The Gypsy Death...ต่อให้ตายยังไงก็รัก

9.1

เขียนโดย tietang

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.14 น.

  24 ตอน
  981 วิจารณ์
  45.19K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

10) หนี~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“พอรึยังจะได้กลับ”

 

 

เธอชะงักไปนิดนึ่ง คนอะไรช่างใจร้ายใจดำเสียไม่มีเด็กน้อยกำลังจะร้องไห้เค้าก็ยังยืนยันจะกลับให้ได้

 

 

 

“ลูกน้ำพี่ไปก่อนนะ แต่พรุ่งนี้พี่จะมาหานะ”

 

“สัญญานะคะพี่สาวคนสวย”

 

 

แก้วยิ้มตอบแล้วส่งยิ้วก้อยไปเกี่ยวไว้ ลูกน้ำยิ้มออกมาแล้วโผ่เข้ากอดเพื่อสั่งลา พอลาจบ แก้วก็เดินหันฟัดหัว

เหวี่ยงตรงไปยังรถเลยไม่ทันได้ลาลุงกับป้าปล่อยให้คนดีตีสองหน้าลาไปคนเดียว ไม่นานนักโทโมะก็กระโดดขึ้น

มานั่งที่คบขับแล้วรถก็ออกตัวภายในถเงียบสงัดราวกับไม่มีใครอยู่เค้าเอาแต่มุ่งมันในการขับรถ

+

+

+

 

“ไปไหนมาว่ะคนตามหากันไปทั่ว”

 

 

ป๊อปปี้ที่นั่งอยู่กลางบ้านเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นโทโมะเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาว เธอเดินขึ้นไปบนห้องปล่อยให้สอง

คนนั่นคุยกันไปตามสบายเห็นแล้วมันทนไม่ได้คนอะไรใจดำ!! นอนลงบนเตียงกว้างกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วก็อดนึกถึง

เด็กตัวน้อยๆไม่ได้ทำอย่างไรดีนะถึงจะได้ออกไปหา

 

 

“นายหญิงค่ะเชิญลงไปทานข้าวคะ”

 

“คะ เอิ่มป้าคะแก้วมีอะไรให้ช่วยหน่อย”

 

 

เรียกไว้ขณะที่ป้าแม่บ้านจะเดินกลับไป

 

 

“คะ นายหญิง”

 

“แก้วอยากยืมโทรศัพท์ป้าสักหน่อยจะได้ไหมคะ”

 

 

ทีแรกป้าก็ไม่ยอมแต่พอแก้วควักแบงค์พันออกมาให้ ป้าแกก็หยิบออกมาจากกระเป๋าให้ทันที แก้วยิ้มกว้างแล้วกด

เบอร์เพื่อนรักอย่างรวดเร็ว

 

 

“ฟาง แก้วเองนะ”

 

(ยัยแก้ว!!แกอยู่ที่ไหนฉันกับยัยเฟย์ตามหาไปซะทั่วเลย)

 

“แกๆ มาหาฉันที”

 

(ตกลงว่าแกโดนจับตัวไปเหรอ แล้วจะให้ไปหาที่ไหน)

 

“ที่XXX นะมาแล้วซื้อมือถือมาให้ฉันด้วย อ๋อแล้วแวะไปเอาดอลล่าให้ด้วยนะ”

 

 

 

แก้วรีบวางสายลงเพราะได้ยินเสียงเดินขึ้นมา พร้อมกับเจรจาขอยืมอีกวันหนึ่งหลังจากที่ฟางมาแล้วเธอจะรีบคืนให้

ทันที แต่ไม่มช่ว่าจะได้มาง่ายๆเธอต้องเสียเงินไปอีกหนึ่งพันรวมๆแล้วกว่าจะได้ไอ้เจ้าโนเกียเครื่องนี้มาใช้ก็โดน

ไปสองพันแถมไม่ได้ใช้ถาวรอีกต่างหาก โนเกียรุ่นนี้แพงจริงๆ ตกลงกันได้โทโมะก็เดินเข้ามาพอดี

 

 

 

“กินข้าว”

 

“รู้แล้วน่า  แต่ไม่หิวนายกินเลยแล้วก็ไปทำงานเลยก็ได้นะฉันจะนอน”

 

 

โทโมะมองเหมือนไม่เชื่อเดินเข้ามาใกล้ สายตาคมดุจเหยี่ยวเหลือบมองไปที่ป้าแม่บ้านเพียงไม่ถึงสามวินาทีป้า

แกก็เดินออกไปโดยอัตโนมัติ ร่างสูงเดินขยับเข้ามาเรื่อยๆจ้องลึกลงไปที่แววตาสวยเหมือนจะค้นหาอะไรบ้างอย่าง

แก้วหลบลาเลิกลัก

 

 

“มีพิรุด”

 

“มียังไงนายบ้า คิดมากเกินไปแล้ว”

 

 

สายตาที่ดูเลิกลัก พอตั้งสติได้ก็จ้องกลับอย่างเอาเป็นเอาตาย วันนี้เป็นไงเป็นกันก็แค่มองตาของมาฟียมันคงจะไม่

ตาย ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องหาทางออกไปข้างนอกให้ได้ เค้าจะมากักกันเธอไม่ได้ไปไหนก็ต้องไปกับคนของ

เค้า เธอไม่ชอบสักเท่าไหร่ และอีกอย่างถ้าเธอไปเงียบๆคนของเคนตะจะรู้ได้ไงคนพวกนั้นไม่ใช้หมานิจะได้จมูก

ไว

 

 

 

“ขอดูหน่อยว่าโกหกรึเปล่า มีอะไรแอบแฝงไหม”

 

 

โน้มใบหน้าลงมาเรียวปากประทับแนบสนิทปากเล็กอย่างรวดเร็ว ดวงตาเบิกกว้างออกอย่างเต็มที่ด้วยความตกใจ

แต่ยิ่งเผลอเหมือนคนอีกคนจะยิ่งได้ใจสอดลิ้นอุ่นๆเข้ามาแล้วเกี้ยวกระหวัดซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายลอบจนเธอจะขาด

อากาศหายใจ เมื่อถูกปลดปล่อยก็หอบหายใจถี่รั่วนี้หรือวิธีตรวจสอบคนโกหก

 

 

“ทำบ้าอะไรของนาย”

 

“แค่อยากจูบก็เท่านั่น”

 

“ไหนบอกว่าตรวจโกหกไง”

 

 

คนตัวโตกว่ายิ้มน้อยๆแล้วหมุนตัวเดินออกไป เอาอีกแล้วเวลาเธอถามอะไรทำไมเค้าไม่อยากจะตอบเลยก็ไม่รู้กลัว

ว่าดอกพิกุลมันจะร่วงรึยังไง แต่เธอก็ไม่สนตอนนี้ได้รับสายจากเพื่อนรักแล้วว่ามาจอดรถรออยู่ที่ถนนด้านหลังที่อยู่

ติดกับกำแพงบ้าน ที่นี้ก็เป็นหน้าที่หญิงสาวที่จะหาทางออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้มันไม่ง่ายเอาซะเลยเพราะที่นี้

คนยืนเต็มไปหมดไม่รู้จะไปทางไหนดี เดินออกมายืนลับๆล่อๆอยู่ที่บริเวณกำแพงหลังบ้าน

 

 

 

“นายหญิงครับ”

 

 

แก้วสะดุงตัวโยนเมื่อมีเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง เธอค่อยๆหันหลังไปยืมแบบฝืดๆให้ก่อนจะเก๊กเสียงให้ขรึมเข้า

ไว้

 

 

“เรียกฉันทำไม”

 

“จะไปครับนายหญิง”

 

“ใครจะไปไหนฉันก็เดินเล่น ถ้าขืนยังมาจับผิดฉันอีกโทโมะกลับมาฉันฟ้องแน่ว่านายจุ้นจ้าน”

 

“ขอโทษครับนายหญิง”

 

“งั้นก็ออกไปฉันจะนั่งเล่นตรงนี้อย่าให้ใครเดินเข้ามา รำคาณ”

 

 

ไล่ออกไปแล้วก็มาแอบขำคนเดียวเธอไม่เคยลองเล่นอะไรแบบนี้มาก่อนเป็นแต่นางแบบเดินเฉิดฉายอยู่บนแคท

วอร์กแต่วันนี้ได้มาเล่นละครแถมยังจะได้ลองปีนกำแพงอีกด้วยมองซ้ายทีขวาทีเห็นว่าไม่มีใครเดินผ่านมา มือบาง

ถกแขนเสื้อมาให้ดูถมัดแถมงที่สุดปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่อยู่ข้างๆกำแพง ด้วยความที่ขายาวเลยทำให้เธอไม่ลำบาก

เท่าไหร่นัก ปีนแล้วขึ้นไปนั่งอยู่บนขือกำแพงไม่ยอมลง มัวแต่มองหน้าเพื่อนรักที่มายืนรออยู่

 

 

“ลงมาได้แล้วยัยแก้วเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น”

 

 

ฟลุบ~

 

“ใคร!”

 

 

เสียงทุ้มดังเข้ามาจากข้างในกำแพงก่อนจะตามมาด้วยร่างแข็งแรงที่ปีนกำแพงตามออกมาดู

 

 

“คุณมาทำอะไรแถวนี้”

 

“คือเอ่อ คือฉันหลงทางหน่ะคะ”

 

 

แก้วไหวตัวทันหลบเข้าไปในรถก่อนที่ป๊อปปี้จะปีนกำแพงตามออกมา ฟางเลยต้องทำหน้าที่เป็นคนรับหน้าแทน

 

 

“แล้วจะไปไหนครับ”

 

“เอ่อ คือเอ่อ”

 

“ตกลงจะไปไหนครับ”

 

“ไม่รู้คะลืมไปแล้วว่าจะไปไหน พอดีมีแผนที่แล้วทำมันหายก็เลยไปไหนไม่ถูก”

 

 

ท่าทางที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆทำให้ป๊อปปี้นึกเอ็นดูอยู่ในใจ ดวงตาใสๆของฟางทำให้ป๊อปปี้ยิ้มออกมาอย่างหลงไหล

เจอกันแค่ครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกคนตัวเล็กตรงหน้ามีเสน่ห์มากจริงๆ

 

 

“มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ไหมครับ”

 

“ทางที่ดีอย่างช่วยเลยจะดีกว่าคะ เฮ้ยไม่ใช้ๆคะคือฟางบอกว่าแบบว่าอะเอิ่ม”

 

 

ร้อนรนเมื่อพูดผิดไปสมองไม่ย่อมสั่งการทำให้เธอแสดงอาการณ์เอ๋อๆออกไป แต่เค้ากลับคิดว่ามันน่ารักไปอีกแบบ

 

 

“ใจเย็นๆก็ได้ครับ”

 

“แฮ่ๆคะ คือขอบคุณมากนะคะที่ช่วยแต่เดี๋ยวฟางโทรให้คนมารับไปจะดีกว่าคะ”

 

“แน่นะครับว่าจะไปถูกแล้ว”

 

“คะขอบคุณมากคะคุณ...”

 

“ป๊อปปี้ครับ”

 

 

ความเอ๋อของเธอละลายความเงียบขรึมไปจนหมดสิ้นแนะนำตัวไปแล้วก็ยิ้มหวานให้อีก ฟางก็ได้แต่ยืนเขินไม่รู้

สาเหตุแล้วทำไมต้องคุยต่อความยาวสาวความยืดด้วยเธอควรจะรีบๆออกไปซะเพราะว่าเพื่อนเธออาจจะไม่

ปลอดภัยก็เป็นได้ แต่ก็แปลกผู้ชายที่ชื่อป๊อปปี้ยิ่งคุยยิ่งสนุกไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เค้าเรียกว่าอาการตกหลุมรัก

รึเปล่านะ

 

 

 

“คะ งั้นฟางไปก่อนนะคะคุณป๊อปปี้”

 

“ครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ”

 

“เช่นกันคะ”

 

 

 

เสยผมแล้วหมุนตัวรีบเดินเร็วปรื้อขึ้นรถไป ไม่ทันได้สังเกตุว่าตอนที่เธอลูบผมกิ๊บติดผมลู่หลุดออกมาด้วย ป๊อปปี้

ก้มลงเก็บขึ้นมาดูกิ๊บสีชมพูอ่อนเป็นรูปกระต่ายตาโตน่ารักมันช่างเหมือนกับเจ้าของจริงๆ

 

 

 

“ไอ้ป๊อป!!ไปทำอะไรข้างนอกไอ้โมะมันเรียกหาอยู่”

 

“เออๆไปแล้ว”

 

 

เสียงเขื่อนเรียกข้ามมา ป๊อปปี้ออกจะงงๆเพราะเมื่อไม่กี่นาทีโทโมะพึ่งออกไปจากบ้านเองแต่กลับมาพร้อมเขื่อน

อีกทำไม เก็บกิ๊บไว้ที่กระเป๋าเสื้อแล้วกระโดดข้ามกำแพงกลับไป

 

 

+

+

+

 

 

“แกคุยอะไรกับป๊อปปี้นานนักหนาฉันหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว”

 

 

พอขับรถทิ้งช่วงห่างออกมาได้แก้วก็เริ่มบ่นอ้อมแอม

 

 

“ก็เออ...ช่างเหอะ”

 

“ไม่ใช่ไปหลงรักป๊อปปี้เข้าหล่ะ”

 

 

ฟางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่าเดียวและชวนคุยเรื่องอื่นแก้วก็ยังบ่นไม่เลิก แต่บ่นได้ไม่เท่าไหร่สุนัขตัวโปรดก็กระโจนเข้า

มาหาแก้วดีใจกอดกแน่นจนมันดิ้นคลุกคลักไปทั่งรถ

 

 

“คิดถึงจังเลยดอล์ล่า มาอยู่กับม๊านะ”

 

 

บอกกับสุนัขที่นอนซบนิ่งอยู่ที่ตักหลังจากที่ดิ้นดีใจอยู่นาน มือบางลูบลงไปที่หัวอย่างรักใคร่ สุนัขขี้อ้อนก็ซุกหัว

ของมันไปที่ตักอย่างน่ารักก็มันนิสัยอย่างงี้ไม่ว่าใครเห็นก็ชอบ

 

 

“ว่าแต่แกไปอยู่ที่นั้นได้ไง ฉันงงอยู่ๆแกก็หายไป”

 

“คืนนี้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง แล้วยัยเฟย์ไปไหนอะ”

 

 

มีงานเดินแบบตอนเช้า แต่นี้ก็เย็นๆแล้วเดี๋ยวไปรับเฟย์ด้วยกันเลย”

 

หักพวงมาลัยมุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆรถจอดสนิทอยู่ที่งานเดินแบบริมชายหาด

 

 

“พัทยา”

 

 

 

 

 

...................................................................................................................

 

มาอัพแล้วนะค๊าฝากด้วยคะอ่านแล้วเม้นๆโหวดๆให้หน่อยค๊าบบ

 

รักลีดเดอร์จ๊วฟม๊วฟเม้นและโหวดแล้วตอนต่อไปจะมาจ๊า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา