Would You Stay With Me
8.8
7) อาการกำเริบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 7 ‘อาการกำเริบ’
“เดี๋ยวยัยแก้ว” ป็อปปี้รั้งร่างของน้องสาวออกห่าง
“พี่ว่า เราเข้าใจอะไรผิดแล้ว”
“ไม่ค่ะพี่ป็อป แก้วรักพี่ป็อป” เด็กสาวยืนยันคำเดิม ป็อปปี้ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจับต้นชนปลายไม่
ถูก ว่าเรื่องราวมันลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ไปได้ยังไง
“แต่เราเป็นน้องสาวพี่ พี่ไม่คิดอะไรกับเราไปมากกว่าคำว่าน้องสาว แก้ว พี่รักและหวังดีกับแก้วนั้น
แหละคือความรักที่พี่จะให้เราได้ ไม่ใช่อะไรในแบบที่เราคิด”
ป็อปปี้อธิบายให้เด็กสาวอย่างใจเย็น
“ไม่ แก้วไม่อยากได้แค่นั้น พี่ป็อปต้องเป็นของแก้ว เป็นของแก้ว พี่ป็อปเข้าใจรึเปล่า”
แก้วกรีดเสียงร้อง จ้องหน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตา ป็อปปี้ดึงแก้วเข้ามาปลอบโยน แต่เด็กสาวสลัดตัวออกห่าง
“ฮือๆ พี่ป็อปก็จะทิ้งแก้วไปใช่มั้ย ไม่มีใครรักแก้วซักคน”
“แก้ว ยัยแก้ว”
ป็อปปี้ขยับเข้าหาแก้วที่เริ่มอาละวาดทำร้ายตัวเอง สายตาหวาดวิตกของเขายิ่งทำให้เด็กสาวแสดงอาการที่รุนแรง
ขึ้นเรื่อยๆ
“แก้ว!!”
ป็อปปี้ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห้นแก้วคว้าแจกันมาทุ่มให้แตก ก่อนจะหยิบเศษกระเปื้องขึ้นมาถือ
ฟางโผ่ลเข้ามาได้ทันดึงเศษกระเปื้องออกจากมือแก้วจนเธอโดนบาดไปด้วย หยดเลือดจาดฝ่ามือเล็กหยดลง
กระจายที่พื้นเป็นวงกว้าง
“ทำบ้าอะไรของเธอ ชีวิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
ฟางตวาดใส่เด็กสาวที่ยังยืนมองเลือดที่มือเธอด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เธอ...เธอจะมาแย่งพี่ป็อปไปอีกแล้วใช่มั้ย ฉันไม่ยอม ไม่ยอม!!”
แก้วผลักฟางด้วยอารมณ์ผลุกผล่าน ร่างบางเซไปปะทะขอบโต๊ะทำงานอย่างแรง
“ยัยแก้วพอได้แล้ว หยุด!”
ป็อปปี้รั้งร่างของแก้วที่คิดจะเข้าไปทำร้ายฟางซ้ำเอาไว้ แต่ก็เริ่มจะสู้แรงสะบัดของแก้วไม่ไหว
ฟางควานหาเข็มฉีดยาที่บรรจุยานอนหลับขึ้นมาถือไว้
“จับน้องคุณไว้แน่นๆนะ”
ป็อปปี้มองฟางอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมทำตามที่เธอพูดแต่โดยดี
ฟางปักเข็มฉีดยาเข้าไปที่ต้นแขนของเด็กสาว ก่อนที่เธอจะค่อยๆหมดสติไปเพราะฤทธิ์ยา
“พาเธอไปห้องฉุกเฉินก่อนเถอะ”
ป็อปปี้ช้อนอุ้มน้องสาวขึ้นมาไว้ในวงแขนก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังด้านล่างของตึกที่เป็นห้องฉุกเฉิน
“โมะ มีคนไข้ด่วนที่ห้อง A13 โมะรอรับด้วย”
โทรลงไปสั่งเพื่อนชายน้ำเสียงร้อนรนก่อนจะวิ่งตามลงไป
ป็อปปี้วางร่างของแก้วลงบนเตียงก่อนที่โทโมะจะเข็นเข้าไปด้านใน
“เธอไปทำแผลก่อนเถอะ ท่าทางจะลึก”
ป็อปปี้ลากร่างของฟางที่กำลังจะวิ่งเข้าไปด้านในห้องฉุกเฉินให้ตามตัวเองไปที่ห้องพักแพทย์
“ฉันจะเรียกพยาบาลเวรให้ รอเดี๋ยวแล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองได้ คุณหยิบกล่องบนหลังตู้ให้หน่อนแล้วกัน”
ป็อปปี้หยิบกล่องปฐมพยาบาลมายื่นให้ฟาง ก่อนจะเปลี่ยนใจนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว
“ฉันทำให้”
ฟางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ยอมยื่นมือที่บาดเจ็บให้ป็อปปี้ช่วยทำแผลให้แต่โดยดี เพราะถ้าเธอทำเองก็คงลำบากไม่
น้อย อดสำรวจโครงหน้าของคนที่ง่วนอยู่กับมือตัวเองไม้ได้
ร่างสูงโปร่งแต่กลับเต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมสันรับกับจมูกโด่ง คิ้วขมวดมุ่นจนเธออยากจะยกขึ้นลูบหัวคิ้วให้
เขาคลายความเครียดที่มีลง
อ๊ะ นี่เรากำลังคิดอะไรเนี้ย
“โอ๊ะ...” ร่างบางสะดุ้งไปกับความแสบของแอลกอฮอล
“โทษที”
“อืม ไม่เป็นไร หน้าคุณ...”
ป็อปปี้ยกมือแตะที่มุมปากเบาๆ นัยต์ตาสองคู่สบกันอย่างไม่ตั้งใจ แต่อยากที่จะถอดถอนสายตาออกจากกันไปได้
“ฉันช่วยแล้วกัน”
ฟางเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนจะหยิบสำลีชุบแอลกอฮอลขึ้นมาแตะที่แผลของชายหนุ่มอย่างเบามือ
“ฉันขอโทษที่ทำกับเธอไปแบบนั้น”
“ฉันก็ผิดที่ไปว่าคุณแบบนั้น แต่เรื่องโครงการฉันยืนยันคำเดิม”
“ฉันจะลองคิดหาทางอื่นดู แต่คงยอมให้เป็นแบบเดิมไม่ได้ หวังว่าเรา
คงจะยอมกันคนละครึ่งทางได้”
ฟางพยักหน้ารับเบาๆ อย่างน้อยเขาก็ยอมเอ่ยปากว่าจะหาทางอื่นช่วยเหลือโครงการเท่านี้ก็ดีแล้ว
อย่างน้อยก็ยังพอมีหนทางรอดอยู่บ้าง
“เรื่องน้องคุณฉันขอโทษที่ต้องทำรุนแรง ฉันกลัวว่าเธอจะทำร้ายตัวเอง”
“อืม”
ป็อปปี้ตอบเนือยๆ ก่อนจะซุกหน้าลงกับฝ่ามือ ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
ฟางได้แต่มองดูชายหนุ่มที่แทบไม่เหลือมาดของนักธุรกิจเลือดเย็นอย่างที่เธอประนามเขาซักนิด ด้วยความสงสาร
ที่เธอเองก็ตอบไม่ถูกว่ามันมาจากไหน แต่เหมือนว่าท่าทางเหมือนคนที่แบกโลกไว้ทั้งใบของเขาทำให้เธออยาก
เข้าไปปลอบโยนให้เขาวางโลกที่เขาแบกอยู่ลงซะบ้าง
‘ก๊อกๆ’
“ฟาง โมะอยากคุยด้วย”
ฟางพยักหน้าให้ ก่อนจะเหลือบมองป็อปปี้ที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเช่นกัน
“อีกซักชั่วโมงน้องคุณคงฝื้น ฉันจะให้พยาบาลพาไปฟังที่ห้องพิเศษแล้วกันค่ะ” ฟางพูดกับชาย
หนุ่มก่อนจะเดินตามหลังโทโมะออกห้องไป...
^_____________________________________________________________^
เอามาหยอดเพิ่ม อิอิ
เจอกันคราวหน้าค่ะ^^
“เดี๋ยวยัยแก้ว” ป็อปปี้รั้งร่างของน้องสาวออกห่าง
“พี่ว่า เราเข้าใจอะไรผิดแล้ว”
“ไม่ค่ะพี่ป็อป แก้วรักพี่ป็อป” เด็กสาวยืนยันคำเดิม ป็อปปี้ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจับต้นชนปลายไม่
ถูก ว่าเรื่องราวมันลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ไปได้ยังไง
“แต่เราเป็นน้องสาวพี่ พี่ไม่คิดอะไรกับเราไปมากกว่าคำว่าน้องสาว แก้ว พี่รักและหวังดีกับแก้วนั้น
แหละคือความรักที่พี่จะให้เราได้ ไม่ใช่อะไรในแบบที่เราคิด”
ป็อปปี้อธิบายให้เด็กสาวอย่างใจเย็น
“ไม่ แก้วไม่อยากได้แค่นั้น พี่ป็อปต้องเป็นของแก้ว เป็นของแก้ว พี่ป็อปเข้าใจรึเปล่า”
แก้วกรีดเสียงร้อง จ้องหน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตา ป็อปปี้ดึงแก้วเข้ามาปลอบโยน แต่เด็กสาวสลัดตัวออกห่าง
“ฮือๆ พี่ป็อปก็จะทิ้งแก้วไปใช่มั้ย ไม่มีใครรักแก้วซักคน”
“แก้ว ยัยแก้ว”
ป็อปปี้ขยับเข้าหาแก้วที่เริ่มอาละวาดทำร้ายตัวเอง สายตาหวาดวิตกของเขายิ่งทำให้เด็กสาวแสดงอาการที่รุนแรง
ขึ้นเรื่อยๆ
“แก้ว!!”
ป็อปปี้ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห้นแก้วคว้าแจกันมาทุ่มให้แตก ก่อนจะหยิบเศษกระเปื้องขึ้นมาถือ
ฟางโผ่ลเข้ามาได้ทันดึงเศษกระเปื้องออกจากมือแก้วจนเธอโดนบาดไปด้วย หยดเลือดจาดฝ่ามือเล็กหยดลง
กระจายที่พื้นเป็นวงกว้าง
“ทำบ้าอะไรของเธอ ชีวิตไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
ฟางตวาดใส่เด็กสาวที่ยังยืนมองเลือดที่มือเธอด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เธอ...เธอจะมาแย่งพี่ป็อปไปอีกแล้วใช่มั้ย ฉันไม่ยอม ไม่ยอม!!”
แก้วผลักฟางด้วยอารมณ์ผลุกผล่าน ร่างบางเซไปปะทะขอบโต๊ะทำงานอย่างแรง
“ยัยแก้วพอได้แล้ว หยุด!”
ป็อปปี้รั้งร่างของแก้วที่คิดจะเข้าไปทำร้ายฟางซ้ำเอาไว้ แต่ก็เริ่มจะสู้แรงสะบัดของแก้วไม่ไหว
ฟางควานหาเข็มฉีดยาที่บรรจุยานอนหลับขึ้นมาถือไว้
“จับน้องคุณไว้แน่นๆนะ”
ป็อปปี้มองฟางอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมทำตามที่เธอพูดแต่โดยดี
ฟางปักเข็มฉีดยาเข้าไปที่ต้นแขนของเด็กสาว ก่อนที่เธอจะค่อยๆหมดสติไปเพราะฤทธิ์ยา
“พาเธอไปห้องฉุกเฉินก่อนเถอะ”
ป็อปปี้ช้อนอุ้มน้องสาวขึ้นมาไว้ในวงแขนก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังด้านล่างของตึกที่เป็นห้องฉุกเฉิน
“โมะ มีคนไข้ด่วนที่ห้อง A13 โมะรอรับด้วย”
โทรลงไปสั่งเพื่อนชายน้ำเสียงร้อนรนก่อนจะวิ่งตามลงไป
ป็อปปี้วางร่างของแก้วลงบนเตียงก่อนที่โทโมะจะเข็นเข้าไปด้านใน
“เธอไปทำแผลก่อนเถอะ ท่าทางจะลึก”
ป็อปปี้ลากร่างของฟางที่กำลังจะวิ่งเข้าไปด้านในห้องฉุกเฉินให้ตามตัวเองไปที่ห้องพักแพทย์
“ฉันจะเรียกพยาบาลเวรให้ รอเดี๋ยวแล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองได้ คุณหยิบกล่องบนหลังตู้ให้หน่อนแล้วกัน”
ป็อปปี้หยิบกล่องปฐมพยาบาลมายื่นให้ฟาง ก่อนจะเปลี่ยนใจนั่งลงเคียงข้างหญิงสาว
“ฉันทำให้”
ฟางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ยอมยื่นมือที่บาดเจ็บให้ป็อปปี้ช่วยทำแผลให้แต่โดยดี เพราะถ้าเธอทำเองก็คงลำบากไม่
น้อย อดสำรวจโครงหน้าของคนที่ง่วนอยู่กับมือตัวเองไม้ได้
ร่างสูงโปร่งแต่กลับเต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมสันรับกับจมูกโด่ง คิ้วขมวดมุ่นจนเธออยากจะยกขึ้นลูบหัวคิ้วให้
เขาคลายความเครียดที่มีลง
อ๊ะ นี่เรากำลังคิดอะไรเนี้ย
“โอ๊ะ...” ร่างบางสะดุ้งไปกับความแสบของแอลกอฮอล
“โทษที”
“อืม ไม่เป็นไร หน้าคุณ...”
ป็อปปี้ยกมือแตะที่มุมปากเบาๆ นัยต์ตาสองคู่สบกันอย่างไม่ตั้งใจ แต่อยากที่จะถอดถอนสายตาออกจากกันไปได้
“ฉันช่วยแล้วกัน”
ฟางเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนจะหยิบสำลีชุบแอลกอฮอลขึ้นมาแตะที่แผลของชายหนุ่มอย่างเบามือ
“ฉันขอโทษที่ทำกับเธอไปแบบนั้น”
“ฉันก็ผิดที่ไปว่าคุณแบบนั้น แต่เรื่องโครงการฉันยืนยันคำเดิม”
“ฉันจะลองคิดหาทางอื่นดู แต่คงยอมให้เป็นแบบเดิมไม่ได้ หวังว่าเรา
คงจะยอมกันคนละครึ่งทางได้”
ฟางพยักหน้ารับเบาๆ อย่างน้อยเขาก็ยอมเอ่ยปากว่าจะหาทางอื่นช่วยเหลือโครงการเท่านี้ก็ดีแล้ว
อย่างน้อยก็ยังพอมีหนทางรอดอยู่บ้าง
“เรื่องน้องคุณฉันขอโทษที่ต้องทำรุนแรง ฉันกลัวว่าเธอจะทำร้ายตัวเอง”
“อืม”
ป็อปปี้ตอบเนือยๆ ก่อนจะซุกหน้าลงกับฝ่ามือ ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
ฟางได้แต่มองดูชายหนุ่มที่แทบไม่เหลือมาดของนักธุรกิจเลือดเย็นอย่างที่เธอประนามเขาซักนิด ด้วยความสงสาร
ที่เธอเองก็ตอบไม่ถูกว่ามันมาจากไหน แต่เหมือนว่าท่าทางเหมือนคนที่แบกโลกไว้ทั้งใบของเขาทำให้เธออยาก
เข้าไปปลอบโยนให้เขาวางโลกที่เขาแบกอยู่ลงซะบ้าง
‘ก๊อกๆ’
“ฟาง โมะอยากคุยด้วย”
ฟางพยักหน้าให้ ก่อนจะเหลือบมองป็อปปี้ที่เงยหน้าขึ้นมามองเธอเช่นกัน
“อีกซักชั่วโมงน้องคุณคงฝื้น ฉันจะให้พยาบาลพาไปฟังที่ห้องพิเศษแล้วกันค่ะ” ฟางพูดกับชาย
หนุ่มก่อนจะเดินตามหลังโทโมะออกห้องไป...
^_____________________________________________________________^
เอามาหยอดเพิ่ม อิอิ
เจอกันคราวหน้าค่ะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ