Coffee In My Heart

9.1

เขียนโดย ออมอนี่cake

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18.56 น.

  38 ตอน
  532 วิจารณ์
  61.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน พ.ศ. 2559 16.38 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

20) Carpuchino II แก้วที่ 5 [Edit] 02

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ
^__^~

 

เรื่องสั้นเรื่อง คาปูชิโน่  ภาค 2 แก้วที่ 5

 

 

"คิดจะทำอะไร จะมาเย้ยกันถึงที่นี่เลยเหรอไงฮะ!"

. 

 

 

"พูดอะไรของเธอ ออกมาตั้งนานแล้วทำไมไม่กลับบ้านมานั่งอยู่หน้าห้องทำไม... อ้อ ลืมไปเธอออกมากับแฟนนิ่ ไม่ไปต่อกันข้างนอกแต่กลับมานั่งหงอยหน้าห้องแล็กเชอร์แบบนี้ แฟนจะพอใจเร้อ?" 

.

 

 

"แฟนฉันเข้าใจอะไรง่ายๆน่ะ ไม่ชอบโกหกหลอกลวง" 

 

 

.

.

.

.

            ก้อนสะอื้นกำลังมาจุกอยู่ที่คอ ยากลำบากเหลือเกินที่จะกลืนลงไปทำให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นว่าตัวเธอไม่ได้ฝันไป เธอกำลังเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้าย ความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ได้รักเธออีกแล้ว .... 

 

            อยากจะหนีหน้าไปเพราะไม่สามารถทนรับความจริงที่เกิดตอนนี้ได้ แต่สมองก็ไม่สั่งการ ประมวลผลให้เธอหลบหลีกเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ผลจึงเป็นเธอยังยืนอยู่ที่เดิม ประจันหน้ากับชายหนุ่มที่ครั้งนึงเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่รักเธอสุดหัวใจและเธอก็คิดแบบนั้นไม่ได้ต่างกันเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว มองดูแววตาของชายหนุ่มที่ทอดมองเธอ ที่ตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าเขารู้สึกเช่นไร สายตาที่คอยห่วงหาอาทร สายตาของความห่วงใย เอาใจใส่ เอาแต่ใจและสายตาของความรัก....

 

.

.

"นี่ !!! ผมถามว่ามาทำไม ผมอุตส่าห์หนีมาเพราะไม่อยากเจ็บ ไม่อยากเห็นหน้าเธอ แต่เธอกลับมาเย้ยหัวใจผมถึงที่นี่ ต้องการอะไร?"  ยังคงไร้สติใดๆในการประมวลผลถ้อยคำที่ออกมาจากปากของตัวเอง ใจนึงก็นึกอยากตบปากตัวเองที่พูดอะไรไม่คิด ทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่าคนสวยตรงหน้าตระหนกตกใจแค่ไหนที่จู่ๆเขาก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ น้อยครั้งที่เขาจะขึ้นเสียงใส่เธอ เพราะถึงกระต่ายน้อยน่ารักจะขี้โมโห เอาแต่ใจตัวเองมากแค่ไหน แต่นั่นมันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เขาเต็มใจที่จะง้อ ถึงเขาจะไม่ใช่หนุ่มโรแมนติกเหมือนคุณภัทรดนัยและก็ไม่ใช่คนปากหวานเหมือนคุณวิศว เขาอาจจะเย็นชาไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึก ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้กระต่ายน้อยเสียใจ

 

            แต่ใจนึงก็อยากจะรู้ความจริงในเวลานี้เหมือนกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความรักของเรา ...เกิดอะไรขึ้นกับความรักของเธอ เธอเปลี่ยนใจหรือแค่ตัวเขาเองที่เข้าใจผิด โดยไม่นึกผลที่จะตามมาของคำพูดของตัวเอง
.

.

"ฟาง ... อ่ะ  อาจารย์มาสอนแทน อ.ขนมจีนเท่านั้น" หญิงสาวตรงหน้าค่อยๆเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา ให้คนฟังรู้สึกขัดใจ กับสรรพนามที่ฟังยังไงก็เหมือนจะสื่อให้รู้ถึงการขีดเส้นแบ่งเขตให้แยกแยะกัน ระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน ไหนจะดวงตาสวยที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาขณะพูดนั่นอีก ยายกระต่ายทำเป็นมองดูลมฟ้าอากาศแล้วเอ่ยออกมา คล้ายๆจะไร้ซึ่งความสนใจเขาอีกต่อไป .... ยอมไม่ได้

.

.

 

"จำเป็นอะไรถึงต้องเป็นเธอ ที่นี่อาจารย์เยอะแยะ คงไม่ต้องรบกวน อ.จากคณะอื่น" ยัง ยังทำเป็นมองสนามที่ไร้นักกีฬา มองนกมองหมาที่ข้างตึกอยู่อีกนะ คนสวยไม่ตอบอะไรกลับมานอกจากทำเป็นกระชับเอกสารและกระเป๋าถือไว้กับตัวแล้วทำทีจะเดินผ่านเขาไป

.

.

"........................."

.

.

"หรือว่า อ.คณะเธอเค้าไม่ว่างแล้ว เลยจะมาเก็บ อ. ที่คณะอื่นกินต่อ กินที่คณะเธอก็พอแล้วมั้ง" ไม่รู้อะไรดลใจ ถึงได้ปากไวปากสุนัขออกไปแบบนั้น แต่ก็สามารถช่วยทำให้คนสวยหันกลับมามอเขาได้ ซึ่งก็น่าพึงพอใจอยู่ไม่น้อย

 

            ยายกระต่ายที่กำลังเดินผ่านเขาไปหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะเจ็บปวดเหมือนกับที่เขาเคยรู้สึก หัวใจกระตุกวูบเมื่อได้มองใบหน้าสวยชัดๆ แววตาสั่นระริกเหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่างออกมามากกว่าความเจ็บปวด น้อยใจ? ไม่มั่นใจ? ก่อนที่จะคิดอะไรไปไกลใบหน้าคมก็รู้สึกชาวาบไปทั้งหน้า เมื่อถูกฝ่ามือเรียวสัมผัสเข้าอย่างจัง หัวใจคล้ายจะแตกเป็นเสี่ยงๆอีกครั้งเมื่อได้รู้ถึงความเป็นจริง และได้เห็นน้ำตาของคนสวย

 

            ยายกระต่ายกำลังร้องไห้  .....  เพราะเขา

.

.

.

"....เพียะ.... มันจะมากไปแล้วนะ!!!  ใช่ฉันตั้งใจมาที่นี่ มาที่ห้องเรียนที่ยังเหลืออยู่ห้องเดียวที่นี่ มาดูเด็กหน้าหมีที่หายออกจากบ้าน ทั้งที่เขาโกหกฉัน ฉันก็ยังเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอันตราย ฉันก็เลยมา ฮึก....ฉัน ฉัน ฮึก...."  ตั้งใจจะไม่สบตา ไม่มองหน้าชายที่กำลังพูดจาทำร้ายหัวใจที่แสนจะเจ็บช้ำของตัวเอง เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยเหลือเกิน ไม่สามารถจะทนยืนอยู่แบบนี้ได้อีกจริงๆ จึงทำเป็นไม่สนใจคำพูดทิ่มแทงนั้นของอดีตชายคนรักแล้วเดินผ่านเขาไป ถ้าไม่ติดตรงประโยคสุดท้ายที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา

 

            รับไม่ได้ เขาช่างโหดร้ายจริงๆ......

.

.

.

 

"เธอ...วะ ว่าไงนะ?"

.

.

"แต่ในเมื่อเขายังอยู่ดีมีสุข แถมยังมีแฟน นศ.รุ่นราวคราวเดียวกันดูแลไม่ห่าง ฉันคงไม่ต้องห่วงอะไรเขาอีก ฮึก..." จ้องหน้าแล้วพูดออกไปอย่างที่ใจคิดด้วยเสียงสั่นเครือ แต่ถึงอย่างไรวันนี้ก็ต้องมาถึง ให้มันเจ็บไปเสียวันเดียวยังดีกว่า เมื่อป๊อบปี้เลือกคนใหม่ และพร้อมที่จะไปจากเธอ เธอจะไม่รั้งเขาเอาไว้ ปาดน้ำตาลวกๆแล้วหันหลังเดินออกมาโดยไม่สนคำพูดใดๆจากใครอีกเลย

 

            เจ็บเหลือเกิน หัวใจดวงนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

.

.

.

"เอ่อ ฟาง .... คือ ป๊อบ....ป๊อบ" ไปไม่เป็นกับคำตอบที่ได้รับกลับมาจากคนน่ารัก ยังไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผลอะไรเท่าไหร่ ยายกระต่ายก็เดินจ้ำอ้าวออกไปจนพ้นตัวตึกของคณะวิศวะ ในหัวมึนงงไปกับคำบอกกล่าวที่คนสวยเอ่ยมา .... นี่เขาเข้าใจอะไรผิดจริงๆใช่ไหม? ไม่รอให้สมองตอบคำถามขายาวๆก็รีบทำตามคำสั่งของหัวใจว่าให้รีบตามคนสวยออกไป อย่าให้หลุดมือไปแบบวันสองวันที่ผ่านมาอีกเป็นอันขาด

 

            ฟางครับ....ป๊อบขอโทษ

 

 

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

 

"น้องฟางครับ ฝนตกใหญ่เลยขึ้นรถเถอะครับ"

.

.

 

"อ.ปอร์เช่ ....อ่า ค่ะ ฟางรบกวนไปส่งที่บ้านหน่อยนะคะ"

.

.

 

            ไม่รู้สุภาพบุรุษสุดหล่อจากคณะสถาปัตย์ขับรถเก๋งคันหรูมาโฉบที่คณะวิศวะได้อย่างไรในเวลาเกือบๆจะเที่ยงคืนแบบนี้ แต่ประเด็นที่เขาสนใจมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเท่าไหร่ เมื่อคนขับเปิดประตูรถออกมาพร้อมกับกางร่มขนาดพอมือยื่นรับคนน่ารักของเขาให้ขึ้นรถไปด้วยกัน 'มากไปหรือเปล่าครับ อ.ที่เคารพ ยายนั่นแฟนผมนะ ของๆผม คนของผม ผมไปส่งเองได้!!!' ได้......ได้แต่คิดในใจโดยไม่สามารถปริมากพูดอะไรออกมาได้ เมื่อได้ยินคำตอบรับของคนรักที่ตอนนี้ถูกอันเชิญขึ้นไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถต่อหน้าต่อตาเขาเป็นครั้งที่สอง ขายาวรีบสาวไปถึงตัวรถก่อนจะเปิดประตูหลังขึ้นนั่งโดยไม่ต้องรอคำเชิญใดๆ

.

.

"ผมขอไปด้วยนะครับอาจารย์ คือผม ผมเป็นน้องชาย อ.ธนัชพรน่ะครับ"

.

.

"อ้อ ได้สิน้องชาย ^_____^" อาจารย์รูปหล่อผู้มีมารยาทเอ่ยรับเขาโดยไร้ซึ่งการขัดขืนหรือขัดใจใดๆ คงจะคิดว่าที่เขาพูดเป็นความจริง จึงไม่เอะใจแล้วรับศัตรูหัวใจตัวเอ้ขึ้นรถมาด้วย [นี่มันละครรักโรแมนติกคอมเมดี้หรือดราม่าเลือดสาดกันแน่? : แก้วใจ]

.

.

"....................." นั่งมองเสี้ยวหน้าหวานของคนน่ารักจากทางเบาะหลัง ยายกระต่ายนั่งตัวตรงมองไปทางด้านข้างประตูโดยไม่หันมามองเขาเลยสักนิด ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ .... เจ็บใจตัวเองที่ยังไม่ทันได้เคลียร์อะไรให้มันรู้เรื่อง ปล่อยให้ตัวเองเข้าใจคนสวยผิด เมื่อรู้ตัวว่าผิดแต่ก็ยังไม่สามารถปรับความเข้าใจให้ยายกระต่ายเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับตัวเขา อยากจะพูดออกมาเสียตรงนี้ ถ้าไม่ติดที่คนหน้าหวานเคยขอไว้ว่าเรียนจบเมื่อไหร่ค่อยเปิดเผยความสัมพันธ์ที่มีระหว่างเรา แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็รู้ไม่ได้ 

 

            ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวคนสวยจะโกรธไปมากกว่านี้ เขาจะทำหน้ามึนอึนซึนไอด๊นแคร์แล้วประกาศความเป็นเจ้าของแม่กระต่ายมันซะตอนนี้เลย

 

 

            ฮึ่ม.....หงุดหงิดชะมัด

.

.

 

"พอดี อ.หวายโทรฯมาบอกที่คณะว่าขอยื้มตัวน้องฟางมาสอนแทน อ.ที่ลาป่วย พี่เห็นว่าฝนมันตกเลยลองขับมาดูน่ะครับ น้องฟางยังไม่กลับจริงๆด้วยสิ ดีจัง" ขึ้นมานั่งบนรถหรูที่ครั้งนึงเธอไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะความขี้เกรงใจของตัวเอง แต่ครั้งนี้เธอกลับเต็มใจขึ้นโดยไร้ซึ่งการฝืนใจ เธอหมดแรงจะเคลื่อนไหวร่างกายใดๆแล้วตอนนี้ อยากถึงบ้านเสียที อยากพัก เหนื่อยเหลือเกิน เจ็บปวดจนร้าวไปหมดทั้งร่างกาย ไม่ได้สนใจว่าใครอีกคนจะขอติดรถมาด้วยโดยอ้างความสัมพันธ์ที่ครั้งนึงเธอเป็นคนขอไว้เอง ว่าระหว่าง นศ.กับ อ.มหา'ลัย ก็ควรเป็นได้แค่พี่น้องกัน ไว้ให้คนตัวโตเรียนจบเมื่อไหร่จะเปิดเผยตอนนั้นก็ยังไม่สาย เธอยังห่วงสถานภาพทางการเรียนของคนรักและหน้าที่การงานของตัวเองอยู่

 

            นั่งมองถนนด้านข้างประตูประหนึ่งว่ามีความสุขเสียเหลือเกินกับการชมวิวยามค่ำคืน ไม่คิดจะปริปากพูดอะไรกับใครทั้งนั้น  จนสิ่งมีชีวิตข้างตัวเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เลยอดไม่ได้ที่จะเหลียวใบหน้าอันอ่อนล้ากลับมาคุยด้วย 'ขอโทษนะคะ อ.ปอร์เช่ ฟางไม่อาจรับความรู้สึกดีๆที่ อ.มีให้ฟางได้ ฟางขอโทษ....'

 

           

.

"ค่ะ......"

.

.

"ตาบวมๆนะครับน้องฟาง เป็นอะไรหรือเปล่า?" ละสายตาจากมือถือของตัวเองที่พึ่งส่งข้อความไปบอกเพื่อนรักว่าวันนี้จะกลับบ้านคงไม่เข้าไปค้างด้วย แล้วรีบหันหน้าไปมองยังฝั่งที่นั่งด้านคนขับ ด้วยไฟที่ส่องสว่างระหว่างทางที่ขับรถมาก็มีมากพอสมควร แต่กลับถูกบดบังด้วยม่านฝนที่ยังคงกระหน่ำลงมาด้วยเช่นกันทำให้เขามองเห็นใบหน้าหวานไม่ชัดเท่าไหร่ จึงเอ่ยปากกระชากเสียงเรียกคนด้านหน้าด้วยความลืมตัว

.

.

"ไหน ยายกระต่ายเป็น'ไร? หันหน้ามาดูซิ บอกให้หันมาดูหน่อยไงเล่า!!!"

.

.

"ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องยุ่ง!!!" สะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมไหล่มนจากทางด้านหลัง ไม่ยอมสบตากับคนตัวโตด้านหลัง กระชากเสียงห้วนตอบกลับไป ว่าไม่ได้เป็นอะไร ได้โปรดอย่าแกล้งสนใจโดยไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นจริงๆอีกเลย

           

            แค่นี้ก็หัวใจก็น้อยใจจะแย่อยู่แล้ว

.

.

"นี่เธอ!!!"

.

.

            รับรู้ถึงความฮึกฮัดขัดใจจากทางด้านหลังเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่นั้นมาบรรยากาศทั้งรถก็มาคุขึ้นมาทันที ไม่มีใครเอ่ยถ้อยคำใดๆออกมาอีกเลย แม้แต่เพลงแจ๊สที่คาดว่าคนขับคงตั้งใจเปิดคลอเบาๆมันกลับให้ความรู้สึกว่าเสียงดังมากอย่างไม่มีสาเหตุ นั่งมาได้ไม่ถึง 40 นาทีรถคันหรูก็เคลื่อนเข้าสู่คอนโดของเธอ

 

 

"ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ อ.ปอร์เช่ขอบคุณมากค่ะ" ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอ่ยขอบคุณคนใจดีอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูแล้วเตรียมจะลงจากรถ ถ้าไม่มีคำถามหนึ่งซึ่งทำให้เธอชั่งใจครู่หนึ่งก่อนตอบกลับไปโดยไร้การกลั่นกรอง

.

.

"พรุ่งนี้ อ.วิเวียน จะเข้าพิธีหมั้น น้องฟางจะให้เกียรติเป็นคู่ควงให้พี่ได้ไหมครับ?"

.

.

"ไม่"

.

.

"ได้ค่ะ 10 โมงใช่ไหมคะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ ขับรถระวังด้วยค่ะ"

.

.

"นี่เธอ!!! ฮึ่ย!!!"

 

 

            เมื่อมาถึงคอนโดที่ตนเองอาศัยอยู่กับตุ๊กตาหน้ารถคันหรู ก็เตรียมตัวจะลงจากรถแต่กลับชะงักเมื่อได้ยินคนสวยตบปากรับคำหัวหน้าภาคเอกออกแบบหน้าหล่อที่เอ่ยชวนให้ไปออกงานด้วยกัน ทั้งๆที่เขาออกตัวเบรคเสียงดังเอี๊ยดยิ่งกว่าABS ปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งตามคนตัวเล็กเข้าห้องไป โดยตะโกนทิ้งท้ายก่อนจะถูกคนสวยจะปิดประตูห้องใส่หน้าไป ว่าเขาไม่ยอมให้เธอไปจริงๆ

 

            ก็ลองดื้อดูแล้วกัน จะได้เห็นว่าเขาจะมีบทลงโทษอย่างไร

.

.

.

"ป๊อบไม่ให้ไปนะ ฟาง ฟาง ยายกระต่ายเน่า!"

.

.

"ปัง!!!"

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@

"ไม่เห็นเข้าใจเลย พูดใหม่อีกทีซิ?"

.

.

"ใช่ หนูกับแฟนไม่เข้าใจอ่ะค่ะ อ.ช่วยพูดใหม่อีกทีสิคะ"

 

 

 

"ฮึก.....ฮือ..................." ปิดหูปิดตาตั้งแต่ลงจากรถก็รีบเรียกลิฟต์ขึ้นห้องของตนเองทันที นับว่าโชคช่วยที่ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับพี่แม่บ้านของหอที่มาเก็บขยะบนชั้นที่เธออยู่พอดีจึงทำให้ไม่เกิดบทสนทนาใดๆระหว่างที่ขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน ออกจากลิฟต์ได้ก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าห้อง ไม่รับรู้รับฟังอะไรจากคนใจร้ายทั้งนั้น นั่งลงที่พื้นอย่างอ่อนแรงใช้หลังพิงที่บานประตูแล้วถ้อยคำที่อยากจะลืมก็พากันพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย

.

.

 

"ตั้งแต่ อ.เริ่มเข้ามาเนี่ยค่ะ ไม่เข้าใจเลยว่ามาทำไม สอนอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แฟนหนูน่ะฉลาดยังไม่เข้าใจ แล้วพวกเพื่อนไอคิวไม่ถึง60 พวกเนี้ยจะรู้เรื่องเหรอคะ"

.

.

"ฮึก.....ฮือ...................ไม่จริงใช่ไหม นายไม่รักฉันแล้วนายหมีดำ ไม่...."

 

.....แม้เปลือกตาจะพยายามปิดลงเท่าไหร่ ความเจ็บปวดและความเศร้าก็ไม่เจือจางลงเลย....

.

.

 

"ตื่นแล้วเหรอ ป๊อบทำข้าวไข่เจียวให้แล้ว ไปทานกันนะครับ"

 

"........................"

 

"น้ำส้มครับ"

 

"........................"

 

.

.

"ป๊อบขอโทษที่โกหกเรื่องรับน้อง ตอนนั้นมันสับสนอ่ะ ป๊อบเห็นฟางไปกับผู้ชายคนนั้นแล้วทิ้งป๊อบไว้ ก็เลยฟิวส์ขาด ขอโทษที่ไม่ได้ถามแล้วคิดไปเอง เมื่อวานที่ฟางไปสอนให้ที่คณะเพราะจะตามหาป๊อบใช่ไหม? ป๊อบขอโทษนะครับ ป๊อบ..."  เมื่อคืนเขาแทบข่มตาหลับไม่ลงทั้งตื่นเต้น(?)และสับสน บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรที่จะตื่นขึ้นมาแล้วได้พบกับคนน่ารักของเขาในเช้าวันพรุ่งนี้ สองวันที่เขาหลบหน้าไป มันทั้งคิดถึงและห่วงใย .... มากมายจริงๆ ตื่นเช้ามาก็ตั้งใจเตรียมอาหารให้คนตัวเล็ก เพราะรู้ดีว่าเธอมักจะไม่มีเวลามาทำอาหารในตอนเช้าแบบนี้ หน้าที่จึงตกอยู่ที่เขา และเขาก็เต็มใจอย่างมากโดยเฉพาะในวันนี้

 

           

"เราห่างกันซักพักเถอะ ป๊อบกำลังอยู่ในวัยเฟรชชี่ ควรได้อยู่กับเพื่อน ได้ทำกิจกรรมกับคณะมากกว่ามาขลุกอยู่กับ....พะ พี่...พี่นะ"

.

.

"หมายความว่ายังไง?"

.

.

"พี่เองก็ต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยอีก คงไม่ค่อยมีเวลาดูแลป๊อบเท่าไหร่ อีกอย่างจะให้รีบกลับบ้านมาทำอาหารเย็น พี่เหนื่อย อยากพักมากกว่า"

.

.

"ฟาง....ไม่อยากให้ป๊อบอยู่ด้วย เพราะว่าคิดได้ว่าอยากอยู่กับคนอื่นมากกว่าก็พูดสิ ทำไมต้องหาเหตุผลไร้สาระ"

.

.

"แล้วก็นะ...... ป๊อบบอกคุณป้าเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าสอบติดแล้วจะย้ายไปอยู่ที่อื่นน่ะ ตอนนี้ก็มีแฟนแล้วนี่ ไปอยู่กับแฟนหรือเพื่อนสักคนก็คงสะดวกดีนะ ที่ใกล้ๆ ม."

.

.

"เธออยากให้ฉันออกไป เพราะจะได้พาคนอื่นเข้ามาที่นี่ได้สะดวกล่ะสิ ก็ได้ฉันจะออกไป ขอบคุณนะที่ให้อาศัยมาตั้งนาน!! .... ปัง!!!!..."

 

 

.

.

"ฮึก....ฮือ" 

 

....อย่าไปนะ ได้โปรด ไป อย่าทิ้งฉัน อย่า ได้โปรด....

 

 

 

ครบไหมคะ? รบกวนบอกพี่ด้วยนะคะ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ
^__^~

 

เรื่องสั้นเรื่อง คาปูชิโน่  ภาค 2 แก้วที่ 5

 

 

"คิดจะทำอะไร จะมาเย้ยกันถึงที่นี่เลยเหรอไงฮะ!"

.

 

 

"พูดอะไรของเธอ ออกมาตั้งนานแล้วทำไมไม่กลับบ้านมานั่งอยู่หน้าห้องทำไม... อ้อ ลืมไปเธอออกมากับแฟนนิ่ ไม่ไปต่อกันข้างนอกแต่กลับมานั่งหงอยหน้าห้องแล็กเชอร์แบบนี้ แฟนจะพอใจเร้อ?"

.

 

 

"แฟนฉันเข้าใจอะไรง่ายๆน่ะ ไม่ชอบโกหกหลอกลวง"

 

 

.

.

.

.

            ก้อนสะอื้นกำลังมาจุกอยู่ที่คอ ยากลำบากเหลือเกินที่จะกลืนลงไปทำให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นว่าตัวเธอไม่ได้ฝันไป เธอกำลังเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้าย ความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ได้รักเธออีกแล้ว ....

 

            อยากจะหนีหน้าไปเพราะไม่สามารถทนรับความจริงที่เกิดตอนนี้ได้ แต่สมองก็ไม่สั่งการ ประมวลผลให้เธอหลบหลีกเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ผลจึงเป็นเธอยังยืนอยู่ที่เดิม ประจันหน้ากับชายหนุ่มที่ครั้งนึงเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่รักเธอสุดหัวใจและเธอก็คิดแบบนั้นไม่ได้ต่างกันเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว มองดูแววตาของชายหนุ่มที่ทอดมองเธอ ที่ตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าเขารู้สึกเช่นไร สายตาที่คอยห่วงหาอาทร สายตาของความห่วงใย เอาใจใส่ เอาแต่ใจและสายตาของความรัก....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา