดการดูแล้วขอให้หางานให้สัก2-3งาน จนหลังจากนั้นฉันมาMVเข้ามาติดต่อ ยัยหวายก็ให้แม่มาขอให้ฉันยกMVให้น้อง ฉันขัดได้ที่ไหน ก็ต้องยกให้ แล้วงานบางงานของยัยหวายทุกวันนี้ บางงานก็เพราะฉันยัดงานตัวเองให้ ไม่งั้นฉันก็โดนแม่ว่าทุกที" ร่างบางพูดจบก็หันหน้าเข้าหากระทันที
“แต่คุณรู้มั๊ย ว่าหวายเขาอิจฉาคุณนะ” ร่างสูงบอก ทำให้ร่างบางหันขวับทันที
“รู้ได้ไง”
“แล้วหวายก็เห็นคุณเป็นIdolด้วย” ร่างสูงไม่ตอบแถมพูดต่อโดยไม่สนใจอารมณ์ที่กำลังเดือดของร่างบาง
“นายรู้ได้ไง ถ้าเห็นฉันเป็นIdolนะ อย่างน้อยก็ต้องเคารพฉันบ้าง”
“ก็ตอนที่ผมคุยกับหวาย เขาดูเหมือนติดตามผลงานคุณตลอด วิเคราะห์การแสดงคุณจนผมอึ้งเลย แม้ปากจะบอกไม่ชอบกันแต่ผมว่าลึกๆแล้ว คุณกับหวายก็รักกันอยู่ดี ไม่งั้นคุณคงไม่ยอมยกงานตัวเองให้หวายง่ายๆหรอก” ร่างบางฟังดังนั้นก็ฉุกคิดในใจ
“เพราะฉะนั้นลองคุยกับหวายดีๆสักครั้ง เพราะหวายก็ลูกคนเดียว แถมก็ไม่ค่อยได้รับความใส่ใจเหมือนคุณนั่นแหละ เลยดูก้าวร้าว และไม่ค่อยมีเพื่อน แต่คุณยังดีที่มีพี่ชาย แถมยังมีเพื่อนเยอะ ลองคุยกันดีๆ แล้วให้ความรักแก่เขาดูสิ ไม่แน่หวายอาจจะเลิกก้าวร้าว แล้วก็หันมาเคารพคุณด้วย” ร่างบางนั่งฟังร่างสูงอย่างตั้งใจ
“งั้น เรามาแข่งกัน คุณต้องทำให้แม่ฉันยอมรับคุณให้ได้ ส่วนฉันก็ต้องทำให้หวายเลิกก้าวร้าว ถ้าใครทำสำเร็จก่อนชนะ” ร่างบางยื่นข้อเสนอ ร่างสูงหันมามองน้อยๆ
“ชนะได้อะไร?”
“อืม...คนที่แพ้ต้องทำตามคำสั่งคนที่ชนะ1อย่าง ใครไม่ทำเป็นหมา OKป่ะ”
“ก็ได้..สับญา” ร่างสูงยื่นหน้ามาใกล้ๆร่างบาง ทำให้ร่างบางหน้าขึ้นสีทันที
“อะไรเนี่ย ยื่นหน้ามาทำไม อยากโดนตบเหรอ” ร่างบางหันไปเอ็ดร่างสูง ทำให้ร่างสูงหัวเราะอย่างชอบใจ
“อ้าว...งั้นคุณยื่นหน้ามาสิ”
“นี่” ขณะที่ร่างบางกำลังหันหน้ามาหวังจะประทุษร้ายร่างสูง ก็โดนร่างสูงขโมยจุ๊บไป1ที ร่างบางอึ้งเล็กๆ ร่างสูงก็อมยิ้มอย่างพออกพอใจ
“อยากได้มากว่าหอมก็ไม่บอก จะได้จอดรถก่อน” ร่างสูงบอกขำๆทำให้ร่างบางเอื้อมมือมาหยิกแขนร่างสูง1ที ก่อนที่จะหันหน้ากลับออกมามองนอกกระจก แล้วเก็บอาการใจเต้น อะดรีนาลีนก็พลุกพล่านร่างบางจึงตัดสินใจเอนเบาะลงนอนทันที
_________________________________________________
'ยังจำกันได้ไหมไม่เจอตั้งนาน ข่าวคราวเงียบหาย..'
WOW!! ไม่ได้อัพนาน ไม่รู้ว่าจะลืมกันหรือยัง ยังไงช่วยกันเอาแรงใจส่งมาหากันด้วยนะ จะได้จบเร็วๆ (คนแต่งสมองเริ่มตันแย้วว ><)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ