The love memory ของยัยคาสโนวี่หน้าใส

10.0

เขียนโดย Ismenook

วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 00.17 น.

  3 ตอน
  91 วิจารณ์
  12.84K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ไม่เอาน่า ฟาง~ เธอกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า” น้ำเสียงกระตื้อรือร้นอย่างออกนอกหน้าของผู้ชายที่ฉันกำลังนั่งอยู่บนตัก พูดขึ้น มือเล็กของฉันคล้องคอเขาไว้หลวมๆ

“ฉันอยากเห็นนายเป็นบ้า ^^” ฉันกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูเขา ‘ฟลุ๊ค’ หน้าแดงขึ้นมา ฉันสัมผัสได้ว่าเขาขนลุก “เธอไม่รอดแน่แม่สาวน้อย”

“ว๊ายยย ><” ฉันร้องเสียงดัดจริต เขาช้อนล่างฉันขึ้น มีหรอ ที่ผู้หญิงอย่างฉันจะอยู่เฉยๆ ฉันใช้มือวางที่แผ่นหน้าอกเขาแล้วลูบมันไปมา เขาค่อยๆว่างฉันลงบนเตียงช้าๆ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาจูบฉันอย่างเร่าร้อน เราสองคนจูบกันอย่างเนิดนาน พอรู้สึกตัวตอนที่เขาถอนจูบออก ร่างกายฉันก็เปลือยเปล่าไปหมดแล้ว

“ไม่ยุติธรรมเลย นายยังเหลือเสื้อผ้า” ฉันไม่พูดเปล่า ดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วผลักเขาให้ล้มลงนอนบนเตียงแทน ฉันขึ้นคร่อมเขาไว้ทันที ฟลุ๊คยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจที่มือเล็กๆของฉันดันใบหน้าเขาให้ขึ้นมา

“อืม…” ฉันดูดเอาความหอมหวานจากริมฝีปากเขาสองที ฟลุ๊คดันตัวเองลุกขึ้นให้ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมากพอ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าฉันนั่งอยู่บนขาของเขา

“ตกลงเธอจะทำให้ฉันเป็นบ้าแล้วจริงๆสินะ” เขาพูดออกมาทั้งที่จมูกของเราชนกันอยู่ มือฉันค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเขาออกช้าๆ เขายิ้มอย่างพอใจอีกครั้ง ก่อนจะซุกไซร้ที่ซอกคอขาวของฉัน

“อย่าเพิ่งสิ” ฉันดันตัวเอาออกเบาๆ แต่เจ้าตัวดันยื่นมาดูดเอาความหวานจากริมฝีปากฉันแผ่วเบา “ทำไมละ” ฉันอมยิ้มให้กับสายตาอ้อนๆ

“ก็บอกแล้ว ไม่ยุติธรรม” ฉันแกล้งทำเป็นมองลงมาต่ำๆ หลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อเขาออกหมดแล้ว

โธ่เอ๊ย ~ แค่นี้เอง ไม่เห็นยากเลยนี่น่า” มือหนาเอื้อมมาลูบไล้ตามแผ่นหลังฉันไปมา ใบหน้าเริ่มกลับไปซุกไซร้ที่ซอกคอฉันอีกครั้ง ฉันปล่อยตัวให้เลยตามเลย ไม่คิดอะไรมากกับมัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉัน ที่จะต้องมาทำตัวเป็นนางเอกบีบน้ำตาร้องไห้เสียใจไม่อยากมีอะไรกับใครทั้งที่จริงๆแล้ว มันก็ต้องการกันทั้งนั้นแหละถ้าได้ขึ้นเตียงมาถึงครั้นนี้แล้ว

 

 

“ฟาง เรียนจบแล้วแกอยากจะทำงานอะไร” แนนนี่เพื่อนสนิทที่สุดของฉันถามขึ้นทั้งที่ยังปัดแก้ม ยัยนี่วันๆก็ทำตัวสวยด้วยการแต่งหน้าทาปากเหมือนฉันตลอด รายงงรายงาน ไม่ต้องพูดถึง หนุ่มในสังกัดทำให้เรียบร้อย มีแต่ฉันนี่สิที่ไม่ยอมให้ใครยุ่งกับการบ้านรายงานเลยสักคน เพราะอะไรนะหรอ? ทำมามันก็ไม่ถูกใจฉันไง !

 “ฟาง~ เด็กใหม่มันมองแกอีกแล้ว >O<” แนนนี่ตีแขนให้ฉันหันไปดูข้างหลัง ใบหน้าหล่ออย่างกับ หนึ่งในนักร้องบอยแบรนอันดับหนึ่งของไทยที่ยุบวงไป มองฉันด้วยแววตาว่างเปล่า

“เหอะ! ก็แค่นั้นแหละ ดูออกจะซื่อบื่อ” ฉันทำเป็นไม่สนใจแล้วหันกลับมาสนใจกับหนังสือเรียนต่อ อาทิตย์หน้าต้องสอบแล้ว ขืนสอบตกมีหวังพ่อกับแม่ให้ย้ายไปอยู่อังกฤษแหง่ๆ ท่านยิ่งหาว่าฉันทำตัวเหลวไหลอยู่ด้วย (ก็ฉันทำจริงๆ) ที่ทำฉันก็คิดแล้วนะ ฉันโตพอแล้วที่จะทำอะไรด้วยตัวเองโดยไม่มีพ่อแม่มาชี้ทางให้เหมือนเมื่อก่อน เด็กปี 4 ของมหาลัยชื่อดังแบบฉัน ไม่ให้ใครมาบังคับง่ายๆซะหรอก

“ซื่อบื่อสิดี ฉันชอบ แกน่าจะลองเปลี่ยนรสนิยมจากไอ้พวกหล่อๆ รวยๆ ไฮโซๆ มาดูแบบนี้บ้างนะ ฉันว่าป๊อปปี้มันก็หล่อดี” แนนนี่ยังคงยุฉัน -*- สงสัยจะให้ฉันจีบ ‘ป๊อปปี้’ เด็กใหม่นี่ให้ได้เลยสิท่า แต่…เขาก็หล่อจริงๆ ถึงจะดูเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใครก็เถอะ ฉันน่าจะลองจีบดูไว้แก้เหงาเล่นๆ เห็นมองฉันได้สองอาทิตย์แหละตั้งแต่เปิดเทอมมา -__-

“แกจะไปไหนอ่ะ” แนนนี่ถามที่เห็นฉันลุกขึ้น

“ไปอ่อยเหยื่อเล่นๆ ^^” ยัยเพื่อนสาวของฉันทำสีหน้า อ้อ แบบเข้าใจแล้วยิ้มให้ ฉันเดินไปหาป๊อปปี้ที่นั่งวาดรูปตรงบันไดหน้าตึก

“โอโห! สวยจังเลย นายจะวาดไปประกวดที่ไหนหรอ” ฉันนั่งลงข้างๆเขา ชนิดไหล่ชนไหล่ ไม่มีการขอหรือบอกเจ้าตัวสักคำ รูปภาพที่ป๊อปปี้วาดมันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ฉันมองออกแค่ศาลา -__-

“วาดเล่นๆนะ” ป๊อปปี้เขยิบตัวออกห่างฉัน ชิ ทำเป็นวางฟอร์ม

“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ” ได้ผลแฮะ ไม่เสียแรงที่ใช้น้ำเสียงเศร้าๆ “ป่าวๆ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่คิดว่ามันไม่เหมาะสม” เรอะ! ในใจคงอยากจะได้ฉันจนตัวสั่นแล้วมั่งนี่ นายไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆหรอก แกล้งทำเป็นสุภาพบุรุษ เดี๋ยวเจอไม้ตายฉันก็ออกลายเป็นซาตานกันทั้งนั้น

“นี่! เราอยู่ห้องเดียวกันนะ ไม่ต้องแทนตัวเองว่าผมๆ คุณๆ ฉันไม่ชอบ มันเหมือนไม่สนิท” ฉันจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด “เราก็ยังไม่สนิทกันจริงๆ” ฉันว่า เขาซื่อบื่อ

“อยากสนิทไหมล่ะ” ฉันเขยิบเข้าไปใกล้เขาอีกครั้ง คราวนี้เขาเขยิบไปไหนไม่ได้เพราะติดเสาแล้ว

 “ก็นะ สงสัยต้องใช้เวลาอีกนาน” เขาไม่ใช่แค่ซื้อบื่อหรอก โง่เลยต่างหาก มีที่ไหนลุกขึ้นหนีฉันเนี๊ย –[]-!! ฉันให้ท่าขนาดนี้แล้ว ปกติผู้ชายทุกคนต้องหลงฉันหนิ ทำไมเขาถึงเฉยแบบนี้

“ไว้เจอกันนะ ^^” ป๊อปปี้ยกมือขึ้นบ๊ายบายแล้วเดินเข้าไปในตึก ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก! ฉันต้องทำให้นายมาหลงฉันหัวปักหัวปำให้ได้!

“อ้าว เป็นไง อีตานั้นว่าไง”

 “ยังมีหน้ามาถามอีกนะ!” ฉันตรอกแนนนี่กลับ หน้าฉันก็บอกๆอยู่ว่าอารมณ์เสีย ยังจะมาถามย้ำอยู่ได้

“อ้ะๆ โทษทีๆ เมื่อกี๊ฟลุ๊คโทรมาหาแก” ฉันรับโทรศัพท์มาดูแค่หน้าจอแวบเดียวก็ทิ้งมันลงในกระเป๋าสะพาย

“ไม่โทรกลับหาเขาหน่อยหรอ”

“ไม่ละ ฉันเบื่อไม่มีอารมณ์” ฉันเก็บหนังสือเรียนที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจจะเอาออกมาอ่านลงในกระเป๋า

 “หวังว่าคงไม่เลิกนะ”

“ฉันไม่ใช่พวกได้แล้วเลิกนะ”

“ก็ทุกครั้งเห็นแกไปเล่นจ้ำจี้กับใครก็ตาม ไม่กี่วันแกก็เลิกหนิ” จริงแบบที่แนนนี่ว่า ทุกครั้งที่ฉันไปมีอะไรกับใครมาฉันก็จะเลิกแล้วก็เลิก เฮ้ย! แต่ฉันไม่มีอะไรกับใครมากมายขนาดนั้น ฉันเลือกเฉพราะพวกที่ดูจะไฮโซ ดูรูปร่าง น่าตา ดีเท่านั้นแหละ ที่จะได้แอ้มฉัน พวกที่คบๆไปวันๆ หน้าตาบ้านๆ อย่างมากก็ได้แค่จับมือหอมแก้มเท่านั้น

“ถ้าแกเลิกกับเขาเมื่อไหร่ บอกนะฉันจะได้เสียบต่อ” เหิ่มมมม เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ -*-

“อืมๆ ไว้บอก ทีผู้ชายในสังกัดแกละ ไม่ตกถึงฉันสักคน”

“แหม๊มมม แกก็ฉันก็หวงบ้างอะไรบ้าง” แล้วขอมายังกะฉันไม่หวง ฟลุ๊คก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรสักหน่อย บ้านก็รวย หล่อก็หล่อๆ หุ่นดีอีกต่างหาก แถมมีซิกแพค -////- จูบก็หอมหวาน เทคแคร์ดูแลก็เก่ง ฉันไม่ทิ้งไปให้ตกถึงใครง่ายๆหรอก ชิ

“วันนี้แกว่างไหม จะชวนไปปาร์ตี้บ้านยัยหวาย” จัดปาร์ตี้อีกแล้วหรอ ยัยหวายก็เพื่อนอีกคนที่ฉันรู้จัก (ไม่สนิทอะ) เอาง่ายๆ เพื่อนของแนนนี่อีกที

“อื้มๆว่าง” ฉันเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดปิดเครื่อง เพื่อที่จะได้ว่างจริงๆ

 

 

ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีแดงแปร๊ด นั่งไขว้ห่างจิบไวน์เพลินๆคนเดียว ปล่อยให้แนนนี่ไปเมาธ์กับยัยหวาย ฉันไม่มีอารมณ์จะออกไปเต้นไปพูดคุยสนุกกับใครทั้งนั้น ทั้งแต่โดน อีตาป๊อปปี้เมินใส่ แง้ T^T เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำกับฉันแบบนี้ คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้เขามาสนใจให้ได้

“นั่งด้วยคนได้ไหมคับ” ไม่ต้องขอละมั้ง ถ้าจะนั่งลงข้างฉันแล้ว

“O.O” อึ้งค่ะ! ดีนะที่ฉันยังไม่เผลอพูดอะไรไม่ดีออกไป ผู้ชายอะไรหล่อโฮกกก หน้าก็หว๊านหวาน ริมฝีปากก็สีชมพูอ่อนๆน่าจุ๊บเป็นที่สุด แถมผิวขาวเนียน บวกกับรอยยิ้มที่ยิ้มให้ฉันแล้ว อ๊ายยยย ฟางจะละลาย >__<

“หน้าโมะมีอะไรติดคับ” ‘โมะ’ (ได้ยินเขาแทนตัวเองเมื่อกี๊) ยกมือขึ้นมาลูบหน้า พร้อมมองฉันอย่างสงสัย จะบอกไงดี ว่าความหล่อเขาติดตา อั้ยย้ะ >_< (นางเอกเริ่มจะเป็นบ้าแล้ว)

“ป่าวหรอก” ถึงยังไงฉันก็ต้องเก็บอาการไว้ ทำตัวเป็นนางพญา สวย เริ่ด เชิ่ด หยิ่งไว้ก่อน

“ชื่ออะไรคับ” เขาเอียงคอถามฉันเล็กน้อย พร้อมยิ้มให้ ฉันจะห้ามใจไม่ไหวแล้ว แม่อยากจะจับลากเข้าห้องเลยจริงๆ

“ฟางค่ะ นายชื่อโมะหรอ”

“โทโมะคับ เรียกโมะก็ได้ จะได้ดูสนิท” เหมือนที่ฉันให้ท่า ป๊อปปี้เมื่อตอนกลางวันเลย ลองตอบแบบตานั้นบ้างดีกว่า

“คงอีกนาน เลยกว่าเราจะสนิทกัน” ฉันยกไวน์ขึ้นจิบ พลางจ้องมองใบหน้าหล่อนั้น ไม่วางตา

“ก็ทำ...ให้สนิทเร็วๆสิ” โทโมะเอือมมือมาจับปลายผมที่ฉันปล่อยยาวไว้ขึ้นมาสูดดมเอาความหอม

“ยังไงละ” ฉันแกล้งทำเป็นไม่รู้

“ก็…../ฮันนี่!” เสียงมารผจญที่ไหนฟ่ะ โทโมะรีบปล่อยผมฉันให้เป็นอิสระ เขายืดตัวนั่งตรงๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คับ ^^” ฉันมองผู้หญิงชุดเกาะอกสีดำ ผมยาวดัดลอนที่มาถึงก็เข้ามาคล้องคอโทโมะจากด้านหลัง ก่อนจะหอมแก้มเขาไปหนึ่งฟอด แล้วยังหอมต่ออีก ไม่พาขึ้นห้องเลยละแม่คูณณณ เกรงใจฉันบ้างสิย่ะ! ฉันเป็น…เป็นผู้หญิงคนนึงที่มีชีวิตอยู่ตรงนี้นะ โทโมะแอบหันมามองฉันตอนที่ยัยนั่นหอมแก้ม พอดูอีกทีให้ชัดๆ

“ยัยหวาย!!” ฉันเผลอร้องออกมา ทำให้หวายหยุดหอมแก้มโทโมะ แล้วหันมามองฉันเหมือนคิดอะไรบางอย่าง มือเธอยังไม่ยอมปล่อยเขานะ >.<

 

แวะมาอัฟไว้ตอนนึง ไว้ถ้า Stop me จบ จะมาอัฟตอนต่อไปน่าค๊า :)

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา