Fiction Rewrite
9.3
2) My heart is all your ...THE END
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความMy heart is all your(หัวใจผมเป็นของคุณ)...THE END
ผ่านมาประมาณสัก 4 เดือนเห็นจะได้ ที่ทั้งคู่ต้องทนใช้ชีวิตอย่างอัตคัด แต่มันก็ล้นเปี่ยมไปด้วยความสุข การได้อยู่กับคนที่รัก...ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่เหมือนตอนที่เธอเป็นคุณหนู อยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ มีคนใช้รายรอบ แทบไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไรเลย....
นั้นไม่ใช่ปัญหาของเธอกับเขา อย่างน้อยก็ตอนนี้....
มือบางกำลังขย้ำขยี้เสื้อผ้ากับผงซักฟอกที่กัดผิวมือของเธออย่างสะเปะสะปะด้วยความไม่เคยชิน เธอตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงซะ เธอต้องช่วยเหลืองานบ้าง ไม่มากก็น้อยจะปล่อยให้เขาทำคนเดียวได้อย่างไร เธอไม่ใช่คุณหนูจริญญาอีกต่อไป ตอนนี้ฐานะของเธอเท่าเทียมกับเขาแล้ว
เป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีสมบัติอะไรติดตัว!
“โอ๊ย~แสบ...” แก้วร้องขึ้นเมื่อน้ำผงซักฟอกกระเด็นเข้าดวงตา แถมยังเผลอไผลลืมไปว่ามือที่เธอใช้ขยี้ตาหวังจะลดอาการแสบมันเปื้อนผงซักฟอกอยู่
“แก้ว!....”
“โทโมะ...แก้วแสบ..ฮึก”ดวงตาเรียวที่ปิดสนิททำให้แก้วไม่สามารถบอกเห็นใครได้ เธอได้ยินแต่งเพียงเสียงของชายคนรัก พร้อมสัมผัสจากเขา
โทโมะที่พึ่งกลับจากการทำงานรีบวิ่งเข้ามาดูอาการแก้วด้วยความเป็นห่วง เขาคว้าข้อมือแก้วเอาไว้พลางล้างหน้าล้างตาให้อย่างสะอาดหมดจดและบอกให้แก้วลืมตาในน้ำเสีย อาการแสบจะได้ทุเลาเบาบาง..
“ลืมตาในน้ำนะ....เดี๋ยวก็หายแสบครับ”
“อืม”
“....”
“ดีขึ้นบ้างหรือยัง?” เขาเอ่ยถามเมื่อหาแก้วเข้ามานั่งพักตรงชานหน้าบ้าน พลางใช้ผ้าสะอาดเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าหญิงสาวออกจนเกลี้ยงเกลา เธอนี่ชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่ร่ำไปเสียจริงๆ
“ไม่แสบแล้วล่ะ”
“ทำๆไม? โทโมะบอกให้นางฟ้าอยู่เฉยๆ ไม่เชื่อกันเลย”
“ไม่ได้หรอกนะโทโมะ....แก้วจะไม่เชื่อโทโมะอีกแล้ว เราเป็นอะไรกัน? แก้วขอถามหน่อย”ดวงตาเรียวของแก้วจับจ้องอย่างคาดคั้นที่จะเอาคำตอบจากเขาเสียให้ได้ อีกฝ่ายนิ่วหน้าไปพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผิดหรือที่เขาอยากให้แก้วสบาย...
ผิดหรือที่ไม่อยากให้เธอลำบาก...?
“เราเป็น...สามีภรรยา แต่นางฟ้า....โทโมะเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำไมนางฟ้าดื้อแบบนี้”
“ผิดแล้ว...โทโมะไม่รู้จักคำว่าสามีภรรยาดีพอ รู้ไหม?...ภรรยาคืออะไร?”
“.....”
“ภรรยาคืออีกครึ่งนึงของสามี การที่เรารักกันมันคือการเติมเต็มอีกครึ่งของกันและกัน นั่นหมายความว่าเราต้องช่วยกัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนนึงต้องแบกรับภาระอยู่ฝ่ายเดียว แก้วไม่เห็นแก่ตัวมากพอหรอกนะ...”
เขาเข้าใจเหตุผลของเธอ...ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะขอร้องให้เธอเห็นแก่ตัวจะดีกว่า รู้ใช่ไหม?ว่าเธอสุขภาพไม่แข็งแรงพอ
“แต่แก้ว...”
“ขอร้องละ งานบ้านเล็กๆน้อยแก้วทำได้ มันไม่ทำให้แก้วหัวใจวายตายหรอกน่า”
“เฮ้อ โอเคครับ แต่แก้วอย่าทำอะไรที่เกินกำลังรู้ไหม? แค่นี้โทโมะก็เป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว”เขาลอบถอนหายใจเบาๆกับความรั้นของเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันไปกินข้าวมื้อเย็น แม้จะเป็นเพียงข้าวต้มกับปลาเค็มค้างคืน แต่ทำไมเขาทั้ง 2 กับรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าอาหารชั้นเลิศราคาแพงลิบนั่นก็ไม่รู้ หรืออาจจะเป็นเพราะได้ร่วมเสพกับคนที่รักก็เป็นได้....
.
.
.
.
.
เช้าวันนี้ลมออกจะแรงเสียหน่อย แก้วจึงรีตื่นมาเก็บผ้าที่ตากค้างไว้ด้วยเกรงว่าลมจะหอบพัดไปเสียก่อน ดูท่าแล้ววันนี้พายุจะเข้าแน่ๆ ส่วนโทโมะ รายนั้นกุลีกุจอไปทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า เธอกับเขาชักห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่เอื้อม....
ร่างบางสะบัดศีรษะไล่ความคิดบ้าๆเล็กน้อย ยังไงซะ เขาก็ทำเพื่อเธอ เพื่อครอบครัว เธอไม่ควรตัดพ้อเขาแบบนี้เลย...มันไม่สมควร
เช้านี้แก้วเลยตัดสินใจออกไปตลาดเพื่อหาของสดเตรียมทำกับข้าว ถึงแม้เธอจะทำไม่เป็นก็ตาม ยังดีที่มีฟางเพื่อนข้างบ้านคอยสอนให้หยิบจับโน่นนี่บ้าง ฟางเป็นภรรยาของผู้กองภาณุ นายตำรวจท้องถิ่นของที่นี่ แก้วเลยสนิทกับฟางได้ไม่ยากเนื่องจากบ้านทั้งคู่อยู่ติดกัน แต่วันนี้ฟางออกไปทำธุระนอกบ้านกับสามีของเธอ แก้วเลยต้องออกมาตลาดแต่เพียงลำพัง...
เธอเดินเลือกซื้อของอยู่สักพักท่ามกลางแดดร้อนยามสาย ๆ ก็เริ่มรู้สึกหน้ามืด อาการปวดตุ้บๆที่หน้าอกข้างซ้ายเริ่มแรงขึ้น แต่แก้วก็อดกลั้นไว้รอเวลาที่จะเดินทางกลับถึงบ้าน
แต่ทุกคนเชื่อไหม? คนเรามีความสุขได้ไม่นานหรอก.เพราะความสุขย่อมมากพร้อมกับความทุกข์เสมอ หรือว่ามันไม่จริง?
“เฮ้ย!....คุณหนู”
เสียงเอะอะโวยวายจากทางด้านหลัง มันเป็นเสียงคุ้นหูของใครบางคนที่แก้วจำได้ดี ลูกน้องของพ่อเธอเอง! ใช่แล้ว....แก้วเหลียวหลังกลับไปดูด้วยความตกใจ คาดไม่ถึง ขาเรียวรีบสาวเท้าวิ่งหนี ปล่อยข้าวของหล่นกระจายไปทั่วบริเวณ
“อะไรกัน นี่มันอะไรกัน?”
“ตามคุณหนูไปเว้ย...พวกเราตามไป!!!” การวิ่งล่าอย่างไม่หยุดหย่อนของลูกน้องบิดา กินเรี่ยวแรงของแก้วไปเต็มที่ หัวใจที่เต้นอยู่ในอกดูเหมือนมันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ความเจ็บปวดรุมเร้าไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับว่าหัวใจของเธอกำลังถูกบีบรัดด้วยอะไรสักอย่าง?
เธอวิ่งหนีอย่างสุดแรงเกิดแม้จะแทบประคองร่างตัวเองไม่ไหว รองเท้ากระเด็นหายจากการวิ่งหนีไปอยู่ที่ใดนั้นเธอไม่รู้หรอก ตอนนี้มีเพียงเท้าเปล่าที่แปดเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเนื่องจากครูดกับกวดหินบนทางเดิน เนื้อตัวถลอกปอกเปิก ไปหมดเมื่อเวลาที่เธอล้มคลุกฝุ่น แก้วภาวนาอยู่ในใจ หวังเหลือเกินที่จะได้เจอหน้ากับเขา โทโมะ...ผู้เป็นที่รัก เขาอยู่ที่ใดกันเล่านี่?
เธอกำลังจะถูกพรากไปจากเขา อย่างไม่มีวันหวนกลับ....
“ได้โปรด..อย่า..อย่าตามฉันมา”
แก้วร้องร่ำกับตัวเองภายในใจ เมื่อวิ่งเข้ามาถึงตรอกซอยแคบๆ มองไปทางไหนก็มีแต่บ้านไม้โทรมๆที่ไม่มีคนอยู่เนื่องจากพวกเขาเป็นหาเช้ากินค่ำ เวลานี้เธอไม่มีที่พึ่งอื่นใดเลย ไม่มีเลยจริงๆ
แก้ววิ่งเข้าซอยไปเรื่อยๆโดยมีลูกน้องของบิดาตามาติดๆ นาทีนี้...เหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุน อากาศแทบไม่มีให้ไขว่คว้า หรือเป็นเพราะเธอไม่มีแรงสูดมัน? จู่ๆก็มีมือใหญ่ลึกลับคว้าตัวเธอไปกอดและหลบซ่อนภายในซองแคบๆลับตาคน ภาพสุดท้ายที่เห็น แก้วเห็นเขา โทโมะ..ผู้ชายที่กอดเธอ และทุกอย่างก็ดับวูบไป....
“คุณหนูหายไปไหนว่ะ...แยกย้ายกันตามหา วันนี้พวกเราต้องพาคุณหนูกลับให้ได้โว้ย!!!”
เมื่อสิ้นคำเหล่าบรรดาลูกน้องต่างก็แยกย้ายกันไป โทโมะหันมาเขย่าร่างแก้วเบาๆเมื่อเห็นว่าเธอหมดสติไปเสียแล้ว
“นางฟ้า...นางฟ้า....อย่าเป็นอะไรนะ..ฮึก”หยดน้ำตาของเขาไหลรดลงบนหน้าผากของแก้ว ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอหนีไปอย่างทุลักทุเล โรงพยาบาลที่ใกล้สุด...เขาต้องพาเธอไปให้ได้!!
.
.
.
.
.
“คุณหมอ...คุณหมอ.......ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย....ช่วยนางฟ้าของผมที...”ร่างสูงโอบอุ้มร่างที่ไร้สติของแก้ววิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาล ปากก็ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าบุคลากรภายในโรพยาบาลก่อนจะมีคุณหมอมารับคนไข้ไป....เขาวิ่งตามเตียงรถเข็ญของหญิงสาวไปจวบจนถึงหน้าห้องฉุกเฉิน จึงถูกีดกันไม่ให้เข้าไปภายในนั้น...
“รอด้านนอกนะครับ...”
“.....”
“พระเจ้า...ได้โปรด....คุ้มครองนางฟ้าของผมที...”
เขานั่งทรุดตัวอยู่หน้าห้อง มองไม่เห็นแม้แต่เงาของแก้ว เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง มันทรมานแค่ไหนรู้ไหม??
ภาพวันวานย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง วันนั้น เขาเคยถามเธอถึงอาการโรคหัวใจที่เธอเป็นอยู่...ไม่ว่าผู้เป็นบิดาของเธอจะขอร้องอย่างไร เธอก็ไม่ยอมผ่าตัดเสียที เขาเองก็เหมือนกัน อยากให้เธอรักษาตัวใจจะขาด แล้วเหตุผลที่เธอตอบกลับมาก็คือ....
“แก้วไม่ผ่าตัดหรอก....”
“ทำไมละนางฟ้า? โทโมะไม่เข้าใจ...ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่เข้าใจ!”
“ถ้าแก้วผ่าตัดแล้ว....แก้วกลัว กลัวว่าหัวใจของแก้วจะเปลี่ยนไป...ฮึก...ขอร้องละอย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหม? หัวใจดวงนี้เป็นของแก้ว แก้วไม่ต้องการหัวใจของใคร ถึงแม้มันจะเป็นหัวใจที่อ่อนแอ...แก้วแค่อยากให้รู้ ว่ามันรักแค่โทโมะคนเดียว”
เธอกลัวนี่เอง...หากเปลี่ยนเอาหัวใจของคนอื่นมา เธอกลัวว่าเธอจะไม่รักเขาเหมือนเดิม เธอกลัวว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไป....
เธอไม่เข้าใจหรอกแก้ว...หัวใจมันเป็นเพียงอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น ความรู้สึกและความรักต่างหากที่จะอยู่กับเราจวบจนวันตาย
แต่ต่อให้เธอเข้าใจ เธอก็เลือกที่จะเก็บหัวใจตัวเองไว้อยู่ดี...
ผ่านไปหลายชั่วโมงที่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปก็คือ เขายังคงทรุดตัวร้องไห้และรอคอยใครบางคนจะออกจากห้องนั้น นานแค่ไหนเขาก็จะรอ ขอแค่เธอได้ออกมาก็พอ ... สักพักนายแพทย์ใหญ่พร้อมเหล่าพยาบาลต่างก็วิ่งวุ่นออกมาด้วยความโกลาหล เขาฉวยคว้ามือของคุณหมอเอาไว้พลางเอ่ยถามเสียงสั่น หวาดกลัวไปหมด กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป กลัวทุกสิ่งอย่าง...
“คุณหมอครับ..นางฟ้า.....นางฟ้าของผมเป็นยังไง?”
“ตอนนี้หมอต้องผ่าตัดหัวใจให้เธอแล้ว คุณเป็น....”
“สามีครับ”
“ดีเลย คุณต้องเสร็จยินยอมให้ทางเราผ่าตัดเธอโดยด่วน....แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือ โรงพยาบาลเราไม่มีหัวใจของผู้บริจาคเลย เรากำลังประสานกับศูนย์ช่วยเหลือต่างๆอยู่ครับ ขอให้คุณใจเย็นๆ”
ใจเย็นๆงั้นหรือ? เขาจะยังใจเย็นได้อยู่อีกหรือ? ไม่มีหัวใจของผู้บริจาค.....นางฟ้าของเขากำลังจะตาย เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แม้ว่าคุณหมอจะรีบเดินออกไปแล้ว เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ...เขาหาเธอ
“นางฟ้า...ฮึก....ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ได้ยินไหม?”
“.....”
มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและพยาบาลอีก 2-3 คนที่กำลังดูอาการของแก้ว เธอไม่ได้โต้ตอบเขาอย่างเคย ....
เขาได้แต่หวังในใจ
ขอให้มีหัวใจหลงเหลือให้นางฟ้าของเขาบ้าง....
เธอเป็นคนดี พระเจ้าจะกลั่นแกล้งเธอลงคอหรือ??
“ตื่นเดี๋ยวนี้ นางฟ้า...ฮึก......ไม่ว่าหัวใจของนางฟ้าจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป...แต่หัวใจของโทโมะยังเป็นเหมือนเดิม จะรักนางฟ้าเหมือนเดิม ได้โปรดตื่นขึ้นมา”
“.....”
“เรากลับไปกินข้าวที่บ้านกัน..ฮึก...วันนี้มีของโปรดนางฟ้าด้วยนะ......อย่ามัวแต่นอนแบบนี้เลย...”
เขาพร่ำเพ้อราวกับคนเสียสติจนนางพยาบาลอดที่จะเวทนาไม่ได้ คนที่นอนแน่นนิ่งไม่ไหวติงช่างไม่รับรู้ถึงความทรมานเอาเสียเลย รู้ไหมว่าเขาเจ็บเจียนตาย? รู้ไหมว่าเขาทนไม่ได้ถ้าเสียเธอไป? เขายอมตายแทนเสียยังจะดีกว่า ต้องการหัวใจอย่างนั้นหรือ?
หัวใจ...
“เฮ้ย...มันอยู่นั้น ไปลากมันออกมา!!!!!!” อยู่ๆชายร่างกำยำ 2 คนก็เข้ามาพรากเขาออกจากแก้วไป ท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายของเหล่านางพยาบาล เขาจำได้ดีว่าเป็นลูกน้องของพ่อเธอ เขาถูกลากออกมาแล้วเหวี่ยงลงกับพื้นหน้าโรงพยาบาลอย่างแรง
“มึง...ถ้าคุณหนูเป็นอะไรไป? มึงอย่าหวังว่ามึงจะรอด!!!” ชายรูปร่างล่ำสันชี้หน้าพลางตะคอกใส่เขาด้วยความโมโหก่อนจะเตะอัดเข้าที่หน้าท้องอย่างแรง มือหนากอบกุมตัวเองจนตัวงอ แต่ก็หาได้รับความเมตตาจากใครทั้งสิ้น ไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอก ทุกคนก็รักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น
เขาจะไม่โทษใคร...
“ขอฉันไป..หา...น....นางฟ้า” เมื่อถูกรุมเตะอัดโดยไร้ซึ่งความช่วยเหลือจากผู้คนที่มุงดู และตัวเขาเองก็ไม่คิดที่จะสู้ เขาได้แต่กุมบางสิ่งบางอย่างในกางเกงของเขาอย่างถนอม อะไรที่อยู่ในนั้นมันอาจจะช่วยให้นางฟ้าของเขาฟื้นได้.....
ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยคราบเลือดและร่อยรอยบวมช้ำหลังจากที่เขาถูกปล่อยทิ้งอยู่ข้างทาง เขาค่อยๆพยุงตัวเองแต่แล้วมันก็ล้มลงมาอย่างเสียไม่ได้ เปลือกตาที่หนักอึ้งพร้อมจะปิดทุกเมื่อ หากแต่เขาไม่ฝืนมันไว้
โทโมะเดินโซซัดโซเซอย่างยากลำบาก เขาพาสังขารตัวเองมาจนถึงหน้าบ้านของฟางกับผู้กองภาณุ นายตำรวจรีบเข้ามาประคองร่างเขาไว้ด้วยความตกใจ
“โทโมะ!!! ใครทำร้ายนาย บอกฉันมา”
“ผู้...กอง...”
“อะไร...นายต้องการอะไร บอกฉันสิ?”นายตำรวจเขย่าร่างเพื่อเรียกสติที่ใกล้ดับวูบของเขาเต็มทีด้วยความตกใจ ดูเหมือนว่าโทโมะพยายามจะขอร้องให้เขาช่วยอะไรสักอย่าง..
“ช่วยผม.....”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไม่!...ฉันไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด!!!!”
.
.
.
.
คนเป็นบิดาลูบใบหน้าของลูกสาวด้วยความคิดถึง ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ทางโรงพยาบาลหาหัวใจได้ทันเวลา แก้วสลบไป 7 วัน 7คืนเต็มๆ คนเป็นพ่อรีบตรงมาจากกรุงเทพเพื่อมาเฝ้าอาการลูกสาว ใบหน้าของคนเป็นพ่อเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เขารู้สึกผิดจับหัวใจ... มือเหี่ยวย่นกุมมือลูกสาวไว้แน่น
“ยัยหนูของพ่อ....พ่อขอโทษ.....”
ทันทีที่ร่างบางตื่นขึ้นมา เธอก็พร่ำแต่เรียกหาโทโมะ ยิ่งได้เจอหน้าคนเป็นพ่อ เธอก็ยิ่งโวยวาย คิดว่าพ่อของเธอคงไม่ให้เธอเจอกับเขาอีกเป็นแน่แท้!
“โทโมะ...ฮึก...ปล่อยแก้วนะ...แก้วจะไปหาโทโมะ คุณพ่อทำอะไรเขา...ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!!!”แรงอารมณ์ของคนที่กำลังขาดสติมักจะเยอะเป็นพิเศษ เธอสะบัดตัวออกจากการควบคุมของนางพยาบาล พยายามที่จะวิ่งออกไปหาชายคนรักเสียให้ได้ จนถึงกับต้องเรียกบุรุษพยาบาลมาช่วยควบคุมอาการของเธอโดยการผูกมัดข้อมือข้อท้าไว้กับเตียง
“ฟังพ่อนะลูก หนูต้องรักษาตัวเอง”
“แก้วไม่ฟัง...ปล่อย...ฮึก....ปล่อยฉัน!!! กรี๊ดดดด~! ปล่อยแก้วได้ยินไหม? คุณพ่อใจร้าย แก้วไม่รักคุณพ่อแล้ว”
เธอพร่ำต่อว่าบิดาด้วยความเสียใจ น้ำตาหลั่งไหลเป็นสายมันทำให้คนเป็นพ่อเจ็บยิ่งกว่าที่เห็นอาการของลูกสาว
“ยัยหนู....เราเพิ่งผ่าตัด เราต้องรักษาตัว คนรักของลูกเขาไม่ได้หนีลูกไปไหน?”
แก้วสงบลงทันที เธอยอมที่จะรักษาตัวเองเพื่อจะได้เจอกับเขาตามคำบอกเล่าของบิดาอีกครั้ง...ว่าแต่เขาใจร้ายเหลือเกิน เขาไม่มาเยี่ยมเธอเลยหรือ?
เป็นอีกคืนที่แก้วต้องนอนอย่างเดียวดายในห้องพยาบาล แต่ความรู้สึกแปลกๆที่ได้รับคือ รู้สึกเหมือนกับมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างแปลกประหลาด
คล้ายกับว่ามีคนคอยตะกองกอดและขับกล่อมเธออยู่เสมอ รู้สึกเหมือน...ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกกว้าง
.
.
.
เธอทนไม่ไหวแล้วกับการรอคอย วันนี้เธอลอบหนีออกมาจากโรงพยาบาลตอนที่เธอแอบวางยานางพยาบาลเฝ้าไข้ แก้วกลับมายังบ้านหลังเล็กโทรมๆของเธอกับเขา ร้องเรียก ก็ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหรือเห็นแม้เงาของคนรักอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย....
“แก้ว!!...เธอหายดีแล้วหรือ?”เสียงของฟางทักแก้วอย่างตกใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฟางทันทีพลางเอ่ยถามถึงโทโมะ ยิ่งทำให้แก้วไม่สบายใจหนัก เมื่อเห็นแววตาที่หลุบต่ำของฟาง มีอะไรที่เธอไม่รู้อย่างนั้นหรือ??
“ฟาง โทโมะอยู่ไหน?”
“......”
“บอกฉันสิฟาง.....เขาไปไหน????”
“......”
“ฟาง...ฉันตามหาเขา.....เขาทิ้งฉันไปแล้วใช่ไหม? เขาหนีฉันไปทำไมๆๆๆๆ!!!” แก้วทรุดลงกับพื้นทรายพลางร้องไห้เป็นเผาเต่า โทโมะหนีเธอไปแล้ว เขาหนีเธอไปแล้วจริงๆ....
“แก้ว....”
“หนีนางฟ้าไปทำไม?? ฮึก....หนีทำไม”
“เขาไม่ได้หนีเธอนะแก้ว...”
“.....”
เธอเงยหน้าสบตากับฟางด้วยแววตางุนงง ขอคำตอบ เธออยากรู้คำตอบ อยากรู้ว่าคนใจร้ายหายไปไหน? เธอเฝ้ารอวันเวลาที่เขาจะไปเยี่ยมเธอก็ไม่มี.... เธอรอเขาอย่างทรมานเขาก็ไม่มา
คนใจร้าย...โทโมะใจร้าย
“เขาอยู่กับเธอ”
“.....”
“....หมายความว่ายังไงฟาง แก้วอยู่โรงพยาบาลเขายังไม่ไปเยี่ยมเลย...ฮึก...เขาไม่รักแก้วเลย เขาปล่อยมือแก้ว”
“เขาอยู่กับเธอตลอดเวลา...ได้ยินไหม?เขาอยู่ในนี้...”
.
.
.
.
.
ฟางทาบมือลงบนหน้าอกข้างซ้ายของแก้ว ด้วยน้ำตาที่ล้นปริ่ม แก้วมองตามอย่างไม่เข้าใจ โทโมะจะอยู่ในนี้ได้อย่างไร ไม่มีทาง?! ตอนนี้แก้วต้องการคำตอบ...ช่วยตอบคำถามของเธอหน่อยได้ไหม??
“อะไรกัน? ฟางพูดเรื่องอะไร??”
“หัวใจของเขา”
“ฉันไม่ช่วยนายแน่ๆ”
“นางฟ้าต้องมีชีวิตอยู่..ได้โปรด คนอย่างผมไม่มีค่าพอ ได้โปรดช่วยผมด้วยผู้กอง...”โทโมะพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เว้าวอนผู้กองภาณุกับฟาง ถึงแม้เขาจะไม่เห็นด้วยแต่มันเป็นความต้องการของโทโมะ เขาจึงต้องเคารพการตัดสินใจ โทโมะล้วงเข็มฉีดยานอนหลับขั้นรุนแรงออกมาก่อนจะกดเจาะเข้าเส้นเลือดของเขา สิ่งสุดท้ายที่เขาขอร้องให้ทั้ง 2 คนช่วย ก็คือ...ช่วยพาร่างของเขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อเอาหัวใจให้หญิงสาวที่รัก...
ทั้งสองก้มหน้ารับเมื่อพาร่างของเขามาถึง ก็พบกับบิดาของแก้ว ชายชราหลั่งน้ำตากับการเสียสละของเขาอย่างคาดไม่ถึง เหล่าคุณหมอก็แปลกใจไม่แพ้กัน....แต่จำต้องยอม...ยอมที่จะผ่าตัดหัวใจของโทโมะผู้บริจาค...
หัวใจบริสุทธิ์ของเขา....เขาจะขอฝากไว้กับเธอตลอดกาล....
“ไม่จริง! ไม่...ไม่จริง!!!!!!! โทโมะ..ออกมาเดี๋ยวนี้...ฮึก....ออกมา”
แก้ววิ่งออกไปยังท้องทะเลอย่างคุ้มคลั่ง พลางทุบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองย้ำๆ น้ำตาที่หลั่งไหลแห้งเหือดจนแทบไม่มีแม้แต่หยดน้ำตาเดียว ปากก็กู่ร้องเรียกเขากลับมา ทั้งที่รู้
รู้วาเป็นไปไม่ได้....
“โทโมะ...ฮึก.....แก้วต้องการโทโมะ ไม่ใช่ หัวใจของโทโมะ...ออกมา ได้โปรด...ออกมา.....”
มือบางจับกุมหัวใจตัวเองด้วยความเจ็บปวด ผู้ชายคนนึงรักผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอได้ถึงเพียงนี้ ยอมที่จะเสียสละชีวิตและหัวใจของตัวเองเพื่อให้หญิงสาวผู้เป็นที่รัก มีชีวิตอยู่ต่อไป...จะมีที่ไหนบนโลก...แต่รู้ไหม?ว่าเธอไม่ต้องการ การมีเขาอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ เธอยอมตายเสียยังดีกว่าต้องตื่นขึ้นมาพบกับความสูญเสีย...เสียเขาไป
ดวงตาที่เริ่มพร่าเบลอเริ่มปรับโฟกัสขึ้น เมื่อเห็นใครบางคนเดินเรียบมาตามชายหาดที่ทอดยาว เขา....
“นางฟ้า”เขาเอ่ยเรียกพร้อมรอยยิ้ม แก้วดีใจอย่างสุดซึ้ง พลางวิ่งเข้าไปหวังจะกอดเขา แต่เปล่าเลย มันเป็นเพียงฝุ่นอากาศเธอไม่สามารถแตะต้องและสัมผัสเขาได้ทั้งที่เขาอยู่ตรงหน้าเธอ...
“ทำไม...ทำไมเป็นแบบนี้”
“โทโมะเคยบอกแล้ว ไม่ว่ายังไงหัวใจของนางฟ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“ฮึก....แก้วไม่ต้องการหัวใจของโทโมะ...เอาคืนไปได้ยินไหม....เอาคืนไป”
“โทโมะไม่มีวันจากนางฟ้าไปไหน? โทโมะจะอยู่กับนางฟ้าตลอดเวลา...จะคอยดูแลนางฟ้าคนดี....คนนี้ วันไหนที่นางฟ้าคิดถึงโทโมะ โปรดรู้ไว้....โทโมะอยู่กับนางฟ้าเสมอ รักนางฟ้าเสมอ....คนดี....อย่าร้องไห้เลย”
“.....”
“ไม่มีใครสมหวังไปเสียทุกเรื่อง แม้เราไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่เรา....มีกันและกัน ความคิดถึงมันจะทำให้เรายิ่งรักกัน”
“.....”
“.....”
“นางฟ้าก็รักโทโมะ...จะรักคนเดียว...ต่อจากนี้นางฟ้าจะไม่รักใคร...ฮึก...ไม่มีใครจะเข้ามาอยู่ในหัวใจของแก้วได้”
“รักษาตัวเองกับหัวใจ....ของโทโมะด้วยนะคนดี”
เขาพูดเพียงแค่นั้น ภาพของเขาก็เลือนลางจางให้ไปกับสายลมและอากาศ แก้วทรุดตัวลงกับพื้นทรายอย่างหมดแรง มือบางยกทาบที่หัวใจตัวเองและลูบท้องของตัวเองแผ่วเบา..
เธอเพิ่งรู้และหวังเหลือเกินที่จะได้บอกเขา...
“แก้ว...ฮึก...จะดูแลหัวใจของโทโมะ..และลูกของเรา นางฟ้ารักโทโมะ.....”
แล้วคุณล่ะ...เชื่อไหม? ว่าจะมีผู้ชายที่แสนดีแบบนี้อยู่บนโลก...หากคุณเจอเขาแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย
THE END
................................................................................................................................
อะเย้~ในที่สุดรีไรท์สติแตกก็จบลงเสียที หวานเนอะ(เหรอ???)>__<มันหวานสำหนับเค้า^^
รีไรท์เรื่องต่อไป (ยังจะมีอีกเหรอ?)
เรื่องงง 'กอด' คับผม หวังว่าทุกคนคงจะสนุก(มั้ง)อะจ๊าาา^O^;;
ผ่านมาประมาณสัก 4 เดือนเห็นจะได้ ที่ทั้งคู่ต้องทนใช้ชีวิตอย่างอัตคัด แต่มันก็ล้นเปี่ยมไปด้วยความสุข การได้อยู่กับคนที่รัก...ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่เหมือนตอนที่เธอเป็นคุณหนู อยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ มีคนใช้รายรอบ แทบไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไรเลย....
นั้นไม่ใช่ปัญหาของเธอกับเขา อย่างน้อยก็ตอนนี้....
มือบางกำลังขย้ำขยี้เสื้อผ้ากับผงซักฟอกที่กัดผิวมือของเธออย่างสะเปะสะปะด้วยความไม่เคยชิน เธอตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงซะ เธอต้องช่วยเหลืองานบ้าง ไม่มากก็น้อยจะปล่อยให้เขาทำคนเดียวได้อย่างไร เธอไม่ใช่คุณหนูจริญญาอีกต่อไป ตอนนี้ฐานะของเธอเท่าเทียมกับเขาแล้ว
เป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีสมบัติอะไรติดตัว!
“โอ๊ย~แสบ...” แก้วร้องขึ้นเมื่อน้ำผงซักฟอกกระเด็นเข้าดวงตา แถมยังเผลอไผลลืมไปว่ามือที่เธอใช้ขยี้ตาหวังจะลดอาการแสบมันเปื้อนผงซักฟอกอยู่
“แก้ว!....”
“โทโมะ...แก้วแสบ..ฮึก”ดวงตาเรียวที่ปิดสนิททำให้แก้วไม่สามารถบอกเห็นใครได้ เธอได้ยินแต่งเพียงเสียงของชายคนรัก พร้อมสัมผัสจากเขา
โทโมะที่พึ่งกลับจากการทำงานรีบวิ่งเข้ามาดูอาการแก้วด้วยความเป็นห่วง เขาคว้าข้อมือแก้วเอาไว้พลางล้างหน้าล้างตาให้อย่างสะอาดหมดจดและบอกให้แก้วลืมตาในน้ำเสีย อาการแสบจะได้ทุเลาเบาบาง..
“ลืมตาในน้ำนะ....เดี๋ยวก็หายแสบครับ”
“อืม”
“....”
“ดีขึ้นบ้างหรือยัง?” เขาเอ่ยถามเมื่อหาแก้วเข้ามานั่งพักตรงชานหน้าบ้าน พลางใช้ผ้าสะอาดเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าหญิงสาวออกจนเกลี้ยงเกลา เธอนี่ชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่ร่ำไปเสียจริงๆ
“ไม่แสบแล้วล่ะ”
“ทำๆไม? โทโมะบอกให้นางฟ้าอยู่เฉยๆ ไม่เชื่อกันเลย”
“ไม่ได้หรอกนะโทโมะ....แก้วจะไม่เชื่อโทโมะอีกแล้ว เราเป็นอะไรกัน? แก้วขอถามหน่อย”ดวงตาเรียวของแก้วจับจ้องอย่างคาดคั้นที่จะเอาคำตอบจากเขาเสียให้ได้ อีกฝ่ายนิ่วหน้าไปพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผิดหรือที่เขาอยากให้แก้วสบาย...
ผิดหรือที่ไม่อยากให้เธอลำบาก...?
“เราเป็น...สามีภรรยา แต่นางฟ้า....โทโมะเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำไมนางฟ้าดื้อแบบนี้”
“ผิดแล้ว...โทโมะไม่รู้จักคำว่าสามีภรรยาดีพอ รู้ไหม?...ภรรยาคืออะไร?”
“.....”
“ภรรยาคืออีกครึ่งนึงของสามี การที่เรารักกันมันคือการเติมเต็มอีกครึ่งของกันและกัน นั่นหมายความว่าเราต้องช่วยกัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนนึงต้องแบกรับภาระอยู่ฝ่ายเดียว แก้วไม่เห็นแก่ตัวมากพอหรอกนะ...”
เขาเข้าใจเหตุผลของเธอ...ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะขอร้องให้เธอเห็นแก่ตัวจะดีกว่า รู้ใช่ไหม?ว่าเธอสุขภาพไม่แข็งแรงพอ
“แต่แก้ว...”
“ขอร้องละ งานบ้านเล็กๆน้อยแก้วทำได้ มันไม่ทำให้แก้วหัวใจวายตายหรอกน่า”
“เฮ้อ โอเคครับ แต่แก้วอย่าทำอะไรที่เกินกำลังรู้ไหม? แค่นี้โทโมะก็เป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว”เขาลอบถอนหายใจเบาๆกับความรั้นของเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันไปกินข้าวมื้อเย็น แม้จะเป็นเพียงข้าวต้มกับปลาเค็มค้างคืน แต่ทำไมเขาทั้ง 2 กับรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าอาหารชั้นเลิศราคาแพงลิบนั่นก็ไม่รู้ หรืออาจจะเป็นเพราะได้ร่วมเสพกับคนที่รักก็เป็นได้....
.
.
.
.
.
เช้าวันนี้ลมออกจะแรงเสียหน่อย แก้วจึงรีตื่นมาเก็บผ้าที่ตากค้างไว้ด้วยเกรงว่าลมจะหอบพัดไปเสียก่อน ดูท่าแล้ววันนี้พายุจะเข้าแน่ๆ ส่วนโทโมะ รายนั้นกุลีกุจอไปทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า เธอกับเขาชักห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่เอื้อม....
ร่างบางสะบัดศีรษะไล่ความคิดบ้าๆเล็กน้อย ยังไงซะ เขาก็ทำเพื่อเธอ เพื่อครอบครัว เธอไม่ควรตัดพ้อเขาแบบนี้เลย...มันไม่สมควร
เช้านี้แก้วเลยตัดสินใจออกไปตลาดเพื่อหาของสดเตรียมทำกับข้าว ถึงแม้เธอจะทำไม่เป็นก็ตาม ยังดีที่มีฟางเพื่อนข้างบ้านคอยสอนให้หยิบจับโน่นนี่บ้าง ฟางเป็นภรรยาของผู้กองภาณุ นายตำรวจท้องถิ่นของที่นี่ แก้วเลยสนิทกับฟางได้ไม่ยากเนื่องจากบ้านทั้งคู่อยู่ติดกัน แต่วันนี้ฟางออกไปทำธุระนอกบ้านกับสามีของเธอ แก้วเลยต้องออกมาตลาดแต่เพียงลำพัง...
เธอเดินเลือกซื้อของอยู่สักพักท่ามกลางแดดร้อนยามสาย ๆ ก็เริ่มรู้สึกหน้ามืด อาการปวดตุ้บๆที่หน้าอกข้างซ้ายเริ่มแรงขึ้น แต่แก้วก็อดกลั้นไว้รอเวลาที่จะเดินทางกลับถึงบ้าน
แต่ทุกคนเชื่อไหม? คนเรามีความสุขได้ไม่นานหรอก.เพราะความสุขย่อมมากพร้อมกับความทุกข์เสมอ หรือว่ามันไม่จริง?
“เฮ้ย!....คุณหนู”
เสียงเอะอะโวยวายจากทางด้านหลัง มันเป็นเสียงคุ้นหูของใครบางคนที่แก้วจำได้ดี ลูกน้องของพ่อเธอเอง! ใช่แล้ว....แก้วเหลียวหลังกลับไปดูด้วยความตกใจ คาดไม่ถึง ขาเรียวรีบสาวเท้าวิ่งหนี ปล่อยข้าวของหล่นกระจายไปทั่วบริเวณ
“อะไรกัน นี่มันอะไรกัน?”
“ตามคุณหนูไปเว้ย...พวกเราตามไป!!!” การวิ่งล่าอย่างไม่หยุดหย่อนของลูกน้องบิดา กินเรี่ยวแรงของแก้วไปเต็มที่ หัวใจที่เต้นอยู่ในอกดูเหมือนมันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ความเจ็บปวดรุมเร้าไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับว่าหัวใจของเธอกำลังถูกบีบรัดด้วยอะไรสักอย่าง?
เธอวิ่งหนีอย่างสุดแรงเกิดแม้จะแทบประคองร่างตัวเองไม่ไหว รองเท้ากระเด็นหายจากการวิ่งหนีไปอยู่ที่ใดนั้นเธอไม่รู้หรอก ตอนนี้มีเพียงเท้าเปล่าที่แปดเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเนื่องจากครูดกับกวดหินบนทางเดิน เนื้อตัวถลอกปอกเปิก ไปหมดเมื่อเวลาที่เธอล้มคลุกฝุ่น แก้วภาวนาอยู่ในใจ หวังเหลือเกินที่จะได้เจอหน้ากับเขา โทโมะ...ผู้เป็นที่รัก เขาอยู่ที่ใดกันเล่านี่?
เธอกำลังจะถูกพรากไปจากเขา อย่างไม่มีวันหวนกลับ....
“ได้โปรด..อย่า..อย่าตามฉันมา”
แก้วร้องร่ำกับตัวเองภายในใจ เมื่อวิ่งเข้ามาถึงตรอกซอยแคบๆ มองไปทางไหนก็มีแต่บ้านไม้โทรมๆที่ไม่มีคนอยู่เนื่องจากพวกเขาเป็นหาเช้ากินค่ำ เวลานี้เธอไม่มีที่พึ่งอื่นใดเลย ไม่มีเลยจริงๆ
แก้ววิ่งเข้าซอยไปเรื่อยๆโดยมีลูกน้องของบิดาตามาติดๆ นาทีนี้...เหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุน อากาศแทบไม่มีให้ไขว่คว้า หรือเป็นเพราะเธอไม่มีแรงสูดมัน? จู่ๆก็มีมือใหญ่ลึกลับคว้าตัวเธอไปกอดและหลบซ่อนภายในซองแคบๆลับตาคน ภาพสุดท้ายที่เห็น แก้วเห็นเขา โทโมะ..ผู้ชายที่กอดเธอ และทุกอย่างก็ดับวูบไป....
“คุณหนูหายไปไหนว่ะ...แยกย้ายกันตามหา วันนี้พวกเราต้องพาคุณหนูกลับให้ได้โว้ย!!!”
เมื่อสิ้นคำเหล่าบรรดาลูกน้องต่างก็แยกย้ายกันไป โทโมะหันมาเขย่าร่างแก้วเบาๆเมื่อเห็นว่าเธอหมดสติไปเสียแล้ว
“นางฟ้า...นางฟ้า....อย่าเป็นอะไรนะ..ฮึก”หยดน้ำตาของเขาไหลรดลงบนหน้าผากของแก้ว ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอหนีไปอย่างทุลักทุเล โรงพยาบาลที่ใกล้สุด...เขาต้องพาเธอไปให้ได้!!
.
.
.
.
.
“คุณหมอ...คุณหมอ.......ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย....ช่วยนางฟ้าของผมที...”ร่างสูงโอบอุ้มร่างที่ไร้สติของแก้ววิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาล ปากก็ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าบุคลากรภายในโรพยาบาลก่อนจะมีคุณหมอมารับคนไข้ไป....เขาวิ่งตามเตียงรถเข็ญของหญิงสาวไปจวบจนถึงหน้าห้องฉุกเฉิน จึงถูกีดกันไม่ให้เข้าไปภายในนั้น...
“รอด้านนอกนะครับ...”
“.....”
“พระเจ้า...ได้โปรด....คุ้มครองนางฟ้าของผมที...”
เขานั่งทรุดตัวอยู่หน้าห้อง มองไม่เห็นแม้แต่เงาของแก้ว เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง มันทรมานแค่ไหนรู้ไหม??
ภาพวันวานย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง วันนั้น เขาเคยถามเธอถึงอาการโรคหัวใจที่เธอเป็นอยู่...ไม่ว่าผู้เป็นบิดาของเธอจะขอร้องอย่างไร เธอก็ไม่ยอมผ่าตัดเสียที เขาเองก็เหมือนกัน อยากให้เธอรักษาตัวใจจะขาด แล้วเหตุผลที่เธอตอบกลับมาก็คือ....
“แก้วไม่ผ่าตัดหรอก....”
“ทำไมละนางฟ้า? โทโมะไม่เข้าใจ...ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่เข้าใจ!”
“ถ้าแก้วผ่าตัดแล้ว....แก้วกลัว กลัวว่าหัวใจของแก้วจะเปลี่ยนไป...ฮึก...ขอร้องละอย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหม? หัวใจดวงนี้เป็นของแก้ว แก้วไม่ต้องการหัวใจของใคร ถึงแม้มันจะเป็นหัวใจที่อ่อนแอ...แก้วแค่อยากให้รู้ ว่ามันรักแค่โทโมะคนเดียว”
เธอกลัวนี่เอง...หากเปลี่ยนเอาหัวใจของคนอื่นมา เธอกลัวว่าเธอจะไม่รักเขาเหมือนเดิม เธอกลัวว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไป....
เธอไม่เข้าใจหรอกแก้ว...หัวใจมันเป็นเพียงอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น ความรู้สึกและความรักต่างหากที่จะอยู่กับเราจวบจนวันตาย
แต่ต่อให้เธอเข้าใจ เธอก็เลือกที่จะเก็บหัวใจตัวเองไว้อยู่ดี...
ผ่านไปหลายชั่วโมงที่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปก็คือ เขายังคงทรุดตัวร้องไห้และรอคอยใครบางคนจะออกจากห้องนั้น นานแค่ไหนเขาก็จะรอ ขอแค่เธอได้ออกมาก็พอ ... สักพักนายแพทย์ใหญ่พร้อมเหล่าพยาบาลต่างก็วิ่งวุ่นออกมาด้วยความโกลาหล เขาฉวยคว้ามือของคุณหมอเอาไว้พลางเอ่ยถามเสียงสั่น หวาดกลัวไปหมด กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป กลัวทุกสิ่งอย่าง...
“คุณหมอครับ..นางฟ้า.....นางฟ้าของผมเป็นยังไง?”
“ตอนนี้หมอต้องผ่าตัดหัวใจให้เธอแล้ว คุณเป็น....”
“สามีครับ”
“ดีเลย คุณต้องเสร็จยินยอมให้ทางเราผ่าตัดเธอโดยด่วน....แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือ โรงพยาบาลเราไม่มีหัวใจของผู้บริจาคเลย เรากำลังประสานกับศูนย์ช่วยเหลือต่างๆอยู่ครับ ขอให้คุณใจเย็นๆ”
ใจเย็นๆงั้นหรือ? เขาจะยังใจเย็นได้อยู่อีกหรือ? ไม่มีหัวใจของผู้บริจาค.....นางฟ้าของเขากำลังจะตาย เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แม้ว่าคุณหมอจะรีบเดินออกไปแล้ว เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ...เขาหาเธอ
“นางฟ้า...ฮึก....ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ ได้ยินไหม?”
“.....”
มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและพยาบาลอีก 2-3 คนที่กำลังดูอาการของแก้ว เธอไม่ได้โต้ตอบเขาอย่างเคย ....
เขาได้แต่หวังในใจ
ขอให้มีหัวใจหลงเหลือให้นางฟ้าของเขาบ้าง....
เธอเป็นคนดี พระเจ้าจะกลั่นแกล้งเธอลงคอหรือ??
“ตื่นเดี๋ยวนี้ นางฟ้า...ฮึก......ไม่ว่าหัวใจของนางฟ้าจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป...แต่หัวใจของโทโมะยังเป็นเหมือนเดิม จะรักนางฟ้าเหมือนเดิม ได้โปรดตื่นขึ้นมา”
“.....”
“เรากลับไปกินข้าวที่บ้านกัน..ฮึก...วันนี้มีของโปรดนางฟ้าด้วยนะ......อย่ามัวแต่นอนแบบนี้เลย...”
เขาพร่ำเพ้อราวกับคนเสียสติจนนางพยาบาลอดที่จะเวทนาไม่ได้ คนที่นอนแน่นนิ่งไม่ไหวติงช่างไม่รับรู้ถึงความทรมานเอาเสียเลย รู้ไหมว่าเขาเจ็บเจียนตาย? รู้ไหมว่าเขาทนไม่ได้ถ้าเสียเธอไป? เขายอมตายแทนเสียยังจะดีกว่า ต้องการหัวใจอย่างนั้นหรือ?
หัวใจ...
“เฮ้ย...มันอยู่นั้น ไปลากมันออกมา!!!!!!” อยู่ๆชายร่างกำยำ 2 คนก็เข้ามาพรากเขาออกจากแก้วไป ท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายของเหล่านางพยาบาล เขาจำได้ดีว่าเป็นลูกน้องของพ่อเธอ เขาถูกลากออกมาแล้วเหวี่ยงลงกับพื้นหน้าโรงพยาบาลอย่างแรง
“มึง...ถ้าคุณหนูเป็นอะไรไป? มึงอย่าหวังว่ามึงจะรอด!!!” ชายรูปร่างล่ำสันชี้หน้าพลางตะคอกใส่เขาด้วยความโมโหก่อนจะเตะอัดเข้าที่หน้าท้องอย่างแรง มือหนากอบกุมตัวเองจนตัวงอ แต่ก็หาได้รับความเมตตาจากใครทั้งสิ้น ไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอก ทุกคนก็รักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น
เขาจะไม่โทษใคร...
“ขอฉันไป..หา...น....นางฟ้า” เมื่อถูกรุมเตะอัดโดยไร้ซึ่งความช่วยเหลือจากผู้คนที่มุงดู และตัวเขาเองก็ไม่คิดที่จะสู้ เขาได้แต่กุมบางสิ่งบางอย่างในกางเกงของเขาอย่างถนอม อะไรที่อยู่ในนั้นมันอาจจะช่วยให้นางฟ้าของเขาฟื้นได้.....
ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยคราบเลือดและร่อยรอยบวมช้ำหลังจากที่เขาถูกปล่อยทิ้งอยู่ข้างทาง เขาค่อยๆพยุงตัวเองแต่แล้วมันก็ล้มลงมาอย่างเสียไม่ได้ เปลือกตาที่หนักอึ้งพร้อมจะปิดทุกเมื่อ หากแต่เขาไม่ฝืนมันไว้
โทโมะเดินโซซัดโซเซอย่างยากลำบาก เขาพาสังขารตัวเองมาจนถึงหน้าบ้านของฟางกับผู้กองภาณุ นายตำรวจรีบเข้ามาประคองร่างเขาไว้ด้วยความตกใจ
“โทโมะ!!! ใครทำร้ายนาย บอกฉันมา”
“ผู้...กอง...”
“อะไร...นายต้องการอะไร บอกฉันสิ?”นายตำรวจเขย่าร่างเพื่อเรียกสติที่ใกล้ดับวูบของเขาเต็มทีด้วยความตกใจ ดูเหมือนว่าโทโมะพยายามจะขอร้องให้เขาช่วยอะไรสักอย่าง..
“ช่วยผม.....”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไม่!...ฉันไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด!!!!”
.
.
.
.
คนเป็นบิดาลูบใบหน้าของลูกสาวด้วยความคิดถึง ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ทางโรงพยาบาลหาหัวใจได้ทันเวลา แก้วสลบไป 7 วัน 7คืนเต็มๆ คนเป็นพ่อรีบตรงมาจากกรุงเทพเพื่อมาเฝ้าอาการลูกสาว ใบหน้าของคนเป็นพ่อเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เขารู้สึกผิดจับหัวใจ... มือเหี่ยวย่นกุมมือลูกสาวไว้แน่น
“ยัยหนูของพ่อ....พ่อขอโทษ.....”
ทันทีที่ร่างบางตื่นขึ้นมา เธอก็พร่ำแต่เรียกหาโทโมะ ยิ่งได้เจอหน้าคนเป็นพ่อ เธอก็ยิ่งโวยวาย คิดว่าพ่อของเธอคงไม่ให้เธอเจอกับเขาอีกเป็นแน่แท้!
“โทโมะ...ฮึก...ปล่อยแก้วนะ...แก้วจะไปหาโทโมะ คุณพ่อทำอะไรเขา...ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!!!”แรงอารมณ์ของคนที่กำลังขาดสติมักจะเยอะเป็นพิเศษ เธอสะบัดตัวออกจากการควบคุมของนางพยาบาล พยายามที่จะวิ่งออกไปหาชายคนรักเสียให้ได้ จนถึงกับต้องเรียกบุรุษพยาบาลมาช่วยควบคุมอาการของเธอโดยการผูกมัดข้อมือข้อท้าไว้กับเตียง
“ฟังพ่อนะลูก หนูต้องรักษาตัวเอง”
“แก้วไม่ฟัง...ปล่อย...ฮึก....ปล่อยฉัน!!! กรี๊ดดดด~! ปล่อยแก้วได้ยินไหม? คุณพ่อใจร้าย แก้วไม่รักคุณพ่อแล้ว”
เธอพร่ำต่อว่าบิดาด้วยความเสียใจ น้ำตาหลั่งไหลเป็นสายมันทำให้คนเป็นพ่อเจ็บยิ่งกว่าที่เห็นอาการของลูกสาว
“ยัยหนู....เราเพิ่งผ่าตัด เราต้องรักษาตัว คนรักของลูกเขาไม่ได้หนีลูกไปไหน?”
แก้วสงบลงทันที เธอยอมที่จะรักษาตัวเองเพื่อจะได้เจอกับเขาตามคำบอกเล่าของบิดาอีกครั้ง...ว่าแต่เขาใจร้ายเหลือเกิน เขาไม่มาเยี่ยมเธอเลยหรือ?
เป็นอีกคืนที่แก้วต้องนอนอย่างเดียวดายในห้องพยาบาล แต่ความรู้สึกแปลกๆที่ได้รับคือ รู้สึกเหมือนกับมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างแปลกประหลาด
คล้ายกับว่ามีคนคอยตะกองกอดและขับกล่อมเธออยู่เสมอ รู้สึกเหมือน...ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกกว้าง
.
.
.
เธอทนไม่ไหวแล้วกับการรอคอย วันนี้เธอลอบหนีออกมาจากโรงพยาบาลตอนที่เธอแอบวางยานางพยาบาลเฝ้าไข้ แก้วกลับมายังบ้านหลังเล็กโทรมๆของเธอกับเขา ร้องเรียก ก็ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหรือเห็นแม้เงาของคนรักอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย....
“แก้ว!!...เธอหายดีแล้วหรือ?”เสียงของฟางทักแก้วอย่างตกใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฟางทันทีพลางเอ่ยถามถึงโทโมะ ยิ่งทำให้แก้วไม่สบายใจหนัก เมื่อเห็นแววตาที่หลุบต่ำของฟาง มีอะไรที่เธอไม่รู้อย่างนั้นหรือ??
“ฟาง โทโมะอยู่ไหน?”
“......”
“บอกฉันสิฟาง.....เขาไปไหน????”
“......”
“ฟาง...ฉันตามหาเขา.....เขาทิ้งฉันไปแล้วใช่ไหม? เขาหนีฉันไปทำไมๆๆๆๆ!!!” แก้วทรุดลงกับพื้นทรายพลางร้องไห้เป็นเผาเต่า โทโมะหนีเธอไปแล้ว เขาหนีเธอไปแล้วจริงๆ....
“แก้ว....”
“หนีนางฟ้าไปทำไม?? ฮึก....หนีทำไม”
“เขาไม่ได้หนีเธอนะแก้ว...”
“.....”
เธอเงยหน้าสบตากับฟางด้วยแววตางุนงง ขอคำตอบ เธออยากรู้คำตอบ อยากรู้ว่าคนใจร้ายหายไปไหน? เธอเฝ้ารอวันเวลาที่เขาจะไปเยี่ยมเธอก็ไม่มี.... เธอรอเขาอย่างทรมานเขาก็ไม่มา
คนใจร้าย...โทโมะใจร้าย
“เขาอยู่กับเธอ”
“.....”
“....หมายความว่ายังไงฟาง แก้วอยู่โรงพยาบาลเขายังไม่ไปเยี่ยมเลย...ฮึก...เขาไม่รักแก้วเลย เขาปล่อยมือแก้ว”
“เขาอยู่กับเธอตลอดเวลา...ได้ยินไหม?เขาอยู่ในนี้...”
.
.
.
.
.
ฟางทาบมือลงบนหน้าอกข้างซ้ายของแก้ว ด้วยน้ำตาที่ล้นปริ่ม แก้วมองตามอย่างไม่เข้าใจ โทโมะจะอยู่ในนี้ได้อย่างไร ไม่มีทาง?! ตอนนี้แก้วต้องการคำตอบ...ช่วยตอบคำถามของเธอหน่อยได้ไหม??
“อะไรกัน? ฟางพูดเรื่องอะไร??”
“หัวใจของเขา”
“ฉันไม่ช่วยนายแน่ๆ”
“นางฟ้าต้องมีชีวิตอยู่..ได้โปรด คนอย่างผมไม่มีค่าพอ ได้โปรดช่วยผมด้วยผู้กอง...”โทโมะพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เว้าวอนผู้กองภาณุกับฟาง ถึงแม้เขาจะไม่เห็นด้วยแต่มันเป็นความต้องการของโทโมะ เขาจึงต้องเคารพการตัดสินใจ โทโมะล้วงเข็มฉีดยานอนหลับขั้นรุนแรงออกมาก่อนจะกดเจาะเข้าเส้นเลือดของเขา สิ่งสุดท้ายที่เขาขอร้องให้ทั้ง 2 คนช่วย ก็คือ...ช่วยพาร่างของเขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อเอาหัวใจให้หญิงสาวที่รัก...
ทั้งสองก้มหน้ารับเมื่อพาร่างของเขามาถึง ก็พบกับบิดาของแก้ว ชายชราหลั่งน้ำตากับการเสียสละของเขาอย่างคาดไม่ถึง เหล่าคุณหมอก็แปลกใจไม่แพ้กัน....แต่จำต้องยอม...ยอมที่จะผ่าตัดหัวใจของโทโมะผู้บริจาค...
หัวใจบริสุทธิ์ของเขา....เขาจะขอฝากไว้กับเธอตลอดกาล....
“ไม่จริง! ไม่...ไม่จริง!!!!!!! โทโมะ..ออกมาเดี๋ยวนี้...ฮึก....ออกมา”
แก้ววิ่งออกไปยังท้องทะเลอย่างคุ้มคลั่ง พลางทุบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองย้ำๆ น้ำตาที่หลั่งไหลแห้งเหือดจนแทบไม่มีแม้แต่หยดน้ำตาเดียว ปากก็กู่ร้องเรียกเขากลับมา ทั้งที่รู้
รู้วาเป็นไปไม่ได้....
“โทโมะ...ฮึก.....แก้วต้องการโทโมะ ไม่ใช่ หัวใจของโทโมะ...ออกมา ได้โปรด...ออกมา.....”
มือบางจับกุมหัวใจตัวเองด้วยความเจ็บปวด ผู้ชายคนนึงรักผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอได้ถึงเพียงนี้ ยอมที่จะเสียสละชีวิตและหัวใจของตัวเองเพื่อให้หญิงสาวผู้เป็นที่รัก มีชีวิตอยู่ต่อไป...จะมีที่ไหนบนโลก...แต่รู้ไหม?ว่าเธอไม่ต้องการ การมีเขาอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ เธอยอมตายเสียยังดีกว่าต้องตื่นขึ้นมาพบกับความสูญเสีย...เสียเขาไป
ดวงตาที่เริ่มพร่าเบลอเริ่มปรับโฟกัสขึ้น เมื่อเห็นใครบางคนเดินเรียบมาตามชายหาดที่ทอดยาว เขา....
“นางฟ้า”เขาเอ่ยเรียกพร้อมรอยยิ้ม แก้วดีใจอย่างสุดซึ้ง พลางวิ่งเข้าไปหวังจะกอดเขา แต่เปล่าเลย มันเป็นเพียงฝุ่นอากาศเธอไม่สามารถแตะต้องและสัมผัสเขาได้ทั้งที่เขาอยู่ตรงหน้าเธอ...
“ทำไม...ทำไมเป็นแบบนี้”
“โทโมะเคยบอกแล้ว ไม่ว่ายังไงหัวใจของนางฟ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“ฮึก....แก้วไม่ต้องการหัวใจของโทโมะ...เอาคืนไปได้ยินไหม....เอาคืนไป”
“โทโมะไม่มีวันจากนางฟ้าไปไหน? โทโมะจะอยู่กับนางฟ้าตลอดเวลา...จะคอยดูแลนางฟ้าคนดี....คนนี้ วันไหนที่นางฟ้าคิดถึงโทโมะ โปรดรู้ไว้....โทโมะอยู่กับนางฟ้าเสมอ รักนางฟ้าเสมอ....คนดี....อย่าร้องไห้เลย”
“.....”
“ไม่มีใครสมหวังไปเสียทุกเรื่อง แม้เราไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่เรา....มีกันและกัน ความคิดถึงมันจะทำให้เรายิ่งรักกัน”
“.....”
“.....”
“นางฟ้าก็รักโทโมะ...จะรักคนเดียว...ต่อจากนี้นางฟ้าจะไม่รักใคร...ฮึก...ไม่มีใครจะเข้ามาอยู่ในหัวใจของแก้วได้”
“รักษาตัวเองกับหัวใจ....ของโทโมะด้วยนะคนดี”
เขาพูดเพียงแค่นั้น ภาพของเขาก็เลือนลางจางให้ไปกับสายลมและอากาศ แก้วทรุดตัวลงกับพื้นทรายอย่างหมดแรง มือบางยกทาบที่หัวใจตัวเองและลูบท้องของตัวเองแผ่วเบา..
เธอเพิ่งรู้และหวังเหลือเกินที่จะได้บอกเขา...
“แก้ว...ฮึก...จะดูแลหัวใจของโทโมะ..และลูกของเรา นางฟ้ารักโทโมะ.....”
แล้วคุณล่ะ...เชื่อไหม? ว่าจะมีผู้ชายที่แสนดีแบบนี้อยู่บนโลก...หากคุณเจอเขาแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย
THE END
................................................................................................................................
อะเย้~ในที่สุดรีไรท์สติแตกก็จบลงเสียที หวานเนอะ(เหรอ???)>__<มันหวานสำหนับเค้า^^
รีไรท์เรื่องต่อไป (ยังจะมีอีกเหรอ?)
เรื่องงง 'กอด' คับผม หวังว่าทุกคนคงจะสนุก(มั้ง)อะจ๊าาา^O^;;
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ