Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  116.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) ความสัมพันธ์...ไม่มีชื่อเรียก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                                                ความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียก

 

 

 

 

TOMO PART

 

 

 

 

        ดวงตาเรียวจับจ้องมองผมอย่างไม่ลดละสายตา ผมรู้ว่าคนฉลาดอย่างเธอเข้าใจในส่งที่ผมพูด แววตาสั่นไหวและพยายามที่จะหลบสายตาของผมตลอดเวลาเป็นเครื่องช่วยยืนยันได้อย่างดีเยี่ยมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง  ผมรู้ว่าเธอกำลังสับสนและหวั่นไหว ภายในใจของเธอคงเต็มไปด้วยเครื่องหมายเควกชั่นมาร์ค นั่นมันก็ไม่ต่างอะไรกับผม...โทโมะ เคโอติค นักหรอก..!

 

 

 

 

         อย่างที่ทราบว่าผมใช้ชื่อเพลงของผมว่า Friend eyes ดวงตาของเพื่อน...อันที่จริงเพลงนี้ผมแต่งไว้นานแล้ว แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบ! จนวันที่ผมเจอกับแรงบันดาลใจบางอย่าง....ดวงตาคู่นั้นของใครบางคน?

 

 

 

 

         มันสดใส เป็นประกาย หากไม่หาว่าผมเกินจริงไป...มันสามารถทำให้ดวงดาวบนท้องฟ้าดูหม่นหมอง ไร้ค่า สำหรับผมไปเลยก็ว่าได้ ไอ้อาการที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไรกัน? คงไม่ใช่เพราะผมหวั่นไหวไปกับข่าวลือบ้าๆนั้นหรอกนะ...อย่าเป็นแบบนั้นเลย

 

 

 

          ผมยังมีเบลล์..

 

 

 

 

“แก้ว...คือ...ไม่รู้!! แล้วแก้วก็ไม่อยากจะรับรู้อะไรด้วย!! ฟังนะ...เรื่องวันนั้น วันที่โทโมะ...นั้นแหละ แก้วจะถือว่ามันเป็นแค่ฝันก็แล้วกัน     อ้อ วันนี้ด้วย!” แก้วว่าพลางสะบัดหน้าหนีจากการรัดกุมของผม น้ำเสียงสั่นๆของเธอไม่ได้ช่วยให้แก้วหนีความจริงไปได้สักนิด

 

 

 

“ความจริงเป็นยังไงแก้วก็รู้ดี...ความจริงไม่ใช่ความฝัน!”

 

 

 

ข่าวลือก็ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนกัน!”

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

 

            ผมเงียบไปอย่างช่วยไม่ได้ ถูกของแก้วทุกประการ ข่าวลือจะเป็นจริงไปได้อย่างไร? ผมยังมองไม่เห็นวันนั้นจริงๆ ใบหน้าสวยสั่นน้อยๆ น้ำใสๆคลอหน่วยอยู่เต็มดวงตาของเธอจนล้นปริ่ม จมูกรั้นๆของแก้วเริ่มแดงเรื่อ ริมฝีปากบางเผยอนิดๆราวกับเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง...

 

 

 

                                   

 

 

 

 

 

“แก้วหายไปไหน?” หลัวจากง่วนอยู่กับการเลี้ยงฉลองหลังเวที เฟย์ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป มองไปรอบๆตัวก็พบว่าเพื่อนรักของเธอหายไปนี่เอง...

 

 

 

“ช่างเขาเถอะน่า”

 

 

 

“ได้ไงอ่ะเขื่อน? เพื่อนเฟย์หายไปทั้งคนนะ ชิ! ไม่ไหวๆ พึ่งอะไรสิบโทไม่ได้เลย!!”

 

 

 

“เชื่อสิบโทเคโระคนนี้เถอะน่า นั่งลงๆ” เมื่อเห็นว่ายังไงเสีย เฟย์ก็ไม่มีทางเถียงชนะเขาได้บวกกับความมั่นใจที่มีเกินร้อยของเขื่อนที่เชื่อว่าแก้วปลอดภัยแหงๆ เธอจึงยอมนั่งลงตามเดิม

 

 

 

 

             เขื่อนลอบยิ้มเล็กๆก่อนจะหันมาสนใจพีเอสพีคู่ใจในมือต่อ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแก้วปลอดภัย ตราบใดที่เธอยังอยู่ในห้องนั้น...รับรอง!

 

 

 

“แต่จะไม่ปลอดภัยก็อีตรงคนที่อยู่ในห้องด้วยนี่สิ ฮึๆ”

 

 

 

“ว่าไงนะเขื่อน?”

 

 

 

 

 

 

        เฟย์หันมาถามทำเอาเขื่อนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เขาแต่พูดงึมงำๆเฉยๆ  ไม่คิดว่าเธอจะได้ยินนี่นา...คิดว่าเขื่อนโง่อย่างนั้นหรือ? ฮะๆ คิดผิดแล้วล่ะทุกคน ที่ทำเสียงดังมาก่อนตัวก็เพราะต้องการให้คนทั้งคู่รู้ตัวยังไงล่ะ?

 

 

 

“จะได้หลบทัน”

 

 

 

“พูดจาประหลาด!” เฟย์ต่อว่าเขื่อนเล็กๆก่อนจะหันกลับไปสนใจปาร์ตี้ในงานต่อ

 

 

                       

 

 

 

 

 

       มีเพียงความเงียบและอากาศเย็นๆที่ครอบคลุมไปทั่วอาณาบริเวณที่ผมกับเธออยู่ ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอเองก็เช่นกัน...ป่านนี้เบลล์คงรอผมไม่ไหว กลับบ้านไปแล้วกระมัง ทำไมผมถึงเป็นคนที่แย่แบบนี้นะ? ไม่แคร์ความรู้สึกของเบลล์ทั้งๆที่เธอกับผม เรา...

 

 

 

“กลับไปที่งานกันเถอะ” นี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดระหว่างผมกับแก้ว การเลือกที่จะหันหลังให้กัน เลือกที่จะเป็นเพื่อนกันเหมือนที่เคยเป็นมาแต่เก่าก่อน ผมตอบตกคำชวนของแก้วก่อนจะเดินนำเธอไปยังประตู..

 

 

 

กึก  กึกๆ

 

 

 

“ประตูล๊อก?”

 

 

 

“ได้ยังไง? ใครอยู่ข้างนอกน่ะ เปิดเดี๋ยวนี้ อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์ๆนะ”

 

 

          แก้วที่ออกจะหัวเสียนิดๆทุบประตุเป็นการใหญ่ เมื่อรู้ว่ามีคนล๊อกจากภายนอก ผมเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยพยายามใช้สีข้างกระแทกกับบานประตูหวังจะให้มันเปิดออก ร้องเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จนผมกับแก้วเริ่มอ่อนแรงหมดเสียงที่จะร้องขอความช่วยเหลือ

 

 

 

อยากจะรู้จริงๆว่าใครมันเล่นพิเรนทร์ๆแบบนี้?!

 

 

 

“สงสัยคืนนี้เราคงต้องนอนที่นี่แล้วล่ะแก้ว”

 

 

 

“อือ...โทรศัพท์ จริงสิ โทโมะขอยืมโทรศัพท์หน่อยแก้วจะโทรไปบอกเพื่อนๆให้มาช่วยเรา...โทรศัพท์แก้วอยู่กับอิเขื่อน”

 

 

 

“ห้องล็อกเกอร์ครับ...” แก้วทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ที่ผมมองว่าน่ารักนั้นแหละ...เธอบ่นเป็นหมีกินน้ำผึ้ง เห็นว่า...ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ เรา 2 คนต้องนอนในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็ยังโชคดีอยู่หน่อยที่มีห้องน้ำอยู่...

 

 

 

 

 

 

 

 

“อาบน้ำมั้ย?” ผมเอ่ยถามพลางยื่นผ้าเช็ดตัวให้แก้วหลังจากที่ตัวเองเข้าไปชำระร่างกายมา คนสวยตรงหน้ามองผมอย่างหวาดๆ ทำไมนะ...ผมมันน่ากลัวนักหรือ??

 

 

 

“เอ่อ...ก็ดีเหมือนกัน”

 

 

 

“อ่ะ..นี่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด ห้องนี้ก็มีชุดอยู่แค่นี้ล่ะ”

 

 

 

“อืม~แก้วโอเค”

 

 

 

 

                แก้วรับเสื้อผ้าจากผมแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป...นานพอสมควรแก้วก็ยังไม่ออกมาเสียที ผมก็เรื่อยนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่จู่ๆ...

 

 

 

 

พรึบ!~

 

“เฮ้ยยยย~”

 

 

 

 

        ผมอุทานอย่างตกใจเมื่อไฟในห้องเกิดดับขึ้นมากะทันหัน พร้อมๆกับเสียงร้องของแก้ว ให้ตายเถอะ...ไฟมาตกอะไรตอนนี้นะ แก้วล่ะ? ทันทีที่ตั้งสติได้ ผมก็รีบคลำๆทางเดินเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำทันที ไฟดวงเล็กกระพริบถี่ๆจะดับแหล่ไม่ดับแหล่ทำให้ผมมองเห็นอะไรได้เล็กน้อย แค่เล็กน้อยจริงๆ

 

 

 

“แก้ว แก้ว!”

 

 

 

“โทโมะ...ย่าเพิ่งเข้ามานะ!!”

 

 

 

          ผมไม่ได้ยินเสียงตอบรับของเธอ มีเพียงเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงแสบแก้วหูที่มาพร้อมกับฝนห่าใหญ่ที่เทกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว เสียงน้ำไหลซ่าจากห้องน้ำดังผสมกับเสียงฝนจนผมแยกไม่ออก ห้องนี้มีเพียงกระจกฝ้าที่ติดกับด้านหน้าตัวอาคาร ผมจึงปีนดูพยายามสอดส่องหาผู้คน แต่สายไปแล้ว...ผมเห็นไฟรถกระพริบๆไกลไปโน่น นี่ตอนเคลื่อนรถออกไปฝนคงยังไม่ตกสินะ ถึงว่า ขับผ่าฝนกันไปได้ สรุปแล้ว ภายในตึกนี้เหลือแค่ผมกับแก้วงั้นหรือ?

 

 

 

แปลกใจอยู่อย่าง....เพื่อนๆไม่สงสัยบ้างหรือไงที่ผมกับแก้วหายไป?

 

 

 

“แก้ว! ตอบหน่อยสิ...โทโมะจะพังเข้าไปแล้วนะ!”

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

              ผมกลั้นหายใจก่อนจะกระแทกประตูห้องน้ำซ้ำๆ แล้วก็ต้องเซล้มเมื่อผมพังประตูได้สำเร็จ ไฟดวงเล็กกระพริบถี่ๆทำให้ผมมองเห็นเรือนร่างของใครบางคน?

 

 

        แก้วนั่งจับปมผ้าขนหนูผืนน้อยที่พันรอบกายไว้แน่นอยู่บนโถสุขภัณฑ์ ร่างบางสั่นสะท้านน้อยๆด้วยความหนาว หยดน้ำเกาะตามไรผมและตามผิวกายผุดผ่อง ผู้หญิงอะไร...น่าหลงใหลเป็นบ้า

 

 

 

"แก้ว...เป็นอะไร..เอ่อ...มากหรือเปล่า?” ผมสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆคลำทางเดินไปหาแก้วด้วยความรู้สึกเก้อกระดาก เมื่อต้องใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้...

 

 

 

“เอ่อ...ขาแพลง เมื่อกี๊แก้วล้ม”

 

 

 

“ตรงไหน??”

 

 

 

“โอ้ย!”

 

 

 

 

 

        แก้วร้องขึ้นเมื่อผมแตะเข้าที่ข้อเท้าซ้ายของเธอ ผมจึงค่อยๆพยุงร่างบอบบางหาทางออกจากห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล

 

 

 

“นั่งตรงนี้นะแก้ว...”ผมพาเธอมานั่งตรงโซฟาก่อนจะหาผ้าขนหนูส่งให้ ผมเปียกแบบนั้นเดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี เด็กหนอเด็ก...

 

 

“โทโมะ จะทำอะไร?!”

 

 

 

“ขาแพลงก็ต้องนวดสิ โมะไม่ทำขาแก้วหักหรอกน่า”

 

 

 

“ไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย!...ผิดข้างย่ะ” ผมเกาหัวแก้เก้อเล็กๆ เนื่องจากไปนวดข้อเท้าขวาเสียได้ เจ้าตัวเล็กนี่...ได้ทีใช้ใหญ่เลย ต่อปกต่อคำได้แบบนี่...คงลืมเหตุการณ์เมื่อ ส ชั่วโมงก่อนแล้วกระมัง?

 

 

 

“อา~โทโมะ...เจ็บนะ”

 

 

 

“เดี๋ยวก็หาย มันต้องเจ็บก่อนสิ ล้มลงไปซะขนาดนั้น ให้ตาย เธอซุ่มซ่ามจริงๆ ยัยเด็กบ๊อง”

 

 

 

“แก้วมีวุฒิภาวะพอแล้ว ไม่ใช่เด็ก!”

 

 

 

“...ปากดี”

 

 

 

“ว่าใคร?” ให้ตายเถอะ…เธอนี่มันรั้นจะเอาชนะให้ได้เสียจริงๆ กระทั่งมองไม่ค่อยจะเห็นหน้าก็ยังจะเถียง น่าจับตีนัก!

 

 

 

“อื้อ”

 

 

 

 

            ร่างบางตรงหน้านั่งกอดอกเชิดหน้าหนีผมที่กำลังปรนนิบัติให้เธอบรรเทาแท้ๆ ใบหน้าเชิดๆ จมูกรั้นๆ ริมฝีปากชมพู คงกำลังเชิดใส่ผมอยู่เป็นแน่แท้…น่ารัก

 

 

 

 

            ผมค่อยๆกดนวดบริเวณข้อเท้าของแก้วเบามือเพื่อให้เธอเจ็บน้อยที่สุด ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเนียนไปทั่วทั้งตัวจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมคิดเรื่องพรรค์นั้นกับเธอหรอกนะ แค่พูดตามความเป็นจริงก็เท่านั้น

 

 

 

 

           แต่แล้วสำนึกของผมก็ค่อยๆเลือนหายไปทีละนิด จากมือที่นวดคลึงข้อเท้าเลื่อนขึ้นไปตามเรียวขาของเธออย่างแผ่วเบา จนขึ้นไปกอบกุมเอวบางได้อย่างถนัดถนี่ ไฟดวงน้อยที่กำลังกระพริบๆทำให้ผมมองเห็นแววตาที่สั่นไหวของแก้ว ใบหน้าของเราตั้งฉากอยู่ในระนาบเดียวกันอย่างตั้งใจ...

 

 

 

 

          ผิวกายหอมอ่อนๆแม้ไม่ได้ปรุงแต่งด้วยน้ำหอมชั้นเลิศใดๆ แต่มันก็สามารถติดตรึงจมูกของผมได้อย่างเหลือเชื่อ เสียงฟ้าร้องและฝนตกที่ยังไม่หยุดกระเซ็นสาดมันยังไม่ดังพอเท่ากับก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นโครมครามเมื่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงทีได้ชื่อว่าเป็น...เพื่อนสนิท

 

 

 

“เมื่อไหร่ไม่รู้...”   รู้สึกแบบนี้....ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

 

 

 

            เขาถือวิสาสะกดจมูกโด่งลงบนพวงแก้มนุ่มนิ่มของแก้วด้วยความหลงใหล กดค้างไว้เนิ่นนานราวกับต้องการดมดอมความหอมอยู่อย่างนั้นไม่รู้เบื่อ เธอเองก็เอาแต่นิ่งงันทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้คนฉวยโอกาสล่วงเกินตามใจชอบ มือหนากอดกระหวัดร่างอ้อนแอ้นของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนาไม่ปล่อยให้เธอได้ดิ้นหนีไหน..

 

 

 

 

           จมูกโด่งเป็นสันไล้ไปตามลำคอระหงของแก้วช้าเนิบนาบเพียงเพราะหลงหลในกลิ่นกายที่หอมหวนเหมือนดอกไม้ ปากหยักไล่ขบเม้มผิวกายเนียนสร้างความอุ่นร้อนไปทั่วตัวให้แก้ว เธอเป็นผู้หญิงที่น่านุถนอมสำหรับเขา  โทโมะจึงไม่ทำอะไรรุนแรงให้ไก่ตัวน้อยตื่นเสียหรอก...

 

 

 

 

           เขาเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาจุมพิตกลีบปากนุ่มของแก้วซ้ำๆย้ำๆค้นหาความหวานไม่รู้จักจบสิ้น และช่วงหน้าทีที่เขากำลังจะลิ้มรสความหอมหวานจากโพรงปากเล็กนั้น...

 

 

 

ไฟทั้งห้องก็พร้อมใจกันสว่าง...

 

 

 

“ยะ...อย่าทำแบบนี้” แก้วกระถดกายหนีผมก่อนจะรีบคว้าเสื้อคว้าเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง พระจ้า...นี่ผมทำบ้าอะไรลงไปอีกเนี่ย?

 

 

 

 

 

 

 

“เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องนะแก้ว”

 

 

 

“แก้วไม่มีอะไรจะคุย”

 

 

 

“อย่าทำตัวเป็นเด็กงี่เง่า ไหนว่าโตแล้วไง?”

 

 

 

“แล้วคนที่เขาเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่...เขาไม่ได้ทำอะไรงี่เง่างั้นสิ?” แก้วเถียงผมกลับอย่างไม่ลดละ ดูเหมือนเธอจะร้องไห้อีกแล้ว ผมนี่มันโคตรแย่เลย...

 

 

 

“ก็ที่ผู้ใหญ่ทำอะไรงี่เง่าก็เพราะ...เอ่อ”

 

 

 

“ไม่อยากรู้ ไม่อยากฟัง!” แก้วหันหลังเดินหนีผมอย่างไม่แยแสกับคำพูดของผม ทำไม?...ไม่แคร์กันเลยเหรอ?

 

 

 

“เราเป็นอะไรกัน?!”

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

               ผมตัดสินใจตะโกนแข่งกับเสียงฝนภายนอก และผมรู้ว่ามันดังพอที่จะทำให้เธอได้ยินแต่เพียงเธอไม่ตอบ...ก็แค่นั้น

 

 

 

“ตอบได้หรือเปล่า...มินนี่ของฉัน”

 

 

 

“.....”

 

 

 

“.....”

 

 

 

“ขอเป็นมิกกี้ของเธอได้หรือเปล่า?”  ผมเดินเข้าไปสวมกอดแก้วจากทางด้านหลังแล้วกระซิบที่ข้างหู นี่ที่ผ่านมาทั้งหมด...ผมยอมแพ้กับข่าวลือบ้าๆนั้นเหรอเนี่ย? ผมเงียบ...เพื่อรอฟังคำตอบจากแก้ว ให้ตายเถอะ...เธอทำให้ฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนขึ้นเวทีครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน เสียอีก เธอทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง...

 

 

 

“ฮึก..เพื่ออะไร?” เธอร้องไห้?...ตัวของแก้วสั่นสะท้าน เธอสะอื้นตัวโยนรอคำตอบจากคนงี่เง่าอย่างผม

 

 

 

“หมายความว่าไงแก้ว?”

 

 

 

“แก้วถามว่า...ฮึก...โทโมะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?!”

 

 

 

“...เสียงดัง” ผมปรามแก้วนิดๆ เมื่อเธอขึ้นเสียงใส่ เปล่าเลย...ไม่ได้คิดจะดุเธอหรอก แค่อยากให้เราคุยกันดีๆมากกว่า

 

 

 

“งั้นก็ตอบมาสิ นายมากอด มาจูบ มาทำอะไรบ้าๆแบบนั้นกับฉันทำไม? ฮึก..ทั้งที่โทโมะก็มี ‘เขา’ อยู่แล้ว”

 

 

 

“.....”

 

 

 

“นายมันเห็นแก่ตัวรู้ไหม? ถ้าแค่เราสึกหวั่นไหว เราอยู่ห่างๆกันเถอะ...”

 

 

 

“ไม่ห่าง!”  ผมสวนกลับทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้พูดแบบนั้นออกไป รู้แค่เพียงคนในอ้อมกอดช่างมีอิทธิพลต่อผมเหลือเกิน…

 

 

 

“ไม่เข้าใจ...เราจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ!”

 

 

 

“ความสัมพันธ์ของเรา...จำเป็นต้องตัดสินด้วยสถานะอย่างนั้นเหรอ?”

 

 

 

“...”

 

 

 

 

        จริงไหม...มันจำเป็นด้วยเหรอที่เราต้องมานั่งกะเกณฑ์ความสัมพันธ์ ใครจะมองว่าเราเป็นเพื่อน เป็นคนรัก หรืออะไรก็แล้วแต่ มันไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึก...ความรู้สึกของเราเพียงสองคน ปล่อยให้มันเป็น ‘ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก’ แบบนี้แหละ แค่รับรู้ว่ามีเราก็พอ...

 

 

 

“ว่าไง?”

 

 

 

“แก้ว...”

 

 

 

“อย่าโกหกตัวเอง...ปล่อยมัน เหมือนที่โทโมะยอมปล่อยมือจากอีกคนเพื่อมาหาอีกคน!”

 

 

 

“ถ้าแก้วทำแบบนั้น...ยอมปล่อยหัวใจตัวเอง...แก้วจะกลายเป็นคนใจร้ายที่ทำร้ายผู้หญิงด้วยกัน”

 

 

 

“คนที่ใจร้ายคือโมะเองต่างหาก”

 

 

 

“...”

 

 

 

“เรื่องเบลล์...โทมะขอเป็นคนเคลียร์เอง แต่เรื่องของเรา แก้วต้องเคลียร์!”

 

 

 

 

             ผมยื่นคำขาดกับแก้ว อาจจะดูว่าผมเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่ทำแบบนั้น ผมยังไม่อยากจะใช้ค่ารักกับแก้ว มันอาจจะเป็นเพียงความหลงชั่วคราว แต่ทำไมกัน...ผมรู้สึกว่าเธอจะครอบครองพื้นที่ในหัวใจผมไปจนหมดสิ้น หรืออาจจะเป็นความรกที่ต้องดูกันไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้หรอกแค่ต่อแต่นี้จะปล่อยใจให้ทำตามสิ่งที่มันต้องการแค่นั้น...

 

 

 

“แก้ว...”

 

 

 

“ขอหึง ขอหวง แคร์กันหน่อยได้ไหม?”

 

 

 

 

                                                                                 ขอโทษทีพี่ชาย ที่ผมต้องผิดคำสัญญา

 

                                                                                              END TOMO PART

 

 


 

ย๊าาาาา มาละ กะจะไม่อัพT_Tแต่พลั้งปากไปบอกใครไว้?T^T

โทโมะเป็นคนยังไงกันแน่ฟ่ะ? ไรเตอร์ง๊งงง--*

ถ้าตอนนี้มันจะ...ไม่มีอะไรเลย555+ก็อย่าถือสา การบ้านเคมีทำมึน@__@

ขอให้มีความสุข?กับการอ่าน(หรือเปล่า)จ้า^O^ โมะไปสัญญาอะไรไว้ใครรู้บ้าง?(ใครเขาจะไปรู้กับแก--*)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา