i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ
9.2
เขียนโดย Pierre
วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.
49 chapter
69 วิจารณ์
260.02K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
34) 28 - Mournful
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฝากโหวตโพลเรื่องหนังสือรวมเล่มด้วยนะค้า
http://my.dek-d.com/peter_p/poll/view.php?id=140157
28 - Mournful
พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเดี๋ยวพอออกไปแล้วจะเจอกับเค้กก้อนใหญ่ ไม่ก็อะไรสักอย่างที่มันเอามาเซอไพรซ์ คำพูดที่บอกว่าเป็นวันธรรมดาๆคงแค่เป็นส่วนหนึ่งในแผนการเท่านั้น
แต่...
ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลยสักนิด
อาการมึนในหัวกับจะอ้วกหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้เข้า
“เอ่อ...วันนี้วันเกิดมึงจริงๆเหรอวะ?” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นคล้ายไม่กล้าถามดังขึ้นทันทีที่ผมออกมาจากห้องน้ำ ปรายตามองมันเล็กน้อย เดินตรงไปยังระเบียงเพื่อตากผ้าเช็ดตัว พอกลับเข้ามาคนที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนักก็ถามย้ำ “แกรนด์...ตอบกูหน่อยเถอะ”
น้ำเสียงวิงวอนทำเอาผมปวดใจ
ไอ้เหี้ยพอสไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดผมจริงๆ
“ใช่ วันที่8เดือน8 วันเกิดกู รู้แล้วก็จำใส่สมองไว้ซะ อ้อ...หรือไม่ต้องก็ได้นะ ว่าจะเวียนมาครบอีกครั้ง ถึงตอนนั้น...มึงก็คงไม่อยู่กับกูแล้วล่ะ” ผมพูดอย่างไม่ยี่หระ แม้ในใจจะต้องเจ็บปวดกับคำพูดตัวเองมากสักแค่ไหน
“พูดงี้หมายความว่าไง”
ความเงียบคือคำตอบ
ผมนั่งอยู่หน้าพัดลมเพื่อเป่าให้ผมแห้ง ในหัวความคิดมันตีรวนกันไปหมด จะไปโทษมันก็ไม่ได้...เพราะผมไม่เคยบอกมันเลยว่าวันเกิดผมวันที่เท่าไหร่...และมันก็ไม่เคยบอกผมเช่นกันว่าตัวมันเองเกิดวันที่เท่าไหร่
อันที่จริง...เราแทบไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันด้วยซ้ำ
รู้แค่ว่าบ้านมันรวย เรียนปี3 ภาคเดียวกับผม มีคอนโดมีรถยุโรปหรู ป็อปในหมู่สาวๆ แต่อะไรดลใจให้มันมารักผมก็ไม่รู้ ส่วนตัวมัน ข้อจำกัดของผมคือ แกรนด์ ปี1 ปากหมา อยู่หอ ไม่รวยไม่จน แค่นั้น
ไหนจะเรื่องคนชื่อ ‘หมอน’ ที่มันไม่เคยปริปากพูดชื่อนี้ให้ผมได้ยินสักครั้ง ชื่อสาวๆที่พรั่งพรูออกมาจากได้รูปนั่นก็มีมากมาย แต่ผมว่าผมไม่พลาดชื่อนี้อย่างแน่นอน
ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ศึกษากันมา และถ้าให้ผมเดา หลานรหัสอย่างไอ้แทนก็คงไม่รู้เรื่องราวของผมอะไรไปมากกว่าที่ตัวมันเองก็รู้เช่นกัน
ไม่มีหลักประกันอะไรสักอย่างว่าคงอย่างมันจะต้องมาจมปลักอยู่กับผมตลอดไป
นามสกุลยาวเหยียด คงไม่พ้นเป็นลูกหลานคนดัง ไฮโซ แล้วมีเหรอที่พ่อแม่ของมันจะยอมให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคบกับผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยแบบผม
ผมรักมัน นั่นคือความรู้สึกจริงๆที่เป็นเพียงแค่นามธรรม ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร เป็นตัวของตัวเอง เข้าใจตัวตนของอีกฝ่าย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว...
แต่นั่น มันเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“อย่าพูดแบบนี้! อย่าพูดอะไรที่เหมือนกับว่ามึงจะหายไปจากกูไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
ไม่ใช่...
“มึงนั่นแหละที่จะไปจากกู”
“ไม่มีทาง!” เสียงเข้มสวนกลับขึ้นมาทันที ซ้ำยังจ้องหน้าผมแบบไม่ลดละ
“เหอะๆ มึงอย่ามั่นใจนักเลย อนาคต...มันไม่แน่นอน” ผมพูดแบบปลงตก...ทั้งปลอบมันและปลอบตัวเอง
“แต่กูจะทำให้มันแน่นอน!”
“ยังไงล่ะ?”
พอเจอคำถามนี้สวนกลับ ใบหน้าหล่อถึงกับสะอึก
“ถามจริง มึงรู้อะไรเกี่ยวกับตัวกูบ้างวะ?” ผมมองหน้ามันตรงๆ “นอกจากชื่อ หน้าตา นิสัย....” คนถูกถามเงียบ ไม่มีเสียงตอบ “แค่วันเกิดมึงยังไม่รู้เลย...”
มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นรายละเอียดใหญ่สำคัญที่ต้องรู้ของคนที่เป็น รักกัน ไม่ได้คิดอยากจะทำตัวงี่เง่า เรียกร้องหาของขวัญวันเกิด ต้องนับวันครบรอบทุกๆเดือน เพียงแต่มันก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายใส่ใจเราหรือไม่
“ช่างมันเหอะ กูเองก็ไม่เคยบอกมึงนี่หว่า นอนๆๆๆ”
ผมตัดปัญหาทั้งหมด ไม่อยากให้บรรยากาศมันตึงเครียดไปกว่านี้ เพราะดูแล้วไอ้เหี้ยพอสมันก็สำนึกอยู่ ส่วนเรื่องผู้หญิงที่ชื่อหมอนก็ปล่อยไปก่อนแล้วกัน วันนี้ผมเหนื่อย เหนื่อยเกินที่จะรับรู้อะไรหนักๆใส่สมองอีก ไว้โอกาสเหมาะๆ รอให้มันพร้อมที่จะเล่าออกมาเองดีกว่า ผมเดินไปปิดไฟและเดินกลับมาที่เตียงโดยไม่ชนอะไร เพราะอยู่ทุกวันจนคุ้นกับทางเดินในห้องแคบๆนี่แล้ว
ผมล้มตัวลงนอน แต่คนข้างๆก็ยังนั่งนิ่งราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ขอโทษ...ที่ไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย กูเป็นคนที่แย่จริงๆวะ ไม่รู้แม้กระทั่งวันเกิดของแฟนตัวเอง” มันโทษตัวเอง ผมจ้องไปที่แผ่นหลังกว้างที่สั่นไหวเล็กน้อย
“เฮ้ย ช่างมัน...นอนๆๆๆๆ” ผมเอื้อมมือดึงตัวมันลงมานอน ซึ่งมันก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ล้มตัวนอนอย่างว่าง่าย
“ไม่โกรธกูนะ”
เฮ้อออออ คนตัวโตอย่างมันทำเสียงง้อแบบนี้มันไม่ค่อยจะเข้าสักเท่าไหร่เลยแหะ
“โกรธ”
มันเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาใหม่
“งั้นต้องทำยังไงแกรนด์ถึงจะหายโกรธครับ?”
เอาอีกแล้ว...มันมาอีกแล้ว...ไอ้คำพูดเพราะๆหวานๆแบบนี้...
ไม่ชอบเลยโว๊ยยยยยยยย!!
ผมลุกขึ้นนั่ง ตัดสินใจแล้วว่ายังไงคืนนี้ก็ต้องเคลียร์ให้จบ ตั้งสติให้มั่น พร้อมที่จะรับฟังคำตอบของคำถามต่อไปนี้
“มึงต้องตอบคำถามกูก่อนว่าคนที่ชื่อ ‘หมอน’ เป็นใคร และเกี่ยวข้องยังไงกับมึง”
ทันทีที่ถามจบ คนถูกถามก็นิ่งเป็นหิน
“ไปเอามาจากไหน?”
“จากไหนไม่สำคัญ...กูถามแล้วอย่าตอบด้วยคำถาม กูไม่ชอบ” ผมบอกมันขณะที่เดินไปเปิดไฟห้องให้สว่างอีกครั้ง บอกได้เลยว่าคนที่โดนซักมีแววตาประกายกร้าว...ราวกับไม่ชอบใจอะไรบางอย่าง
ผมเดินมานั่งที่เตียงอีกครั้ง
“กูอยากคุยดีๆนะ มึงก็ช่วยตอบดีๆหน่อยเถอะ” นี่ผมใจเย็นสุดแล้วนะ
ไอ้เหี้ยพอสมันหันมามองหน้าผมและถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อออออ...หมอนเป็นแฟนเก่าน่ะ”
“อะหะ แล้วยังไงต่อ” ผมกระตุ้นให้มันพูดต่อ
“กูคบกับหมอนสมัยเรียนม.ปลายด้วยกัน” คนตรงหน้าพูดกับผม แต่สายตากำลังล่องลอยไปไกล “หมอนเป็นผู้หญิงที่สดใส น่ารัก อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น ไม่เรื่องมาก ไม่จู้จี้ ไม่งี่เง่าเอาแต่ใจ กูไปมีเรื่องต่อยตีกับสถาบันไหนก็ไม่เคยบ่น มีแต่ให้กำลังใจ”
ผมนั่งฟังแล้วคิดตามอย่างเงียบๆ
“แต่ตอนนั้นอะ กูเจ้าชู้ กะล่อน ฟันผู้หญิงไปทั่ว”
ไม่ใช่แค่ตอนนั้นมั้ง...อยากจะขัดมัน แต่ปล่อยให้มันเล่าไปเรื่อยๆก่อน
“หมอนก็ไม่ว่าอะไรนะ ไม่เคยตามบ่นให้น่ารำคาญ...ตัวกูก็เหี้ยเอง ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ยังจะมั่วไม่เลือก แต่บอกตามตรงว่ากูไม่เคยมีอะไรกับหมอนซักครั้ง หมอนเหมือนแก้วที่เปราะบาง หากจับต้องนิดเดียวก็คงจะแตกได้ง่าย เป็นผู้หญิงที่ดีซะจนกูทำลายไม่ลง”
ผิดกับกูเลยนะไอ้เหี้ยยยยยยยยยย
“แต่กูชะล่าใจไง คิดว่าหมอนรับกูได้ทุกอย่าง แต่ความจริงไม่ใช่เลย ในใจหมอนก็คงไม่ได้อยากให้กูทำตัวแบบนี้ หมอนเอาเรื่องกูไปปรึกษากับไอ้ฮาร์ท...มันเป็นเพื่อนสนิทกูมาตั้งแต่ประถม มึงเคยเจอแล้ว...ตัดสกินเฮดอะ จำได้ปะ?”
“จำได้” ก็กูเพิ่งจากมันมาไม่ถึงชั่วโมง
“เออนั่นแหละ มันแอบรักหมอน แต่กูไม่เคยรู้เลย 2คนนั่นแอบคุยกันมาตลอดโดยที่กูไม่รู้ คนนึงก็เพื่อน อีกฝ่ายก็คนรัก กูเลยไว้ใจ...เหอะ แต่สุดท้าย แม่งก็ได้กัน” น้ำเสียงช่วงท้ายนั้นแปรเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นแข็งซะจนน่ากลัว ผมเห็นว่ามันกำหมัดจนเส้นเลือดขึ้นตามข้อด้วย
นี่รึเปล่าที่เป็นสาเหตุให้ไอ้แทนมันเคยพูดไว้ว่าพี่พอสมีรักที่เจ็บ...
“แล้วมึงทำยังไง”
“กูไปไม่เป็นเลย เคว้ง ... ความรู้สึกมันยิ่งกว่าโดนเหวี่ยงทิ้งที่ก้นทะเลซะอีก โดนหักหลังจากเพื่อนและคนรัก ตีท้ายครัวกู ความรู้สึกมันแย่วะ ต่อหน้าก็คุยดี ทำเหมือนเดิม แต่มีอยู่วันนึงกูแอบเห็นข้อความในโทรศัพท์หมอนจากไอ้ฮาร์ทว่านัดกันที่เดิม กูไม่รู้หรอกว่าที่ไหน วันนั้นกูเลยแกล้งว่าที่บ้านโทรตามให้กลับด่วน แต่ที่จริงแล้วกูแอบตามหมอนไปนั่นแหละ...สุดท้ายกูเลยเข้าใจว่ากูถูกสวมเขาจากทั้ง2คนมานานแล้ว” คนเล่าดึงผ้าห่มมาไว้บนตักก่อนจะพูดต่อ “กูเดินเข้าไปชกไอ้ฮาร์ทจังๆเลย ตะโกนด่า ปาแก้วปาจาน ทำลายข้าวของแม่งทุกอย่างในร้าน ไอ้ฮาร์ทมันไม่โต้ตอบกูสักนิด ส่วนหมอนก็เอาแต่ร้องไห้แล้วก็พร่ำขอโทษอยู่แบบนั้น” มันก้มหน้ามองดูมือตัวเอง “ตอนนั้นกูถามหมอนว่า จะเลือกใคร...รู้มั้ยว่าคำตอบคือใคร?”
ผมส่ายหัว
“ไอ้ฮาร์ท...แม่งเจ็บโคตรๆเลยวะ” มันเฉลย ผมเอื้อมมือไปกุมหมัดที่กำแน่นของมัน อยากจะให้มันผ่อนคลาย และรู้ไว้ว่านั่นคืออดีต อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไป
แต่นี่ผมไม่ผิดใช่มั้ยที่เป็นฝ่ายรื้ออดีตนั่นขึ้นมาเอง
“กูเดินออกมาจากร้านเลยทันทีที่หมอนพูดจบ หมอนกับฮาร์ทคบกันแบบเปิดเผยในโรงเรียน ส่วนกูกลับเงียบลง ไม่ค่อยมีเรื่อง หันมาอ่านหนังสือหนักซะมากกว่าเพราะตอนนั้นอยู่ม.6แล้ว ที่จริงกูเองก็อยากจะระบายความแค้นลงกับใครสักคน แต่เห็น2คนนั่นมีความสุขแล้วกูทำไม่ลงจริงๆ”
แววตาเศร้าของคนที่ตัวเองรักมันไม่น่ามองเลย ยิ่งถ้าเศร้าเพราะคนอื่นด้วยแล้ว...
“คบกันได้เดือนกว่าก็เหมือนจะทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาไรขึ้นกับ2คนนั้น กูก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ แต่จู่ๆมีอยู่วันนึงหมอนก็โทรมาหากูแล้วบอกว่ายังรักกูอยู่ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย? ส่วนกูก็อึ้ง ไม่รู้จะตอบกลับไปว่ายังไง แต่สุดท้ายแล้ว ความเจ็บที่หมอนกับไอ้ฮาร์ทมันมอบให้ก็เป็นเครื่องเตือนใจได้ดีเลยล่ะ กูปฏิเสธไป แล้วบอกให้หมอนกลับไปเคลียร์กับไอ้ฮาร์ทมันดีๆ”
“สุดท้ายมันก็ไปกันไม่รอด กูทั้งสงสารทั้งสมน้ำหน้า กรรมตามสนองพวกมันมั้ง เหมือนว่าหมอนยังจะรักกูอยู่ ไอ้ฮาร์ทมันก็ทนไม่ได้ แต่สายตาที่มันมองหมอนเหมือนกับสายตาที่หมอนมองกู...ตัวกูเองก็อโหสิให้ทั้งหมอนแล้วก็ไอ้ฮาร์ท กลับมาเป็นเพื่อนแต่ไม่สนิทใจเหมือนเดิม”
“แล้วมึงยังรักหมอนอยู่รึเปล่า”
“ไม่...กูรักมึง”
เชี่ย อ้อมหน่อยก็ได้นะ ตรงซะ
“แล้วตอนนี้หมอนอยู่ไหน”
“ต่างประเทศ ไปเรียนต่อน่ะ เพราะสอบไม่ติดมหาลัยที่ไหนสักที่ ก็เหมือนไอ้ฮาร์ทนั่นแหละ แต่ไอ้ฮาร์ทเลือกที่จะเรียนเอกชน”
“แล้วยังติดต่อกับหมอนอยู่รึเปล่า?”
ตอบดีๆนะมึง....ไม่ดีมีตาย!!!
เหมือนไอ้เหี้ยพอสมันจะรับรู้ได้ถึงรังสีพิฆาตที่ผมแผ่ออกไป มันเลยทำหน้ายุ่งๆก่อนจะเลี่ยงตอบ
“จะรู้ไปทำไม?”
“กูบอกแล้วนะว่าไม่ชอบให้ตอบคำถามด้วยคำถาม”
“ครับ ขอโทษครับ”
“ตอบสิวะ”
“ก็...มีโทรคุยกันบ้าง”
“เออก็แค่นั้น”
“แต่ถ้ามึงไม่อยากให้คุยกูไม่คุยก็ได้นะ”
“กูไม่ได้ห้าม อยากจะคุยก็คุยไป”
รู้ว่าของแบบนี้มันต้องทีเยื่อใย จะไปห้ามไม่ให้คน2คนที่ตัดไม่ขาดได้ยังไง
“หึงก็ยอมรับมาเท้อออออออออออ” ไอ้เหี้ยพอสลากเสียงยาวกวนประสาท ยกมุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์
“บ้านมึงสิ”
“หึหึ” มันหัวเราะในลำคอ สายตาคมจับจ้องมาที่ผม “เอาละ มึงถามกูแล้ว กูขอถามมึงบ้าง”
หืม? ถามอะไร?
“มึงได้ยินชื่อหมอนมาจากใคร”
“ทำไม?”
“อย่าตอบคำถามด้วยคำถาม”
มันย้อนครับมันย้อน!!!
“พี่ฮาร์ท”
ทันทีที่ผมตอบ คิ้วหนาก็มุ่นเข้าหากัน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“ไปเจอมันตอนไหน”
หูยยยยย เสียงแข็งไปไหนเพ่
“อะ...เอ่อ...” เอาแล้วไง ไปคาดคั้นก่อน โดนกลับบ้าง เงิบเลยกู นัยน์ตาคมจ้องผมเขม็ง ชนิดที่ว่าโกหกก็คงจับได้ แถมใบหน้าเรียวได้รูปยังเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตัวผมก็ถอยออกเรื่อยๆเช่นกัน
“ตอนไหน?” มันถามย้ำ แล้วตอนนี้หลังผมก็ชิดหัวเตียงแล้วด้วย
ชิบหายแล้ววววว
“ก็...ไม่นานหรอก” ผมละลั่กละล่ำตอบออกไป เบี่ยงสายตาไปอีกทาง ไม่อยากมองหน้าคนที่กำลังรีดเค้นเอาคำตอบ แต่แล้วมือหนาก็จับที่ปลายคาง พลิกให้ใบหน้าผมไปสบสายตากับมันอีกครั้ง
“เมื่อไหร่?” ริมฝีปากได้รูปขยับถามซ้ำ อดไม่ได้ที่จะมองแล้วลอบกลืนน้ำลาย มันเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนปลายจมูกโด่งคลอเคลียแถวๆแก้ม ไล้ไปมาราวกับจะยั่ว
“เอ่อ..คะ..คือ...ถอยออกไปก่อน”
คนฟังปฏิบัติตามครับ ถอยออกห่างก็จริง แต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น ตอนนี้ใบหน้ามันอยู่ใกล้มาก สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ปล่อยออกมา
“ไม่ถอย...จนกว่าจะได้คำตอบ”
สิ้นคำเรียวปากนุ่มก็ฉกเข้ามาประกบกับริมฝีปากผมพอดิบพอดี ความอุ่นชื้นที่รุกล้ำเข้ามาทำให้ผมเผยอต้อนรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสียงลมหายใจที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ลิ้นกระหวัดพันเกี่ยวอย่างเร่าร้อนแบบไม่มีใครยอมใคร ศีรษะเอียงไปตามธรรมชาติราวกับรู้มุมองศามาอย่างดี
จูบกันกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ
ไอ้เหี้ยพอสมันยิ่งกว่านักประดาน้ำ รู้จังหวะที่หายใจจนผมเนี่ยแหละที่จะเป็นฝ่ายขาดอากาศหายใจซะเอง แค่จูบก็ต้องใช้พลังงานอย่างมากจนเหนื่อยหอบ
ริมฝีปากถอยห่างออกไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้อยู่นิ่ง ลดต่ำลงมาบริเวณซอกคอ ลิ้นร้อนทำหน้าที่ควบคู่ได้เป็นอย่างดี มือที่ค้ำตัวอยู่ก็หันมาถลกเสื้อผมขึ้น สัมผัสแนบเนื้อไล่สูงขึ้นมาเรื่อย แวะทักทายกับยอดอกที่ชูชันแข็งเป็นไตเพราะอารมณ์ที่เริ่มกระเจิดกระเจิง
“บอกได้รึยังว่าไปเจอไอ้ฮาร์ทมันตอนไหน” น้ำเสียงอ่อนลงแล้ว แต่ทำไมผมไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด
“มะ..เมื่อกี้...อ๊ะ..”
ให้กูตอบก่อนไม่ได้รึไง เอาแต่เลียวนรอบหัวนมอยู่ได้
ผมก้มลงมองหัวทุยๆที่กำลังวุ่นอยู่กับหน้าอก อาศัยจังหวะนั้นผละออก แต่ก็ไม่ได้ผล แม้มือทั้ง2ข้างจะดันไหล่แล้วแต่เรี่ยวแรงที่ถูกสูบไปกว่าครึ่งทำให้คนที่กำลังปลุกปั่นอารมณ์ผมนั้นไม่ขยับเลยสักนิด
“กูไปกินเหล้า..ระ..ร้านเดิมมา..ละ..แล้วเจอพอดี..”
ผมพยายามบอก แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะรับรู้รึเปล่า
“โอ๊ยยยยยย กัดหัวนมกูอีกแล้วนะ!!!” ผมผลักหัวมันออกอย่างแรง จนตัวมันเซไปด้านหลัง ไอ้เหี้ยพอสแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างสะใจ ผมรีบดึงเสื้อลงปกปิดร่องรอยที่มันทำไว้เต็มไปหมด
“หึหึ ทบทวนความจำไง ครั้งแรกที่เจอกันกูก็กัดหัวนมมึง”
“สัด เป็นหมาเหรอ ถ้าหัวนมกูขาด กูก็จะกัดของมึงให้ด้วนเหมือนกัน”
“อ๊ะๆ พูดแบบนี้แสดงว่าอยากกัดเหรอจ๊ะ?”
“อยากตายละ” ผมประชดกลับแต่มันหัวเราะ
“แล้วไอ้ฮาร์ทมันพูดอะไรกับมึง” เสียงมันกลับมาจริงจังอีกครั้ง ยังไงคืนนี้กูก็ต้องตอบคำถามมันจนกว่ามันจะหายสงสัยสินะ
“ก็แค่บอกว่ามึงรักคนชื่อหมอนมาก” ตอบแล้วนะ เพียงแต่ตอบไม่หมดก็เท่านั้นเอง ผมไม่อยากพูดถึงสิ่งที่พี่ฮาร์ทบอกให้ผมเลิกกับมันหรือแม้กระทั่งเรื่องที่มันจะเอาผม ไม่อย่างนั้นผมว่าคนใจร้อนตรงหน้าต้องรีบไปหาไอ้พี่ฮาร์ทอย่างแน่นอน
“เหอะ! ตัวมันจะมารู้ใจกูได้ยังไง” คนพูดถึงอดีตเพื่อนสนิทสะบัดหน้าไปอีกทางก่อนจะหันกลับมา “แล้วคุยอะไรอีก?”
เวร จะเสือกอยากรู้ทำไมว่ะเนี่ย
“ก็ไม่มีไรแล้วนิ” พยายามกลบเกลื่อน แต่ไม่รู้ว่าจะเนียนพอให้ไอ้เหี้ยพอสมันเชื่อรึเปล่า
แต่ดูท่ามันคงไม่เชื่อ
“แปลก...คราวที่แล้วมันแสดงตัวว่าเกลียดมึงมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดแค่นี้” มันขมวดคิ้วสงสัยขณะที่พูด คือมึงจะมาทำตัวเป็นยอดนักสืบอะไรตอนนี้วะครับ?
“พี่ฮาร์ทเค้าพูดแค่นี้จริงๆ”
แอบไขว้นิ้วไว้ข้างหลังแล้ว แฮ่
มันทำหน้าไม่อยากเชื่อ แต่ผมก็ทำหน้าใสซื่อสู้กลับไป
“แล้ววันนี้ไปกับใครบ้าง?”
“ก็กลุ่มเดิม ไอ้ทัช ไอ้แต๊ง ไอ้เต็ง แล้วก็ไอ้บิ๊ก” ผมตอบอย่างสบายๆเมื่อมันเลิกที่จะคาดคั้นเรื่องพี่ฮาร์ทแล้ว “เจอกลุ่มเพื่อนมึงด้วย”
“อ่อ พวกไอ้คีย์อะเหรอ”
“ใช่ๆ พี่มิลมาช่วยยกเค้กด้วย วันนี้พวกมันเอาเค้ก8ปอนด์มาเซอไพรซ์” ทันทีที่ผมพูด ใบหน้าหล่อถึงกับสลดอีกครั้ง
กูพูดไรผิดวะ?
“ขอโทษที่ไม่รู้วันเกิด”
ชิบหาย ไหงลากเข้ามาเรื่องเก่าอีกละ กูเป็นเจ้าของวันเกิดยังไม่คิดเล็กคิดน้อยเท่ามึงเล๊ยยยยยยย
“เออน่า กูก็ไม่ได้บอกมึงเองนี่หว่า มึงจะตรัสรู้เองได้ไง”
“อยากได้ของขวัญอะไรรึเปล่า”
“อยากต่อยมึงอะ” เห็นหน้าแล้วหมั่นไส้ จะหล่อไปไหน มีรอยฟกช้ำบ้างเผื่อเรตติ้งจะตก
“หึ อยากต่อยกู...เจ๋งเหรอ?...ตัวตัวปะละ” มันยกคิ้วกวนๆ
“มาดิ” ในเมื่อท้ามาแล้วไอ้แกรนด์ไม่มีถอยครับ ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ด้ายยยยยยยย
“ตัวตัวนะ...เสื้อผ้าไม่เกี่ยว”
เหยดเข้
สตั๊นไป10วิเลยกู
แต่ไอ้เหี้ยพอสมันอาศัยจังหวะนี้ใส่สกิลพุ่งเข้าหาผมเลยครับ ล้มลงไปนอนทั้งคู่ มือจับล๊อกผมติดกับเตียง ริมฝีปากร้อนแนบทับทำปฏิกิริยาแลกเอนไซม์กันในช่องปาก โดยมีลิ้นเป็นตัวเร่ง จูบดุดันแม้จะทำให้ผมเจ็บเล็กน้อยแต่ความเสียวซ่านมันมีมากกว่า
มือหนาจัดการปลดเสื้อผมออกอย่างว่องไวเพราะผมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ลิ้นเปียกชื้นลากไล้ไปทั่วลำตัว มันรู้จุดผมดีว่าตรงไหนที่ไปสัมผัสแล้วจะทำให้ผมอ่อนระทวย ดวงตาคมกริบจับจ้องมาที่ผมอีกครั้ง มันแปลความหมายได้หลายอย่าง คงทั้งรัก ทั้งห่วง ทั้งหึง ทั้งเสียใจ ผสมปนเปกันไปหมด ผมเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่เริ่มยาวจนที่หล่นมาปิดหน้าผากมัน
“แกรนด์รักพี่มาก อยากให้รู้ไว้ไม่ว่าใครจะพูดยังไง แกรนด์ก็จะรักพี่เหมือนเดิม”
ที่ผมพูดออกไปแบบนี้เพราะมันออกมาจากใจจริงๆ และอีกอย่างผมอยากให้มันคลายกังวลเรื่องพี่ฮาร์ทด้วย
มือหนาจับมือข้างซ้ายผมขึ้นมา ประทับริมฝีปากกับแหวนบนนิ้วเบาๆ
“ครับ...แต่ทำไมพี่ถึงรักแกรนด์มากขึ้นทุกวันเลย...รักมาก....รักมากจริงๆ....รักจนกลัว กลัวว่าแกรนด์จะหายจากพี่ไป...ทีหลังอย่าพูดอะไรที่มันเป็นลางไม่ดีรู้มั้ย?”
ผมไม่ตอบเพราะริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง ทั้งหวานและล้ำลึก สำรวจไปทั่วทั้งปาก กวาดกดทั่วกระพุ้งแก้ม ทุกๆความรู้สึกส่งผ่านมาถึงผมได้โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดใดๆอีก
ลิ้นถูกลากลงต่ำอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่แค่ตามลำตัว มันต่ำลงมาเรื่อยจนถึงขอบกางเกงที่ผมใส่นอน แต่คาดว่าคืนนี้ผมคงไม่ได้ใส่เพราะมันถูกกำจัดด้วยเจ้าของร่างใหญ่ที่โถมทับลงมา
ความต้องการที่พุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆจนแก่นกลางตั้งขึ้นมาต่อต้านกับแรงโน้มถ่วงของโลก ท้องน้อยวูบโหวงแปลกๆ มือหนากอบกุมไว้ทั้งหมด จัดการรูดขึ้นลงจนผมร้องครางฮือบ่งบอกถึงความสุขและความเสียวที่ได้รับ น้ำรักเริ่มปริ่มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ อารมณ์ตอนนี้กู่ไม่กลับแล้วครับ
“อื้อออ...อ๊า....”
แกรนด์น้อยผลุบหายเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ทั้งห่อทั้งดูดจนผมครางไม่หยุด ใจหนึ่งก็อยากให้มันหยุดเพราะกลัวน้ำขาวขุ่นล้นทะลักแตกใส่ปาก แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้มันทำต่อเพราะความเสียวที่แล่นไปทั่วทั้งตัว
“อะ..อ๊า...ออกไป...”
ผมพยายามเตือนมัน เพราะตอนนี้ผมใกล้เห็นสวรรค์รำไร
“อ๊า...”
จนสมองขาวโพลน ปลดปล่อยลูกรักนับล้านนั่นแหละ ถึงได้รู้สึกตัวว่าไอ้เหี้ยพอสมันยังไม่ยอมถอนปากออกไป ซ้ำยังกลืนกินเหล่าลูกๆของผมซะจนหมด
ผมหายใจเหนื่อยหอบ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด เอาหลังมือขึ้นมาก่ายเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนที่กำลังยิ้มกริ่มตรงๆ
“อะไร แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอ”
คนทำให้ผมต้องอายผละห่างออกจากตัว ปลดเสื้อและกางเกงของตัวเองทิ้งไว้ที่ข้างเตียง
ผมรู้ว่าค่ำคืนนี้มันไม่จบลงง่ายๆแน่...
แต่ผมก็ยอม ถ้ามันทำให้คนตรงหน้ามีความสุขได้ เหมือนกับที่มันมอบความสุขให้ผมอย่างไม่รังเกียจเลยสักนิด ทั้งตัวและหัวใจเป็นของมันคนเดียว
“อะไร ใครเหนื่อย มึงสิเหนื่อย” ผมโต้กลับ เรื่องไรจะยอมโดนว่าเป็นไก่อ่อนกันละ
“จริงเหรอ งั้นมาต่อยอีกสัก3ยกก็ไหวใช่มั้ย?”
“ไม่มีเกี่ยงอยู่แล้ว”
“ใครน๊อคก่อน..แพ้”
เมื่อกี้ไอ้เหี้ยพอสแค่แย๊บผมเล่นๆ ให้รู้ว่ามันมีสเต๊ปฝึกซ้อมมาอย่างดี แค่ผมเนี่ยสิ จะเอาไรไปสู้มัน?
ร่างสูงทาบทับผมอีกครั้ง ก้มลงจูบอย่างหิวกระหาย ส่วนมือก็หยอกล้อกับแกรนด์น้อยที่ห่อเหี่ยวไปเมื่อสักครู่จนเริ่มที่จะออกปฏิบัติการพ่นน้ำอีกครั้ง
สายตาผมไปสบกับมังกรน้อยของคนตรงหน้าที่กำลังแผ่ขยายความแข็งแกร่ง
ต่อให้เห็นสักกี่ครั้งก็ยังไม่ชินอยู่ดี ของของมันใหญ่จนน่ากลัว ยิ่งในเวลานี้ไม่ต้องพูดถึง ได้แต่นอนรอภาวนาอย่าให้มันหน้ามืดตามัวจนรุนแรงก็พอ ไม่อย่างนั้นช่องทางผมมีพังแน่
ขาผมถูกยกขึ้นสูงจนเอวลอย นิ้วเรียวกรีดไปตามร่องก้นก่อนจะค่อยๆแทรกเข้ามา
“อึก!”
จาก1นิ้วเป็น2นิ้ว และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ขยับเข้าออกเพื่อเตรียมพร้อมรับสิ่งที่ใหญ่โตกว่านี้
“พร้อมนะครับ”
ถึงจะไม่พร้อมแต่ก็ต้องพร้อม มังกรน้อยถูกจับจ่อเข้าที่ปากทาง แต่เจ้าของยังไม่ยอมให้มังกรตัวนี้เข้าถ้ำง่ายๆเพราะมันลากไล้ขึ้นลงราวกับจะทรมานผม น้ำใสๆที่เริ่มล้นเอ่อออกมาเป็นตัวล่อลื่นได้อย่างดี
“อื้อออออออ”
ผมร้องประท้วงในลำคอเมื่อมันไม่ยอมให้มังกรเข้าถ้ำสักที เอาแต่ลากผ่านช่องทางสร้างความเสียวจนแทบจะขาดใจอยู่นั่นแหละ
“หืม? อะไรครับ?”
ยังมีหน้ามาถาม!!
ขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากด่ามันกลับสวนด้วยแก่นกลางเข้ามาซะจนผมร้องไม่ออก ผมผวาเฮือกจะต้องจิกลงที่ลำแขนแกร่ง
“เชี่ย!”
แต่มันไม่แทงเข้ามามิดด้าม มังกรน้อยผ่านเข้ามาแค่ครึ่งลำเท่านั้น ก่อนจะค่อยๆกดลึกเข้ามาเรื่อยๆ ผมอยากจะร้องออกไปว่าเจ็บให้สมกับความรู้สึกที่ได้รับ แต่ก็ไม่ร้องออกไปเพราะกลัวว่ามันจะเป็นห่วงผมจนต้องเอาออก
“ขอโทษนะ”
ผมไม่รู้ว่ามันขอโทษเรื่องอะไร อาจจะเรื่องไม่รู้วันเกิด หรืออาจจะเรื่องที่กำลังทำกันอยู่ตอนนี้ แต่ผมก็ไม่สนแล้วเพราะแก่นกายมันเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่ามันจะฝืดคับช่องทางก็ตาม ร่างสูงกัดฟันกรอดเพราะความยากลำบาก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันล่าถอยแต่อย่างใด ซ้ำยังจะกระหน่ำแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“อ๊ะ..พี่พอส..อ๊า...”
จังหวะที่เนิบนาบเริ่มเร่งเร็ว มังกรน้อยผลุบเข้าออกสอดประมานกับผนังถ้ำที่รัดแน่นราวกับต่อต้านไม่อยากให้มันเข้าไป ส่วนแก่นกายผมก็แข็งตั้งโด่อย่างไม่ต้องอาศัยมือช่วยอีกครั้ง
เหมือนเนิ่นนาน ทั้งๆที่ผ่านไปแค่ไม่กี่นาที หัวใจเต้นแรง เหงื่อโทรมไปทั่วทั้งกาย เสียงลมหายใจและเสียงเนื้อกระทบซอยถี่ยิบดังลั่นอย่างไม่กลัวห้องข้างๆจะได้ยิน
จนในที่สุด
“อ๊า...”
“อื้อออ...”
ผมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ในขณะที่คนที่อยู่ในตัวผมก็พ่นพิษออกมาเช่นกัน รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ขังอยู่ข้างใน มันยังไม่ถอนตัว ปล่อยแช่ค้างไว้แบบนั้น โน้มตัวลงมากอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไป
“พี่รักแกรนด์”
บอกรักที่ข้างหู พรมจูบไปทั่วหน้า
“รู้แล้ว”
ไม่ต้องย้ำก็ได้...
“อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป...อย่าหายไปไหนนะ”
“อื้มมมม”
ผมหลับตาตอบ ชักจะง่วงๆแล้วสิ
รู้สึกว่าอ้อมแขนออกห่างไปแล้ว นึกว่ามันจะถอนแก่นกายออก แต่ไม่ใช่ ไอ้เหี้ยพอสมันลุกชันเข่าเฉยๆ ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งบอกให้มันเอาออกไป
“เอาออกไปได้แล้ว...”
“เรื่องไร กว่าจะเข้าได้โคตรยาก”
“...”
“แถมฟิตอีก”
“เหี้ยยยย เอาออกไปเลย!!”
ผมออกแรงดิ้น แต่ก็เหมือนเดิม ไอ้เหี้ยพอสมันรัดตัวผมไว้แน่นได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนจนผมต้องเป็นฝ่ายหยุดดิ้นแทน เพราะรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่นั้นมันพองโตขึ้นเรื่อยๆ
มันไม่ยอมให้ผมได้ประท้วงอะไร จับผมนอนคว่ำ โก่งตูดให้มัน และเริ่มทำการต่อยยกที่2...
“ชอบท่านี้ ลึกดี”
ไม่วิจารณ์ก็ไม่มีใครว่านะ...แม่งเอ๊ยยยย
มือหนายื่นมาจับแกรนด์น้อย รูดขึ้นลงไปตามจังหวะอย่างช้าๆ จนผมเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง เสียงที่เปล่งออกไปล้วนแต่เป็นคำที่ไม่มีความหมาย มีแต่ความเสียวล้วนๆ
“อ๊ะ..อ๊า..”
เมื่ออารมณ์มาความเจ็บเริ่มหาย มันก็กระแทกเข้ามาแบบไม่ยั้ง ผมก็ปล่อยให้มันทำตามใจชอบเพราะตัวผมเองก็รู้สึกดีเช่นกัน
คราวนี้ผมเสร็จก่อนมัน น้ำขาวขุ่นพุ่งกระจายออกมาเต็มเตียง ตามด้วยอีกคนที่ส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจ
คงได้เวลานอนสักที
“อาบน้ำกัน”
หา!!!!!
“ไม่เอา...พอแล้ว จะนอน”
โอเค กูรู้ว่ามึงอึด แต่ช่วยไปพิสูจน์ความอึดทีหลังจะได้มั้ย? วันนี้กูเหนื่อยมาก
ผมคว่ำหน้านอนอย่างไม่สนใจว่าร่างสูงจะทำอะไรอีก เอากูได้ก็เอาไป แต่กูคงไม่มีอารมณ์ร่วมกับมึงแล้วจริงๆ
“ไหนว่าจะต่อยกัน3ยกไง?”
ไอ้ห่า แค่2กูก็เห็นท้องฟ้าเป็นสีเหลืองแล้ว
ไม่รู้ว่ามันไปเอาพลังแรงช้างสารมาจากไหนเพราะมันจัดการรวบตัวผมแล้วอุ้มเตงไปที่ห้องน้ำ ผมซบหน้าลงบนบ่ากว้าง หลับตานอน แต่กายที่ยังเชื่อมกันอยู่มันดันกระแทกลึกเข้ามาเรื่อยๆตามย่างก้าว ขอบคุณที่ห้องแคบเลยทำให้ถึงห้องน้ำได้อย่างรวดเร็ว
“แกรนด์...เดี๋ยวอาบน้ำให้นะ”
มันกระซิบข้างหู ปล่อยขาผมลงยืนกับพื้น แต่เหมือนผมจะยืนไม่ไหวแล้ว ขามันสั่นซะจนเกือบล้ม ดีที่มันช่วยพยุงตัวไว้โดยการโอบเอว
เอาเถอะ จะทำไรกูก็ทำ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หลับคาห้องน้ำแม่งเลย
“กูน๊อคเอ้าท์แล้ว”
“หึหึ ครับผม ไม่ทำอะไรแล้วครับ”
มังกรน้อยถูกเอาออกไปอย่างที่ควรจะทำได้ตั้งนาน น้ำรักของมันไหลออกมาเต็มง่ามขา มันจัดการเปิดฝักบัวแล้วรดตัวผมกับมัน ทำการถูสบู่ให้อย่างดี ล้วงเข้าไปในช่องทางเพื่อทำความสะอาดอย่างไม่รังเกียจ ส่วนตัวผมก็ยืนหลับตาอยู่แบบนั้น สติเริ่มเลือนหาย ความง่วงเข้ามาแทรก จนในที่สุดก็หลับไปขณะที่อีกคนกำลังเช็ดตัวให้
สัมผัสสุดท้ายที่ได้รับคือริมฝีปากที่ประทับแผ่วเบาตรงหน้าผาก
Talk
ไม่อยู่3วันติดนะค้าบบบบบไปงาน The LaST FAT FEST จ้า แล้วพอดีแพรเปิดเทอมวันที่5ก็เลยค้างหอเพื่อนยาวๆนะคะอย่าเพิ่งหายกันไปไหนน้า เอาฉากเรียกเลือดมาถวายแล้วววววฝากโหวตโพลเรื่องหนังสือรวมเล่มด้วยนะค้า
http://my.dek-d.com/peter_p/poll/view.php?id=140157
ขอบคุณค่ะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ