Would You Stay With Me
8.8
22) แค่ต้องยอม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 22 ‘แค่ต้องยอม’
“ นายออกไป ฉันจะคุยกับฟาง”
“ไม่กรูจะอยู่กับฟาง”
“ออกไป”
โทโมะจ้องหน้าจริงจังของป็อปปี้ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องไป เพราะถึงยังไงมันก็เป็นเรื่องของคน2คนที่เขา
ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งด้วย
“เล่ามาฟาง”
ลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋าจ้องหน้าหญิงสาวตรงๆ
ฟางเม้มปากด้วยความอึดอัด แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดปาดเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
“คุณจินนี่เธอเคยนัดฟางออกมาเจอ เธอขอร้องให้ฟางเลิกยุ่งกับป็อป และฟางก็รับปาก แต่นั้น
มันก็ก่อนที่ฟาง...ฟางจะไปหาป็อปที่ เธอคงรู้เรื่องที่เรากลับมาติดต่อกัน เธอถึงได้โกรธ ป็อปอย่าโกรธเธอเลยนะ
ค่ะ”
อ้อนวอนคนที่กำลังโกรธถึงขีดสุดให้ใจเย็นลง ถึงอย่างไรเรื่องนี้เธอก็ผิดเต็มประตูที่เข้าไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว
อย่างป็อปปี้
“ทำไมไม่บอกป็อป”
“ฟางแค่ไม่อยากให้ป็อปเป็นหว่ง”
“แต่ฟางบอกมัน”
“ป็อป ฟางไม่ได้บอกโทโมะนะ โมะเข้ามาเจอเอง” รีบเข้ามากอดเอวคนตัวโตแน่น ไม่งั้นมีหวัง
เข้าได้ลงไปต่อยเพื่อนเธอแน่
“ป็อปจะโทรไปไหนคะ”
“ป็อปจะโทรไปหาจินนี่ ป็อปจะไม่ยอมให้จินนี่ทำร้ายฟางแบบนี้อีก”
“หยุดนะป็อป”
ดึงโทรสัพท์ออกจากมือชายหนุ่ม ขว้างไปที่โซฟา ก่อนจะดันร่างสูงให้ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
“ฟังฟางนะคะ คนที่ผิดก็คือฟาง ฟางไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ฟางทำได้คือยอมและ
ทนเพื่อชดเชยให้เธอในสิ่งที่พรากมันมาจากเธอนะคะ”
“แค่ปกป้องฟาง ป็อปยังไม่มีสิทธิ์ซินะ”
มือเล็กโอบปะคองให้ป็อปปี้หันมาสบตากับเธอ
“แค่รู้ว่าป็อปคิดที่จะทำ มันก็เพียงพอสำหรับฟางแล้วคะ”
“แต่แค่นี้ป็อปยังทำให้ฟางไม่ได้ แล้วมันจะเรียกว่าป็อปรักฟางได้ยังไงกัน”
“คำว่ารัก มันคือความรู้สึกของคนสองคนนะคะ แค่เราคิดว่าใช่ ใครจะมองมันว่ายังไงก็ช่างมัน
เถอะคะ”
“เฮ้อ บางทีเธอก็ทำให้ฉันต้องยอมเธอนะฟาง”
หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของหญิงสาว
ดึงร่างเล็กเข้ามาประกบจูบ ฟางยกมือโอบลำคอหนาเข้ามาใก้ลมากว่าเดิม เปิดปากยอมรับลิ้นหนาให้เข้ามาตักตวง
ความหวานของตัวเอง
“อืม แฟนป็อปจูบเก่งขึ้นรึเปล่าเนี่ย”
“ฮึ่ม ป็อปอ่ะ แกล้งฟางตลอด ปล่อยค่ะฟางจะไปทำงานแล้ว เร็ว” ไล่ปลอดมือปลาหมึกของ
ป็อปปี้ออกจากเอวบางของตัวเอง
“อือ ไม่เอา ป็อปยังไม่ได้ชื่นใจเลย เมื่อวานก็ไม่ยอมให้ป็อปไปส่งบ้าน งั้นวันนนี้ไปห้องป็อป
นะ”
“แน๊น อะไรกัน”
“นะครับ ป็อปไม่ได้นอนกอดฟางมาตั้งหาลยวันแล้ว” อ้อนหญิงสาวด้วยสายตาหวาดหยด
“อะแฮ่มพอแล้วป็อป แค่นี่ฉันก็จะอ้วกแล้ว ปล่อยฟางไปเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
ป็อปปี้ยอมปล่อยร่างเล็กด้วยความจำใจ ฟางรีบเด้งตัวออกห่างทันที
“ขอบคุณนะเฟย์” เอ่ยเบาๆกับเพื่อนสาวก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากห้องท่านประธานไป
เฟย์ปรับสีหน้ายิ้มแย้มกลับมาเคร่งขรึมดังเดิม เช่นเดียวกับป็อปปปี้ที่มีสีหน้าเย็นชาไม่ต่างกัน
เพราะแบบนี้ซินะ ใครๆถึงได้ชอบเอาเธอกับป็อปปี้ไปเปรียบเทียบว่าเป็นคู้เจ้านายกับลูกน้องที่มาจากนรกเพราะ
โหดร้ายได้ไม่แพ้กัน
“ฉันสั่งคนไปจัดการพวกที่ถูกส่งมาทำร้ายฟางแล้ว นายไม่ต้องหะ....”
“ใคร” ป็อปปี้ถามออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่เฟย์รู้ดีว่ามันเป็นแค่หน้ากากของเทพบุตรที่สวม
โดยซาตานตั้งหาก
“ลูกน้องเขื่อน”
“ไอ้เขื่อน”
“เรื่องเขื่อนฉันจะจัดการเอง ส่วนเรื่องจินนี่ฉันคงทำอะไรไม่ได้ ฉันส่งคนไปตามประกบจินนี่
เรียบร้อยแล้ว ถ้าฝั่งนั้นขยับทำอะไร เราจะรู้ก่อนแน่นอน”
“ฉันจะตามใจเธอเรื่องไอ้เขื่อน แต่ถ้ามันไม่หยุดเธอคงรู้นะเฟย์ว่าจะต้องยืนอยู่ตรงไหน”
“นายไม่ต้องหว่งป็อปปี้ เรื่องนี้ฉันเลือกข้างมาแต่แรกแล้ว”
ป็อปปี้มองสายตาเจ็บของเพื่อนสาว เขาเจ็บที่ปกป้องคนที่รักไม่ได้ เพื่อนเขาเองก็เจ็บที่ต้องห่ำหั่นกับคนที่รัก
ฉันขอโทษนะเฟย์ที่ดึงเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
แปะๆ ชายหนุ่มหันไปมองตามเสียงตบมือที่ได้ยิน
“เฟย์” เขื่อนหันกลับมาสนใจแก้วเครื่องดื่มในมือตัวเองตามเดิม
“ไม่น่าเชื่อนะว่านาย ยังมีความเป็นคนเหลืออยู่ ทั้งๆที่นายเพิ่งจะส่งคนไปทำร้ายผู้หญิงตัว
เล็กๆมา”
“เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ ลูกน้องฉันไปทำร้ายมา”
“โอ้ นอกจากจะเก่งทำร้ายผู้หญิงแล้ว ฉันเพิ่งรู้นะว่านายเล่นละครเก่งไม่ต่างจากยัยจินนี่
ด้วย”เฟย์แสร้งทำตาโตใส่เขื่อน
“เฟย์ เธออย่ามาพูดจาไม่ดีใส่จินนี่นะ” กระชากเพื่อนสาวเข้ามาใก้ล
“ทำไม ฉันแตะแม่นางฟ้าจอมปลอมของนายไม่ได้ซินะ”
เขื่อนสะบัดแขนเล็กของเฟย์ออกห่าง อย่างโมโห ทำไมเธอถึงชอบยั่วโมโหฉันนักนะ เฟย์...
^_______________________________________________________________^
ไม่มีอะไรจะแก้ตัว แหะๆ
เจอกันตอนหน้าคร้า^^
“ นายออกไป ฉันจะคุยกับฟาง”
“ไม่กรูจะอยู่กับฟาง”
“ออกไป”
โทโมะจ้องหน้าจริงจังของป็อปปี้ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องไป เพราะถึงยังไงมันก็เป็นเรื่องของคน2คนที่เขา
ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งด้วย
“เล่ามาฟาง”
ลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋าจ้องหน้าหญิงสาวตรงๆ
ฟางเม้มปากด้วยความอึดอัด แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดปาดเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
“คุณจินนี่เธอเคยนัดฟางออกมาเจอ เธอขอร้องให้ฟางเลิกยุ่งกับป็อป และฟางก็รับปาก แต่นั้น
มันก็ก่อนที่ฟาง...ฟางจะไปหาป็อปที่ เธอคงรู้เรื่องที่เรากลับมาติดต่อกัน เธอถึงได้โกรธ ป็อปอย่าโกรธเธอเลยนะ
ค่ะ”
อ้อนวอนคนที่กำลังโกรธถึงขีดสุดให้ใจเย็นลง ถึงอย่างไรเรื่องนี้เธอก็ผิดเต็มประตูที่เข้าไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว
อย่างป็อปปี้
“ทำไมไม่บอกป็อป”
“ฟางแค่ไม่อยากให้ป็อปเป็นหว่ง”
“แต่ฟางบอกมัน”
“ป็อป ฟางไม่ได้บอกโทโมะนะ โมะเข้ามาเจอเอง” รีบเข้ามากอดเอวคนตัวโตแน่น ไม่งั้นมีหวัง
เข้าได้ลงไปต่อยเพื่อนเธอแน่
“ป็อปจะโทรไปไหนคะ”
“ป็อปจะโทรไปหาจินนี่ ป็อปจะไม่ยอมให้จินนี่ทำร้ายฟางแบบนี้อีก”
“หยุดนะป็อป”
ดึงโทรสัพท์ออกจากมือชายหนุ่ม ขว้างไปที่โซฟา ก่อนจะดันร่างสูงให้ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
“ฟังฟางนะคะ คนที่ผิดก็คือฟาง ฟางไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ฟางทำได้คือยอมและ
ทนเพื่อชดเชยให้เธอในสิ่งที่พรากมันมาจากเธอนะคะ”
“แค่ปกป้องฟาง ป็อปยังไม่มีสิทธิ์ซินะ”
มือเล็กโอบปะคองให้ป็อปปี้หันมาสบตากับเธอ
“แค่รู้ว่าป็อปคิดที่จะทำ มันก็เพียงพอสำหรับฟางแล้วคะ”
“แต่แค่นี้ป็อปยังทำให้ฟางไม่ได้ แล้วมันจะเรียกว่าป็อปรักฟางได้ยังไงกัน”
“คำว่ารัก มันคือความรู้สึกของคนสองคนนะคะ แค่เราคิดว่าใช่ ใครจะมองมันว่ายังไงก็ช่างมัน
เถอะคะ”
“เฮ้อ บางทีเธอก็ทำให้ฉันต้องยอมเธอนะฟาง”
หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของหญิงสาว
ดึงร่างเล็กเข้ามาประกบจูบ ฟางยกมือโอบลำคอหนาเข้ามาใก้ลมากว่าเดิม เปิดปากยอมรับลิ้นหนาให้เข้ามาตักตวง
ความหวานของตัวเอง
“อืม แฟนป็อปจูบเก่งขึ้นรึเปล่าเนี่ย”
“ฮึ่ม ป็อปอ่ะ แกล้งฟางตลอด ปล่อยค่ะฟางจะไปทำงานแล้ว เร็ว” ไล่ปลอดมือปลาหมึกของ
ป็อปปี้ออกจากเอวบางของตัวเอง
“อือ ไม่เอา ป็อปยังไม่ได้ชื่นใจเลย เมื่อวานก็ไม่ยอมให้ป็อปไปส่งบ้าน งั้นวันนนี้ไปห้องป็อป
นะ”
“แน๊น อะไรกัน”
“นะครับ ป็อปไม่ได้นอนกอดฟางมาตั้งหาลยวันแล้ว” อ้อนหญิงสาวด้วยสายตาหวาดหยด
“อะแฮ่มพอแล้วป็อป แค่นี่ฉันก็จะอ้วกแล้ว ปล่อยฟางไปเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
ป็อปปี้ยอมปล่อยร่างเล็กด้วยความจำใจ ฟางรีบเด้งตัวออกห่างทันที
“ขอบคุณนะเฟย์” เอ่ยเบาๆกับเพื่อนสาวก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากห้องท่านประธานไป
เฟย์ปรับสีหน้ายิ้มแย้มกลับมาเคร่งขรึมดังเดิม เช่นเดียวกับป็อปปปี้ที่มีสีหน้าเย็นชาไม่ต่างกัน
เพราะแบบนี้ซินะ ใครๆถึงได้ชอบเอาเธอกับป็อปปี้ไปเปรียบเทียบว่าเป็นคู้เจ้านายกับลูกน้องที่มาจากนรกเพราะ
โหดร้ายได้ไม่แพ้กัน
“ฉันสั่งคนไปจัดการพวกที่ถูกส่งมาทำร้ายฟางแล้ว นายไม่ต้องหะ....”
“ใคร” ป็อปปี้ถามออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่เฟย์รู้ดีว่ามันเป็นแค่หน้ากากของเทพบุตรที่สวม
โดยซาตานตั้งหาก
“ลูกน้องเขื่อน”
“ไอ้เขื่อน”
“เรื่องเขื่อนฉันจะจัดการเอง ส่วนเรื่องจินนี่ฉันคงทำอะไรไม่ได้ ฉันส่งคนไปตามประกบจินนี่
เรียบร้อยแล้ว ถ้าฝั่งนั้นขยับทำอะไร เราจะรู้ก่อนแน่นอน”
“ฉันจะตามใจเธอเรื่องไอ้เขื่อน แต่ถ้ามันไม่หยุดเธอคงรู้นะเฟย์ว่าจะต้องยืนอยู่ตรงไหน”
“นายไม่ต้องหว่งป็อปปี้ เรื่องนี้ฉันเลือกข้างมาแต่แรกแล้ว”
ป็อปปี้มองสายตาเจ็บของเพื่อนสาว เขาเจ็บที่ปกป้องคนที่รักไม่ได้ เพื่อนเขาเองก็เจ็บที่ต้องห่ำหั่นกับคนที่รัก
ฉันขอโทษนะเฟย์ที่ดึงเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
แปะๆ ชายหนุ่มหันไปมองตามเสียงตบมือที่ได้ยิน
“เฟย์” เขื่อนหันกลับมาสนใจแก้วเครื่องดื่มในมือตัวเองตามเดิม
“ไม่น่าเชื่อนะว่านาย ยังมีความเป็นคนเหลืออยู่ ทั้งๆที่นายเพิ่งจะส่งคนไปทำร้ายผู้หญิงตัว
เล็กๆมา”
“เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ ลูกน้องฉันไปทำร้ายมา”
“โอ้ นอกจากจะเก่งทำร้ายผู้หญิงแล้ว ฉันเพิ่งรู้นะว่านายเล่นละครเก่งไม่ต่างจากยัยจินนี่
ด้วย”เฟย์แสร้งทำตาโตใส่เขื่อน
“เฟย์ เธออย่ามาพูดจาไม่ดีใส่จินนี่นะ” กระชากเพื่อนสาวเข้ามาใก้ล
“ทำไม ฉันแตะแม่นางฟ้าจอมปลอมของนายไม่ได้ซินะ”
เขื่อนสะบัดแขนเล็กของเฟย์ออกห่าง อย่างโมโห ทำไมเธอถึงชอบยั่วโมโหฉันนักนะ เฟย์...
^_______________________________________________________________^
ไม่มีอะไรจะแก้ตัว แหะๆ
เจอกันตอนหน้าคร้า^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ