เรื่องนี้ไม่มีชื่อ

9.5

เขียนโดย katem

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 21.40 น.

  6 ตอน
  141 วิจารณ์
  10.58K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

----------------------------------------------

ก้าวเท้าอารมณ์ดีเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ อย่างน้อยถ้าสาวคนสวยอยู่บ้านหลังนี้จริงก็ช่วยให้บ้านหลังนี้น่าอยู่ขึ้นเป็นกอง เรียกประชุมวางกฎระเบียบใหม่หมด ไม่สนใจระเบียบดั้งเดิน เล่นเอาสมาชิกในบ้านหงุดหงิดในความเอาแต่ใจของสมาชิกใหม่ในครอบครัว

“แม่มึง มันจะมากไปแล้วนะ อาหารเช้าต้องไปเสริฟ์ถึงห้องนอน ห้ามเข้าวุ่นวายในบ้านถ้าไม่เรียก”

“เอาน่า ตาส่ง คุณเค้าอยู่ไม่นานหรอกเดี๋ยวคุณท่านก็กลับมา ถือว่าทำเพื่อคุณท่านแล้วกัน”

“แต่มันน่ามั้ย คนเสริฟ์อาหารต้องใช้คนที่อายุน้อยที่สุด เพราะกลัวคนแก่เป็นลม”

“คุณเค้าว่าอย่างนั้นเหรอ ตาส่งเมื่อเช้าคุณเค้าเห็นลูกแก้วหรือป่าว” ได้ยินเสียงสามีถึงกับหน้าถอดสี ถามเสียงหลงหวั่นใจลึกๆ ภาวะนาอย่าให้เป็นจริงตามที่ตนคิด

“ไม่เห็นหรอก เพราะเมื่อเช้าพ่ออยู่หน้าบ้านตลอด ขนาดพ่อยังไม่เห็นแก้วออกไปตอนนั้น คุณของแม่เค้าก็คงไม่เห็นเหมือนกัน อย่างคิดมากนะ” ปลอบใจคู่ชีวิต กลัวจะคิดมากไปกันใหญ่

------------------------------------------------

วันนี้เหนื่อยกว่าทุกวัน ถึงจะเป็นแค่ผู้ช่วยก็เถอะ เจอนักศึกษาป่วนจนเกือบทนไม่ไหว เดี๋ยวแซว เดี๋ยวจับมือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้เจอดีกันบ้าง แต่นี่สถานะเปลี่ยนจำต้องทน ทำไงได้สมัยนี้งานดีๆ หายาก กว่าจะปราบพยศนักศึกษาตัวแสบเล่นเอาหมดแรง เดินกลับบ้านก็ต้องแปลกใจ ในเมื่อไฟตึกใหญ่เปิดทุกดวง ขาก้าวเร็วในใจพองโต ในเมื่อไฟเปิดทุกดวงขนาดนี้แสดงว่าแม่มลกลับมาแล้ว ยิ้มแก้มปริ ลืมความเหนื่อยหมดสิ้น กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าเรือนเล็ก ร้องเรียกมารดาลั่น

“ไอ้แก้ว แม่มลยังไม่กลับ” ลุงส่งวิ่งหน้าตื่นเมื่อได้ยินเสียงหลานสาวเรียกแม่ตนลั่น

“อ้าวลุง ก็แก้วเห็นไฟบนตึกเปิดแก้วก็นึกว่าคุณนายกลับมาแล้ว” ได้ยินคำตอบ หน้าหวานเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ใจพองโตเมื่อครู่ห่อเหี่ยวเหมือนเดิม

“ยังไม่กลับ แต่ที่บนตึกคุณคนใหม่ที่ดูแลบ้านเค้าเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่น่ะ ไม่มีอะไรหรอก แล้ววันนี้เป็นไงครูเหนื่อยไหม” เห็นหลานหน้าเศร้า แกล้งแหย่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“จ่ะ แล้วแก้วทำเข้าไปทำความเคารพคุณเค้ารึป่าวจ๊ะ”

“ไม่ต้องหลอกลูก หนูก็อยู่อย่างนี้แหละแต่ป้าว่าทางที่ดีหนูอยู่แต่เรือนหลังเล็กแหละดีแล้ว” ได้ยินเสียงแจ๋วของหลานสาวรีบเดินออกจากครัว ทั้งห่วง ทั้งหวง

“ทำไมหล่ะจ๊ะป้า หั่นแน่แสดงว่าคุณคนใหม่ต้องดุแน่เลย” ถามเสียงทะเล้น

“ไม่ดุหรอกลูก แต่หนูอยู่แต่เรือนเล็กนั่นแหละดีแล้ว แล้ววันนี้เป็นไงลูกเหนื่อยไหม กินข้าวหรือยัง” ตอบปัดก่อนเปลี่ยนประเด็น แต่ในใจยังหวั่น

“ไม่เหนื่อยหรอกจ๊ะ ส่วนข้าวแก้วกินมาจากมหาวิทยาลัย พรุ่งนี้แก้วไม่มีสอนจ๊ะ อยู่กวนป้าแช่มกับลุงทั้งวันแน่” หัวเราะเสียงใส

“งั้นไปพักผ่อนเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวัน” ลูบหัวเอ็นดู ก่อนจะไล่หลานสาวคนสวยไปพัก ใจก็อยากคุยแต่อีกใจกันไว้ดีกว่าแก้ กลัวคนบนตึกจะมาเห็น

นั่งมองหลานเดินเข้าเรือนเล็ก ก่อนถอดถอนหายใจ

“ตาส่ง....ฉันหวั่นใจยังไงไม่รู้” บอกคู่ชีวิตสีหน้ากังวล

“แม่มึงจะกังวลเรื่องอะไรหล่ะ”

“ก็หลานนี่ไง ตอนนี้ฉันอยากให้ลูกแก้วออกไปอยู่ข้างนอกแล้วแหละ” บอกตามจริง ไม่ใช่ไม่รักแต่กลัวในสิ่งที่ตนหวั่น

“แม่มึงนี่ยังไงนะ ไม่ห่วงไอ้แก้วมันรึไงหะ” ได้ยินเสียงคู่ชีวิตแล้วโมโห มาผลักไล่หลานอย่างนี้ได้ไง

“ไม่ใช่อย่างนั้นแกนี่ ฉันกลัวคุณที่ตึกใหญ่ต่างหาก”

“เห้อ เอาน่าแม่มึงอย่าคิดมากเลย อีกอย่างหลานเรามันเป็นเด็กฉลาดเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังไม่รู้จะเจอฤทธิ์เดชคุณของแม่อย่างไงเลย”

--------------------------------------------------------

ตื่นเช้าก็ต้องพบวันวุ่นวายผิดปกติ ทุกคนวิ่งกันวุ่น กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าครัวหวังช่วยผ่อนงานวันนี้ได้บ้าง

“ป้าจ๊า มีอะไรให้แก้วช่วยบ้างจ๊ะ”

“ตื่นเช้าจังลูก ไม่มีหรอกหิวรึยังเดี๋ยวป้าตักข้าวต้มให้”

“แก้วไม่หิวหรอก ว่าแต่วันนี้ทำไมวุ่นวายจัง”

“ก็ต้องเตรียมให้คุณบนตึกไงลูก”

“งั้นแก้วไปช่วยลุงส่งหน้าบ้านดีกว่า” บอกเสียงหวานก่อนจะรีบลุกออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอปราม

“ไม่ต้องไปหรอกลูก นั่งอยู่เป็นเพื่อนป้าในครัวได้รึป่าว”

“ได้สิจ๊ะป้าแช่มของแก้ว” เดินกอดสาวร่างท้วม บอกเสียงทะเล้น ก่อนจะโดนตีเบามือแล้วไล่มานั่งข้างๆ ห้ามไปไหน

“ป้าแช่ม ป้าแช่ม แย่แล้ว” เสียงพี่แววสมาชิกของบ้านร้องลั่น วิ่งหน้าตาตื่นลงมาจากตึกใหญ่

“อะไรแวว ใจเย็นๆ เป็นอะไร แล้วทำไมสภาพเหมือนวิ่งหนีอะไรมาอย่างงั้นหล่ะ”

“คนอะไรน่ากลัวที่สุดเลยอ่ะป้า แววไม่เอาแล้วนะ แววกลัว” วิ่งหน้าตาตื่น ก่อนจะนั่งลงพร้อมคำพูดพรั่งพรูออกจากปาก ใบหน้าบูดบึ้งชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสียงโวยวายเรียกบุคคลอื่นที่อยู่รอบข้างเข้ามาร่วมฟังได้ดั่งใจ

“อะไร ใครน่ากลัวแล้วเมื่อเช้าให้เอาข้าวต้มไปให้คุณเค้าน่ะ เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“ก็เพราะไอ้คุณของป้านั่นแหละ เรียบร้อยอะไรเล่า โดนตวาดไล่ออกมาเนี๊ยะ”

“หะ แววแกว่าอะไรนะ แล้วคุณเค้าไล่แกออกมาทำไมแกทำอะไรให้คุณเค้าไม่พอใจ” ได้ยินคำตอบถึงกลับหน้าถอดสี ทิ้งงานทุกอย่างเดินมาถาม ไม่คาดคิด....แค่วันแรกก็เกิดเรื่องซะแล้ว

“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยป้า ก็เคาะห้องแล้วเอาข้าวต้มไปให้คุณปกติ แต่พอเห็นหน้าฉันแค่นั้นแหละ ตวาดลั่น บอกให้เปลี่ยนคนใหม่” เล่าพลางนั่งหอบพลาง ทั้งโมโห ทั้งกลัว

“ฉันว่าแกไปทำอะไรให้คุณเค้าโกรธแน่เลย” เสียงสมาชิกในครอบครัวอีกคนร้องถาม ทั้งงง ทั้งสงสัย

“แกสิทำให้คุณเค้าโกรธ คุณเค้าบอกให้เปลี่ยนคน เอาคนที่อายุน้อยที่สุดของบ้าน” หันตอบเหวี่ยงๆ ก่อนจะมองหน้าป้าแช่มสลับกับสาวหน้าหวานนิ่ง สายตาบ่งบอกถึงความกังวล

“อะไรนะ คุณเค้าพูดแบบนี้เหรอ” ได้ยินคำตอบเล่นเอาเข่าอ่อน ลางสังหรณ์เริ่มปรากฏขึ้นทีละนิด หันมองหน้าหลานสาวแสนรัก ที่นั่งทำหน้างงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“แล้วป้าเอาไงดี จะเปลี่ยนใครขึ้นรับใช้คุณ” เอ่ยถามสีหน้ากังวล

“เดี๋ยวฉันดูก่อน เอาพวกเรามากันครบหรือยัง” ร้องบอกเรียกทุกคนให้มาในครัว กลัวคุณข้างบนจะโมโหก็กลัว ห่วงหลานสาวที่นั่งข้างๆ ก็ห่วง

“ป้าแช่ม หวงหนูแก้วหล่ะสิ” เสียงพี่อีกคนเอ่ยถาม แต่ดูจากสีหน้าและแววตา คงกังวลไม่ต่างกัน

“ห่วงแก้วเรื่องอะไรล่ะ” ยิ่งได้ยินยิ่งสงสัย คิ้วบางบนหน้าหวานขมวดเป็นปม งงไปหมด

“ไม่มีอะไรหรอกลูก เดี๋ยวเถอะพูดมากเกินไปแล้วนะ” หันบอกหลานสาวก่อนส่งสายตาดุส่งให้คนพูด

“เอาอย่างนี้ดีกว่าป้า เดี๋ยวแววลองเปลี่ยนให้นังปิ่นมันขึ้นไปบ้าง” หันบอกมาดมั่น เมื่อนึกถึงสาวใช้จอมขี้เกียจอีกคน ถึงจะอายุเกือบ 30 แต่ยังไม่เป็นเรื่อง วันๆ เอาแต่แต่งตัว แล้วอีกอย่างมันเห็นคุณ มันคงชอบ

“แววแกคิดดีแล้วเหรอ” ถามเรียงเรียบ สีหน้าหัวหน้าใหญ่ได้ผ่อนคลายลงบ้าง

“คิดดีแล้วป้า นังปิ่นน่ะมันแรดช่างมันเถอะ แต่ถ้าเป็นหนูแก้ว.....แววก็ไม่ยอมเหมือนกันป้า” บอกตามจริง สายตาจับจ้องสาวสวยตรงหน้า คงไม่แปลกที่สมาชิกทั้งบ้านจะทั่งห่วง ทั้งหวงในความน่ารัก แต่ยิ่งทุกคนพูด แก้วยิ่งงง

“งั้นเอาตามที่แววบอก รีบไปตามมันมาเลยเร็วเดี๋ยวไม่ทัน”

--------------------------------------------------

“ไหนหล่ะป้า เร็วๆสิ เดี๋ยวคุณเค้ารอ” เสียงแหลมดังมาแต่ไกล ก่อนจะปรากฏสาวร่างอวบเดินยิ้มร่ามาแต่ไกล ผมยาวใบหน้าถูกแต่งเข้มด้วยเครื่องสำอาง เสื้อคอกระเช้าตัวบางก้มทีเห็นไปถึงไหนต่อไหน กับผ้าถุงที่นุ่งสั้นความยาวเหนือเข่า

“มาไวจริงอีนี่ รู้งานจริงนะ” เสียงพี่แววค่อนขอดสาวร่างอวบ ถึงจะเป็นหลานก็อยากให้เป็นหลานนอกไส้นัก ดูมันแต่งตัว

“หลีกๆ ฉันจะทำงาน .... อ้าวว่าไงแก้ว วันนี้ว่างไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกเหรอถึงอยู่บ้านได้” เดินกระแทกจนทุกคนกระเด็นก่อนจะหันมาแขวะสาวหน้าหวาน ที่ได้แต่นั่งยิ้ม

“นี่นังปิ่นให้มันน้อยๆ หน่อยนะ หนูแก้วออกไปเที่ยวตอนไหนหะ”

“โห่น้าแวว จะไปรู้ได้ไงเห็นออกจากบ้านทุกวัน เชอะฉันไม่คุยด้วยหรอก คุณรออยู่...หลีกไป” เถียงคำไม่ลดละ สาวตาจิกกัดร่างบาง ก่อนจะยกถาดสำรับอาหารเดินขึ้นตึก

“หนูแก้ว อย่าโกรธอีปิ่นมันเลยนะ น้าแววขอโทษแทนมันนะลูก” บอกเสียงเรียบ กุมมือสาวแน่น

“โห่น้าอ่ะ แก้วไม่โกรธหรอก พี่ปิ่นเค้าก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ว่าแต่จะไม่มีใครเล่าเรื่องคุณบนตึกให้แก้วฟังจริงๆเหรอ” หันบอกเสียงหวาน หน้ายิ้มแย้ม เพราะไม่ได้ติดใจกับอาการคนเมื่อครู่ แต่อดสงสัยถึง คุณที่อยู่บนตึกใหญ่มากกว่า

“ไป ๆ แยกย้ายกันทำงานได้แล้ว แก้วช่วยป้าปลอกหอมหน่อยนะลูก เดี๋ยวไม่ทัน” ได้ยินเสียงหลานสาวถาม รีบตัดบทไล่ทุกคน ไม่งั้นได้โดนซักกันบ้าง

---------------------------------------------------------

นั่งทำงานสักพัก ก็ได้ยินเสียงร้องเพลงอารมณ์ดีเดินเข้ามาในครัว ก่อนที่ทุกคนในบ้านจะรีบวิ่งตามเข้ามา อยากรู้ว่า คุณข้างบนแผลงฤทธิ์อะไรอีก

“เป็นไงบ้าง ปิ่นคุณเค้าว่าอะไรไหม” เห็นสาวร่างอวบอารมณ์ ก็โล่งใจได้บ้าง

“คุณเค้าไม่เห็นว่าอะไรเลย ฉันเอาข้ามต้มไปให้คุณก็ชวนคุยดีจะตาย สงสัยน้าแววคงสวยไม่ถูกใจคุณมั้ง” ตอบเสียงแหลม ก่อนหันไปแขวะคนเป็นน้า

“เดี๋ยวเถอะนังปิ่น” หันดุเสียงลั่น หมั่นไส้ในอาการหยิ่งผยองไม่ได้

“เอาเถอะ อย่างทะเลากันคุณเค้าไม่โมโหก็ดีอยู่แล้ว แล้วคุณเค้าถามอะไรบ้างหล่ะ” หันปรามทั้งคู่ อยากรู้อาการคนบนตึก อย่างน้อยจะได้รับเตรียมรับมือถูก

“เค้าก็ถามว่าบ้านนี้อยู่กันกี่คน ป้าแช่มกับลุงส่งอายุมากที่สุดแล้วก็เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ใช่ไหม”

“อืม คุณเค้าถามแค่นี้เหรอ...งั้นต่อไปนี้ปิ่นก็เป็นคนปฏิบัติคุณเค้าแล้วกันนะ” รีบตัดบท ได้ยินคำถามแล้วพอใจ อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้สงสัยถึงสมาชิกอีกคน

“ป้าคุณเค้าถามปิ่นตั้งเยอะ แค่นี้ที่ไหนเล่ายังเล่าไม่จบเลย รีบขัดจัง” ขัดใจเมื่อมีคนขัดจังหวะเวลาคุยโวของตน

“งั้นก็รีบๆเล่ามา”

“เออๆ คุณเค้าถามมีคนอายุน้อยกว่าปิ่นอีกไหม แล้วปิ่นก็....”

“หะ นังปิ่นคุณเค้าถามแล้วแกตอบว่าไง” ได้ยินคำถาม ความกังวลกลับมาเยือนอีกครั้ง ภาวนาอย่าให้ปิ่นตอบคำถามโง่ๆออกไป

“โอ๊ยน้าแวว ก็กำลังจะเล่าอยู่จะขัดทำไมหะ ฉันก็ตอบมี ชื่อแก้ว แล้วอีกอย่าง คนที่ต้องขึ้นไปเก็บสำรับอาหารคือเธอ แก้ว คุณเค้าบอกโทษฐานที่เธอไม่ไปแนะนำตัวกับเค้า ไอ้ทีแรกฉันว่าจะช่วยเธอหรอกนะ แต่คุณบอกว่า คนทำผิดต้องได้รับโทษ” ตอบเสียงแหลม แสดงความเหนือชั้น แต่ทุกคำที่เปล่งออกมา ทำให้คนได้ยินแถบล้มทั้งยืน อยากเข้าไปตบปากแดงๆ นัก

“อีปิ่น อีหลานโง่ มีสมองรึป่าว ไปแกจะไปไหนก็ไป ขืนช้ากว่านี้แกได้ตายตรงนี้แน่” ได้ยินคำตอบความอดทนถึงขีดสุด คนเป็นน้าลุกขึ้นชี้หน้ายืนด่าไม่เว้น ไล่ให้ไปให้พ้นๆ ก่อนจะเข้าไปพยุงหัวหน้าแม่ครัวของบ้าน ที่ทำท่าเหมือนลมจะจับอยู่ตรงนั้น ดีได้สาวร่างบางประคองไว้อยู่ไม่งั้นคงได้ล้มหัวฟาดพื้นกันบ้าง

“โอ๊ย ไปก็ได้ คอยดูถ้าฉันได้ดีขึ้นมา น้านั่นแหละต้องเป็นคนมาง้อฉัน” เดินหงุดหงิดโมโหออกไป

“ป้าแช่ม ป้าเป็นอะไร” สาวหน้าหวานร้องเสียงหลง พยุงให้มานั่งบนเก้าอี้ หาพัดมาพัดระบายอากาศ

“โอ๊ย ป้าจะเป็นลมลูก วันนี้หนูออกไปข้างนอกนะลูก เชื่อป้า”

“เห็นป้าเป็นแบบนี้แก้วจะออกไปข้างนอกได้อย่างไง แก้วไม่ไปหรอก แล้วป้าเป็นอะไรจ๊ะไปหาหมอไหม” บอกน้ำเสียงกังวล

“ป้าไม่ได้เป็นอะไรหรอกลูก เฮ่อ!” ตอบน้ำเสียงกังวล ยกมือลูบหัวหลานสาวแสนรัก

“ไม่ได้เป็นอะไรได้ไง อยู่ๆก็เป็นลมแบบนี้ ป้ากลัวหมอแน่เลย” น้ำเสียงทะเล้น หน้าหวานยิ้มบางๆ อยากให้คนที่รักได้ผ่อนคลายบ้าง

“โธ่ลูก เอาแหละ ตอนขึ้นไปเก็บสำรับอาหารรีบเก็บแล้วรีบลงมานะลูก”

“จ่ะ ป้าอ่ะเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ คุณของป้าคงไม่ทำอะไรแก้วหรอกมั้ง”

“ลูกแก้ว น้าแววว่าหนูทำถามที่ป้าแช่มบอกเถอะนะลูก” เดินเข้ามากอดอีกคน

“จ้า นี่ทุกคนกำลังทำให้แก้วสงสัยแล้วนะเนี๊ยะว่าคุณ ของทุกคนจะเป็นคนแบบไหน” หันตอบเสียงหวาน รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นเต็มใบหน้าสวย

“แล้วคุณ ที่หนูคิดไว้เป็นแบบไหนหล่ะลูก” ป้าแช่มเอ่ยถาม รู้ว่าเป็นคำถามไม่ควรแต่อดอยากรู้ไม่ได้

“คงเป็นคนอายุประมาณน้าแวว แล้วฟังจากพี่ปิ่นพูดคงจะคนเจ้าอารมณ์นิดๆ แต่น่าจะนิสัยดีนะ”

“โธ่ลูก แก้วถ้าหนูจะขึ้นไปเก็บสำรับเรียกน้าปิ่นด้วยนะลูก เดี๋ยวน้าไปเป็นเพื่อน”

“....” ไม่ตอบได้แต่ยิ้มพยักหน้ารับคำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ทำไมทุกคนถึงกลัวคนบนตึกใหญ่ขนาดนั้น

---------------------------------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา