The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
9.2
3) ฉันมีสิทธิ์?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
ตอนที่3 ฉันมีสิทธิ์?
วันนี้เธอตั้งใจที่จะมาชวนชายหนุ่มไปที่บ้านคุณย่าด้วยกัน แต่เธอก็มานั่งรอเขาตั้งนานแล้วแต่เขาก็ยังไม่
เข้ามาสักที เธอเลยหนังเปิดนิตยสารไปพลางเพื่อรอให้เขาเข้ามา
เสียงเปิดประตูทำให้เธอหันขวับไปมองอย่างมีความหวัง แต่ความหวังของเธอก็ทลายลงเมื่อคนที่เข้ามา
ไม่ใช่เขา
“คุณฟางคะ น้ำค่ะ”เป็นเลขาของชายหนุ่มที่เอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้เธอนั้นเอง
“ขอบคุณค่ะ เมื่อไรพี่ป๊อปจะมาคะ”เธอเอ่ยถามเลขาของเขาเมื่อชายหนุ่มยังไม่เข้ามาสักที
“วันนี้คุณภาณุไปประมูลที่ดินน่ะค่ะ...คงจะกลับมาตอนเที่ยง”เธอพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณ ก่อน
เลขาของชายหนุ่มจะเดินออกไป เธอก็ปักหลักนั่งรอเขาต่อไป แต่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูทำให้เธอต้องหันมา
สนใจมันแทน เธอมองชื่อสายเรียกเข้าก่อนจะกดรับ
“ว่าไง ยัยเฟย์”เธอเอ่ยทักเมื่อน้องสาวจอมเฟี้ยวของเธอโทรมา
“พี่ฟางงงง เฟย์จะขึ้นเครื่องกลับไทยวันพรุ่งนี้แล้วนะ”ยัยน้องสุดแสบเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
“อื้ม พรุ่งนี้จะได้ไปเยี่ยมคุณย่าที่สมุทรสงครามพร้อมกันเลย”เธอตอบกลับไป
“ค่ะๆ อ๊ะพี่ฟางแค่นี้ก่อนนะ มีคนมา”น้องสาวของเธอพูดก่อนจะตัดสายไป น้องสาวของเธอเป็นคนร่าเริง
สดใส และเพิ่งจะตกลงคบหากับนักเรียนแลกเปลี่ยนหนุ่มไทยนามว่า เขื่อน ไปเพราะว่าต่างคนต่างแอบ
ชอบกันมานานแล้ว เธอระบายยิ้มออกมาบางๆ น้องสาวของเธอโชคดีจังเลย ไม่เหมือนเธอ
หากเขารักเธอบ้าง...เธอคงไม่ต้องทรมานอยู่อย่างทุกวันนี้
เหตุผลที่ทำให้เธอกลับมาที่นี่ทุกปี ไม่ใช่แค่ครอบครัว แต่เป็นเขาด้วยต่างหากที่เธออยากกลับมา
อีกแค่ปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว...คงจะได้กลับมาอยู่ที่นี่อย่างถาวร
ส่วนน้องสาวของเธอก็คงจะกลับมาต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย หลังจากจบไฮสคูลที่โน่น
เสียงเปิดประตูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามา เธอแอบเห็นสีหน้าผิดหวังของเขาเล็กน้อย
ใช่สิ...เขาคงไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่
“สวัสดีค่ะพี่ป๊อป”เธอเอ่ยทักทายเขา เมื่อเห็นเขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“ครับ ฟางมีอะไรรึเปล่า”เป็นคำถามเดิมๆที่เขาถามเธอ
“คือ...ฟางจะมาชวนพี่ป๊อปไปเยี่ยมคุณย่าด้วยกันน่ะค่ะ”เธอเอ่ยออกไปแล้วรอคำตอบจากชายหนุ่มอย่าง
ใจจดใจจ่อ
“ครับ”เขาทำเหมือนไม่รับรู้คำพูดของเธอด้วยซ้ำไป
“พี่ป๊อปจะไปด้วยกันมั้ยคะ”เธอถามซ้ำอีกรอบ เธอก็พอรู้ว่าเขาไม่ชอบคนเซ้าซี้ แต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ...
“ไป”น้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ บ่งบอกได้ดีว่าเขาไม่ได้อยากไปจริงๆหรอก หากเธอเดาไม่ผิดเขา
อาจจะถูกคุณนันทาบังคับมาก็ได้ เธอพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือ
ราวกับว่ามันน่าสนใจเสียเต็มประดา ทั้งๆที่มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย
เธอมองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้อง ตอนนี้เที่ยงแล้ว
เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังจดจ้องเอกสารบนโต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆที่เอ่ยปากชวนเขาไปทานมื้อเที่ยง
ใจหนึ่งก็เป็นห่วงเขา กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป
กลัวว่าเขาจะเป็นโรคกระเพาะ เพราะเขาเอาแต่ทำงานไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนเลย
“พี่ป๊อปไปทานข้าวกันมั้ยคะ”เธอรวบรวมความกล้าถามเขาออกไป แต่เขาเพียงแต่หันหน้ามามองเธอเพียง
เล็กน้อย แล้วกลับไปจดจ้องกับงานบนโต๊ะต่อไป ราวกับเธอไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
ถ้าหากเธอเป็นเธอคนนั้น...ป่านนี้เขาคงลากเธอออกไปทานข้าวแล้วล่ะมั้ง
เธอก็เคยคิดนะว่าอยากเป็นเหมือนเธอคนนั้น...แต่ เธออยากให้เขารักเธอที่เธอเป็นเธอ
เธอยังนั่งรอเขาต่อไปเรื่อยๆ
22.00น.
เวลาเดียวกันกับเมื่อวาน แต่มันไม่เหมือนเมื่อวานก็ตรงที่เธอไม่ได้หาอะไรรองท้องเหมือนเมื่อวาน
ร่างกายเจ้ากรรมก็ประท้วงเธออยู่หลายหน ทั้งอาการของโรคกระเพาะที่รุมเร้าเธออยู่....เธอกุมมือไปที่ท้อง
ของเธอราวกับมันจะช่วยให้เธอหายเจ็บ...แต่ไม่เลย เธอกลั้นใจที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของชาย
หนุ่มเพื่อหาอะไรรองท้อง แต่ภาพเบื้องหน้ากลับพร่ามัว...และแสงก็ดับลง
เสียงที่ดังโครมใหญ่ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร เขาเห็นร่างเล็กนั้นนอนกองอยู่กับพื้น
ใจหาย... เขารีบวิ่งไปใกล้เธอแล้วรีบวิ่งพาเธอลงไปที่รถทันที
เธอออกรถเพื่อไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
ร่างเล็กของหญิงสาวถูกเคลื่อนตัวไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ทุกคนตอนนี้กำลังทำงานแข่งกับ
เวลาชีวิตของคนไข้ทุกคน
เขานั่งรอหมอที่เข้าไปรักษาคนตัวเล็กอยู่หน้าห้อง ก่อนหมอจะเดินออกมาแจ้งอาการของเธอกับเขา
“คนไข้มีโรคประจำตัวเป็นโรคกระเพาะนะคะ คุณควรให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลานะ เดี๋ยวหมอจะเติม
น้ำเกลือให้เธอก่อน รอให้หมดขวดก็กลับบ้านได้ค่ะ”ก่อนคุณหมอสาวจะเดินออกไป
เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนนี้นอนเติมน้ำเกลืออยู่ใบหน้าสวยหวานตอนนี้กลับซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
เขาเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะจ้องไปที่คนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่
“เธอนี่มันงี่เง่าชะมัดเลย...ยัยเด็กบ้า”เขาบ่นกับคนตัวเล็กที่กำลังหลับเป็นตายอยู่ ก่อนเปลือกตาที่ปิดไป
เนิ่นนานจะเปิดขึ้น
“พี่ป๊อป...ฟางหิวน้ำ”เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขารินน้ำที่อยู่ใกล้ตัวยื่นให้เธอ เธอรับไปดื่มอย่าง
รวดเร็ว
“หิวข้าวทำไมไม่บอกพี่”เขาถามเสียงดุ เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะพูดออกมา
“ฟางชวนแล้ว...แต่พี่ไม่ไป”
“แล้วทำไมไม่ออกไปกินเอง”เขาถามอย่างไม่ลดละ
“ที่ฟางมานั่งเฝ้าพี่...เพราะฟางอยากอยู่ใกล้ๆพี่ ที่ฟางชวนพี่ไปกินข้าว เพราะฟางอยากทานข้าวกับพี่....
ไม่ได้อยากทานคนเดียว...เหมือนเมื่อวาน”เธอเอ่ยเสียงสั่น น้ำเสียงที่ใครฟังก็รู้ว่าคนเอื้อนเอ่ยนั้นเจ็บปวด
มากเพียงใด
“ทำอย่างกับไม่เคยไปกินคนเดียว”เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ อะไรทำให้เธอเป็นไปได้มากถึงขนาดนี้นะ
“เคยค่ะ...เคยถูกทิ้งไว้คนเดียวด้วย”คำพูดของเธอแทบทำให้เขาสะอึก เขาดูเป็นเหมือนผู้ชายที่เลวมาก
อย่างนั้น เขาทิ้งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอไว้ทุกที่ เมื่อเขาเห็นคนรัก แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเธอทนได้อย่างไร
“กลับกันเถอะค่ะ”เธอพูดขึ้น เขามองไปที่ขวดน้ำเกลือที่หมดแล้ว เป็นเวลาเดียวกันที่พยาบาลเดินเข้ามา
ถอดสายน้ำเกลือให้กับเธอ และเขาก็เดินนำเธอมาที่รถ
“พี่ป๊อปไปเถอะค่ะ...เดี๋ยวฟางขึ้นแท็กซี่ไป”เธอพูดพร้อมกับเดินแยกไป แต่เขาคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อน
“อย่ามาประชดฉัน...ฉันไม่ได้มีเวลามาง้องอนเธอนะ”สรรพนามที่ใช้เปลี่ยนไป เมื่อเขารู้สึกเกรี้ยวโกรธ
“ฟางก็ไม่ได้งอนนี่คะ...ฟางมันไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว”เขาเห็น...น้ำตาที่หยดลงมา เธอยกมือขึ้นเช็ดมันอย่างกลัว
ว่าเขาจะเห็นมัน
“ฟาง!!!”เขาตวาดเสียงดังเมื่อเธอกำลังพยายามปลดมือหนาของเขาออก เขาลากเธอมาที่ลานจอดรถก่อน
จะยัดเธอเข้าไป เขาเดินวนไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับและคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของเธอที่กำลังจะเปิดประตู
ลงไป ก่อนจะกระชากร่างเล็กของเธออย่างแรง จนใบหน้าสวยหวานแทบจะติดอยู่กับใบหน้าหล่อคมของ
เขา
“ปล่อยฟางนะ ฟางเจ็บ”เธอพูดขณะแกะมือของเขาออก
“ไม่ปล่อย บอกมาว่าเธองอนอะไรฉัน ห๊ะ!!!!”ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายหนุ่มตะคอกใส่เธอ
ถึงแม้ภายนอกของเขาจะดูสุขุมและเย็นชา แต่เธอก็ได้สัมผัสมุมที่แตกต่างของเขาอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ใช่ร่าเริง...แต่อารมณ์โกรธต่างหากล่ะ
เขาตะคอกใส่เธอออกจะบ่อย...หากเขาไม่พอใจเธอ...ไม่พอใจกับสิ่งที่เธอทำให้เขา
หรือไม่ก็ทะเลาะกับเธอคนนั้น แล้วมาลงที่เธอก็ออกบ่อย
“ฟางมีสิทธิ์ด้วยหรอคะ...ฟางงอนพี่ได้ด้วยหรอคะ”น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่กำลังไหลรินลงมามันเป็น
เครื่องบ่งชี้ว่าตอนนี้เธออ่อนแอมากแค่ไหน ทั้งที่พยายามกลั้นไว้ตั้งแต่อยู่ในห้องพักผู้ป่วยแล้วแท้ๆ
เธอไม่เคยต้องร้องไห้ต่อหน้าชายหนุ่มมาก่อน...เธอไม่ชอบให้เขามองว่าเธออ่อนแอ
“รู้ตัวก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เธอคุ้นเคย น้ำเสียงที่เขามอบให้เธอเพียงคน
เดียว เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ...แต่ทำไม...เธอถึงยังมีความหวังอยู่ก็ไม่รู้
เอามาจากไหนกันนะความหวัง... เขาไม่เคยให้ความหวังเธอเลยด้วยซ้ำ...ไม่เคยเลย...
“พี่ป๊อปคะ ถ้าฟางงอนพี่พี่จะง้อฟางบ้างมั้ยคะ”เธอถามออกไป บางทีคำตอบมันอาจจะทำให้เธอใจชื้นขึ้น
บ้าง หรือบางทีคำตอบมันอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดจนมัยกลายเป็นความด้านชาไปเลยก็ได้
“ฉัน...”
.............................................................................................................................
มาแล้วววววววว ส่วนเรื่องแค้นร้ายกลายรักเราจะอัพวันพรุ่งนี้นะ รอหน่อยนะจ้ะ
ตอนที่3 ฉันมีสิทธิ์?
วันนี้เธอตั้งใจที่จะมาชวนชายหนุ่มไปที่บ้านคุณย่าด้วยกัน แต่เธอก็มานั่งรอเขาตั้งนานแล้วแต่เขาก็ยังไม่
เข้ามาสักที เธอเลยหนังเปิดนิตยสารไปพลางเพื่อรอให้เขาเข้ามา
เสียงเปิดประตูทำให้เธอหันขวับไปมองอย่างมีความหวัง แต่ความหวังของเธอก็ทลายลงเมื่อคนที่เข้ามา
ไม่ใช่เขา
“คุณฟางคะ น้ำค่ะ”เป็นเลขาของชายหนุ่มที่เอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้เธอนั้นเอง
“ขอบคุณค่ะ เมื่อไรพี่ป๊อปจะมาคะ”เธอเอ่ยถามเลขาของเขาเมื่อชายหนุ่มยังไม่เข้ามาสักที
“วันนี้คุณภาณุไปประมูลที่ดินน่ะค่ะ...คงจะกลับมาตอนเที่ยง”เธอพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณ ก่อน
เลขาของชายหนุ่มจะเดินออกไป เธอก็ปักหลักนั่งรอเขาต่อไป แต่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูทำให้เธอต้องหันมา
สนใจมันแทน เธอมองชื่อสายเรียกเข้าก่อนจะกดรับ
“ว่าไง ยัยเฟย์”เธอเอ่ยทักเมื่อน้องสาวจอมเฟี้ยวของเธอโทรมา
“พี่ฟางงงง เฟย์จะขึ้นเครื่องกลับไทยวันพรุ่งนี้แล้วนะ”ยัยน้องสุดแสบเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
“อื้ม พรุ่งนี้จะได้ไปเยี่ยมคุณย่าที่สมุทรสงครามพร้อมกันเลย”เธอตอบกลับไป
“ค่ะๆ อ๊ะพี่ฟางแค่นี้ก่อนนะ มีคนมา”น้องสาวของเธอพูดก่อนจะตัดสายไป น้องสาวของเธอเป็นคนร่าเริง
สดใส และเพิ่งจะตกลงคบหากับนักเรียนแลกเปลี่ยนหนุ่มไทยนามว่า เขื่อน ไปเพราะว่าต่างคนต่างแอบ
ชอบกันมานานแล้ว เธอระบายยิ้มออกมาบางๆ น้องสาวของเธอโชคดีจังเลย ไม่เหมือนเธอ
หากเขารักเธอบ้าง...เธอคงไม่ต้องทรมานอยู่อย่างทุกวันนี้
เหตุผลที่ทำให้เธอกลับมาที่นี่ทุกปี ไม่ใช่แค่ครอบครัว แต่เป็นเขาด้วยต่างหากที่เธออยากกลับมา
อีกแค่ปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว...คงจะได้กลับมาอยู่ที่นี่อย่างถาวร
ส่วนน้องสาวของเธอก็คงจะกลับมาต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย หลังจากจบไฮสคูลที่โน่น
เสียงเปิดประตูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามา เธอแอบเห็นสีหน้าผิดหวังของเขาเล็กน้อย
ใช่สิ...เขาคงไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่
“สวัสดีค่ะพี่ป๊อป”เธอเอ่ยทักทายเขา เมื่อเห็นเขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว
“ครับ ฟางมีอะไรรึเปล่า”เป็นคำถามเดิมๆที่เขาถามเธอ
“คือ...ฟางจะมาชวนพี่ป๊อปไปเยี่ยมคุณย่าด้วยกันน่ะค่ะ”เธอเอ่ยออกไปแล้วรอคำตอบจากชายหนุ่มอย่าง
ใจจดใจจ่อ
“ครับ”เขาทำเหมือนไม่รับรู้คำพูดของเธอด้วยซ้ำไป
“พี่ป๊อปจะไปด้วยกันมั้ยคะ”เธอถามซ้ำอีกรอบ เธอก็พอรู้ว่าเขาไม่ชอบคนเซ้าซี้ แต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ...
“ไป”น้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ บ่งบอกได้ดีว่าเขาไม่ได้อยากไปจริงๆหรอก หากเธอเดาไม่ผิดเขา
อาจจะถูกคุณนันทาบังคับมาก็ได้ เธอพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือ
ราวกับว่ามันน่าสนใจเสียเต็มประดา ทั้งๆที่มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย
เธอมองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้อง ตอนนี้เที่ยงแล้ว
เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังจดจ้องเอกสารบนโต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆที่เอ่ยปากชวนเขาไปทานมื้อเที่ยง
ใจหนึ่งก็เป็นห่วงเขา กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป
กลัวว่าเขาจะเป็นโรคกระเพาะ เพราะเขาเอาแต่ทำงานไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนเลย
“พี่ป๊อปไปทานข้าวกันมั้ยคะ”เธอรวบรวมความกล้าถามเขาออกไป แต่เขาเพียงแต่หันหน้ามามองเธอเพียง
เล็กน้อย แล้วกลับไปจดจ้องกับงานบนโต๊ะต่อไป ราวกับเธอไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
ถ้าหากเธอเป็นเธอคนนั้น...ป่านนี้เขาคงลากเธอออกไปทานข้าวแล้วล่ะมั้ง
เธอก็เคยคิดนะว่าอยากเป็นเหมือนเธอคนนั้น...แต่ เธออยากให้เขารักเธอที่เธอเป็นเธอ
เธอยังนั่งรอเขาต่อไปเรื่อยๆ
22.00น.
เวลาเดียวกันกับเมื่อวาน แต่มันไม่เหมือนเมื่อวานก็ตรงที่เธอไม่ได้หาอะไรรองท้องเหมือนเมื่อวาน
ร่างกายเจ้ากรรมก็ประท้วงเธออยู่หลายหน ทั้งอาการของโรคกระเพาะที่รุมเร้าเธออยู่....เธอกุมมือไปที่ท้อง
ของเธอราวกับมันจะช่วยให้เธอหายเจ็บ...แต่ไม่เลย เธอกลั้นใจที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของชาย
หนุ่มเพื่อหาอะไรรองท้อง แต่ภาพเบื้องหน้ากลับพร่ามัว...และแสงก็ดับลง
เสียงที่ดังโครมใหญ่ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร เขาเห็นร่างเล็กนั้นนอนกองอยู่กับพื้น
ใจหาย... เขารีบวิ่งไปใกล้เธอแล้วรีบวิ่งพาเธอลงไปที่รถทันที
เธอออกรถเพื่อไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
ร่างเล็กของหญิงสาวถูกเคลื่อนตัวไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ทุกคนตอนนี้กำลังทำงานแข่งกับ
เวลาชีวิตของคนไข้ทุกคน
เขานั่งรอหมอที่เข้าไปรักษาคนตัวเล็กอยู่หน้าห้อง ก่อนหมอจะเดินออกมาแจ้งอาการของเธอกับเขา
“คนไข้มีโรคประจำตัวเป็นโรคกระเพาะนะคะ คุณควรให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลานะ เดี๋ยวหมอจะเติม
น้ำเกลือให้เธอก่อน รอให้หมดขวดก็กลับบ้านได้ค่ะ”ก่อนคุณหมอสาวจะเดินออกไป
เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนนี้นอนเติมน้ำเกลืออยู่ใบหน้าสวยหวานตอนนี้กลับซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
เขาเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงผู้ป่วย ก่อนจะจ้องไปที่คนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่
“เธอนี่มันงี่เง่าชะมัดเลย...ยัยเด็กบ้า”เขาบ่นกับคนตัวเล็กที่กำลังหลับเป็นตายอยู่ ก่อนเปลือกตาที่ปิดไป
เนิ่นนานจะเปิดขึ้น
“พี่ป๊อป...ฟางหิวน้ำ”เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขารินน้ำที่อยู่ใกล้ตัวยื่นให้เธอ เธอรับไปดื่มอย่าง
รวดเร็ว
“หิวข้าวทำไมไม่บอกพี่”เขาถามเสียงดุ เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะพูดออกมา
“ฟางชวนแล้ว...แต่พี่ไม่ไป”
“แล้วทำไมไม่ออกไปกินเอง”เขาถามอย่างไม่ลดละ
“ที่ฟางมานั่งเฝ้าพี่...เพราะฟางอยากอยู่ใกล้ๆพี่ ที่ฟางชวนพี่ไปกินข้าว เพราะฟางอยากทานข้าวกับพี่....
ไม่ได้อยากทานคนเดียว...เหมือนเมื่อวาน”เธอเอ่ยเสียงสั่น น้ำเสียงที่ใครฟังก็รู้ว่าคนเอื้อนเอ่ยนั้นเจ็บปวด
มากเพียงใด
“ทำอย่างกับไม่เคยไปกินคนเดียว”เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ อะไรทำให้เธอเป็นไปได้มากถึงขนาดนี้นะ
“เคยค่ะ...เคยถูกทิ้งไว้คนเดียวด้วย”คำพูดของเธอแทบทำให้เขาสะอึก เขาดูเป็นเหมือนผู้ชายที่เลวมาก
อย่างนั้น เขาทิ้งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอไว้ทุกที่ เมื่อเขาเห็นคนรัก แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเธอทนได้อย่างไร
“กลับกันเถอะค่ะ”เธอพูดขึ้น เขามองไปที่ขวดน้ำเกลือที่หมดแล้ว เป็นเวลาเดียวกันที่พยาบาลเดินเข้ามา
ถอดสายน้ำเกลือให้กับเธอ และเขาก็เดินนำเธอมาที่รถ
“พี่ป๊อปไปเถอะค่ะ...เดี๋ยวฟางขึ้นแท็กซี่ไป”เธอพูดพร้อมกับเดินแยกไป แต่เขาคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อน
“อย่ามาประชดฉัน...ฉันไม่ได้มีเวลามาง้องอนเธอนะ”สรรพนามที่ใช้เปลี่ยนไป เมื่อเขารู้สึกเกรี้ยวโกรธ
“ฟางก็ไม่ได้งอนนี่คะ...ฟางมันไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว”เขาเห็น...น้ำตาที่หยดลงมา เธอยกมือขึ้นเช็ดมันอย่างกลัว
ว่าเขาจะเห็นมัน
“ฟาง!!!”เขาตวาดเสียงดังเมื่อเธอกำลังพยายามปลดมือหนาของเขาออก เขาลากเธอมาที่ลานจอดรถก่อน
จะยัดเธอเข้าไป เขาเดินวนไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับและคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของเธอที่กำลังจะเปิดประตู
ลงไป ก่อนจะกระชากร่างเล็กของเธออย่างแรง จนใบหน้าสวยหวานแทบจะติดอยู่กับใบหน้าหล่อคมของ
เขา
“ปล่อยฟางนะ ฟางเจ็บ”เธอพูดขณะแกะมือของเขาออก
“ไม่ปล่อย บอกมาว่าเธองอนอะไรฉัน ห๊ะ!!!!”ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายหนุ่มตะคอกใส่เธอ
ถึงแม้ภายนอกของเขาจะดูสุขุมและเย็นชา แต่เธอก็ได้สัมผัสมุมที่แตกต่างของเขาอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ใช่ร่าเริง...แต่อารมณ์โกรธต่างหากล่ะ
เขาตะคอกใส่เธอออกจะบ่อย...หากเขาไม่พอใจเธอ...ไม่พอใจกับสิ่งที่เธอทำให้เขา
หรือไม่ก็ทะเลาะกับเธอคนนั้น แล้วมาลงที่เธอก็ออกบ่อย
“ฟางมีสิทธิ์ด้วยหรอคะ...ฟางงอนพี่ได้ด้วยหรอคะ”น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่กำลังไหลรินลงมามันเป็น
เครื่องบ่งชี้ว่าตอนนี้เธออ่อนแอมากแค่ไหน ทั้งที่พยายามกลั้นไว้ตั้งแต่อยู่ในห้องพักผู้ป่วยแล้วแท้ๆ
เธอไม่เคยต้องร้องไห้ต่อหน้าชายหนุ่มมาก่อน...เธอไม่ชอบให้เขามองว่าเธออ่อนแอ
“รู้ตัวก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เธอคุ้นเคย น้ำเสียงที่เขามอบให้เธอเพียงคน
เดียว เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ...แต่ทำไม...เธอถึงยังมีความหวังอยู่ก็ไม่รู้
เอามาจากไหนกันนะความหวัง... เขาไม่เคยให้ความหวังเธอเลยด้วยซ้ำ...ไม่เคยเลย...
“พี่ป๊อปคะ ถ้าฟางงอนพี่พี่จะง้อฟางบ้างมั้ยคะ”เธอถามออกไป บางทีคำตอบมันอาจจะทำให้เธอใจชื้นขึ้น
บ้าง หรือบางทีคำตอบมันอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดจนมัยกลายเป็นความด้านชาไปเลยก็ได้
“ฉัน...”
.............................................................................................................................
มาแล้วววววววว ส่วนเรื่องแค้นร้ายกลายรักเราจะอัพวันพรุ่งนี้นะ รอหน่อยนะจ้ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ