เส้นทางรัก ..บนถนนสายมาเฟีย
3) ตอนที่ 3 ผู้หญิงของมาเฟีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 3 ผู้หญิงของมาเฟีย
เช้าวันต่อมา
“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงทักทายของอิงหนานทำให้ใบไผ่รู้สึกหน้าแดง ใจสั่น อายที่นอนหลับโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มิหนำซ้ำตื่นเสียเกือบสิบโมง ซึ่งมาเฟียหนุ่มเองก็เห็นอาการของเธอ ..แต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ
“ค่ะ คุณตื่นนานแล้วเหรอค่ะ”
“ก็ไม่เชิง เพราะผมยังไม่ได้นอนเลย”
“อ้าว ..”ใบไผ่อุทานเสียงหลง แสดงความสงสัยออกทางใบหน้าอย่างบ้องแบ๊ว แทบทำให้อิงหนานไม่อยากพูดในสิ่งที่กำลังจะทำร้ายจิตใจเธอเลยแม้แต่น้อย
“พอดีมีเรื่องที่ต้องคิดและตัดสินใจ เลยทำให้นอนไม่ค่อยหลับ”อิงหนานถอนหายใจหนักหน่วงก่อนที่จะพูดต่อ
“เอ่อ ..ใบไผ่ คือ ผมมีเรื่องที่จะต้องบอกคุณ มันเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิด และไม่อยากจะให้อะไรๆ มันเลวร้ายไปมากกว่านี้”
“เรื่องอะไรค่ะ”
“เรื่องการแต่งงานของเรา คือ ผมแต่งงานกับคุณเพราะเหตุผลทางธุรกิจ ไม่ใช่ความรักอย่างที่ใครๆ เข้าใจ และที่สำคัญผมเองก็มีผู้หญิงของผมอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น หากคุณจะมีใคร ผมก็ไม่ว่า เราจะเป็นสามีภรรยากันเพียงในนาม และให้สังคมรับรู้ว่าเราสองคนเป็นสามีภรรยากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถมีคนอื่นได้ เช่นเดียวกันกับผม หรืออีกทางที่ผมจะเสนอคือ ประกาศการแต่งงานครั้งนี้ให้เป็นโมฆะ หรือไม่ก็รอสักระยะแล้วเราจะหย่ากัน”
คำพูดของอิงหนานทำให้ใบไผ่มืดแปดด้าน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่เอาเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกันได้ เจ็บปวดกับทุกคำพูดที่เขากล่าวออกมา เสียใจ ผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
“อีกอย่าง ที่คุณแต่งงานก็คงมีเหตุผลเดียวกันกับผม คือต้องการใช้ผมเป็นฐานในการทำธุรกิจในฮ่องกง เช่นเดียวกับที่ผม ..ใช้ครอบครัวคุณเป็นฐานในการทำธุรกิจในประเทศไทย”มาเฟียหนุ่มตอกย้ำถึงเหตุผลอีกครั้ง เพื่อปิดกั้นใจตัวเองเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงจากความรู้สึกของตัวเอง
“แล้วถ้าหากฉันปฏิเสธข้อกล่าวหาของคุณล่ะ ถ้าบอกว่าเหตุผลที่ฉันแต่งงานกับคุณเพราะความรัก คุณจะเชื่อไหม”คำกล่าวของเธอทำให้อิงหนานพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองสบตาคู่นั้นอย่างจริงจัง
ใจสั่นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ชอบกล
ความรักเหรอ ..คำๆ นี้มันไม่มีอยู่ในพจนานุกรมมาเฟีย
เพราะจะเป็นมาเฟียต้องเลือดเย็นเหมือนมังกร ..ไร้ใจ ..ไร้รัก หากแม้นเมื่อใดมีรัก ..มังกรจะไร้ซึ่งฤทธิ์เดชที่จะทำให้คนเกรงกลัว
“คุณลืมมันไปเถอะ เมื่อกี๋ฉันแค่พูดเล่น ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก ..ก็อย่างที่คุณพูดนั่นหละ ฉันแต่งกับคุณด้วยเหตุผลทางธุรกิจเหมือนกัน”ใบไผ่กล่าว เมื่อนึกว่าความรักของเธอมันคงไม่มีค่าสำหรับเขา เพราะอิงหนานมีผู้หญิงของเขาอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้นเธอจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเอ่ยว่ารัก เพราะคำๆ นี้คงไม่ซาบซึ้งพอ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เขารักบอก แต่เดี๋ยวนะ ..รักงั้นเหรอ เธอรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
ใบไผ่ไม่รู้ว่าตัวเธอเองมีใจให้อิงหนานตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นเพราะจูบของเขาเมื่อคืน ก็นั่นมันเป็นจูบแรกของเธอนี่ จะไม่ให้รู้สึกอะไรบ้างก็แปลกไปล่ะ เอ้ย ..แล้วจะทำไงดีล่ะทีนี้
“ผมขอโทษ แต่ในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากปล่อยให้เวลาผ่านไปก่อนสักระยะ”อิงหนานบอก
“แล้วฉันจะต้องทำไง”
“คุณอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาผม ทุกคนจะให้เกียรติคุณ คุณมีสิทธิ์จะไปไหนมาไหน ทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครว่า”
“แล้วคุณล่ะ”ใบไผ่ถาม
“เราจะแยกห้องกันนอน ส่วนวันเสาร์กับวันอาทิตย์ผมอาจจะไม่อยู่บ้าน เพราะสัญญากับอาจิ้งเอาไว้ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโด”
ใบไผ่รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่เฉิงอิงหนานรัก อาจิ้ง ..ผู้หญิงคนนั้นชื่ออาจิ้ง อิงหนานเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นอย่างสนิทสนมจนใบไผ่รู้สึกเจ็บลึกๆ ใครบ้างล่ะเมื่อแต่งงานแล้วทนฟังสามีพูดถึงหญิงอื่นอย่างสนิทสนมได้
ใบไผ่รีบส่ายหัวเพื่อขับไล่ความคิดเหลวไหลออกไป ก่อนที่มันจะทำให้เธอเป็นนางมารร้ายไปมากกว่านี้
“การที่คุณมาแต่งงานกับฉัน ผู้หญิงของคุณไม่ว่าเหรอ”ใบไผ่ถาม โดยจงใจใช้คำว่าผู้หญิงของคุณ เพื่อตอกย้ำตัวเองว่าเขามีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว
“อาจิ้งเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย”
“งั้น ..ฉันก็ต้องใจกว้างอย่างอาจิ้งด้วยหรือเปล่า ก็ฉันเองมาทีหลังเธอนี่ ผู้หญิงของมาเฟียต้องใจกว้างซินะ”สาวเจ้ากล่าวอย่างชอกช้ำ
“คุณอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครซิ คุณก็เป็นคุณ อาจิ้งก็ส่วนอาจิ้ง ต่างคนต่างอยู่”
“ได้ ฉันตกลงจะทำตามที่คุณเสนอมาทุกอย่างไม่ต้องห่วง และรับรองฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณพ่อแน่นอน”
ว่าแล้วใบไผ่ก็สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อผ่อนคลาย พยายามฝืนยิ้มให้อิงหนานเห็นเพื่อให้เขาสบายใจ
รอยยิ้มของเธอ
ใบหน้าที่ตรอมตรม ..หากแต่ยังฝืนยิ้มออกมา ยิ่งทำอิงหนานรู้สึกผิด
มองแล้วก็อยากเข้าไปปลอบ ถ้าใบไผ่จะร้องไห้ออกมาให้เห็น มันคงจะดีเสียกว่าที่ต้องทนดูเธอเก็บมันเอาไว้
“ว่าแต่ เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม”อิงหนานถามอย่างลังเล
“อือ ได้ซิ”
“ขอบคุณมาก ใบไผ่”
เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินออกไปแล้ว ใบไผ่ก็ได้แต่นั่งถอนใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบ อิงหนานเป็นผู้ชายที่สามารถทำให้ใจเธอหวั่นไหวอย่างไม่เคยมีชายใดทำได้มาก่อน
เธอหลงใหลในความเย็นชา หลงใหลในความเงียบขรึม และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งในการแต่งงานครั้งนี้ แต่เขากลับเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือในธุรกิจเท่านั้น และที่สำคัญอิงหนานมีผู้หญิงของเขาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นใจเขาคงไม่มีวันรักใครได้อีก
“อาจิ้ง ทำไมฉันรู้สึกอิจฉาเธอจัง จะมีสักวันไหมที่อิงหนานจะรักฉันอย่างที่เขารักเธอ ฉันยอมเป็นผู้หญิงที่ไร้อำนาจ หากมันจะทำให้อิงหนานรักฉันจริงๆ อย่างที่เขารักเธอ ..ได้ยินไหม”ใบไผ่ได้แต่พร่ำบอกกับตัวเอง
มาเฟียหนุ่มกลับเข้ามาในห้องนอนตัวเอง และกะว่าจะนอนพักผ่อนเพื่อเป็นการทดแทนที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน หากแต่เมื่อหัวถึงหมอน คำพูดของใบไผ่เมื่อครู่ก็ผุดขึ้นมา จนทำให้แทบนอนไม่หลับ
ความรักเหรอ คำๆ นี้เขาได้ยินอาจิ้งพร่ำบอกหลายต่อหลายครั้ง แต่ทำไมไม่เคยรู้สึกอะไรเลย หากเพียงแต่คำพูดที่ใบไผ่บอกว่าพูดเล่น กลับทำให้รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ..ใบไผ่คงไม่ได้แต่งงานกับเขาเพราะความรักจริงๆ ใช่ไหม
*…………………………………………….*
วันต่อมาเฉิงอิงหนานต้องไปหาเฟิงจิ้งที่คอนโดตามที่สัญญาเอาไว้ แต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยที่ต้องทำอย่างนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำผิด
“วันนี้ผมต้องไปหาอาจิ้ง”อิงหนานกล่าวก่อนจะตักอาหารเข้าปาก แสร้งทำเป็นไม่มองหน้าของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ค่ะ แล้วจะกลับมาตอนไหนค่ะ”ใบไผ่ถาม
“คงกลับตอนเย็นๆ ”
“งั้นฉันจะรอทานข้าวก็แล้วกัน”เธอกล่าวอย่างเลื่อนลอยราวกับคนกำลังกลุ้มใจ ทำให้อิงหนานรู้สึกผิดมากขึ้น หลบตาลงต่ำก่อนที่จะพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“อือ..”
*………………………………………..*
เฉิงอิงหนานนั่งบนโซฟา ดูรายการทีวีอยู่ในห้องรับแขก ณ คอนโดของเฟิงจิ้ง เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับการตัดสินใจของตัวเอง เริ่มไม่แน่ใจว่าการแต่งงานกับใบไผ่ จะเป็นตัดสินใจผิดหรือถูกกันแน่
“เกิดอะไรขึ้นเหรออาหนาน ทำไมคุณดูกลุ้มๆ จัง”เฟิงจิ้งกอดคอและถามมาเฟียหนุ่มอย่างออดอ้อนเอาใจ
“เปล่าหรอก แค่รู้สึกเครียดๆ นิดหน่อย”มาเฟียหนุ่มกล่าว
“คุณไม่สบายใจเรื่องภรรยาของคุณเหรอ”
“อือ”
“คุณเป็นห่วง รู้สึกผิดที่ใช้เธอเป็นเครื่องมือทางธุรกิจ แล้วก็รู้สึกสงสาร รู้ไหมว่าความรู้สึกเหล่านี้มันกำลังจะทำให้คุณหลงรักเธอ และหากเป็นอย่างนั้นจริง คุณก็คงทิ้งฉันไปในอีกไม่ช้า”
เฟิงจิ้งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะความสวย ฐานะ หรืออาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่เฉิงอิงหนานแต่งงานด้วย เพราะคนอย่างอิงหนานหากไม่รักหรือไม่ชอบก็คงไม่ยอมให้ใครบังคับได้ ..บางทีเขาอาจจะรักผู้หญิงคนนั้น
“อย่าตีโพยตีพายไปก่อนเลย”อิงหนานกล่าว
“อันที่จริงคุณเองก็ไม่ได้รักฉัน คุณแค่เป็นคนรักษาคำพูด มันเลยทำให้คุณรู้สึกผิด ..หากจะทิ้งฉัน”เฟิงจิ้งน้อยใจ
“อย่าคิดมากซิ คุณไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยนี่ แต่ทำไมวันนี้ดูเหมือนทุกอย่างมันกำลังจะเปลี่ยนไปล่ะ”
“ความรักไงหนาน ความรักทำให้คนเราเปลี่ยน แต่ช่างมันเถอะ เราอย่ามาพูดเรื่องอื่นเลย คืนนี้คุณจะค้างที่นี่ได้ไหม”เฟิงจิ้งค่อยๆ ก้มลงจูบที่ซอกคอของมาเฟียหนุ่มก่อนจะไล่เรื่อยขึ้นมาจนถึงริมฝีปาก มือก็ไต่ไปตามลำตัวของเขา หากแต่อิงหนานกลับแกะมือของเธอออกอย่างนุ่มนวล
“เอ่อ ..คงไม่ได้หรอกอาจิ้ง คืนนี้ผมต้องกลับบ้าน พอดีสัญญากับใบไผ่เอาไว้”
“ออ ค่ะ ฉันเข้าใจ งั้นคุณก็รีบกลับเถอะ เดี๋ยวภรรยาของคุณจะรอนาน”ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ใจกลับรู้สึกเกลียดผู้หญิงที่ชื่อใบไผ่นั่นนัก
“ขอบคุณมากอาจิ้ง คุณเป็นคนดี และเข้าใจผมตลอดมา ขอโทษนะที่อยู่ด้วยไม่ได้”
“ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ”
เมื่อเฉิงอิงหนานกลับไปแล้วเฟิงจิ้งก็ได้แต่คับแค้นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเวลาที่อิงหนานมีผู้หญิงคนใหม่ เธอมักจะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นได้โดยง่ายดายและแนบเนียน หากแต่คราวนี้ ผู้หญิงที่ชื่อใบไผ่ ..ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ แล้วเธอจะจัดการอย่างไรดี
*…………………………………………..*
เฉิงอิงหนานกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปสามทุ่ม นั่นเพราะเขาต้องแวะไปเคลียร์ปัญหาที่คาสิโนก่อน จึงทำให้กลับมาดึก และคิดว่าใบไผ่คงหลับไปแล้ว แต่เมื่อขึ้นไปดูในห้องนอนก็ไม่เห็นเธอ
“ป้านิ่ม ใบไผ่ล่ะครับ”
“คุณหนูรอคุณทานข้าวอยู่ที่ห้องทานอาหารค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้นใจของอิงหนานก็หล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม จริงซิ เขาลืมไปได้อย่างไรว่านัดเธอเอาไว้ ป่านนี้ไม่หิวแย่แล้วหรือไง
เฉิงอิงหนานมองหญิงสาวที่กำลังนอนฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะด้วยสายตาอ่อนโยน พร้อมทั้งยิ้มให้อย่างเอ็นดู ..โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถรู้ได้ว่ารอยยิ้มนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยยิ้มของมังกร
มังกรรู้จักการยิ้มด้วยหรือ ..ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วจะเรียกว่าอะไร
“ใบไผ่ ตื่นเหอะ”
“อือ ..”เสียงใบไผ่ยังคงงัวเงียไม่ยอมตื่น
“กลับมาแล้วเหรอ”สาวเจ้าถามออกมาราวกับคนกำลังละเมอ จึงทำให้เฉิงอิงหนานได้แต่ยืนยิ้มอยู่กับตัวเอง จากนั้นก็จัดการอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนห้อง
เมื่อวางเธอบนเตียงแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ค่อยๆ ก้มลงจูบริมฝีปากเบาๆ
สัมผัสอันแผ่วเบาราวปีกฝีเสื้อ
อ่อนโยน นุ่มนวล ..ตราตรึงใจ
หวั่นไหว โหยหา ..อาวรณ์
“ใบไผ่ ..”อิงหนานเอ่ยชื่อเธอราวกับกระซิบ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้จึงมีอิทธิพลต่อเขานัก
ผู้หญิงที่คิดว่าเป็นเพียงเครื่องมือทางธุรกิจ
ผู้หญิงที่คิดว่าคงไม่สำคัญ
แต่ทำไม ..รู้สึกอบอุ่นและอยากอยู่ใกล้มากขนาดนี้
*……………………………………………..*
Chapter 3 ผู้หญิงของมาเฟีย
เช้าวันต่อมา
“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงทักทายของอิงหนานทำให้ใบไผ่รู้สึกหน้าแดง ใจสั่น อายที่นอนหลับโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มิหนำซ้ำตื่นเสียเกือบสิบโมง ซึ่งมาเฟียหนุ่มเองก็เห็นอาการของเธอ ..แต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ
“ค่ะ คุณตื่นนานแล้วเหรอค่ะ”
“ก็ไม่เชิง เพราะผมยังไม่ได้นอนเลย”
“อ้าว ..”ใบไผ่อุทานเสียงหลง แสดงความสงสัยออกทางใบหน้าอย่างบ้องแบ๊ว แทบทำให้อิงหนานไม่อยากพูดในสิ่งที่กำลังจะทำร้ายจิตใจเธอเลยแม้แต่น้อย
“พอดีมีเรื่องที่ต้องคิดและตัดสินใจ เลยทำให้นอนไม่ค่อยหลับ”อิงหนานถอนหายใจหนักหน่วงก่อนที่จะพูดต่อ
“เอ่อ ..ใบไผ่ คือ ผมมีเรื่องที่จะต้องบอกคุณ มันเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิด และไม่อยากจะให้อะไรๆ มันเลวร้ายไปมากกว่านี้”
“เรื่องอะไรค่ะ”
“เรื่องการแต่งงานของเรา คือ ผมแต่งงานกับคุณเพราะเหตุผลทางธุรกิจ ไม่ใช่ความรักอย่างที่ใครๆ เข้าใจ และที่สำคัญผมเองก็มีผู้หญิงของผมอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น หากคุณจะมีใคร ผมก็ไม่ว่า เราจะเป็นสามีภรรยากันเพียงในนาม และให้สังคมรับรู้ว่าเราสองคนเป็นสามีภรรยากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถมีคนอื่นได้ เช่นเดียวกันกับผม หรืออีกทางที่ผมจะเสนอคือ ประกาศการแต่งงานครั้งนี้ให้เป็นโมฆะ หรือไม่ก็รอสักระยะแล้วเราจะหย่ากัน”
คำพูดของอิงหนานทำให้ใบไผ่มืดแปดด้าน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่เอาเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกันได้ เจ็บปวดกับทุกคำพูดที่เขากล่าวออกมา เสียใจ ผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
“อีกอย่าง ที่คุณแต่งงานก็คงมีเหตุผลเดียวกันกับผม คือต้องการใช้ผมเป็นฐานในการทำธุรกิจในฮ่องกง เช่นเดียวกับที่ผม ..ใช้ครอบครัวคุณเป็นฐานในการทำธุรกิจในประเทศไทย”มาเฟียหนุ่มตอกย้ำถึงเหตุผลอีกครั้ง เพื่อปิดกั้นใจตัวเองเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงจากความรู้สึกของตัวเอง
“แล้วถ้าหากฉันปฏิเสธข้อกล่าวหาของคุณล่ะ ถ้าบอกว่าเหตุผลที่ฉันแต่งงานกับคุณเพราะความรัก คุณจะเชื่อไหม”คำกล่าวของเธอทำให้อิงหนานพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองสบตาคู่นั้นอย่างจริงจัง
ใจสั่นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ชอบกล
ความรักเหรอ ..คำๆ นี้มันไม่มีอยู่ในพจนานุกรมมาเฟีย
เพราะจะเป็นมาเฟียต้องเลือดเย็นเหมือนมังกร ..ไร้ใจ ..ไร้รัก หากแม้นเมื่อใดมีรัก ..มังกรจะไร้ซึ่งฤทธิ์เดชที่จะทำให้คนเกรงกลัว
“คุณลืมมันไปเถอะ เมื่อกี๋ฉันแค่พูดเล่น ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก ..ก็อย่างที่คุณพูดนั่นหละ ฉันแต่งกับคุณด้วยเหตุผลทางธุรกิจเหมือนกัน”ใบไผ่กล่าว เมื่อนึกว่าความรักของเธอมันคงไม่มีค่าสำหรับเขา เพราะอิงหนานมีผู้หญิงของเขาอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้นเธอจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเอ่ยว่ารัก เพราะคำๆ นี้คงไม่ซาบซึ้งพอ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เขารักบอก แต่เดี๋ยวนะ ..รักงั้นเหรอ เธอรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
ใบไผ่ไม่รู้ว่าตัวเธอเองมีใจให้อิงหนานตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นเพราะจูบของเขาเมื่อคืน ก็นั่นมันเป็นจูบแรกของเธอนี่ จะไม่ให้รู้สึกอะไรบ้างก็แปลกไปล่ะ เอ้ย ..แล้วจะทำไงดีล่ะทีนี้
“ผมขอโทษ แต่ในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้แล้วผมก็ทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากปล่อยให้เวลาผ่านไปก่อนสักระยะ”อิงหนานบอก
“แล้วฉันจะต้องทำไง”
“คุณอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาผม ทุกคนจะให้เกียรติคุณ คุณมีสิทธิ์จะไปไหนมาไหน ทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครว่า”
“แล้วคุณล่ะ”ใบไผ่ถาม
“เราจะแยกห้องกันนอน ส่วนวันเสาร์กับวันอาทิตย์ผมอาจจะไม่อยู่บ้าน เพราะสัญญากับอาจิ้งเอาไว้ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอที่คอนโด”
ใบไผ่รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่เฉิงอิงหนานรัก อาจิ้ง ..ผู้หญิงคนนั้นชื่ออาจิ้ง อิงหนานเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นอย่างสนิทสนมจนใบไผ่รู้สึกเจ็บลึกๆ ใครบ้างล่ะเมื่อแต่งงานแล้วทนฟังสามีพูดถึงหญิงอื่นอย่างสนิทสนมได้
ใบไผ่รีบส่ายหัวเพื่อขับไล่ความคิดเหลวไหลออกไป ก่อนที่มันจะทำให้เธอเป็นนางมารร้ายไปมากกว่านี้
“การที่คุณมาแต่งงานกับฉัน ผู้หญิงของคุณไม่ว่าเหรอ”ใบไผ่ถาม โดยจงใจใช้คำว่าผู้หญิงของคุณ เพื่อตอกย้ำตัวเองว่าเขามีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว
“อาจิ้งเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย”
“งั้น ..ฉันก็ต้องใจกว้างอย่างอาจิ้งด้วยหรือเปล่า ก็ฉันเองมาทีหลังเธอนี่ ผู้หญิงของมาเฟียต้องใจกว้างซินะ”สาวเจ้ากล่าวอย่างชอกช้ำ
“คุณอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครซิ คุณก็เป็นคุณ อาจิ้งก็ส่วนอาจิ้ง ต่างคนต่างอยู่”
“ได้ ฉันตกลงจะทำตามที่คุณเสนอมาทุกอย่างไม่ต้องห่วง และรับรองฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณพ่อแน่นอน”
ว่าแล้วใบไผ่ก็สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อผ่อนคลาย พยายามฝืนยิ้มให้อิงหนานเห็นเพื่อให้เขาสบายใจ
รอยยิ้มของเธอ
ใบหน้าที่ตรอมตรม ..หากแต่ยังฝืนยิ้มออกมา ยิ่งทำอิงหนานรู้สึกผิด
มองแล้วก็อยากเข้าไปปลอบ ถ้าใบไผ่จะร้องไห้ออกมาให้เห็น มันคงจะดีเสียกว่าที่ต้องทนดูเธอเก็บมันเอาไว้
“ว่าแต่ เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม”อิงหนานถามอย่างลังเล
“อือ ได้ซิ”
“ขอบคุณมาก ใบไผ่”
เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินออกไปแล้ว ใบไผ่ก็ได้แต่นั่งถอนใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบ อิงหนานเป็นผู้ชายที่สามารถทำให้ใจเธอหวั่นไหวอย่างไม่เคยมีชายใดทำได้มาก่อน
เธอหลงใหลในความเย็นชา หลงใหลในความเงียบขรึม และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งในการแต่งงานครั้งนี้ แต่เขากลับเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือในธุรกิจเท่านั้น และที่สำคัญอิงหนานมีผู้หญิงของเขาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นใจเขาคงไม่มีวันรักใครได้อีก
“อาจิ้ง ทำไมฉันรู้สึกอิจฉาเธอจัง จะมีสักวันไหมที่อิงหนานจะรักฉันอย่างที่เขารักเธอ ฉันยอมเป็นผู้หญิงที่ไร้อำนาจ หากมันจะทำให้อิงหนานรักฉันจริงๆ อย่างที่เขารักเธอ ..ได้ยินไหม”ใบไผ่ได้แต่พร่ำบอกกับตัวเอง
มาเฟียหนุ่มกลับเข้ามาในห้องนอนตัวเอง และกะว่าจะนอนพักผ่อนเพื่อเป็นการทดแทนที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน หากแต่เมื่อหัวถึงหมอน คำพูดของใบไผ่เมื่อครู่ก็ผุดขึ้นมา จนทำให้แทบนอนไม่หลับ
ความรักเหรอ คำๆ นี้เขาได้ยินอาจิ้งพร่ำบอกหลายต่อหลายครั้ง แต่ทำไมไม่เคยรู้สึกอะไรเลย หากเพียงแต่คำพูดที่ใบไผ่บอกว่าพูดเล่น กลับทำให้รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ..ใบไผ่คงไม่ได้แต่งงานกับเขาเพราะความรักจริงๆ ใช่ไหม
*…………………………………………….*
วันต่อมาเฉิงอิงหนานต้องไปหาเฟิงจิ้งที่คอนโดตามที่สัญญาเอาไว้ แต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยที่ต้องทำอย่างนี้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำผิด
“วันนี้ผมต้องไปหาอาจิ้ง”อิงหนานกล่าวก่อนจะตักอาหารเข้าปาก แสร้งทำเป็นไม่มองหน้าของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ค่ะ แล้วจะกลับมาตอนไหนค่ะ”ใบไผ่ถาม
“คงกลับตอนเย็นๆ ”
“งั้นฉันจะรอทานข้าวก็แล้วกัน”เธอกล่าวอย่างเลื่อนลอยราวกับคนกำลังกลุ้มใจ ทำให้อิงหนานรู้สึกผิดมากขึ้น หลบตาลงต่ำก่อนที่จะพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“อือ..”
*………………………………………..*
เฉิงอิงหนานนั่งบนโซฟา ดูรายการทีวีอยู่ในห้องรับแขก ณ คอนโดของเฟิงจิ้ง เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับการตัดสินใจของตัวเอง เริ่มไม่แน่ใจว่าการแต่งงานกับใบไผ่ จะเป็นตัดสินใจผิดหรือถูกกันแน่
“เกิดอะไรขึ้นเหรออาหนาน ทำไมคุณดูกลุ้มๆ จัง”เฟิงจิ้งกอดคอและถามมาเฟียหนุ่มอย่างออดอ้อนเอาใจ
“เปล่าหรอก แค่รู้สึกเครียดๆ นิดหน่อย”มาเฟียหนุ่มกล่าว
“คุณไม่สบายใจเรื่องภรรยาของคุณเหรอ”
“อือ”
“คุณเป็นห่วง รู้สึกผิดที่ใช้เธอเป็นเครื่องมือทางธุรกิจ แล้วก็รู้สึกสงสาร รู้ไหมว่าความรู้สึกเหล่านี้มันกำลังจะทำให้คุณหลงรักเธอ และหากเป็นอย่างนั้นจริง คุณก็คงทิ้งฉันไปในอีกไม่ช้า”
เฟิงจิ้งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะความสวย ฐานะ หรืออาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่เฉิงอิงหนานแต่งงานด้วย เพราะคนอย่างอิงหนานหากไม่รักหรือไม่ชอบก็คงไม่ยอมให้ใครบังคับได้ ..บางทีเขาอาจจะรักผู้หญิงคนนั้น
“อย่าตีโพยตีพายไปก่อนเลย”อิงหนานกล่าว
“อันที่จริงคุณเองก็ไม่ได้รักฉัน คุณแค่เป็นคนรักษาคำพูด มันเลยทำให้คุณรู้สึกผิด ..หากจะทิ้งฉัน”เฟิงจิ้งน้อยใจ
“อย่าคิดมากซิ คุณไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยนี่ แต่ทำไมวันนี้ดูเหมือนทุกอย่างมันกำลังจะเปลี่ยนไปล่ะ”
“ความรักไงหนาน ความรักทำให้คนเราเปลี่ยน แต่ช่างมันเถอะ เราอย่ามาพูดเรื่องอื่นเลย คืนนี้คุณจะค้างที่นี่ได้ไหม”เฟิงจิ้งค่อยๆ ก้มลงจูบที่ซอกคอของมาเฟียหนุ่มก่อนจะไล่เรื่อยขึ้นมาจนถึงริมฝีปาก มือก็ไต่ไปตามลำตัวของเขา หากแต่อิงหนานกลับแกะมือของเธอออกอย่างนุ่มนวล
“เอ่อ ..คงไม่ได้หรอกอาจิ้ง คืนนี้ผมต้องกลับบ้าน พอดีสัญญากับใบไผ่เอาไว้”
“ออ ค่ะ ฉันเข้าใจ งั้นคุณก็รีบกลับเถอะ เดี๋ยวภรรยาของคุณจะรอนาน”ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ใจกลับรู้สึกเกลียดผู้หญิงที่ชื่อใบไผ่นั่นนัก
“ขอบคุณมากอาจิ้ง คุณเป็นคนดี และเข้าใจผมตลอดมา ขอโทษนะที่อยู่ด้วยไม่ได้”
“ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ”
เมื่อเฉิงอิงหนานกลับไปแล้วเฟิงจิ้งก็ได้แต่คับแค้นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเวลาที่อิงหนานมีผู้หญิงคนใหม่ เธอมักจะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นได้โดยง่ายดายและแนบเนียน หากแต่คราวนี้ ผู้หญิงที่ชื่อใบไผ่ ..ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ แล้วเธอจะจัดการอย่างไรดี
*…………………………………………..*
เฉิงอิงหนานกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปสามทุ่ม นั่นเพราะเขาต้องแวะไปเคลียร์ปัญหาที่คาสิโนก่อน จึงทำให้กลับมาดึก และคิดว่าใบไผ่คงหลับไปแล้ว แต่เมื่อขึ้นไปดูในห้องนอนก็ไม่เห็นเธอ
“ป้านิ่ม ใบไผ่ล่ะครับ”
“คุณหนูรอคุณทานข้าวอยู่ที่ห้องทานอาหารค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้นใจของอิงหนานก็หล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม จริงซิ เขาลืมไปได้อย่างไรว่านัดเธอเอาไว้ ป่านนี้ไม่หิวแย่แล้วหรือไง
เฉิงอิงหนานมองหญิงสาวที่กำลังนอนฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะด้วยสายตาอ่อนโยน พร้อมทั้งยิ้มให้อย่างเอ็นดู ..โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถรู้ได้ว่ารอยยิ้มนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยยิ้มของมังกร
มังกรรู้จักการยิ้มด้วยหรือ ..ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วจะเรียกว่าอะไร
“ใบไผ่ ตื่นเหอะ”
“อือ ..”เสียงใบไผ่ยังคงงัวเงียไม่ยอมตื่น
“กลับมาแล้วเหรอ”สาวเจ้าถามออกมาราวกับคนกำลังละเมอ จึงทำให้เฉิงอิงหนานได้แต่ยืนยิ้มอยู่กับตัวเอง จากนั้นก็จัดการอุ้มเธอขึ้นไปนอนบนห้อง
เมื่อวางเธอบนเตียงแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ค่อยๆ ก้มลงจูบริมฝีปากเบาๆ
สัมผัสอันแผ่วเบาราวปีกฝีเสื้อ
อ่อนโยน นุ่มนวล ..ตราตรึงใจ
หวั่นไหว โหยหา ..อาวรณ์
“ใบไผ่ ..”อิงหนานเอ่ยชื่อเธอราวกับกระซิบ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้จึงมีอิทธิพลต่อเขานัก
ผู้หญิงที่คิดว่าเป็นเพียงเครื่องมือทางธุรกิจ
ผู้หญิงที่คิดว่าคงไม่สำคัญ
แต่ทำไม ..รู้สึกอบอุ่นและอยากอยู่ใกล้มากขนาดนี้
*……………………………………………..*
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ