The Gypsy Death...ต่อให้ตายยังไงก็รัก

9.1

เขียนโดย tietang

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.14 น.

  24 ตอน
  981 วิจารณ์
  44.62K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) เที่ยวตลาดน้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
เขื่อนยืนมาหาแต่แก้วส่ายหัวไม่เอา
“อ่าแค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองลองไปก็ไม่เสียหายนิ”
เขื่อนยังคงตื้อไม่เลิกราแก้วเลยจำใจหยิบไปแบบส่งๆแต่มันติดตรงที่ว่ามันดันติดออกมาสามใบรวด เขื่อนมองไปที่ไพ่แล้วขมวดคิ้ว ไพ่ที่แก้วกระตุกมันออกมากับมือหงายออกมาเป็นสีดำทั้งแถบมีสัญลักษณ์เป็นโพ่ดำทั้งสิ้นแจ๊ก แหม่ม คิงส์ วูบหนึ่ฝเมื่อแก้วมองไปที่ไพ่เห็นทั้งสามหันหน้าเข้าหาโพ่ดำ
“มีใครเห็นเหมือนกันไหมว่าไพ่สามใบเมื่อกี้มันหน้าหน้าเข้าหาโพ่ดำ”
เป็นตัววัดว่าแก้วไม่ได้ตาฝาดไปคนเดียวมีเขื่อนที่ทันสังเกตุเห็นเหมือนเธอ โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นโพแดง ข้าวหลามตัดหรือแม้กระทั้งดอกจิกเองก็ตาม แจ๊ก แหม่ม คิงส์จะหันหน้าเข้าหาสัญลักษณ์จะมีก็แต่โพดำเท่านั้นที่จะหันหน้าออก(ลองไปสังเกตุดูนะค๊าบบ) แต่สิ่งที่แก้วเห็นว่ทั้งสามตัวหันหน้าเข้าหาโพดำมันแปลว่าอะไร เป็นแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นราวกับว่าเธอตาฝาดไม่นานนักเมื่อกลับมามองดูอีกทีปรากฎว่าทั้งไพ้ทั้งสามหน้าก็หันหนีโพดำกันหมดแล้ว นี่ถ้าเขื่อนไม่บอกว่าเค้าเห็นเธอคงคิดว่าตนเองตาฝาดเป็นแน่
“เธอรู้ไหมที่ไพ่ไม่เคยหันหน้าเข้าโพดำเพราะว่าอะไร”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงฉันคนธรรมดาไม่ใช่หมอไพ่นะ”
“เพราะโพดำมันคือความตาย มันเป็นหายนะไงหล่ะ”
“ฉันรู้ว่าตัวฉันมันซวยถ้ารู้อย่างนี้ก็อย่ามาอยู่ใกล้ฉัน”
เธอยังจำคำที่เฟย์บอกได้ผู้ชายไม่ว่ารายไหยรายนั้นถ้าได้อยู่ใกล้เธอมีหวังล่มจมหมดทุกราย ถ้าไม่ติดว่าถูกโทโมะซื้อตัวมาแล้วไม่มีทางที่จะยอมอยู่ในกรงแบบนี้แน่นอน
“แกจะกลับรึยังไอ้เขื่อน”
“แค่ทายนิดๆหน่อยๆไล่เลยเหรอ”
“จะออกไปธุระข้างนอก”
“งั้นฉันไปดีกว่า”
เขื่อนโบกมือหย่อยๆให้กับแก้วแล้วเดินออกไป คราวนี้ห้องถึงกับเงียบสงัดไปเลยเงียบจนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่
“หิว...เธอทำอะไรเป็นไหม”
“แม่บ้านก็มี”
“ซื้อเธอมาจะมีประโยชน์หน่อยไม่ได้เหรอไง”
ที่พูดมาดูไม่ออกจริงๆว่าเค้าประชดแหนบแนมหรือว่าทวงบุญคุณกันแน่ แต่แน่ที่สุดคือตอนนี้หญิงสาวเดินกระฟัดกระเฟียดลงไปชั้นล่างเพื่อหาของมาประเคนให้กับโทโมะ
“นายหญิงมาทำอะไรคะ”
“มาทำอาหารให้โทโมะคะ”
ป้าแม่บ้านที่กำลังคั้นน้ำส้มอยู่ละมือลงแล้วเดินไปที่ตู้ใบใหญ่ค้นหาอะไรคลุกคลักอยู่พักหนึ่งก็ได้ถุงสปาเกตตี้ออกมาวางตรงหน้าหญิงสาว
“ของโปรดนายคะ ถ้านายหญิงทำไปนายต้องยิ้มอกแน่ๆ”
ในใจหญิงสาวก็คิดไปว่า หน้าอย่างนั้นเนี่ยนะจะยิ้มแค่พูดวันๆยังแทบไม่ได้ยินไม่รู้ว่ากลัวพูดแล้วกอดพิกุลร่วงรึไง แต่เธอก็ไม่ได้อะไรแค่มาทำให้เฉยๆไม่ได้หวังให้เค้ามาโปรดปรานเธอสักหน่อยใครแนะให้ทำอะไรก็ทำ น้ำในหม้อใบใหญ่เริ่มเดือดปุ่ดๆควันลอยโขมงขึ้นมาพร้อมกับไอความร้อน แก้วรีบนำเส้นลงไปลวกทั้นที ตอนลวกไม่เท่าไหร่แต่ตอนเอาขึ้นนี้ศิใส่เส้นไปซะเยอะตอนขึ้นก็คงลำบาก
“ป้าคะมาช่วยแก้วเอาเส้นขึ้นหน่อยได้ไหมคะ”
ร้องขอความช่วยเหลือจากป้าแม่บ้านทั้งๆที่ตัวเองจังจ้องอยู่หน้าเตาไม่ได้สนเลยว่าตอนนี้ป้าแม่บ้านจะอยู่หรือไม่ มือบางจับส้อมสองคันแล้วสาวเส้นขึ้นมาจากหม้อ แผ่นหลังเนียนกระทบเข้ากับอกนแกร่งมือหนาโอบทับมือบางที่กำลังพยายามจะสาวเส้นอยู่ยิ่งดึงเส้นสูงขึ้นจากน้ำมากเท่าไหร่ความแนบชิดก็ยิ่งมากเท่านั้น แก้วเริ่มดิ้นร้นขัดขืน
“ออกไปน่ะ”
“ไหนบอกต้องการความช่วยเหลือ”
“ฉันไม่ได้ขอนาย ฉันขอจากป้าต่างหาก”
หันลีหันขว้างไปเพื่อมองหาป้าแม่บ้านแต่ก็ไร้วี่แววทั้งครัวนี้มีเพียงเธอกับเค้แค่สองคน
“อยู่เฉยๆเดี๋ยวน้ำร้อนลวก”
กล่าวขึ้นเมื่อยกเส้นทั้งหมดขึ้นจากน้ำร้อนแล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำเย็น เมื่อเส้นลงไปในหม้อใหม่แก้วก็สบัดมือออกจากโทโมะราวกับโทโมะเป็นของร้อน
ครืน~ซูว์
มือบางที่สบัดหลุดออกมาดันไปโดนหม้อที่มีน้ำร้อนอยู่จนมันหกกระเซน แต่แทนที่มือบางขจะโดนน้ำร้อนลวกกลับไม่ได้รับความรู้สึกร้อนแต่อย่างได้เป็นเพราะมือหนาของโทโมะมาจับไว้เพราะฉะนั้นคนที่โดนเต็มๆคือโทโมะ
“บอกแล้วว่าเฉยๆก็ไม่ฟัง”
“แล้วใครใช่ให้นายมาโดนลวกแทนฉันหล่ะ บอกแล้วว่าฉันมันซวยอย่ามาอยู่ใกล้”
“เธอไม่ซวยหรอก แต่ที่น้ำร้อนลวกก็เพราะเธอไม่ฟังฉัน”
“ก็นายไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน พ่อก็ไม่ใช่พี่ก็ไม่ใช่”
“งั้นถ้าเป็นอะไรกันก็จะเชื่อเหรอไง”
ใบหน้าหล่อที่คลอเคลียอยู่ข้างกกหูเริ่มไล้มาตามซ้อกคอ พอแก้วได้จังหวะก็รีบหลบออกมาแล้วเดินไปหันมะเขือเทศต่อเพราะกะว่าจะทำซอสเองถึงเธอจะเป็นนางแบบมาก่อนแต่เรื่องอาหารเธอก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน
“นายเกะกะไปรอกินอย่างเดียวเหอะไป”
และเธอก็ได้ความเงียบเป็นคำตอบกลับมา โทโมะเดินนิ่งไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารไม่นานนักสปาเกตตี้ก็ส่งกลิ่นหอมชวนกินลอยออกมาแล้วตามมาด้วยจานสปากเกตตี้สองจานที่ถูกตกแต่งอย่างสวย แก้ววางมันตรงหน้าโทโมะหนึ่งทีแล้ววางที่หนาตัวเอง
“เชิญ...กินให้สะใจเลยนะ”
แก้วกืนมันอย่างเอร็ดอร่อยแต่โทโมะกลับไม่แตะสักคำ แก้วกินจนหมดแล้วจานโทโมะยังไม่ได้ถูกกินไปแม้แต่น้อยเลย
“ไม่กินก็ตามใจ ทำให้กินแล้วไม่กินเองมาโทษฉันไม่ได้นะ”
ลุกจากเก้าอี้ถือจานของตัวเองไปล้างแล้วจะเดินขึ้นห้อง
“แต่งตัวจะพาไปเที่ยว”
แก้วที่ได้ฟังว่าจะได้ไปเที่ยวก็เกิดอาการลิงโลดทันทีเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ก็เกือบเดือนแล้วเธอยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวจริงๆจังๆสักทีไปกี่ที่ก็เป็นอันต้องหนีหัวซุกหัวซุนตลอด หญิงสาวเดินลับตาไปแล้วสปากเกตตี้ที่เต็มจานก็ถูกคนขี้เก๊กกินจนหมด ออกมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกเป็นเวลานาน แก้วเดินลงมาด้วยชุดแซกที่ขาวคอวีที่ตั้งเป็นปกดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ โทโมะเห็นก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่รถ
“เราจะไปไหน”
“ตลาดน้ำ”
ก็ดีเหมือนกันเพราะไปห้างที่ไรเธอต้องวิ่งหนีทุกที ลองเปลี่ยนบรรยากาศเป็นตลาดน้ำบ้านๆดูมั่งไม่นานนักก็มาถึง
ตลาดน้ำสี่ภาค~
พอลงจากรถได้แกวก็เดินดูของไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจหุ่นยนต์ที่ตีหน้าเข้มเดินตามหลังอยู่ติดๆ เธอเลือกของอย่างเมามันเห็นอะไรสวยเป็นซื้อไปหมด
“น้องคะถ่ายรูปไหมคะ”
เสียงพนักงานเชิญชวนให้แก้วและโทโมะเข้าไปถ่ายรูปย้อนยุก
“อยากถ่าย”
แก้วบอกโทโมะเมื่อเห็ฯว่าโทโมะยืนทำหน้านิ่งอยู่หน้าร้าน
“นายช่วยทำให้ฉันรู้สึกว่ามากับคนหน่อยได้ไหม”
“อยากถ่ายก็ถ่ายสิ”
“จะถ่านเชินด้านในเลยนะคะ”
พี่พนักงานเดินต้อนแก้วและโทโมะเข้าไปในร้านพร้อมทั้งหาเสื้อผ้าย้อนยุกให้ทั้งคู่ใส่
“ตามองกล้องนะครับ”
แชะ~
แก้วอยู่ใยชุดเจ้านางทางภาคเหนือโทโมะก็เช่นกัน การถ่ายรูปเต็มไปด้วยความชุลมุนเพราะโทโมะห่วงหล่อชุดไหนไม่เนียบไม่ดีพอเค้าก็ไม่ใส่และเกือบจะมีปัญหากับคนถ่ายรูปอีกด้วยโชคดีที่แก้วห้ามทัพไว้ได้ทัน จึงรีบจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านทั้งที
“นายกินไหม”
ยืนถ้วยน้ำแข็งใส่สูตรโบราณมาให้ ถ้ากินแล้วไม่ชวนก็กระไรอยู่แก้วนึกว่าโทโมะเดินตามมาข้างหลังแต่พอกันมาชวนคนที่ควรจะเป็นโทโมะกลับเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่สูงเท่าไหร่นักแต่ที่เดาออกเลยก็คือหน้าตรที่ออกไปทางญี่ปุ่น
“ไปกับฉัน”
“ไปไหน ไม่เอาไม่ไปนะ”
ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วดันตัวแก้วให้ถอยไปเรื่อยๆจนกลายเป็นว่าแก้วเดินไปตามทางที่เค้าบอกจนได้
“ไอ้เคน!!นั่นของฉันแกอย่ามายุ่ง”
เสียงทรงพลังของโทโมะดังมาจากข้างหลัง แก้วพยายามจะขืนข้อมือออกจากเคนตะให้ได้ แต่ก็ต้องตกใจเพราะเคนตะปล่อยมือเธออย่าง่ายดาย
ปึง ปัง โคร่ม คราม!!
แค่กระพริบตาโทโมะก็มายืนอยู่ตริงหน้าใช้มือจับเข้าที่ข้อมือเคนตะเพื่อจะพลิกแต่ใครจะไปยอมหล่ะจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ทั้งสอคนสู้กันจนแม่ค้าที่ขายของยกแพงหนีกันเลยทีเดียวยังไม่มีใครพลาดท่าทั้งสิ้น
“ไปเร็ว”
โทโมะรังข้อมือบางแล้วบอกให้วิ่ง ตอนนี้เธอกับโทโมะวิ่งไปรอบตลาดน้ำเพื่อหลบหลีกคนที่ตามมาอีกเป็น10คน ร่างบางของแก้วเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบ
“แฮก~ทำไมนายไม่สู้ไหนเค้าว่าเก่งหนักหนาไง”
“ถ้าฉันตัวคนเดียวไม่มีทางทีจะวิ่งหรอก แต่นี้มีเธอ”
พูดไปวิ่งไปทำให้แก้วเหนื่อยจนแทยขาดใจ โทโมะวิ่งหักหลบเลี้ยงไปในซ้อยแคบๆของตลาดดีที่มือดึงแก้วไว้ไม่งั้นแก้วคงวิ่งเลยไป ผ่านร้านที่ขากของทะเลสดๆทั้งปลาทั้งหอยถูกชายหนุ่มจับมันคว่ำลงละแลงกับพื้นแล้วควักเงินในกระเป๋ามาจ่ายค่าเสียหาย แก้วต้องข้างไปถึงแม้ว่าเธอจะมีช่วงขาที่ยาวแต่อย่าลืมว่าตอนนี้ขาเธอแทบจะไม่มีแรงก้าว เธอย้ำไปที่กองอาหารทะเลเต็มๆ โทโมะถึงกับสายหน้า
“เธอนี่จริงๆเลย”
อุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่าก่อนจะออกวิ่งอ้อมไปทางหลังตลาดเพื่อจะวิ่งกลับมายังรถที่จอดอยู่ข้างหน้า แก้วหอบหนักจนตาลายเปลือกตากำลังจะปิด
“เวลาเหนี่อยห้ามหลับนะ”
“ฉันไม่ไหวอากาศมันไม่พอจะหายใจ”
รูม่านตาเริ่มหรี่เล็กลงเรื่อยๆโทโมะตวัดร่างที่พาดบ่าอยู่มาเป็นอุ้มแทนริมฝีปากเรียวสวยถูกทาบทับด้วยปากของโทโมะ ขาก็ยังก้าวเดินอย่างเร็วปากก็ประกบลงที่ปากเรียวสวย ออกแรงเป่าปากเพิ่มอากาศให้แก้วซ้ำกันอยู่หลายรอบจนแก้วมีอาการดีขึ้น เดินมาถึงรถจับร่างบางให้นอนเอนลงบนเบาะหลังส่วยตัวเองก็นั่งที่คนขับก่อยจะออกตัวรถอย่างรวดเร็ว แต่ไม่วายที่จะโดนขับรถจี้ตามมาติดๆ
เขื่อนยืนมาหาแต่แก้วส่ายหัวไม่เอา
“อ่าแค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองลองไปก็ไม่เสียหายนิ”
เขื่อนยังคงตื้อไม่เลิกราแก้วเลยจำใจหยิบไปแบบส่งๆแต่มันติดตรงที่ว่ามันดันติดออกมาสามใบรวด เขื่อนมองไปที่ไพ่แล้วขมวดคิ้ว ไพ่ที่แก้วกระตุกมันออกมากับมือหงายออกมาเป็นสีดำทั้งแถบมีสัญลักษณ์เป็นโพ่ดำทั้งสิ้นแจ๊ก แหม่ม คิงส์ วูบหนึ่ฝเมื่อแก้วมองไปที่ไพ่เห็นทั้งสามหันหน้าเข้าหาโพ่ดำ
“มีใครเห็นเหมือนกันไหมว่าไพ่สามใบเมื่อกี้มันหน้าหน้าเข้าหาโพ่ดำ”
เป็นตัววัดว่าแก้วไม่ได้ตาฝาดไปคนเดียวมีเขื่อนที่ทันสังเกตุเห็นเหมือนเธอ โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นโพแดง ข้าวหลามตัดหรือแม้กระทั้งดอกจิกเองก็ตาม แจ๊ก แหม่ม คิงส์จะหันหน้าเข้าหาสัญลักษณ์จะมีก็แต่โพดำเท่านั้นที่จะหันหน้าออก(ลองไปสังเกตุดูนะค๊าบบ) แต่สิ่งที่แก้วเห็นว่ทั้งสามตัวหันหน้าเข้าหาโพดำมันแปลว่าอะไร เป็นแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นราวกับว่าเธอตาฝาดไม่นานนักเมื่อกลับมามองดูอีกทีปรากฎว่าทั้งไพ้ทั้งสามหน้าก็หันหนีโพดำกันหมดแล้ว นี่ถ้าเขื่อนไม่บอกว่าเค้าเห็นเธอคงคิดว่าตนเองตาฝาดเป็นแน่
“เธอรู้ไหมที่ไพ่ไม่เคยหันหน้าเข้าโพดำเพราะว่าอะไร”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงฉันคนธรรมดาไม่ใช่หมอไพ่นะ”
“เพราะโพดำมันคือความตาย มันเป็นหายนะไงหล่ะ”
“ฉันรู้ว่าตัวฉันมันซวยถ้ารู้อย่างนี้ก็อย่ามาอยู่ใกล้ฉัน”
เธอยังจำคำที่เฟย์บอกได้ผู้ชายไม่ว่ารายไหยรายนั้นถ้าได้อยู่ใกล้เธอมีหวังล่มจมหมดทุกราย ถ้าไม่ติดว่าถูกโทโมะซื้อตัวมาแล้วไม่มีทางที่จะยอมอยู่ในกรงแบบนี้แน่นอน
“แกจะกลับรึยังไอ้เขื่อน”
“แค่ทายนิดๆหน่อยๆไล่เลยเหรอ”
“จะออกไปธุระข้างนอก”
“งั้นฉันไปดีกว่า”
เขื่อนโบกมือหย่อยๆให้กับแก้วแล้วเดินออกไป คราวนี้ห้องถึงกับเงียบสงัดไปเลยเงียบจนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่
“หิว...เธอทำอะไรเป็นไหม”
“แม่บ้านก็มี”
“ซื้อเธอมาจะมีประโยชน์หน่อยไม่ได้เหรอไง”
ที่พูดมาดูไม่ออกจริงๆว่าเค้าประชดแหนบแนมหรือว่าทวงบุญคุณกันแน่ แต่แน่ที่สุดคือตอนนี้หญิงสาวเดินกระฟัดกระเฟียดลงไปชั้นล่างเพื่อหาของมาประเคนให้กับโทโมะ
“นายหญิงมาทำอะไรคะ”
“มาทำอาหารให้โทโมะคะ”
ป้าแม่บ้านที่กำลังคั้นน้ำส้มอยู่ละมือลงแล้วเดินไปที่ตู้ใบใหญ่ค้นหาอะไรคลุกคลักอยู่พักหนึ่งก็ได้ถุงสปาเกตตี้ออกมาวางตรงหน้าหญิงสาว
“ของโปรดนายคะ ถ้านายหญิงทำไปนายต้องยิ้มอกแน่ๆ”
ในใจหญิงสาวก็คิดไปว่า หน้าอย่างนั้นเนี่ยนะจะยิ้มแค่พูดวันๆยังแทบไม่ได้ยินไม่รู้ว่ากลัวพูดแล้วกอดพิกุลร่วงรึไง แต่เธอก็ไม่ได้อะไรแค่มาทำให้เฉยๆไม่ได้หวังให้เค้ามาโปรดปรานเธอสักหน่อยใครแนะให้ทำอะไรก็ทำ น้ำในหม้อใบใหญ่เริ่มเดือดปุ่ดๆควันลอยโขมงขึ้นมาพร้อมกับไอความร้อน แก้วรีบนำเส้นลงไปลวกทั้นที ตอนลวกไม่เท่าไหร่แต่ตอนเอาขึ้นนี้ศิใส่เส้นไปซะเยอะตอนขึ้นก็คงลำบาก
“ป้าคะมาช่วยแก้วเอาเส้นขึ้นหน่อยได้ไหมคะ”
ร้องขอความช่วยเหลือจากป้าแม่บ้านทั้งๆที่ตัวเองจังจ้องอยู่หน้าเตาไม่ได้สนเลยว่าตอนนี้ป้าแม่บ้านจะอยู่หรือไม่ มือบางจับส้อมสองคันแล้วสาวเส้นขึ้นมาจากหม้อ แผ่นหลังเนียนกระทบเข้ากับอกนแกร่งมือหนาโอบทับมือบางที่กำลังพยายามจะสาวเส้นอยู่ยิ่งดึงเส้นสูงขึ้นจากน้ำมากเท่าไหร่ความแนบชิดก็ยิ่งมากเท่านั้น แก้วเริ่มดิ้นร้นขัดขืน
“ออกไปน่ะ”
“ไหนบอกต้องการความช่วยเหลือ”
“ฉันไม่ได้ขอนาย ฉันขอจากป้าต่างหาก”
หันลีหันขว้างไปเพื่อมองหาป้าแม่บ้านแต่ก็ไร้วี่แววทั้งครัวนี้มีเพียงเธอกับเค้แค่สองคน
“อยู่เฉยๆเดี๋ยวน้ำร้อนลวก”
กล่าวขึ้นเมื่อยกเส้นทั้งหมดขึ้นจากน้ำร้อนแล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำเย็น เมื่อเส้นลงไปในหม้อใหม่แก้วก็สบัดมือออกจากโทโมะราวกับโทโมะเป็นของร้อน
ครืน~ซูว์
มือบางที่สบัดหลุดออกมาดันไปโดนหม้อที่มีน้ำร้อนอยู่จนมันหกกระเซน แต่แทนที่มือบางขจะโดนน้ำร้อนลวกกลับไม่ได้รับความรู้สึกร้อนแต่อย่างได้เป็นเพราะมือหนาของโทโมะมาจับไว้เพราะฉะนั้นคนที่โดนเต็มๆคือโทโมะ
“บอกแล้วว่าเฉยๆก็ไม่ฟัง”
“แล้วใครใช่ให้นายมาโดนลวกแทนฉันหล่ะ บอกแล้วว่าฉันมันซวยอย่ามาอยู่ใกล้”
“เธอไม่ซวยหรอก แต่ที่น้ำร้อนลวกก็เพราะเธอไม่ฟังฉัน”
“ก็นายไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน พ่อก็ไม่ใช่พี่ก็ไม่ใช่”
“งั้นถ้าเป็นอะไรกันก็จะเชื่อเหรอไง”
ใบหน้าหล่อที่คลอเคลียอยู่ข้างกกหูเริ่มไล้มาตามซ้อกคอ พอแก้วได้จังหวะก็รีบหลบออกมาแล้วเดินไปหันมะเขือเทศต่อเพราะกะว่าจะทำซอสเองถึงเธอจะเป็นนางแบบมาก่อนแต่เรื่องอาหารเธอก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน
“นายเกะกะไปรอกินอย่างเดียวเหอะไป”
และเธอก็ได้ความเงียบเป็นคำตอบกลับมา โทโมะเดินนิ่งไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารไม่นานนักสปาเกตตี้ก็ส่งกลิ่นหอมชวนกินลอยออกมาแล้วตามมาด้วยจานสปากเกตตี้สองจานที่ถูกตกแต่งอย่างสวย แก้ววางมันตรงหน้าโทโมะหนึ่งทีแล้ววางที่หนาตัวเอง
“เชิญ...กินให้สะใจเลยนะ”
แก้วกืนมันอย่างเอร็ดอร่อยแต่โทโมะกลับไม่แตะสักคำ แก้วกินจนหมดแล้วจานโทโมะยังไม่ได้ถูกกินไปแม้แต่น้อยเลย
“ไม่กินก็ตามใจ ทำให้กินแล้วไม่กินเองมาโทษฉันไม่ได้นะ”
ลุกจากเก้าอี้ถือจานของตัวเองไปล้างแล้วจะเดินขึ้นห้อง
“แต่งตัวจะพาไปเที่ยว”
แก้วที่ได้ฟังว่าจะได้ไปเที่ยวก็เกิดอาการลิงโลดทันทีเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ก็เกือบเดือนแล้วเธอยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวจริงๆจังๆสักทีไปกี่ที่ก็เป็นอันต้องหนีหัวซุกหัวซุนตลอด หญิงสาวเดินลับตาไปแล้วสปากเกตตี้ที่เต็มจานก็ถูกคนขี้เก๊กกินจนหมด ออกมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกเป็นเวลานาน แก้วเดินลงมาด้วยชุดแซกที่ขาวคอวีที่ตั้งเป็นปกดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ โทโมะเห็นก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่รถ
“เราจะไปไหน”
“ตลาดน้ำ”
ก็ดีเหมือนกันเพราะไปห้างที่ไรเธอต้องวิ่งหนีทุกที ลองเปลี่ยนบรรยากาศเป็นตลาดน้ำบ้านๆดูมั่งไม่นานนักก็มาถึง
ตลาดน้ำสี่ภาค~
พอลงจากรถได้แกวก็เดินดูของไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจหุ่นยนต์ที่ตีหน้าเข้มเดินตามหลังอยู่ติดๆ เธอเลือกของอย่างเมามันเห็นอะไรสวยเป็นซื้อไปหมด
“น้องคะถ่ายรูปไหมคะ”
เสียงพนักงานเชิญชวนให้แก้วและโทโมะเข้าไปถ่ายรูปย้อนยุก
“อยากถ่าย”
แก้วบอกโทโมะเมื่อเห็ฯว่าโทโมะยืนทำหน้านิ่งอยู่หน้าร้าน
“นายช่วยทำให้ฉันรู้สึกว่ามากับคนหน่อยได้ไหม”
“อยากถ่ายก็ถ่ายสิ”
“จะถ่านเชินด้านในเลยนะคะ”
พี่พนักงานเดินต้อนแก้วและโทโมะเข้าไปในร้านพร้อมทั้งหาเสื้อผ้าย้อนยุกให้ทั้งคู่ใส่
“ตามองกล้องนะครับ”
แชะ~
แก้วอยู่ใยชุดเจ้านางทางภาคเหนือโทโมะก็เช่นกัน การถ่ายรูปเต็มไปด้วยความชุลมุนเพราะโทโมะห่วงหล่อชุดไหนไม่เนียบไม่ดีพอเค้าก็ไม่ใส่และเกือบจะมีปัญหากับคนถ่ายรูปอีกด้วยโชคดีที่แก้วห้ามทัพไว้ได้ทัน จึงรีบจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านทั้งที
“นายกินไหม”
ยืนถ้วยน้ำแข็งใส่สูตรโบราณมาให้ ถ้ากินแล้วไม่ชวนก็กระไรอยู่แก้วนึกว่าโทโมะเดินตามมาข้างหลังแต่พอกันมาชวนคนที่ควรจะเป็นโทโมะกลับเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่สูงเท่าไหร่นักแต่ที่เดาออกเลยก็คือหน้าตรที่ออกไปทางญี่ปุ่น
“ไปกับฉัน”
“ไปไหน ไม่เอาไม่ไปนะ”
ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วดันตัวแก้วให้ถอยไปเรื่อยๆจนกลายเป็นว่าแก้วเดินไปตามทางที่เค้าบอกจนได้
“ไอ้เคน!!นั่นของฉันแกอย่ามายุ่ง”
เสียงทรงพลังของโทโมะดังมาจากข้างหลัง แก้วพยายามจะขืนข้อมือออกจากเคนตะให้ได้ แต่ก็ต้องตกใจเพราะเคนตะปล่อยมือเธออย่าง่ายดาย
ปึง ปัง โคร่ม คราม!!
แค่กระพริบตาโทโมะก็มายืนอยู่ตริงหน้าใช้มือจับเข้าที่ข้อมือเคนตะเพื่อจะพลิกแต่ใครจะไปยอมหล่ะจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ทั้งสอคนสู้กันจนแม่ค้าที่ขายของยกแพงหนีกันเลยทีเดียวยังไม่มีใครพลาดท่าทั้งสิ้น
“ไปเร็ว”
โทโมะรังข้อมือบางแล้วบอกให้วิ่ง ตอนนี้เธอกับโทโมะวิ่งไปรอบตลาดน้ำเพื่อหลบหลีกคนที่ตามมาอีกเป็น10คน ร่างบางของแก้วเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบ
“แฮก~ทำไมนายไม่สู้ไหนเค้าว่าเก่งหนักหนาไง”
“ถ้าฉันตัวคนเดียวไม่มีทางทีจะวิ่งหรอก แต่นี้มีเธอ”
พูดไปวิ่งไปทำให้แก้วเหนื่อยจนแทยขาดใจ โทโมะวิ่งหักหลบเลี้ยงไปในซ้อยแคบๆของตลาดดีที่มือดึงแก้วไว้ไม่งั้นแก้วคงวิ่งเลยไป ผ่านร้านที่ขากของทะเลสดๆทั้งปลาทั้งหอยถูกชายหนุ่มจับมันคว่ำลงละแลงกับพื้นแล้วควักเงินในกระเป๋ามาจ่ายค่าเสียหาย แก้วต้องข้างไปถึงแม้ว่าเธอจะมีช่วงขาที่ยาวแต่อย่าลืมว่าตอนนี้ขาเธอแทบจะไม่มีแรงก้าว เธอย้ำไปที่กองอาหารทะเลเต็มๆ โทโมะถึงกับสายหน้า
“เธอนี่จริงๆเลย”
อุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่าก่อนจะออกวิ่งอ้อมไปทางหลังตลาดเพื่อจะวิ่งกลับมายังรถที่จอดอยู่ข้างหน้า แก้วหอบหนักจนตาลายเปลือกตากำลังจะปิด
“เวลาเหนี่อยห้ามหลับนะ”
“ฉันไม่ไหวอากาศมันไม่พอจะหายใจ”
รูม่านตาเริ่มหรี่เล็กลงเรื่อยๆโทโมะตวัดร่างที่พาดบ่าอยู่มาเป็นอุ้มแทนริมฝีปากเรียวสวยถูกทาบทับด้วยปากของโทโมะ ขาก็ยังก้าวเดินอย่างเร็วปากก็ประกบลงที่ปากเรียวสวย ออกแรงเป่าปากเพิ่มอากาศให้แก้วซ้ำกันอยู่หลายรอบจนแก้วมีอาการดีขึ้น เดินมาถึงรถจับร่างบางให้นอนเอนลงบนเบาะหลังส่วยตัวเองก็นั่งที่คนขับก่อยจะออกตัวรถอย่างรวดเร็ว แต่ไม่วายที่จะโดนขับรถจี้ตามมาติดๆ
 
 
 
 
........................................................................อัพแล้วนะคะเม้นๆโหวดให้ทีค๊าบบบบ ~
รักลีดเดอร์มากๆเม้นเยอะอัพเร็วนะคะ~

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา