กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ?

9.0

เขียนโดย aeytomokaew

วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19.02 น.

  8 ตอน
  337 วิจารณ์
  20.22K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปวันวาน...ฉันจะไม่ยอมให้เธอไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

  

ในวันที่ไม่มีกันในใจของฉัน....ว่างเปล่า

 


ไม่เคยต้องเหงาอะไรแบบนี้....ยิ่งเข้าใจ


ถ้าหากฉันย้อนเวลากลับไป....วันวาน


ฉันจะไม่ยอมให้เธอจากไป.........

 

 

 

 

 

 

     หญิงสาวปิดประตูรีบวิ่งออกจากห้องซ้อมเต้นมาทั้งน้ำตา  ดวงตากลมโตคลอไปด้วยหยาดน้ำใส

จดจ้องมองคนที่ยืนรอเธออยู่ด้านหน้า   ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อคมคายหันมามองเธอก็อดที่จะ

ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้เธอไม่ได้  แขนเรียวแกร่งทั้งสองข้างของเขาอ้าวกว้างให้อากาศเพื่อพร้อมที่จะ

รอรับการปลอบโยนเธอเสมอ ริมฝีปากอวบอิ่มฝืนยิ้มก่อนที่เธอจะบังคับท่อนขาเรียววิ่งไปกอดคนตรง

หน้าทันที

 

 

      “ฮึกฮือๆ...พี่ค่ะ.....”

 

 

    “ไง...หืม ทำไปแล้วสิน่ะ..โล่งใจขึ้นหล่ะสิ”

 

 

     ศรีษะงามที่ซบลงบนอกแกร่งพยักหน้า  ใบหน้าสวยคลอเคล้าไปด้วยน้ำตามากมายซับลงบนเนื้อ

เสื้อนุ่มราคาแพงของเขาจนเปียกชื้น

 

 

“จบกันเสียที....ฮึก...แก้วกับเขาจะได้ไม่ต้องมีเรื่องพัวพันกันอีกต่อไป”

 

 

“เขา..รักแก้วมากน่ะ..พี่ว่าแก้วน่าจะรุ้จักกับคำว่าโอกาส”

 

 

      สาวสวยผละออกจากอ้อมกอดของเขา ใบหน้างามส่ายหน้าราวกับเธอต้องการปฎิเสธคำแนะนำ

ของเขา

 

 

“ให้เขาได้รู้จักกับคำว่าเจ็บปวด...แก้วต้องการอย่างนั้น..”

 

 

“แต่พี่ว่าทุกอย่างมันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้  ถ้าแก้วอภัยให้......”

 

 

“ไม่ค่ะ..ความทรงจำในอดีตมันก็คืออดีต ถ้าเขายังยึดติดกับอดีต  เขาก็จะไม่มีอนาคต”

 

 

“เฮ้อ...แต่แก้วเองก็เจ็บ”

 

 

      

     แม้นตัวเขาจะพยายามแนะนำอย่างไร แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะดื้อรั้นเสียเหลือเกิน  มือหนายกขึ้น

เช็ดน้ำตาให้ที่แก้มทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน เพราะเธอเป็นอย่างนี้จะไม่ให้เขาห่วงได้อย่างไร

 

 

“ใช่  ฮึก  แก้วเจ็บมากกว่าเป็นพันเท่า ที่ต้องฝืนใจตนเอง...แต่คนป่วยใกล้ตายก็ยังมียารักษาหายให้มี

ชีวิตดำเนินต่อไปได้...แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ตายไปแล้วอย่างแก้วที่ฟื้นขึ้นมายืนหยัดใหม่อีกครั้ง

 เพราะพี่..พี่ทำให้แก้วรู้จักคำว่า ก้าวต่อไป  เดินไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัวอุปสรรคความหนาว

เหน็บ”

 

 

“แก้ว....”

 

 

“ถนนของแก้วกับเขาเป็นเหมือนเส้นขนาน ที่ไม่มีวันมาบรรจบ ....พี่ไม่ต้องพูด  แก้วรุ้ว่าถึงจะเป็นเส้น

ขนานเขากับแก้วก็พร้อมที่เดินเคียงคู่ไปกันได้...แต่ตอนที่แก้วเหนื่อย..แก้วหยุดพัก เพราะท้อแท้ 

เขาไม่ได้รอแก้ว  เขาไปโดยไม่หันหลังมาจูงมือแก้วไปด้วยกัน ถึงตอนนี้ แก้วมีแรงขึ้นมาที่จะเดินก้าว

ต่อเพราะมีสายลมเข้าโอบพัดอย่างพี่พร้อมจะเคียงข้างแก้วไปเสมอ จะไม่ทิ้งแก้วให้โดดเดียวใช่มั้ย

ค่ะ”

 

 

หญิงสาวเอ่ยยิ้มสวยให้คนตรงหน้า  จนเขาอดที่จะปลื้มปิติไม่ได้ คว้าร่างบางมากอดอีกครั้ง

 

 

“พี่สัญญา...ว่าจะเป็นสายลมโอบอุ้มเธอตลอดไป”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

3เดือนผ่านไป

ทุกอย่างดำเนินชีวิตกันอย่างปกติ ไม่มีเรื่องราวมากวนใจแก้วอีกนับแต่วันนั้น เธอไม่เคยได้ข่าวเห็น

หน้าเขาคนนั้น คนที่เธอทิ้งไป  แต่เธอก็ไม่ได้เหงาถึงขนาดต้องคิดเรื่องราวเก่าๆเสมอไป  เพราะชาย

หนุ่มผู้เป็นดุจดังสายลมยังคอยอยู่ใกล้ๆดูแลเธอ โอบอุ้มรอบตัวเธอไปด้วยความรักและห่วงใย จนเธอ

กลับมายิ้มได้เหมือนวันเก่า  วันนี้ก็เช่นกันเขามาส่งเธอที่บริษัทเช่นทุกวันแล้วก็กลับไป 

 

 

 

 

สาวผมซอยสั้นเมื่อครั้งก่อนตอนนี้เริ่มยาวเคลียบ่า ล้อมรอบใบหน้าขาวใสได้งดงาม  ร่างเพรียวบางใน

ชุดเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น เผยท่อนขาเรียวเกรดเอ กำลังเดินทอดน่องเข้ามาใน

บริษัทอย่างเร่งรีบ วันนี้เธอได้รับโทรศัพท์เร่งด่วนจากเฮียฮ้อสั่งให้มาพบ 

 

 

 

 

“เดี๋ยวค่ะ...รอฉันด้วย อย่าเพิ่งปิดค่ะ”

 

 

 

 

เสียงหวานตะโกนร้องลั่น ขาเรียวก้าวสลับวิ่งตรงไปยังลิฟท์ที่กำลังจะปิด  แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนใน

ลิฟท์ยืนหันหลังอยุ่ไม่ได้สนใจเสียงร้องเรียกตะโกนช่วยเหลือเธอแม้แต่น้อย

 

 

ครืด.....

 

 

เสียงแผ่นโลหะลิฟท์กระทบกับมือเรียวสวยที่เข้ามาขวางไม่ให้มันปิดได้ทัน  ร่างเพรียวบางของแก้ว

หายใจหอบก้าวเข้ามาในลิฟท์มองดูคนที่หันหลังให้อย่างดูแคลนแห่งความแล้งน้ำใจ ก่อนจะยืนหัน

หลังให้พวกเขา   มือเรียวกดปิดก่อนจะรู้ว่าคนด้านหลังก็มีจุดมุ่งหมายขึ้นไปชั้นเดียวเหมือนเอ คือชั้น

สูงสุดของตึก   ห้องประธาน

 

 

 

 

“..จ๊วฟ..อื้อ......โมะค่ะ..อย่าล้วงเข้าไปสิ..อ๊ะ...”

 

 

 

 

เสียงครางสุดสยิวจนทำให้คนฟังถึงกับขนลุกซู่แต่ที่ทำให้แก้วถึงกับหยุดความคิดกึก  เมื่อชื่อของคน

ที่คุ้นเคยได้หลุดออกมาจากเสียงครางกระเส่านั่น  ดวงตากลมโตค่อยๆเสหันกลับมามองช้าๆ  ก่อนที่

มันจะเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อคนที่ยืนหลังเธอไม่ได้มีแค่คนเดียว  แต่มีผู้ชายที่เธอเกลียดที่สุดกำลัง

ยืนพลอดรักสวาทให้แก่กันและกันไม่อายฟ้าอายดินอยุ่ตรงหน้าเธออย่างเร่าร้อน มือขวาเรียวนั่นกำลัง

ล้วงเข้าไปในกระโปรงสั้นจู๋ของสาวเผยให้เห็นก้นอวบอัดที่ปกปิดด้วยผ้าลูกไม้สีเพลิงและบีบเคล้นมัน

ต่อหน้าต่อตาแก้ว

 

 

 

“โทโมะ....พะ...พี่แจม”

 

 

 

 

แก้วเอ่ยเสียงสั่นผ่าเบา ดวงตากลมโตสั่นระริก  เธอกำลังช็อคกับเหตุการณ์ที่ได้เจอสดๆจังๆ แต่ดู

เหมือนคนทั้งคู่กำลังไม่มีสติโดยไม่รุ้ว่า พวกเขาไม่ได้อยุ่กันแค่เพียงลำพัง!!!!  แต่มีคนนอกอย่าง

เธอ!!! จ้องมองบทสวาทแสนน่ารังเกียจร่วมอยุ่ด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

“อื้อ...อ๊าส์”

 

 

 

 

รุ่นพี่คนสวยยังคงดื่มด่ำกับรสจูบที่แสนจะดูดดื่มนั่นอย่างเร่าร้อนกระหาย แก้วจิกเล็บตนเองบนมือ

แน่น ก่อนจะขบฟันรีบหันหลังให้ภาพที่น่าอดสูสิ้นดีอย่างละอายใจ ดวงตากลมโตที่มีน้ำใสจ้องมอง

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างใจจดใจจ่อ   เมื่อตัวเลขหยุดลงเมื่อถึงที่หมาย  ขาเรียวยาวก็ก้าวออกมา

จากลิฟท์โดยไม่วายหันมามองส่งสายตาสมเพชแก่คนในลิฟท์

 

 

 

 

“อื้อ...โมะค่ะ  ถึงแล้ว พอก่อนเถอะ  ไว้เราไปต่อกันที่รถหรือที่อื่นน่ะค่ะ”

 

 

“อืม...รู้มั้ยผมอยากกินคุณจนใจจะขาดแล้ว...แก้ว”

 

 

 

เมื่อแจมผละออกจากโมะก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าตนเองให้เขาที่ โทโมะยิ้มร้ายกาจให้สาวรุ่นพี่ราวกับจ้อง

จะกิดเลือกกินเนื้อ ก่อนที่สายตาภายใต้แว่นดำจะมาหยุดชะงักเมื่อสบกับร่างที่ยืนมองพวกเขาอยุ่ที่

หน้าลิฟท์  เสียงทุ้มเอ่ยชื่อเธอแผ่วเบา งุนงงเล็กน้อยที่เจอกับคนที่เขายังไม่พร้อมที่จะเจอ ดวง

ตากลมโตของแก้วจ้องมองมาที่เขาอย่างสมเพชและดูรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

 

 

 

 

“อ้าว...น้องแก้วจะกลับแล้วหรอจ้ะ  เชิญจ้ะ  พี่กับโทโมะกำลังจะออกพอดี”

 

 

 

 

แจมเอ่ยกับสาวรุ่นน้องอย่างยิ้มร้ายก่อนจะควงแขนโทโมะแล้วเดินผ่านร่างของแก้วมาหยุดที่ด้านหลัง

แก้วเล็กน้อย เพราะชะงักกับคำพูดของแก้วที่เอ่ยเอื้อนออกมา

 

 

 

 

“เปล่าหรอกค่ะ  แก้วก็กำลังจะไปพบเฮีย...พี่แจมคงลืมไปว่าในลิฟท์เมื่อกี้ไม่ได้แค่พวกพี่สอง

คน!!!!...หึหึ รุ้น่ะค่ะว่าหิวจนตัวสั่น แต่ถ้าจะกินกันแบบไม่เลือกสถานที่ ไม่อายฟ้าดินแบบนี้...ก็ควรหา

ที่กินที่มิดชิดปลอดสายตาและประสาทหูของคนอื่นมากกว่านี้น่ะค่ะ”

 

 

 

 

“นี่แก...กรี๊ดดด  แกหาว่าฉันกับโทโมะหน้าด้านหรอ”

 

 

 

แก้วยิ้มเยาะหันมามองร่างสาวรุ่นพี่ที่ดิ้นพล่านอย่างโมโห  ก่อนจะหันไปมองใบหน้าชายหนุ่มที่ยืน

เคียงข้างอย่างดูแคลน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับคำด่าทอของเธอแม้แต่น้อย

หนำซ้ำยังตีหน้าเย็นชาเป็นทองไม่รุ้ร้อนจนเธอเองมองแล้วรู้สึกหมั่นไส้คนหน้าไม่อายเสียจริงๆ

 

 

 

 

“หึหึ..ไม่หรอกค่ะ แก้วไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  แก้วแค่เตือนเท่านั้นเอง ว่าระวังนอจะโผล่น่ะค่ะ 

ถ้าหากยังหน้าไม่อายอยู่อย่างนี้ อ้อ...รู้มั้ยว่าเสียงครางของพี่น่ะ เร่าร้อนเหมือนมิยาบิเลย ดังสนั่นซะ

 

 

 

แก้วเอ่ยยียวน ก่อนจะยิ้มร้ายเดินกระแทกไหล่ของโทโมะอย่างหมั่นไส้ผ่านหน้าไปทิ้งให้แจมร้องกรี๊ด

ลั่นดิ้นพล่านอยุ่ตรงนั้น   โทโมะมองคนอื่นที่กำลังมองมายังพวกเขา ก่อนจะแกะมือแจมออก แล้ว

เดินหนี

 

 

 

 

“โทโมะ...นั่นนายจะไปไหนน่ะ  ”

 

 

“แจมไปรอผมที่รถดีกว่า  ผมขอเข้าไปคุยธุระกับเฮียแปบนึง”

 

 

โทโมะเอ่ยบอกอย่างปัดๆก่อนจะรีบปลีกตัวตรงดิ่งเข้าไปยังห้องประธานบริษัททันที

 

 

“ขออนุญาติครับเฮีย”

 

 

“อ้าวโทโมะมาแล้วหรอ..นั่งสิ  แก้วก็เพิ่งมาถึงเอง  อ๊ะดอลล่าร์แก้วเฮียให้คืน มันน่ารักมากเลย

 ซนมาก”

 

 

 

 

เฮียฮ้อกับซิ้มที่นั่งเล่นกับหมาน้อยสุดรักของแก้วอยู่ที่โซฟา ก่อนจะปล่อยคืนให้เจ้าของ  แต่ดูเหมือน

หมาน้อยสุดซนจะไม่ได้ตรงไปหาเจ้าของเหมือนที่หวัง กลับวิ่งกระโจนไปที่นั่งบนตักของโทโมะแทน

และดูออดอ้อนเสียเหลือเกิน

 

 

 

“ดอลล่าร์...แม่อยุ่ทางนี้! มาหาม๊ามา!!”

 

 

แก้วหันมาดุหมาสุดรักที่กำลังหนุนตักโทโมะหลับตาพริ้ม

 

 

“ไงดอลล่าร์ไม่ได้เจอกันเป็นเดือน คิดถึงป๊าหล่ะสิ”

 

 

โทโมะไม่สนใจแก้วที่ดูทุกข์ร้อนจะเอาหมาคืน ก่อนจะโอบอุ้มเจ้าตัวน้อยอย่างคะนึงหาจูบซ้ายขวา

อย่างอารมณ์ดี

 

 

 

“ดอลล่าร์!!!!!!!!!”

 

 

 

แก้วตวาดลั่นอย่างโมโห

 

 

 

“เอาหล่ะปล่อยไปเถอะแก้ว   คงรู้สิน่ะว่าทำไมเฮียถึงเรียกเราสองคนมาพบ”

 

 

“ไม่รุ้ค่ะเฮีย”

 

 

แก้วทำหน้าเสียหันมามองเฮียฮ้ออย่างนึกฉงน  ตอบตรงไปตรงมาก็เฮไม่รุ้จริงๆนี่ว่าเฮียเรียกเธอกับ

เขามาพบเรื่องอะไร

 

 

 

“แล้วเธอหล่ะโทโมะ”

 

 

“พอทราบครับ  แต่ไม่ค่อยรุ้รายละเอียดลึกเท่าไหร่  รุ้แต่ว่าถ่ายแบบปกหนังสือรับซัมเมอร์นี้”

 

 

“ถูกต้อง...มีนิตรยสารชื่อดังยื่นโปรเจคงานมาให้เธอสองคนรับงานคุ่กัยคือถ่ายแบบขึ้นปกคอเลคชั่น

ชุดว่ายน้ำรับหน้าร้อนนี้”

 

 

“แก้วขอไม่รับงานนี้ค่ะ”

 

 

 

แก้วรีบปฎิเสธทันควันแน่นอนเธอไม่ได้อยากปฎิเสธงานดีๆอย่างนี้ แต่เพราะมีเขา!! เธอไม่อยากร่วม

 

งานคุ่กันอีกแล้ว 

 

 

 

“ค่าตัว  7 หลักเลยน่ะแก้ว  งานง่าย เงินดี  หาง่ายที่ไหน ”

 

 

“ขอโทษค่ะเฮีย...คือแก้วไม่อยากมีปัญหา”

 

 

แก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า เปรยตาไปมองโทโมะ แต่เขาไม่ได้มองเธอกลับหรอกน่ะดูเหมือนเขาจะไม่

ใส่ใจด้วยซ้ำ  กำลังเล่นเพลินอยุ่กับหมาของเธออยุ่

 

 

 

“กับพระเอกหนุ่มหล่อแฟนเธอหรือเปล่า...หึหึ...เธอกล้าปฎิเสธงานที่เฮียเสนอให้ด้วยตนเองเองหรอ

จริญญา ”

 

 

 

ดูเหมือนตอนนี้เฮียเจ้าของค่ายเริ่มอารมณ์คุ  ยิ้มเหยียด จนอาซิ้มรีบเอามือไปกุมมือเขาไว้ บีบปราม

กลัวว่าจะโพล่งอะไรที่ไม่ได้ออกไปจนเด็กกลัว

 

 

 

“เฮียไม่รุ้หรอกน่ะว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้จริญญา...ตั้งแต่ที่เธอเริ่มคบกับผู้ใหญ่คนนั้น  ดู

เหมือนเธอกำลังจะดีแตก....ขอโทษถ้าหากว่าแรงไป   แต่เฮียอยากให้เธอแยกแยะอันไหนงานอัน

ไหนเรื่องส่วนตัว!!!...”

 

 

“เฮีย......”

 

 

แก้วเอ่ยเรียกชื่อผู้ใหญ่ที่เคารพด้วยน้ำเสียงตกใจ หน้าซีดเหมือนจะร้องไห้ รีบก้มหน้ากุดมองมือตน

เองที่ตักที่กำลังบีบกันแน่น  โทโมะจ้องมองไปยังเฮียฮ้อด้วยแววฉงน  แต่เพราะเขาคงเป็นคนนอก

สำหรับเธอเลยเบืนหน้าหนีทำเป็นไม่ได้ยินซะ

 

 

 

 

“จริงอยู่บริษัทไม่มีกฎห้ามมีแฟน....แต่ถ้ามีแฟนแล้วมันทำให้เธอเลือกงานเรื่องมากแบบนี้...เฮียคง

ต้องยื่นคำขาดแล้วหล่ะว่าเธอต้องเลือกเส้นทางของเธอเอง...ว่าจะให้อนาคตจบลงแบบพิม  มีน

เพื่อนๆของเธอที่ออกไป   หรือว่าจะก้าวเดินทำงานไปต่อพร้อมกับเพื่อนร่วมวงของเธออีกสองคนที่

กำลังตั้งใจฝึกซ้อมทำงานอยู่ตอนนี้..”

 

 

 

 

“แต่พี่เค้าเป็นคนดีน่ะค่ะเฮีย..เค้าดีกับแก้วมากๆ”

 

 

“ใช่  เฮียรู้...แต่เธอต้องรักให้เป็น  รักให้ถูกทาง ไม่ใช่พอมีความรักแล้วเธอจะต้องตาบอด ไม่สนใจ

งานหรือความรุ้สึกคนรอบข้าง  เพียงเพราะว่าเธอต้องการอยุ่เคียงข้างเขาอย่างมีความสุขก็พอ...”

 

 

 

“ฮึก...แก้วขอโทษที่หัวแข็งกับเฮีย...แก้วจะรับงานนี้ค่ะ  ”

 

 

 

 

แก้วเอ่ยทั้งน้ำตาจ้องมองใบหน้าเฮียฮ้อที่กำลังหน้าแดงจัดด้วยความโมโห  ก่อนจะหันไปมองโทโมะ

นิ่ง   เขากำลังจ้องมองมาที่เธอเช่นกัน  เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าสายตาภายใต้แว่นดำนั่นกำลังคิดอะไรอ

ยู่กับเธอ   สมเพช เยาะเย้ย  หรือว่าสงสารเธอกันน่ะ   

 

 

  แล้วทำไมเธอต้องมานั่งคิดสนใจความรุ้สึกของเขาด้วย

 

 

แก้วคิดได้ดังนั้นก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นปาดน้ำตาทิ้ง

 

 

 

“ถ้ามันไม่ได้ออกมาจากความตั้งใจของเธอจริงๆก็ไม่ต้องก็ได้  เฮียจะหาคนที่เขาเต็มใจมาแทนเธอก็

ได้แก้ว..เฮียไม่อยากบังคับฝืนใจใครทั้งนั้น”

 

 

 

“ไม่ค่ะ...ฮึก  แก้วเต็มใจจะรับงานนี้   แก้วสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ค่ะ”

 

 

 

“หึหึ...ถ้าคิดว่าเธออยากทำมันจริงๆก็โอเค ออกเดินทางพรุ่งนี้ เขาจะไปถ่ายแบบกันที่พัทยา

ตกลงตามนี้น่ะ   ”

 

 

 

 

“ค่ะเฮีย/ครับเฮีย”

 

 

 

 

แก้วยิ้มออกมาอย่างจริงใจก่อนที่จะกราบลาพร้อมกับโทโมะและออกมาจากห้องพร้อมกัน  โทโมะอุ้ม

ดอลล่าร์ไว้ในอ้อนแขน ก่อนจะหยุดเดินหันหน้ามาหาแก้วที่เดินอยุ่ด้านหลัง ดวงตาเรียวภายใต้แว่น

ดำดูอ่อนโยนอยากจะซับน้ำตาให้คนตรงหน้าเหลือเกิน  แต่เขาก็แข็งใจไว้ปั้นสีหน้าเย็นชากลับไป  

เขาจะไม่มีวันใจอ่อนอีกเด็ดขาด โทโมะคนที่อ่อนแอน่าสมเพชคนนั้นได้ตายจากไปจากโลกนี้เสีย

แล้ว มือเรียวที่อุ้มเจ้าหมาวางดอลล่าร์ลงบนพื้นให้มันเดินไปหาแก้ว ก่อนที่ตนเองจะหันหลังเดินไปที่

ลิฟท์

 

 

 

 

“ดอลล่าร์มานี่น่ะ...ดอลล่าร์”

 

 

 

 

เสียงหวานร้องเรียกสุนัขลูกรักที่วิ่งหนีเธอตรงเข้ามายังในลิฟท์คลอเคลียอยุ่ที่ขายาวของโทโมะที่ยืน

อยู่  แก้วได้แต่ยืนจ้องมองนิ่ง ก่อนจะเข้าไปจับดูเหมือนเจ้าหมาน้อยจะร้องขัดขืน โทโมะทนไม่ไหว

คว้าดอลล่าร์ขึ้นอุ้มอย่างถือวิสาสะ

 

 

 

 

“นั่นมันหมาฉัน เอามานี่น่ะ  นายไม่มีสิทธิ์แตะต้องมันอีกตั้งแต่นี้ต่อไป ”

 

 

“...”

 

 

 

โทโมะไม่ตอบยังคงตีหน้าเย็นชา  มือเรียวเอื้อมไปกดลิฟท์โดยไม่สนใจคนร้อนรนอยุ่ข้างๆที่พยายาม

 

แย่งชิงดอลล่าร์ออกไปจากเขา

 

 

 

 

“ปล่อยดอลล่าร์น่ะ   ฉันบอกให้ปล่อย นี่นาย...”

 

 

 

“ไงดอลล่าร์คิดถึงป๊าขนาดนั้นเชียว..หึหึ  มาเดี๋ยวป๊าจะพาไปหาฮันนี่น่ะ  รุ้มั้ยฮันนี่คิดถึงแกมากเลย”

 

 

 

โทโมะเอ่ยยิ้มร่ากับดอลล่าร์ที่นอนซุกให้อ้อมแขน  ไม่ได้สนใจแก้วที่พยายามแย่งยื้อแม้แต่น้อย ดู

เหมือนแก้วจะไม่มีตัวตนในสายตาเขาและดอลล่าร์เลย  เมื่อลิฟท์เปิด  โทโมะก็อุ้มดอลล่าร์เดินออก

ไปที่รถ

 

 

 

“นี่นายโทโมะ...เอาดอลล่าร์มาน่ะ  เอาคืนมา!!!!!”

 

 

“....”

 

 

“นายจะเล่นสงครามประสาทกับฉันใช่มั้ย!!...บอกว่าเอาดอลล่าร์มาไง”

 

 

“...” ปัง!!!!!!!!

 

 

 

โทโมะขึ้นมานั่งในรถแล้วปิดประตูใส่หน้าแก้วดังปังก่อนจะวางดอลล่าร์ในรถอย่างนุ่มนวล แก้วมอง

 

การกระทำของโทโมะอย่างโกรธแค้น

 

 

ปังๆๆๆๆ

 

 

แก้วเอามือทุบกระจกรถรัว

 

 

 

“ไอ้โทโมะบ้า...เอาดอลลล่าร์คืนมาน่ะ  เอามาๆๆๆๆๆ”

 

 

“.....”

 

 

 

ให้ตายสิ แก้วใจคนนี้อยากเอาปืนมายิงกระบาลคนตรงหน้าเสียจริงๆ คิดจะเล่นสงครามเย็นกับเธองั้น

หรอ  เสียงสตาร์ทรถดังขึ้นก่อนที่มันจะถูกขับเคลื่อนผ่านหน้าแก้วไปอย่างรวดเร็ว แก้วมองตามอย่า

โมโห  แม้เธอจะโกรธแค่ไหน  แต่ก็ไม่ได้ตามไปเอาดอลล่าร์คืน  เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะกลับไป

บ้านหลังนั้นอีก   อีกอย่างดอลล่าร์เคยผูกพันกับเขามาก่อน ไม่ได้เอกันหลายเดือน คงคิดถึงจริงๆ 

ปล่อยไปอย่างงนั้นไปก่อน  ไว้ให้พี่กิ่งไปเอาคืนให้แล้วกันแต่ที่เธอแปลกใจก็คือ  ทำไมเขาถึงทำกับ

เธอราวกับอากาศธาตุแบบนั้น

 

 

 

 

“แกอยากให้มันเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรอยัยแก้วใจ   ทำไมต้องแคร์ด้วยหล่ะแค่เขาไม่สนใจแกเนี่ย”

 

 

 

หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆก่อน  จะถอนหายใจเดินไปที่รอรถของคนที่บอกไว้ว่าจะมารับ

 

 

ตี๊ด ตี๊ด

 

 

‘วันนี้จะไปรับดูหนัง  กินข้าวน่ะครับเด็กน้อย --- ลุงpong’

 

 

 

 

 

-----กลับมาแว้วหลังหายไปนาน คิดถึงรีดเดอร์จุ๊บๆ-----

ตลอดไรเตอร์คนนี้ ชอบหายแวบไปอยุ่เรื่อย

ขอกราบอภัยโทษงามๆ เนื่องจากพี่ติดเอ็นน่ะจ้ะน้องๆ

ตอนหน้ารับรองมีวาบหวิวเบาๆมาให้ชม อาจถึงขั้นNC รึเปล่า

แล้วแต่เรตติ้งน่ะ   ถ้าเรตติ้งดี พี่เอามาให้จัดเต้มเลย

ก็รุ้ๆกันอยุ่ว่าจัดเต้มพี่ยังไง.....เอ๊ะ  หรือว่าไม่มีเคยรุ้

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา