Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22) จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
“กินข้าวมาหรือยังแม่สาวน้อยของโทโมะ ?”
คำพูดนุ่มๆกระซิบข้างริมหูของหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องพักหลังจากต้องถ่ายละครคู่กับพระเอกคนใหม่แทบทั้งวัน แก้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเล่นเข้ามาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในห้องพักของเธอได้
“อ้ะ ! มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ทำไมจะมาไม่ได้ ? อ๋อ แอบซ่อนใครไว้ในห้องใช่ไหม ?” โทโมะมองคนตัวเล็กตาขวาง จนอีกฝ่ายต้องรีบอธิบายไม่ให้คนโตกว่าที่พักหลังชักจะงี่เง่างอแงเหมือนเด็กเค้าไปทุกวี่ทุกวัน ร่างเล็กโผเข้ากอดร่างหนาอย่างงอนง้อก่อนจะเงยหน้าแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบเบาๆที่ริมฝีปากร้อนชื้นของเขา
“แก้วจะมีใคร ? ก็มีโทโมะอยู่คนเดียว”
“ก็นึกว่าไปหลงพระเอกใหม่จนลืมกันแล้ว”
“ไม่หลง หลงคนตัวใหญ่ของเค้าคนเดียวน้า พอแล้วๆไม่เถียงเรื่องคนอื่นดีกว่า ไปกินข้าวันเหอะ แก้วหิ๊วหิว” ก่อนจะต้องเรียกร้องความสนใจจากเขาด้วยการจูงมือไปห้องครัว
~ฝากไปเตือนเขา ฝากไปเตือนเขา ทั้งที่ได้เธอไปไม่แคร์แล้วยังได้แต่รังแกหัวใจ~
“...ครับ”
เมื่อเห็นว่าเสียงเรียกข้าวของไอโฟนตัวเก่งดังขึ้น โทโมะก็เหลือบไปมองก่อนจะชั่งใจนิดๆว่าควรรับหรือไม่เพราะเจ้าของมันยังอยู่ในห้องน้ำอยู่เลยเนี่ยนะสิ นานๆเข้าเขาก็ทนรำคาญไม่ไหวจนต้องหยิบมันมากดรับ ทั้งที่เบอร์ๆนั้นไม่ขึ้นชื่อเสียด้วยซ้ำ
“น้องแก้วอยู่ไหมครับ ?” เสียงเข้มคุ้นหูจากปลายสายดังขึ้นจนโทโมะถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ใคร ?
“นั้นใครครับ” โทโมะถามกลับอย่างสุภาพ
“คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าผมเป็นใคร ?” อีกฝ่ายยียวนกลับกวนประสาทเขาจนโทโมะพอจะเดาออกว่าเป็นใคร คนที่เขาเจอเมื่อเช้าแน่ๆ !
“ขอโทษนะครับ แก้วไม่ได้เมมชื่อคุณเอาไว้ แก้วคงเห็นว่ามันไม่สำคัญพอที่จะทำแบบนั้นนะครับ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เท่านี้....”
“ เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้คุยกับน้องแก้วเลยนะ กะว่ามีธุระส่วนตัวจะคุยด้วยสักหน่อย ตกลงน้องแก้วอยู่ที่ไหน ?” ร่างสูงเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้ก่อนที่จะหมดความอดทนไปมากกว่านี้ เขาเลยรีบตัดบทเสีย
“อาบน้ำอยู่ครับ ? ให้ผมเข้าไปตามในห้องน้ำให้เลยไหม ? อ้อ..ถ้าเกิดผมทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆละก็ คืนนี้คุณก็คงไม่ได้คุยกับแก้วหรอกครับ งั้น ‘โทโมะ’ ขอตัวนะครับพี่....” เขากดตัดสายใส่อีกฝ่ายด้วยความสะใจ
ร่างเล็กเดินออกมาพร้อมเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงขาสั้น อวดขาขาวๆยั่วยวนอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูก โทโมะยิ้มร้ายก่อนจะโยนไอโฟนของหญิงสาวลงบนโซฟาแล้วตวัดร่างแบบบางเข้ามารั้งนั่งตักเขาไว้ จนแก้วแปลกใจกับอารมณ์ที่ปรวนแปรของเขา
“เดี๋ยวนี้ริอาจให้เบอร์ผู้ชายแล้วหรือยังไง !”
“เห ? ผู้ชายอะไรอ่า แก้วไม่รู้เรื่อง”
“เมื่อกี๊ พระเอกคนนั้นโทรมาหาแก้ว บอกว่ามีเรื่องส่วนตัวอยากจะคุยกับแก้ว มันหมายความว่ายังไง !” แก้วตาโตด้วยความตกใจไม่คิดว่ารุ่นพี่จะโทรมาตอนที่คนรักของเธออยู่
“ก็...ยังไงแก้วก็ต้องให้เบอร์กับทุกคนในกองอยู่แล้ว เพราะต้องทำงานร่วมกัน อย่าคิดมากน้าคนดี เดี๋ยวไม่หล่อนะ”
“เด็กปากดี” เขาว่าพลางบีบจมูกรั้นๆของหญิงสาวเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว หญิงสาวมองเขาตาหวานก่อนจะแนบริมฝีปากลงบนแก้มนุ่มเนียนราวกับผู้หญิงของคนรักอย่างเต็มฟอด
ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนตัวมาอยู่บนแผ่นหลังบาง ลูบไล้ขึ้นลงไปมา ใบหน้าคมเอี้ยวมาจูบรับริมฝีปากนุ่มที่คลอเคลียอยู่บริเวณแก้มเนียนของเขา เลือดร้อนสูบฉีดใบหน้างามจนแดงปลั่งระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้ ราวกับมีใครเอาบรัชออนสีสดมาแต่งแต้มพวงแก้มขาวจนขึ้นริ้วๆ ร้อนฉ่าไปทั่วใบหน้าหวานละมุนนั้น
“ปากดีแล้วไม่รักหรือยังไง”
“รักจะตายอยู่แล้วเหอะแม่คุณ”
เขากอดกระชับเอวบางแน่นๆ ก่อนจะฝังจมูกโด่งคลอเคลียคอระหงของแก้วอย่างหวานชื่นจนร่างของเธอสะท้านซาบซ่านไปทั่วร่าง มือบางกอดรัดร่างหนาของโทโมะ แนบแน่น ร่างสูงสูดดมความหอมหวานจากร่างเพรียวอย่างเต็มกลืนจนร่างกายกระวนกระวายต้องการรับสัมผัสจากเธอให้มากขึ้นและแนบแน่นยิ่งขึ้น
“อื้ม”
“หอมจังครับที่รัก”
ร่างสูงพูดเสียงอู้อี้ในลำคอก่อนจะยกร่างเล็กขึ้นอุ้มและวางลงบนผืนเตียงอย่างแผ่วเบา เขาตามลงมาจูบซับริมฝีปากอวบอิ่มหวานชื่นอย่างหลงใหล หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกๆในสมองขาวโพลนเริ่มพล่าเบลอ รู้แค่เพียงสัมผัสร้อนชื้นจากริมฝีปากหนักๆที่เขาจงใจถ่ายทอด ให้
ร่างสูงตรึงข้อมือเล็กเอาไว้หลวมๆก่อนจะลากเรียวนิ้วตั้งแต่ข้อมือขึ้นมายังผิวเนียนนุ่มของอีกฝ่ายก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาฝากฝังรอยรักบนร่างกายขาวนุ่มราวกับยัยใหมสอางค์ ยิ่งทำให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ยิ่งรัก ยิ่งหลง ยิ่งไม่อยากห่างกายแม้เพียงเสี้ยวนาที !
“อ๊า ปล่อยแก้ว โทโมะอย่ามางอแงนะ! “
“อะไร”
“อย่ามาทำหน้าดุด้วย ห้าม!”
เขาทำหน้างอเหมือนเด็กโดนขัดใจก่อนจะต้องอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีกเมื่อคนตัวเล็กของเค้าชี้หน้าห้ามปราม ก่อนจะรวบคว้ามือเรียวที่ชี้หน้าเขาอยู่ตรึงกับผืนเตียงพร้อมก้มหน้าให้ระยะประชิดกว่าเดิมเพื่อเป็นการขู่เด็กน้อย เรื่องอะไรให้เธอเป็นฝ่ายคุมเขา เขาเป็นผู้ชายเขาต้องเป็นฝ่ายคุมภรรยาตัวเองสิ !
“ใครสั่งใครสอนให้แก้วก้าวร้าวชี้หน้าว่าโทโมะแบบนี้ !?”
“ไม่มี”
“กล้ามากนะ”
“แล้วทำไมต้องมาว่าแก้วด้วยเนี่ย อะ..อ่อยยย อ๊า !” ร่างเล็กดีดดิ้นโวยวายเนื่องจากถูกคนโตกว่าบีบจมูกเข้าให้อย่างหมั่นเขี้ยว พร้อมทั้งกดเธอลงบนที่นอน และสั่งห้ามเธอลืมตาเป็นอันขาด เพราะถ้ามัวเถียงกันอยู่แบบนี้ คืนนี้ก็ไม่ได้นอนหรอก !
ยัยตัวแสบ = ________ = ;
“คุณไม่รู้หรือไงว่าที่กองเนี่ยเขารอ ‘นางเอก’ คนเดียว อ้อ หรือคุณไม่ยอมปล่อยให้น้องแก้วมาทำงาน ?”
กว่าจะพานางเอกในจอและนอกจอมาส่งที่กองถ่ายก็เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ พอลงจากรถปุ๊ปนางเอกคนสวยก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ส่วนเขาก็เตรียมตัวจะกลับไปทำงานของเขาบ้าง แต่ก่อนกลับดันเจอเข้ากับพระเอกที่มารอทำงานตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันแขวะเข้าให้ !
“ผมก็พา ‘แฟน’ มาส่งทัน เวลาก็เหลืออีกเป็นครึ่งชั่วโมง ไม่ทราบว่ามีปัญหาตรงไหนหรือครับ?” เขาตอบกลับเสียงเรียบ
“คุณไม่คิดจะเผื่อเวลาหรือมีปัญหาอย่างอื่นเข้ามาแทรกบ้างเหรอครับ เหอะ ! ทำงานแบบไม่โพรเฟชเชอนัลเอาซะเลย”
“ก็แล้วมันมีปัญหาไหมล่ะครับ?” เขาไม่จำเป็นจะต้องแสดงอากัปกิริยาที่ไม่ค่อยจะดีใส่คนแปลกหน้าที่เข้ามาหาเรื่อง แค่อยู่นิ่งๆและเตรียมคำพูดให้สวยหรูที่สุด ก็เท่ากับปาดคอเชือดอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ และดูท่าจะได้ผลเสียด้วยสิ
“ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา คนอื่นเขาจะคิดว่าผมเนี่ยไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานไปด้วยนะสิ !” ในเมื่อไปต่อไม่ถูก พระเอกรุ่นใหญ่ก็ได้แต่เถียงข้างๆคูๆตอบแบบกล้อมแกล้ม
“แทนที่คุณจะเอาเวลามาต่อว่าผมในเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ไปนั่งท่องบทดีกว่ามั้งครับ อุตส่าห์เตรียมตัวมารอแต่เช้า หึ ! หวังอะไรอยู่หรือเปล่า ?” โทโมะยกยิ้มน้อยๆก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับ
“คุณหมายความยังไงไม่ทราบ”
“เลิกหวังอะไรที่มันลมๆแล้งเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ แก้วนะ...ของผมคนเดียว !”
“นายมันไก่อ่อนเนื้อเละกินไปก็ไม่อร่อยหรอก มีอย่างหรือจะมาสู้ไก่เนื้อเหนียวอย่างฉัน....ฝากบอกอะไรไว้อย่างนะไอ้หน้าอ่อน คนอย่างฉัน อยากได้อะไรเป็นต้องได้ ไม่เชื่อก็ลองดู หึ !” พระเอกร่างสูงคนนั้นตรงเข้ามาปรี่กระชากคอเสื้อของโทโมะเอาไว้ก่อนจะขู่รอดไรฟันอย่างจองหอง โทโมะสบสายตาเขาอย่างเหยาะเย้ยและยิ้มเหยียดก่อนจะผลักอกฝ่ายตรงข้ามออกเบาๆ
“คุณเองมันก็ไก่แก่เนื้อเหนียว เคี้ยวไม่เข้าแล้วเหมือนกัน ! อย่าสำคัญตัวเองผิดคิดว่าเป็นดาราโด่งดังแล้วใครต่อใครต้องเที่ยวก้มหัวให้ เรามันก็คนเดินดินเหมือนกันนั่นแหละ สักวันคุณก็ต้องตายเหมือนกัน เพราะงั้นควรจะเก็บปากรักษาตัวเองเอาไว้ให้ดี ผมไม่อยากมีเรื่องกับคนไม่คุ้นเคย !”
“แก!”
โทโมะเดินหันหลังจากมาอย่างไม่สนใจในคำพูดของเขาทั้งสิ้น มันก็แค่ลมปากของผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่คิดจะมาแย่งคนรักของเขา เขาเชื่อใจและไว้ใจแก้วเสียอย่าง สิ่งอื่นใดเขาก็ไม่กลัว แต่จะว่าไปลึกๆเขาก็แอบหวั่นอยู่ในใจ กลัวเหลือเกินว่าคนรักของเขาจะเผลอไปหลงคารมเสือร้ายหิวโซอย่างหมอนั่นเข้า !
ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม !
“เห้ย เป็นไรไปว่ะโทโมะ หน้านิหงิกมาเชียว แนะๆ อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับยัยแก้วแตกนั่นมาอีก อ่ะ อ้าวเห้ย ไปไหนเล่า ตอบคำถามฉันก่อนเซ่ !”
เขื่อนรับรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นกับโทโมะเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นอาการคงไม่เป็นแบบนี้และดูท่าว่าครั้งนี้อาการดูท่าจะหนักกว่าครั้งไหนๆเป็นด้วยซ้ำ ด้วยความเป็นห่วงเลยเดินตามเข้าไปถามไถ่อาหารที่เพื่อนรักเป็นอยู่ตอนนี้ เผื่อมีอะไรเขาจะได้ช่วยให้คำปรึกษาได้ !
“เห้ย งานนี้ฉันถามจริงจัง แกเป็นอะไร ? ทะเลาะกับแก้วเหรอ ?”
“ไม่”
“แล้ว ?”
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาก ฉันยังพอตั้งรับได้ แต่ถ้าวันนึงมันชักจะรุนแรงขึ้นฉันจะขอความช่วยเหลือจากแก !”
โทโมะพูดออกไปด้วยแววตานิ่งสงบราวกับเขาไม่ได้มองเพื่อนรักที่นั่งสนทนาอยู่ด้วยเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเขื่อนออกจะงงและอยากรู้กับอาการของเพื่อนมากแค่ไหน ขาก็ไม่ถามเซ้าซี้ รอให้เหนือบ่ากว่าแรงก่อนจะดีกว่าเขาจะยื่นมือเข้าไปช่วยตามคำขอของโทโมะ
“โอเค ได้เสมอเว้ย ว่าแต่จะให้ช่วยเรื่องอะไรว่ะ ?”
“สั่งสอนพวกลักกินขโมยกินของชาวบ้าน !” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าห้องซ้อมไป...
มันหมายความว่ายังไงว่ะ ?
กองถ่ายละคร
“น้ำครับนางเอกคนใหม่”
แก้วยื่นมือไปรับขวดน้ำอย่างเกรงใจก่อนจะกล่าวขอบคุณพระเอกที่เธอต้องร่วมแสดงด้วยพร้อมเชื้อเชิญให้เขานั่งลงข้างๆเพื่อกันเสียมารยาท นี่ถ้าโทโมะมาเห็นว่าเธอนั่งใกล้ชิดับเขาขนาดนี้ละก็...ไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าของเขาจะเป็นยังไง ?
คงต้องตีหน้ายักษ์ใส่เราแหงๆ ^ ^
“ขอบคุณคะพี่ป้อง”
“วันนี้น้องแก้วเล่นได้ดีมากเลยนะ พี่ยกนิ้วให้เลย”
“ไม่หรอกค่ะ คงเพราะว่าพี่ป้องช่วยด้วยนั่นแหละ แก้วก็ยังใหม่ในเรื่องนี้คงอีกนานกว่าจะเล่นได้สมจริง และก็เป็นมืออาชีพแบบพี่” แก้วตอบเขาด้วยรอยยิ้ม จนอีกฝ่ายลอบมอง
“ถ่อมตัวจริงๆเลยนะเด็กคนนี้ ทั้งสวยทั้งนิสัยดีแบบนี้ไม่น่าละแฟนเขาถึงหวงนักหวงหนา แม้กระทั่งกับพี่...”
“โทโมะพูดอะไรเหรอค่ะ ?!”
หญิงสาวรีบถามขึ้นมาทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้นมาแบบนั้น หวังว่าโทโมะคงไม่ไปพูดอะไรไม่ดีใส่เขาหรอกนะ ! และก็เหมือนจะเข้าทางอีกฝ่ายทันที คนโตกว่าลอบยิ้มเหยียดเล็กน้อยก่อนจะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จออกมาอีกครั้ง
“ก็...มะ ไม่มีอะไรครับ”
“บอกแก้วมาเถอะคะ เขาพูดว่าอะไรพี่หรือเปล่า ? หึ ! คนนิสัยไม่ดี”
“ถ้าพี่บอกน้องแก้วห้ามไปทะเลาะกับเขาอีกนะครับ เดี๋ยวเขาจะพาลไม่ชอบพี่เข้าไปกันใหญ่ ยังไงพี่กับแก้วก็ต้องทำงานร่วมกันอีกนาน สัญญานะครับเด็กดี”
ร่างสูงยื่นนิ้วก้อยออกมากให้เธอเกี่ยว และด้วยความอยากรู้ว่าคนรักของเธอพูดว่าว่าอะไรเขาแก้วจำต้องเกี่ยวก้อยสัญญากับเขาไปโดยปริยาย และฉากการคุยกันครั้งนี้ของคนทั้งคู่ก็หลบไม่พ้นสายตาเหยี่ยวของปาปารัสซี่จนได้ !
“สัญญาค่ะ พี่ป้องเล่ามาให้หมดว่าเขาพูดว่าอะไรบ้าง!”
“เอ่อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เขาก็แค่บอกว่าน้องแก้วเนี่ยเป็นของเขาคนเดียว ห้ามพี่มายุ่งวุ่นวาย ถ้าไม่อย่างนั้น.....”
“ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมค่ะ ?” แก้วถามด้วยความร้อนรน
“เขาอาจจะมีเรื่องกับพี่....อ้าว น้องแก้วไปไหนครับ พี่ขอร้องละอย่าทะเลาะกันนะครับ คุยกันดีๆอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้ “
“แก้วขอตัวก่อนคะ มีธุระต้องรีบไปสะสาง!”
ยังไม่ทันที่เธอจะฟังความอะไรจากเขาจบ แก้วก็รีบลุกขึ้นเก็บข้าวของและบอกลาอีกฝ่ายทันที ไม่บอกก็รู้ว่าเธอรีบไปไหน นอกเสียจากไปเคลียร์กับคนเจ้าอารมณ์อย่างโทโมะ.....เข้าแผนของใครอีกคนพอดีสินะ ?
ร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาภายในบริษัทพลางสอดสายตามองหาใครอีกคนจนเห็นว่าเขาอยู่ในห้องซ้อมเต้นคนเดียว ยิ่งดี เธอจะได้มีเวลาคุยกับเขาแบบส่วนตัวชนิดที่คนอื่นไม่สามารถคัดค้านได้ เวลาทะเลาะกัน อย่างน้อยๆเขาก็คงไม่รุนแรงถึงขั้นตบตีเธอหรอกหน่า !
“โทโมะ !”
“....”
“โทโมะ ! นี่หยุดนะ !”
“.......”
“บอกให้หยุดแล้วหันมาคุยกับแก้วไงเล่า !”
เมื่อเรียกหลายครั้งแล้วเขาไม่ได้ยินเนื่องจากเพลงที่เปิดจากหูฟังของเขาค่อนข้างเสียงดัง เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปกระชากมันออกแล้วผลักให้คนงี่เง่าหันมาเผชิญหน้า ท่ามกลางความงุนงงของโทโมะที่ไม่รู้ว่าแก้วต้องการจะเล่นหรือหาเรื่องกับเขากันแน่ ?
“อะไรกันแก้ว ? ทำไมไม่เดินมารียกโทโมะดีๆ เห็นไหม...พัง ?”
“หึ ! แล้วทีตัวเองทำอะไรลงไปไม่คิดว่างานคนอื่นเขาจะพังบ้างหรือไงคนบ้า !” แก้วตะคอกใส่หน้าเขาจนโทโมะเงียบไป พยายามทบทวนว่าเขาไปทำงานอะไรของเธอพังตอนไหน ?
“อะไร...โทโมะไปทำอะไรให้แก้วถึงมาพาลกันแบบนี้ ?” มือหนารวบคว้าร่างเล็กเข้าหาหมายจะกอดอ้อนงอนง้อแต่เธอกลับถอยห่างและปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี จนตอนนี้โทโมะก็ชักจะโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
“อย่ามาแตะแก้วนะ คนนิสัยไม่ดี”
“ก็แล้วโทโมะนิสัยไม่ดียังไงแก้วถึงว่าเอาๆแบบนี้ มีอะไรก็บอกกันมาสิ ไม่บอกแล้วจะรู้ไหมเล่า !”
“ทำไมต้องมาขึ้นเสียงใส่ด้วย อันธพาลที่สุด กับพี่ป้องก็เหมือนกัน กล้าดียังไงไปวางก้ามใส่พี่เขาแบบนั้น โทโมะไม่รู้หรือไงว่าแก้วต้องทำงานร่วมกับเขาอีกนาน แล้วอีกอย่างนะ จะเที่ยวประกาศให้เขารู้ทำไมว่าแก้วเป็นของโทโมะอ่ะ แก้วไม่ใช่สิ่งของนะ !”
ทันทีที่เธอพูดจบ เขาก็เข้าใจทันที นี่คงโดนไอ้พระเอกนั่นเป่าหูใส่ร้ายเขามางั้นสิ ! ไอ้ที่บอกว่าเขาไว้ใจแก้ว เชื่อใจแก้ว ตอนนี้มันลดลงมาครึ่งนึงแล้ว แค่นี้เธอยังเลือกจะเชื่อคนอื่นมากกว่าเขาเลย แล้วนับประสาอะไรกับหัวใจ เธออาจจะเผลอยกให้เขาไปตอนไหนก็ได้ ! ร่างสูงพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆออกมาก่อนจะหมุนตัวหันหน้าหนีเธอ ด้วยไม่อยากทะเลาะกันเพราะคนอื่น !
“อย่าหันหน้าหนีปัญหาที่ตัวเองสร้างไว้สิคนบ้า !”
“โทโมะไม่ได้หนี แค่ไม่อยากทะเลาะกับแก้ว ! เพราะรู้ดีว่าพูดอะไรออกไปตอนนี้ก็คงจะผิดในสายตาแก้วอยู่ดี ยังไงแก้วก็เลือกที่จะเชื่อคนอื่นมากกว่าโทโมะ ! งั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก !”
“แก้วก็ไม่ได้อยากจะเชื่อคนอื่นมากกว่าคนที่แก้วรักหรอก ! แต่ถ้าโทโมะเป็นแบบที่พี่ป้องพูดจริงๆความรักของแก้ว ณ ตอนนี้มันก็คงจะลดลงตามความรู้สึกด้วย”
“แก้ว เขาเป็นคนอื่น....” เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แก้วจะรักเขาน้อยลงงั้นหรือ ?
“ใช่ ! เขาเป็นคนอื่น และโทโมะเป็นคนรัก ถ้าแก้วไม่รักแก้วจะไม่สนใจโทโมะแบบนี้ ! แก้วรู้ว่าโทโมะรักและหวงแก้วมากแค่ไหน แต่ช่วยแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวหน่อยได้ไหม อย่าทำให้แก้วหนักใจเจียนบ้าแบบนี้เลย !”
“ก็เพราะแก้วไม่รับรู้กับสิ่งที่เขาพูดกับโทโมะเมื่อเช้า แก้วถึงได้เข้าข้างเขาแบบนี้ แก้วไม่มาเป็นโทโมะ แก้วไม่มีวันเข้าใจ !”
“เขาพูดว่าอะไรล่ะ ?”
“แค่แก้วถาม นั่นก็แปลว่าแก้วไม่ได้คิดจะเชื่อโทโมะตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว...ทั้งๆที่โทโมะไว้ใจและเชื่อใจแก้ว แต่สิ่งที่โทโมะได้กลับคืนมาคือคำต่อว่า คือคำครหา คือความไม่เข้าใจ และไม่เชื่อใจกัน ! แค่นี้มันก็เสียความรู้สึกมากพออยู่แล้ว เขาเป็นใคร มาจากไหน แก้วถึงได้หลงเชื่อคำพูดลอยๆของเขา มีหลักฐานแล้วหรือยังไงถึงได้มาใส่ร้ายกันแบบนี้ ! แล้วโทโมะล่ะ เป็นใคร ? มากจากไหน...เรารู้กันดีไม่ใช่เหรอแก้ว “
“คือ แก้ว....”
“หรืออันที่จริงแล้วแก้วไม่เคยรักโทโมะเลย ไม่เคยเลย!!!!!!!!” โทโมะปล่อยน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจเล็กน้อยก่อนจะทิ้งทุกอย่างและเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ยากเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจถึงหัวอกอันเจ็บปวดของเขา
ส่วนแก้ว....อันที่จริง เธอเองก็รู้สึกผิดบ้างที่ไปล่าวหาว่าเขาแบบนั้น มันไม่มีหลักฐานอย่างที่เขาว่าจริงๆ แต่อีกใจเขาก็ไม่อาจคิดว่าพี่ป้องคนที่เธอร่วมงานด้วยจะโกหกใส่ร้าย มันคิดไม่ออกจริงๆว่าใครเป็นฝ่ายโกหก ! ใจนึงเธอก็อยากจะวิ่งเข้าไปกอดและง้อเขา แต่อีกใจก็สั่งไม่ให้ทำแบบนั้น....เรื่องอะไรที่เขามาว่าเธอไม่รักเขา มันน่าน้อยใจชะมัด ! เธอยอมผ่านอะไรมากับเขาตั้งมากมาย เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเธอรักเขา !
อยากจะงอนก็งอนไป !
กลับมาแล้วค้าบ คถ.ทุกคนจุงเบยยยย > <
สอบเสร็จ ปิดเทอม ประกาศผลอันห่วยแตก ._.
แล้วเลยกลับมาหาฟิคที่รักของนุกอีกครั้ง คิคิ
อยากหาอะไรให้มันฟินหัวใจสักครั้ง ช่วงนี้หัวใจอ่อนแอtt
เห้อ...ข่าวลือมันก็เป็นข่าวลืออยู่ยันวันยันค่ำ แต่...
ไม่แคร์เพราะไงมันคือเรื่องจริงสำหรับนุกเสมอ ^[++]^
Ps.สำหรับเนื้อหาในตอนนี้นุกแอบเติมความรู้สึกตัวเองลงปาย =..=
ต้องขอโทษสำหรับบางคนที่อาจจะไม่พอใจที่นุกเอา 'ใคร' บางคนมาเกี่ยวข้อง
มันก็แค่อรรถรสนะค้าบบ #พอไำด้แระ #พล่ามอยู่นั่น 5555555 -.-
การจะเขียนฟิคสักเรื่องมันต้องมีแรงบันดาลใจ
และแรงบันดาลใจของนุกก็คือ...โทโมะแก้ว♥
#กรี๊ดดดด สโลแกน 555555555 #ฝอยเยอะไปแระ *หลบตีน*
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ