Change in to love…จาก ร้าย กลายเป็น รัก
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ7
ร่างบางยกอาหารออกมาตั้งโต๊ะด้านนอก เหลือบไปเห็นร่างสูงนอนหลับบนโซฟาสบายใจเฉิบ เห็นแล้วดูขัดตาเล็กๆ ก็ดูสิเธอทำอาหารหน้าเตาร้อนก็ร้อนแต่เขากลับนอนหลับตากแอร์หน้าตาเฉย แต่แปลกแม้เธอจะรู้สึกขัดหูขัดตาแต่ทำไมถึงได้ยิ้มออกมาได้นะ ว่าแล้วร่างบางก็ตัดสินใจอาบน้ำก่อนแล้วค่อยปลุกคนที่หลับฝันดี ดีกว่า ขืนปลุกก่อนมีหวังคงไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ
ร่างบางอาบน้ำและแต่งตัวในห้องน้ำเลย เพราะยังระแวงคนที่อยู่ด้านนอกไม่หาย ขนาดเธอแต่งตัวปกติยังโดนขนาดนั้น ถ้าเกิดเดินออกไปโดยที่กระโจมออกแบบนี้คงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำก็ตรงเข้าไปปลุกร่างสูงทันที ร่างสูงปรือตาเล็กน้อยก่อนจะนั่งตัวตรงสักพักแล้วลุกมาที่โต๊ะอาหาร แล้วจัดการหาวหนึ่งที แต่ก็โดนประทุษร้ายจากมือเล็กๆ
“ปิดปากด้วยสิคะ เดี๋ยวน้ำลายก็หล่นลงในอาหารพอดี แล้วก็ล้างมือด้วยนะคะ เป็นหมอแท้ๆทำตัวเองให้มีอนามัยหน่อยสิ” ร่างบางเอ็ด ร่างสูงมองยิ้มๆแล้วเดินไปล้างมืออย่างว่าง่าย แล้วกลับมานั่งทานอาหารเหมือนเดิม
“แล้วพ่อแม่คุณว่ายังไง” ร่างสูงถามอย่างหนักใจ เพราะเขาคิดว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ
“ฉันยังติดต่อพ่อไม่ได้ ส่วนแม่...ท่านดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ท่านบอกว่า3เดือนต้องหย่าทันที” ร่างตอบแบบไม่สบตาร่างสูง เพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้ เธอและเขาต่างก็มีความรู้สึกพิเศษให้กันได้อย่างรวดเร็ว การพูดถึงเรื่องหย่าทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานนั้น ดูจะทำร้ายจิตใจกันเหลือเกิน
“ผมคิดไว้อยู่แล้ว แต่ผมก็จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับแม่คุณก็แล้วกัน ถึงแม้มันจะยากก็ตามที” ร่างสูงตอบ
“คุณก็ยอมๆท่านบ้างในบางเรื่องก็ได้นี่คะ อย่างน้อยก็ทำให้ท่านเห็นว่าคุณเคารพท่าน ท่านน่าจะเข้าใจเรา” ร่างบางแนะนำ
“ก็ผมเคารพแม่คุณทุกอย่าง จนแทบจะลงไปกราบเวลาเจอกันอยู่แล้ว แต่ท่านก็เมินผมเสมอ” ร่างสูงระบายปนฟ้องว่าที่ภรรยา
“ก็เพราะปากแบบนี้ไง ใครๆเขาถึงไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยน่ะ” ร่างบางพูดพร้อมยู่หน้าใส่ร่างสูงอยางหมั่นไส้
“อะไรกันคนทั้งโรงพยาบาลปลื้มผมกันทั้งนั้น ไม่ว่าหมอเล็ก หมอใหญ่ คนไข้ แม้กระทั่งพ่อกับลุงของคุณยังมองผมเป็นศิษย์เอกเลย มีแต่แม่คุณนั่นแหละ” ร่างสูงตอบอย่างภาคภูมิเพราะพ่อและลุงแท้ๆของร่างบางนั้นชื่นชมในต้วของร่างสูงสุดๆ เพราะเขาเป็นนักเรียนเงินทุน ดังนั้นการเรืยนหมอมา 10 ปีนั้นมาด้วยความสามรถล้วนๆ ไม่มีการยัดเงินแต่อย่างใด แถมยังสามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอบางคนเสียอีก อย่างเช่นกรณีเคสที่ต้องตัดขาจนผิดใจกับบแม่ของน่างบางนั่นไง
“แต่ตอนที่เจอฉันครั้งแรกคุณก็กัดฉันแทบจะทุกๆประโยค แถมยังบอกว่าฉันเหมือนดาราหนังAVอีก!!” ร่างบางเริ่มโวยเมื่อหวนไปนึกถึงเรื่องภูเก็ต ที่เขาเอาเธอไปนินทาลับหลัง
“ก็ตอนนั้นแกล้งคุณแล้วสนุกดีนี่ แต่พอคุณหายไปผมก็รีบตามหาเลยนะ และตอนนั้นคุณขาวแล้วก็....จริงๆนี่” ร่างสูงชี้แจง แล้วค่อยเลือนสายตาต่ำลงเรื่อยๆ
“กินข้าวเลยนะ ไม่ต้องมอง คุณมันนิสัยไม่ดี” แม้ปากจะว่ากล่าวร่างสูงยังไง แต่หัวใจกลับเต้นแรงทุกครั้งที่ร่างสูงพยายามลวนลามเธอไม่ว่าทางสายตา หรือทางการสัมผัส
ร่างสูงนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นหน้าตาเฉย ทั้งๆที่ร่างบางไล่ให้กลับแล้วแท้ๆ แต่เขากลับบบอกว่า ขออยู่ต่อสักหน่อย ทำตัวให้ชิน เวลาแต่งงานกันจะได้ไม่เขิน แต่สักพักก็มีสายเข้ามาทางมือถือร่างบาง ร่างบางแยกตัวไปรับโทรศัพท์ ทำให้ร่างสูงเกิดอาการหวงเธอดื้อๆ เลยเดินตามออกมาฟังด้วย (เหมือนตอนที่พี่ฟางแอบฟังพี่ป๊อปเลยเนาะ)
“สวัสดีค่ะ” ร่างบางเอ่ย ตามด้วยสายตาจับผิดจากร่างสูง
(ฟาง นี่พ่อนะลูก จริงหรือที่แกประกาศแต่งงานกับหมอป๊อปน่ะ) ผู้เป็นพ่อถามอย่างกระวนกระวาย ทำให้ร่างบางมองหน้าร่างสูงนิดๆ นี่พ่อเธอก็ไม่ยอมหรือนี่
“ค่ะ คือเรื่องมัน...” ร่างบางยังไม่ทันอธิบาย ก็ถูกผู้เป็นพ่อชิงถามขึ้นก่อน
(แล้วแม่แกว่ายังไง?)
“แม่บอกว่าหลัง 3 เดือนต้องหย่าทันทีค่ะ” ร่างบางบอกอย่างท้อใจ
(ไม่ต้องหย่า!! ยิ่งแม่แกสั่งแบบนี้นะ พ่อก็จะขัดคำสั่งแม่แก แต่พ่อถามหน่อยว่าลูกรักหมอป๊อปไหม?) คำถามของผู้เป็นพ่อทำให้ร่างบางหน้าขึ้นสีทันที และก็เหมือนร่างสูงจะได้ยินก็ยิ้มออกทันที แล้วขอโทรศัพท์ร่างบางมาถือสายทันที
“สวัสดีครับอาจารย์หมอ ผมป๊อปนะครับ ผมรักลูกสาวอาจารย์นะครับ และลูกสาวอาจารย์ก็รักผมด้วย แต่หมอไอยรินทร์ไม่ยอมน่ะครับ” ร่างสูงถือสายได้ก็ฟ้องว่าที่พ่อตาทันที
(อ้าว...นายเองเรอะ ดีเลย รักกันก็ไม่ต้องหย่า พ่อขอให้ลูกรักกันนานๆนะลูก ไม่ต้องไปฟังยัยป้าหนังเหี่ยวนั่นหรอก ยัยนั่นก็เป็นแบบนี้แหละ นี่นะฉันภูมิใจแทนลูกสาวจริงๆ ที่ได้นายมาเป็นสามี ไม่เหมือนไอ้หมอบางคนที่ดีแต่พูด ไม่เห็นจะรักษาคนให้หายได้จริงๆ เอาเป็นว่าฉันจะบินกลับไทยอาทิตย์หน้าแล้วกัน อ้อ...ถึงฉันจะเห็นนายเป็นศิษย์ที่ฉันชื่นชมยังไง แต่ก็ต้องให้เกียร์ติลูกสาวฉันด้วยล่ะ แต่หลังแต่งงานก็อีกเรื่อง แค่นี้แหละฉันต้องเข้าผ่าตัดแล้ว อ้อบอกลูกฉันด้วยตอนนี้ฉันย้ายมาทำงานที่ไมอามี่) ว่าที่พ่อตาพูดเหน็บแนมสามีใหม่ของแม่ร่างบางเล็กๆ เสร็จก็วางสายทันที ร่างบางตรงเข้ามาเกาะแขนร่างสูงทันที
“พ่อว่ายังไง?” ร่างบางถามอย่างหนักใจ
“พ่อคุณบอกว่าพ่อคุณทำงานอยู่ที่ไมอามี่ และจะเดินทางกลับมาอาทิตย์หน้า แล้วก็ขอให้เรารักกันนานๆ” ร่างสูงตอบ แต่ประโยคหลังสุดทำให้ร่างบางหน้าขึ้นสีเล็กน้อย
“แต่นายคุยกับพ่อตั้งนาน มันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิ” ร่างบางคาดคั้น
“ไม่มีอะไรแล้ว ไปดูทีวีกันเถอะ เครียดมากหน้าแก่นะ” ร่างสูงไม่ตอบคำถามแถมตัดบทร่างบางดื้อๆ แล้วจูงมือร่างบางมาที่ห้องนั่งเล่นทันที
ร่างสูงนั่งดูทีวีสบายใจเฉิบ โดยที่มีร่างบางนั่งเขย่าแขนคาดคั้นเอาคำตอบ แต่ร่าสูงก็นั่งอมยิ้มไม่สนใจ
“นายขี้โกงนี่นา!!” ร่างบางโวยวายเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่สนใจตนเอง
“ถ้านายไม่ตอบฉัน นายไม่ต้องมาคุยกับฉันเลย” ร่างบางขู่
“…” เมื่อเห็นร่างสูงนั่งเงียบ ร่างบางก็เลิกคาดคั้นแล้วคว้าหมอนอิงมาเอนตัวลงหลับทันที โดยเอาเท้ามาเกยไว้บนตักของร่างสูง
“นี่...นอนแบบนี้เดี๋ยวผมก็อดใจไม่ไหวหรอก” ร่างสูงเอ่ย แล้วค่อยๆเอนกายลงมาทับร่างบาง ส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งจะลุกขึ้น แต่ร่างสูงก็ทาบทับตัวเธอแนบแน่น ไม่เปิดโอกาสให้เธอดิ้นได้เลย
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย นายลวนลามฉันบ่อยเกินไปแล้วนะ” ร่างบางโวย แต่ร่างสูงก็ยังคงส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้เธอ ทำให้เธอพูดไม่ออก แล้วหันหน้าหนีแทน
"ก็อยากนอนแบบนี้เอง มันเย้ายวนรู้หรือปล่า” ร่างบางหน้าแดงขั้นจัด ทำให้ร่างสูงได้ใจเริ่มเอาแขนสอดรัดเอวบาง เลยดูเหมือนร่างสูงกำลังกอดร่างบางในท่านอนอยู่
“นี่..ไม่อายฟ้าอายดินหรือไง…” ร่างบางหันหน้ามาประจัญร่างสูง แต่ยังพูดไม่จบประโยค ก็โดนร่างสูงบดริมฝีปากลงมาที่เรียวปากสวย(อีกแล้ว) ร่างบางพยายามกลั้นใจไม่ตอบสนอง แต่ร่างสูงก็เลื่อนมือมาลูบไล้แถวสีข้าง แล้วมาที่หน้าท้อง แล้วค่อยๆลูบขึ้นไปที่บริเวณเนินอกสวย ทำให้ร่างบางตอบสนองสัมผัสของร่างสูงอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อร่างสูงปลุกเร้าอารมณ์ร่างบางได้ผล ก็ค่อยๆเลื่อนริมฝีปากหนามาที่ซอกคอขาวเนียน ย้ำรอยเดิมให้เด่นชัดขึ้น เคล้าไปพร้อมเสียงครางของร่างบาง ทำให้อารมณ์ของร่างสูงที่พลุกพล่าน แต่เขาก็ขอเพียงเท่านี้ เพราะหลังแต่งงาน เขาไม่มีทางหยุดมันเพียงเท่านี้แน่ แต่ตอนนี้เขาคงทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ เพราะคำพูดของพ่อร่างบางยังคงตรึงใจเขาอยู่ เขาต้องให้เกียร์ติหญิงคนนี้ แม้มันจะยากปานกลืนลูกไฟร้อนๆก็ตาม ร่างสูงเลื่อนริมฝีปากมาบริเวณเนินอก แล้วไล้ขึ้นไปที่เรียวปากสวยอีกครั้ง ก่อนที่ร่างบางจะดันอกร่างสูงออก
“พอแล้ว ฉันเจ็บปากไปหมดแล้ว แล้วนี่ฉันจะใส่เกาะอกได้ไหมเนี่ย รอยเต็มตัวขนาดนี้” ร่างบางเอ็ด เพราะเธอเริ่มเจ็บปากบ้างแล้ว
“เดี๋ยวก็หาย ใส่แขนยาวไป2-3วันก่อนสิ ผมอุตส่าห์ไม่เน้นตรงต้นคอนะเนี่ย” ร่างสูงตอบ
“ชิ...คนนิสัยไม่ดี พอได้แล้วนี่มันบ่าย3แล้วไม่กลับบ้านไปอาบน้ำเหรอคะ”
“พรุ่งนี้ผมต้องเข้าเวรน่ะ ขออีกหน่อยไม่ได้เหรอ” ร่างสูงอ้อนวอน แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาแต่ก็ถูกร่างบางดันปลายคางไว้
“พอแล้วค่ะ ฉันเจ็บปาก อาทิตย์นี้ฉันงดรับงานเดี๋ยวก็โทร.มาสิคะ” ร่างบางปราม
“มันไม่เหมือนกันนี่นา” ร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง แต่ก็โดนร่างบางดันปลายคางไว้เหมือนเดิม
“ไม่ได้ค่ะ พอแล้วกลับไปได้แล้วค่ะ” ร่างบางเริ่มทำหน้าดุ ทำให้ร่างสูงลุกขึ้นแล้วหยิบโทรศัพท์ร่างบาง ยิงเข้าเครื่องตนเอง
“นี่เบอร์ผม เดี๋ยวคืนนี้โทร.หานะ” ร่างสูงพูดเสร็จก็ลุกเดินตรงไปที่ประตู โดยมีร่างบางเดินมาส่ง
“ยังไงก็พยายามไปคุยกับแม่ฉันเยอะๆล่ะ” ร่างบางทิ้งท้าย ร่างสูงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ทำให้ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆ แล้วมองแผ่นหลังร่างสูงเดินไปกดเรียกลิฟต์ ร่างบางปิดประตู แล้วคิดหนักเรื่องแม่ของตน ทำไมจะแต่งงานทั้งทีต้องมีปัญหาด้วยเนี่ย
_________________________________________________
ตอนนี้เป็นตอนที่สิ้นคิดมาก เนื่องจากเราแต่งเร็วมาก ใช้เวลาคิดแค่ 10 นาทีเท่านั้น
บางคนอาจบอกว่านาน แต่ข้าพจ้อยถ้าจะแต่งแบบหรูเลิศล่ะก็ ครึ่งชั่วโมง+ทั้งนั้น
ยังไงก็ถ้าไม่สนุกก็ขออภัยโทษมา ณ ที่นี้แล
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ