No name ความรักครั้งนี้ไม่มีชื่อเรื่อง
9.4
13) ห่วง...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเดินลงจากเตียงไปชำระร่างกายก่อนจะลงไปด้านล่าง
แม่โทโมะ : น้องไม่สบายเหรอไง
โทโมะ : ครับ
แม่โทโมะ : เมื่อคืนเป็นอะไรกันทำไมลากน้องแบบนั้น
โทโมะ : ไม่มีอะไรครับ
แม่โทโมะ : น้องน่าสงสารลูกรู้ไหม แม่อยากให้เราดูแลน้องมากๆผู้หญิงเหมือนกันหมด อยากให้คนที่รักเอาใจ อยากให้คนที่รักแคร์
‘เธอไม่ได้รักผมหนิ’
โทโมะ : แม่ครับผมมีเรื่องอยากถาม
แม่โทโมะ : ได้สิ แต่ตอนนี้ไปคุยกันที่โต๊ะอาหารดีไม๊ จะได้ทานข้าวไปด้วยเลย
เดินตามไปยังโต๊ะทานข้าว ข้าวเช้าถูกตักเสิร์ฟ
แม่โทโมะ : ไหนมีอะไรจะถามแม่
โทโมะ : ครั้งแรกของแม่ พ่อรุนแรงกับแม่ไหมครับ
แม่โทโมะ : ลูกชายถามแม่แปลกๆนะ แต่เอาเถอะ พ่อลูกนะน่ารักไม่ทำให้แม่ร้องไห้เลยนะว่าแต่ถามทำไมหล่ะ
โทโมะ : แล้วถ้ารุนแรงจะเป็นยังไงครับ
แม่โทโมะ : คงเจ็บน่าดูอยากรู้ทำไมไม่ถามหนูแก้วหล่ะมาถามแม่หน้าไม่อาย
ตักข้าวเข้าปาก รสชาติของกับข้าวทำให้นึกถึงคนข้างบนอยากทานรสมือของเธอสุดท้ายทนไม่ได้ต้องขอตัวขึ้นกลับขึ้นไปบนห้อง
+
+
+
แก้ว : อื่อออ
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บจี๊ดบริเวณที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง
แก้ว : โอ้ยย
ขยับจะลงจากเตียง
แก้ว : ฮึก อะโอ๊ะ...เจ็บจัง
เดินตัวงอลงจากเตียงจนได้เห็นรอยเลือกแล้วยิ่งใจหาย รวบผ้าปูที่นอนออกจากเตียงเพื่อจะไปซักค่อยๆก้าวเดินเพื่อไปเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื้อนห้อง ชายหนุ่มค่อยๆเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวเห็นเดินกระเพกอย่างไวที่สุดเพื่อจะหลบสายตา กลัวว่าชายหนุ่มจะยังไม่หายโกรธ
โทโมะ : แก้ว...
เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว
โทโมะ : เรื่องเมื่อคืน...
ความรู้สึกห่วงหาอาทรเริ่มเข้าครอบงำจิตใจมากขึ้นทุกวัน
โทโมะ : ขอโทษ...จะยกโทษให้ผู้ชายเลวๆคนนี้ได้ไหม
น้ำเสียงผิดไปจากคนเมื่อคืนนี้มาก อ่อนโยนนุ่มนวลและเว้าวอน
แก้ว : ไม่เป็นไรฉันไม่ได้โกรธ
ชายหนุ่มจ้องมองลึกลงไปนัยน์ตาคู่สวย เธอกำลังน้อยใจเค้า รู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่คิดรึเปล่า
โทโมะ : เจ็บมากไหม
เดินเข้ามาใกล้
แก้ว : ยังพอทนได้
น้ำเสียงหวานที่ฟังดูแล้วห่างเหิน ทำให้ชายหนุ่มใจไม่ดีแปลกๆขว้าหญิงสาวเข้ามากอด
โทโมะ : ทำไมต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นน้อยใจอะไร
แก้ว : ฉันปกติ แล้วไม่มีสิทธ์อะไรไปน้อยใจคุณ
โทโมะ : เธอมีสิทธ์ของการเป็นภรรยาไง
แก้ว : แก้วไม่เคยมีสิทธิ์อะไรในตัวพี่อยู่แล้ว…เอ่อขอโทษคะที่ใช้คำไม่สมควร
ปากไวเท่าความคิดไม่ทันที่จะเปลี่ยนสรรพนามหลุดใช้คำไป รีบกล่าวขอโทษ
โทโมะ : ไม่เป็นไรเรียกว่าพี่ก็ถูกแล้ว
ชายหนุ่มแอบดีใจลึกๆที่หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่าแก้วแล้วเรียกเค้าว่าพี่ เดินหนีเข้าห้องน้ำ เข้าไปนานจนชายหนุ่มรอไม่ไหวไปทำงานก่อน
แก้ว : โอ้ยยย...เจ็บชะมัดเลย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ
เดินกะเพกออกมาจากห้องน้ำ จะทำอะไรแต่ละอย่างมันเจ็บไปหมดเนื้อตัวบางจุดก็แดงเป็นรอยแต่บางที่ก็เขียวช้ำเลยก็มี แต่งตัวให้มิดชิดที่สุดแล้วหยิงผ้าปูเตียงที่ดึงออกไว้เมื่อเช้าไปซัก
ออย : คุณแก้วเดี๋ยวออยซักให้ก็ได้นะคะ
ยืนมือจะขอผ้าปูที่นอนไปซัก หญิงสาวรีบกำไว้แน่น
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่ผืนเดียวแก้วทำได้คะ ออยมีอะไรก็ไปทำเถอะจ๊ะ
ออย : เอางั้นก็ได้คะ
เมื่อออยเดินออกไปหญิงสาวรีบเอาผ้าปูที่นอนลงถังซักทันที ถ้ามีใครเห็นรอยบนผ้าปูนั่นเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน... ซักเสร็จรู้สึกเพลียๆเพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน เดินกลับไปนอนที่เตียงนุ่มที่หยิบผ้าปูผืนใหม่มาปูแล้ว
แก้ว : ฮัลโหลฟางวันนี้แก้วไม่เข้าไปร้านนะฝากด้วย
(จ๊า...ไม่เป็นไรเดี๋ยวฟางดูให้จ๊ะ)
วางสายเพื่อนแล้วก็ผลอยหลับไป
+
+
+
19.00
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะ...ทำไมวันนี้กลับเร็วหล่ะ
โทโมะ : รีบหน่ะครับ คุณแม่เห็นแก้วไหมครับ
แม่โทโมะ : วันนี้เห็นแค่ลงมาซักอะไรสักอย่างแล้วก็ขึ้นไปห้องจนป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย ลูกไปดูน้องทีนะว่าป่วยรึเปล่าแม่ต้องรีบไปงานหน่ะเลยไม่ได้ไปดูเลยไม่รู้เป็นอะไรมากไหม
โทโมะ : ครับ
+
+
+
เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุดกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นเพราะตัวเองเสียงดัง ใบหน้าสวยหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง ชายหนุ่มดึงผ้าห่มมาห่มให้ก่อนจะไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วเข้ามานอนกอดหญิงสาวจนหลับไปด้วยกัน
เช้า
แก้ว : อืออออ....
ตื่นมาในตอนเช้าของอีกวัน ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกลับมานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลุกจากเตียงไปอาบน้ำจัดชุดให้ชายหนุ่มลงไปทำอาหารเช้าแล้วขอตัวออกไปทำงานเลย
โทโมะ : แม่ครับ แก้วไปไหน
แม่โทโมะ : น้องออกไปทำงานสักพักแล้วจ๊ะเดี๋ยวนี้หัดถามหาน้องบ่อยนะเรา
สะอึกไปเหมือนกันกับคำถามของแม่ตัวเอง
โทโมะ : ผมไปทำงานก่อนดีกว่านะครับ
แม่โทโมะ : ไม่ทานข้าวเช้าหน่อยเหรอลูก น้องอุตสาห์ทำไว้ให้
แทนที่จะก้าวออกจากบ้านไปกลับนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจึงค่อยไปทำงาน
แม่โทโมะ : บอกว่าน้องทำรีบทานเลยนะ ถ้าบอกว่าแม่นมทำให้คงจะไม่ทานแน่ๆ
ยิ้มไล่หลังลูกชายที่กำลังขับรถออกไป
+
+
+
+
แก้ว : ฟางอรุณสวัสจ๊ะ
ทักทายเพื่อนสาวที่หน้าร้าน
ฟาง : จะแก้ว....
แก้ว : แล้ววันนี้ใครมาส่งน้า....
มองไปคนในรถที่ฟางลงมา
ฟาง : อ๋อ...พี่ป๊อปพึ่งกลับมาจากเหนือนะเค้าก็เลยมาส่ง
แก้ว : แฟนมาส่งนี้เอง
แก้วระบายยิ้มออกมาก่อนจะมองเข้าไปในกระจกรถที่ติดฟิล์มดำ มองไปก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เธอก็คิดว่าคนในรถคงมองเธออยู่แน่จึงยิ้มไปให้ คนในรถจึงเลื่อนกระจกลงมายิ้มทักทายหญิงสาว
แก้ว : ทักทายนะคะพี่ป๊อปของยัยฟาง
ฟาง : แก้วพี่ป๊อปเค้าไม่ใช่ของฟางสักหน่อย
ป๊อปปี้ : ครับยินดีที่ได้รู้จัก...พี่เป็นของฟางหน่ะถูกแล้ว
มองฟางตาหวานเยิ้ม หญิงสาวอดอิจฉาไม่ได้
ฟาง : ของฟางก็ของฟางคะ พี่ป๊อปค่ะนี้แก้วเพื่อนฟางเองคะ
ป๊อปปี้ : ครับคุณแก้วฝากยัยฟูด้วยนะครับเดี๋ยวเย็นๆจะมารับ
แก้ว : คะรับฝาก เย็นนี้อย่าลืมมารับนะคะเดี๋ยวจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง
ฟาง : โตแล้วนะไม่ร้องแล้วหล่ะ
ป๊อปปี้ : จริงเหรอ~...งั้นเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะมารับไปทานข้าวที่บ้านพี่นะจะได้รู้จักแม่แล้วก็ครอบครัวพี่ด้วยเนอะ
ฟาง : จะดีเหรอพี่ป๊อป
ป๊อปปี้ : ดีที่สุดครับ พี่ไปทำงานก่อนนะครับ
ฟาง : คะ บ๊าย บาย
‘เหมาะกันดีจังเลยมาส่งกันด้วย’
แก้ว : พี่ป๊อปของฟางหล่อนะเนี่ย
คุยกันระหว่างที่เดินเข้าร้าน
ฟาง : ขอบคุณแทนพี่ป๊อปจ๊า แต่คุณวิศวก็หล่อน้า~
พูดล้อๆเพื่อน
แก้ว : อืม...เมื่อวานแก้วไม่ได้มามีงานอะไรที่ต้องเซนไหมอ่า
ฟาง : ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอกเพราะร้านเราพึ่งเปิดคอเลคชั่นใหม่ไปเอง
แก้ว : ดีจังเลยมีฟางอยู่ช่วยงานแก้วแทบไม่ได้บริหารงานเลย
ฟาง : ก็ถ้าไม่มีแก้วฟางก็ไม่มีที่ทำงานเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่เอาฟางไปดูลูกค้าหน้าร้านก่อนดีกว่า
แก้ว : จ๊า...งั้นวันนี้แก้วไปหน้าร้านด้วยนั่งอย่างเดียวเมื่อยแย่
ฟาง : แล้ววันนี้ไม่ไปหาใครเหรอจ๊ะ
แก้ว : ปล่อยให้เค้าได้อิสระบ้างจะดีกว่า
วันนั้นทั้งวันหญิงสาวก็เลยอยู่ที่ร้านทั้งวัน
เย็น
ป๊อปปี้ : ฟาง...เหนื่อยไหมครับป๊อปซื้อน้ำมาฝาก
แฟนหนุ่มของเพื่อนเดินเข้ามาในร้านตรงเข้ามาที่ฟางแล้วส่งน้ำส้มแก้วโตให้ฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป ทำไมมาเร็วจังคะ
ป๊อปปี้ : นานทีพี่จะมาดูงานที่บริษัทเข้าไปก็ไม่ได้ทำอะไรน้องชายมันทำซะทุกอย่างเลย ที่แรกก็ว่าจะไปทำความรู้จักกับน้องสะใภ้สักหน่อยแต่บังเอินวันนี้เธอไม่มาเลยไม่เจอ
ฟาง : น้องชายแต่งงานแล้วเหรอคะ
ป๊อปปี้ : ครับพี่ชาย2คนยังไม่แต่งแต่น้องชายไปแล้ว งั้นเรามาแต่งกันดีไหม
ฟาง : พี่ป๊อปพูดอะไรออกมา
ป๊อปปี้ : งั้นเอาไว้ก่อนเดี๋ยวพี่จะขอฟางเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า แต่พี่อยากให้ฟางรู้ว่าพี่จริงจังกับฟางนะอยากได้เป็นแม่ของลูกจริงๆ
ฟาง : พอแล้วพี่ป๊อป ฟางเขิน
อายม้วนจนแฟนหนุ่มอดไม่ได้ขยี้หัวด้วยความรัก
ป๊อปปี้ : แล้วเลิกงานกี่โมงครับจะพี่นั่งรอได้ไหม
ฟาง : ยังไม่รู้เลยคะ
หญิงสาวมองไปยังทั้งคู่แล้วยิ้มทักทายแฟนเพื่อนสาวอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินเข้าไป
แก้ว : พายัยฟางไปเลยก็ได้คะเดี๋ยวแก้วก็ต้องไปแล้วทางนี้ให้เด็กที่ร้านดูก็ได้คะ
ป๊อปปี้ : ครับ แล้วคุณแก้วจะไปไหนครับ
ฟาง : แก้วเค้าต้องกลับไปทำหน้าที่ภรรยาหน่ะคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วแต่งงานแล้วเหรอครับ
สีหน้าตกใจที่หญิงสาวแต่งงานแล้ว ก็ใช่ใครที่ไม่รู้จักก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นเพราะสาวๆที่สวยปกติจะหวงตัวเป็นพิเศษไม่ยอมแต่งงานง่ายๆ
แก้ว : คะแก้วแต่งงานแล้ว
ป๊อปปี้ : แล้วกลับบ้านยังไงครับผมกับฟางไปส่งไหมครับ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะ แก้วเอารถมาไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวคุณกับยัยฟางหน่ะคะ
ฟาง : ไม่รบกวนนะแก้ว
แก้ว : จ๊ะแต่ว่าฟางหน่ะไปทานข้าวกับครอบครัวคุณป๊อปปี้เถอะเดี๋ยวถ้าไปช้าผู้ใหญ่จะดุเอานะ
ฟาง : จริงด้วยสิ
ป๊อปปี้ : ไม่ต้องรีบหรอกครับฟาง บ้านพี่ทานข้าวเย็นตอนทุ่มตรงยังมีเวลาอีกมากพี่ว่าจะพาฟางไปเดินเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปบ้าน
ยิ้มอ่อนโยนให้
แก้ว : นั่นแหละฟางไปเลยเถอะแก้วก็จะไปแล้ว
ฟาง : จ๊ะงั้นบ๊ายบายนะ
แก้ว : จ๊ะโชคดีนะ
ร่ำลาแล้วแยกย้ายกันไปหญิงสาวหันไปสั่งเด็กในร้านก่อนจะรีบกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าว
19.00
แม่โทโมะ : วันนี้ทำอะไรเยอะแยะไปหมดเลยจ๊ะหนูแก้ว
แก้ว : ก็มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา ต้มยำกุ้ง ผัดถั่วและก็ต้นจืดหมูสับคะ พอดีเห็นว่าในตู้มีเยอะหน่ะคะถ้าไม่รีบทำกลัวจะเสียหมด
แม่โทโมะ : พอดีเลยจ๊ะวันนี้พี่ชายของตาโมะจะมาพอดี
แก้ว : พี่จองเบมาเหรอคะ
แม่โทโมะ : ไม่ใช่หรอกจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จักนะจ๊ะ
แก้ว : งั้นแก้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ
แม่โทโมะ : จ๊ะ
+
+
+
โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะหมู่นี้กลับบ้านเร็วมาสองวันแล้วนะที่บ้านมีอะไรรึเปล่าถึงอยากได้อยากกลับนักหนานะหือ
แกล้งหยอกลูกชายเล่นๆเพราะที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะลูกสะใภ้คนสวยที่ดึงดูดใจให้ลูกชายอยากกลับบ้านไว
โทโมะ : วันนี้พี่ป๊อปจะมาหนิครับ
แม่โทโมะ : เหรอ แม่ก็นึกว่าลูกคิดถึงน้องซะอีก
โทโมะ : มันก็ไม่เชิงหรอกครับนั่นก็ส่วนหนึ่ง
แม่โทโมะ : ถ้าคิดถึงน้องทำไมไม่บอกน้องบ้างบางทีน้องอาจจะอยากฟัง
โทโมะ : ครับ ได้ยินพี่ป๊อปพูดว่าวันนี้จะพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแนะนำ
แม่โทโมะ : จริงเหรอ อยากรู้จังว่าตาป๊อปจะมีเมียดีสู้หนูแก้วได้รึเปล่า
โทโมะ : รอดูสิครับ นั่นไงมาพอดี
ป๊อปปี้ : สวัสดีครับแม่
ฟางที่เดินมาด้วยพลอยยกมือไหว้ไปด้วย สีหน้าของผู้เป็นแม่แว็บแรกที่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้ก็ยิ้มออกมาทันที ทั้งสวยทั้งน่ารัก หาได้แบบนี้คนเป็นแม่ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
แม่โทโมะ : จ๊ะลูก
ป๊อปปี้ : นี้ฟาง แฟนผมครับ
ฟาง : สวัสดีคะคุณน้า
แม่โทโมะ : จ๊ะ ทำไมเรียกน้า เรียกแม่สิลูก มาทานข้าวกันก่อนดีกว่า
เรียกลูกๆมานั่งที่โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : ออย...ไปบอกคุณแก้วทีเชิญเธอลงมาทานข้าวด้วย
โทโมะ : เดี๋ยวผมไปเองครับ
เดินขึ้นไป
โทโมะ : แก้วทานข้าว
แก้ว : สักครู่คะเดี๋ยวตามลงไป
แก้ว : โอ้ย
หันมาไม่นึกว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ข้างหลังทำให้ร่างเล็กปะทะกับอกกว้าง
แก้ว : อะเอ่อ...ขอโทษ
ก้าวถอยหลังไป ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆก่อนจะส่งมือมาให้หญิงสาวจับแต่หญิงสาวเดินออกมาก่อนไม่ยอมจับ
หมับ~
ขว้ามือบางมาจับไว้แล้วพากันเดินลงมา
แก้ว : ฟาง
ฟาง : แก้ว
แม่โทโมะ : รู้จักกันเหรอลูก
สองสาวคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเป็นสะใภ้ครอบครัวเดียวกัน
แก้ว : ฟางเป็นเพื่อนแก้วเองคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วเป็นภรรยาแกเหรอ
โทโมะ : ครับภรรยาผมเอง หวังว่าพี่คงไม่คิดเหมือนพี่จองเบนะ
ป๊อปปี้ : คิดอะไร
โทโมะ : ช่างเหอะครับไม่มีอะไรหรอก
แม่โทโมะ : ตาโมะพี่เค้าก็มีแฟนนั่งอยู่ไม่ต้องหวงมากก็ได้มั๋ง
ป๊อปปี้ : อ๋อ...หวงเมีย มันก็น่าหวงอยู่หรอกเมียสวยขนาดนี้
โทโมะ : พี่ป๊อปแฟนพี่นั่งอยู่นะมาชมเมียผมทำไม
ป๊อปปี้ : ฮ่าฮ่าห่วงจริงๆนะเนี่ย คุณแก้วครับไม่นึกจริงๆว่าผู้ชายโชคดีคนนั้นเป็นน้องชายผมเอง
แก้ว : แก้วไม่ได้ดีอะไรหรอกคะยัยฟางก็น่ารักทำอาหารก็อร่อยกว่าแก้วตั้งเยอะ
ป๊อปปี้ : ครับ ผมว่าถึงฟางจะทำอาหารไม่อร่อยผมก็รักอยู่ดี
ฟาง : พี่ป๊อปอะ คุณแม่อยู่นะ
แม่โทโมะ : ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะหนูฟาง แม่ชอบน่ารักดี
แม่ยิ้มให้
ป๊อปปี้ : ฟางครับทำไมทานแต่ผักหล่ะแค่นี้ก็ผอมแล้วนะทานนี้ดีกว่า
ตักแกงเขียวหวานใส่จานฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป
แม่โทโมะ : ตาโมะไม่ตักอะไรให้หนูแก้วบ้างเหรอ
ทวงเมื่อเห็นว่าลูกชายทานเอาทานเอาอย่างเดียวชายหนุ่มจึงเอื้อมไปตักกุ้งให้หญิงสาว
แก้ว : ขอบคุณคะ
วันนี้คิดผิดจริงๆที่ทำต้มยำกุ้ง เธอแพ้อาหารทะเลแล้วตอนนี้ชายหนุ่มดันตักกุ้งมาให้จะไม่ทานก็กระไรอยู่ แต่จะทำไงได้ถ้าบอกว่าแพ้เดี๋ยวเค้าก็ไม่เชื่อเลยตักใส่ปากเคี้ยวๆไป
ฟาง : ยัยแก้ว!!แพ้อาหารทะเลแล้วทานไปได้ยังไงนั้นกุ้งทะเลนะ
แม่โทโมะ : หนูแก้วแพ้ของทะเลเหรอลูก
แก้ว : คะ
โทโมะ : แพ้ทำไมไม่บอกทานไปทำไม
แก้ว : แก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่นะคะไม่เป็นไรแค่คำเดียวเอง
โทโมะ : แต่แก้วแพ้นะไหนดูสิเป็นอะไรมากรึเปล่า
พลิกดูตามแขนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
แก้ว : แก้วไม่เป็นไหรหรอกคะ พี่ทานข้าวต่อเถอะ
เมื่อพลิกดูเห็นว่าไม่เป็นอะไรก็กลับไปทานต่อ เมื่อสักครู่ที่ชายหนุ่มดูอาการแพ้ยังไม่แสดงแต่ตอนนี้อาการแพ้เริ่มออกแล้ว แขนเริ่มเป็นผื่น
แก้ว : อะเออ...แก้วขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษที่เสียมารยาท
ทำไงได้เมื่อผื่นเริ่มขึ้นมากขึ้นเธอเลยต้องลุกจากโต๊ะอาหาร
หมับ~
จับแขนหญิงสาว
โทโมะ : ไปหาหมอไหมพี่พาไป
แก้ว : พี่ทานข้าวเถอะแก้วไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : แก้วแพ้ขนาดนี้จะให้พี่ทานต่อได้ยังไง
แก้ว : แก้วทานไปไม่มากอีกสักพักคงจะยุบหน่ะคะไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : งั้นคุณแม่ทานข้าวกับพี่ป๊อปและก็คุณฟางไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมพาแก้วไปทายาก่อน
แก้ว : แต่...
ไม่ฟังต่อพาหญิงสาวขึ้นไปบนห้อง
โทโมะ : แสบผิวไหม
สายหัวแทนคำตอบ
โทโมะ : อย่าโกหกพี่นะ
แก้ว : แสบนิดหน่อยคะแต่ทนได้
ชายหนุ่มเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้แล้วทาคาลาไมเพื่อบรรเทาอาการคันสักพักผื่นแดงๆเริ่มยุบตัวลง
โทโมะ : ดีนะไม่ทานเข้าไปมาก ถ้าแพ้ที่หลังอย่าทานนะ
แก้ว : แก้วเห็นพี่ตักให้ ก็เลยทาน
‘ทำไมถึงน่ารักนักนะ ตัวเล็ก’
โทโมะ : แล้ววันนั้นทานไปได้ยังไง
ท้าวความถึงวันที่พาหญิงสาวไปทานอาหารทะเล
แก้ว : พี่บังคับ
โทโมะ : ก็พี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่บอกว่าแพ้
แก้ว : วันนั้นถ้าแก้วบอกว่าแพ้พี่ก็จะตอกกลับว่ามารยา
โทโมะ : มันผ่านมาแล้วนะ
แก้ว : แก้วดูมารยาเหรอคะ
โทโมะ : งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้ายังแสบหรือคันอยู่บอกพี่นะจะพาไปโรงพยาบาล
นั่งนิ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
แก้ว : คะ
ครืน~
เสียงข้อความดังมาจากมือถือชายหนุ่ม
“ฝันดีนะคะที่รัก...พิม”
ที่แรกก็กะว่าจะไม่ดูแต่ความอยากรู้มันมากกว่าทำให้แอบเปิดดู
‘เค้าก็แค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย’
ไม่รู้ทำไมอาการเหล่านี้มันถึงเกิดขึ้น ความรู้สึกน้อยใจมันท่วมท้นใจไปหมดเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องสมุด คืนนี้เธอคงต้องกลับมานอนที่เดิมของเธอ
+
+
+
โทโมะ : แม่ครับเห็นแก้วไหม
แม่โทโมะ : ไม่เห็นหนิลูกแม่เพิ่มเดินออกไปส่งพี่ชายเรากับหนูฟางมา
ออกมาจากห้องน้ำไม่เห็นหญิงสาวอยู่ในห้องก็เดินตามหา
แม่โทโมะ : ห้องหนังสือรึเปล่าลูกแม่เห็นน้องชอบเข้าไปบ่อยๆ
ชายหนุ่มเดินตรงไปห้องสมุดทันที เห็นหญิงสาวนอนคดร่างอยู่บนเก้าอี้หวาย
โทโมะ : แก้ว...ทำไมไม่นอนที่ห้อง
เสียงทุ้มปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา
แก้ว : อือ...
โทโมะ : ทำไมไม่นอนที่ห้อง
แก้ว : มันไม่ใช่ที่ของฉัน
โทโมะ : เป็นอะไรทำไมพูดจาแบบนี้
แก้ว : เปล่าคะเชิญคุณกลับไปห้องเถอะคะ ฉันอยากนอนแล้ว
โทโมะ : แก้วเป็นอะไร ทำไมเรียกพี่ว่าคุณอีกแล้วไม่น่ารักเลยนะ
แก้ว : ฉันไม่น่ารักอยู่แล้ว
โทโมะ : กลับไปนอนห้องของเราเถอะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะฉันนอนที่นี้ได้ เชิญคุณกลับไปคุยกับที่รักตามสบายคะฉันไม่อยากกวน
โทโมะ : น้อยใจพี่เรื่องอะไรรึเปล่า
แก้ว : ทำไมฉันต้องน้อยใจคุณ
‘ใช่ทำไมแก้วต้องน้อยใจพี่ด้วย’
โทโมะ : แก้วกลับห้อง
แก้ว : ไม่!!
โทโมะ : งั้นก็อ่านหนังสือไปก่อนง่วงแล้วก็ขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ไปนอนก่อนนะ
‘ใช่สิ แก้วไม่ใช่พิมพี่ถึงไม่ได้แคร์อะไร’
พอชายหนุ่มเดินให้หลังไปหญิงสาวก็ได้แต่น้อยใจ ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากที่ผูกพันเลื่อนกลายเป็นความรัก...
และแล้วคืนนั้นหญิงสาวก็นอนที่ห้องสมุดเหมือนเดิม
+
+
+
+
กลางวัน
บริษัทโทโมะ
แอ๊ด~
ตอนกลางวันหญิงสาวตัดสินใจเข้ามาหาชายหนุ่มแต่ก็ต้องเจอกับภาพบาดตา พิมนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มกำลังจะปลดไทค์ออก
เพี้ย!!
หญิงสาวเดินปราดเข้าไปฟาดมือลงบนแก้มพิม
พิม : โอ้ยยยย
แก้ว : หน้าด้านจริงๆนะคุณหนูพิม
พิม : ก็ฉันคิดถึงโทโมะนิ
แก้ว : คิดถึงคนที่มีเจ้าของแล้วเนี่ยนะ
พิม : หึเธอก็เป็นแค่เจ้าของทางกระดาษเท่านั้นแต่ฉันเป็นเจ้าของเข้าทั้งทางกายและใจ
เพี้ย!! เพี้ย!!
แก้ว : เธอนี้มันเหมือนแม่เธอจริงๆ
โทโมะ : แก้วไปว่าคุณแม่พิมเค้าได้ยังไง
พิม : โทโมะขา...พิมเจ็บช่วยพิมด้วย
แก้ว : ก็ถ้าแม่ของเค้าดีจริง แก้วจะไปว่าเค้าได้ยังไง แก้วว่าได้เพราะเค้าเป็นคนไม่ดีไง
โทโมะ : แก้วหยุดว่าคุณแม่ของพิมเขานะ
ต่อว่าหญิงสาวที่เสียมารยาท
แก้ว : แก้วไม่หยุด ก็แม่เธอมันเป็นเมียน้อย
ไม่สนใจหันไปด่าพิมต่อ เห็นหน้าทีไรอารมณ์มันพลุ่งพลานตลอด
พิม : โทโมะดูสิคะแม่พิมไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนะ
โทโมะ : แก้ว!!ขอโทษพิมเดี๋ยวนี้นะ
แก้ว : ไม่ขอโทษ แม่ยัยนั่นตั้งหากที่ต้องมากราบขอโทษแม่ของแก้ว!!
เพี้ย!!
มือหนาฟาดลงมาที่แก้มนวล หญิงสาวชาวาบไปทั้งใบหน้าขอบตาร้อนผ่าวกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่
โทโมะ : แก้ว พี่....
แก้ว : ฉันไม่ยอมเธอง่ายเหมือนที่แม่ฉันยอมแม่ของเธอหรอกนะ
พูดเสียงสั่นเครือโกรธใส่หน้าพิมแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาน้อยใจน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มวิ่งออกไปทันที
แก้ว : ฮึก ฮือ แก้วจะไม่แคร์พี่ ไม่แคร์
หญิงสาวพูดไปก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แคร์ชายหนุ่มนัก
เดินลงจากเตียงไปชำระร่างกายก่อนจะลงไปด้านล่าง
แม่โทโมะ : น้องไม่สบายเหรอไง
โทโมะ : ครับ
แม่โทโมะ : เมื่อคืนเป็นอะไรกันทำไมลากน้องแบบนั้น
โทโมะ : ไม่มีอะไรครับ
แม่โทโมะ : น้องน่าสงสารลูกรู้ไหม แม่อยากให้เราดูแลน้องมากๆผู้หญิงเหมือนกันหมด อยากให้คนที่รักเอาใจ อยากให้คนที่รักแคร์
‘เธอไม่ได้รักผมหนิ’
โทโมะ : แม่ครับผมมีเรื่องอยากถาม
แม่โทโมะ : ได้สิ แต่ตอนนี้ไปคุยกันที่โต๊ะอาหารดีไม๊ จะได้ทานข้าวไปด้วยเลย
เดินตามไปยังโต๊ะทานข้าว ข้าวเช้าถูกตักเสิร์ฟ
แม่โทโมะ : ไหนมีอะไรจะถามแม่
โทโมะ : ครั้งแรกของแม่ พ่อรุนแรงกับแม่ไหมครับ
แม่โทโมะ : ลูกชายถามแม่แปลกๆนะ แต่เอาเถอะ พ่อลูกนะน่ารักไม่ทำให้แม่ร้องไห้เลยนะว่าแต่ถามทำไมหล่ะ
โทโมะ : แล้วถ้ารุนแรงจะเป็นยังไงครับ
แม่โทโมะ : คงเจ็บน่าดูอยากรู้ทำไมไม่ถามหนูแก้วหล่ะมาถามแม่หน้าไม่อาย
ตักข้าวเข้าปาก รสชาติของกับข้าวทำให้นึกถึงคนข้างบนอยากทานรสมือของเธอสุดท้ายทนไม่ได้ต้องขอตัวขึ้นกลับขึ้นไปบนห้อง
+
+
+
แก้ว : อื่อออ
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บจี๊ดบริเวณที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง
แก้ว : โอ้ยย
ขยับจะลงจากเตียง
แก้ว : ฮึก อะโอ๊ะ...เจ็บจัง
เดินตัวงอลงจากเตียงจนได้เห็นรอยเลือกแล้วยิ่งใจหาย รวบผ้าปูที่นอนออกจากเตียงเพื่อจะไปซักค่อยๆก้าวเดินเพื่อไปเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื้อนห้อง ชายหนุ่มค่อยๆเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวเห็นเดินกระเพกอย่างไวที่สุดเพื่อจะหลบสายตา กลัวว่าชายหนุ่มจะยังไม่หายโกรธ
โทโมะ : แก้ว...
เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว
โทโมะ : เรื่องเมื่อคืน...
ความรู้สึกห่วงหาอาทรเริ่มเข้าครอบงำจิตใจมากขึ้นทุกวัน
โทโมะ : ขอโทษ...จะยกโทษให้ผู้ชายเลวๆคนนี้ได้ไหม
น้ำเสียงผิดไปจากคนเมื่อคืนนี้มาก อ่อนโยนนุ่มนวลและเว้าวอน
แก้ว : ไม่เป็นไรฉันไม่ได้โกรธ
ชายหนุ่มจ้องมองลึกลงไปนัยน์ตาคู่สวย เธอกำลังน้อยใจเค้า รู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่คิดรึเปล่า
โทโมะ : เจ็บมากไหม
เดินเข้ามาใกล้
แก้ว : ยังพอทนได้
น้ำเสียงหวานที่ฟังดูแล้วห่างเหิน ทำให้ชายหนุ่มใจไม่ดีแปลกๆขว้าหญิงสาวเข้ามากอด
โทโมะ : ทำไมต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นน้อยใจอะไร
แก้ว : ฉันปกติ แล้วไม่มีสิทธ์อะไรไปน้อยใจคุณ
โทโมะ : เธอมีสิทธ์ของการเป็นภรรยาไง
แก้ว : แก้วไม่เคยมีสิทธิ์อะไรในตัวพี่อยู่แล้ว…เอ่อขอโทษคะที่ใช้คำไม่สมควร
ปากไวเท่าความคิดไม่ทันที่จะเปลี่ยนสรรพนามหลุดใช้คำไป รีบกล่าวขอโทษ
โทโมะ : ไม่เป็นไรเรียกว่าพี่ก็ถูกแล้ว
ชายหนุ่มแอบดีใจลึกๆที่หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่าแก้วแล้วเรียกเค้าว่าพี่ เดินหนีเข้าห้องน้ำ เข้าไปนานจนชายหนุ่มรอไม่ไหวไปทำงานก่อน
แก้ว : โอ้ยยย...เจ็บชะมัดเลย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ
เดินกะเพกออกมาจากห้องน้ำ จะทำอะไรแต่ละอย่างมันเจ็บไปหมดเนื้อตัวบางจุดก็แดงเป็นรอยแต่บางที่ก็เขียวช้ำเลยก็มี แต่งตัวให้มิดชิดที่สุดแล้วหยิงผ้าปูเตียงที่ดึงออกไว้เมื่อเช้าไปซัก
ออย : คุณแก้วเดี๋ยวออยซักให้ก็ได้นะคะ
ยืนมือจะขอผ้าปูที่นอนไปซัก หญิงสาวรีบกำไว้แน่น
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่ผืนเดียวแก้วทำได้คะ ออยมีอะไรก็ไปทำเถอะจ๊ะ
ออย : เอางั้นก็ได้คะ
เมื่อออยเดินออกไปหญิงสาวรีบเอาผ้าปูที่นอนลงถังซักทันที ถ้ามีใครเห็นรอยบนผ้าปูนั่นเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน... ซักเสร็จรู้สึกเพลียๆเพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน เดินกลับไปนอนที่เตียงนุ่มที่หยิบผ้าปูผืนใหม่มาปูแล้ว
แก้ว : ฮัลโหลฟางวันนี้แก้วไม่เข้าไปร้านนะฝากด้วย
(จ๊า...ไม่เป็นไรเดี๋ยวฟางดูให้จ๊ะ)
วางสายเพื่อนแล้วก็ผลอยหลับไป
+
+
+
19.00
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะ...ทำไมวันนี้กลับเร็วหล่ะ
โทโมะ : รีบหน่ะครับ คุณแม่เห็นแก้วไหมครับ
แม่โทโมะ : วันนี้เห็นแค่ลงมาซักอะไรสักอย่างแล้วก็ขึ้นไปห้องจนป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย ลูกไปดูน้องทีนะว่าป่วยรึเปล่าแม่ต้องรีบไปงานหน่ะเลยไม่ได้ไปดูเลยไม่รู้เป็นอะไรมากไหม
โทโมะ : ครับ
+
+
+
เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุดกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นเพราะตัวเองเสียงดัง ใบหน้าสวยหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง ชายหนุ่มดึงผ้าห่มมาห่มให้ก่อนจะไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วเข้ามานอนกอดหญิงสาวจนหลับไปด้วยกัน
เช้า
แก้ว : อืออออ....
ตื่นมาในตอนเช้าของอีกวัน ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกลับมานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลุกจากเตียงไปอาบน้ำจัดชุดให้ชายหนุ่มลงไปทำอาหารเช้าแล้วขอตัวออกไปทำงานเลย
โทโมะ : แม่ครับ แก้วไปไหน
แม่โทโมะ : น้องออกไปทำงานสักพักแล้วจ๊ะเดี๋ยวนี้หัดถามหาน้องบ่อยนะเรา
สะอึกไปเหมือนกันกับคำถามของแม่ตัวเอง
โทโมะ : ผมไปทำงานก่อนดีกว่านะครับ
แม่โทโมะ : ไม่ทานข้าวเช้าหน่อยเหรอลูก น้องอุตสาห์ทำไว้ให้
แทนที่จะก้าวออกจากบ้านไปกลับนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจึงค่อยไปทำงาน
แม่โทโมะ : บอกว่าน้องทำรีบทานเลยนะ ถ้าบอกว่าแม่นมทำให้คงจะไม่ทานแน่ๆ
ยิ้มไล่หลังลูกชายที่กำลังขับรถออกไป
+
+
+
+
แก้ว : ฟางอรุณสวัสจ๊ะ
ทักทายเพื่อนสาวที่หน้าร้าน
ฟาง : จะแก้ว....
แก้ว : แล้ววันนี้ใครมาส่งน้า....
มองไปคนในรถที่ฟางลงมา
ฟาง : อ๋อ...พี่ป๊อปพึ่งกลับมาจากเหนือนะเค้าก็เลยมาส่ง
แก้ว : แฟนมาส่งนี้เอง
แก้วระบายยิ้มออกมาก่อนจะมองเข้าไปในกระจกรถที่ติดฟิล์มดำ มองไปก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เธอก็คิดว่าคนในรถคงมองเธออยู่แน่จึงยิ้มไปให้ คนในรถจึงเลื่อนกระจกลงมายิ้มทักทายหญิงสาว
แก้ว : ทักทายนะคะพี่ป๊อปของยัยฟาง
ฟาง : แก้วพี่ป๊อปเค้าไม่ใช่ของฟางสักหน่อย
ป๊อปปี้ : ครับยินดีที่ได้รู้จัก...พี่เป็นของฟางหน่ะถูกแล้ว
มองฟางตาหวานเยิ้ม หญิงสาวอดอิจฉาไม่ได้
ฟาง : ของฟางก็ของฟางคะ พี่ป๊อปค่ะนี้แก้วเพื่อนฟางเองคะ
ป๊อปปี้ : ครับคุณแก้วฝากยัยฟูด้วยนะครับเดี๋ยวเย็นๆจะมารับ
แก้ว : คะรับฝาก เย็นนี้อย่าลืมมารับนะคะเดี๋ยวจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง
ฟาง : โตแล้วนะไม่ร้องแล้วหล่ะ
ป๊อปปี้ : จริงเหรอ~...งั้นเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะมารับไปทานข้าวที่บ้านพี่นะจะได้รู้จักแม่แล้วก็ครอบครัวพี่ด้วยเนอะ
ฟาง : จะดีเหรอพี่ป๊อป
ป๊อปปี้ : ดีที่สุดครับ พี่ไปทำงานก่อนนะครับ
ฟาง : คะ บ๊าย บาย
‘เหมาะกันดีจังเลยมาส่งกันด้วย’
แก้ว : พี่ป๊อปของฟางหล่อนะเนี่ย
คุยกันระหว่างที่เดินเข้าร้าน
ฟาง : ขอบคุณแทนพี่ป๊อปจ๊า แต่คุณวิศวก็หล่อน้า~
พูดล้อๆเพื่อน
แก้ว : อืม...เมื่อวานแก้วไม่ได้มามีงานอะไรที่ต้องเซนไหมอ่า
ฟาง : ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอกเพราะร้านเราพึ่งเปิดคอเลคชั่นใหม่ไปเอง
แก้ว : ดีจังเลยมีฟางอยู่ช่วยงานแก้วแทบไม่ได้บริหารงานเลย
ฟาง : ก็ถ้าไม่มีแก้วฟางก็ไม่มีที่ทำงานเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่เอาฟางไปดูลูกค้าหน้าร้านก่อนดีกว่า
แก้ว : จ๊า...งั้นวันนี้แก้วไปหน้าร้านด้วยนั่งอย่างเดียวเมื่อยแย่
ฟาง : แล้ววันนี้ไม่ไปหาใครเหรอจ๊ะ
แก้ว : ปล่อยให้เค้าได้อิสระบ้างจะดีกว่า
วันนั้นทั้งวันหญิงสาวก็เลยอยู่ที่ร้านทั้งวัน
เย็น
ป๊อปปี้ : ฟาง...เหนื่อยไหมครับป๊อปซื้อน้ำมาฝาก
แฟนหนุ่มของเพื่อนเดินเข้ามาในร้านตรงเข้ามาที่ฟางแล้วส่งน้ำส้มแก้วโตให้ฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป ทำไมมาเร็วจังคะ
ป๊อปปี้ : นานทีพี่จะมาดูงานที่บริษัทเข้าไปก็ไม่ได้ทำอะไรน้องชายมันทำซะทุกอย่างเลย ที่แรกก็ว่าจะไปทำความรู้จักกับน้องสะใภ้สักหน่อยแต่บังเอินวันนี้เธอไม่มาเลยไม่เจอ
ฟาง : น้องชายแต่งงานแล้วเหรอคะ
ป๊อปปี้ : ครับพี่ชาย2คนยังไม่แต่งแต่น้องชายไปแล้ว งั้นเรามาแต่งกันดีไหม
ฟาง : พี่ป๊อปพูดอะไรออกมา
ป๊อปปี้ : งั้นเอาไว้ก่อนเดี๋ยวพี่จะขอฟางเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า แต่พี่อยากให้ฟางรู้ว่าพี่จริงจังกับฟางนะอยากได้เป็นแม่ของลูกจริงๆ
ฟาง : พอแล้วพี่ป๊อป ฟางเขิน
อายม้วนจนแฟนหนุ่มอดไม่ได้ขยี้หัวด้วยความรัก
ป๊อปปี้ : แล้วเลิกงานกี่โมงครับจะพี่นั่งรอได้ไหม
ฟาง : ยังไม่รู้เลยคะ
หญิงสาวมองไปยังทั้งคู่แล้วยิ้มทักทายแฟนเพื่อนสาวอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินเข้าไป
แก้ว : พายัยฟางไปเลยก็ได้คะเดี๋ยวแก้วก็ต้องไปแล้วทางนี้ให้เด็กที่ร้านดูก็ได้คะ
ป๊อปปี้ : ครับ แล้วคุณแก้วจะไปไหนครับ
ฟาง : แก้วเค้าต้องกลับไปทำหน้าที่ภรรยาหน่ะคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วแต่งงานแล้วเหรอครับ
สีหน้าตกใจที่หญิงสาวแต่งงานแล้ว ก็ใช่ใครที่ไม่รู้จักก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นเพราะสาวๆที่สวยปกติจะหวงตัวเป็นพิเศษไม่ยอมแต่งงานง่ายๆ
แก้ว : คะแก้วแต่งงานแล้ว
ป๊อปปี้ : แล้วกลับบ้านยังไงครับผมกับฟางไปส่งไหมครับ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะ แก้วเอารถมาไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวคุณกับยัยฟางหน่ะคะ
ฟาง : ไม่รบกวนนะแก้ว
แก้ว : จ๊ะแต่ว่าฟางหน่ะไปทานข้าวกับครอบครัวคุณป๊อปปี้เถอะเดี๋ยวถ้าไปช้าผู้ใหญ่จะดุเอานะ
ฟาง : จริงด้วยสิ
ป๊อปปี้ : ไม่ต้องรีบหรอกครับฟาง บ้านพี่ทานข้าวเย็นตอนทุ่มตรงยังมีเวลาอีกมากพี่ว่าจะพาฟางไปเดินเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปบ้าน
ยิ้มอ่อนโยนให้
แก้ว : นั่นแหละฟางไปเลยเถอะแก้วก็จะไปแล้ว
ฟาง : จ๊ะงั้นบ๊ายบายนะ
แก้ว : จ๊ะโชคดีนะ
ร่ำลาแล้วแยกย้ายกันไปหญิงสาวหันไปสั่งเด็กในร้านก่อนจะรีบกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าว
19.00
แม่โทโมะ : วันนี้ทำอะไรเยอะแยะไปหมดเลยจ๊ะหนูแก้ว
แก้ว : ก็มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา ต้มยำกุ้ง ผัดถั่วและก็ต้นจืดหมูสับคะ พอดีเห็นว่าในตู้มีเยอะหน่ะคะถ้าไม่รีบทำกลัวจะเสียหมด
แม่โทโมะ : พอดีเลยจ๊ะวันนี้พี่ชายของตาโมะจะมาพอดี
แก้ว : พี่จองเบมาเหรอคะ
แม่โทโมะ : ไม่ใช่หรอกจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จักนะจ๊ะ
แก้ว : งั้นแก้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ
แม่โทโมะ : จ๊ะ
+
+
+
โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะหมู่นี้กลับบ้านเร็วมาสองวันแล้วนะที่บ้านมีอะไรรึเปล่าถึงอยากได้อยากกลับนักหนานะหือ
แกล้งหยอกลูกชายเล่นๆเพราะที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะลูกสะใภ้คนสวยที่ดึงดูดใจให้ลูกชายอยากกลับบ้านไว
โทโมะ : วันนี้พี่ป๊อปจะมาหนิครับ
แม่โทโมะ : เหรอ แม่ก็นึกว่าลูกคิดถึงน้องซะอีก
โทโมะ : มันก็ไม่เชิงหรอกครับนั่นก็ส่วนหนึ่ง
แม่โทโมะ : ถ้าคิดถึงน้องทำไมไม่บอกน้องบ้างบางทีน้องอาจจะอยากฟัง
โทโมะ : ครับ ได้ยินพี่ป๊อปพูดว่าวันนี้จะพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแนะนำ
แม่โทโมะ : จริงเหรอ อยากรู้จังว่าตาป๊อปจะมีเมียดีสู้หนูแก้วได้รึเปล่า
โทโมะ : รอดูสิครับ นั่นไงมาพอดี
ป๊อปปี้ : สวัสดีครับแม่
ฟางที่เดินมาด้วยพลอยยกมือไหว้ไปด้วย สีหน้าของผู้เป็นแม่แว็บแรกที่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้ก็ยิ้มออกมาทันที ทั้งสวยทั้งน่ารัก หาได้แบบนี้คนเป็นแม่ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
แม่โทโมะ : จ๊ะลูก
ป๊อปปี้ : นี้ฟาง แฟนผมครับ
ฟาง : สวัสดีคะคุณน้า
แม่โทโมะ : จ๊ะ ทำไมเรียกน้า เรียกแม่สิลูก มาทานข้าวกันก่อนดีกว่า
เรียกลูกๆมานั่งที่โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : ออย...ไปบอกคุณแก้วทีเชิญเธอลงมาทานข้าวด้วย
โทโมะ : เดี๋ยวผมไปเองครับ
เดินขึ้นไป
โทโมะ : แก้วทานข้าว
แก้ว : สักครู่คะเดี๋ยวตามลงไป
แก้ว : โอ้ย
หันมาไม่นึกว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ข้างหลังทำให้ร่างเล็กปะทะกับอกกว้าง
แก้ว : อะเอ่อ...ขอโทษ
ก้าวถอยหลังไป ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆก่อนจะส่งมือมาให้หญิงสาวจับแต่หญิงสาวเดินออกมาก่อนไม่ยอมจับ
หมับ~
ขว้ามือบางมาจับไว้แล้วพากันเดินลงมา
แก้ว : ฟาง
ฟาง : แก้ว
แม่โทโมะ : รู้จักกันเหรอลูก
สองสาวคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเป็นสะใภ้ครอบครัวเดียวกัน
แก้ว : ฟางเป็นเพื่อนแก้วเองคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วเป็นภรรยาแกเหรอ
โทโมะ : ครับภรรยาผมเอง หวังว่าพี่คงไม่คิดเหมือนพี่จองเบนะ
ป๊อปปี้ : คิดอะไร
โทโมะ : ช่างเหอะครับไม่มีอะไรหรอก
แม่โทโมะ : ตาโมะพี่เค้าก็มีแฟนนั่งอยู่ไม่ต้องหวงมากก็ได้มั๋ง
ป๊อปปี้ : อ๋อ...หวงเมีย มันก็น่าหวงอยู่หรอกเมียสวยขนาดนี้
โทโมะ : พี่ป๊อปแฟนพี่นั่งอยู่นะมาชมเมียผมทำไม
ป๊อปปี้ : ฮ่าฮ่าห่วงจริงๆนะเนี่ย คุณแก้วครับไม่นึกจริงๆว่าผู้ชายโชคดีคนนั้นเป็นน้องชายผมเอง
แก้ว : แก้วไม่ได้ดีอะไรหรอกคะยัยฟางก็น่ารักทำอาหารก็อร่อยกว่าแก้วตั้งเยอะ
ป๊อปปี้ : ครับ ผมว่าถึงฟางจะทำอาหารไม่อร่อยผมก็รักอยู่ดี
ฟาง : พี่ป๊อปอะ คุณแม่อยู่นะ
แม่โทโมะ : ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะหนูฟาง แม่ชอบน่ารักดี
แม่ยิ้มให้
ป๊อปปี้ : ฟางครับทำไมทานแต่ผักหล่ะแค่นี้ก็ผอมแล้วนะทานนี้ดีกว่า
ตักแกงเขียวหวานใส่จานฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป
แม่โทโมะ : ตาโมะไม่ตักอะไรให้หนูแก้วบ้างเหรอ
ทวงเมื่อเห็นว่าลูกชายทานเอาทานเอาอย่างเดียวชายหนุ่มจึงเอื้อมไปตักกุ้งให้หญิงสาว
แก้ว : ขอบคุณคะ
วันนี้คิดผิดจริงๆที่ทำต้มยำกุ้ง เธอแพ้อาหารทะเลแล้วตอนนี้ชายหนุ่มดันตักกุ้งมาให้จะไม่ทานก็กระไรอยู่ แต่จะทำไงได้ถ้าบอกว่าแพ้เดี๋ยวเค้าก็ไม่เชื่อเลยตักใส่ปากเคี้ยวๆไป
ฟาง : ยัยแก้ว!!แพ้อาหารทะเลแล้วทานไปได้ยังไงนั้นกุ้งทะเลนะ
แม่โทโมะ : หนูแก้วแพ้ของทะเลเหรอลูก
แก้ว : คะ
โทโมะ : แพ้ทำไมไม่บอกทานไปทำไม
แก้ว : แก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่นะคะไม่เป็นไรแค่คำเดียวเอง
โทโมะ : แต่แก้วแพ้นะไหนดูสิเป็นอะไรมากรึเปล่า
พลิกดูตามแขนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
แก้ว : แก้วไม่เป็นไหรหรอกคะ พี่ทานข้าวต่อเถอะ
เมื่อพลิกดูเห็นว่าไม่เป็นอะไรก็กลับไปทานต่อ เมื่อสักครู่ที่ชายหนุ่มดูอาการแพ้ยังไม่แสดงแต่ตอนนี้อาการแพ้เริ่มออกแล้ว แขนเริ่มเป็นผื่น
แก้ว : อะเออ...แก้วขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษที่เสียมารยาท
ทำไงได้เมื่อผื่นเริ่มขึ้นมากขึ้นเธอเลยต้องลุกจากโต๊ะอาหาร
หมับ~
จับแขนหญิงสาว
โทโมะ : ไปหาหมอไหมพี่พาไป
แก้ว : พี่ทานข้าวเถอะแก้วไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : แก้วแพ้ขนาดนี้จะให้พี่ทานต่อได้ยังไง
แก้ว : แก้วทานไปไม่มากอีกสักพักคงจะยุบหน่ะคะไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : งั้นคุณแม่ทานข้าวกับพี่ป๊อปและก็คุณฟางไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมพาแก้วไปทายาก่อน
แก้ว : แต่...
ไม่ฟังต่อพาหญิงสาวขึ้นไปบนห้อง
โทโมะ : แสบผิวไหม
สายหัวแทนคำตอบ
โทโมะ : อย่าโกหกพี่นะ
แก้ว : แสบนิดหน่อยคะแต่ทนได้
ชายหนุ่มเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้แล้วทาคาลาไมเพื่อบรรเทาอาการคันสักพักผื่นแดงๆเริ่มยุบตัวลง
โทโมะ : ดีนะไม่ทานเข้าไปมาก ถ้าแพ้ที่หลังอย่าทานนะ
แก้ว : แก้วเห็นพี่ตักให้ ก็เลยทาน
‘ทำไมถึงน่ารักนักนะ ตัวเล็ก’
โทโมะ : แล้ววันนั้นทานไปได้ยังไง
ท้าวความถึงวันที่พาหญิงสาวไปทานอาหารทะเล
แก้ว : พี่บังคับ
โทโมะ : ก็พี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่บอกว่าแพ้
แก้ว : วันนั้นถ้าแก้วบอกว่าแพ้พี่ก็จะตอกกลับว่ามารยา
โทโมะ : มันผ่านมาแล้วนะ
แก้ว : แก้วดูมารยาเหรอคะ
โทโมะ : งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้ายังแสบหรือคันอยู่บอกพี่นะจะพาไปโรงพยาบาล
นั่งนิ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
แก้ว : คะ
ครืน~
เสียงข้อความดังมาจากมือถือชายหนุ่ม
“ฝันดีนะคะที่รัก...พิม”
ที่แรกก็กะว่าจะไม่ดูแต่ความอยากรู้มันมากกว่าทำให้แอบเปิดดู
‘เค้าก็แค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย’
ไม่รู้ทำไมอาการเหล่านี้มันถึงเกิดขึ้น ความรู้สึกน้อยใจมันท่วมท้นใจไปหมดเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องสมุด คืนนี้เธอคงต้องกลับมานอนที่เดิมของเธอ
+
+
+
โทโมะ : แม่ครับเห็นแก้วไหม
แม่โทโมะ : ไม่เห็นหนิลูกแม่เพิ่มเดินออกไปส่งพี่ชายเรากับหนูฟางมา
ออกมาจากห้องน้ำไม่เห็นหญิงสาวอยู่ในห้องก็เดินตามหา
แม่โทโมะ : ห้องหนังสือรึเปล่าลูกแม่เห็นน้องชอบเข้าไปบ่อยๆ
ชายหนุ่มเดินตรงไปห้องสมุดทันที เห็นหญิงสาวนอนคดร่างอยู่บนเก้าอี้หวาย
โทโมะ : แก้ว...ทำไมไม่นอนที่ห้อง
เสียงทุ้มปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา
แก้ว : อือ...
โทโมะ : ทำไมไม่นอนที่ห้อง
แก้ว : มันไม่ใช่ที่ของฉัน
โทโมะ : เป็นอะไรทำไมพูดจาแบบนี้
แก้ว : เปล่าคะเชิญคุณกลับไปห้องเถอะคะ ฉันอยากนอนแล้ว
โทโมะ : แก้วเป็นอะไร ทำไมเรียกพี่ว่าคุณอีกแล้วไม่น่ารักเลยนะ
แก้ว : ฉันไม่น่ารักอยู่แล้ว
โทโมะ : กลับไปนอนห้องของเราเถอะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะฉันนอนที่นี้ได้ เชิญคุณกลับไปคุยกับที่รักตามสบายคะฉันไม่อยากกวน
โทโมะ : น้อยใจพี่เรื่องอะไรรึเปล่า
แก้ว : ทำไมฉันต้องน้อยใจคุณ
‘ใช่ทำไมแก้วต้องน้อยใจพี่ด้วย’
โทโมะ : แก้วกลับห้อง
แก้ว : ไม่!!
โทโมะ : งั้นก็อ่านหนังสือไปก่อนง่วงแล้วก็ขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ไปนอนก่อนนะ
‘ใช่สิ แก้วไม่ใช่พิมพี่ถึงไม่ได้แคร์อะไร’
พอชายหนุ่มเดินให้หลังไปหญิงสาวก็ได้แต่น้อยใจ ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากที่ผูกพันเลื่อนกลายเป็นความรัก...
และแล้วคืนนั้นหญิงสาวก็นอนที่ห้องสมุดเหมือนเดิม
+
+
+
+
กลางวัน
บริษัทโทโมะ
แอ๊ด~
ตอนกลางวันหญิงสาวตัดสินใจเข้ามาหาชายหนุ่มแต่ก็ต้องเจอกับภาพบาดตา พิมนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มกำลังจะปลดไทค์ออก
เพี้ย!!
หญิงสาวเดินปราดเข้าไปฟาดมือลงบนแก้มพิม
พิม : โอ้ยยยย
แก้ว : หน้าด้านจริงๆนะคุณหนูพิม
พิม : ก็ฉันคิดถึงโทโมะนิ
แก้ว : คิดถึงคนที่มีเจ้าของแล้วเนี่ยนะ
พิม : หึเธอก็เป็นแค่เจ้าของทางกระดาษเท่านั้นแต่ฉันเป็นเจ้าของเข้าทั้งทางกายและใจ
เพี้ย!! เพี้ย!!
แก้ว : เธอนี้มันเหมือนแม่เธอจริงๆ
โทโมะ : แก้วไปว่าคุณแม่พิมเค้าได้ยังไง
พิม : โทโมะขา...พิมเจ็บช่วยพิมด้วย
แก้ว : ก็ถ้าแม่ของเค้าดีจริง แก้วจะไปว่าเค้าได้ยังไง แก้วว่าได้เพราะเค้าเป็นคนไม่ดีไง
โทโมะ : แก้วหยุดว่าคุณแม่ของพิมเขานะ
ต่อว่าหญิงสาวที่เสียมารยาท
แก้ว : แก้วไม่หยุด ก็แม่เธอมันเป็นเมียน้อย
ไม่สนใจหันไปด่าพิมต่อ เห็นหน้าทีไรอารมณ์มันพลุ่งพลานตลอด
พิม : โทโมะดูสิคะแม่พิมไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนะ
โทโมะ : แก้ว!!ขอโทษพิมเดี๋ยวนี้นะ
แก้ว : ไม่ขอโทษ แม่ยัยนั่นตั้งหากที่ต้องมากราบขอโทษแม่ของแก้ว!!
เพี้ย!!
มือหนาฟาดลงมาที่แก้มนวล หญิงสาวชาวาบไปทั้งใบหน้าขอบตาร้อนผ่าวกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่
โทโมะ : แก้ว พี่....
แก้ว : ฉันไม่ยอมเธอง่ายเหมือนที่แม่ฉันยอมแม่ของเธอหรอกนะ
พูดเสียงสั่นเครือโกรธใส่หน้าพิมแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาน้อยใจน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มวิ่งออกไปทันที
แก้ว : ฮึก ฮือ แก้วจะไม่แคร์พี่ ไม่แคร์
หญิงสาวพูดไปก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แคร์ชายหนุ่มนัก
............................
อัพแล้วนะคะเม้นๆโหวดด้วยไม่มีเวลาแต่งนะคะแม่บ่นใหญ่แล้วอ่~
แม่โทโมะ : น้องไม่สบายเหรอไง
โทโมะ : ครับ
แม่โทโมะ : เมื่อคืนเป็นอะไรกันทำไมลากน้องแบบนั้น
โทโมะ : ไม่มีอะไรครับ
แม่โทโมะ : น้องน่าสงสารลูกรู้ไหม แม่อยากให้เราดูแลน้องมากๆผู้หญิงเหมือนกันหมด อยากให้คนที่รักเอาใจ อยากให้คนที่รักแคร์
‘เธอไม่ได้รักผมหนิ’
โทโมะ : แม่ครับผมมีเรื่องอยากถาม
แม่โทโมะ : ได้สิ แต่ตอนนี้ไปคุยกันที่โต๊ะอาหารดีไม๊ จะได้ทานข้าวไปด้วยเลย
เดินตามไปยังโต๊ะทานข้าว ข้าวเช้าถูกตักเสิร์ฟ
แม่โทโมะ : ไหนมีอะไรจะถามแม่
โทโมะ : ครั้งแรกของแม่ พ่อรุนแรงกับแม่ไหมครับ
แม่โทโมะ : ลูกชายถามแม่แปลกๆนะ แต่เอาเถอะ พ่อลูกนะน่ารักไม่ทำให้แม่ร้องไห้เลยนะว่าแต่ถามทำไมหล่ะ
โทโมะ : แล้วถ้ารุนแรงจะเป็นยังไงครับ
แม่โทโมะ : คงเจ็บน่าดูอยากรู้ทำไมไม่ถามหนูแก้วหล่ะมาถามแม่หน้าไม่อาย
ตักข้าวเข้าปาก รสชาติของกับข้าวทำให้นึกถึงคนข้างบนอยากทานรสมือของเธอสุดท้ายทนไม่ได้ต้องขอตัวขึ้นกลับขึ้นไปบนห้อง
+
+
+
แก้ว : อื่อออ
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บจี๊ดบริเวณที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง
แก้ว : โอ้ยย
ขยับจะลงจากเตียง
แก้ว : ฮึก อะโอ๊ะ...เจ็บจัง
เดินตัวงอลงจากเตียงจนได้เห็นรอยเลือกแล้วยิ่งใจหาย รวบผ้าปูที่นอนออกจากเตียงเพื่อจะไปซักค่อยๆก้าวเดินเพื่อไปเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื้อนห้อง ชายหนุ่มค่อยๆเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวเห็นเดินกระเพกอย่างไวที่สุดเพื่อจะหลบสายตา กลัวว่าชายหนุ่มจะยังไม่หายโกรธ
โทโมะ : แก้ว...
เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว
โทโมะ : เรื่องเมื่อคืน...
ความรู้สึกห่วงหาอาทรเริ่มเข้าครอบงำจิตใจมากขึ้นทุกวัน
โทโมะ : ขอโทษ...จะยกโทษให้ผู้ชายเลวๆคนนี้ได้ไหม
น้ำเสียงผิดไปจากคนเมื่อคืนนี้มาก อ่อนโยนนุ่มนวลและเว้าวอน
แก้ว : ไม่เป็นไรฉันไม่ได้โกรธ
ชายหนุ่มจ้องมองลึกลงไปนัยน์ตาคู่สวย เธอกำลังน้อยใจเค้า รู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่คิดรึเปล่า
โทโมะ : เจ็บมากไหม
เดินเข้ามาใกล้
แก้ว : ยังพอทนได้
น้ำเสียงหวานที่ฟังดูแล้วห่างเหิน ทำให้ชายหนุ่มใจไม่ดีแปลกๆขว้าหญิงสาวเข้ามากอด
โทโมะ : ทำไมต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นน้อยใจอะไร
แก้ว : ฉันปกติ แล้วไม่มีสิทธ์อะไรไปน้อยใจคุณ
โทโมะ : เธอมีสิทธ์ของการเป็นภรรยาไง
แก้ว : แก้วไม่เคยมีสิทธิ์อะไรในตัวพี่อยู่แล้ว…เอ่อขอโทษคะที่ใช้คำไม่สมควร
ปากไวเท่าความคิดไม่ทันที่จะเปลี่ยนสรรพนามหลุดใช้คำไป รีบกล่าวขอโทษ
โทโมะ : ไม่เป็นไรเรียกว่าพี่ก็ถูกแล้ว
ชายหนุ่มแอบดีใจลึกๆที่หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่าแก้วแล้วเรียกเค้าว่าพี่ เดินหนีเข้าห้องน้ำ เข้าไปนานจนชายหนุ่มรอไม่ไหวไปทำงานก่อน
แก้ว : โอ้ยยย...เจ็บชะมัดเลย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ
เดินกะเพกออกมาจากห้องน้ำ จะทำอะไรแต่ละอย่างมันเจ็บไปหมดเนื้อตัวบางจุดก็แดงเป็นรอยแต่บางที่ก็เขียวช้ำเลยก็มี แต่งตัวให้มิดชิดที่สุดแล้วหยิงผ้าปูเตียงที่ดึงออกไว้เมื่อเช้าไปซัก
ออย : คุณแก้วเดี๋ยวออยซักให้ก็ได้นะคะ
ยืนมือจะขอผ้าปูที่นอนไปซัก หญิงสาวรีบกำไว้แน่น
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่ผืนเดียวแก้วทำได้คะ ออยมีอะไรก็ไปทำเถอะจ๊ะ
ออย : เอางั้นก็ได้คะ
เมื่อออยเดินออกไปหญิงสาวรีบเอาผ้าปูที่นอนลงถังซักทันที ถ้ามีใครเห็นรอยบนผ้าปูนั่นเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน... ซักเสร็จรู้สึกเพลียๆเพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน เดินกลับไปนอนที่เตียงนุ่มที่หยิบผ้าปูผืนใหม่มาปูแล้ว
แก้ว : ฮัลโหลฟางวันนี้แก้วไม่เข้าไปร้านนะฝากด้วย
(จ๊า...ไม่เป็นไรเดี๋ยวฟางดูให้จ๊ะ)
วางสายเพื่อนแล้วก็ผลอยหลับไป
+
+
+
19.00
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะ...ทำไมวันนี้กลับเร็วหล่ะ
โทโมะ : รีบหน่ะครับ คุณแม่เห็นแก้วไหมครับ
แม่โทโมะ : วันนี้เห็นแค่ลงมาซักอะไรสักอย่างแล้วก็ขึ้นไปห้องจนป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย ลูกไปดูน้องทีนะว่าป่วยรึเปล่าแม่ต้องรีบไปงานหน่ะเลยไม่ได้ไปดูเลยไม่รู้เป็นอะไรมากไหม
โทโมะ : ครับ
+
+
+
เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุดกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นเพราะตัวเองเสียงดัง ใบหน้าสวยหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง ชายหนุ่มดึงผ้าห่มมาห่มให้ก่อนจะไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วเข้ามานอนกอดหญิงสาวจนหลับไปด้วยกัน
เช้า
แก้ว : อืออออ....
ตื่นมาในตอนเช้าของอีกวัน ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกลับมานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลุกจากเตียงไปอาบน้ำจัดชุดให้ชายหนุ่มลงไปทำอาหารเช้าแล้วขอตัวออกไปทำงานเลย
โทโมะ : แม่ครับ แก้วไปไหน
แม่โทโมะ : น้องออกไปทำงานสักพักแล้วจ๊ะเดี๋ยวนี้หัดถามหาน้องบ่อยนะเรา
สะอึกไปเหมือนกันกับคำถามของแม่ตัวเอง
โทโมะ : ผมไปทำงานก่อนดีกว่านะครับ
แม่โทโมะ : ไม่ทานข้าวเช้าหน่อยเหรอลูก น้องอุตสาห์ทำไว้ให้
แทนที่จะก้าวออกจากบ้านไปกลับนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจึงค่อยไปทำงาน
แม่โทโมะ : บอกว่าน้องทำรีบทานเลยนะ ถ้าบอกว่าแม่นมทำให้คงจะไม่ทานแน่ๆ
ยิ้มไล่หลังลูกชายที่กำลังขับรถออกไป
+
+
+
+
แก้ว : ฟางอรุณสวัสจ๊ะ
ทักทายเพื่อนสาวที่หน้าร้าน
ฟาง : จะแก้ว....
แก้ว : แล้ววันนี้ใครมาส่งน้า....
มองไปคนในรถที่ฟางลงมา
ฟาง : อ๋อ...พี่ป๊อปพึ่งกลับมาจากเหนือนะเค้าก็เลยมาส่ง
แก้ว : แฟนมาส่งนี้เอง
แก้วระบายยิ้มออกมาก่อนจะมองเข้าไปในกระจกรถที่ติดฟิล์มดำ มองไปก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เธอก็คิดว่าคนในรถคงมองเธออยู่แน่จึงยิ้มไปให้ คนในรถจึงเลื่อนกระจกลงมายิ้มทักทายหญิงสาว
แก้ว : ทักทายนะคะพี่ป๊อปของยัยฟาง
ฟาง : แก้วพี่ป๊อปเค้าไม่ใช่ของฟางสักหน่อย
ป๊อปปี้ : ครับยินดีที่ได้รู้จัก...พี่เป็นของฟางหน่ะถูกแล้ว
มองฟางตาหวานเยิ้ม หญิงสาวอดอิจฉาไม่ได้
ฟาง : ของฟางก็ของฟางคะ พี่ป๊อปค่ะนี้แก้วเพื่อนฟางเองคะ
ป๊อปปี้ : ครับคุณแก้วฝากยัยฟูด้วยนะครับเดี๋ยวเย็นๆจะมารับ
แก้ว : คะรับฝาก เย็นนี้อย่าลืมมารับนะคะเดี๋ยวจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง
ฟาง : โตแล้วนะไม่ร้องแล้วหล่ะ
ป๊อปปี้ : จริงเหรอ~...งั้นเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะมารับไปทานข้าวที่บ้านพี่นะจะได้รู้จักแม่แล้วก็ครอบครัวพี่ด้วยเนอะ
ฟาง : จะดีเหรอพี่ป๊อป
ป๊อปปี้ : ดีที่สุดครับ พี่ไปทำงานก่อนนะครับ
ฟาง : คะ บ๊าย บาย
‘เหมาะกันดีจังเลยมาส่งกันด้วย’
แก้ว : พี่ป๊อปของฟางหล่อนะเนี่ย
คุยกันระหว่างที่เดินเข้าร้าน
ฟาง : ขอบคุณแทนพี่ป๊อปจ๊า แต่คุณวิศวก็หล่อน้า~
พูดล้อๆเพื่อน
แก้ว : อืม...เมื่อวานแก้วไม่ได้มามีงานอะไรที่ต้องเซนไหมอ่า
ฟาง : ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอกเพราะร้านเราพึ่งเปิดคอเลคชั่นใหม่ไปเอง
แก้ว : ดีจังเลยมีฟางอยู่ช่วยงานแก้วแทบไม่ได้บริหารงานเลย
ฟาง : ก็ถ้าไม่มีแก้วฟางก็ไม่มีที่ทำงานเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่เอาฟางไปดูลูกค้าหน้าร้านก่อนดีกว่า
แก้ว : จ๊า...งั้นวันนี้แก้วไปหน้าร้านด้วยนั่งอย่างเดียวเมื่อยแย่
ฟาง : แล้ววันนี้ไม่ไปหาใครเหรอจ๊ะ
แก้ว : ปล่อยให้เค้าได้อิสระบ้างจะดีกว่า
วันนั้นทั้งวันหญิงสาวก็เลยอยู่ที่ร้านทั้งวัน
เย็น
ป๊อปปี้ : ฟาง...เหนื่อยไหมครับป๊อปซื้อน้ำมาฝาก
แฟนหนุ่มของเพื่อนเดินเข้ามาในร้านตรงเข้ามาที่ฟางแล้วส่งน้ำส้มแก้วโตให้ฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป ทำไมมาเร็วจังคะ
ป๊อปปี้ : นานทีพี่จะมาดูงานที่บริษัทเข้าไปก็ไม่ได้ทำอะไรน้องชายมันทำซะทุกอย่างเลย ที่แรกก็ว่าจะไปทำความรู้จักกับน้องสะใภ้สักหน่อยแต่บังเอินวันนี้เธอไม่มาเลยไม่เจอ
ฟาง : น้องชายแต่งงานแล้วเหรอคะ
ป๊อปปี้ : ครับพี่ชาย2คนยังไม่แต่งแต่น้องชายไปแล้ว งั้นเรามาแต่งกันดีไหม
ฟาง : พี่ป๊อปพูดอะไรออกมา
ป๊อปปี้ : งั้นเอาไว้ก่อนเดี๋ยวพี่จะขอฟางเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า แต่พี่อยากให้ฟางรู้ว่าพี่จริงจังกับฟางนะอยากได้เป็นแม่ของลูกจริงๆ
ฟาง : พอแล้วพี่ป๊อป ฟางเขิน
อายม้วนจนแฟนหนุ่มอดไม่ได้ขยี้หัวด้วยความรัก
ป๊อปปี้ : แล้วเลิกงานกี่โมงครับจะพี่นั่งรอได้ไหม
ฟาง : ยังไม่รู้เลยคะ
หญิงสาวมองไปยังทั้งคู่แล้วยิ้มทักทายแฟนเพื่อนสาวอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินเข้าไป
แก้ว : พายัยฟางไปเลยก็ได้คะเดี๋ยวแก้วก็ต้องไปแล้วทางนี้ให้เด็กที่ร้านดูก็ได้คะ
ป๊อปปี้ : ครับ แล้วคุณแก้วจะไปไหนครับ
ฟาง : แก้วเค้าต้องกลับไปทำหน้าที่ภรรยาหน่ะคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วแต่งงานแล้วเหรอครับ
สีหน้าตกใจที่หญิงสาวแต่งงานแล้ว ก็ใช่ใครที่ไม่รู้จักก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นเพราะสาวๆที่สวยปกติจะหวงตัวเป็นพิเศษไม่ยอมแต่งงานง่ายๆ
แก้ว : คะแก้วแต่งงานแล้ว
ป๊อปปี้ : แล้วกลับบ้านยังไงครับผมกับฟางไปส่งไหมครับ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะ แก้วเอารถมาไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวคุณกับยัยฟางหน่ะคะ
ฟาง : ไม่รบกวนนะแก้ว
แก้ว : จ๊ะแต่ว่าฟางหน่ะไปทานข้าวกับครอบครัวคุณป๊อปปี้เถอะเดี๋ยวถ้าไปช้าผู้ใหญ่จะดุเอานะ
ฟาง : จริงด้วยสิ
ป๊อปปี้ : ไม่ต้องรีบหรอกครับฟาง บ้านพี่ทานข้าวเย็นตอนทุ่มตรงยังมีเวลาอีกมากพี่ว่าจะพาฟางไปเดินเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปบ้าน
ยิ้มอ่อนโยนให้
แก้ว : นั่นแหละฟางไปเลยเถอะแก้วก็จะไปแล้ว
ฟาง : จ๊ะงั้นบ๊ายบายนะ
แก้ว : จ๊ะโชคดีนะ
ร่ำลาแล้วแยกย้ายกันไปหญิงสาวหันไปสั่งเด็กในร้านก่อนจะรีบกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าว
19.00
แม่โทโมะ : วันนี้ทำอะไรเยอะแยะไปหมดเลยจ๊ะหนูแก้ว
แก้ว : ก็มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา ต้มยำกุ้ง ผัดถั่วและก็ต้นจืดหมูสับคะ พอดีเห็นว่าในตู้มีเยอะหน่ะคะถ้าไม่รีบทำกลัวจะเสียหมด
แม่โทโมะ : พอดีเลยจ๊ะวันนี้พี่ชายของตาโมะจะมาพอดี
แก้ว : พี่จองเบมาเหรอคะ
แม่โทโมะ : ไม่ใช่หรอกจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จักนะจ๊ะ
แก้ว : งั้นแก้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ
แม่โทโมะ : จ๊ะ
+
+
+
โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะหมู่นี้กลับบ้านเร็วมาสองวันแล้วนะที่บ้านมีอะไรรึเปล่าถึงอยากได้อยากกลับนักหนานะหือ
แกล้งหยอกลูกชายเล่นๆเพราะที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะลูกสะใภ้คนสวยที่ดึงดูดใจให้ลูกชายอยากกลับบ้านไว
โทโมะ : วันนี้พี่ป๊อปจะมาหนิครับ
แม่โทโมะ : เหรอ แม่ก็นึกว่าลูกคิดถึงน้องซะอีก
โทโมะ : มันก็ไม่เชิงหรอกครับนั่นก็ส่วนหนึ่ง
แม่โทโมะ : ถ้าคิดถึงน้องทำไมไม่บอกน้องบ้างบางทีน้องอาจจะอยากฟัง
โทโมะ : ครับ ได้ยินพี่ป๊อปพูดว่าวันนี้จะพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแนะนำ
แม่โทโมะ : จริงเหรอ อยากรู้จังว่าตาป๊อปจะมีเมียดีสู้หนูแก้วได้รึเปล่า
โทโมะ : รอดูสิครับ นั่นไงมาพอดี
ป๊อปปี้ : สวัสดีครับแม่
ฟางที่เดินมาด้วยพลอยยกมือไหว้ไปด้วย สีหน้าของผู้เป็นแม่แว็บแรกที่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้ก็ยิ้มออกมาทันที ทั้งสวยทั้งน่ารัก หาได้แบบนี้คนเป็นแม่ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
แม่โทโมะ : จ๊ะลูก
ป๊อปปี้ : นี้ฟาง แฟนผมครับ
ฟาง : สวัสดีคะคุณน้า
แม่โทโมะ : จ๊ะ ทำไมเรียกน้า เรียกแม่สิลูก มาทานข้าวกันก่อนดีกว่า
เรียกลูกๆมานั่งที่โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : ออย...ไปบอกคุณแก้วทีเชิญเธอลงมาทานข้าวด้วย
โทโมะ : เดี๋ยวผมไปเองครับ
เดินขึ้นไป
โทโมะ : แก้วทานข้าว
แก้ว : สักครู่คะเดี๋ยวตามลงไป
แก้ว : โอ้ย
หันมาไม่นึกว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ข้างหลังทำให้ร่างเล็กปะทะกับอกกว้าง
แก้ว : อะเอ่อ...ขอโทษ
ก้าวถอยหลังไป ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆก่อนจะส่งมือมาให้หญิงสาวจับแต่หญิงสาวเดินออกมาก่อนไม่ยอมจับ
หมับ~
ขว้ามือบางมาจับไว้แล้วพากันเดินลงมา
แก้ว : ฟาง
ฟาง : แก้ว
แม่โทโมะ : รู้จักกันเหรอลูก
สองสาวคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเป็นสะใภ้ครอบครัวเดียวกัน
แก้ว : ฟางเป็นเพื่อนแก้วเองคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วเป็นภรรยาแกเหรอ
โทโมะ : ครับภรรยาผมเอง หวังว่าพี่คงไม่คิดเหมือนพี่จองเบนะ
ป๊อปปี้ : คิดอะไร
โทโมะ : ช่างเหอะครับไม่มีอะไรหรอก
แม่โทโมะ : ตาโมะพี่เค้าก็มีแฟนนั่งอยู่ไม่ต้องหวงมากก็ได้มั๋ง
ป๊อปปี้ : อ๋อ...หวงเมีย มันก็น่าหวงอยู่หรอกเมียสวยขนาดนี้
โทโมะ : พี่ป๊อปแฟนพี่นั่งอยู่นะมาชมเมียผมทำไม
ป๊อปปี้ : ฮ่าฮ่าห่วงจริงๆนะเนี่ย คุณแก้วครับไม่นึกจริงๆว่าผู้ชายโชคดีคนนั้นเป็นน้องชายผมเอง
แก้ว : แก้วไม่ได้ดีอะไรหรอกคะยัยฟางก็น่ารักทำอาหารก็อร่อยกว่าแก้วตั้งเยอะ
ป๊อปปี้ : ครับ ผมว่าถึงฟางจะทำอาหารไม่อร่อยผมก็รักอยู่ดี
ฟาง : พี่ป๊อปอะ คุณแม่อยู่นะ
แม่โทโมะ : ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะหนูฟาง แม่ชอบน่ารักดี
แม่ยิ้มให้
ป๊อปปี้ : ฟางครับทำไมทานแต่ผักหล่ะแค่นี้ก็ผอมแล้วนะทานนี้ดีกว่า
ตักแกงเขียวหวานใส่จานฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป
แม่โทโมะ : ตาโมะไม่ตักอะไรให้หนูแก้วบ้างเหรอ
ทวงเมื่อเห็นว่าลูกชายทานเอาทานเอาอย่างเดียวชายหนุ่มจึงเอื้อมไปตักกุ้งให้หญิงสาว
แก้ว : ขอบคุณคะ
วันนี้คิดผิดจริงๆที่ทำต้มยำกุ้ง เธอแพ้อาหารทะเลแล้วตอนนี้ชายหนุ่มดันตักกุ้งมาให้จะไม่ทานก็กระไรอยู่ แต่จะทำไงได้ถ้าบอกว่าแพ้เดี๋ยวเค้าก็ไม่เชื่อเลยตักใส่ปากเคี้ยวๆไป
ฟาง : ยัยแก้ว!!แพ้อาหารทะเลแล้วทานไปได้ยังไงนั้นกุ้งทะเลนะ
แม่โทโมะ : หนูแก้วแพ้ของทะเลเหรอลูก
แก้ว : คะ
โทโมะ : แพ้ทำไมไม่บอกทานไปทำไม
แก้ว : แก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่นะคะไม่เป็นไรแค่คำเดียวเอง
โทโมะ : แต่แก้วแพ้นะไหนดูสิเป็นอะไรมากรึเปล่า
พลิกดูตามแขนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
แก้ว : แก้วไม่เป็นไหรหรอกคะ พี่ทานข้าวต่อเถอะ
เมื่อพลิกดูเห็นว่าไม่เป็นอะไรก็กลับไปทานต่อ เมื่อสักครู่ที่ชายหนุ่มดูอาการแพ้ยังไม่แสดงแต่ตอนนี้อาการแพ้เริ่มออกแล้ว แขนเริ่มเป็นผื่น
แก้ว : อะเออ...แก้วขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษที่เสียมารยาท
ทำไงได้เมื่อผื่นเริ่มขึ้นมากขึ้นเธอเลยต้องลุกจากโต๊ะอาหาร
หมับ~
จับแขนหญิงสาว
โทโมะ : ไปหาหมอไหมพี่พาไป
แก้ว : พี่ทานข้าวเถอะแก้วไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : แก้วแพ้ขนาดนี้จะให้พี่ทานต่อได้ยังไง
แก้ว : แก้วทานไปไม่มากอีกสักพักคงจะยุบหน่ะคะไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : งั้นคุณแม่ทานข้าวกับพี่ป๊อปและก็คุณฟางไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมพาแก้วไปทายาก่อน
แก้ว : แต่...
ไม่ฟังต่อพาหญิงสาวขึ้นไปบนห้อง
โทโมะ : แสบผิวไหม
สายหัวแทนคำตอบ
โทโมะ : อย่าโกหกพี่นะ
แก้ว : แสบนิดหน่อยคะแต่ทนได้
ชายหนุ่มเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้แล้วทาคาลาไมเพื่อบรรเทาอาการคันสักพักผื่นแดงๆเริ่มยุบตัวลง
โทโมะ : ดีนะไม่ทานเข้าไปมาก ถ้าแพ้ที่หลังอย่าทานนะ
แก้ว : แก้วเห็นพี่ตักให้ ก็เลยทาน
‘ทำไมถึงน่ารักนักนะ ตัวเล็ก’
โทโมะ : แล้ววันนั้นทานไปได้ยังไง
ท้าวความถึงวันที่พาหญิงสาวไปทานอาหารทะเล
แก้ว : พี่บังคับ
โทโมะ : ก็พี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่บอกว่าแพ้
แก้ว : วันนั้นถ้าแก้วบอกว่าแพ้พี่ก็จะตอกกลับว่ามารยา
โทโมะ : มันผ่านมาแล้วนะ
แก้ว : แก้วดูมารยาเหรอคะ
โทโมะ : งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้ายังแสบหรือคันอยู่บอกพี่นะจะพาไปโรงพยาบาล
นั่งนิ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
แก้ว : คะ
ครืน~
เสียงข้อความดังมาจากมือถือชายหนุ่ม
“ฝันดีนะคะที่รัก...พิม”
ที่แรกก็กะว่าจะไม่ดูแต่ความอยากรู้มันมากกว่าทำให้แอบเปิดดู
‘เค้าก็แค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย’
ไม่รู้ทำไมอาการเหล่านี้มันถึงเกิดขึ้น ความรู้สึกน้อยใจมันท่วมท้นใจไปหมดเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องสมุด คืนนี้เธอคงต้องกลับมานอนที่เดิมของเธอ
+
+
+
โทโมะ : แม่ครับเห็นแก้วไหม
แม่โทโมะ : ไม่เห็นหนิลูกแม่เพิ่มเดินออกไปส่งพี่ชายเรากับหนูฟางมา
ออกมาจากห้องน้ำไม่เห็นหญิงสาวอยู่ในห้องก็เดินตามหา
แม่โทโมะ : ห้องหนังสือรึเปล่าลูกแม่เห็นน้องชอบเข้าไปบ่อยๆ
ชายหนุ่มเดินตรงไปห้องสมุดทันที เห็นหญิงสาวนอนคดร่างอยู่บนเก้าอี้หวาย
โทโมะ : แก้ว...ทำไมไม่นอนที่ห้อง
เสียงทุ้มปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา
แก้ว : อือ...
โทโมะ : ทำไมไม่นอนที่ห้อง
แก้ว : มันไม่ใช่ที่ของฉัน
โทโมะ : เป็นอะไรทำไมพูดจาแบบนี้
แก้ว : เปล่าคะเชิญคุณกลับไปห้องเถอะคะ ฉันอยากนอนแล้ว
โทโมะ : แก้วเป็นอะไร ทำไมเรียกพี่ว่าคุณอีกแล้วไม่น่ารักเลยนะ
แก้ว : ฉันไม่น่ารักอยู่แล้ว
โทโมะ : กลับไปนอนห้องของเราเถอะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะฉันนอนที่นี้ได้ เชิญคุณกลับไปคุยกับที่รักตามสบายคะฉันไม่อยากกวน
โทโมะ : น้อยใจพี่เรื่องอะไรรึเปล่า
แก้ว : ทำไมฉันต้องน้อยใจคุณ
‘ใช่ทำไมแก้วต้องน้อยใจพี่ด้วย’
โทโมะ : แก้วกลับห้อง
แก้ว : ไม่!!
โทโมะ : งั้นก็อ่านหนังสือไปก่อนง่วงแล้วก็ขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ไปนอนก่อนนะ
‘ใช่สิ แก้วไม่ใช่พิมพี่ถึงไม่ได้แคร์อะไร’
พอชายหนุ่มเดินให้หลังไปหญิงสาวก็ได้แต่น้อยใจ ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากที่ผูกพันเลื่อนกลายเป็นความรัก...
และแล้วคืนนั้นหญิงสาวก็นอนที่ห้องสมุดเหมือนเดิม
+
+
+
+
กลางวัน
บริษัทโทโมะ
แอ๊ด~
ตอนกลางวันหญิงสาวตัดสินใจเข้ามาหาชายหนุ่มแต่ก็ต้องเจอกับภาพบาดตา พิมนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มกำลังจะปลดไทค์ออก
เพี้ย!!
หญิงสาวเดินปราดเข้าไปฟาดมือลงบนแก้มพิม
พิม : โอ้ยยยย
แก้ว : หน้าด้านจริงๆนะคุณหนูพิม
พิม : ก็ฉันคิดถึงโทโมะนิ
แก้ว : คิดถึงคนที่มีเจ้าของแล้วเนี่ยนะ
พิม : หึเธอก็เป็นแค่เจ้าของทางกระดาษเท่านั้นแต่ฉันเป็นเจ้าของเข้าทั้งทางกายและใจ
เพี้ย!! เพี้ย!!
แก้ว : เธอนี้มันเหมือนแม่เธอจริงๆ
โทโมะ : แก้วไปว่าคุณแม่พิมเค้าได้ยังไง
พิม : โทโมะขา...พิมเจ็บช่วยพิมด้วย
แก้ว : ก็ถ้าแม่ของเค้าดีจริง แก้วจะไปว่าเค้าได้ยังไง แก้วว่าได้เพราะเค้าเป็นคนไม่ดีไง
โทโมะ : แก้วหยุดว่าคุณแม่ของพิมเขานะ
ต่อว่าหญิงสาวที่เสียมารยาท
แก้ว : แก้วไม่หยุด ก็แม่เธอมันเป็นเมียน้อย
ไม่สนใจหันไปด่าพิมต่อ เห็นหน้าทีไรอารมณ์มันพลุ่งพลานตลอด
พิม : โทโมะดูสิคะแม่พิมไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนะ
โทโมะ : แก้ว!!ขอโทษพิมเดี๋ยวนี้นะ
แก้ว : ไม่ขอโทษ แม่ยัยนั่นตั้งหากที่ต้องมากราบขอโทษแม่ของแก้ว!!
เพี้ย!!
มือหนาฟาดลงมาที่แก้มนวล หญิงสาวชาวาบไปทั้งใบหน้าขอบตาร้อนผ่าวกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่
โทโมะ : แก้ว พี่....
แก้ว : ฉันไม่ยอมเธอง่ายเหมือนที่แม่ฉันยอมแม่ของเธอหรอกนะ
พูดเสียงสั่นเครือโกรธใส่หน้าพิมแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาน้อยใจน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มวิ่งออกไปทันที
แก้ว : ฮึก ฮือ แก้วจะไม่แคร์พี่ ไม่แคร์
หญิงสาวพูดไปก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แคร์ชายหนุ่มนัก
เดินลงจากเตียงไปชำระร่างกายก่อนจะลงไปด้านล่าง
แม่โทโมะ : น้องไม่สบายเหรอไง
โทโมะ : ครับ
แม่โทโมะ : เมื่อคืนเป็นอะไรกันทำไมลากน้องแบบนั้น
โทโมะ : ไม่มีอะไรครับ
แม่โทโมะ : น้องน่าสงสารลูกรู้ไหม แม่อยากให้เราดูแลน้องมากๆผู้หญิงเหมือนกันหมด อยากให้คนที่รักเอาใจ อยากให้คนที่รักแคร์
‘เธอไม่ได้รักผมหนิ’
โทโมะ : แม่ครับผมมีเรื่องอยากถาม
แม่โทโมะ : ได้สิ แต่ตอนนี้ไปคุยกันที่โต๊ะอาหารดีไม๊ จะได้ทานข้าวไปด้วยเลย
เดินตามไปยังโต๊ะทานข้าว ข้าวเช้าถูกตักเสิร์ฟ
แม่โทโมะ : ไหนมีอะไรจะถามแม่
โทโมะ : ครั้งแรกของแม่ พ่อรุนแรงกับแม่ไหมครับ
แม่โทโมะ : ลูกชายถามแม่แปลกๆนะ แต่เอาเถอะ พ่อลูกนะน่ารักไม่ทำให้แม่ร้องไห้เลยนะว่าแต่ถามทำไมหล่ะ
โทโมะ : แล้วถ้ารุนแรงจะเป็นยังไงครับ
แม่โทโมะ : คงเจ็บน่าดูอยากรู้ทำไมไม่ถามหนูแก้วหล่ะมาถามแม่หน้าไม่อาย
ตักข้าวเข้าปาก รสชาติของกับข้าวทำให้นึกถึงคนข้างบนอยากทานรสมือของเธอสุดท้ายทนไม่ได้ต้องขอตัวขึ้นกลับขึ้นไปบนห้อง
+
+
+
แก้ว : อื่อออ
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บจี๊ดบริเวณที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง
แก้ว : โอ้ยย
ขยับจะลงจากเตียง
แก้ว : ฮึก อะโอ๊ะ...เจ็บจัง
เดินตัวงอลงจากเตียงจนได้เห็นรอยเลือกแล้วยิ่งใจหาย รวบผ้าปูที่นอนออกจากเตียงเพื่อจะไปซักค่อยๆก้าวเดินเพื่อไปเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเกลื้อนห้อง ชายหนุ่มค่อยๆเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวเห็นเดินกระเพกอย่างไวที่สุดเพื่อจะหลบสายตา กลัวว่าชายหนุ่มจะยังไม่หายโกรธ
โทโมะ : แก้ว...
เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว
โทโมะ : เรื่องเมื่อคืน...
ความรู้สึกห่วงหาอาทรเริ่มเข้าครอบงำจิตใจมากขึ้นทุกวัน
โทโมะ : ขอโทษ...จะยกโทษให้ผู้ชายเลวๆคนนี้ได้ไหม
น้ำเสียงผิดไปจากคนเมื่อคืนนี้มาก อ่อนโยนนุ่มนวลและเว้าวอน
แก้ว : ไม่เป็นไรฉันไม่ได้โกรธ
ชายหนุ่มจ้องมองลึกลงไปนัยน์ตาคู่สวย เธอกำลังน้อยใจเค้า รู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงอย่างที่คิดรึเปล่า
โทโมะ : เจ็บมากไหม
เดินเข้ามาใกล้
แก้ว : ยังพอทนได้
น้ำเสียงหวานที่ฟังดูแล้วห่างเหิน ทำให้ชายหนุ่มใจไม่ดีแปลกๆขว้าหญิงสาวเข้ามากอด
โทโมะ : ทำไมต้องทำตัวห่างเหินขนาดนั้นน้อยใจอะไร
แก้ว : ฉันปกติ แล้วไม่มีสิทธ์อะไรไปน้อยใจคุณ
โทโมะ : เธอมีสิทธ์ของการเป็นภรรยาไง
แก้ว : แก้วไม่เคยมีสิทธิ์อะไรในตัวพี่อยู่แล้ว…เอ่อขอโทษคะที่ใช้คำไม่สมควร
ปากไวเท่าความคิดไม่ทันที่จะเปลี่ยนสรรพนามหลุดใช้คำไป รีบกล่าวขอโทษ
โทโมะ : ไม่เป็นไรเรียกว่าพี่ก็ถูกแล้ว
ชายหนุ่มแอบดีใจลึกๆที่หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่าแก้วแล้วเรียกเค้าว่าพี่ เดินหนีเข้าห้องน้ำ เข้าไปนานจนชายหนุ่มรอไม่ไหวไปทำงานก่อน
แก้ว : โอ้ยยย...เจ็บชะมัดเลย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ
เดินกะเพกออกมาจากห้องน้ำ จะทำอะไรแต่ละอย่างมันเจ็บไปหมดเนื้อตัวบางจุดก็แดงเป็นรอยแต่บางที่ก็เขียวช้ำเลยก็มี แต่งตัวให้มิดชิดที่สุดแล้วหยิงผ้าปูเตียงที่ดึงออกไว้เมื่อเช้าไปซัก
ออย : คุณแก้วเดี๋ยวออยซักให้ก็ได้นะคะ
ยืนมือจะขอผ้าปูที่นอนไปซัก หญิงสาวรีบกำไว้แน่น
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่ผืนเดียวแก้วทำได้คะ ออยมีอะไรก็ไปทำเถอะจ๊ะ
ออย : เอางั้นก็ได้คะ
เมื่อออยเดินออกไปหญิงสาวรีบเอาผ้าปูที่นอนลงถังซักทันที ถ้ามีใครเห็นรอยบนผ้าปูนั่นเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน... ซักเสร็จรู้สึกเพลียๆเพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน เดินกลับไปนอนที่เตียงนุ่มที่หยิบผ้าปูผืนใหม่มาปูแล้ว
แก้ว : ฮัลโหลฟางวันนี้แก้วไม่เข้าไปร้านนะฝากด้วย
(จ๊า...ไม่เป็นไรเดี๋ยวฟางดูให้จ๊ะ)
วางสายเพื่อนแล้วก็ผลอยหลับไป
+
+
+
19.00
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะ...ทำไมวันนี้กลับเร็วหล่ะ
โทโมะ : รีบหน่ะครับ คุณแม่เห็นแก้วไหมครับ
แม่โทโมะ : วันนี้เห็นแค่ลงมาซักอะไรสักอย่างแล้วก็ขึ้นไปห้องจนป่านนี้ยังไม่ลงมาเลย ลูกไปดูน้องทีนะว่าป่วยรึเปล่าแม่ต้องรีบไปงานหน่ะเลยไม่ได้ไปดูเลยไม่รู้เป็นอะไรมากไหม
โทโมะ : ครับ
+
+
+
เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุดกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นเพราะตัวเองเสียงดัง ใบหน้าสวยหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง ชายหนุ่มดึงผ้าห่มมาห่มให้ก่อนจะไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วเข้ามานอนกอดหญิงสาวจนหลับไปด้วยกัน
เช้า
แก้ว : อืออออ....
ตื่นมาในตอนเช้าของอีกวัน ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกลับมานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ ลุกจากเตียงไปอาบน้ำจัดชุดให้ชายหนุ่มลงไปทำอาหารเช้าแล้วขอตัวออกไปทำงานเลย
โทโมะ : แม่ครับ แก้วไปไหน
แม่โทโมะ : น้องออกไปทำงานสักพักแล้วจ๊ะเดี๋ยวนี้หัดถามหาน้องบ่อยนะเรา
สะอึกไปเหมือนกันกับคำถามของแม่ตัวเอง
โทโมะ : ผมไปทำงานก่อนดีกว่านะครับ
แม่โทโมะ : ไม่ทานข้าวเช้าหน่อยเหรอลูก น้องอุตสาห์ทำไว้ให้
แทนที่จะก้าวออกจากบ้านไปกลับนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจึงค่อยไปทำงาน
แม่โทโมะ : บอกว่าน้องทำรีบทานเลยนะ ถ้าบอกว่าแม่นมทำให้คงจะไม่ทานแน่ๆ
ยิ้มไล่หลังลูกชายที่กำลังขับรถออกไป
+
+
+
+
แก้ว : ฟางอรุณสวัสจ๊ะ
ทักทายเพื่อนสาวที่หน้าร้าน
ฟาง : จะแก้ว....
แก้ว : แล้ววันนี้ใครมาส่งน้า....
มองไปคนในรถที่ฟางลงมา
ฟาง : อ๋อ...พี่ป๊อปพึ่งกลับมาจากเหนือนะเค้าก็เลยมาส่ง
แก้ว : แฟนมาส่งนี้เอง
แก้วระบายยิ้มออกมาก่อนจะมองเข้าไปในกระจกรถที่ติดฟิล์มดำ มองไปก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เธอก็คิดว่าคนในรถคงมองเธออยู่แน่จึงยิ้มไปให้ คนในรถจึงเลื่อนกระจกลงมายิ้มทักทายหญิงสาว
แก้ว : ทักทายนะคะพี่ป๊อปของยัยฟาง
ฟาง : แก้วพี่ป๊อปเค้าไม่ใช่ของฟางสักหน่อย
ป๊อปปี้ : ครับยินดีที่ได้รู้จัก...พี่เป็นของฟางหน่ะถูกแล้ว
มองฟางตาหวานเยิ้ม หญิงสาวอดอิจฉาไม่ได้
ฟาง : ของฟางก็ของฟางคะ พี่ป๊อปค่ะนี้แก้วเพื่อนฟางเองคะ
ป๊อปปี้ : ครับคุณแก้วฝากยัยฟูด้วยนะครับเดี๋ยวเย็นๆจะมารับ
แก้ว : คะรับฝาก เย็นนี้อย่าลืมมารับนะคะเดี๋ยวจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง
ฟาง : โตแล้วนะไม่ร้องแล้วหล่ะ
ป๊อปปี้ : จริงเหรอ~...งั้นเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะมารับไปทานข้าวที่บ้านพี่นะจะได้รู้จักแม่แล้วก็ครอบครัวพี่ด้วยเนอะ
ฟาง : จะดีเหรอพี่ป๊อป
ป๊อปปี้ : ดีที่สุดครับ พี่ไปทำงานก่อนนะครับ
ฟาง : คะ บ๊าย บาย
‘เหมาะกันดีจังเลยมาส่งกันด้วย’
แก้ว : พี่ป๊อปของฟางหล่อนะเนี่ย
คุยกันระหว่างที่เดินเข้าร้าน
ฟาง : ขอบคุณแทนพี่ป๊อปจ๊า แต่คุณวิศวก็หล่อน้า~
พูดล้อๆเพื่อน
แก้ว : อืม...เมื่อวานแก้วไม่ได้มามีงานอะไรที่ต้องเซนไหมอ่า
ฟาง : ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอกเพราะร้านเราพึ่งเปิดคอเลคชั่นใหม่ไปเอง
แก้ว : ดีจังเลยมีฟางอยู่ช่วยงานแก้วแทบไม่ได้บริหารงานเลย
ฟาง : ก็ถ้าไม่มีแก้วฟางก็ไม่มีที่ทำงานเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่เอาฟางไปดูลูกค้าหน้าร้านก่อนดีกว่า
แก้ว : จ๊า...งั้นวันนี้แก้วไปหน้าร้านด้วยนั่งอย่างเดียวเมื่อยแย่
ฟาง : แล้ววันนี้ไม่ไปหาใครเหรอจ๊ะ
แก้ว : ปล่อยให้เค้าได้อิสระบ้างจะดีกว่า
วันนั้นทั้งวันหญิงสาวก็เลยอยู่ที่ร้านทั้งวัน
เย็น
ป๊อปปี้ : ฟาง...เหนื่อยไหมครับป๊อปซื้อน้ำมาฝาก
แฟนหนุ่มของเพื่อนเดินเข้ามาในร้านตรงเข้ามาที่ฟางแล้วส่งน้ำส้มแก้วโตให้ฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป ทำไมมาเร็วจังคะ
ป๊อปปี้ : นานทีพี่จะมาดูงานที่บริษัทเข้าไปก็ไม่ได้ทำอะไรน้องชายมันทำซะทุกอย่างเลย ที่แรกก็ว่าจะไปทำความรู้จักกับน้องสะใภ้สักหน่อยแต่บังเอินวันนี้เธอไม่มาเลยไม่เจอ
ฟาง : น้องชายแต่งงานแล้วเหรอคะ
ป๊อปปี้ : ครับพี่ชาย2คนยังไม่แต่งแต่น้องชายไปแล้ว งั้นเรามาแต่งกันดีไหม
ฟาง : พี่ป๊อปพูดอะไรออกมา
ป๊อปปี้ : งั้นเอาไว้ก่อนเดี๋ยวพี่จะขอฟางเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า แต่พี่อยากให้ฟางรู้ว่าพี่จริงจังกับฟางนะอยากได้เป็นแม่ของลูกจริงๆ
ฟาง : พอแล้วพี่ป๊อป ฟางเขิน
อายม้วนจนแฟนหนุ่มอดไม่ได้ขยี้หัวด้วยความรัก
ป๊อปปี้ : แล้วเลิกงานกี่โมงครับจะพี่นั่งรอได้ไหม
ฟาง : ยังไม่รู้เลยคะ
หญิงสาวมองไปยังทั้งคู่แล้วยิ้มทักทายแฟนเพื่อนสาวอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินเข้าไป
แก้ว : พายัยฟางไปเลยก็ได้คะเดี๋ยวแก้วก็ต้องไปแล้วทางนี้ให้เด็กที่ร้านดูก็ได้คะ
ป๊อปปี้ : ครับ แล้วคุณแก้วจะไปไหนครับ
ฟาง : แก้วเค้าต้องกลับไปทำหน้าที่ภรรยาหน่ะคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วแต่งงานแล้วเหรอครับ
สีหน้าตกใจที่หญิงสาวแต่งงานแล้ว ก็ใช่ใครที่ไม่รู้จักก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นเพราะสาวๆที่สวยปกติจะหวงตัวเป็นพิเศษไม่ยอมแต่งงานง่ายๆ
แก้ว : คะแก้วแต่งงานแล้ว
ป๊อปปี้ : แล้วกลับบ้านยังไงครับผมกับฟางไปส่งไหมครับ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะ แก้วเอารถมาไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวคุณกับยัยฟางหน่ะคะ
ฟาง : ไม่รบกวนนะแก้ว
แก้ว : จ๊ะแต่ว่าฟางหน่ะไปทานข้าวกับครอบครัวคุณป๊อปปี้เถอะเดี๋ยวถ้าไปช้าผู้ใหญ่จะดุเอานะ
ฟาง : จริงด้วยสิ
ป๊อปปี้ : ไม่ต้องรีบหรอกครับฟาง บ้านพี่ทานข้าวเย็นตอนทุ่มตรงยังมีเวลาอีกมากพี่ว่าจะพาฟางไปเดินเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปบ้าน
ยิ้มอ่อนโยนให้
แก้ว : นั่นแหละฟางไปเลยเถอะแก้วก็จะไปแล้ว
ฟาง : จ๊ะงั้นบ๊ายบายนะ
แก้ว : จ๊ะโชคดีนะ
ร่ำลาแล้วแยกย้ายกันไปหญิงสาวหันไปสั่งเด็กในร้านก่อนจะรีบกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าว
19.00
แม่โทโมะ : วันนี้ทำอะไรเยอะแยะไปหมดเลยจ๊ะหนูแก้ว
แก้ว : ก็มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา ต้มยำกุ้ง ผัดถั่วและก็ต้นจืดหมูสับคะ พอดีเห็นว่าในตู้มีเยอะหน่ะคะถ้าไม่รีบทำกลัวจะเสียหมด
แม่โทโมะ : พอดีเลยจ๊ะวันนี้พี่ชายของตาโมะจะมาพอดี
แก้ว : พี่จองเบมาเหรอคะ
แม่โทโมะ : ไม่ใช่หรอกจ๊ะ ไว้เดี๋ยวแม่แนะนำให้รู้จักนะจ๊ะ
แก้ว : งั้นแก้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ
แม่โทโมะ : จ๊ะ
+
+
+
โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : อ้าวตาโมะหมู่นี้กลับบ้านเร็วมาสองวันแล้วนะที่บ้านมีอะไรรึเปล่าถึงอยากได้อยากกลับนักหนานะหือ
แกล้งหยอกลูกชายเล่นๆเพราะที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะลูกสะใภ้คนสวยที่ดึงดูดใจให้ลูกชายอยากกลับบ้านไว
โทโมะ : วันนี้พี่ป๊อปจะมาหนิครับ
แม่โทโมะ : เหรอ แม่ก็นึกว่าลูกคิดถึงน้องซะอีก
โทโมะ : มันก็ไม่เชิงหรอกครับนั่นก็ส่วนหนึ่ง
แม่โทโมะ : ถ้าคิดถึงน้องทำไมไม่บอกน้องบ้างบางทีน้องอาจจะอยากฟัง
โทโมะ : ครับ ได้ยินพี่ป๊อปพูดว่าวันนี้จะพาว่าที่ลูกสะใภ้มาแนะนำ
แม่โทโมะ : จริงเหรอ อยากรู้จังว่าตาป๊อปจะมีเมียดีสู้หนูแก้วได้รึเปล่า
โทโมะ : รอดูสิครับ นั่นไงมาพอดี
ป๊อปปี้ : สวัสดีครับแม่
ฟางที่เดินมาด้วยพลอยยกมือไหว้ไปด้วย สีหน้าของผู้เป็นแม่แว็บแรกที่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้ก็ยิ้มออกมาทันที ทั้งสวยทั้งน่ารัก หาได้แบบนี้คนเป็นแม่ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
แม่โทโมะ : จ๊ะลูก
ป๊อปปี้ : นี้ฟาง แฟนผมครับ
ฟาง : สวัสดีคะคุณน้า
แม่โทโมะ : จ๊ะ ทำไมเรียกน้า เรียกแม่สิลูก มาทานข้าวกันก่อนดีกว่า
เรียกลูกๆมานั่งที่โต๊ะอาหาร
แม่โทโมะ : ออย...ไปบอกคุณแก้วทีเชิญเธอลงมาทานข้าวด้วย
โทโมะ : เดี๋ยวผมไปเองครับ
เดินขึ้นไป
โทโมะ : แก้วทานข้าว
แก้ว : สักครู่คะเดี๋ยวตามลงไป
แก้ว : โอ้ย
หันมาไม่นึกว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ข้างหลังทำให้ร่างเล็กปะทะกับอกกว้าง
แก้ว : อะเอ่อ...ขอโทษ
ก้าวถอยหลังไป ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆก่อนจะส่งมือมาให้หญิงสาวจับแต่หญิงสาวเดินออกมาก่อนไม่ยอมจับ
หมับ~
ขว้ามือบางมาจับไว้แล้วพากันเดินลงมา
แก้ว : ฟาง
ฟาง : แก้ว
แม่โทโมะ : รู้จักกันเหรอลูก
สองสาวคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเป็นสะใภ้ครอบครัวเดียวกัน
แก้ว : ฟางเป็นเพื่อนแก้วเองคะ
ป๊อปปี้ : คุณแก้วเป็นภรรยาแกเหรอ
โทโมะ : ครับภรรยาผมเอง หวังว่าพี่คงไม่คิดเหมือนพี่จองเบนะ
ป๊อปปี้ : คิดอะไร
โทโมะ : ช่างเหอะครับไม่มีอะไรหรอก
แม่โทโมะ : ตาโมะพี่เค้าก็มีแฟนนั่งอยู่ไม่ต้องหวงมากก็ได้มั๋ง
ป๊อปปี้ : อ๋อ...หวงเมีย มันก็น่าหวงอยู่หรอกเมียสวยขนาดนี้
โทโมะ : พี่ป๊อปแฟนพี่นั่งอยู่นะมาชมเมียผมทำไม
ป๊อปปี้ : ฮ่าฮ่าห่วงจริงๆนะเนี่ย คุณแก้วครับไม่นึกจริงๆว่าผู้ชายโชคดีคนนั้นเป็นน้องชายผมเอง
แก้ว : แก้วไม่ได้ดีอะไรหรอกคะยัยฟางก็น่ารักทำอาหารก็อร่อยกว่าแก้วตั้งเยอะ
ป๊อปปี้ : ครับ ผมว่าถึงฟางจะทำอาหารไม่อร่อยผมก็รักอยู่ดี
ฟาง : พี่ป๊อปอะ คุณแม่อยู่นะ
แม่โทโมะ : ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะหนูฟาง แม่ชอบน่ารักดี
แม่ยิ้มให้
ป๊อปปี้ : ฟางครับทำไมทานแต่ผักหล่ะแค่นี้ก็ผอมแล้วนะทานนี้ดีกว่า
ตักแกงเขียวหวานใส่จานฟาง
ฟาง : ขอบคุณคะพี่ป๊อป
แม่โทโมะ : ตาโมะไม่ตักอะไรให้หนูแก้วบ้างเหรอ
ทวงเมื่อเห็นว่าลูกชายทานเอาทานเอาอย่างเดียวชายหนุ่มจึงเอื้อมไปตักกุ้งให้หญิงสาว
แก้ว : ขอบคุณคะ
วันนี้คิดผิดจริงๆที่ทำต้มยำกุ้ง เธอแพ้อาหารทะเลแล้วตอนนี้ชายหนุ่มดันตักกุ้งมาให้จะไม่ทานก็กระไรอยู่ แต่จะทำไงได้ถ้าบอกว่าแพ้เดี๋ยวเค้าก็ไม่เชื่อเลยตักใส่ปากเคี้ยวๆไป
ฟาง : ยัยแก้ว!!แพ้อาหารทะเลแล้วทานไปได้ยังไงนั้นกุ้งทะเลนะ
แม่โทโมะ : หนูแก้วแพ้ของทะเลเหรอลูก
แก้ว : คะ
โทโมะ : แพ้ทำไมไม่บอกทานไปทำไม
แก้ว : แก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่นะคะไม่เป็นไรแค่คำเดียวเอง
โทโมะ : แต่แก้วแพ้นะไหนดูสิเป็นอะไรมากรึเปล่า
พลิกดูตามแขนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
แก้ว : แก้วไม่เป็นไหรหรอกคะ พี่ทานข้าวต่อเถอะ
เมื่อพลิกดูเห็นว่าไม่เป็นอะไรก็กลับไปทานต่อ เมื่อสักครู่ที่ชายหนุ่มดูอาการแพ้ยังไม่แสดงแต่ตอนนี้อาการแพ้เริ่มออกแล้ว แขนเริ่มเป็นผื่น
แก้ว : อะเออ...แก้วขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษที่เสียมารยาท
ทำไงได้เมื่อผื่นเริ่มขึ้นมากขึ้นเธอเลยต้องลุกจากโต๊ะอาหาร
หมับ~
จับแขนหญิงสาว
โทโมะ : ไปหาหมอไหมพี่พาไป
แก้ว : พี่ทานข้าวเถอะแก้วไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : แก้วแพ้ขนาดนี้จะให้พี่ทานต่อได้ยังไง
แก้ว : แก้วทานไปไม่มากอีกสักพักคงจะยุบหน่ะคะไม่เป็นไรจริงๆ
โทโมะ : งั้นคุณแม่ทานข้าวกับพี่ป๊อปและก็คุณฟางไปก่อนนะครับเดี๋ยวผมพาแก้วไปทายาก่อน
แก้ว : แต่...
ไม่ฟังต่อพาหญิงสาวขึ้นไปบนห้อง
โทโมะ : แสบผิวไหม
สายหัวแทนคำตอบ
โทโมะ : อย่าโกหกพี่นะ
แก้ว : แสบนิดหน่อยคะแต่ทนได้
ชายหนุ่มเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้แล้วทาคาลาไมเพื่อบรรเทาอาการคันสักพักผื่นแดงๆเริ่มยุบตัวลง
โทโมะ : ดีนะไม่ทานเข้าไปมาก ถ้าแพ้ที่หลังอย่าทานนะ
แก้ว : แก้วเห็นพี่ตักให้ ก็เลยทาน
‘ทำไมถึงน่ารักนักนะ ตัวเล็ก’
โทโมะ : แล้ววันนั้นทานไปได้ยังไง
ท้าวความถึงวันที่พาหญิงสาวไปทานอาหารทะเล
แก้ว : พี่บังคับ
โทโมะ : ก็พี่ไม่รู้ แล้วทำไมไม่บอกว่าแพ้
แก้ว : วันนั้นถ้าแก้วบอกว่าแพ้พี่ก็จะตอกกลับว่ามารยา
โทโมะ : มันผ่านมาแล้วนะ
แก้ว : แก้วดูมารยาเหรอคะ
โทโมะ : งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้ายังแสบหรือคันอยู่บอกพี่นะจะพาไปโรงพยาบาล
นั่งนิ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
แก้ว : คะ
ครืน~
เสียงข้อความดังมาจากมือถือชายหนุ่ม
“ฝันดีนะคะที่รัก...พิม”
ที่แรกก็กะว่าจะไม่ดูแต่ความอยากรู้มันมากกว่าทำให้แอบเปิดดู
‘เค้าก็แค่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย’
ไม่รู้ทำไมอาการเหล่านี้มันถึงเกิดขึ้น ความรู้สึกน้อยใจมันท่วมท้นใจไปหมดเดินออกจากห้องลงไปที่ห้องสมุด คืนนี้เธอคงต้องกลับมานอนที่เดิมของเธอ
+
+
+
โทโมะ : แม่ครับเห็นแก้วไหม
แม่โทโมะ : ไม่เห็นหนิลูกแม่เพิ่มเดินออกไปส่งพี่ชายเรากับหนูฟางมา
ออกมาจากห้องน้ำไม่เห็นหญิงสาวอยู่ในห้องก็เดินตามหา
แม่โทโมะ : ห้องหนังสือรึเปล่าลูกแม่เห็นน้องชอบเข้าไปบ่อยๆ
ชายหนุ่มเดินตรงไปห้องสมุดทันที เห็นหญิงสาวนอนคดร่างอยู่บนเก้าอี้หวาย
โทโมะ : แก้ว...ทำไมไม่นอนที่ห้อง
เสียงทุ้มปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา
แก้ว : อือ...
โทโมะ : ทำไมไม่นอนที่ห้อง
แก้ว : มันไม่ใช่ที่ของฉัน
โทโมะ : เป็นอะไรทำไมพูดจาแบบนี้
แก้ว : เปล่าคะเชิญคุณกลับไปห้องเถอะคะ ฉันอยากนอนแล้ว
โทโมะ : แก้วเป็นอะไร ทำไมเรียกพี่ว่าคุณอีกแล้วไม่น่ารักเลยนะ
แก้ว : ฉันไม่น่ารักอยู่แล้ว
โทโมะ : กลับไปนอนห้องของเราเถอะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะฉันนอนที่นี้ได้ เชิญคุณกลับไปคุยกับที่รักตามสบายคะฉันไม่อยากกวน
โทโมะ : น้อยใจพี่เรื่องอะไรรึเปล่า
แก้ว : ทำไมฉันต้องน้อยใจคุณ
‘ใช่ทำไมแก้วต้องน้อยใจพี่ด้วย’
โทโมะ : แก้วกลับห้อง
แก้ว : ไม่!!
โทโมะ : งั้นก็อ่านหนังสือไปก่อนง่วงแล้วก็ขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ไปนอนก่อนนะ
‘ใช่สิ แก้วไม่ใช่พิมพี่ถึงไม่ได้แคร์อะไร’
พอชายหนุ่มเดินให้หลังไปหญิงสาวก็ได้แต่น้อยใจ ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น จากที่ผูกพันเลื่อนกลายเป็นความรัก...
และแล้วคืนนั้นหญิงสาวก็นอนที่ห้องสมุดเหมือนเดิม
+
+
+
+
กลางวัน
บริษัทโทโมะ
แอ๊ด~
ตอนกลางวันหญิงสาวตัดสินใจเข้ามาหาชายหนุ่มแต่ก็ต้องเจอกับภาพบาดตา พิมนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มกำลังจะปลดไทค์ออก
เพี้ย!!
หญิงสาวเดินปราดเข้าไปฟาดมือลงบนแก้มพิม
พิม : โอ้ยยยย
แก้ว : หน้าด้านจริงๆนะคุณหนูพิม
พิม : ก็ฉันคิดถึงโทโมะนิ
แก้ว : คิดถึงคนที่มีเจ้าของแล้วเนี่ยนะ
พิม : หึเธอก็เป็นแค่เจ้าของทางกระดาษเท่านั้นแต่ฉันเป็นเจ้าของเข้าทั้งทางกายและใจ
เพี้ย!! เพี้ย!!
แก้ว : เธอนี้มันเหมือนแม่เธอจริงๆ
โทโมะ : แก้วไปว่าคุณแม่พิมเค้าได้ยังไง
พิม : โทโมะขา...พิมเจ็บช่วยพิมด้วย
แก้ว : ก็ถ้าแม่ของเค้าดีจริง แก้วจะไปว่าเค้าได้ยังไง แก้วว่าได้เพราะเค้าเป็นคนไม่ดีไง
โทโมะ : แก้วหยุดว่าคุณแม่ของพิมเขานะ
ต่อว่าหญิงสาวที่เสียมารยาท
แก้ว : แก้วไม่หยุด ก็แม่เธอมันเป็นเมียน้อย
ไม่สนใจหันไปด่าพิมต่อ เห็นหน้าทีไรอารมณ์มันพลุ่งพลานตลอด
พิม : โทโมะดูสิคะแม่พิมไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนะ
โทโมะ : แก้ว!!ขอโทษพิมเดี๋ยวนี้นะ
แก้ว : ไม่ขอโทษ แม่ยัยนั่นตั้งหากที่ต้องมากราบขอโทษแม่ของแก้ว!!
เพี้ย!!
มือหนาฟาดลงมาที่แก้มนวล หญิงสาวชาวาบไปทั้งใบหน้าขอบตาร้อนผ่าวกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่
โทโมะ : แก้ว พี่....
แก้ว : ฉันไม่ยอมเธอง่ายเหมือนที่แม่ฉันยอมแม่ของเธอหรอกนะ
พูดเสียงสั่นเครือโกรธใส่หน้าพิมแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาน้อยใจน้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้มวิ่งออกไปทันที
แก้ว : ฮึก ฮือ แก้วจะไม่แคร์พี่ ไม่แคร์
หญิงสาวพูดไปก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้แคร์ชายหนุ่มนัก
............................
อัพแล้วนะคะเม้นๆโหวดด้วยไม่มีเวลาแต่งนะคะแม่บ่นใหญ่แล้วอ่~
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ