Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  116.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

38) ใต้ผืนฟ้ามีความรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                                             ใต้ผืนฟ้ามีความรัก

 

 

 

 

 

KANJI’S PART 

 

 

 

            บางทีผมก็ควรยอมรับอะไรหลายๆอย่างได้แล้ว คนเรานี่ก็แปลก...รู้ทั้งรู้ว่าดันทุรังไปก็มีแต่เจ็บแต่ก็ยังไม่ก้าวถอยออกมา ในขณะที่ก็รู้นะว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์มันจะต้องออกมาในรูปแบบไหน ผมกับเบลล์เป็นเพื่อนกันมานาน ความผูกพันที่ผมมีให้เธอไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวันลบล้างมันออกไปได้...ถึงแม้เธอจะทำได้ก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่ผม

 

ผมทำไม่ได้...

 

“นายไม่ควรรู้สึกอะไรกับฉัน เพราะนายรู้ว่าฉันรักโทโมะ...ฉันรักน้องชายแท้ๆของนาย!”

 

            ตอนนี้เราสองคนนั่งดื่มกันอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งย่านชานเมืองเพื่อหลบหลีกความวุ่นวายทั้งหมด อันที่จริงผมไม่ได้อยากจะมาสักเท่าไหร่ แต่เบลล์คะยั้นคะยอให้ผมมาด้วยเพราะเธอต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับผม...ที่ผมไม่อยากมาเพราะรู้ดีว่ามันต้องเป็นเรื่องนี้ยังไงล่ะ

 

“ไม่เห็นต้องคิดมากเลยนี่นา...เธอก็ทำเป็นลืมๆมันไปซะ ฉันก็จะไม่คิดอะไรแล้วเหมือนกัน ฮะๆ”

 

 

“นายพูดง่ายนะเคนจิ! นายเองก็รู้ว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้...เลิกยุ่งกับฉันซะ ต่อไปนี้เราต่างคนต่างเดิน”

 

 

“ถ้าเธอต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ฉันก็ขัดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่อยากจะบอกก็คือ...ความรู้สึกของคนเรามันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆนะเบลล์ ถ้าเบลล์เปลี่ยนใจจากโทโมะได้เมื่อไหร่...มาสอนฉันด้วยก็แล้วกัน” ผมยกเครื่องดื่มรสชาติร้อนแรงขึ้นดื่มจนหมดแก้วรวดเดียวก่อนจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

 

 

ผมไม่อยากอยู่ให้เขาดูถูกความรักอีก...

 

 

“ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจจากโทโมะ! นายได้ยินมั้ย...ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันจะกลับไปทวงโทโมะคืน!”

 

 

            เสียงของเธอตะโกนไล่หลังผมมาแข่งกับเสียงอันดังภายในผับ แต่ช่วงที่เธอพูดมันเป็นช่วงเวลาที่เสียงเพลงกำลังจะหยุดลงพอดี เสียงนั้นเลยดังติดหูผมอย่างช่วยไม่ได้ โอเค ถ้าเรื่องทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ผมก็คงต้องยอมรับ จะให้ทำยังไงล่ะเนอะ ก็คนมันไม่มีใจ!

 

END KENJI’S PART

 

 

 

 

 

“หยุด...ห้ามซนนะ!”  ฉันผลักใบหน้าหล่อๆ ออกก่อนที่คนชอบฉวยโอกาสจะยื่นหน้ามาจูบฉันได้ จะบ้าเหรอไง...นี่มันหน้าบ้านฉันนะ ป่านนี้ป๊า ม๊า แล้วก็พี่กิ่งอยู่ครบทีมเลยล่ะ ขืนสามคนออกมาเห็นเข้าน้า...แก้วตายแน่ ตายแบบจริงๆเลยล่ะ

 

 

“โธ่ เดี๋ยวก็จะไม่ได้เจอกันละนะ คอนโดก็ไม่ยอมนอนเกิดคิดถึงที่บ้านขึ้นมาซะงั้น”  อันที่จริงแล้วฉันอยากอยู่ให้ห่างเขามากกว่า สาบานเถอะว่าฉันอยู่ใกล้เขาไม่ได้ โทโมะชอบซนกับฉันนะ อยู่ใกล้ทุกวันฉันไม่ตายพอดีหรอกเหรอ T^T

 

 

“อ้าว คนเขามีพ่อมีแม่มีพี่สาวให้ต้องคิดถึงนี่ ทำอย่างกับโทโมะไม่มี ชิ” ฉันเบ้ปากใส่คนที่ทำท่าโอดครวญจะเป็นจะตายให้ได้ แต่พอฉันพูดเขากลับชะงักไปแล้วหันกลับไปถอนหายใจยาวๆ

 

 

“...”

 

 

“คิดมาเรื่องพี่เคนจิเหรอ ขอโทษนะ”

 

 

 

พอเห็นเขาเงียบไปฉันเองก็แอบรู้สึกผิดที่ไปพูดกระเทือนใจเขา โทโมะเคยเล่าให้ฟังว่าเขากับพี่เคนจิสนิทกันมากด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกันก็เลยทำให้เขาติดพี่ชายมากกว่าพี่สาวอย่างพี่มากิ แล้วอีกอย่างเขาบอกว่าพี่เคยจิเป็นพี่ชายที่แสนดีมากๆเลยล่ะ เขามักเสียสละให้น้องอยู่เสมอ จนมาเกิดเรื่องเข้าแบบนี้โทโมะก็เลยรู้สึกผิดหวังในตัวพี่ชายที่เขารักเหมืนพ่ออีกคน...ความจริงฉันก็มีส่วนผิดนะ ที่ทำให้โทโมะต้องผิดใจกับพี่ของเขา

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากน่ะ เข้าบ้านไปได้แล้วไป ป่านนี้ป๊าแม่แล้วก็พี่สาวเราเค้าเป็นห่วงแย่แล้ว ดูดิ ยัยกิ่งไม้แห้งยืนเท้าสะเอวรอเชือดแก้วอยู่หน้าบ้านโน่น” โทโมะเอื้อมมือมาโยกหัวฉันเล่นเบาๆก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางพี่กิ่งที่ยืนหน้าคว่ำอยู่

 

 

แฮ่ จริงๆด้วย ฉันตายแน่เลย ._.

 

 

 

“กลับบ้านได้แล้วเหรอยัยน้องตัวดี นี่ไอ้ผีดิบมันกักตัวแกไว้หรือเปล่า ?”  พี่กิ่งถามฉันขึ้นทันทีหลังจากที่ฉันเดินเข้าบ้านมา

 

 

“เปล่าหรอก แค่ช่วงนี้เรียนหนัก งานเยอะก็เลยพักที่คอนโดอ่ะ บ้านเราอยู่ไกลไม่อยากให้ม๊าขับรถไปรับหลายๆรอบ ไม่เกี่ยวกับโทโมะหรอก นี่...แล้วพี่ก็เลิกเรียกเขาว่าผีดิบเหอะ ตอนนี้เขาไม่ใช่แล้วน้า~”

 

 

“แล้วนั่นไปเอาแหวนใครมาใส่อ่ะ ?”  ฉันรีบซ่อนมือไว้ทางด้านหลังพลางไม่กล้าสบตาพี่สาวตัวเองด้วยความเขิน

 

 

“อ๋อ...อ่อ...”

 

 

 

“ไอ้ผีดิบสินะ”  พี่สาวฉันรู้จักฉันดีเสมอเลยล่ะ ไม่แปลกเลยที่ฉันจะรักพี่กิ่งมาก ถ้าโทโมะรักพี่เคนจิเหมือนพ่ออีกคนฉันก็รักยัยนี่ไปไม่น้อยกว่าม๊าหรอกน่า

 

 

“ก็แค่สวมเล่นๆเฉยๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้งหรอกน่า ขึ้นบ้านเหอะ ถ้าอยากรู้อะไรเดี๋ยวเล่าให้ฟังยาวๆเลยคืนนี้ นะ...”  ฉันดันแผ่นหลังพี่กิ่งขึ้นบ้านก่อนจะเข้าไปหาป๊ากับม๊าด้วยความคิดถึงและขอตัวขึ้นมาคุยกับพี่กิ่งเรื่องที่ยังค้างคากันอยู่

 

 

“เล่ามาให้หมดไอ้น้องตัวแสบ ไอ้ผีดิบมันเคลียร์กับผู้หญิงของมันหรือยัง แล้วยัยนั่นมาหาเรื่องแกหรือเปล่า?”

 

 

“มันมีอะไรมากกว่าที่พี่คิดอีก”  ฉันถอนหายใจเฮือกยาวก่อนจะเล่าความจริงทุกอย่างให้พี่สาวคนเดียวฟังอย่างไม่ปิดบัง ฉันไม่อยากเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว อย่างน้อยฉันเชื่อว่าพี่กิ่งสามารให้คำปรึกษาฉันได้

 

 

“อะไรนะ!!!” พี่กิ่งยกหมอนฟาดดังปักจนนุ่นข้างในปลิวว่อนเมื่อได้ฟังที่ฉันเล่า

 

 

“ตามนั้นแหละพี่”

 

 

“ไอ้ผีดิบไม่ได้คบกับยัยนั่นเพราะความรักแต่เพราะถูกพี่ชายขอร้อง เพราะพี่ชายมันรักผู้หญิงคนนั้น และแกก็เกือบจะโดนไอ้งั่งนั่นปล้ำแต่โทโมะไปช่วยไว้ได้ทัน ? เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมแกไม่บอกฉัน...รับรองเลยว่าถ้าแกพูดแค่คำเดียวฉันจะตามไปเด็ดหัวไอ้พวกบ้านั่นทุกคน ชิส์!”

 

 

“ใจเย็นน่าพี่กิ่ง แก้วว่ามันไม่มีอะไรแล้วล่ะ โทโมะคงจัดการได้”

 

 

“แกเชื่อเหรอ ?”

 

 

“เชื่อสิ เพราะเขาคือคนที่แก้วรัก ถ้าแก้วไม่เชื่อโทโมะแล้วจะให้แก้วเชื่อใคร”  ฉันพูดเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันมั่นใจว่าโทโมะปกป้องฉันได้

 

 

“เหอะ! มันทำแกเสียใจมากี่ครั้งแล้ว ฉันไว้ใจมันได้ป่ะแก้ว?”

 

 

“เขาคือว่าที่น้องเขยพี่นะ ฮะๆ”  ฉันพูดติดตลกนิดๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูตึงเครียดจนเกินไป อันที่จริงพี่กิ่งก็ไม่ได้อคติอะไรกับโทโมะหรอก โทโมะก็แค่ชอบกวนประสาทพี่สาวฉัน ยัยพี่กิ่งก็เลยหมั่นไส้ ความจริงแล้วพี่กิ่งไม่ได้คิดอะไรหรอก ฉันรู้ดี

 

 

“แหวะ! ไอ้น้องเขยหื่นๆ ที่จ้องจะขย้ำแกทุกเมื่อที่มีโอกาสแบบนี้เนี่ยนะ ฉันไม่รับมันเป็นน้องเขยหรอก”

 

 

“ปะ...เปล่านะ”  ทำไงดีล่ะ ตอนนี้หน้าฉันคงแดงมากเลยที่พี่กิ่งพูดเรื่องนั้นขึ้นมา ถึงแม้จะแค่แซวก็เหอะนะ ฉันไม่ไดอยากได้ยินนี่นา นี่อีกซักพักโทโมะคงโทรมาหาฉันล่ะ คงใกล้ถึงคอนโดเขาแล้วมั้ง

 

 

Ring! Ring!

 

นั่นไง! ไม่ทันขาดคำเลยเชียว

 

 

“ไอ้ปลาไหลญี่ปุ่นโทรมาหาอ่ะดิ บอกมันสิฉันฝากถามหน่อย...ไม่เจอกันแป๊บเดียวจะตายหรือไง”

 

 

“คิกๆ...ว่าไง ถึงแล้วเหรอ”  ฉันหัวเราะคิกคักกับคำพูดของพี่กิ่งก่อนจะหันไปตอบปลายสายด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่ว่า ทันทีที่อีกฝ่ายตอบกลับมานั่นทำให้ฉันแทบช๊อคไปเลยล่ะ

 

 

[ถึงแล้ว]

 

 

“เป็นไรเปล่าอ่ะ ทำไมเสียงดูเครียดๆนะ”

 

 

[ถึงหน้าต่างห้องแก้วแล้ว เปิดให้หน่อย]

 

 

“ฮะ?!”  บ้าเอ้ย! ทำไมโทโมะถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้นะ ฉันมองไปทางหน้าต่างข้างห้องก่อนจะพบเงาสูงใหญ่ของใครบางคนอยู่หลังผ้าม่าน นี่ดีนะที่พี่กิ่งนั่งหันหลังอยู่เลยไม่ทันเห็นน่ะ ไม่งั้นเขาตายแน่เลย

 

 

[ฮะ อะไรยัยตัวดี เปิดประตูให้หน่อยครับ อยู่ตรงนี้นานๆแล้วมันหวิวนะ]

 

 

“ทำไม ? ไอ้ผีดิบมีชู้เหรอ?”  เสียงพี่กิ่งเอ่ยแทรกขึ้นมานั่นคงทำให้โทโมะรู้ตัวแล้วว่าตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว เขาเงียบไปเลย

 

 

“เปล่าหรอกพี่ โทโมะ...เอ่อ...โทโมะเค้า เค้าบอกให้แก้วร้องเพลงให้ฟังไม่งั้นนอนไม่หลับ พี่ออกไปก่อนนะ คือแก้วเขินอ่ะ นะ...”

 

 

“โอ้ย! เปิดเทปเองสิยะ ฉันยังคุยกับแกไม่จบเลยนะ”

 

 

“เอาน่าไว้พรุ่งนี้เราคุยกันต่อ แก้วสัญญาว่าจะอยู่บ้านให้พี่ซักไซ้อีกหนึ่งอาทิตย์ โอเค้?” 

 

 

“เออๆ! เรื่องมากจริง ฉันไปก็ได้ อย่ากล่อมกันจนเช้าล่ะ”   พอพี่กิ่งออกจากห้องไปปุ๊บฉันก็รีบวิ่งไปกดลีอกประตูห้องทันที แหงสิ! ถ้าเกิดพี่กิ่งมาเห็นเข้ามีหวังได้อาละวาดบ้านแตกแน่ แต่ตอนนี้คงต้องขอไปจัดการกับไอ้ตัวยุ่งข้างหน้าต่างก่อน เกิดใครผ่านไปผ่านมาเห็นเข้าจะเป็นเรื่องถึงแม้ว่ามันจะมีต้นสูงใหญ่บังอยู่ก็เหอะนะ

 

 

“ยัยกิ่งไม้แห้งไปแล้วเหรอ”

 

 

“น้อยๆหน่อย เรียกพี่สาวแก้วดีๆไม่เป็นหรือไง คนบ้านี่”  โทโมะกระโดดข้ามระเบียงเข้ามาข้างในห้องฉัน อยู่ๆเขาก็รวบฉันเข้าไปกอดเฉย เหอะ! ฉันจำได้ว่าเราห่างกันไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำนะ

 

 

“ทำเหมือนพี่สาวแก้วเรียกชื่อโทโมะดีตาย”  โทโมะเบ้ปากก่อนจะคลายอ้อมกอดจากฉันแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงไปนอนแผ่หราอยู่บนเตียง ร้อนถึงฉันต้องรีบตามไปฉุดร่างหนักๆนั้นให้มาคุยกันให้รู้เรื่องเพราะเวลานี้เขาควรกลับคอนโดเขาไปได้แล้ว

 

 

“นี่ แล้วมานอนอะไรตรงนี้ ทำไมไม่กลับไป แล้วรถล่ะ ?”

 

 

“จอดอยู่ปากทางโน่น ไม่เอาอ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว ง่วง”  ว่าแล้วเขาก็คว้าหมอนมาปิดหน้าเอาไว้แล้วฟุบหลับไปเลย ได้ไงล่ะ คิดจะมาชิ่งหนีกันแบบนี้ดื้อๆเลยเหรอ ฝันไปเถอะ!

 

 

“นี่...กลับไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้าที่บ้านแก้วรู้เข้า เราตายแน่นะ”

 

 

“...”

 

 

“โทโมะ!”

 

 

“เงียบน่ะ”  ดูเหมือนโทโมะจะรำคาญฉันไม่น้อยเลยนะ เขาคว้าตัวฉันเข้าไปใกล้แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของเราสองคนไว้...กอดฉันแน่นๆ แล้วซบใบหน้าหล่อๆลงเลยไหล่ฉัน

 

 

“จะเอางี้ใช่มั้ย”   ฉันถอนหายใจยาวๆเมื่อรู้ว่าพูดไปก็เหมือนพูดกับสายลมและอากาศในเมื่อเจ้าตัวไม่ไดคิดจะฟังอะไรฉันอยู่แล้ว แถมยังมาหลับใส่กันดื้อๆแบบนี้อีก ไม่เข้าใจเลยนะเนี่ยว่าทำไมโทโมะไม่ยอมกลับคอนโดตัวเองไป จะมาเสี่ยงปีนบ้านฉันเพื่ออะไร เข้ามาหลับ ?...แค่นี้ ?

 

 

“เลิกสงสัยได้แล้ว แค่อยากนอนกอดเฉยๆ หลับซะ”   โทโมะตอบกลับฉันทั้งที่ฉันไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกไป เขาคงรู้แหละว่าฉันกลังคิดอะไรอยู่ โทโมะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและฉันก็ค่อยๆปิดเปลือกตาลงด้วยความอ่อนเพลีย...อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อุ่นจัง

 

 

Ring! Ring! Ring!

 

            เสียงนาฬิกาปลุกที่ฉันตั้งไว้ตอนตีสี่ครึ่งดังขึ้น ฉันงัวเงียพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งออกแล้วหันไปเขย่าแขนโทโมะที่ยังคงหลับสนิทเพื่อปลุกให้เขาตื่นและกลับไปก่อนที่คนที่บ้านฉันจะตื่น และนั่นหมายความว่าเขาอาจจะถูกรุมประชาทัณฑ์โดยมีแกนนำคือพี่สาวของฉัน

 

 

“โทโมะ ตื่นเร็ว จะเช้าแล้วนะเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า คนบ้า! ตื่นๆๆๆๆ”

 

 

“อืออออ...เงียบๆได้มั้ย!”  อกจากจะไม่ยอมตื่นดีๆ เขายังผลักหัวฉันออกด้วย ให้ตายเถอะ!

 

 

“กลับไปได้แล้ว! คนเขาไล่แล้วยังไม่ไปอีกใช่มั้ย!” ฉันฟาดต้นแขนเขาแรงๆอย่างหมั่นไส้ โทโมะชอบทำให้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์อันน่าตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเลยอ่ะ ไม่ชอบเลย เขาชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อย!

 

 

“ไล่ ? โอเค แก้วเลือกที่จะใช้คำนี้ใช่มั้ย...”  อะ...อะไรล่ะ! โทโมะหันหน้าหนีฉันไปอีกทางเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่พอใจมากที่ฉันออกปากไล่เขาแบบนี้ ทั้งที่เขายอมเสี่ยงปีนเข้ามาหาฉัน ทั้งไม่ยอมกลับบ้าน แต่ฉันกลับไล่เขา

 

 

“นี่...งอนเหรอ ?”  ฉันเอื้อมมือไปเขย่าแขนเขาเบาๆ แต่อีกฝ่ายกลับไปไม่พูดจาแถมยังสะบัดไหล่ไปอีกทาง เอาล่ะนะ ต่อให้เขาพูดว่าไม่งอฉันก็ไม่มีวันเชื่อหรอก ทำไงดีเนี่ย! ผู้ชายคนนี้ ‘เด็ก’ เข้าทุกวันๆล่ะนะ

 

 

“...”

 

 

“ขอโทษน้า แก้วไม่ได้ตั้งใจ”

 

 

“...”

 

 

“ใจแข็งจัง”  อุตส่าห์ง้อแล้วนะเนี่ย เหนื่อยเป็นบ้าเลย ผู้ชายอะไรตัวโต๊โตแต่ทำนิสัยเหมือนเด็กเล็กที่ถูกขัดใจ ฉันยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มนิ่มของเขาเบาๆแต่อีกฝ่ายกลับเขยิบตัวออกห่าง อ้าว! เป็นงั้นไป กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมดเลยสินะ

 

 

“...”

 

 

“แหวนสวยจัง ไม่ให้คืนนะ”  ฉันยื่นมือข้างที่เขาสวมแหวนให้ไปหยุดอยู่ตรงหน้าแต่โทโมะก็ยังหันหน้าหนีอีก คราวนี้เขาฟุบลงกับหมอนไม่มองหน้าฉันเลย แล้วกันสิ ไม่ได้ผลแหะ! ฉันเองก็เริ่มหมดมุกแล้วด้วย

 

 

“...”

 

 

 

“ขอโทษๆๆๆๆๆๆ พ่อปลาดิบน้อยเลิกงอนเถอะน้า”  และนี่คือวิธีสุดท้ายของฉันแล้ว...

 

 

            ฉันเดินอ้อมไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะค่อยๆแทรกตัวลงไปนอนเบียดกับโทโมะ เขาไม่ได้พูดอะไรแต่อ้อมแขนของเขาเลือกที่จะกระชับกอดฉันแน่น แค่นี้แหละ...โทโมะง้อไม่อยากหรอก แค่ต้องเอาใจนิดนึง ฉันซุกหน้าลงตรงหน้าอกของเขาแล้วหลับไปพร้อมๆกันอีกครั้ง ต่อให้โดนพี่กิ่งฆ่าก็ยอม...ดีกว่าเขางอนฉันล่ะน่า

 

 

 

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

 

“ยัยแก้ว! ตื่นหรือยังแกลืมหรือเปล่าว่าวันนี้แกมีเรียแล้วแกก็ต้องไปซ้อมคอนฯด้วยนะโว้ย!”  เสียงทุบประตูห้องดังโครมครามจนฉันต้องสะดุ้งตื่น แต่กลับพบว่าข้างกายว่างเปล่า โทโมะกลับไปตอนไหนฉันไม่รู้เรื่องเลย มีเพียงโพสอิทที่แปะไว้ตรงโคมไฟข้างเตียงว่า

 

 

‘เจอกันตอนบ่ายที่มหา’ลัย เดี๋ยวโทโมะไปรับนะ’

 

 

เขาดูแลฉันดีจังแหละ ฉันว่าฉันมีความสุขที่สุดเลย!

 

 

“ค่าๆๆ! เดี๋ยวจะรีบไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละค่าคุณพี่สาว รอแป๊บน้า~” 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“บางทีก็มาช้าไปนะ บ่ายสองแล้วเนี่ย ไหนบอกเลิกบ่ายโมงไง โทโมะร้อนอ่ะ”  ฉันเดินมาหาโทโมะทันทีที่ลงจากตึกเรียนได้ เห็นเขายืนใช้หมวกโบกเอาลมเข้าตัวด้วยสีหน้าหงุดหงิดแถมเหงื่อนี่แตกพลั่กเลยล่ะ ช่วยไม่ได้! ก็คนมันมีงานค้างนี่นา

 

 

“แล้วทำไมไม่ไปรอในรถ ไปเหอะ รีบขึ้นรถเร็วเดี๋ยวมีใครเอาไปเม้าท์ บอกไม่ต้องมารับก็ไม่ยอมอีก”

 

 

“ไม่ไป แก้วกลัวอะไรอีกล่ะ ใครจะเห็นก็เรื่องของเค้าสิ” คนโตกว่ายังดื้อดึงไม่เลิก ร้อนถึงฉันต้องหันไปฟาดเขาแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นก็เพราะกลัวว่าคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจะมองเราสองคนเสียๆหายๆ อีกอย่างเขาก็เพิ่งมีข่าวว่าห่างกับแฟนเขาแล้วด้วย และการที่เขามารับฉันแบบนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเราสองคนนะ แอบคบกันจริงๆ เขาเข้าใจบ้างมั้ยเนี่ย?

 

 

“ไม่ร้อนหรือไง ขึ้นรถเถอะ”

 

 

“ไม่ขึ้น”

 

 

“...นี่”  ฉันถอยหายใจพลางส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะล้วงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาซับเหงื่อให้จอมเรื่องมาก ได้ผลแหะ อีกฝ่ายเผยยิ้มออกมาแถมยังยืนให้ฉันซับเหงื่อให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดยอดไปเลย!

 

 

“...”

 

 

“ทีนี้จะขึ้นรถได้หรือไง ไปเร็ว เราต้องไปซ้อมต่อนะ เลิกดื้อ!”  ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันกลายเป็นแม่เขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ปกติแล้วคนที่จะพูดประโยคนี้น่ะต้องเป็นเขาไม่ใช่ฉันนะ! อะไรกันเนี่ยยย!

 

 

“น่ารักแบบนี้ค่อยพูดกันรู้เรื่องหน่อย” 

 

 

เขาน่ะสิที่พูดไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว!!

 

 

 

“เออแก้ว โทโมะมีเรื่องจะบอก”

 

 

“หืม?”  ระหว่างเดินทางไปตึกRS เขาก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา บางทีฉันก็แอบกลัวกับสิ่งที่เขาจะบอกนะ ไม่รู้สิ ฟังแล้วมันใจหวิวๆยังไงชอบกล

 

 

“เมื่อคืนตอนที่โทโมะกลับไปอ่ะ รู้มั้ยว่ามีใครมารอโทโมะอยู่ที่ห้อง?”

 

 

“ผี?”

 

 

“นี่แน่ะ!”  เขาเอื้อมมือมาดึงแก้มของฉันเบาๆ แต่ไอ้คำว่าเบาๆของเขาน่ะมันคือเจ็บของฉันเลยล่ะ ก็เห็นบรรยากาศดูตึงเครียดฉันก็เลยพยายามผ่อนคลาย แต่ดูเจ้าตัวทำสิ! เจ็บชะมัดยาดเลยให้ตายเถอะ!

 

 

“โอ๊ย! ตาบ้า เจ็บนะ ถ้าไม่ใช่ผีแล้วอะไรล่ะ ผู้หญิงเหรอ ? มีผู้หญิงมาหาเหรอ!” ฉันโวยวายใส่เขาใหญ่ แต่แทนที่เขาจะปฏิเสธกลับพยักหน้าซะงั้น แปลว่ามีผู้หญิงมาหาเขาจริงๆใช่มั้ย!

 

 

“แน่นอน”

 

 

“โทโมะ! ไม่ตลก”

 

 

 

“เบลล์น่ะ”  เขาพูดได้เรียบเฉยมากกกก! ต่างกับฉันนี่เดือดเป็นไฟเลยนะ โมโหจริงๆนึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะเลิกยุ่งกับเขาไปแล้วนะเนี่ย

 

 

“มาทำไม”  ฉันกดเสียงลงให้ต่ำเพื่อแสดงให้โทโมะรู้ว่าฉันไม่พอใจมากๆเลยนะ

 

 

“อยากรู้เหรอ ?”  แต่โทโมะกลับมองว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เขาเอามายอกย้อนฉัน

 

 

“ยังไม่ลืมกันล่ะสิ ชิ!”

 

 

“อยากรู้ก็อ้อนสิ”

 

 

“ฮะ?” ถามว่าตลกมั้ย! มันใช่เรื่องเหรอค่ะคุณโทโมะ บ้าเหอะ!

 

 

“อ้อนเร็ว” 

 

“...”

 

 

“อ้อนโทโมะก่อนสิ แล้วจะบอกทุกอย่างเลย”

 

 

“...”

 

 

“อ้อน...นะ”  โทโมะหันมาสบสายตาหวานละลายให้ฉันจนฉันงี้ไปไม่ถูกเลย อะ...อะไรกัน! ทำไมเขาต้องทำให้ฉันใจเต้นแรงแบบนี้ด้วยเล่า โอ๊ยยยย! งงจังเลยคนบ้า!

 

 

 

 


 

ยาวมั้ย! ทดแทนที่ไม่ได้อัพเมื่อวาน ไปละคร้า

 

ไว้มีเรื่องใหม่มาคั่นเวลาเล็กๆน้อย คิ้คิ้ :)

 

หวานนิดนึงหลังจากดราม่ามาเยอะคิคิ 

 

โทโมะอ้อนให้แก้วอ้อนครับอย่างง5555บายส์

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา