The Gypsy Death...ต่อให้ตายยังไงก็รัก
2) Judgment
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่2 Judgment
“Judgment, The Sun ,Ace of Cups, King of Pentacles, 10 of Cups, 8 of Swords, 3 of
Swords, และThe World”
ไพ่ที่เหลือทั้งหมดถูกบอกชื่อแก่หญิงสาว เธอออกจะงงนิดนึ่งเธอดูไพ่ไม่เป็นจะให้เข้าใจความหมายเพียงเพราะ
แค่ได้ยินชื่อคงลำบากหน่อย
“บอกมาเลยว่าแปลว่ายังไง”
“คือสิ่งที่ไม่คาดฝันจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า แกจะพบจุดพลิกของชีวิตอะไรที่คิดว่าจะไม่ได้เจอก็ต้องเจอ อะไรที่ไม่
เคยคิดว่าตัวเองจะได้ก็จะได้มันมาอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันจุดพลิกของแกก็เป็นเรื่องที่ดี จะลำบากทุกข์
ทรมานในคราวแรกแต่สุดท้ายทุกอย่างจะดีขึ้น ชีวิตแกจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด เรื่องเงินทองก็โอเคไม่มี
อะไรเท่าไหร่แต่ที่สำคัญแกจะต้องพลัดพรากแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพลัดพรากจากอะไร แต่ไพ่ใบสุดท้ายบอกว่าเรื่อง
ทั้งหมดมันคือจุดสูงสุดของชีวิต”
อะไรกันเรื่องอะไรมากมายที่เธอจะต้องเผชิญ นับจากวันนี้ไปคงต้องรอดูว่าที่เฟย์ทายไว้จะแม้นยำมากแค่ไหน
เฟย์กวาดไพ่มารวบเก็บเข้าสำรับแล้วมองจ้องมายังหน้าเพื่อนสาวเพื่อมองอย่างเต็มตา
“มองฉันทำไม มีอะไรเปล่าเนี่ย”
“ก็มองแกไงเผื่อว่าวันนึ่งเราไม่ได้เจอกันอีก”
เฟย์ตอบแบบมีเงื่อนง่ำทำให้แก้วและฟางมองหน้ากันงงไปกันใหญ่ คนที่พวกเซนส์แรงจะเป็นแบบนี้ทุกคนรึไงนะ
ท่าทางที่ดูเหมือนรู้อะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมบอก
“เฟย์...แกเป็นไรมากไหมรู้อะไรก็บอกมา”
ฟางถามเมื่อเห็นว่าเฟย์ยังคงจ้องหน้าแก้วแบบไม่วางตา
“บ้าฉันจะไม่รู้อะไรหล่ะก็พูดไปงั้นๆ”
“อืมๆ...ฉันว่ามันไม่มีอะไรหรอก เราก็เป็นแค่นางแบบคนหนึ่งคงไม่ได้มีโอกาสไปผจญกับเรื่องราววุ้นวายที่
ยัยเฟย์ว่าหรอก แต่ที่รู้ตอนนี้คือต้องนอนก่อนยัยเฟย์ฉันกับฟางนอนนี้เลยนะตีสี่แล้วไม่อยากกลับบ้าน”
“เอางั้นก็ได้ตามใจแล้วแกแล้วไม่ไปดูดอล์ล่าลูกแกหน่อยเหรอเห็นบ่นๆว่าไม่ได้ให้อาหารทิ้งไว้ไม่ใช่ไง”
เธอลืมไปสนิทเลยว่าลูกสุดรักของเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย คราวแรกเธอกะว่าจะมาเดินแบบแล้วกลับไปให้
อาหารแต่ว่าเวลามันล่วงเลยมาจนป่านนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ คงจะนั่งรอเธออยู่หน้าประตูบ้านแล้วแน่ๆ ที่บ้านก็
ไม่มีใครเธออยู่คนเดียวพ่อและแม่ก็อยู่เมืองนอกกันหมด
“งั้นยัยฟางนอนนี้ไป ฉันกลับไปดูดอล์ล่าก่อนจะดีกว่า”
“ไปดีๆหล่ะฟางเป็นห่วง แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
แก้วตัดสินใจขับรถกลับบ้านเพราะเป็นห่วงลูกตัวน้อย เธอก้าวเดินไปที่รถอย่างรวดเร็วระหว่างทางก็เกิดคิดได้ว่า
ที่บ้านไม่มีกับข้าวอะไรเลย คงต้องแวะที่ปั๊มเพื่อจะหาซื้อไส้กรอกไปให้ดอล์ล่า รถจอดสนิทอยู่หน้าร้านสะดวก
ซื้อภายในปั๊มน้ำมัน
“เอาเบอร์เกอร์ไก่ ไส้กรอ...”
ปัง ปัง!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”
ไม่ทันที่เธอจะสั่งจบเสียงโลหะหนักก็พุ่งแหวกอากาศตัดหน้าเธอไปเพียงนิดเดียว ภาพชายคนหนึ่งกำลังถูกไล่ยิง
จากกลุ่มคนถึงห้าคน แก้วได้แต่นั่งหมอบลงกับพื้นแล้วคลานเข้าซุกอยู่ใต้เคาน์เตอร์
ปัง ปัง ปัง!!
ฉึก!!
“โอ๊ยยย”
“จับไว้เร็วคาร์เทลยิงมันโดนแล้ว”
เสียงแรกเป็นเสียงของชายหนุ่มที่กำลังวิ่งหนีอยู่ถูกคมกระสุนฝั่งเข้าที่ต้นแขนด้านซ้าย แม้ว่าจะโดนยิงแต่ขาก็
ยังคงขยับวิ่งไปอย่างต่อเนื่อง อีกฝ่ายที่เยอะกว่ายังคงไล่ล่าไม่เลิกยิ่งรู้ว่าคนที่ตามล่าถูกยิงก็ยิ่งหึกเหิมใหญ่
เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นดังสนันไปทั่วทั้งร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่นานนักเสียงพวกนั่นก็จางหายไป แก้วยกมือ
กุ่มหน้าอกเมื่อสามสี่นาทีที่ผ่านมาเธอรู้สึกได้เลยว่าหายใจไม่ทั่วท้องเลย ตอนนี้ทุกอย่างกลับเข้าสู่สถานะการ
ปกติแล้วเธอค่อยๆยืนขึ้นแล้วขว้าของที่เคาน์เตอร์วางเงินไว้จำนวนหนึ่งแล้วเดินออกไปที่รถของเธอทันที
“อยู่ต่อไม่ปลอดภัยแน่”
พูดกับตัวเองเหมือนจะบอกกับตัวเองว่าไม่ควรอยู่ที่นี้นานนัก พักนี้เธอยิ่งดึงดูดความโชคร้ายอยู่ ก้าวขึ้นรถได้ก็
ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
คลุ่ก คลั่ก~
เธอยังขับรถด้วยความรีบร้อนจนไม่ทันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
คลุ่ก คลั่ก~
มือบางที่กำลังจะกดปุ่มปลดล๊อกรถยนต์เป็นต้องชะงักอย่างทันที เสียงความเคลื่อนไหวนั้นดังมาจากเบาะหลังเธอ
ไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่กระจกเพื่อมองดูว่าต้นทางของเสียงที่เธอได้ยินคืออะไร
คลุ่ก คลั่ก~
เอาอีกแล้วเสียงนั่นยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
“Help meeee~”
เสียงที่ขอความช่วยเหลือดังขึ้นเธอไม่รอช้ารีบหันไปดูทันทีว่าใครเป็นคนพูด ดวงตาเบิกกว้างออกรูม่านตาถูก
ขยายขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นตกใจเพียงใด ร่างชายคนหนึ่งที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงสด ใบหน้าหล่อเหลาที่
กำลังบูดบึ้งเพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ต้นแขนซ้าย
‘ผู้ชายในร้านคนนั้น’
เธอจำได้ ใช่เค้าคนนั่นหล่ะและตอนนี้เค้าก็อยู่บนรถเธอเสียงร้องขอความช่วยเหลือแผ่วเบาแก้วตกใจจนทำอะไร
ไม่ถูก ได้แต่ชะโงกเข้าไปดูเค้าใกล้ๆ ตอนนี้เธอจิตใต้สำนึกได้แต่ร้องตะโกนบอกเธอในใจว่าไม่ว่าเค้าคนนี้จะ
เป็นใคร ยังไงเธอก็ต้องช่วยเค้า เห็นแก่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเธอค่อยๆพยุงร่างสูงเข้าบ้านไปวางลงบน
เตียงกว้าง ดอล์ล่าที่เดินตามาติดๆทำท่าจะงับเข้าที่ชายหนุ่ม
“อย่านะดอล์ล่า เค้าบาดเจ็บ”
ร้องห้ามเมื่อลูกของเธอจะกระโจนเข้าไปหาร่างสูง เพียงแค่ได้ยินคำสั่งนั่นก็หยุดแล้วนั่งลงหมอบที่พื้นทันที
ชายหนุ่มสลบไปเพราะพิษบาดแผลเธอถอดเสื้อเค้าออก บาดแผลที่แขนเต็มไปด้วยเลือดจนไม่สามารถเดาได้เลย
ว่าปากแผลมีขนาดใหญ่มากแค่ไหน แผงอกขาวเประเปื้อนไปด้วยเลือดสดๆ เธอลุกไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้
ก่อนเว้นไว้แต่บาดแผลนั่น เช็ดตัวเสร็จแล้วค่อยเช็ดลงไปที่บาดแผลอย่างเบามือที่สุดเลือดถูกน้ำชะลางออกจน
หมดเหลือก็แต่บางส่วนที่ยังคงรินไหลออกมาจากบาดแผลไม่ยอมหยุด เค้าต้องไปหาหมอเพื่อจะผ่าเอากระสุนนั่น
ออกและถ้าไม่ไปรับรองได้ว่าเลือดจะต้องไหลจนหมดตัวแน่ แพขนตาหนากระพริบถี่ๆก่อนที่ดวงตาคมดุจเหยี่ยว
จะเปิดขึ้นแล้วมองมายังเธอ
“tetsudatte kurete arigatoo”
นั่นเค้ากำลังพูดภาษาอะไรใส่เธอหน่ะถ้าจำไม่ผิดคงจะเป็นญี่ปุ่น เธอพยายามรื้อฟื้นภาษาญี่ปุ่นที่เธอได้เรียนเมื่อ
สมัยอยู่มหาวิทยาลัย ถ้าจำไม่ผิดเค้าบอกว่าเค้าขอบคุณเธอ
“ไม่เป็นไรคะ คุณเป็นไงบ้าง”
เธอฟังออกแต่พูดไม่ได้หนิจะให้ตอบยังไงเธอก็เลยพ่นภาษาไทยใส่เค้าไป เห็นเค้าทำหน้าเรียบๆไม่แสดงว่ารู้สึก
อะไรสงสัยคงจะฟังไม่ออกแน่ๆ
“Not at all.”
เมื่อไทยฟังไม่ออกอังกฤษก็น่าจะรู้เรื่องนะ ผู้ชายคนนั่นนอนลืมตาเงียบๆอยู่สักพักลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาทาง
หน้าต่างที่แง้มเปิดไว้
ปึง!!
“หนีเร็ว”
เค้าพูดภาษาไทยได้แถมชัดเจ๋วอีกด้วย ยังไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผลอะไรมือบางก็ถูกมือหนาขว้าแล้วพาพุ่ง
กระโดดออกไปทางหน้าต่าง มองไปยังหลังคาบ้านที่มือคนชุดดำเดินกันเกลื้อนไปหมดนี่มันเรื่องอะไรกันบ้านเธอ
กลายเป็นสถานที่สาธารณะไปได้อย่างไร มือหนากระตุกให้เธอออกวิ่งอีกครั้ง
ปัง ปัง!!
“มันอยู่ทางนั้น!!”
“เราต้องไปจากที่นี้ ไปเร็ว”
เธอออกวิ่งตามเค้าจนเหนื่อยหอบ หญิงสาวเคยแต่เดินเฉิดฉายอยู่บนแคทวอร์ก ไม่เคยต้องมาวิ่งหนีห่ากระสุน
อย่างนี้ความเหนื่อยอ่อนทำให้ขาเธอแทบไม่มีแรงจะก้าว ทั้งระบมทั้งล้าไปหมด ร่างสูงหยุดวิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง
ก้มลงอุ้มร่างบางพาดไว้บนบ่า ตอนนี้เค้าทั้งวิ่งทั้งอุ้มเธอไปในเวลาเดียวกัน วิ่งมาได้ประมาณสัก500เมตรเห็น
จะได้มือข้างซ้ายที่เจ็บหนักก็ขืนล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วล้วงมือถือขึ้นมากดอะไรบ้างอย่างแล้วยกขึ้น
แนบหู
“419/1 ลาดพร้าว จตุจัตร ด่วนที่สุด!!”
เค้ากรอกเสียงลงไปในสาย แก้วฟังแล้วก็รู้สึกคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก
‘นั่นมันบ้านเลขที่ฉันหนิ เค้ารู้ได้ไง’
คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบเพราะไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกมา เค้าเป็นใคร ชื่ออะไรแล้วทำงานอะไรเป็นงานผิด
กฎหมายรึเปล่า ทำไมต้องโดนไล่ล่าขนาดนี้ด้วย ได้แต่คิดเท่านั้นเค้านิ่งมากๆแม้ว่าเหตุการณ์จะน่าหวั่นกลัว
เพียงไร นี้เค้ารู้สึกอะไรบ้างไหมนะว่าเค้ากำลังไม่ปลอดภัยแก้วไม่เห็นว่าเค้าจะรู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด ตอนนี้
ทั้งเค้าและเธอกำลังนั่งอยู่ใต้พุ่มไม้ริมถนนหน้าบ้านเธอเอง เพียงแค่สองนาทีถัดมาเห็นจะได้ เบนซ์คันหรูก็จอด
เทียบที่ตรงหน้าเธอ เค้าอุ้มเธอพาดบ่าอีกครั้งแล้วพาขึ้นรถไปด้วย รถแล่นออกจากที่นี้ไปอย่างรวด
เร็ว……………..
เสียงคนชุดดำนั่นยังตะโกนโหวกเหวกโวยวายไม่เลิก
“มันไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง มันคงต้องยังอยู่แถวนี้แน่”
“คาร์เทล...ไม่ทันแล้วตอนนี้ไอ้ป๊อปปี้คู่หูตัวแสบมาพาตัวมันไปแล้ว”
ปึง!!
“โธ่โว้ย!”
สบถเสียงดังออกมา กวาดข้าวของในบ้านแก้วจนราบเป็นนาดกลอง ก่อนจะพากันกลับไป
...........................................................................................................................................
อัพแล้วนะคะฝากด้วยคะ ใครเข้ามาอ่านก็เม้นๆโหวดๆให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ
งงกันอยู่ไหมเอ่ย??สนุกบ้างไหม?? นอมรับทุคำติค๊าบแต่ว่ายังเหมือนเดิมค๊าบถ้าอยากอ่านต้อง......................
ทุกเม้นของลีดเดอร์คือกำลังใจของไรเตอร์นะ
รักลีดเดอร์จ๊วฟฟม๊วฟฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ