i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) 6 - Varker

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

6 - Varker

 

หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอไอ้เหี้ยพอสอีกเลย ตัวผมเองก็ยุ่งๆจากกิจกรรมรับน้อง ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นเท่าไหร่ ลายเซ็นที่ผมได้มานั้นเกือบครบแล้ว (ทำเอาผมกลายเป็นคนหน้าด้านไปเลย) เพื่อนๆหลายคนก็เช่นกัน

 

“ดีครับพี่รอย” ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ที่กำลังจะเดินสวนกับผมและไอ้ทัช

“ดีๆ .. เออแกรนด์ พี่รหัสมึงฝากมาเตือนว่าอย่าลืมไปแนะนำตัวกับพี่เขาละ พี่ไปก่อนนะ มีเรียนวะ” พี่รอยรับมือไหว้ก่อนจะบอกผมอย่างรีบๆ

 

พี่รอยนี่เป็นพี่รหัสของไอ้ทัช ผมละอิจฉามันจริ๊งจริงงง ได้ข้อมูลนิดเดียวก็หาพี่รหัสเจอเลย ส่วนผมน่ะเหรอ? ตั้งแต่วันที่โทรไปก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย ยิ่งจะให้หาตัวเป็นๆนี่ยาก ชื่อยังไม่รู้เลยคิดดู -*-

และนี่ก็เป็นวันอังคาร พรุ่งนี้ก็วันพุธแล้วด้วย เห้อออออ

ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีพี่รหัสนะ แต่...เสียงโหดขนาดนั้น ตัวจริงก็คงโหดไม่แพ้เสียงนั่นแหละ แถมพี่เค้ายังไม่เห็นจะมาเทคแคร์ดูแลอะไรผมเลย ต่างจากเพื่อนคนอื่นโดยสิ้นเชิง ทั้งน้ำ ขนม หนังสือ ฝากคนโน้นมาคนนี้มาพร้อมคำใบ้จนเค้ารู้พี่รหัสตัวเองกันหมดละ เผลอๆบางคนรู้ทั้งสายรหัสแล้วด้วยซ้ำ

 

“เป็นไรวะไอ้แกน ทำหน้าอย่างกับขี้ไม่ออก” ไม่ใช่ไอ้ทัชครับ แต่เป็นไอ้แทน ผมนั่งลงโต๊ะม้าหิน ซึ่งเป็นซุ้มสำหรับเจอร์ผม หากไม่มีอะไร เจอร์ผมก็จะมาสิงกันที่ซุ้มเนี่ยละครับ และดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีแต่ปี1เท่านั้น

“มึงสิขี้ไม่ออก” ผมสวนกลับมันไป ในความรู้สึกผมตอนนี้ ระหว่างมันกับผมที่ดูเหมือนไม่เคยพูดจาดีๆกันเลย แม้จะยังไม่สนิท แต่มันมีอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่านี่คือ ‘เพื่อน’

“กูเพิ่งขี้มาเมื่อเช้าโว้ยย ฮ่าๆ”

“เรื่องของมึง”

“เห้ยไอ้แกน เดี๋ยวกูไปหาไอ้เต็งที่คณะก่อน เดี๋ยวกูมารอนี้แหละ” ไอ้ทัชบอกผม

“เออ ฝากบอกมันด้วยว่าพร้อมจะผ่าสัตว์ออกจากปากคนรึยัง? เผื่อจะได้ช่วยเอาหมาออกจากปากใครบางคนแถวนี้” ผมกัดไอ้แทนหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมาก

“กูว่าให้เพื่อนมึงมาฉีดยาไอ้แกนก่อนดีกว่าวะ ฮ่าๆๆๆ”

“สัด” ผมหันไปด่าคนที่นั่งตรงข้ามเน้นๆ

“กัดกันให้พอเลยมึง2ตัว กูไปละ” และไอ้ทัชก็เดินจากไป ทิ้งไว้ให้ผมอยู่กับไอ้แทน

 

“เออนี่มึงสนที่จะลงเฟรชชี่คณะมั่งปะ? มีรุ่นพี่ฝากมาถามวะ”

“ไม่อะ ถึงกูจะหล่อที่สุดในคณะ แต่กูไม่ชอบทำไรแบบนี้วะ” และผมก็ได้รับโบกหัวจากคนถาม1ฝ่ามือเต็มๆ “ไอ้เหี้ย ตบมาได้ แรงอย่างกับควาย”

“กูหมั่นไส้มึง หลงตัวเองชิบหาย”

นี่ถ้าเป็นวันแรกๆที่ผมกับมันรู้จักกันคงได้มีมวยแล้วละ แต่ตอนนี้..เอาเถอะ ก็สนิทกันในระดับนึงอะนะ

“แล้วมึงลงเหรอไง?” มันก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีนะครับ ถึงแม้ว่าจะสู้ผมไม่ได้ก็เถอะ

“เออ พี่รหัสอยากให้กูลงเพราะพี่เค้าพลาดรางวัลปีที่แล้ว แถมลุงรหัสกูก็ชนะเฟรชชี่มหาลัยด้วย เค้าคงอยากให้กูสืบทอดตามสายรหัสมั้ง”

“แต่กูว่ายากวะ หน้าตาอย่างมึงจะเอาไรไปสู้ ฮ่าๆๆ”

“สาดดดดด แล้วคอยดูละกันมึง”

พูดถึงสายรหัส...บางทีผมต้องเริ่มอะไรสักอย่างแล้วละ

“เออมึงพอรู้จักรุ่นพี่ที่เสียงโหดๆมั่งปะ?” เอาวะ ตัดสินใจถามไอ้แทนเนี้ยละ มันรู้จักรุ่นพี่เยอะ คงพอช่วยไรได้บ้าง

“ทำไมวะ?”

“เค้าเป็นพี่รหัสกู”

“อ่าวทำไมไม่ถามชื่อ แบบนั้นหาง่ายกว่าปะ?”

“กูไม่รู้ชื่อพี่เค้าวะ นี่กูก็ยังไม่ได้อะไรจากพี่เค้าเลย รู้แค่ว่าเสียงโหด หน้าตาเป็นไงกูก็ไม่รู้ แต่คงจะโหดเหมือนเสียงแหละมั้ง กูเดานะ”

“ไอ้ห่านิ เพิ่งจะมาหาพี่รหัส คนอื่นเค้ารู้กันทั้งสายละ”

“เออน่า บอกมาว่าพอรู้มั้ยว่ารุ่นพี่คนไหนเสียงโหดๆ” ผมเร่งมันกึ่งๆรำคาญ

“อืมมมมม” มันทำท่านึก “เสียงโหดๆเหรอ...พี่วอร์มก็โหด พี่บอสก็โหด พี่เต้ก็โหด พี่สามก็โหด ..”

“พอๆๆ เอาแบบที่ยังไม่มีน้องรหัสด้วยซิวะ” การหามันจะได้แคบลงบ้าง แต่นี่พี่แกเล่นร่ายรายชื่อมาหมดเลยวุ้ย

“ไอ้สัด กูจะรู้มั้ยว่าคนไหนเป็นพี่รหัสใคร” มันบอกแบบเคืองๆ

“เอ้า กูก็นึกว่ามึงรู้ เห็นรู้จักดีไปหมด”

ไอ้แทนไม่แย้งอะไรกลับมาเพราะมันเป็นความจริงครับ

“เออๆ เดี๋ยวกูช่วย แต่ตอนนี้กูต้องไปละ”

“รีบๆไปเลยสัด”

“โหย พอกูหมดประโยชน์ก็เฉดหัวทิ้งเลยนะมึง”

“ฮ่าๆ รีบไปเถอะมึงอะ เจอกันพรุ่งนี้” มันลุกขึ้นโบกมือบ๊ายบายผมก่อนจะเดินจากไป

 

และตอนนี้ผมก็อยู่คนเดียวแล้วสินะ .. ใครๆก็ไม่รักโผมม คนหล่อถูกทิ้ง ฮรือออออน T_________T

ไม่รู้ว่าไอ้ทัชจะกลับมาเมื่อไหร่ นั่งอยู่คนเดียวแม่งเปลี่ยวใจ กลับหอดีกว่า

ตัดสินใจได้ดังนั้นผมจึงส่งLineไปบอกมัน ก่อนจะลุกเดินกลับหอทันที

.

.

 

.

 

 

.

เช้าวันต่อมาขณะที่ผมกำลังเดินไปยังห้องเรียนนั้น พี่รหัสก็โทรมา

“ดีครับพี่”

/ไอ้แกน วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะมึง เมื่อไหร่จะมาแนะนำตัวกับกูซักทีวะ/ พี่รหัสผมพูดเสียงโหดๆ

ก็เพราะมึงเสียงแบบนี้ไงกูเลยไม่อยากไปหา...

“ก็ผมไม่รู้นิว่าพี่คนไหน ชื่อก็ไม่รู้ อะไรก็ไม่รู้เลย” ผมตอบอย่างรำคาญ

/ไอ้ห่า ขวนขวายน่ะเป็นไหมวะ?! มึงไม่อยากมีพี่รหัสใช่มั้ยสัด/

“...” ผมเงียบ

/เดินมาหากูที่ห้อง406ตึก3ตอนนี้ ให้ว่อง/ และไอ้พี่รหัสเสียงโหดก็วางสายไป

ผมก้มมองดูนาฬิกาตอนนี้ 8.50น แต่ผมมีเรียน9โมง เลยตัดสินใจไปหาพี่รหัส (ที่ไม่อยากจะเจอสักนิด) ขอทำใจก่อนที่จะเจอหน้าแล้วกัน

ไม่ว่าพี่จะหน้าตาโหดเหี้ยมอย่างกับโจรห้าร้อยหรือคนป่าหาเห็บกิน กระผม...ไอ้แกรนด์สุดหล่อคนนี้ก็จะรับหน้าตาของพี่ให้ได้ครับ!

 

 

 

 

“อ้าวพี่รอย หวัดดีครับพี่ แล้วก็หวัดดีครับ” ขณะที่ผมกำลังเดินไปยังจุดนัดพบก็เจอพี่รอยกับเพื่อนพี่เค้าอีกคนนึงที่ผมไม่รู้จักชื่อ แต่ก็ไหว้ไปตามมารยาทและศักดิ์ที่เป็นรุ่นพี่

แต่แม่ง...เพื่อนพี่รอยโคตรหล่อเลยครับ แต่น้อยกว่าผม...อะแฮ่ม เอิ่ม ความจริงก็...พี่เค้าหล่อกว่าผมนิดนึงครับ แหะๆ

นิ๊ดดดดดดดเดียวจริงๆนะ

“เออหวัดดี...ส่วนเนี้ยไอ้เนี้ยชื่อวอร์ม เป็นเพื่อนพี่และก็..เป็นพี่รหัสมึงด้วย”

 

ห๊ะ!

ห๊ะ!

ห๊ะ!                                                

 

เนี่ยเหรอพี่รหัสกู...หล่อสาดดดดดดดดดด เสียงไม่ได้เข้ากับหน้าตาเลยนะเพ่

“มองหน้ากูทำไม? อยากมีเรื่องรึไง?” เสียงไอ้พี่รหัสโหดกว่าในโทรศัพท์อีกครับ

“ไอ้สัดมึงก็พูดดีๆกับน้องหน่อยสิวะ กลัวขี้หดตดหายและเนี่ย” พี่รอยหันไปด่าเพื่อน

ไอ้พี่รหัสผมมันจ้องผมอย่างกับผมไปแย่งเมียมันมา..เอ๊ะ! หรือว่าแย่งวะ? ผมจำไม่ได้ด้วยดิ ชิบหายแล้ววววววว

“เออรู้ว่ากูเป็นพี่รหัสก็ช่วยทำตัวดีๆด้วย อย่ามีเรื่องให้กูมากนะมึง วีกรรมอะไรที่มึงก่อไว้อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะสัด”

“พี่ก็ช่วยทำตัวให้เหมาะสมกับที่เป็นพี่รหัสหน่อยสิครับ” ผมพูดแดกดัน นั่นทำให้พี่วอร์มที่กำลังจะเข้าห้องหันกลับมาทันที

“หึ ปากดีแบบนี้คงไม่อยากมีพี่รหัสสินะ” ไอ้พี่วอร์มมองผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าห้องไป

“เห้ยไอ้แกน พี่ขอเตือนนะ อย่าปากดีมากเลยวะ ถ้ายังอยากอยู่คณะนี้แบบสงบสุข หรือถ้ามึงอยากแดกตีนนักก็บอกตรงๆ เดี๋ยวพี่ช่วยสงเคราะห์ให้...กลับไปเรียนได้แล้วไป อ้อและเย็นนี้ไว้ค่อยเจอกัน” พี่รอยเดินเข้าไปในห้องอีกคน

 

ท่าทาง...ผมคงไม่มีพี่รหัสแล้วละครับ แต่ใครแคร์ละ?

 

 

 

 

 

ตอนเย็นพวกผมนั่งอยู่กับเพื่อนๆที่ที่เคยเจอพี่ปี2ครั้งแรก แต่คราวนี้พี่เค้าไม่พูดอะไรและบอกให้แต่งตัวให้เรียบร้อยและนำยังที่ที่หนึ่งซึ่งเป็นลานกว้าง ลานนั้นถูกเติมเต็มไปด้วยปี1ที่นั่งกันเป็นระเบียบ หน้าเชิด สายตาระดับคอ หลังตรง มือทั้ง2ข้างเหยียดตรงบนหัวเข่า แยกชายหญิง เจอร์ผมซึ่งมาทีหลังก็ต้องไปนั่งต่อแถวข้างหลังสุด และไม่ต้องมีใครบอกอะไร...พวกผมก็นั่งแบบเดียวกับที่คนอื่นนั่ง

 

ด้านหน้าเป็นรุ่นพี่สโมสรคณะพูดใส่โทรโข่ง

“ระเบียบเชียร์!”

พรึ่บ!!

“เชียร์!!!!!!”

 

เวร...ผมเกือบทำไม่ทัน คือพอพี่เค้าสั่งเสร็จต้องตบหน้าขาแล้วเอามือมาไว้ที่เดิมพร้อมกับพูดว่า ‘เชียร์’ อย่างที่ได้ยินเมื่อกี้แหละครับ

 

แล้วพวกพี่สโมก็เดินออกไป...อะ อ้าว ไปไหนละเพ่

 

สักพักก็ได้ยินเสียงบูมมหาลัยมาจากที่ไกลๆ แต่ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าคนที่บูมนั้นมีไม่มากกลับส่งเสียงได้ดังเหมือนคนเป็นร้อย

 

เสียงรองเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะ ตามมาด้วยรุ่นพี่ที่มีสีหน้าอย่างกับไปโกรธใครมาสัก10ชาติเดินมาเป็นแถวแล้วรอบล้อมพวกปี1ไว้

“มองอะไร!!!!!!!”

“หน้าเชิดหลังตรง!!!!”

“มองไรห๊ะ อยากโดนทำโทษใช่มั้ย!!!!”

“อะไรวะ มากันแค่นี้!!!”

 

แต่ละคน...แม่ง ไม่กลัวคอแตกรึไง?

 

สายตาผมตอนนี้ไม่เห็นอะไรนอกจากคอดำๆของคนข้างหน้าแล้วล่ะครับ อยากมองก็อยากนะ แต่ไม่อยากเด่นวะ-*-

 

“สวัสดี ผมชื่อนายพัฒนพล นามสกุล วรโชติอิงคนันท์ ชื่อเล่นชื่อ พอส จะมาเป็นพี่สอนระเบียบของพวกคุณ”

 

หื้มมมมมมมมมมมมมม? ชื่อคุ้นๆวะ

ผมเหลือบตามองไปยังคนที่กำลังพูดด้านหน้า

 

 

เหยดเข้ ใช่เลย ไอ้เหี้ยพอส

 

มันแต่งตัวถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดตีน ซึ่งแตกต่างจากครั้งก่อนที่ผมเห็นมาก ที่แขนมีอาร์มสีแดงเลือดหมูคาดเขียวสวมอยู่ด้วย ส่วนคนอื่นๆเป็นอาร์มสีแดงเลือดหมูเฉยๆ แต่แม่งหน้าคุ้นๆทั้งนั้นเลยวะ...

 

จะให้ไม่คุ้นได้ไงในเมื่อคราวก่อนผมยังจะเข้าไปขอเงินอยู่เลย ชิบหายละกู...

 

“ก้มหน้าทำไมครับ!!!!”

 

ผมเชิดหน้าทันที...เอ่อพี่ครับ รับสเตร็ปซิลสักแผงมั้ยครับ?

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยครับว่าไอ้เหี้ยพอสมันเป็นพี่ว๊าก (หรือพี่สอนระเบียบ) แถมเป็นเฮดว๊ากซะด้วย...

 

ไอ้พอสมันพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆซึ่งต่างจากพี่คนอื่นๆที่เอาแต่ตะโกนๆ จับประเด็นได้คร่าวๆว่ามันถามประธานเจอร์แต่ละเจอร์ว่าใครมาบ้างไม่มาบ้าง ซึ่งต้องรายงานอย่างละเอียด และต้องไปจำชื่อผู้ก่อตั้งมหาลัย เพลงมหาลัย ความหมายสีคณะ ระเบียบ SOTUS อะไรต่างๆนานาที่มันเกี่ยวข้องกับมหาลัยและคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั้งหมดนั่นแหละครับ ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ในใจตอนนี้นึกภาวนาอย่างเดียวว่าขอให้มันไม่เห็นผมด้วยเถิดดดดดดด

 

แต่ดูเหมือนคำขอจะไม่เป็นผล...

 

“น้องคนนั้นทำไมไม่จดครับ!!!!” ไอ้พี่ว๊ากคนนึงมองมายังผม และนั่น...ทำให้ผมกลายเป็นจุดเด่นโดยที่ไม่ต้องอาศัยความหล่อทันที ทุกสายตาหันมามอง รวมทั้ง ไอ้พอสด้วย...

 

“ลุกขึ้นครับ” มันสั่งผมครับมันสั่งโผมมมมมม คิดว่าผมจะทำตามมั้ย?....ทำสิครับ โธ่ T T

ผมลุกขึ้น สบสายตากับมันอย่างไม่เกรงกลัว

 

“ทำไมไม่จดครับ”ไอ้พอสถามเสียงนิ่ง ทำไมตอนนี้มันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้วะ?

“ผม...ไม่มี..”

“ไม่มีชื่อรึไง!!!!!!” ไอ้พี่ว๊ากข้างๆมันตะโกนใส่ผม

“ผมชื่อนายกรวิชญ์  นามสะ...”

 

“ไม่ได้ยิน!!!”

“เป็นตุ๊ดรึไง!!!!”

“เอาปากมาปะวะ!!!!!!”

 

พี่ว๊ากที่ยืนรอบๆตะโกนใส่ผม แต่ผม...ก็ต้องทน เพราะนี่คือการ ‘ประชุมเชียร์’ พี่สอนระเบียบทุกคนมีสิทธิที่จะสั่งผมยังไงก็ได้

 

“ผมชื่อนาย กรวิชญ์ นามสกุล สิทธิศักดิ์โสภณ ชื่อเล่นชื่อ แกรนด์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล” ผมพูดเสียงดังจนคล้ายกับตะโกน ดูเหมือนประชด

“คุณดึงเนคไทให้สุดด้วยครับ”

ผมปฏิบัติตามที่มันสั่ง

“ที่ผมถามเมื่อสักครู่ จะตอบได้รึยังครับ หรือต้องรอให้ผมไปง้างปากคุณ?”

“ผม...ไม่มีปากกากับกระดาษครับ”

“รุ่นพี่คุณไม่ได้บอกหรือไงว่าต้องเตรียมกระดาษกับปากกามาจดในวันนี้”

 

ผมหันไปมองรอบๆ พบว่าส่วนใหญ่มีกระดาษกับปากกาจดกันทั้งนั้น ความจริงคือผมไม่รู้ว่าต้องเตรียมปากกากับกระดาษมาด้วยเพราะรุ่นพี่เค้าไม่ได้บอกอะไรเลย แต่เมื่อผมหันไปเห็นไอ้แทน เมฆ และอีกหลายคนในเจอร์ก็พบว่าพวกมันมีกระดาษกับปากกามาพร้อม...

 

นี่กลายเป็นว่ากูไม่รู้คนเดียว?

 

เอ๊ะ! ไม่ใช่สิ ไอ้ทัชก็ไม่ได้เตรียมมาเหมือนกันนี่หว่า

 

“ว่าไงครับ...รุ่นพี่คุณไม่ได้บอกรึไง?” ไอ้พอสถามเสียงเข้มขึ้น

 

แต่...ผมก็ยังเลือกที่จะเงียบ ไม่มีคำตอบใดๆออกจากปากผม

 

“เพื่อนผมถาม ก็ตอบสิครับ!!!!”

 

“เอ่อ...บอกครับแต่ผมลืม”

“ลืม? ดี เป็นคำตอบที่ดี .. แล้วสิ่งที่ผมบอกให้จดให้จำคุณจะลืมมั้ย?”

“ไม่ครับ”

“ไหนลองทวนซิ”

 

ชิบหาย...ไอ้เหี้ยพอส...มึง แกล้ง กู มึง ทำ ให้ กู ขาย หน้า !!

 

“ขออนุญาตช่วยเพื่อนครับ/ค่ะ!!!” เพื่อนๆที่นั่งอยู่หลายคนยกมือพร้อมกับตะโกนขอช่วยผม

 

“ไม่ต้อง!!! ผมถามเพื่อนคุณ ไม่ใช่พวกคุณ” อ่าวไอ้เหี้ย ก็เพื่อนจะช่วยกู... “คราวหน้าพวกคุณทั้งหมดต้องจำสิ่งที่ผมให้ไปจำมาทั้งหมดให้ได้และให้คล่อง..รับทราบ!”

“ทราบ!!!!”

“คุณ..นั่งลงได้” มันบอกผม

 .. จะรอช้าอยู่ไยละครับ ก็รีบนั่งสิ

 

จากนั้นมันก็ให้พี่ผู้หญิง (ที่น่ารักและเสียงเพราะมากๆ) มาสอนร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยกับคณะให้พวกผมพอร้องได้

 

“ครั้งหน้าผมหวังว่าพวกคุณจะมามากกว่าวันนี้ ผมขอมากกว่า800คน รับทราบ!!!”

“ทราบ!!!!!”

“คุณสัญญากับผมแล้วนะว่าจะมาให้มากกว่า800คน...ระเบียบเชียร์!!”

พรึ่บ!!!

“เชียร์!!!!”

“ครั้งหน้าหวังว่าจะแต่งกายมาถูกต้องตามระเบียบทุกคน ทราบ!!!”

“ทราบ!!!!”

 

และพี่ว๊ากทุกคนก็เดินเรียงแถว มือไขว้หลัง ค่อยๆทยอยออกไป เมื่อหลังพี่ระเบียบคนสุดท้ายลับสายตา เสียงพูดคุย ถอนหายใจก็ดังราวกับนะกระจอกแตกรัง

 

ผมหันไปเหวี่ยงใส่ไอ้แทนที่นั่งข้างๆทันที

“เชี่ย ทำไมไม่บอกกูวะว่าต้องเตรียมกระดาษกับปากกามาด้วย”

“อ่าวไอ้สัด รุ่นพี่เราบอกก่อนที่จะเข้าประชุมเชียร์เมื่อกี้แล้วไง มึงไม่ฟังเอง มัวแต่คุยกับไอ้ทัชอยู่ได้ สมน้ำหน้า”

“คว-”                    

 

แต่จะโทษใครได้ละครับ ในเมื่อผมไม่ฟังเอง...อ้ออออ สามารถโทษได้อีกคนนึงนอกจากตัวผม ...

 

ไอ้เหี้ยพอส!! มันตั้งใจฉีกหน้าผมท่ามกลางเพื่อนๆ ให้ผมกลายเป็นตัวตลก!

 

 

 

เมื่อเลิกกิจกรรมประชุมเชียร์แล้วพวกพี่ปี2แต่ละเจอร์ก็นำน้องๆแยกย้ายกันไป และดูเหมือนผมจะโดนหมายหัวเป็นพิเศษ

“น้องแกรนด์นี่ไม่ได้ฟังพวกพี่พูดเลยเหรอ ?”

“เอ่อ..ก็ฟังครับ” ใครจะยอมรับว่าไม่ได้ฟังวะ - -*

“งั้นทำไมลืม?”

“ก็ลืมอะ ไอ้ทัชยังลืมเลย” ผมรีบหาพวกทันที

“เออๆชั่งมันๆ และคราวหน้าห้ามลืมเด็ดขาดเข้าใจมั้ย ตั้งใจฟังดีๆ พี่จะบอกเป็นครั้งสุดท้ายนะ ก่อนเข้าประชุมเชียร์สำรวจตัวเองให้เรียบร้อย เนคไทอะดึงให้สุด กระดุมติดให้หมด ถุงเท้าสีดำ รองเท้าห้ามเป็นหัวแหลม กระดาษปากกาติดตัวเสมอ กางเกงห้ามขากระบอกเล็กหรือเดฟ สายรัดข้อมือ สายสิญจน์ นาฬิกาถอดให้หมด กระเป๋าเสื้อต้องกว้างเท่า A4 พับ 2 ที ..”

 

เอ่อ...เคร่งขนาดนั้นเชียว?

 

“เข้าใจนะ ?”                                                               

“เข้าใจครับ” แล้วตอนนี้ผมมีสิทธิตอบว่าไม่เข้าใจด้วยเหรอไงฟะ ช่างแม่ง ไว้คราวหน้าค่อยถาม

พูดเสร็จพี่เค้าเดินไปคุยกับน้องคนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะถามความรู้สึกอะนะ ว่าเป็นไงบ้าง อะไรทำนองนี้ ส่วนตัวผมที่กำลังเคว้งคว้างเหมือนโดนทิ้งก็มีไอ้พี่บ้าที่ไหนไม่รู้ลากตัวผมห่างออกมา

 

ไม่ใช่ใครที่ไหน.. ไอ้พี่รหัสเฮ็งซวยของผมนั่นเอง ..

 

“มึง!!!” พี่วอร์มตะคอกใส่ผม แต่ก็พูดแค่นั้น ท่าทางหัวเสีย เอามือเสยผม หัวคิ้วมุ่นชนเข้าหากัน .. แต่ทำไมในสายตาผมพี่วอร์มดูเท่ห์สุดๆไปเลย เอ๊ยย นี่ไม่ใช่เวลานะ -*- สมองกูเริ่มไปละ

 

“มึงช่วยหยุดหาเรื่องใส่ตัวได้มั้ยวะ กรุณาทำตัวสงบเสงี่ยม ให้เหมือนชาวบ้านเค้าบ้าง คนอื่นจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะมึง” พี่วอร์มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงลง “ขืนมึงยังทำตัวแบบนี้ มันจะไม่ใช่แค่มึงที่ซวย เพื่อนมึง รุ่นพี่มึง ก็จะโดนไปด้วย”

 

“...”

 

“ถือว่ากูขอร้องละ กูอาจจะไม่ใช่พี่รหัสที่ดี แต่กูจะพยายามทำให้ดีที่สุด..เพื่อตัวมึง”

.

.

 

.

 

 

.

คืนนั้นผมนอนไม่หลับ ในหัวคิดแต่เรื่องที่พี่วอร์มพูด

 

มันจะทำอะไรเพื่อผมได้ ?? แล้วแม่งจะพยายามเพื่อผมทำไม??

ไม่เข้าใจสิ่งที่มันพยายามจะสื่อสักนิด

 

หรือบางทีผมอาจจะเข้าใจ...แต่หลอกตัวเองว่าไม่เข้าใจก็ได้                      

 

 

 

 

RRRRRRRRRRRRRRR

 

เสียงเรียกเข้าจากไอโฟนผมดังขึ้น (เสียงเบสิคๆเนี่ยละ ผมไม่ชอบใช้เพลงเป็นเสียงเรียกเข้า ผมว่ามันเสี่ยวแดก-*-) มองชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ

 

THANK YOU

 

ไอ้แต๊ง..

 

“เออว่าไง”

/สาดดดดดดดดดดแกนนนนนน หายหัวไปเลยนะมึง/ แหมคำนำหน้าชื่อกูไพเราะเพราะพริ้งเชียว

“กูยุ่งๆวะ มึงก็เหมือนกันแหละไอ้ห่า”

/แล้วตอนนี้ยุ่งอยู่ปะวะ?/

“ไม่ กูกำลังจะนอน”

/เด็กอนามัย แหมมมม เบบี๋ออกมาหาปะป๋าเร็ววว เดี๋ยวปะป๋ากับซ้อบิ๊กพาไปเที่ยว ชมแสงสียามค่ำคืน ปะป๋ารออยู่ที่ร้านเดิมนะแจ๊ะ อ้อ! ฝากลากอาแป๊ะทัชมาด้วยนะ ส่วนอาเฮียเต็งหนึ่งมามิได้เนื่องจากพรุ่งนี้เฮียเค้ามีควิซกับเทสย่อยเทสโต้อารายม่ายรู้วววววว  ให้เวลาครึ่งชม.นะฮ้า ไม่งั้นหญิงหมดอดสีไม่รู้ตัว จุบุจุบุ/

ร่ายยาวเสร็จลูกเดียวแล้วมันก็วางสายไป...

ใครก็ได้พาไอ้แต๊งไปเช็คสมองที ให้ตายสิ นี่ผมมีเพื่อนปัญญาอ่อนแบบนี้แถมทนคบมาตั้งหลายปีได้ไงวะ?

แม่งโทรมาชวนแต่ไม่รอคำตอบจากกู .. คิดเหรอว่ากูจะไป ... เออ ไอ้แต๊งคิดถูก กร๊ากกกกกกก

 

 

ผมรีบแต่งหล่อ เรียกแท็กซี่ไปยังคอนโดไอ้ทัชทันที ระหว่างทางก็โทรบอกมัน ให้มันเตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อถึงคอนโด มันก็บอกว่าแต่งตัวเสร็จแล้วให้ไปรอที่รถแอคคอร์ดคู่ใจมันได้เลย และขับไม่ถึง20นาทีก็ถึงที่หมาย

 

ร้านนี้เป็นร้านที่พวกผมชอบมา เป็นร้านนั่งชิลดนตรีสด แต่ก็กึ่งผับนิดหน่อย ผมมองเห็นไอ้บิ๊กนั่งอยู่โต๊ะประจำอยู่ไกลๆ เลยรีบเดินจ้ำไปหาพวกมันทันที

“ออกจากรังแล้วเหรอจ๊ะ” ไอแต๊งเห็นผมก็แซวทันที     

“เออ กูจะบินมาจิกหัวพวกมึงเนี่ย”

“โอ๋ๆ ล้อเล่นนิดเดียวอย่างโกรธสิฮ้า .. เอ๊ะ! แล้วนั่น พ่อหนุ่มรูปหล่อมาดเซอร์คนนั้นคือใครกัน...” ไอ้แต๊งมันทำเป็นสะดีดสะดิ้งเมื่อเห็นไอ้ทัชเดินตามมา .. แสดงเหมือนมากนะมึง ฮ่าๆ

“ขอเบอร์ได้มั้ยค่ะสุดหล่อ” ไอ้แต๊งยังไม่เลิกครับ ... แต่ท่าทางผมจะปวดหัวกับมันคนเดียวไม่พอเพราะไอ้ทัชมันก็เล่นด้วยเนี่ยสิ

“089876xxxx มีรถแต่ไม่มีพันธะ คว-โต คอนโดMNO เลขห้อง 1503 ชั้น 15 ว่างหลัง4ทุ่มครับ” ไอ้ทัชส่งสายตาแพรวพราวมาให้ไอ้แต๊ง

“ต๊ายยยยย! ฟูลออฟชั่นแบบนี้เดี๊ยนหลงหัวปักหัวปำเลยคร๊า”

ป๊าบ!

ฝ่ามือเบาๆจากไอ้บิ๊กครับ

“เลิกเล่นได้ละ กูจะอ้วกเพราะมึงไม่ใช่เพราะเมาแล้วสัด”

“แหม ท่านพี่บิ๊ก..หึงก็บอกมาตรงๆก็ได้นะคร๊า คิกคิก”

“ยัง ยังไม่เลิก...” บิ๊กมันทำท่าจะตบหัวคนขี้เล่นอีกรอบ เท่านั้นแหละ นายแต๊งกิ้วจึงสงบเสงี่ยมลงได้

ส่วนผมก็ทำการชงเหล้าให้ไอ้ทัชและหันมาจัดการกับของตัวเอง

“เป็นไงบ้างวะ” หนุ่มมาดเซอร์เปิดประเด็น มองไปยังคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทีละคน

“สบายดี ไม่มีโรค ปลอดสารพิษ ลิมิตเกินร้อยยยยยยยยยยยยยย .. เอ้า ... ชนนนนนนนนนนนนนน” ไอ้แต๊งมันชูแก้วนำ ผม ไอ้ทัช ไอ้บิ๊ก มองหน้ากันแบบงงๆ แต่ก็...

 

แกร๊งงงงงง!

 

และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำว่า ‘เพื่อน’ แม้จะเสียดายที่ว่าที่สัตวแพทย์จะมาไม่ได้ก็ตาม แต่ผมรู้ว่าถ้าพรุ่งนี้มันไม่ติดสอบจริงๆมันก็คงมาอยู่ร่วมโต๊ะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

 

 

 

 

“เสียงเพลงมา นารีเริงร่า มากหน้าหลายตา พาหัวใจสุขีดีเอยยยยยยย เอิ๊กกกก” ไม่ต้องเดา...รั่วๆแบบนี้มีคนเดียว อ้ายขอบคุณ .. เอ๊ะ ทำหน้างง ก็อ้ายแต๊งกิ้วงายยยยยย ฮ่าๆ มานกำลังรำวง มีสาวๆรำตามมานเต็มเลยยยย

 

หืม ทำมายยยยย มองผมแบบน้านละ ?? .. ผมหล่อละเซ่ ..

 

“แม่งงงงงงงงงงง กูจะเตะมันให้หน้าหงาย บังอาจมาทำร้ายลูกสุดที่รักกู ฮรือออออ” .. หื้มมม คนนี้เหรอ? ก้อออ อ้ายยยใหญ่งายยยยย เวลามานมาววววนะ มานชอบบบบ พร่ำเพ้อเวิ่นเว้อถึงศัตรูมานที่ชอบลอบกัด ขูดสีรถมอไซDucatiสุดจะแสนแพ๊งงงงงแพงงงง ไม่รู้ว่าอ้ายบิ๊กมานโง่วววว หรือมานนนนโง่มากกันแน่ถึงซื้อมาโชว์ให้ศัตรูมานขูดเล่นนนน เอิ๊กกกกก

 

อะรายยย มองโผมมม อีกล้าวว ... อย่ามองงงงงดิ ผมเขิลลลลลลล

 

“หึหึ” อ้ายหนุ่มท้องทุ่งม่ายยยมีปัญญาจ่ายยยค่าตัดผม มานมองผมแล้วหัวเราะอ้ะ!

“มองกูทามมาย .. กูรู้ว่ากูหล่อ ไม่ต้องชม กูได้ยินจนเบื่อล้าววววว”

“มึงเมาละสัดแกน”

“กูม่ายมาววววววววววว เอิ๊กก”

“ไอ้เหี้ยกูก็ว่าไปทำไมเหล้าหมดไว เพราะมึงนี่เองไอ้แกน แม่งเสือกเทเหล้าใส่แก้วผสมน้ำแข็ง ไม่มีโซดา แป๊ปซี่ มิกซ์เมิกอะไรเลย สาดดดดดดด เปลืองค่าเหล้านะโว้ยยยยยยยย” ไอ้ทัชมานยึดน้องเรดผมไปอะๆๆๆๆๆๆๆๆ  “มึงเป็นไรวะดูแปลกๆ ปกติมึงต้องปฏิบัติภารกิจ ‘ล่าท้าพรหมจรรย์สุดขอบโลก’ แล้วดิวะ แต่นี่กลับนั่งโต๊ะแล้วแดกเอาๆ”

“กูม่ายรู้วววววว...กูม่ายเข้าจายไอ้เหี้ยยยพี่วอร์มเลยยยยยย แม่งงงงงง” ว่าแล้วก็กระดกอีกซักแล้ว “พยายามทำเพื่อกู มานทำอารายเพื่อกูวววววว แม่งก็ได้แต่เสียงโหดใส่กูแหละว้า อึก อ้ายเหี้ยพอสก้อเหมือนกานนนนนน แม่งทำกูขายหน้า3รอบแล้วนะสาดดดดดด สักวันกูต้องแก้แค้นมันให้จงได้!! เอิ๊กกกกกก”

 

(เอ่อ...ทางผู้เขียนขอตัดภาพมาให้นายทัชเล่าก็แล้วกันนะค่ะ เนื่องจาก...ไอ้แกนตอนนี้มันไม่ไหวจะเคลีย อ่อนเพลียจะเซดแล้วค่ะ -*-)

 

ด้านทัชที่ได้แต่ปลงตกเพื่อนทั้ง3ที่เมาเละเทะ ต้องคอยเก็บโน่นนี่จัดการให้พวกมันตลอด ทั้งๆที่ตัวเองก็อยากจะแดกเหล้าให้เมาหัวราน้ำเหมือนพวกนี้เช่นกัน แต่ถ้าเขาเมาอีกคน..แล้วใครจะดูแลเจ้าพวกนี้ล่ะ? เห้อออ นี่ถ้าเต็งหนึ่งมาด้วยเขาก็คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้

 

และนี่มันก็ได้เวลาปิดร้านแล้ว ทัชเคลียบิล ให้เด็กมายกร่างเพื่อน3ตัวเข้าไปในรถก่อนจะให้ทิปและตัดสินใจให้พวกมันค้างที่คอนโดเขาเนี้ยละ ขืนไปส่งพวกมันแต่ละตัวได้เจอด่านแน่นอน

 

กว่าจะจัดการลอกคราบ จัดแจงที่นอนให้พวกมันเสร็จก็ปาไปตี4เศษๆแล้ว.. ก็ดูแต่ละตัวดิ ไอ้ปัญญาอ่อนแม่งก็ปัญญาอ่อนไม่เลิก

 

“รำวงรำวงด๊าวด๋าว ด๊าวด๋าวด๊าวด๋าวรำวง มาสิมาเถิด มาสิมารำ ขอให้เต้นฟ้อนรำเพื่อสามัคคีเอยยยยย” ขนาดมันหลับตาแต่แขนมันยังตั้งวงอยู่ -*- เอากะมันสิ

 

“กูจะเอามีดแทงแล้วทะลวงควักไส้มันออกมาให้หมดเลยแม่งงงงง ลูกรักกูต้องมีมลทินเพราะพวกมึงงงงงง” อื้อหือ...ไอ้คำว่าพวกมึงนี่ตะโกนใส่หน้ากูเต็มๆเลยนะครับไอ้ใหญ่

 

 

เสร็จไป 2 ... ทัชยืนปาดเหงื่อ แต่ไอ้ตัวสุดท้ายเนี่ยละที่เขาหนักใจสุด

 

“กูจะแก้แค้นไอ้เหี้ยพอสสสสสสสสสสสสสสสส กูจะต่อยมานนนนนน ไอ้พี่ราหัสเสียงโหดนั่นก็ด้วยเหมือนกานนนนนน กูจะเตะๆๆๆๆๆ อัดมันให้เละไปเล้ยยยย... ทำไมต้องมาทำอะไรเพื่อกูด้วยยยย กูม่ายต้องการรรรร ฮึก กูม่ายเข้าจายมานเลยยย ไอ้พี่วอร์มเฮ็งซวยยยยยยยย” ไอ้แกนมันยังคงโหวกเหวกโวยวายเรื่องพี่พอสกับพี่วอร์มต่อไป แต่ทัชก็พยายามที่จะรวบหัวรวบหาง เอ๊ย! ไม่ใช่ รวบมือรวบเท้าเตรียมแส้ลนเทียน เอ๊ย! ไม่ใช่ๆๆ เอาใหม่นะ หนึ่ง สอง ซั่ม.. แต่ทัชก็พยายามที่จะจับข้อมือกับเท้าของแกรนด์ที่ตอนนี้ต่อยตีเตะ สะเปะสะปะไปทั่วให้อยู่นิ่งๆ จะได้ลากมันไปวางบนเตียงสะดวกๆ แต่ดูท่า...เจ้าตัวจะไม่ให้ความร่วมมือเล้ยยยยยย

 

นี่ถ้าหากใครจะคิดมอมเหล้ามันแล้วปล้ำมันละก็...คิดผิดถนัดเลยละ แต่ก็นะ...ตัวขาวๆบางๆแบบนี้...

 

ไม่เอาๆ ไม่คิดสิวะทัช...เขาเตือนตัวเอง สะบัดหัวไล่ความคิดชั่วๆออกไป และหันไปจัดท่าทางเพื่อนคนนี้ให้นอนสบายๆ

เขาหันไปมองนอกห้อง ที่มีบิ๊กกับแต๊งนอนอยู่บนพื้นห้องรับแขก และหันมามองคนที่หลับอยู่บนเตียง ต่างหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว .. เออ .. กว่าแม่งจะสงบกันได้

 

“ไอ้เหี้ยพอส .. ไอ้พี่วอร์มเฮ็งซวย” คนที่อยู่บนเตียงพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ออกอาการอยากจะเตะต่อยแบบเมื่อสักครู่แล้ว

 

ทัชเดินไปนั่งลงบนเตียง จ้องมองร่างที่ไม่ได้สติ

 

“เห้อ...ถ้าไม่มีพี่วอร์มป่านนี้มึงคงโดนยำตีนเละไปแล้ว...ไม่ได้อยู่ปากหมาใส่คนอื่นแบบนี้หรอกนะไอ้แกน...”

 

.

.

 

.

 

 

.

“ระเบียบเชียร์!”

พรึ่บ!!

“เชียร์!!!!”

 

“สปิริต!”

พรึ่บ!!

 

ทันทีที่เฮดว๊ากหรือไอ้เหี้ยพอสสั่ง ปี1ทุกคนก็ยกมือขวาขึ้นทันที ขนาดผมที่เป็นหนึ่งในคนที่ยกด้วยยังรู้เลยว่ามันพร้อมเพรียงขนาดไหน..

 

“ยกยังไง!! ยกให้มันถูกต้องหน่อย”

“นิ้วชิดสิครับ!!!!”

“ยิ้มอะไร!!!”

“แขนติดหูไม่ใช่หูติดแขน!!!”

 

ใช่แล้วครับ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในกิจกรรมประชุมเชียร์...ซึ่งลานกว้างเป็นที่ประจำสำหรับการว๊ากของคณะวิศวกรรมศาสตร์ไปแล้ว ตามผนังจะมีป้ายผ้าหรือคัทเอ้าวางไว้เต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะเขียนข้อความทำนองว่าจะไม่มีรุ่นผม รุ่นผมไม่มีความเคารพ ไม่มีความสามัคคี

 

‘E80 E81 E82 E83 E85’

‘SOTUSคืออะไร ไม่รู้จัก น้องคนหนึ่งกล่าว’

 

“คุณ ลุกขึ้นครับ” พี่ว๊ากที่ยืนด้านข้างสุ่มเลือกใครไม่รู้ขึ้นมา

“วันนี้มากันกี่คนครับ?” ไอ้พอสเป็นคนถาม

 

โหยแม่งงง ถามงี้ใครจะไปตอบได้วะ

 

คนที่ถูกเลือก (?) ได้แต่ยืนนิ่งงัน

 

“คราวที่แล้ว พวกคุณสัญญากับผมไว้ว่ายังไง? เพื่อนผมนับจำนวนคนที่มาแล้วไม่ถึง800..นี่น่ะเหรอสัญญา?” ไอ้พอสใช้สายตาของมันกวาดไปทั่วบริเวณ แม้มันจะดูดุ น่ากลัว แต่ผมก็แอบเห็นว่ามีสาวๆบางคนถึงกับเคลิ้ม หมั่นไส้วุ้ย!                

 

“ไม่มีหรอกมั้งรุ่น E84 เนี่ย”

“สัญญาไม่เป็นสัญญา”

“ลมปาก”

 

กดดันเหี้ยๆ...

“ปี1ทั้งหมด ลุก!!!”

พรึ่บ!!

 

“ปัดอะไร!!”

“ปัดทำไม!!! รังเกียจดินที่นี่เหรอ!!!”

 

“ปี1ลุกนั่ง50ครั้ง ปฏิบัติ!”

 

ปี1แต่ละคนถึงกับงง มองหน้ากันเหลอหลา

 

“100 ... 300 .. 500 ครั้ง หรือจะเอาเท่ารุ่นพวกคุณคูณ10ดี? .. ใครรู้ตัวว่าไม่ไหว เชิญครับ” ไอ้พอสผายมือไปทางเต๊นท์พยาบาล มีบางคนลุกออกไป “ปี1 ลุกนั่ง100ครั้ง ปฏิบัติ!!”

 

“1 2 3 4 5 6 7 8 9 ... ”

 

“พอ พอ พอ!!! ... นี่พวกคุณไม่มีความสามัคคี UNITYกันเลย ไอ้ที่ผมให้ไปท่องน่ะ ได้จำมาบ้างรึเปล่า? มันได้แทรกซึมเข้าสู่สมองพวกคุณบ้างมั้ย???”

 

ตอนนี้...ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่าผมต้องมีพวก...พวกอะไรน่ะเหรอ?...ก็พวกเกลียดไอ้พอสไง หึหึ แม่งวางอำนาจมากอะ

 

“ปี1นั่ง!!”

ทุกคนรีบทิ้งตัวลงทันทีและอยู่ในท่าเชียร์พร้อม

“ขอสปิริต1คนครับ”

และทุกคนก็ยังพร้อมใจยกมือขึ้นเหมือนเดิม

 

“คุณ ลุกครับ”

 

ฟู่ววว...ไม่ใช่ผมครับ ผมยังรอดสายตาไอ้พอสอยู่ (แน่ใจ๊?)

 

“ร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยกับเพลงคณะให้ผมฟังหน่อย ทวนอีกรอบก่อนที่พี่เค้าจะมาสอน”

แล้วไอ้คนถูกเรียกก็ร้องครับ ร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยก่อน...มันไม่ได้แย่อะไรมากมายแต่...

 

“พอ พอ!!”

“ห่วยแตก!!!”

“ร้องหรือท่องวะ!!!”

 

“คุณ..ที่อยู่ตรงกับผม คนที่9 ลุกครับ”

นั่นก็คือ...ผมเอง                                

 

อีกแล้วเหรอวะ? แม่งงงงง จะจองล้างจองผลาญอะไรกูนักหนา กูไปทำอะไรให้มึงเหรอไง (ก็ไปชกหน้าเค้าไงไอ้แกนเอ๊ยย)

“ร้องเพลงคณะ” มันสั่ง

 

ชิบหาย....

คือผมอายเสียงตัวเองอะและอีกอย่าง...จำเนื้อร้องไม่ได้ด้วย

 

“เพื่อนผมบอกให้ร้องก็ร้องสิครับ!”

“ยืนนิ่งทำไมล่ะครับ? ให้เกียรติเพื่อนผมด้วย!!”

“อะไรกัน เพลงคณะ แต่ร้องไม่เป็น?!!”

 

ทุกสายตามองมาที่ผม ... เหมือนผมเป็นคนผิด

 

“ใครยังร้องเพลงไม่เป็น ยกมือ” ไอ้เหี้ยพอสมันละสายตาไปจากผม กวาดมองไปทั่วบริเวณ ปรากฏว่ามีไม่ถึง10คนที่ยก “เพื่อนผมคงไม่มีค่าพอที่พวกคุณจะสนใจเรียนใช่มั้ย? .. . พวกคุณที่ร้องเพลงไม่เป็นทั้งหมดออกมาข้างหน้า”

 

ผมเดินออกไปข้างหน้า

แต่มันก็ไม่ได้สนใจพวกผมเท่าไหร่นัก

 

“เพื่อนผมจะมาสอนคุณร้องเพลงต่อ” มันบอกกับคนอื่นๆที่ร้องเป็นแล้ว “ส่วนคนที่ยังร้องไม่ได้...” มันปรายตามายังผมซึ่งผมก็มองมันกลับอย่างไม่ลดละ

 

มองไอ้เหี้ยพอสแบบไม่มีเกรง

รุ่นพี่เหี้ยไร..กูไม่เคารพ...

 

“คนที่ยังร้องไม่ได้ให้ลุกนั่งจนกว่าเพื่อนผมจะสอนร้องเพลงจบ ปฏิบัติ!!”

 

เลว!!!!...จะเอาคืนผมก็ทำผมคนเดียวสิวะ...

ทำไมต้องให้เพื่อนคนอื่นต้องเดือดร้อนด้วย สัด!!!!!!

 

ผมมองมันอย่างเคียดแค้น และถ้ามองไม่ผิด...ไอเหี้ยพอสมันยกมุมปากนิดๆราวกับเยอะเย้ย...

ผมทำตามที่มันสั่งไปเรื่อยๆ ไม่ได้นับว่าทำไปกี่ครั้ง รู้แต่ว่าตอนนี้เมื่อยมาก ปวดไปหมด แทบจะลุกไม่ขึ้นแล้ว คนที่ร้องเพลงไม่เป็นและโดนทำโทษเหมือนผมขอไปพักเพราะไม่ไหวแล้ว 3 คน

 

“ใครไม่ไหวก็พอแล้วออกไปซะ!!!!”

“ที่นี่ไม่ต้องการคนอ่อนแอ!!!”

 

ไอ้พวกเพื่อนมันรุมตะโกนใส่พวกผมที่ยังสู้...ยังลุกนั่งกันต่อไป

เพื่อนปี1ที่กำลังฝึกร้องเพลงนั้นมองมาทางพวกผมด้วยสายตาที่หลากหลาย ... ดูถูก ... สงสาร ... สมเพช..เห็นใจ

 

“ขออนุญาตช่วยเพื่อนครับ!” ไอ้ทัชยกมือตะโกนเสียงดัง มันไม่สนว่าใครจะอนุญาตหรือไม่เพราะตอนนี้มันวิ่งมาต่อแถว ถัดจากผมแล้วเริ่มปฏิบัติลุกนั่งทันที

 

อาจเพราะมีคนเริ่ม มีคนกล้าที่จะช่วย หลายๆคนเลยขออนุญาตช่วยพวกผมตามกันมา จนกลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งลานมีแต่เด็กปี1กำลัง ลุกนั่ง อย่างพร้อมเพรียง

 

“อะไร!! พวกคุณทำอะไร!!”

“ความผิดพวกคุณหรือไง!!!!”

“ที่นี่ไม่ต้องการฮีโร่!!!!”

 

ไม่ใช่แค่ปี1เท่านั้น...ปี2ที่ยืนดูรอบนอกก็กระโจนเข้ามาร่วมด้วย ผมเห็นพี่วอร์มกับพี่รอยวิ่งเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ แต่ก็หาไม่เจอแล้วว่าพวกพี่เค้าอยู่ตรงไหนกัน

 

พวกพี่ว๊ากคอยตะโกนด่า บอกให้พอ บอกให้หยุด แต่กลับไม่มีใครหยุดเลย ซ้ำยังร้องเพลงคณะไปด้วย

 

“ไอ้โง่ มึงจะมาช่วยกูทำไม” ผมหันไปกระซิบบอกไอ้คนที่มาช่วยคนแรก

“ก็มึงคือ ‘เพื่อน’ กูไง .. มึงเห็นมั้ย...ในที่นี้ทุกคนเป็น ‘เพื่อน’ เป็น ‘พี่’ มึง”

 

ปี1ทุกคนยังคงลุกนั่งและร้องเพลงคณะไปพร้อมๆกัน ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

 

“ผมบอกให้พอ!!!!!!!!!!” ไอ้พอสตะโกนเสียงดังกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา ในมือมันมีนกหวีด “จัดแถวให้เรียบร้อย ปี1ขวามือผม ปี2 ซ้ายมือผม” ความโกลาหลเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ไม่ถึง5นาที ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเรียบร้อย

 

“อยากได้มากใช่มั้ยน้องคุณน่ะ?...คุณอยากได้น้อง แต่คนที่คุณอยากให้เป็นน้องเค้าอยากรับคุณเป็นพี่รึเปล่า?” ไอ้เหี้ยพอสมันหันไปถามปี2

 

“อยากได้น้องครับ/ค่ะ!!”

 

“อยากได้น้อง? แต่สอนน้องไม่เป็น ไม่มีความเคารพ ไม่มีความสามัคคี ดีแต่ทำเรื่องชั่วๆ”

ผมสะดุ้งโหยง...เห้ย หวังว่าแม่งคงไม่ได้เหน็บกูนะ

 

“สงสัยผมต้องขอรุ่นคืน...E83 จะไม่มีเหมือนE84 ...” ไอ้พอสยังพูดไม่จบ ผมก็ได้รับข้อความต่อๆกันมาว่าให้ยืนล้อมรอบพี่ปี2แล้วทำการบูมคณะไปเรื่อยๆ ผู้หญิงบางคนร้องไห้ด้วย

 

ใช่แล้วครับ...มันเป็นอย่างหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความเคารพในตัวรุ่นพี่

 

เสียงบูมยังคงดังต่อไปเรื่อยๆไม่มีพัก ซ้ำเสียงยังดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นพี่ว๊ากสั่งให้พี่ปี2นอนลงวิดพื้น                                      

 

 

 

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

 

“หยุด!!!!!! ปี2หันหน้าเข้าปี1 จัดแถวให้เรียบร้อยภายใน5นาที!!”

 

ผมหาพี่รหัสตัวเอง ไม่นานก็เจอ...เพราะพี่เค้าอยู่ตรงหน้าผมนี่เอง...

 

“ปี1ทุกคนพูดตามผม!..ข้าพเจ้านายพัฒนพล วรโชติอิงคนันท์..”

“ข้าพเจ้า#$*(^%#*%+*^|#(#^^”                

 

“จะประพฤติดี $)*^*|$+^+^($|($^|(^)*_|_E(%$*_#&$_@#&$)#*%$(|^^($_|(^+_(...ให้สมกับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์รุ่นที่84!!”

 

“จะประพฤติดี $)*^*|$+^+^($|($^|(^)*_|_E(%$*_#&$_@#&$)#*%$(|^^($_|(^+_(...ให้สมกับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์รุ่นที่84!!”

 

“เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงตะโกนดีใจลั่นไปทั่ว บางคนน้ำตาไหล กอดพี่ตัวเอง

 

ขณะที่ผมยิ้มไปกับเพื่อนๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนมองอยู่...แต่ใครก็ไม่รู้ อาจจะเป็นสาวๆที่เล็งเห็นในความหล่อของผมก็ได้ หุหุ

 

“ดีใจเพลินเลยนะมึง ทำเพื่อนซวยแต่เพื่อนก็ยังรัก แม่งงง คนไรวะ?” เสียงโหดฉบับพี่วอร์มดังขึ้นข้างหูผม “อ่ะนี่...เก็บรักษามันไว้ให้ดีละๆ E84” พี่วอร์มยื่นจี้เกียร์ที่บรรจุอย่างดีมาให้ผม

“ขอบคุณครับพี่”

 

ตอนนี้ผมเป็นรุ่นน้องพวกพี่ๆและเป็นE84อย่างเต็มภาคภูมิแล้วครับ

 

“น้องยังไม่ใช่E84ของพวกพี่”

อ่าวไอ้สัด ขัดกูเฉยเลย

“สิ่งที่จะพิสูจน์ตัวน้องว่าน้องเป็นE84คือวันเสาร์ที่5นี้ครับ จะมีกิจกรรมที่ชื่อว่าGEAR Day & GEAR Night” แล้วไอ้พอสก็ร่ายรายละเอียดเกี่ยวกับงาน..แม้จะยังทำมาดหล่อขรึม มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสัมผัสได้ก็คือ..น้ำเสียงอ่อนลงและไม่กดดัน

 

หลังจากที่ปล่อยหลังบอกรายละเอียดเสร็จ ผมก็เดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆพี่ๆ ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม

 

“เห้ย พวกเราไปเอาคืนพวกพี่ว๊ากกันมั่งมะ?” ใครไม่รู้พูดขึ้นมา..ก็ผมยังจำชื่อไม่ได้อ่า แหะๆ

“ได้เหรอวะ ?”

“ได้ดิ มึงดูโน่นนนนนน” พวกผมหันไปมองตามที่มันชี้ ก็พบว่าพวกพี่ว๊ากรวมถึงไอ้เหี้ยพอสกำลังโดนแกล้ง แต่ที่หนักสุดก็คงเป็นไอเหี้ยพอสละมั้ง

 

มันโดนถอดเนคไท เสื้อ รองเท้า แล้วถูกหิ้วปีกไปไหนไม่รู้ กลับมาก็มีสภาพเปียก เนื้อตัวมอมแมม แต่ก็ยังสามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้ .. ไอ้คนทำเหรอครับ? ก็พวกผู้ชายปี1ที่หมั่นไส้มันนั่นแหละ มีการประมูลของของมันด้วยนะ เรียกเสียงฮาได้ดีทีเดียว ผมก็อยากจะเข้าไปร่วมวงแกล้งมันด้วยนะ แต่...

 

นี่มันแค่แกล้งกันเล่นๆเอาคืนเบาๆ ผมต้องหนักกว่านั้น!

 

 

 

 

 

 Talk

รับน้องโหดๆ อิอิ ใครโดนแบบนี้บ้างเอ่ย?

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา