ว้าวุ่น2 [In Our Dream]

10.0

เขียนโดย ออมอนี่cake

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 21.17 น.

  27 ตอน
  370 วิจารณ์
  46.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน พ.ศ. 2559 16.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

23) ตอนที่ 20

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ ^__^~

ผู้แต่ง : ออมอนี่_cake

 

 

 

 

 

 

 

 

♥ นิยายเรื่อง ว้าวุ่น 2 ตอนที่ 20 ♥

 

 

 

 

 

 

"ขอโทษนะคะ"

 

 

 

 

"ครับผม จะติดต่อเรื่องอะไรครับคุณผู้หญิง"

 

 

 

 

"พอดีจองห้องไว้น่ะค่ะ แต่เพื่อนยังไม่มา รบกวนพาขึ้นไปหน่อยได้ไหมคะ"

 

 

 

 

"ได้สิครับ สักครู่นะครับผม ...เฟย์เดี๋ยวเขื่อนมานะครับ"

 

 

 

 

"อืมๆ เขื่อนไปทำงานเหอะ เฟย์อยู่ได้"

 

 

 

 

ออกจากห้องมาที่ทำงานตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเปลี่ยนกะกับเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับพาหวานใจจอมเซี้ยวมาที่ทำงานด้วยในวันนี้ อย่างที่บอกครับ วันนี้ที่โรงแรมของเขาได้รับเลือกให้เป็นที่พักของซุปตาร์เกาหลี ชื่อวงอะไรโซ่ ๆ ก็จำไม่ได้หรอก ไอดอลชายน่ะครับ ไม่ค่อยอยากจะรู้เท่าไหร่ แต่คนข้างกายที่ต้องการจะทำโปรเจคจบแบบสวย ๆ ด้วยบทสัมภาษณ์พิเศษแบบเอ็กคลูซีฟค่อนข้างจะใส่ใจมากเลยทีเดียว จึงต้องหิ้วมาด้วยในวันนี้ครับ

 

ช่างเถอะ ชายอื่นก็แค่หลงชั่ววูบ จะเอามาเทียบกับชายคนนี้ที่ยืนข้างกายมาเกือบ ๆ 7 ปีอย่างเขาได้ไง หน้าตาก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอกนะ กับไอเจ้าลีดเดอร์น่ะ จะมีก็แต่ความสูงเท่านั้นที่เขาต้องแพ้ แต่ใครจะสนล่ะ แม่หัวหอมเท่านั้นที่เขาสนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

"แฟนเหรอคะ"

 

 

 

 

"ครับผม"

 

 

 

 

"น่ารักจังค่ะ เสียดายจัง ลีน่าก็อยากมีแฟนน่ารักๆแบบคุณบ้าง ไม่น่าเจอกันช้าไปเลยนะคะ"

 

 

 

 

"หืม พูดเล่นแบบนี้ ผมคิดจริงนะครับ"

 

 

 

 

 

"ลีน่าก็พูดจริง คิดจริงนะคะ"

 

 

 

 

 

“ฮะ ๆๆ”

 

 

 

 

 

“ขอเบอร์ไว้ได้ไหมคะ เผื่อลีน่าออกไปตอนกลางคืนแล้วกลับไม่ถูก ลีน่ากลัวค่ะ”

 

 

 

 

 

“..... ไม่มีปัญหาครับผม XXX เขื่อนครับ”

 

 

 

 

 

เขาค่อนข้างจะรู้ตัวดีในนิสัยของตัวเอง ชอบเล่นสนุกไปวัน ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับคำพูดที่เอ่ยออกมาในแต่ละครั้ง เพื่อน ๆ บอกว่าเขาน่ะเพลบอยตัวพ่อ เจ้าชู้หาตัวจับยาก ลามไปถึงว่าจริง ๆ เขาน่ะชอบผู้ชาย เกิดมาเพื่อเป็นเสือใบไปนู่น อยากจะแถลงข่าวจริง ๆ ครับให้ได้รับรู้ทั่วกันเลย

เขาเป็นมนุษย์ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีที่สุดคนหนึ่งในวง ทำให้มีเพื่อนมากมาย ทั้งหญิงและชาย แรก ๆ ก็เพราะความเป็นไอดอล ทำให้ได้ทำงานที่หลากหลาย เจอผู้คนมากหน้าหลายตา มันจึงยากจะปฏิเสธที่จะรู้จักใคร ๆ จริงไหมครับ แล้วไอ้หน้าตาอย่างเขาก็ไม่ใช่บ้าน ๆ อะไร ไม่เชื่อลองไปถามเหล่าแฟนคลับที่รักผมดูสิครับ ปัจจุบันเขาเองก็ยังคงความฮอตอยู่ ทั้งจากเพื่อนร่วมงานและแขกของโรงแรม หน้าที่ของเขาคือให้บริการ เป็นหน้าที่ต้องมีความตั้งใจที่จะดูแลลูกค้าแบบสูงเลย ซึ่งเขาก็คิดว่าทำได้ดี เห็นได้จากลูกค้าไฮโซสาวๆ ที่แวะเวียนมานอนเล่นกันไม่เว้นแต่ละอาทิตย์ เพียงเพราะต้องการจะเจอหน้าเขา นี่ขนาดเขาออกตัวว่ามีแฟนแล้วนะครับ เฮ่อ เหนื่อยจริง ๆ

 

 

ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ แต่มันก็เห็น ๆ กันอยู่

 

 

        บางทีก็นึกอยากจะให้กระแสความเจ้าชู้ของตัวเองลดลง เลยพยายามที่จะเอาตัวไปคลุกคลีกับเพื่อนผู้ชายให้มากขึ้นหน่อย กลับกลายเป็นเขาที่ถูกมองว่าเปลี่ยนรสนิยมไปทั้งอย่างนั้น สังคมสมัยนี้เข้าใจยากจริง ๆ การเป็นเพื่อนกันระหว่างหญิงชายว่ายากแล้ว ปัจจุบันชายกับชายเองก็เป็นเพื่อนกันไม่ได้ไปแล้วเสียด้วย โอย คนหล่อเครียด

 

 

การแลกเบอร์กันระหว่างพนักงานกับลูกค้าก็ไม่ได้ผิดปรกติอะไร แม่เป็ดเองก็ไม่เคยว่า เพราะเธอเข้าใจเขามากที่สุด ว่า “ไม่มีอะไร” ก็มีความหมายตามนั้น เขาถึงได้รักและเทิดทูนยอดยาหยีที่สุด คนดีของดนัย

 

 

 

 

 

“นี่ ๆ แกเห็นป่ะ พี่เขื่อนแลกเบอร์กับลูกค้าอีกแล้ว เดี๋ยวก็เป็นข่าวอีกหรอก”

 

 

 

 

 

“ถึงจะทำเป็นพูดว่าตัวเองมีแฟนแล้ว แต่ถามจริ๊ง นางเคยเปิดตัวอ่อ?”

 

 

 

 

 

“แฟนพี่แกนี่ใจถึงมากเลยเหอะ เป็นฉันไม่ยอมหรอกนะ ถ้ายังอยากทั่วถึงแบบนี้ก็เลิกกันเหอะ เสียเวลาเสียความรู้สึก”

 

 

 

 

 

“คุณคะ มากับพี่เขื่อนใช่ไหม เชิญด้านในได้เลยค่ะ ห้องสัมภาษณ์พร้อมแล้ว”

 

 

 

 

 

 

“........... อ่ะ เอ่อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

 

 

 

 

 

เธอกลายเป็นผู้หญิงใจกว้างตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

 

จำไม่ได้เลยว่า ตัวเธอและเขามาถึงจุดนี้ได้ยังไง นับตั้งแต่วันนั้น วันที่เริ่มคบกัน ผู้ชายคนนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม ดูแลเหมือนเดิม ลวนลามเป็นปรกติและบอกว่ารักเหมือนเดิม แม้กระทั่งการออกสังคม ออกเที่ยวกับเพื่อนฝูงทั้งหญิงและชาย ถ่ายรูปถึงเนื้อถึงตัว แนบชนิดสนิทสนม แลกเบอร์เสนอไอจี อะไรต่อมิอะไรนับไม่ถ้วน .... เขาคนนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม

 

 

เหมือนเดิมจนเธอนึกกลัว ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอยอมรับแล้วใช่ไหม สถานะที่เขาหยิบยื่นให้ เกือบ ๆ 7 ปีที่รู้จักกัน และมันจะเป็นแบบนี้อีกต่อไปใช่ไหม วันหนึ่งหากเธอยอมให้เขาเปิดตัว เขาก็จะยังคงเป็นแบบนี้ “เหมือนเดิม” ใช่ไหม ไม่มีอะไรเปลี่ยน ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยก็ยังคงมีเข้ามาให้เขาได้ใกล้ชิด โดยไม่คิดที่จะปฏิเสธสินะ

 

 

จริง ๆ แล้วเธอใจกว้าง หรือแค่ชิน .... ถึงเวลาต้องตอบคำนี้แล้วหรือเปล่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กลับมาเหนื่อย ๆ ยังต้องมานั่งให้สัมภาษณ์อีก ขอบคุณจริง ๆ นะคะน้องป๊อบ”

 

 

 

 

 

“แหม พี่บีฟูล เหมือนผมจะปฏิเสธได้อย่างนั้นแหล่ะครับ”

 

 

 

 

 

“เข้าใจก็ดีแล้วค่ะ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เฮียก็อยากให้แฟน ๆ หายคิดถึงไง อะไรเนี่ย!!! เดี๋ยวกลับมาก็ไปติดย้งติดยศรับราชการซะงั้น เฮ่ออออออ สาว ๆ หัวใจสลายเป็นแถบ ๆ เล่นเอาพี่งงเลยนะ”

 

 

 

 

 

“ก็มันเปลี่ยนใจกะทันหันนิ่ครับ ผมไม่ได้บอกใครเลย แม้แต่.....”

 

 

 

 

 

“คนที่บ้าน เพื่อน พี่น้อง และ.....คนสำคัญ ยังไม่ได้บอกใช่ไหม? ตายๆ วันนี้ระเบิดจะลงที่ห้องซ้อมใหญ่ไหม ให้ทายนะนีน่า // โอ้ยยยยยยยยยยยยยย ไม่ต้องสืบ มีเผาค่ะ!!!”

 

 

 

 

 

“โธ่ อย่าอวยพรกันสิครับ พี่ครับ....”

 

 

 

 

 

ลงเครื่องได้ก็ตรงดิ่งเข้าบริษัททันที เพราะถูกแจ้งให้ทราบตั้งแต่เมื่อคืนก่อนเดินทางว่าต้องไปให้สัมภาษณ์กับทางค่ายของตัวเอง จึงได้บอกทั้งพ่อแม่ เพื่อนและคนรักว่าไม่ต้องมารับ หลังจากทำงานเสร็จแล้วค่อยเจอกันจะสะดวกกว่า มาถึงก็ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง ตอบคำถามทุกอย่างด้วยความสัตย์จริง รวมไปถึงการมีตัวตนของคนรัก เพียงแค่ระบุชื่อไม่ได้ก็เท่านั้น

 

 

อยากทำ แต่หลาย ๆ อย่างก็บังคับให้ทำตามใจตัวเองไม่ได้

 

 

เมื่อ 3 ปีก่อน เขาตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ เพราะอยากได้ความแปลกใหม่ ทั้งสถานที่ ผู้คนและระบบการศึกษา อยากลองใช้ชีวิตคนเดียวดูบ้าง อยากลองห่างจากอะไรที่จำเจ แต่ก็เหมือนจะคิดผิด หรือจะเรียกว่าคิดได้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อเรียนไปได้ปีกว่า ๆ ก็เกิดอยากจะเปลี่ยนใจกะทันหัน จากที่คิดจะเป็นวิศวกรหนุ่มไฟแรง ก็หันเหทิศทางใหม่โดยสิ้นเชิง เพราะคำพูดแค่ไม่กี่คำของผู้หญิงคนเดียว

 

 

ผู้หญิงคนแรก และผู้หญิงคนสุดท้ายของเขา

 

 

 

 

เมื่อวานไปกับพี่บี้มา ไปส่งน้องชายพี่บี้รายงานตัวเข้าเรียนโรงเรียนนายเรือ เท่ห์มาก ๆ เลยนะ ....การได้รับใช้ชาติแบบนั้น เป็นอะไรที่ดีจริง ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฟางจ๋าตั้งใจหน่อยสิครับ”

 

 

 

 

 

“...................”

 

 

 

 

 

“แล้วทำไมเราต้องมานั่งเฝ้าห้องซ้อมแบบนี้ด้วยอ่ะ ยายเฟย์ก็ไม่ว่าง”

 

 

 

 

 

“...................”

 

 

 

 

 

ออกจากห้องตั้งแต่เช้าเพราะคุณผีดิบต้องรีบออกมาทำธุระให้คุณแม่ยูโกะที่ต่อสายตรงจากญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อคืน ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะเธอถือว่าเรื่องส่วนตัวของคนรักก็ควรต้องมีบ้าง เอาไว้ถึงเวลาแล้วถ้าเขาอยากจะพูดก็คงไม่สาย หรือบางเรื่องเธอก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เพราะเรื่องเลือดสาดของแก๊งยากูซ่าบางทีเธอก็อยากจะแกล้ง ๆ ไม่รับรู้อยู่เหมือนกัน ไม่ได้น่าพิศมัยขนาดนั้นอ่ะนะ

ด้วยเพราะไม่มีที่ไปแล้ว จะอยู่ห้องเพื่อนอนต่อก็ใช่ที่ จึงขอให้คนรักขับรถมาส่งที่ห้องซ้อมก่อนเวลานัดในตอนเย็น อย่างน้อย ๆ คิดซะว่ามานั่งจ้องตา ดูการซ้อมของน้อง ๆ XIS ก็คิดว่าเป็นเรื่องเพลินตาเพลินใจดีเหมือนกันนะ 55555+ มาถึงกลับเจอเพื่อนจิ้นของตัวเองที่นั่งเหม่อลอยพร้อมมากในห้องซ้อมอยู่ก่อนหน้า ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วเหมือนกัน แต่อาการใจลอย ปลุกไม่ตื่นเนี่ย นานพอควรแล้วนะยายกระต่ายเน่า!

 

 

โดยลืมไปว่า อาการเหมือนคนน็อค ๆ แบบนี้ควรเกิดกับหญิงสาว สวยและเพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะและคนรักขนาดนี้หรือเปล่า

 

 

 

 

 

“ฟางจ๋า”

 

 

 

 

 

“...................”

 

 

 

 

 

หลังจากที่ข่มตาให้หลับลงได้เมื่อคืน ก็ปาไปเกือบ ๆ เช้า ไม่รู้ในหัวคิดอะไรเสียมากมาย ทำให้จิตใจต่อต้านการพักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็นเอามาก ๆ ตอนนี้เรื่องเรียนของเธอเองก็ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว อัลบั้มใหม่ก็ใกล้จะเสร็จแล้วเช่นกัน การซ้อมเต้น การอัดเสียงก็ไม่ได้มีปัญหามากมายจนต้องเก็บเอาไปคิดมาก สุดท้ายก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าหัวใจเธอกำลังทั้งเหนื่อย ทั้งล้าและท้อ .... จึงมีผลต่อระบบการทำงานของร่างกายแบบนั้น

 

หัวใจเธอกำลังไม่แข็งแรง มาก ๆ ............. มากเสียจนนึกกลัว

 

 

 

คนรักของเธอกลับมาแล้ว อาจจะยังเรียกว่าคนรักได้เต็มปากเต็มคำ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้น เพราะเขาแสดงออกว่าทั้งรักทั้งหลงเธอจริง ๆ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เกือบ ๆ 7 ปีที่รู้จักกัน โดยมี 5 ปีที่เราใช้คำว่าแฟน รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากคนหนึ่ง เพราะความใส่ใจของเขา แต่ไม่รู้ว่าระยะห่างตลอด 3 ปีที่ผ่านมานี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง กังวลจนนอนไม่หลับ รู้สึกกลัวไปหมด

 

 

กลัวการเปลี่ยนแปลงที่หัวใจของใครบางคน

 

 

 

 

 

 

 

“ว่างาย”

 

 

 

 

 

//แก้วลงมาข้างล่างหน่อยครับ//

 

 

 

 

 

“ไมอ่ะ”

 

 

 

 

 

 

//หิวข้าวครับ ลงมาทานข้าวเป็นเพื่อนหน่อย//

 

 

 

 

 

 

“ก่อนจะแวะมาส่งเพิ่งแวะกิน’เตี๋ยวสุโขทัยไป 5 ชามเนี่ยนะ ยังหิวอีกอ่อ? ทั้ง ๆ ที่โมะไปทำธุระไม่ถึง 2 ชั่วโมงเนี่ยนะ?”

 

 

 

 

 

 

//แก้วครับ//

 

 

 

 

 

 

“อ่อๆ รู้ละ อย่ามาทำดุกลบเกลื่อนนะ หิวของหวานก็ไม่บอก เคๆ เดี๋ยวลงไป”

 

 

 

 

 

 

 

“ฟางจ๋า เดี๊ยวเค้ามานะตัวเอง ไม่เกิน 1 ชม. ตัวเองนั่งรอยายเฟย์ ก็ร้องเพลงใหม่ไปพลาง ๆ นะครับ อ่ะไอแพด เอาไปดูเนื้อนะ อย่าลืมดูนะครับ *จุ๊บ*”

 

 

 

 

 

 

“อ่ะ แก้ว ... อืม ๆ ไปเถอะ ฟางอยู่ได้”

 

 

 

 

 

 

 

กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่ามีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ร่วมกับเธอในห้อง ก็เมื่อตอนที่เพื่อนรักเข้ามาจุ๊บที่แก้มเบา ๆ เพื่อจะบอกว่าต้องไปทำธุระกับแฟนหนุ่มข้างนอกอีกไม่นานก็กลับ

ไม่ได้คิด จะเรียกร้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนอยู่แล้วในเวลานี้ เธออยากพักสมอง อยากปล่อยวาง อยากทำให้ทุกสิ่งไร้การเคลื่อนไหว อยากเพียงแค่จะมองออกไปข้างนอก หลบหนีความเป็นจริงที่อยู่ข้างหลัง เพราะเธอกลัว กลัวเหลือเกิน

 

 

 

 

 

 

 

“แก้วอ่านสัมภาษณ์บางส่วนแล้วนะ พี่บีฟูลส่งมา เดี๋ยวค่อยเคลียกันวันหลังแล้วกัน วันนี้ก็ให้ระเบิดมันลงตรงนี้จบตรงนี้เข้าใจ๋”

 

 

 

 

 

“เข้าใจครับ ว่าที่คุณนายยากูซ่า”

 

 

 

 

 

 

“ฮึ่ย ไอบ้า!!!!”

 

 

 

 

 

        จำเป็นต้องทิ้งเพื่อนรักเอาไว้ เพราะหนึ่งคุณชายผีดิบเร่งเร้าแบบมีสาเหตุ และสองเธอพอจะเดาเหตุผลของคุณชายได้แล้ว เมื่อมองผ่านกระจกบานเล็กตรงประตูห้อง เห็นชายหนุ่มมาดดี ยืนตัวดำปี๋เรียกร้องความสนใจอยู่

        อ่อ มาเคลียกันถึงที่แล้วสินะ ก็ดี

 

 

 

 

 

 

 

“โมะรู้เรื่องนี้กับเค้าด้วยเปล่า?”

 

 

 

 

 

“ครับ”

 

 

 

 

 

“อ้าว แล้วไมไม่บอกแก้วล่ะ? แก้วเป็นแฟนนะ!!!!!!!! เป็นเพื่อนของแฟนนายหน้าหมีนั่นด้วย!!!!!!!”

 

 

 

 

 

“ครับผม ผมก็แฟนครับ แล้วก็เป็นเพื่อนของแฟนยายกระต่ายเหมือนกันครับ”

 

 

 

 

 

“วิด – สะ - วะ!!!”

 

 

 

 

 

“แก้วครับ ป๊อบมันไปเรียน ไม่ได้มีผู้หญิงใหม่เสียหน่อย สุดท้ายจะจบอะไรมา ก็คือเรียนจบแล้ว กลับมาหาเงินแต่งงาน เจ้าสาวก็ยังเป็นฟางเหมือนเดิมหนิครับ แล้วนี่โมโหอะไร?”

 

 

 

 

 

“เหอะ ปลายทางมันเหมือนกัน แต่ระหว่างนั้นมันไม่ใช่เข้าใจป๊ะ!”

 

 

 

 

 

 

“ไม่เข้าใจครับ 1+1=2 , 2+0=2 ผลสรุปมันก็คือ 2 เพียงแต่ที่มามันต่างกันเท่านั้นเองนะครับ”

 

 

 

 

 

“ว่าไงนะ? นี่โมะคิดว่าการที่ป๊อบจะไม่บอกอะไรให้ยางฟางรู้เลยเนี่ย ไม่ผิดใช่ป่ะ เหอะ เป็นผู้ชายก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้วหนิ 3 ปีนะ 3 ปี คิดบ้าง ว่าใจคนรอน่ะมันนานแค่ไหน โมะคิดสิ!!!!”

 

 

 

 

 

 

“อ้าว แล้วมาพาลโกรธโมะทำไมครับเนี่ย ฮะๆๆ”

 

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องมาขำ แก้วจะไปหาดอลล่าห์!”

 

 

 

 

 

 

 

 

“ครับๆ ได้ทุกอย่างครับคุณผู้หญิง”

 

 

 

 

 

ยืนเพ่งมองไปยังแผ่นหลังเล็กของคนตัวเล็กอยู่นานสองนาน ก่อนจะหายใจเข้าปอดให้เต็มที่แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา ตลอด 3 ปีที่ไม่เจอกัน ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะเหงาแค่ไหน ระยะทางกับความห่างไกล แม้จะมีโซเชียลก็ไม่สามารถทำให้คลายเหงาได้ ข้อนี้เขารู้ดี รู้ดีที่สุด คิดถึง เป็นห่วง ทั้งหวงและอยากแสดงความเป็นเจ้าของ กลัว กลัวไปหมด แม้กระทั่งหัวใจของคนตัวเล็ก กลัวเหลือเกินว่าจะหมางเมินกัน

แม้เขาจะไม่ใช่คนซื่อบื้อ แต่ก็ใช่ว่าจะโรแมนติก การแสดงความรักต่อผู้หญิงตรงหน้า ไม่เคยเทียบเท่าได้เลยกับความรู้สึกข้างในที่มี รักมาก รักที่สุด แต่ไม่สามารถมาอยู่ใกล้ ๆ ให้คลายความกังวลได้

แต่นับจากวันนี้ไป หัวใจของเราทั้งคู่ จะไม่หวั่นไหวอีกต่อไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

“คิดอะไรอยู่”

 

 

 

 

 

 

“แก้วลืมของเหรอ.......ปะ ป๊อบ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คิดถึงครับ”

 

 

 

 

 

 

 

“................”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คิดถึงไหม....ฟาง”

 

 

 

 

 

 

 

 

“................”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานไปหน่อยนะครับ ไม่ต้องรอแล้วป๊อบกลับมาแล้วครับ ... ที่รัก”

 

 

 

 

 

 

 

“.....ฮึก....ฮึก....”

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ร้องนะครับคนดีของป๊อบ โอ๋ๆๆๆ”

 

 

 

 

 

 

 

“ฮึก คนบ้า .. ไอ้คนบ้า…”

 

 

 

 

 

 

 

..หน้าจอไอแพดที่ถูกเปิดค้างอยู่..

 

“ทำไมถึงได้เปลี่ยนใจจากวิศวกรมาเป็นนายทหารเรือได้ล่ะคะเนี่ย”

“มีผู้หญิงคนหนึ่งเคยพูดไว้ว่า การทำอะไรเพื่อประเทศนั้นมันเท่ห์มาก ๆ ผมอยากทำเพื่อชาติ และอยากเป็นคนที่ดูดีมาก ๆ ในสายตาของเธอครับ”

 

 

 

 

 

 

 

to be con.

 

 

 

 

 

 

 

talk : ขออนุญาตใช้ว้าวุน2 แทนคอฟฟี่ที่สัญญาไว้นะคะ พี่หมดแรงหมดพลังไปกะการติ่งมากเลย 555555

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา